Friday, 27 June 2025
NewsFeed

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินหน้ารับฟังความคิดเห็น 'ร่าง พ.ร.บ.แก้ไข ป.วิ.อาญา' ต่อเนื่อง จัดเวทีเสวนาภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ที่นครสวรรค์ 

เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย. 68)เวลา 09.00 น. ณ ศูนย์ฝึกตำรวจภูธรภาค 6 จังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รับผิดชอบงานด้านกฎหมายและคดี) ร่วมรับฟังการเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ “การคุ้มครองสิทธิของประชาชน บนเส้นทางการสืบสวนสอบสวนตาม ป.วิ.อาญา” เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมต่อร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.อาญา (ร่างของ ส.ส.พรรคประชาชน)ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน โดยมี พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6, พล.ต.ท.วสันต์ วัสสานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6, พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ, พล.ต.ท.ดำรงค์ เพ็ชรพงค์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ ตร. พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับ รองผู้บัญชาการ และ ผู้บังคับการ ในสังกัด ตำรวจภูธรภาค 5 และ ภาค 6 ร่วมงานเสวนา   

การจัดเวทีเสวนาครั้งนี้นับเป็นเวทีครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่ ตร. จัดเสวนาอย่างต่อเนื่อง จากเวทีในพื้นที่ภาคกลาง (ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จ.นครปฐม) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จ.ขอนแก่น) และภาคใต้ (จ.ภูเก็ต) โดยมีเป้าหมายเพื่อรับฟังความคิดเห็นที่มีต่อร่างกฎหมาย ให้รอบด้าน ครอบคลุม ทุกมิติ และทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ภายในงาน ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในกระบวนการยุติธรรมร่วมอภิปราย ได้แก่ ท่านเปรมศักดิ์ ศรีนวล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครสวรรค์, พล.ต.ท.ดำรงค์  เพ็ชรพงค์  อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ดร.ชำนาญ ชาดิษฐ์ กรรมการอำนวยการ สำนักงานธนานุเคราะห์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และทนายความ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เครือวัลย์ อินทรสุข ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์, นายโสฬส วัฒนศิลป์ กต.ตร.จังหวัดนครสวรรค์  และ พ.ต.อ.ดร. เทิดสยาม บุญยะเสนา ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 5 การเสวนาครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน ประกอบด้วย ตัวแทนหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ภาคประชาชน นักศึกษาในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนพนักงานสอบสวนและข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.5 และ ภ.6 ภายหลังการเสวนาในภาคเช้า ยังมีกิจกรรมสัมมนากลุ่มย่อย (Focus Group) เพื่อระดมความคิดเห็นต่อร่างกฎหมาย และเปิดเวทีแลกเปลี่ยนข้อเสนอในการพัฒนางานสอบสวนจากผู้ปฏิบัติ

สำหรับร่าง แก้ไข ป.วิ.อาญา มีสาระสำคัญคือ การให้อัยการมีอำนาจกำกับดูแลงานสืบสวนสอบสวน  เช่น ในการสืบสวนเมื่อพบเหตุต้องแจ้งให้พนักงานอัยการทราบทันที การออกหมายเรียก หรือขอศาลออกหมายจับ ต้องให้พนักงานอัยการให้ความเห็นชอบก่อน รวมถึงให้อำนาจพนักงานอัยการมากำกับการสอบสวนในคดีสำคัญ หรือคดีที่มีการร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งในเวทีเสวนาวันนี้หลายฝ่ายได้แสดงความเห็นว่า ขั้นตอนการปฏิบัติที่ร่างกฎหมายกำหนด อาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าในกระบวนการสอบสวน เพราะกระบวนการปฏิบัติงานที่ซ้ำซ้อนระหว่าง พนักงานสอบสวน อัยการ และศาล  ย่อมส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เป็นผู้เสียหายทำให้เข้าถึง กระบวนการยุติธรรมได้ล่าช้าขึ้น ย่อมจะกลายเป็นความไม่ยุติธรรม (Justice delayed is justice denied) ในเวทีเสวนา ยังได้ยกตัวอย่างคดีในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งต้องมีการสืบสวนสอบสวนคดียาเสพติดเพื่อป้องกันปัญหาการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน หากนำขั้นตอนการปฏิบัติตามร่างกฎหมายมาใช้ อาจไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์ ในการสืบสวนสอบสวน จับกุม ตรวจค้น คดียาเสพติดได้ในพื้นที่ได้ นอกจากนี้ในวงเสวนายังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลในเรื่องงบประมาณของรัฐที่จะต้องจัดสรรเพิ่มเติมให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานอัยการ ในการจัดหาบุคลากร ทรัพยากรต่างๆ  และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มเติม เพื่อรองรับภาระงานต่างๆ ที่มีเพิ่มขึ้นจากร่างกฎหมายนี้        

ประเด็นที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่มีการแลกเปลี่ยนกันในการเสวนา คือ การแก้ไขกฎหมายต้องมีเหตุผลและความจำเป็นที่เหมาะสม  แต่การเสนอแก้ไข ป.วิ.อาญา ครั้งนี้  เป็นการยกปัญหาเป็นข้อบกพร่องส่วนบุคคล ในงานสอบสวนแค่บางส่วน แต่มาเสนอแก้หลักการของกฎหมายแม่บท ทั้งที่การแก้ไขปัญหานั้นสามารถดำเนินการผ่านกลไกการประสานงานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม หรือการแก้ไขระเบียบและคำสั่งที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เหมาะสม และรวดเร็วกว่า โดยไม่จำเป็นต้องไปแก้ไข ป.วิ.อาญา เพราะจะทำให้ไปกระทบหลักการของระบบกฎหมายอาญาที่เป็นระบบกล่าวหาของประเทศไทยทั้งระบบโดยไม่จำเป็น นอกจากนั้น ร่าง ป.วิ.อาญาฉบับแก้ไข เน้นประเด็นการคุ้มครองสิทธิผู้ต้องหาค่อนข้างมาก 

ทั้งที่โดยหลักแล้วกระบวนการยุติธรรมต้องมีความสมดุลกันระหว่าง ผู้เสียหายและผู้ต้องหา และยังต้องคำนึงถึงมิติการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพเพื่อควบคุมอาชญากรรม (Due process) ตามหลักอาชญาวิทยาด้วย หากร่างกฎหมายมุ่งแก้ไขเพียงบางประเด็น จะทำให้เกิดความไม่สมดุลในกลไกของกระบวนการดำเนินคดี  และยังส่งผลให้ขัดหรือแย้งกับมาตราอื่นๆ ที่ไม่ได้เสนอแก้ไขในคราวเดียวกันนี้อีกด้วย อาจเกิดความไม่ชัดเจนในการปฏิบัติ  สุดท้ายย่อมส่งผลกระทบให้เกิดความล่าช้าในการสอบสวนโดยไม่จำเป็น และส่งผลเสียต่อประชาชนผู้เสียหายในที่สุด     

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมผลการเสวนาทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ นำมาจัดทำเป็นเล่มรายงานทางวิชาการ 4 ฉบับ เพื่อเป็นข้อมูลการทำความเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบของร่างกฎหมาย เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งเผยแพร่ให้ผู้สนใจ ได้ศึกษาข้อมูลผลการเสวนาดังกล่าวต่อไป

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และเจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ เยี่ยมบำรุงขวัญทหารเรือชายแดน จว.ตราด

พล.ร.อ.ณัฎฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร. ) และคณะ พร้อมด้วย พล.ร.ต. วชิรวิชญ์ ขาวคม เจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ (จก.วศ.ทร.) และคณะ ปฏิบัติราชการ มชด./1 เข้าร่วมรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่และความพร้อมจาก มชด./1 พร้อมมอบน้ำดื่ม ขนาด 600 มล. จำนวน 2,000 โหล และฝุ่นโรยเท้า จำนวน 1,400 ขวดให้กับเรือใน มชด./1 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจในการปกป้องอธิปไตย และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จว.ตราด

รอง ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิกิติ์ฯ ต้อนรับคณะ นศ. วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก

น.อ.หญิง อรัญญา เชยดี รอง ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ฝ่ายการพยาบาล ให้การต้อนรับคณะศึกษาดูงานหลักสูตรฝึกอบรมการพยาบาลเฉพาะทางสาขา การบริหารการพยาบาล รุ่นที่ 18 วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก 

ซึ่งประกอบด้วย นายทหารนักเรียน และคณาจารย์ จำนวน 54 คน ในการเข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานห้องปรับความดันบรรยากาศสูง (Hyperbaric Chamber) โดยมี ทีมแพทย์จากศูนย์เวชศาสตร์ความดันบรรยากาศสูงฯ ทำหน้าที่บรรยายในส่วนที่เกี่ยวข้อง

เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ เป็นประธานในพิธีสวนสนามปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 ชื่นชมผลการฝึก 8 สัปดาห์ ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากพลเรือน สู่ทหารที่มีความองอาจ เข้มแข็ง เกียรติยศแห่งความภาคภูมิใจของน้องเล็กของกองทัพเรือ ก้าวสู่ชายชาติทหาร

เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย. 68)พล.ร.ท.อดิศักดิ์ แจงเล็ก เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ (จก.ยศ.ทร.) เป็นประธานในพิธีสวนสนามปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ภาคสาธารณศึกษา ผลัดที่ 1/68 ณ ลานสวนสนาม ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ศฝท.ยศ.ทร.) โดยมี น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) และคณะให้การต้อนรับ ณ กองบัญชาการ ศฝท.ยศ.ทร. ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การจัดพิธีดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนพลกองประจำการหลักสูตรทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 จำนวนทั้งสิ้น 2,894 นาย จัดเป็นกรมสวนสนาม ประกอบด้วย 4 กองพัน (19 กองร้อย และจัด 1 กองร้อยวิ่งสวนสนาม) แสดงออกถึงความเป็นทหารที่มีความองอาจ เข้มแข็ง พร้อมเพรียง และมีระเบียบวินัย ผ่านการสวนสนามให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ ตลอดจนญาติได้เห็นผลของการฝึกอบรมตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์ ที่เปลี่ยนแปลงจากพลเรือนมาเป็นทหาร อีกทั้งยังแสดงออกถึงความสามัคคี และความสง่างาม สมกับการเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ

โอกาสนี้ เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชมการแสดงออกของทหารใหม่ในการสวนสนามว่า “ผมอยากบอกกับทุกนายว่า ราชนาวีไม่ใช่แค่กองทัพ แต่คือบ้าน บ้านของลูกผู้ชาย บ้านหลังนี้อาจจะไม่ได้อบอุ่นด้วยความสะดวกสบาย แต่บ้านหลังนี้อบอุ่นด้วยหัวใจของนักรบ อบอุ่นด้วยวินัย ความเข้มแข็ง และความห่วงใยแบบพี่น้อง ที่พร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างกันในยามยาก

จากวันที่พวกท่านเดินเข้าสู่ประตูศูนย์ฝึกด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคำถามและความกังวล จนถึงวันนี้ ท่านได้กลายเป็นชายชาติทหารที่กล้าหาญ มีวินัย และมีเกียรติ

ทหารเรือไม่ใช่แค่ตำแหน่งในเครื่องแบบ แต่คือผู้ที่พร้อมยืนหยัดกลางพายุ และไม่ถอยแม้ยามคลื่นลมแรง และวันนี้ผมเห็นแล้วว่าพวกท่านพร้อมแล้ว ผมขอชื่นชมในความพยายาม ความเสียสละ และความอดทนที่ทุกนายได้แสดงออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ และขอขอบคุณผู้บังคับบัญชา ครูฝึก และเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ได้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ สมกับความไว้วางใจของกองทัพเรือ

รวมถึงขอขอบคุณผู้ปกครองทุกท่าน ที่มอบบุตรหลานให้กับบ้านหลังนี้ บ้านของราชนาวี เราจะดูแลเขาอย่างดีที่สุดในฐานะทหาร ในฐานะลูกหลาน ในฐานะน้องเล็กของกองทัพเรือ และในฐานะนักรบแห่งราชนาวีไทย”

ทั้งนี้ทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 มีความพร้อมที่จะปฏิบัติงานในหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ โดยจะมีการส่งตัวในวันที่ 1 ก.ค.68 ต่อไป

ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมมอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา และเวชภัณฑ์ แก่โรงเรียนโสตศึกษาเทพรัตน์ และศูนย์การศึกษาพิเศษฯ ประจวบคีรีขันธ์

วันที่ 25 – 26 มิถุนายน 2568 ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมมอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา ยาและเวชภัณฑ์ พร้อมจัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาเทพรัตน์ และศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หน่วยบริการบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสนับสนุนการศึกษาและส่งเสริมสุขภาพของเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล

ในการนี้ นายนนทวัฒน์ ตรีนันทวัน ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาเทพรัตน์ และนายพิชญุตม์ พงษ์สระพัง หัวหน้าหน่วยบริการบางสะพาน พร้อมคณะครูและนักเรียน ร่วมให้การต้อนรับคณะจากทัพเรือภาคที่ 1 อย่างอบอุ่น

กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมการศึกษาของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงสร้างความสุขและรอยยิ้มให้แก่เด็ก ๆ อีกทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือกับประชาชนในพื้นที่ อันจะเป็นฐานความร่วมมือในการปฏิบัติงานร่วมกันในอนาคต

ทัพเรือภาคที่ 1 บูรณาการความร่วมมือด้านกิจการมวลชนและประชาสัมพันธ์ร่วมกับ กอ.รมน.

พลเรือโท อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) ให้การต้อนรับ พลตรี ธนาธิป สว่างแสง รองผู้อำนวยการสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พร้อมคณะ ในโอกาสเดินทางมาประสานความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์และกิจการมวลชนในพื้นที่ความรับผิดชอบของ กอ.รมน.ภาค 1

การพบปะในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการการดำเนินงานด้านข้อมูลข่าวสาร การใช้มวลชนเป็นสื่อกลางในการสร้างการรับรู้ รวมถึงการแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่าง ทัพเรือภาคที่1 กอ.รมน. ศรชล.ภาค 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการประชาสัมพันธ์ทั้งทางบกและทางทะเล ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

ในช่วงบ่าย คณะฯ ได้เดินทางเยี่ยมชมการสาธิตการตรวจค้นเรือต้องสงสัย โดยชุดตรวจค้นจากเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.996 จากกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของ ทัพเรือภาคที่1 ในการรักษาความมั่นคงทางทะเล

สตูล จัดการฝึกป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรณีสึนามิ (C-MEX 25) เตรียมความพร้อมและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ 

(27 มิ.ย. 68) ที่โรงเรียนบ้านหาดทรายยาว ตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นางสาววิภารัตน์ อร่ามเรือง หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูลและหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร และน้องๆนักเรียน เข้าร่วมกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับภัยสึนามิ และการซักซ้อมขั้นตอนเตรียมความพร้อม อาทิ การทดสอบระบบวิทยุสื่อสาร และโดรนสำหรับสำรวจความเสียหาย 

ทั้งนี้การฝึกซ้อมแผนฯ มีประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมและลดความสูญเสียจากภัยพิบัติสึนามิ โดยช่วยให้ผู้คนเข้าใจวิธีรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน  ปฏิบัติตามขั้นตอนการอพยพที่ถูกต้อง และสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้ทันท่วงที ทั้งยังเป็นการสร้างความตระหนักและเข้าใจ การซ้อมแผนช่วยให้ผู้คนในพื้นที่เสี่ยงภัยเข้าใจถึงลักษณะของสึนามิ สัญญาณเตือนภัย และวิธีการอพยพที่ถูกต้อง ลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน การซ้อมแผนสึนามิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติสึนามิ ช่วยให้ผู้คนสามารถเอาตัวรอดและช่วยเหลือผู้อื่นได้เมื่อเกิดเหตุการณ์จริง

เชียงใหม่-ท่าอากาศยานเชียงใหม่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้ม สร้างความเชื่อมั่นผู้โดยสาร หลังเหตุลอบวางระเบิดที่จังหวัดภูเก็ต

(27 มิ.ย. 68) นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์ตรวจพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยภายในพื้นที่ท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งพบวัตถุคล้ายระเบิดซุกซ่อนอยู่ภายใน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ดำเนินการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดทันที เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทุกคน โดยมีการปรับแผนเพิ่มความถี่ในการตรวจตราพื้นที่จากเดิมวันละ 5 รอบ เป็น วันละ 7 รอบ และเพิ่มการตรวจสอบสิ่งของต้องสงสัยหรือของหลงลืมในอาคารผู้โดยสาร และพื้นที่สาธารณะจากเดิม วันละ 10 รอบ เป็น วันละ 14 รอบ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ บุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ที่ผ่านเข้า–ออกเขตควบคุมและเขตหวงห้ามของท่าอากาศยานอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น 

ขณะเดียวกัน ได้มีการประชาสัมพันธ์ไปยังเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่จอดทิ้งไว้เป็นเวลานานภายในพื้นที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ขอความร่วมมือนำหลักฐานแสดงตน ได้แก่ สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ และบัตรประจำตัวประชาชน ติดต่อฝ่ายรักษาความปลอดภัยในวันและเวลาราชการ เพื่อรับรถกลับคืน ทั้งนี้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ และป้องกันเหตุที่อาจกระทบต่อความปลอดภัย

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ขอขอบคุณผู้โดยสารและประชาชนทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ และขอยืนยันเจตนารมณ์ในการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปด้วยความ มั่นใจ ปลอดภัยในทุกสถานการณ์

ทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 ฝึกยิงอาวุธประจำกายด้วยกระสุนจริง เพื่อสร้างพื้นฐานการเป็นนักรบ ของกองทัพเรือ🇹🇭 

(27 มิ.ย. 68) น.อ. ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) ตรวจเยี่ยมการฝึกยิงอาวุธประจำกาย ด้วยกระสุนจริงของทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครูฝึก เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และทหารใหม่ฯ ณ สนามยิงปืน ศูนย์ฝึกทหารใหม่กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การฝึกยิงอาวุธประจำกาย มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างประสบการณ์ ความภาคภูมิใจและมีความพร้อมด้านจิตใจ ให้แก่ทหารใหม่ที่จะปฎิบัติหน้าที่ให้กับหน่วยต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยกำลังรบ ของกองทัพเรือต่อไป

ทั้งนี้การฝึกดำเนินการภายใต้การปฏิบัติในการยิงอาวุธอย่างเคร่งครัดเป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่กำหนดให้เป็นปีแห่งความปลอดภัย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top