Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

เปิดเบื้องลึก ต้นกำเนิด 'โรงพยาบาลศิริราช' มุ่งมั่นเพื่อทุกชีวิต โดยพระมหากษัตริย์ไทย

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี @aun_mareeyah ได้แชร์คลิปวิดีโอ ‘ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา’ อธิการบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ที่ได้ออกมาเล่าต้นกำเนิดของ ‘โรงพยาบาลศิริราช’ ที่หลายคนอาจไม่ทราบมาก่อน โดยระบุว่า…

“วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ท่านสูญเสียพระราชโอรสองค์ที่ 5 คือ ‘สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์’ ในขณะนั้นมีพระชนมายุ 1 ปี 7 เดือน ทรงประชวรด้วย ‘โรคบิด’ ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มียาปฏิชีวนะ ท่านเป็นพระราชโอรสที่ท่านทั้งสองพระองค์รักมาก คนส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่าการสูญเสียสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ คือต้นกําเนิดของโรงพยาบาลศิริราช แต่จริงๆ ถูกเพียงแค่ส่วนเดียว เพราะอีก 3 เดือนต่อมา ในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2430 ปีเดียวกัน ทั้งสองพระองค์ก็สูญเสียพระราชธิดาองค์โต คือ ‘สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัตมณีมัย กรมพระเทพนารีรัตน์’ ซึ่งมีพระชนมายุ 8 พรรษา”

“ครั้งที่สูญเสียหนึ่งพระราชโอรส และหนึ่งพระราชธิดา ตอนนั้นกําลังจะมีการจัดสร้างพระเมรุ 5 ยอด ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ของทั้งสองพระองค์ ในขณะนั้นเอง ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เผยว่า แม้แต่ลูกเรา ลูกเจ้าฟ้า เจ้าพระยา ยังรักษาไม่อยู่ แล้วลูกชาวบ้านจะเป็นอย่างไร… ดังนั้น เมื่อเสร็จงานพระราชพิธีแล้ว ท่านจึงทรงรับสั่งให้ถอดอุปกรณ์ที่ใช้สร้างพระเมรุ 5 ยอด ออกมาสร้างเป็นโรงผู้ป่วยให้กับ ‘โรงศิริราชพยาบาล’ ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่า ‘โรงศิริราชพยาบาล’

แต่ทั้งหมดยังไม่จบเพียงเท่านั้น อีก 3 เดือนต่อมา ได้เกิดเหตุการณ์ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นปีเดียวกัน ทั้งสองพระองค์ก็ทรงสูญเสียพระราชโอรส คือ ‘สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง’ ไปอีกพระองค์หนึ่ง…

อันนี้จะพูดง่ายๆ เวลาเราสื่อสารให้กับประชาคมศิริราชที่เข้ามาใหม่ ถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือ พ่อแม่คู่หนึ่งสูญเสียลูกไปถึง 3 คน ภายใน 6 เดือน แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ท่านกลับใส่พระทัยในคนที่เดือดร้อนมากกว่า นั่นคือ ‘ราษฎร’ คือชาวบ้านที่เดือดร้อนมากกว่า…

เพราะฉะนั้น เราพูดกันตลอดเวลาว่า ‘ต้นกําเนิดโรงพยาบาลศิริราช’ เป็นต้นกําเนิดมาจาก ‘การใส่ใจดูแลผู้ที่เขาเดือดร้อน’ มากกว่าเรา”

“หลังจากนั้นก็สืบทอดต่อมา ผู้ที่จะสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่านอย่างมากเลย คือ ‘สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก’ หรือ ‘สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล’ ท่านเป็นพระราชโอรสของรัชกาลที่ 5 ซึ่งสมัยนั้น ประเทศไทยอยู่ท่ามกลางยุคล่าอาณานิคม ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เวลานั้น ท่านส่งพระราชโอรสไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจให้เกิดความสมดุลกัน ทางด้านสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลก็ทรงเสด็จเข้าไปศึกษาทางด้านการทหารเรือ”

“แต่วันหนึ่งท่านเสด็จกลับเข้ามาในกรุงเทพฯ ก็มีเจ้าฟ้าพระองค์หนึ่ง คือ ‘สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร’ ท่านออกกุศโลบาย ชวนสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลท่องเที่ยวทางเรือ แล้วมายังที่ของโรงศิริราชพยาบาล ก็ทรงชวนขึ้นมาดูเพื่อเจตนาให้เห็นโรงผู้ป่วยในเวลานั้น ซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะ สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลท่านพินิจเห็นก็มีความรู้สึกว่า ถ้าดูแลแบบนี้ชาวสยามเวลานั้นจะมีสุขภาพที่ดีได้อย่างไร? 

นั่นจึงเป็นจุดผกผันที่สําคัญ ท่านก็ตัดสินพระทัย ขอพระบรมราชานุญาตจากล้นเกล้า รัชกาลที่ 6 (ณ ขณะนั้นเข้าสู่ช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ 6) ท่านก็ทรงมีพระราชานุญาตให้สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล เสด็จไปศึกษาการสาธารณสุขกับการแพทย์ ท่านเสด็จไปถึงสถานีที่เมืองบอสตันรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้น ท่านได้สําเร็จการศึกษาและกลับมาประเทศไทย ในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2471”

“ในเวลานั้น โดยฐานันดรแล้ว สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลเวลานั้นจะเป็นองค์รัชทายาทโดยอนุโลม หรือผู้ที่จะขึ้นเป็น ‘พระเจ้าแผ่นดิน’ องค์ถัดไป เพราะฉะนั้น โอกาสที่ท่านจะได้ดูแลสามัญชนทั่วๆ ไปก็คงยาก แต่ท่านมีพระราชประสงค์อยู่แล้ว คืออยากจะกลับมาเป็นหมอ ดังนั้น ท่านจึงตัดสินพระทัยเสด็จขึ้นไปที่เชียงใหม่ โดยท่านเสด็จไปถึงเชียงใหม่วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2472

หากถามว่าแล้วท่านเสด็จขึ้นไปทำไม? เพราะพอต้องขึ้นไปที่เชียงใหม่ ถ้าท่านไปรักษาที่โรงพยาบาล หลวง โรงพยาบาลของราชการ ก็คงไม่สามารถดูแลคนไข้ได้ ท่านเสด็จไปส่งงานที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค เป็นโรงพยาบาลของคณะมิชชันนารี เพราะฉะนั้น ท่านจึงสามารถดูแลชาวบ้านสามัญชนที่นั่นได้”

“ดังนั้น ผมจึงชอบอุปมาอุปไมยเปรียบเทียบว่า “ตะวันตกมี ‘Lady of the lamp’” คือ ‘ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล’ ที่ทุกคืนก่อนนอนจะจุดเทียน แล้วก็ไปถามคนไข้แต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง ประเทศไทยของเราก็มีเจ้าฟ้าพระองค์หนึ่งทรงทำแบบเดียวกัน ที่ทุกคืนก่อนจะทรงบรรทม ท่านจะเสด็จไปเยี่ยม คนไข้ในโรงพยาบาลแมคคอร์มิค พอเสร็จหมดเรียบร้อย ท่านค่อยเข้าบรรทม จนเชียงใหม่ขนานนาม พระองค์ท่านว่า ‘หมอเจ้าฟ้า’”

“ต่อมา เผอิญว่าในช่วงนั้นมีเจ้าฟ้าพระองค์หนึ่ง สิ้นพระชนม์ในกรุงเทพฯ ท่านก็เสด็จกลับลงมา แต่ปรากฏว่าหลังจากกลับลงมาแล้ว ไม่ได้เสด็จกลับขึ้นไปที่เชียงใหม่อีกเลย จากนั้นการประชวรของพระองค์ท่านก็ทรงเป็นมากขึ้น ซึ่งในอีก 7 เดือนต่อมา เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 ท่านก็เสด็จสวรรคต นี่คือเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของราชวงศ์จักรี ที่สืบสานพระราชปณิธานมาจากรัชกาลที่ 5 ทําประโยชน์ให้กับผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วย”

“ตลอดระยะเวลา 10 ปี ‘สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล’ ทรงมีคุณูปการแก่กิจการแพทย์แผนปัจจุบัน และการสาธารณสุขของประเทศไทย ทรงบําเพ็ญพระราชกรณียกิจไว้มากมาย อุทิศทั้งพระราชทรัพย์และพระวรกาย อีกทั้งพระราชทานทุนเพื่อการศึกษาและค้นคว้า เพื่อการก่อสร้างตึกต่างๆ และขยายพื้นที่โรงพยาบาลศิริราช พระองค์ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงศิริราช ยามใดที่มีผู้ใกล้ชิดเข้าเฝ้า จะรับสั่งถึงงานโรงพยาบาลศิริราชเสมอ ซึ่งพระราชปณิธานนั้น ก็ได้สืบทอดต่อมาจนถึงรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ 9”

ผบ.ตร.สั่งเข้ม ให้ ผบช.ภ.9 ย้าย 4 เสือ สภ.มูโน๊ะ ประจำ ศปก. พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบส่วยพลุระเบิด

เมื่อวันที่ (1 ส.ค. 66 ) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ โกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟ ในพื้นที่ สภ. มูโน๊ะ  จนมีผูัได้เสียชีวิตหลายราย เกิดความเสียหายจำนวนมาก

หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้  พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9  ดำเนินการทุกมิติทั้งการช่วยเหลือเยียวยา เร่งรัดการสอบสวนดำเนินคดี ขยายผลดำเนินการผู้เกี่ยวข้อง โดยนำนิติวิทยาศาสตร์มาใช้ รวมทั้งการขยายผลไปตรวจค้นโกดังพื้นที่อื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน ไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอึก

ความคืบหน้าทางคดีขณะนี้มีการออกหมายจับเจ้าของโกดัง 2 สามีภรรยา ซึ่งขณะนี้หลบหนีอยู่ประเทศมาเลเซีย โดย ผบ.ตร.กำชับให้ประสานไปยังตำรวจมาเลเซียในการช่วยติดตามจับกุม แม้จะหลบหนีไปที่ไหน ก็ต้องนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้

ส่วนประเด็นข้อสงสัยของสังคม ว่าโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟ มาตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนได้อย่างไร มีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ได้ย้ำให้ ผบช.ภ.9 เร่งทำความจริงให้ปรากฎ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับผลประโยชน์ รู้เห็นเป็นใจ ปล่อยปละละเลย ให้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ให้ดำเนินการเด็ดขาดทั้งอาญา วินัย และปกครอง ซึ่ง ผบช.ภ.9 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว โดยมี พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9 เป็นหัวหน้าฯ โดยจะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จ แล้วรายงานผลให้ ตร.ทราบโดยเร็วทันที

ในเบื้องต้นเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นธรรม ให้สังคมเกิดความเชื่อมั่น พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้มีคำสั่งย้ายข้าราชการตำรวจ สภ.มูโน๊ะ จำนวน 4 รายประกอบด้วย ผกก., รอง ผกก.ป , สว.ป.และ สว.สส. ส่วนอีก 1  ตำแหน่ง รอง ผกก.สส.ได้เสียชีวิตไปแล้ว เป็นตำแหน่งว่าง โดยให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จว.นราธิวาส

โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า “ ผบ.ตร.ได้กำชับให้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาทุกมิติ ทุกประเด็นข้อสงสัย ต้องทำความจริงให้ปรากฎ หากพบว่าใครเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย หากพี่น้องประชาชนมีข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติม สามารถแจ้งมายัง ตร.ได้ที่หมายเลข 1599 ยืนยันว่า ทุกข้อมูลจะดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง”

‘ดีเจอ้ายป๊อป’ แห่งคลื่นลูกทุ่งมหานคร เสียชีวิตแล้ว หลังรักษาตัวมานานหลายเดือน แฟนคลับแห่อาลัย 

เมื่อวานนี้ (1 ส.ค. 66) เฟซบุ๊ก Ltmfm95 สถานีวิทยุ คลื่นลูกทุ่งมหานคร ได้โพสต์อาลัยการจากไปของ ‘ดีเจอ้ายป๊อบ’ หรือ ‘ดร.โสภัทร นาสวัสดิ์’ หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลายเดือน โดยระบุว่า

“ขอแสดงความเสียใจ กับการจากไปของ ‘ดร.โสภัทร นาสวัสดิ์’ อ้ายป๊อบที่เป็นที่รัก ของพวกเราชาวลูกทุ่งมหานครด้วยนะคะ หลับให้สบาย อ้ายป๊อบจะอยู่ในใจพวกเราตลอดไปค่ะ…”

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป แฟนคลับ ลูกศิษย์ และศิลปิน ต่างเข้าไปคอมเมนต์แสดงความเสียใจ และอาลัยต่อการจากไปของนักจัดวิทยุคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ ‘ดีเจอ้ายป๊อบ’ นอกจากจัดรายการวิทยุแล้ว ยังเป็นนักดนตรีอาชีพ และเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรการสร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์และสื่อ คณะนิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

‘สถานทูต’ พร้อมดูแล หลัง ‘คนไทย’ ดับในงาน Tomorrowland  เผย สาเหตุการเสียชีวิตยังไม่แน่ชัด อยู่ระหว่างการสืบสวน

เมื่อไม่นานมานี้ เทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ได้มีคนเสียชีวิตเพิ่มอีกแล้ว สำหรับเทศกาล Tomorrowland ที่จัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม โดยรายล่าสุดยืนยันว่าเป็นชายไทยอายุประมาณ 30 ปี

ตามรายงานจากผู้จัดคอนเสิร์ต เด็บบี เวล์มเซน รายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า ชายไทยอายุราว 30 ปี ได้หมดสติโดยมีเจ้าหน้าที่ช่วยกันปั๊มหัวใจในโซนวีไอพี ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และได้รับการยืนยันในเวลาต่อมาว่าเสียชีวิตขณะกำลังกู้ชีพที่โรงพยาบาล

อย่างไรก็ตามสาเหตุของการเสียชีวิตยังไม่ได้รับการเปิดเผย และยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตอยู่ในขณะนี้

ทางด้าน เวล์มเซน ได้ยืนยันว่าทางผู้จัดการได้พยายามอย่างดีที่สุดที่จะดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาร่วมงาน อย่างไรก็ตามทางทีมงานไม่สามารถควบคุมเรื่องของสภาพอากาศและการกระทำส่วนบุคคลได้

ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผยว่าทีมงานวัย 26 ปี ได้เสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาดซึ่งเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเหตุการณ์ของชายไทย นอกจากนั้นเมื่อปี 2019 ชายชาวอินเดียวัย 27 ปี ก็เสียชีวิตในเทศกาลดนตรีนี้เช่นกันซึ่งสาเหตุครั้งนั้รเกิดจากการเสพยาเกินขนาด

โดยทีมผู้จัดงานได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวผู้สูญเสีย โดยยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ที่ผู้จัดงานไม่อยากให้เกิดขึ้น

ทางสถานทูตไทยในกรุงบรัสเซลล์ ได้เข้าดูแลเรื่องของการขันสูตรศพพร้อมประสานงานไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต เยื้องต้นทางสถานทูตยืนยันว่า ชายไมยรายนี้ได้เดินทางมาพร้อมกับกรุ๊ปทัวร์ โดยไกด์ทัวร์จะเข้าพบกับทางสถานทูตในวันที่ 31 ก.ค. เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม

‘การทางพิเศษฯ’ จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น สะพานสมุย ครั้งที่ 1  ชวน ปชช. ร่วมถกแผน ‘หาพื้นที่เหมาะสม’ เพื่อลดผลกระทบรอบด้าน

เมื่อวานนี้ (1 ส.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก 'โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure' ได้โพสต์ภาพและข้อความ ระบุว่า…

ประชุมรับฟังความคิดเห็น สะพานสมุย ครั้งที่ 1 ร่วมวางแผน หาเส้นทาง และพื้นที่เหมาะสม ลดผลกระทบ 8-10 สิงหาคม 66 ในพื้นที่ สุราษฎร์ธานี, สมุย และนครศรีธรรมราช

วันนี้เอาข่าวการวางแผนก่อสร้าง สะพานเชื่อมเกาะสมุยกับชายฝั่งสุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร โดยเจ้าภาพงานนี้คือ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

ซึ่งครั้งนี้เป็นการประชุมปฐมนิเทศโครงการในครั้งแรก เพื่อจะทำความเข้าใจกับโครงการ และหาเส้นทางที่เหมาะสมกับการก่อสร้างสะพาน

โดยเปิดให้ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

ซึ่งจะมีการรับฟังความคิดเห็นในครั้งแรก ในช่วงวันที่ 8-10 สิงหาคม 2566 รายละเอียดตามนี้
- วันที่ 8 สิงหาคม 66 เวลา 8:30-12:30 น. ที่ โรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน จังหวัดนครศรีธรรมราช
- วันที่ 9 สิงหาคม 66 เวลา 8:30-12:30 น. ที่ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- วันที่ 10 สิงหาคม 66 เวลา 8:30-12:30 น. ที่ ห้องประชุมเพชรสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมได้ตามลิ้งค์นี้
https://docs.google.com/.../1FAIpQLSeihOrVZ26RMk.../viewform

ซึ่งเบื้องต้นในโครงการได้เลือกจุดเริ่มต้น (ฝั่งสุราษฎร์ธานี) และจุดสิ้นสุด (ฝั่งเกาะสมุย) ไว้อย่างละ 3 จุด ได้แก่

- จุดเริ่มต้นโครงการ (ฝั่งสุราษฎร์ธานี)
1. หาดนางกา
2. อ่าวประทับ
3. หาดแขวงเภา

- จุดสิ้นสุดโครงการ (ฝั่งเกาะสมุย)
1. อ่าวพังกา
2. ท่าเรือเกาะแตน
3. ท้ายอ่าวหินลาด

ซึ่งแต่ละทางเลือกก็จะมีเส้นทางที่แตกต่างกัน เพื่อหาเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดทั้งด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านสิ่งแวดล้อม

จุดที่สำคัญที่สุด คือการเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ในรายละเอียดโครงการ ซึ่งสามารถติดตามได้จาก
- Line Openchat
https://line.me/.../Tn4RyFFsK6xyAY7vOw38-XPDgXDzEYy...
- Facebook เพจ โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย
- เว็บไซต์โครงการ
https://samuibridge.com/

‘หมอยง’ เผย WHO กำหนดชื่อฝีดาษลิงเป็น Mpox แล้ว ช็อก!! ‘ไทย’ พบผู้ป่วยมากสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

(2 ส.ค. 66) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ราชบัณฑิตยสภา โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ‘ฝีดาษวานร Mpox’ ระบุว่า

วานร องค์การอนามัยโลกกำหนดชื่อเป็น Mpox เพื่อไม่ต้องการให้ใช้ชื่อสัตว์ สถานที่ บุคคลมาตั้งชื่อ ให้เป็นตราบาป ดังเช่นถ้าเรียกฝีดาษลิง ทุกคนจะไปโทษลิง ซึ่งที่จริงแล้ว ไม่ใช่ต้นเหตุของการระบาดครั้งนี้

การระบาดทั่วโลกของฝีดาษ Mpox รวมทั้งสิ้น รวม 90,000 ราย พบมากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา

สำหรับประเทศไทยมีรายงานแล้วมากกว่า 120 ราย สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะยอดในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากเดือนมิถุนายน ที่มีเทศกาล

โรคไม่รุนแรงจึงเห็นได้ว่าอัตราเสียชีวิตค่อนข้างต่ำ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ หรือมีการติดเชื้อ HIV ร่วมด้วย

การเปลี่ยนแปลงทางด้านระบาดวิทยา สำหรับโรคที่ไม่รุนแรง จะยากในการควบคุม ประเทศที่พัฒนาแล้ว จะมีการตรวจกรองเฝ้าระวัง การดูแลรักษา และวัคซีนป้องกัน ได้ดีกว่าประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศยากจนกว่า

ในอนาคต โรคนี้คงไม่หมดไป เพราะเกี่ยวข้องกับสัมผัส เพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะในกลุ่มพิเศษ และจะยังคงมีการระบาดในประเทศที่ระบบสาธารณสุข ที่ การควบคุม ป้องกัน และการศึกษา รวมทั้งวัคซีนในการป้องกันที่มีทรัพยากรน้อยกว่า

ประเทศไทยที่พบกว่า 100 ราย ก็ไม่ได้น้อย และยังมีการพบประปรายอยู่ตลอด แต่ความตื่นตัว ของโรคนี้ในปัจจุบัน น้อยกว่าในระยะแรกๆ เราจำเป็นที่จะต้องให้ความรู้ความเข้าใจ การระบาดของโรคโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดการระบาดในประเทศไทย

‘จตุพร’ ฉะ!! ‘ณัฐวุฒิ’ ปกป้องทักษิณให้แต่พองาม อย่าล้ำเส้น ลั่น!! หลังจากนี้อยากจะรบกันก็เชิญตามสบาย พร้อมเสมอ

(2 ส.ค. 66)  นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน ‘กี่ม้วนจบ’ โดยตอบโต้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยที่ออกมาปกป้องทักษิณ ชินวัตร แบบล้ำเส้น หาเศษหาเลย พร้อมท้าวัดใจจุดยืนไล่คนตระบัดสัตย์หรือหากต้องการรบกันก็พร้อม นายณัฐวุฒิ หรือ เต้น หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เพจเมื่อ 1 ส.ค. 66 เพื่อแก้ต่างให้ทักษิณ 2 กรณี คือ หนึ่งไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับทหารและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจปี 2557 และสองถึงการอธิบายประวิติศาสตร์ นปช.แตกแยกเพียงด้านเดียวอย่างคลาดเคลื่อน ทั้งที่แยกทางกันมีเหตุมาจากแอบตั้งพรรคเพื่อชาติ ซึ่งไม่ได้บอกพี่น้องสู้รบมาด้วยกัน

นายจตุพร โต้กลับกรณีพรรคเพื่อชาติ ซึ่งเคยอธิบายมาหลายครั้งว่า การพูดครั้งนี้จะไม่เกรงใจกันอีก เพราะนายณัฐวุฒิ ยกมาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยก่อนเลือกตั้งปี 2562 ตนติดคุกอยู่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช คนสนิทของทักษิณ และคณะ นปช. ไปเยี่ยมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมหารือสถานการณ์ทางการเมืองตามโอกาสอำนวยให้พูดคุยกัน นายยงยุทธ ยกกรณี รธน. 2560 เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่กำหนดใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวกับการออกเสียงสองระบบ คือ สส.เขตและบัญชีรายชื่อ โดยตนมีความเห็นว่ารวมกันแพ้ แยกกันชนะ และนายยงยุทธ บอกว่า ทักษิณ ให้มาช่วยพรรคเพื่อชาติเก็บแต้มให้ฝ่ายประชาธิปไตย แต่ตนขอให้ทักษิณบอกด้วยตัวเอง

นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนั้นนายณัฐวุฒิ ยังไม่ถูกตัดสิทธิ์การเมือง แต่ตนติดคุกจึงถูกตัดสิทธิ์ อีกทั้งเคยประกาศเดิมพันไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งถ้า รธน. 2560 ทำประชามติผ่าน จึงยึดเป็นสัจจะวาจา ซึ่งไม่เป็นปัญหาอะไรกับตนเลย

"ผมไม่รู้ทักษิณคิดจะทำอะไร หลังจากออกจากคุก ทักษิณ ได้พูดกับผมว่า ให้มาช่วยพรรคเพื่อชาติ ผมก็รับปาก และไม่รู้ว่าเขาวางแผนคิดจะทำพรรคไทยรักษาชาติอีกพรรคหนึ่ง วันหนึ่งจึงมาพูดกลางวงประชุม นปช.แต่ท้ายที่สุดมีความเห็นแตกต่างกัน"

นายจตุพร กล่าวว่า หลังจากเกิดพรรคไทยรักษาชาติขึ้น นายณัฐวุฒิ พาคณะชุดหนึ่งไปสังกัด ตนพาอีกชุดมาช่วยพรรคเพื่อชาติ แล้วต่อมาจึงรู้ว่า ถูกหลอกตั้งแต่รู้ว่า ลูกชายนายยงยุทธ ไปเป็นเลขาพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อผีถึงป่าช้าก็พูดไม่ออก

"ปรากฎว่า มารู้ภายหลังว่า โดนหลอกกันรอบวง คุณหญิงสุดารัตน์ (เกยุราพันธุ์) ไม่รู้เช่นกันว่าทูลกระหม่อมฯ มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไทยรักษาชาติ ถ้ารู้ก็ไม่มีวันจะกล้าเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยเลย ผมพยายามส่งความให้คิดกันให้ดี แต่คณะ นปช.ไม่มีใครฟังผมหรอก"

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อถึงวันรับสมัครเลือกตั้ง พรรคเพื่อชาติกลับเป็นที่สนใจมีผู้สมัครลงเลือกตั้งจำนวนมาก จึงถูกสกัดไม่ให้โตมากเกินไปเพื่อหลีกทางให้พรรคไทยรักษาชาติได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ถึงที่สุดจึงรู้ข้อมูลว่า เป็นแผนแยกสลาย นปช. เท่ากับทักษิณ เสียสัจจะวาจาต่อตน

ส่วนนายณัฐวุฒิ บอกว่าไทยรักษาชาติมาทีหลัง นายจตุพร กล่าวว่า หากไม่รู้เกมทั้งหมดแล้ว นายยงยุทธ จะเอาลูกชายไปเป็นเลขาธิการพรรคได้อย่างไร แล้วยังเอาน้องสาวไปอยู่พรรคเพื่อไทย ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ร่วมมือกัน

นายจตุพร กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการเมืองว่า นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ นักธุรกิจ เจ้าของห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ถูกจัดวางให้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ โดยลูกชายไปลง ส.ส.เพื่อไทย และลูกสาวของนายยงยุทธ ลงบัญชีรายชื่อลำดับที่สองพรรคเพื่อชาติ ดังนั้น ความสัมพันธ์นี้จึงเป็นเรื่องเดียวกันและเป็นข้อตกลงที่ถูกวางแผนกันไว้หมด โดยที่ตนไม่รู้มาก่อนจะมีพรรคไทยรักษาชาติอีก แล้วเกมนี้ยังมุ่งแยกสลายองค์กร นปช.ด้วย

สิ่งสำคัญ นายจตุพร ยอมรับว่า ถูกทักษิณหลอก ขณะที่นายณัฐวุฒิ ถ้าคิดภักดีกับพรรคเพื่อไทยจริง เมื่อไทยรักษาชาติถูกยุบพรรค ก็คงไม่ไปตั้งพรรคเส้นทางใหม่ร่วมกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง มีออฟฟิตใหญ่โต สวยงามบนพื้นที่ 2 ไร่ที่ปากเกร็ด นนทบุรี ดังนั้น ย่อมพิสูจน์ว่า ถ้าศรัทธาเพื่อไทยจริงจะแยกไปตั้งพรรคเส้นทางใหม่ได้อย่างไร นอกจากนี้ หากนายณัฐวุฒิไม่รู้ว่าถูกหลอกแล้ว เมื่อพิจารณาการจัดลำดับบัญชีรายชื่อไทยรักษาชาติ นายณัฐวุฒิ ได้เป็น ส.ส.เพียงคนเดียวของ นปช. ส่วนคนอื่นอยู่ในลำดับที่ไกลและยากที่จะได้เป็น ส.ส.

"เมื่อต้องการพูดเรื่องนี้กันอีก ทั้งที่พูดกันมาหลายครั้ง และผมยอมรับว่า ถูกทักษิณ หลอก ถ้าไม่พูดกับผมก็ไม่มีวันไปช่วยพรรคเพื่อชาติ และถ้าพาพี่น้องไปไทยรักษาชาติ ถ้ามีโอกาสได้เป็น ส.ส.คนเดียวแล้ว มันไม่ใช่นิสัยผม"

ต่อมามีการยุบสภา นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณได้ส่งสัญญาผ่านบุคคลที่ตนเกรงใจให้กลับไปช่วยกันอีกครั้งหนึ่ง ตนกับนายณัฐวุฒิได้คุยกัน ซึ่งเป็นการคุยกันครั้งสุดท้าย คุยอย่างเป็นทางการ โดยสรุปว่า ตัดสินใจกันอย่างไรก็บอกด้วย แต่ขณะนั้นตนไม่คิดกลับเพื่อไทยเลย แล้วมารู้อีกทีนายณัฐวุฒิ เป็น ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย โดยไม่ได้บอกกันสักคำ

นายจตุพร กล่าวถึง นปช.กลับไปอยู่เพื่อไทยว่า มี 3 คน นายสงคราม จากเพื่อชาติได้เป็น สส. ลูกนายยงยุทธ ลงเขตเชียงราย ได้เป็น ส.ส. แต่อีกคนไม่ได้เป็น ส.ส. ดังนั้น ถ้าไม่มีความสัมพันธ์กัน หรือไม่รู้เห็นกันสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ส่วน คน นปช.นายก่อแก้ว พิกุลทอง ได้ลำดับไกลมากถึงที่ 36 ไม่ได้เป็น ส.ส. สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ทั้งเพื่อไทย เพื่อชาติ และไทยรักษาชาติ มีความสัมพันธ์โยงกันหมด เมื่อ นปช.มาคุยกันก็เป็นคนละเรื่อง ถ้าไม่ใช่ทักษิณวางแผน รู้เห็นกันแล้ว นายสงครามและนายยงยุทธ จะแยกพ่อ ลูก และน้องสาวไปลงต่างพรรคกันได้อย่างไร แล้วยังพากันกลับมาเพื่อไทยในครั้งนี้อีกด้วย ดังนั้น ใครจะพูดอย่างไรก็พูดได้ แต่ข้อเท็จจริงคือ นปช.ที่แยกกันออกไป ต่างลง ส.ส.ในไทยรักษาชาติ และเพื่อชาติ ยกเว้นอาจารย์ธิดา ถาวรเศรษฐ คนเดียวไม่ลง ส.ส.

“ส่วน นปช.ก็แยกกันแล้ว ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด งานบุญก็แยกกันทำแล้ว จะคุยกันทำแมวอะไร ไม่มีประโยชน์ และผมเป็นตัวของผม ไม่ได้ใช้ตำแหน่ง นปช.เลย ครั้งหนึ่งเคยเสนอให้ยุติบทบาท แล้วส่งไม้ให้คนรุ่นใหม่ไป เมื่อไม่เห็นด้วยก็ต่างคนต่างอยู่ อีกอย่างผมไม่ได้ช่วยพรรคการเมืองใด ถ้าณัฐวุฒิมาอธิบายเพื่อปกป้องทักษิณ ก็เอาให้พอดีพองาม อย่าหาเศษหาเลยกัน”

นายจตุพร กล่าวถึงการยึดอำนาจปี 2557 ซึ่งทักษิณ เกี่ยวข้องหรือไม่ ว่า เมื่อนายณัฐวุฒิ โพสต์เองว่า พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมการตอนต้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกเหรอ เมื่อเลือกตั้งปี 2554 นั้น เพื่อไทยชนะม้วนเดียวจบเนื่องจากคนเสื้อแดงถูกปราบตายร่วมร้อยศพ บาดเจ็บสองพัน สูญสิ้นอิสรภาพนับไม่ถ้วน จนนำไปสู่การเลือกเพื่อไทยได้ 265 เสียง ส่งให้ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ ในการเลือกตั้งและชนะกันนั้น ถ้าสำนึกบุณคุณประชาชน ที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันไปต่อสู้จนได้ชัยชนะจากการเลือกตั้ง สิ่งแรกจึงต้องตอบแทนเจตนารมณ์ของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ อีกอย่างช่วงนี้ เมื่อนายณัฐวุฒิ มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีก็ยินดีด้วย

“การตั้งรัฐบาลครั้งแรก ณัฐวุฒิก็อยู่ที่บ้านผม ทักษิณโทรมา ผมขออนุญาตเปิดเสียงให้ณัฐวุฒิได้ยิน ทักษิณถามถึงเรื่องรัฐมนตรี ผมว่าถ้าจะตั้งต้องตั้งทั้งสองคน ถ้าไม่ตั้งก็อย่าเกรงใจ ไม่ต้องตั้งพวกผมก็ได้ ดังนั้น นปช.จึงไม่มีรัฐมนตรีครั้งแรกสักคนเดียว ซึ่งผมไม่มีปัญหา เพราะเป็น ส.ส.อยู่”

นายจตุพร กล่าวว่า การตั้ง ครม.ครั้งสอง นายณัฐวุฒิ ได้เป็น ตนไม่มีปัญหาอะไร แต่ปรับ ครม.ทักษิณ จะเอานายณัฐวุฒิออก เอาตนเข้าแทน ซึ่งตนก็ไม่ให้ความร่วมมือด้วย และไม่เอา เพราะไม่อีนังขังขอบอะไรด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผิดพลาดอย่างยิ่งคือ เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้ว ก็ใช้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเครื่องค้ำประกันและรักษารัฐบาล เมื่อตนวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ด้านอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ โทรมาขอไม่ให้วิจารณ์ รวมทั้ง เกิดเรื่องสารพัด และเคยเตือนว่าจะมีการรัฐประหาร

นอกจากนี้ ขบวนการเสื้อแดงยังเหลวแหลกหมด ทักษิณ จัดการสัมพันธ์ตรงไปพบที่ต่างประเทศ แล้วได้สิ่งของราคาแพงมียี่ห้อสูงเป็นของขวัญ แล้วยังส่งไลน์รายงานความเคลื่อนไหวให้ทักษิณรับทราบอีกด้วย แล้วใครจะคิดอยากต่อสู้ในภาคสนามกัน อีกอย่างระบบ นปช.เป็นเรื่องจิตวิญญาณการต่อสู้ ชีวิตแลกชีวิต แต่กลับเอาผลประโยชน์และการพึ่งพา พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นการบริหารจัดการแทนความสามัคคีของมวลชน

“เมื่อณัฐวุฒิ บอกว่า การยึดอำนาจก่อตัวช่วงต้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แล้วไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะการพึ่งพาพล.อ.ประยุทธ์ คือการละทิ้งประชาชน แล้วยังวางแผนปลด พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ออกจาก รมว.กลาโหม เพราะรู้ทันทหาร อีกอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ขอตำแหน่งต่างๆ ในตำรวจให้พรรคพวก ก็ยังยอมอีก

นอกจากนี้ เหตุการณ์ต่างๆ ได้เดินมาถึงออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย โดยแทรกให้คดีทุจริตเพื่อปลดปล่อยทักษิณ ได้กลับบ้าน เท่ากับเป็นการทำลายความหวังคนเสื้อแดงให้ย่อยยับจนมลายหมดสิ้น ประกอบกับ กปปส. ลงถนนเปิดฉากต่อต้านครั้งใหญ่ แล้วอีกไม่นาน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยึดอำนาจ เพราะทักษิณ สกัดสั่งห้ามเติมกำลังเสื้อแดงไปชุมนุมที่ถนนอักษะ

นายจตุพร กล่าวถึงการชุมนุมเมื่อปี 2553 ว่า นายณัฐวุฒิ รับผิดชอบดูแลทุกอย่างและทั้งงบประมาณ ตนกับนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยในด้านงบประมาณ มาถึงการชุมนุมปี 2557 ได้แบ่งงานกันทำ ทักษิณ รับผิดชอบสั่งการระดมคนมาชุมนุม นปช.รับงานเวทีชุมนุมไม่ยุ่งเกี่ยวงบประมาณ

“ตลอดการชุมนุมจะมีคนรองรังอยู่พื้นที่ชุมนุมจนรุ่งเช้าไม่น้อยกว่า 3- 4 หมื่นคน ส่วนช่วงหัวค่ำมีการระดมคนมาชุมนุมวันละไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นถึงแสนคน แต่ 21 พ.ค. 2557 วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ นัดให้แกนนำมาคุยหารือตกลงกันที่หอประชุมกองทัพบก

นายจตุพร กล่าวว่า ในช่วงเช้ามืด ก่อนไปพูดคุยตามนัด ตนตระเวณดูพื้นที่ พบผู้ชุมนุมหายแทบหมด เหลืออยู่ประมาณ 3-4 ร้อยคน ตกใจมาก คิดว่าถูกทำงานแล้ว อย่างไรก็ตาม คนเดียวที่ทำงานได้คือ ทักษิณ ถ้าไม่รู้เห็นด้วย คนไม่หายไปขนาดนี้ จึงเท่ากับเปิดโอกาสให้ยึดอำนาจได้ง่ายดายเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 เพราะไม่มีกำลังต่อต้านและสถานการณ์ขณะนั้น เราสู้ไม่ได้แล้ว

"ผมบอกเรื่องนี้ว่า ตั้งแต่เป็นรัฐบาลแล้วยอมเปลี่ยน รมว.กลาโหม ไม่เรียกว่าสมคบคิดกันได้อย่างไร เพราะเกิดวิวัฒนาการตามมาเป็นลำดับ มีการต่อรองกับทหารตามเรื่องราวเป็นตอนๆ ไป อีกทั้งคดีจำนำข้าวใกล้เข้าสู่ช่วงการตัดสิน ชี้ขาด ส่วนเรื่องในศาล รธน.แพ้หมด ช่วงนั้นรัฐบาลเอาสถานการณ์ไม่อยู่แล้ว"

นายจตุพร กล่าวว่า แม้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณการชุมนุม แต่ถูก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวหามีคนได้ประโยชน์จากงบประมาณจนต้องกลืนเลือด แล้วสุดทนเมื่อทักษิณ ไลน์เป็นข้อความอังกฤษถึงบางคน ซึ่งแปลได้ว่า "เลวมาก" ตนได้แค่อมยิ้ม เพราะรู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และเลือดที่อมไว้ก็ทะลักมาถึงคอหอย แล้วพุ่งสำลักออกมา

"ณัฐวุฒิจะคิดอย่างไรกับผมก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย และประวัติศาสตร์การต่อสู้หาความสำราญได้ตามสบาย ผมเป็นคนไม่ต้องการอะไรแล้ว ไม่ต้องการคำสรรเสริญเยินยอ ไม่ต้องการแนวร่วมมวลชน หรือให้คนตามมาเห็นด้วยจำนวนมาก เพราะผมผ่านเลยมาหมดแล้ว"

นายจตุพร กล่าวว่า หลังประกาศแยกทางกับทักษิณ อย่างชัดเจน มานั่งจัดรายการ ถ้านั่งวิจารณ์วันเดียวแล้วหยุดจะกลายเป็นคนชั่วทันที เพราะคนจะเชื่อทักษิณ 99 คน เชื่อผมคนเดียว จึงต้องพูดทุกวัน ถ้าไม่จริงให้ออกมาชี้แจ้ง ให้เรียงหน้ากันมาตอบโต้ ซึ่งแกนนำสำคัญ คนใหญ่ๆ ของพรรคเพื่อไทยแทบไม่ตอบเลยอีกทั้ง กล่าวว่า นายณัฐวุฒิ นึกอะไรไม่ออกก็เฉียดกรณีตั้งพรรคเพื่อชาติมาหลายครั้ง ตนก็อธิบายไปทุกครั้งและยอมรับว่าถูกทักษิณหลอก แล้วยังไม่เข้าใจอีกหรือว่า พรรคเพื่อไทย เพื่อชาติ และไทยรักษาชาติ เป็นเรื่องเดียวกันหมด ตัวแสดงสัมพันธ์กัน มีพ่อ-ลูกและน้องสาวโยกย้าย แยกกันลงสมัคร สส.พลัดเปลี่ยนกันไป แล้วมาอยู่ที่เพื่อไทยในขณะนี้

"ถ้าต้องการจะอธิบาย หลังจากนี้อยากจะรบกันก็เชิญตามสบาย ณัฐวุฒิ ไม่กลัวใคร และณัฐวุฒิก็รู้ว่าผมก็ไม่กลัวใครเหมือนกัน ก็มาเลยตามสบาย และหลังจากนี้ไป หากณัฐวุฒิยังจำคำพูดแรกๆ ของตัวเองในเวทีชุมนุมสนามหลวง ที่พูดว่า “ถ้าทักษิณ ไปสมคบคณะยึดอำนาจ จะออกมาไล่ทักษิณเอง" ได้หรือไม่? หากลืมยังมีแผ่นซีดีเอาให้ฟังได้

นายจตุพร กล่าวว่า หลังจากนี้ไปนายณัฐวุฒิ อยู่ในชุดปราศรัย พูดชัดเจนอยู่แล้ว และอย่าคิดเลี่ยงคำลุง เพราะปราศรัยทุกที่ระบุถึงแต่พรรคพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ไล่หนูตีงูเห่า ไปยำประชาธิปัตย์ที่ภาคใต้ วันใดพรรคเพื่อไทยไปร่วมกับพรรคเหล่านี้ และนายณัฐวุฒิยังอยู่ก็ต้องวัดใจกัน

"เมื่อผมวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองตระบัดสัตย์ ไม่ได้สนใจว่าเขาจะเป็นใคร ถ้าตระบัดสัตย์วันไหน ที่คุณโพสต์มาคำไหนคำนั้น ไม่ลืม ขณะนี้ก็เป็นเช่นนั้น เราต้องวัดใจกันว่า ถึงเวลาใครจะได้แสดงจุดยืน ซึ่งอาจหมายถึงส้นตีนด้วยก็ได้ แน่นอนการเสียสัจจะวาจาผมรับไม่ได้ ในฐานะประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์พฤษภา 2535 จนเป็นจุดชี้ขาดในเรื่องนายกฯ ตระบัดสัตย์"

ประเทศไทยต้องมาก่อน

‘อีลอน มัสก์’ ถูกสั่งรื้อป้ายสัญลักษณ์ ‘X’ หลังติดตั้งได้สัปดาห์เดียว เหตุทำผิดกฎผังเมือง ‘ไม่ขออนุญาต-ละเมิดข้อบังคับการติดตั้งป้าย’

(2 ส.ค. 66) กรณีที่ ‘อีลอน มัสก์’ สั่งเปลี่ยนชื่อ ทวิตเตอร์ แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียที่ครองใจเจนเนอเรชันใหม่ ที่หลายคนกำลังจับตามอง ดูจะไปไม่ค่อยสวยนัก ทั้งบรรดาผู้ใช้เดิมที่ชอบรูปลักษณ์ตัวนกสีฟ้าแบบเดิมมากกว่า ชื่อใหม่ ‘x’ หรือ เอ็กซ์ เพราะทั้งชื่อและสัญลักษณ์ดูคล้ายกับเว็บโป๊ แถมล่าสุด โลโก้ไฟป้ายเบ้อเริ่มที่อีลอนแสนภาคภูมิใจ นำขึ้นไปติดประกาศก้องแสดงการก้าวเข้าสู่ปฐมบทใหม่ บนตึกสำนักงานใหญ่ในเมืองซานฟรานซิสโกเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ได้ถูกสั่งให้ปลดลงแล้ว

ทั้งนี้ เนื่องจากแสงไฟจ้าที่สาดส่อง แบบกะจะให้ทั้งเมืองได้เห็นเป็นสักขีพยาน และโชว์ความรุ่งโรจน์ของภาพลักษณ์ใหม่นี้ กลับทำให้รบกวนทัศนวิศัยน์ของชาวเมือง ผู้คนจากตึกฝั่งตรงข้าม โดนแสงสะท้อนเข้าหน้าต่างตลอดทั้งคืน จนสว่างจ้าราวกับเป็นกลางวัน แถมลูกเล่นการกะพริบที่เรียกร้องความสนใจ ทำเอาหลายคนในบริเวณนั้นคิดว่าฟ้าแลบ จึงเกิดการร้องเรียนกับทางการ

เพียง 1 สัปดาห์หลังการติดตั้ง ป้ายดังกล่าวก็ถูกปลดลง โดยฝ่ายผังเมืองของซานฟรานซิสโกได้ออกมาบอกว่า บริษัท อีลอน มัสก์ กระทำการผิดกฎหมายโดยไม่ขออนุญาต และละเมิดข้อบังคับการติดตั้งป้ายตามกฎผังเมือง โดยก่อนหน้านี้ทางตึกได้ปฏิเสธการเข้าตรวจสอบถึง 2 ครั้ง จึงได้สั่งให้ดำเนินการรื้อถอนป้ายในทันที

นอกจาก อีลอนจะต้องจ่ายค่าปรับในการทำผิดกฎหมายแล้ว ยังต้องจ่ายค่ารื้อถอนให้กับทางการอีกด้วย เรียกว่าโดนจนอ่วมเลยทีเดียว แต่ค่าปรับขนาดไหนก็คงไม่สร้างความหงุดหงิดใจให้กับมหาเศรษฐีรายนี้ เท่ากับการเสียหน้า ที่ป้ายไฟอันแสนภาคภูมิใจต้องถูกปลดลง

‘รัฐบาล’ หนุน ‘ความร่วมมือไทย-กัมพูชา’ พัฒนารถไฟขนส่งสินค้า  เพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายโลจิสติกส์ ให้เชื่อมถึงประเทศเพื่อนบ้าน

(2 ส.ค. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งเสริมช่องทางการขนส่งสินค้าทั้งในและระหว่างประเทศ โดยชื่นชมความร่วมมือของพันธมิตรทุกฝ่ายจากไทย - กัมพูชา พัฒนาการขนส่งสินค้าทางระบบรางให้มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้น เพิ่มให้เป็นอีกทางเลือกในการขนส่งสินค้าให้ผู้ประกอบการค้าระหว่างไทยและกัมพูชา และถือเป็นโอกาสเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของไทยในอนาคต

น.ส.รัชดา กล่าวว่า หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งไทยและกัมพูชา ได้ร่วมกันเปิดตัวรถไฟขบวนปฐมฤกษ์ ไทย - กัมพูชา ณ สถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ไปแล้ว ซึ่งเป็นขบวนรถไฟขนส่งสินค้าระบบรางที่จะเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศกัมพูชา ในเส้นทาง มาบตาพุด - คลองลึก - ปอยเปต - พนมเปญ โดยการรถไฟแห่งประเทศ (รฟท.) ได้ร่วมผลักดันการบริการขนส่งทางราง หนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญของนายกรัฐมนตรี ให้สามารถเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าทางระบบรางในประเทศไทย เข้ากับการขนส่งสินค้าทางระบบรางของภูมิภาคอาเซียน โดยเริ่มจากการขยายขีดความสามารถการขนส่งสินค้าทางระบบรางของ ไทย - กัมพูชา ผ่านการเปิดขบวนรถไฟขนส่งสินค้ารอบปฐมฤกษ์ในครั้งนี้ ซึ่งรถไฟขบวนปฐมฤกษ์ ไทย - กัมพูชา เกิดจากความร่วมมือที่ดีของพันธมิตรทุกฝ่าย ร่วมกันผลักดันการขนส่งสินค้าทางระบบรางให้มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้น ราคาลดลง เกิดการพัฒนาการขนส่งสินค้าผ่านระบบรางระหว่างกัน เชื่อมโยงถึงประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ เชื่อมโยงโครงสร้าง ในและระหว่างประเทศอย่างไร้รอยต่อ มีประสิทธิภาพ ราคาไม่แพง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า และเพิ่มทางเลือกในการขนส่ง โดยเชื่อมั่นว่าด้วยความมุ่งมั่นในการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา และความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของไทย กับประเทศเพื่อนบ้าน และกับกัมพูชาในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมระบบขนส่งโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทันสมัยขึ้น เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ประเทศ

‘สอดอ Style’ ทำคลิป Reels 28 วัน กวาดรายได้ 2.5 ล้านบาท ชาวเน็ตตาโต!! แย้มถามเคล็ดลับ เจ้าตัวถึงขั้นมาแนะวิธีทำคลิป

(2 ส.ค. 66) บอกได้คำเดียวว่ามาแรงจริงๆ สำหรับ Facebook Reels ฟีเจอร์จากทางเฟซบุ๊ก (Facebook) เปิดให้ใช้บริการตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2022 แต่เพิ่งมาฮิตกันในตอนนี้หลังมีหลายคนลงคลิปแล้วได้เงินจาก Reels

โดยคลิป Reels Facebook สามารถสร้างรายได้ให้กับเหล่าครีเอเตอร์ผ่านระบบ Reels Play  แต่จะต้องมีเงื่อนไข คือ มียอดผู้เข้าชมคลิปวิดีโอ Reels อย่างน้อย 1,000 ครั้งภายในช่วง 30 วันใน Facebook Reels

ทั้งนี้ ‘เส้นด้าย’ เจ้าของเพจ สอดอ Style หรือ พิมพ์ลดา แววไธสง เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาเปิดเผยรายได้จาก Facebook Reels หลังเธอลงคลิปมา 28 วัน โดยเธอระบุว่า…

“รายได้ 28 วันจากคลิป Reels แค่ 70,435 us x 36 บาท = 2,532,400 บาท ไม่ต้องขายของกันแล้ววววว ต้องเปิดคอร์สสอนเหมือนคนได้ 10,000 us แตกไหม 5555 แต่นี้ 70,435 us ยังไงดีล่ะ”

นอกจากนี้เธอยังแนะนำวิธีการทำคลิป Facebook Reels ให้ชาวเน็ตที่เข้ามาถามเธอว่าทำยังไงให้คลิปปังคนดูเยอะจนเป็นไวรัล ว่า…

กฎการทำ Reels ง่ายๆ
- เปิดบริษัท ผูกบัญชีบริษัท (สำหรับคนที่ทำได้เยอะ แต่ถ้าไม่เยอะไม่ถึงเดือนละ 100,000 บาท ไม่เป็นไรบัญชีส่วนตัวได้)
- ต้องสร้างรายได้ให้เกิน 100 us ถ้าทำไม่ถึง มันไม่ให้เงิน ที่ได้ยิบย่อยก็จะถูกตัดไปเฉยๆ เสียทิ้ง
- ทำคลิป Reels สั้นๆ ไม่ต้องเอฟเฟกต์เยอะ
- ไม่จำเป็นอย่าใส่เพลง
- อย่าเอาคลิปที่มีลายน้ำมาลง
- คอนเทนต์ต้องมีแก่นคมๆ
- คลิปที่คนดูวนหลายรอบ จะได้เงินดี
- ยอดวิวมีผล ต่อยอดเงิน
- ถ้าคุณดังทุกอย่างมันก็ง่าย ถ้าเพิ่งเริ่มแค่ต้องหาคาแรคเตอร์ตัวเองให้เจอ จบ ร๊วยย

งานนี้ชาวเน็ตที่เข้ามาเห็นต่างเอาเธอเป็นแบบอย่าง พร้อมกับแซวให้เปิดคอร์สสอนคนทำคลิป Facebook Reels จริงจังเลย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top