Thursday, 15 May 2025
NewsFeed

‘ผัดไทย’ อร่อยโดนใจชาวแดนปลาดิบ ถึงกับนำมาเป็นไส้ในแซนด์วิช ชวนไปลิ้มลองรสชาติกันได้ที่สวนสนุก ‘Ghibli Park’ ประเทศญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 66 นับเป็นเรื่องน่าปลื้มใจ เมื่อเมนูยอดฮิตถูกใจชาวต่างชาติอย่าง ‘ผัดไทย’ ถูกนำมาเป็นไส้ในแซนด์วิช แล้ววางขายในสวนสนุก ‘Ghibli Park’ ประเทศญี่ปุ่น

ทวิตเตอร์ @ghibliparkjp ทวิตเตอร์ทางการของสวนสนุก (ภาษาญี่ปุ่น) ได้ทวิตข้อความแปลได้ใจความที่ทำเอาชาวไทยปลื้มใจว่า…

“นี่คือ ‘แซนด์วิชผัดไทย’ ที่เพิ่มเข้ามาในเมนูของคาเฟ่เที่ยวบินข้ามทวีปใน ‘Ghibli's Great Warehouse’ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ‘ผัดไทย’ คือ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า”

พร้อมกับได้ทวิตภาพประกอบชวนกินของขนมปังแซนด์วิชที่มีไส้เป็น ‘ผัดไทย’ ที่มีทั้งเส้น กุ้งสด ถั่วงอก สีสันหน้าตาดูน่าลองชิมมาก ๆ

หากใครอยากไปลองชิมต้องมาที่ ‘Ghibli's Grand Warehouse’ สวนสนุก ‘Ghibli Park’ ประเทศญี่ปุ่นกันได้

‘บิ๊กป้อม’ เตรียมนำทีม พปชร. ลงใต้ ลุยนราธิวาส 7 ส.ค.นี้ เยี่ยม ปชช.-ผู้บาดเจ็บ เหตุโกดังพลุระเบิด พร้อมให้กำลังใจ จนท.

(5 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า พล.อ.ประวิตร พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรค มีกำหนดลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังเก็บดอกไม้เพลิงระเบิด ในพื้นที่ตำบลบ้านมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และให้กำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน ในวันที่ 7 ส.ค. เวลา 10.40 น. ที่ศูนย์บัญชาการพื้นที่เกิดเหตุ ตำบลบ้านมูโนะ อำเภอสุไหง โก-ลก จังหวัดนราธิวาส จากนั้นเวลา 12.00 น. จะเดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บและให้กำลังใจทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงาน ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ก่อนเดินทางกลับกทม.ในวันเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรค พปชร. พล.อ.ประวิตร จะเป็นประธานประชุม สส.พรรค พปชร.วันที่ 8 ส.ค.นี้ หลังจากที่งดไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากติดช่วงวันหยุดยาว โดยจะหารือถึงสถานการณ์ทางการเมือง และทิศทางของพรรค พปชร.ในการโหวตนายกฯ รวมถึงติดตามการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ มีรายงานว่าวันในการประชุม สส.ได้เตรียมอวยพรวันเกิดให้ พล.อ.ประวิตร เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ครบ 78 ปี วันที่ 11 ส.ค.ที่จะถึงนี้

‘รองโฆษก พท.’ แจงปมราคาที่ดิน เชื่อ แวดวงอสังหาฯ เข้าใจดี ชี้!! ‘ราคาประเมิน’ อาจไม่สัมพันธ์กับ ‘ราคาซื้อขายจริง’ เสมอไป

(5 ก.ค. 66) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตนว่าน่าแปลกใจมากที่ทำไมคนที่เข้าใจการซื้อขายที่ดินดีถึงหยิบเอา ‘ราคาประเมิน’ มาวิพากษ์วิจารณ์ ‘ราคาซื้อขายจริง’ คนที่ทำงานในแวดวงอสังหาริมทรัพย์เข้าใจดี ว่าราคาซื้อขายจริง ไม่สัมพันธ์กับราคาประเมินเสมอไป และการที่เอกชนรายหนึ่งตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงใดในราคาใดก็ตาม ไม่ใช่เพราะเค้าเองปั่นราคาขึ้น แต่เพราะ ‘ความต้องการของตลาด’ ที่ปั่นให้ราคาขึ้นไป

ทั้งนี้ ที่ดินในย่านวิทยุ-สวนลุมพินี-หลังสวน เป็นย่านซูเปอร์ลักชัวรี (Super Luxury) หรือบางที่เรียก หรืออัลตร้าลักซ์ชัวรี (Ultra Luxury) ด้วยซ้ำ ทำให้ที่ดินในโซนนี้มีราคาซื้อขายที่ดินที่ทะลุเพดานราคาเดิม (New High) เสมอ แปลงที่เป็นประเด็นอยู่ก็เช่นกัน ภายใต้ปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่

1.) เป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ขาด หรือ ‘Free Hold’ แปลงท้ายๆในโซนที่ยังไม่ถูกพัฒนา ต่างจากอีกหลายแปลงที่เป็นสิทธิการเช่า หรือ ‘Lease Hold’

2.) เป็นแปลงขนาด 1 ไร่ ติดถนนกว้าง มีขนาดพอเหมาะ พัฒนาอาคารสูงได้ ศักยภาพที่ดินแบบนี้ราคาต่อตารางวา จะโดดสูงกว่าที่ดินแปลงใหญ่หลายๆไร่ ที่จะถัวเฉลี่ยราคาต่อตารางวาลง

3.) เป็นแปลงที่สามารถได้รับวิวสวนลุมพินี ที่คนทำงานอสังหาชอบขายว่าเป็น ‘เซ็นทรัลพาร์กเมืองไทย’ ได้ดีมาก

และด้วยเหตุผลเหล่านี้ต่างหากที่ปั่นให้ราคาที่ดินแปลงนี้สูง และต้องใช้บริษัทที่มีศักยภาพและมีความน่าเชื่อถือเป็นผู้พัฒนา เพราะเมื่อพัฒนาเป็นคอนโดแล้วจะต้องขายอย่างต่ำราว 600,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ก็ไม่แปลกที่แสนสิริกล้าซื้อ เพราะโครงการที่เคยพัฒนาไปก่อนนี้ อย่าง 98 wireless ก็มีราคาขายไปแตะ ตารางเมตรละ 1 ล้านบาทมาแล้ว

“ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ผมเพียงอยากให้ทุกคนระมัดระวังในการรับข้อมูล และอย่าตกเป็นเครื่องมือในการปั่นให้เข้าใจผิด ผมเชื่อว่าคนทำงานอสังหาฯ เข้าใจตรงกัน ว่าธรรมชาติของราคาที่ดินในย่าน ultra luxury นี้เป็นอย่างไร” นายชนินทร์ กล่าว

แฟนคลับฟิน!! ‘ณเดชน์-ญาญ่า’ อวดรูปคู่หวานฉ่ำ พร้อมอวดโมเมนต์คลั่งรัก อิงแอบจนแก้มแนบแก้ม

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 66 เรียกว่าความหวานไม่มีแผ่วเลยจริงๆ  สำหรับสองนักแสดงซุปตาร์อย่าง ‘ณเดชน์ - ญาญ่า’ นับวันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเพิ่งจะครบรอบ 2 เดือนที่ ณเดชน์ คุกเข่าของแฟนสาวแต่งงาน

ล่าสุด ‘ณเดชน์’ ได้ควง ‘ญาญ่า’ แต่งตัวในธีมเดียวกัน โพสต์ภาพ อวดความหวานคลั่งรัก ผ่านอินสตราแกรม ด้วยคุมโทนชุดคู่ พร้อมแก้มแนบแก้มอิงแอบซบกัน พร้อมแคปชั่นว่า “กรุบกริบ นุ่มหนับ อุ๊งอุ๊ง”

‘ทนายบอน’ แนะ!! นักศึกษาใหม่ มธ.ที่ฟังบรรยาย ‘พิธา’ ถ้าจะฟังที่พี่เค้าพูด ‘พอได้’ แต่อย่าไปเชื่อที่พวกพี่เค้าทำ

(5 ส.ค.66) นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ ‘ทนายบอน’ อดีตผู้สมัคร สส.กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า...

[พิธา บรรยายนักศึกษาใหม่ มธ.] ฟังที่พี่เค้าพูดพอได้ แต่อย่าไปเชื่อที่พวกพี่เค้าทำครับ

พี่เค้าพูด ว่า เค้ายึดมั่นในประชาธิปไตย เสรีภาพ ที่พูดหล่อๆ ก็พอฟังได้

แต่ที่เห็น คือ พวกพี่เค้าแต่ละคนนั้นใครเห็นต่างไม่ได้ต้องทัวร์ลง อ้างเสรีภาพไปข่มเหงรังแกคนเห็น ดังนั้น อย่าไปเชื่อที่พวกพี่เค้าทำครับ เราไม่ได้ต้องการประชาธิปไตยแบบนั้น

พี่เค้าพูด ว่า “โลกต้องการคนรุ่นใหม่” ใช่ครับ

แต่ที่เห็น คือ พวกพี่เค้าแต่ละคน ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกปั่นยุยง สร้างความแตกแยก ทำแต่สิ่งผิดกฎหมาย เราไม่ได้ต้องการคนรุ่นใหม่แบบนั้นครับ

พี่เค้าพูดว่า “จิตวิญญาณของธรรมศาสตร์ คือ เสรีภาพ ภราดรภาพ” ใช่ครับ

แต่ที่เห็น คือ พวกพี่เค้าฟาดฟัน ทำลายล้าง สร้างความแตกแยก ทำให้คนเกลียดชังกัน ในขณะที่ภราดรภาพ คือ ความเป็นพี่เป็นน้องกัน กลมเกลียวกัน เราไม่ได้ต้องการสังคมแบบนั้นเพื่อสร้างประเทศครับ สิ่งที่พวกพี่เค้าทำห่างไกลสุดกู่กับคำว่าภราดรภาพ

ที่ธรรมศาสตร์ เค้าสอน ให้ใช้เสรีภาพแบบมีความรับผิดชอบ ไม่ละเมิดสิทธิบุคคลอื่น ไอ้ที่เห็นการอ้างเสรีภาพไปรังแกถล่มคนอื่น ไอ้พวกนั้นไม่รู้ไปเรียนจากที่ไหนมา

ที่ธรรมศาสตร์ เค้าสอน ว่าประชาธิปไตย ไม่ได้มีแค่การเลือกตั้ง แต่ต้องเคารพเสียงข้างน้อย รับฟังความเห็นต่างได้ ไอ้ที่เห็นว่าพวกกูถูกอย่างเดียว คนอื่นผิดหมด ไอ้พวกนั้นไม่รู้ไปเรียนจากที่ไหนมา 

ที่ธรรมศาสตร์ เค้าก็สอนเรื่องภราดรภาพนะ ว่าคือการกลมเกลียว เป็นพี่น้องกัน แต่ที่เห็น ภราดรภาพบ้านพวกพี่เค้า เผา ทำลายล้างทุกอย่าง สรุป ไม่รู้ไอ้พวกนั้นไปเรียนจากที่ไหนมา

สรุปสุดท้าย ที่พี่เค้าบอกว่าพวกพี่เค้า DNA เดียวกับธรรมศาสตร์ ผมว่าพี่เค้าสำคัญผิดไปเยอะ เฉพาะสิ่งที่พี่เค้าพูดหล่อๆ ก็พอจะใกล้เคียง แต่ที่พวกพี่เค้าทำ ห่างไกลสุดกู่ครับ

#ทนายบอน

‘ตะวันฉาย’ ต่อยคิกบ็อกซิ่งครั้งแรก ในศึก ONE Fight Night 13 โชว์หวดแข้งซ้ายน็อกนักชกจอร์เจีย ยก 3 คว้าโบนัส 1.75 ล้านบาท!!

(5 ส.ค. 66) ‘ตะวันฉาย’ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ราชันมวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ซึ่งย้ายข้ามมาทำการแข่งขันในกติกาคิกบ็อกซิ่ง เป็นครั้งแรก ในศึก ONE Fight Night 13 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) โดยพบกับ ‘ดาวิต คิเรีย’ นักชกรุ่นเก๋าชาวจอร์เจีย

โดยยกแรก เป็น ตะวันฉาย ที่ดักเตะแข้งซ้ายเข้าลำตัว เเละเจาะยาง ทำให้ ดาวิต คิเรีย ออกอาวุธไม่ถนัด แม้จะเป็นฝ่ายเดินเข้าหา เข้าสู่ขึ้นยก 2 ดาวิต คิเรีย ยังเดินเข้าหาต่อยหมัดหวังเผด็จศึกให้ได้ แต่ยังถูก ตะวันฉาย ที่ดักเตะซ้าย เข้าลำตัวอย่างหนักหน่วง ก่อนจะต่อยซ้ายตรงจน ดาวิต คิเรีย ก้นเตี้ย แต่ทว่าช่วงปลายก มีจังหวะที่ ดาวิต คิเรีย ต่อยเข้าใบหน้าตะวันฉายได้ลุ้นเลยทีเดียว

ทว่าขึ้นยกที่ 3 ตะวันฉาย ได้โอกาสเตะซ้ายเข้าลำตัว ดาวิต คิเรีย เป็นจังหวะที่โดนแขนของ ดาวิต เอาชนะ TKO ไปได้ในยกที่ 3 รับโบนัส 50,000 หมื่นเหรียญ (1.75 ล้านบาท) พร้อมประกาศพร้อมเจอ ซุปเปอร์บอน บัญชาเมฆ

‘ครูใหม่’ ได้บรรจุที่โรงเรียนในชุมชนไร้แผ่นดิน-น้ำประปาไม่มี แต่จะสู้ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู เพื่อนักเรียน 28 ชีวิต

เมื่อไม่นานนี้ ได้มีผู้ใช้งาน TikTok บัญชี kongphop_q แชร์เรื่องราวของคุณครูบรรจุใหม่ท่านนึง ที่ได้เล่าเรื่องราวการบรรจุครูครั้งแรกของตัวเอง ซึ่งขอบอกเลยว่า การมาบรรจุและสอนที่นี่เป็นอะไรที่มีความท้าทายมากๆ เรียกว่าเป็นคุณครูที่มี ‘จิตวิญญาณเต็มเปี่ยม’ ถึงเส้นทางจะดูไม่เรียบหรู ออกแนวจะต้องมีความลำบากในการใช้ชีวิต แต่คุณครูก็พร้อมที่จะสู้ไปพร้อมกับเด็กนักเรียนเลยทีเดียว

โดยคุณครูได้บรรยายคลิปเพิ่มเติมว่า “เมื่อเราได้บรรจุเป็นครูโรงเรียนกลางน้ำ นี่มันคิดถึงวิทยาชัดๆ”

ซึ่งในคลิปคุณครูได้เล่าว่า ได้บรรจุที่โรงเรียนวัดบางชัน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่บนชุมชนไร้แผ่นดิน ซึ่งคุณครูหาที่ติดต่อทางโรงเรียนไม่ได้ ไม่มีข้อมูลพื้นฐานบนโลกออนไลน์เลยด้วย โดยคุณครูได้ทำการติดต่อที่พักโฮมสเตย์ในพื้นที่ และขอข้อมูลติดต่อผู้ใหญ่บ้าน และก็ได้รู้ว่า ที่นั่นไม่มีน้ำประปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย มีเรือขายน้ำจืด ที่พักเสียค่าน้ำและค่าไฟเอง แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่สละสิทธิ์ โดยคุณครูคิดว่าถ้าสละสิทธิ์แล้วเด็กนักเรียนที่นั่นจะมีครูสอนมั้ย เพราะเด็กที่นั่นมีนักเรียนเพียงแค่ 28 คน มีครูอยู่ 4 คน

หลังจากที่คลิปของคุณครูได้ถูกแชร์ออกไป ก็เรียกว่ากลายเป็นคลิปไวรัลที่มียอดเข้าชมมากกว่า 3.1 ล้านครั้ง ยอดไลก์มากว่า 326,000 ครั้ง และยังมีคอมเมนต์อีกมากมายที่เข้ามาชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับคุณครูกันอย่างล้นหลาม เช่น

“เชื่อว่าครูที่มีแพชชั่นในการสอนมีเยอะมาก แต่สิ่งที่ขาดคือการสนับสนุนด้านศึกษาทั้งฝ่ายผู้เรียนและผู้สอนจากรัฐบาล”
“ขอให้เป็นที่รักของเด็กๆและผู้ปกครองนะ”
“จันทบุรียินดีต้อนรับค่ะ ถึงจะลำบากหน่อย แต่คนที่นี่น่ารักนะคะ”

‘ป่าภูเขียว-อช.น้ำหนาว-ภูกระดึง’ ได้ขึ้นทะเบียนอุทยานมรดกอาเซียน ภาครัฐฯ พร้อมเดินหน้าคุ้มครอง-รักษาสภาพธรรมชาติอย่างยั่งยืน

(5 ก.ค. 66) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 34 (34th Meeting of the ASEAN Senior Officials on the Environment : 34th ASOEN) วันที่ 1 สิงหาคม 2566 ได้พิจารณารับรองการขึ้นทะเบียนอุทยานมรดกอาเซียน (ASEAN Heritage Park : AHP) ของประเทศไทย จำนวน 2 แห่ง ได้แก่

- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวและอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เป็นอุทยานมรดกอาเซียนแห่งที่ 56 
- อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นอุทยานมรดกอาเซียนแห่งที่ 57

ได้พิจารณารับรองให้โรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านหัวหิน เข้ารับรางวัลโรงเรียนที่มีกระบวนการจัดการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมดีเด่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ กลุ่ม ASEAN ‘ASEAN Eco-Schools’ ระดับมัธยมศึกษาและระดับประถมศึกษา รวมทั้งรับรองให้นายมนตรี เจือไธสง เข้ารับรางวัลนักวิจัย / ครูผู้สอนสิ่งแวดล้อมศึกษาดีเด่น ระดับชาติและระดับนานาชาติ กลุ่ม ASEAN ‘ASEAN Youth Eco-Champions Award’

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีพื้นที่ที่ได้รับการรับรองเป็นอุทยานมรดกอาเซียน ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา กลุ่มอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลันและอ่าวพังงา กลุ่มป่าแก่งกระจาน ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม-เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และอุทยานแห่งชาติเขาสก

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการนำเสนอ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ให้เป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 หลายภาคส่วนได้ร่วมกันเตรียมเอกสารนำเสนอข้อมูลพื้นที่ ตลอดจนเร่งระดมสรรพกำลังเพื่อให้สามารถผ่านเกณฑ์การประเมินได้ ซึ่งไทยมีความโดดเด่นหลายประการ อาทิ การอนุรักษ์ธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ มีพื้นที่ที่มีความเชื่อมโยงกับประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น

“โลกมีการตื่นตัวเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและเร่งพัฒนาแนวความคิดของคนไทยอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ การสนับสนุนให้พื้นที่ในประเทศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อเป็นพื้นที่คุ้มครอง รักษาสภาพธรรมชาติ ร่วมกับให้เกิดประโยชน์กับมนุษย์ควบคู่ไปด้วย ซึ่งอุทยานแห่งชาติจะช่วยรักษาสภาวะสมดุลธรรมชาติ พร้อมกันนี้ รัฐบาลสนับสนุนให้ระบบการศึกษาไทยให้ความสำคัญกับการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม สร้างการตระหนักรู้ตั้งแต่เยาวชน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะส่งผลต่อการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต” นางสาวรัชดาฯ กล่าว

‘เศรษฐา’ ร่อแร่!! ‘ชัยเกษม’ วอร์มอัป!! จับตาเกมไหล ‘อนุทิน’ แหกโค้งเข้าป้าย

‘เล็ก เลียบด่วน’ แห่ง ‘เลียบการเมือง’ มาตามกำหนดครับ… ทุกวันพุธและเสาร์… ไม่มีการเลื่อน… หนำซ้ำท่านบรรณาธิการบอกห้ามเบี้ยวอีกต่างหาก… อ้าว!! จัดปายยย… 

เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา หากไม่มีการเลื่อนวาระการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป… ป่านนี้คงได้รู้กันไปแล้ว ว่าคนชื่อ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ จะได้สักกี่คะแนน จะถึง 375 พอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่… 

แต่ข่าวของ ‘เล็ก เลียบด่วน’ ยืนยันนอนยันและตีลังกายันมาว่า… ไม่ผ่าน!!

ไม่ผ่านด้วยเหตุผลหลัก 3-4 ประการ… 

ประการแรก – พรรคเพื่อไทยไม่สะเด็ดน้ำเรื่องโครงสร้างพรรคร่วมรัฐบาล

ประการที่สอง – จุดยืนเรื่องไม่แตะมาตรา 112 ตามแถลงการณ์ของพรรคนั้นพอฟังได้ แต่ยังกำกวมอยู่บ้าง ยิ่งไปพ่วงเอาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปฏิรูปกองทัพ โน่น นี่ นั่น คล้ายๆ นโยบายพรรคก้าวไกลเข้ามาอีก ทำให้คุณพี่ สว.หลายท่านละล้าละลัง

ประการที่สาม – เรื่องความโปร่งใสธรรมาภิบาลด้านธุรกิจของคุณเศรษฐา ที่ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์’ แฉรัวๆ ก็มีผลไม่น้อย และ… 

ประการที่สี่ – สว.ส่วนหนึ่งกลัวว่าเพื่อไทยแอบเล่นละคร ‘ลับ ลวง พราง’ กับพรรคก้าวไกล… สว.บางกลุ่มถึงขนาดเล็งเป้าตอนโหวตว่า ในจำนวนสมาชิกรัฐสภา 10 ชื่อแรก ที่มี สส.ก้าวไกล 4 คน คือ ลำดับ 1 นางสาวกมลทรรศน์ กิตติสุนทร, ลำดับ 7 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ, ลำดับ 8 นายกฤช ศิลปะชัย และ ลำดับ 10 นางสาวกฤษฎ์ ชีวะธรรมานนท์… หาก 4 คนนี้โหวต ‘เห็นชอบ’ นายเศรษฐา… พวกเขาจะโหวตสวน หรือ งดออกเสียงทันที

นั่น… เขาตั้งป้อมปฏิเสธพรรคก้าวไกล แต่กระทบถึงพรรคเพื่อไทยกันถึงขนาดนั้น!!

ถึงตอนนี้คำถามมีอยู่ว่า… หลังวันที่ 16 ส.ค.หากพ้นผ่านศาลรัฐธรรมนูญต้องโหวตนายกฯ กันต่อ... ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ยังจะเป็นนายกฯตัวจริงของพรรคเพื่อไทยหรือไม่… ตอบได้เพียงว่าในห้วงสี่ซ้าห้าวันนี้พรรคเพื่อไทยก็คงจะผลักดันต่อ… ดูกระแสสังคม ดูกระแสลมและพายุคลั่งจากชูวิทย์… ถ้าดูแล้ว ‘เสี่ยนิด ณ แสนสิริ’ ไปไม่ไหว ก็คงต้องหันไปใช้บริการชายชื่อ ‘ชัยเกษม นิติสิริ’ แคนดิเดตคนที่สามของพรรค… 

ทราบว่าตอนนี้อาการด้านสุขภาพของชัยเกษมทำท่ากลับมาฟิตปั๋งอีกครั้ง… ปูมประวัตินอกเหนือจากถูกครหาเรื่องช่วยเหลือเอื้ออวยให้ทักษิณตอนเป็นอัยการสูงสุดแล้ว นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีอะไรเสียหายมากนัก… แต่ถ้าจะให้แน่ก็ต้องรอวันที่ถูกพรรคประกาศว่าจะเสนอชื่อโน่นแหละ รับรองว่าลำไส้กี่ขดต่อกี่ขดถูกสาวออกมาให้เห็นจนหมดสิ้นแน่… 

ว่ากันว่ากรณีของพรรคเพื่อไทย หากยังเก้ๆ กังๆ ผสมข้ามขั้ว แต่ยังท่องคาถา “มีเราไม่มีลุง” รับรองว่า… เกมจะไหลไปสู่พรรคที่สามอย่างพรรคภูมิใจไทย… ซึ่ง ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ใช่คนอื่นคนไกล เป็นอดีตศิษย์เก่า ได้ดิบได้ดีมาก็เพราะพรรคเพื่อไทยเมื่อครั้งเป็นพรรคพลังประชาชน… ถ้าพรรคเพื่อไทยไปต่อไม่ได้… ก็คงไม่เป็นอย่างอื่น… นายกฯ คนที่ 30 จะจอดป้ายที่ชายชื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล ตามที่แม่หมอสมัครเล่น… ฟองสนาน จามรจันทร์ พยากรณ์ยืนยันมาแล้วหลายเพลา… และบรรดาเหล่า สว.เองก็แอบเชียร์อนุทินอยู่ครึ่งค่อนวุฒิสภา

ส่วนโอกาสของ ‘ลุงป้อม – พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น ฐานเสียง สว.เหลืออยู่ในระดับ 50 เสียงเท่านั้น หากยังดำรงจุดมุ่งหมายที่จะเป็นายกฯ ให้ได้ ก็ต้องไปเจรจาล็อกคอพรรคเพื่อไทยมาให้ได้เป็นลำดับแรก…

ครับ!! ว่ากันอย่างถึงที่สุด… ทุกอย่างยังไม่ง่าย… โอกาส ‘เศรษฐา’ มีน้อยลง เริ่มน้อยกว่า ‘ชัยเกษม’ ที่เริ่มถูกพูดถึง ขณะที่ ‘อนุทิน’ ปัจจัยชี้ขาดอยู่ที่ความกล้า ในจังหวะที่ดวงดาวเป็นใจ เรียกว่ามีโอกาสมาก ส่วนลุงป้อมโอกาสน้อยกว่าอนุทินหลายเท่า…

ปล. กรณีทักษิณเลื่อนการกลับบ้านจากกำหนดเดิม 10 ส.ค. ออกไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ อ้างว่าหมอขอตรวจร่างกายนั้น… เป็นใบเสร็จยืนยันว่าทักษิณรอความชัดเจนว่า นายกฯ คนที่ 30 เป็นของพรรคเพื่อไทยหรือไม่?... ถ้าไม่ใช่ อาจต้องเลื่อนต่อไปและต่อไป… รอจนกว่าจะถึงช่วงปลอดภัยปลอดโปร่งตามคำทำนายของแม่หมอฟองสนาน คือ หลัง เม.ย. 2567

แต่ถ้าให้ดีกว่านั้นอีกคือ ช่วง พ.ค.2568 - พ.ค.2569

เลื่อนไหวไหม… โทนี่

‘ลอรี่’ ตีแสกหน้า!! นักสร้างคอนเทนต์ชอบชู “สภาล่มใช้เงินเท่าไร?” แต่พอฝั่งตนทำล่มถี่ มูลค่าเสียหายกว่า 45.9 ลบ.กลับไม่พูด

(5 ส.ค. 66) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ลอรี่ - พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ’ ในหัวข้อ ‘ปชช. ต้องตาสว่าง.. #ใครทำสภาล่ม 🎃’

“สภาล่มใช้เงินเท่าไหร่?” คอนเทนต์เอาหล่อ แต่พฤติกรรมที่ทำไว้สวนทาง ตามกมลสันดาน (DNA) แบบฉบับพรรคก้าวไกล... เมื่อ สส.พรรคท่านนึงออกมาทวงความเป็นธรรม ว่าสภาล่มวันที่ 4 ส.ค. 66 ทำให้มีค่าเสียหาย (เชิงโน้มน้าวให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ สส./สว. ฝั่งอื่น) 

ในฐานะที่ตัวผมนั้นเคลื่อนไหวกับภาค ปชช.เสนอเรื่องแก้สภาล่มมาโดยตลอด… ขอตีแสกหน้าด้วยข้อเท็จจริง ดังนี้…

1.) ความเป็นจริง การประชุมของรัฐสภา 4 ส.ค. 66 ‘ไม่ได้ล่ม’ แต่เป็นประธานสภาใช้สิทธิปิดประชุมตามข้อบังคับการประชุม ต้องศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนทำคอนเทนต์ เพราะอาจพาพี่น้องที่แชร์เป็นหมื่นให้เข้าใจข้อมูลอย่างบิดเบือน

2.) พรรคที่คุณอาศัยอยู่นั่นเอง เป็นเหตุปัจจัยทำให้สภาล่มนับครั้งไม่ถ้วนในสมัยประชุมที่ 25 (จำนวนล่มทั้งหมดราว 20-22ครั้ง) ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่เป็นฝ่ายค้าน

ช่วงแรกผมนับถือเพราะมีสปิริตรักษาองค์ประชุม แต่พอกฎหมายฝั่งตัวเองโดนโหวตตกไป ท่าทีของก้าวไกลก็เปลี่ยน และเล่นเกมการเมืองเก่าๆ ทำให้สภาล่มเหมือนพรรคที่คุณด่าเค้า… พรรคคุณแสดงตนครั้งละ 5 คน จาก สส.ตัวเอง 51 คนแบบนี้ ผมนับได้ไม่ต่ำกว่าครึ่ง ตีไปกลมๆ 11 ครั้ง (อาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้นิดหน่อย) ค่าเสียหาย 4.18 ล้านบาท/ครั้ง รวมมูลค่าเสียหายกว่า 45.9 ล้านบาท

สุดท้ายฝากบอกท่านโรจน์ อย่าไปแซว สว. เค้าเลยครับ ว่ามาแค่ 49 คน

เพราะ สส.พรรคคุณสมัยที่แล้วอาการหนักกว่า จนต้องอุทานดังๆ

“ว้าย มา 5 คน!!”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top