Monday, 12 May 2025
NewsFeed

‘EA - บลูเทคซิตี้’ มอบทุนการศึกษา ปี 2566 พัฒนาศักยภาพกำลังบุคลากรด้านพลังงานสะอาด

(24 ก.ค. 66) กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA) เดินหน้าเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพกำลังบุคลากรคุณภาพ ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืน ด้านพลังงานสะอาดให้กับประเทศไทย ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 ภายใต้โครงการทุนการศึกษา กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ เพื่อการพัฒนาบุคลากร เขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก (EEC) และทุนการศึกษา โครงการ Star of the Future ให้กับนิสิตและนักศึกษา ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หลักสูตรทวิภาคี ภายใต้ทุน EEC จำนวน 14 ทุน และระดับปริญญาตรี หลักสูตรสหกิจศึกษา ภายใต้ทุน EEC จำนวน 9 ทุน และ ทุน Star of the Future หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต จำนวน 6 ทุน รวมเป็นทุนการศึกษาทั้งสิ้นกว่า 4,800,000 บาท ณ ห้องประชุมโชคอนันต์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จ. ฉะเชิงเทรา 

โดยภายในงาน คุณสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ เป็นประธานในพิธี ร่วมกันกับ นางสาว กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้ โดยมี นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เกียรติกล่าวให้โอวาทแก่นิสิตและนักศึกษา ทุนการศึกษานี้ครอบคลุมค่าธรรมเนียมการศึกษาตลอดหลักสูตร เบี้ยเลี้ยง และที่สำคัญคือ การให้โอกาสเข้าฝึกงานกับกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ สถานประกอบการที่มีมาตรฐานสากล ซึ่งจะเป็นการสร้างความพร้อมและพัฒนาทักษะความสามารถก่อนที่จะเข้าสู่โลกการทำงานหลังสำเร็จการศึกษาต่อไป

ขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนทะลุ 4 หมื่นคน ในวันที่เปิดบริการ ครบ 100 วัน

(24 ก.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทางรถไฟจีน-ลาว ซึ่งเริ่มต้นบริการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนอย่างเมื่อเดือนเมษายน ได้ขนส่งผู้โดยสาร 41,735 คน เมื่อนับถึงวันเสาร์ (22 ก.ค.) ซึ่งถือเป็นวันที่เปิดบริการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนครบ 100 วัน

รายงานระบุว่าทางรถไฟจีน-ลาว วิ่งจากนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ด้วยความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผ่านภูเขาและหุบเขาจนถึงนครหลวงเวียงจันทน์ของลาวด้วยระยะเวลา 10 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งนับรวมเวลาที่ใช้ในพิธีการศุลกากร

จุดผ่านแดนตำบลโม๋ฮัน ณ ชายแดนจีนที่ติดกับลาว ระบุว่ามีการเดินรถไฟ 200 เที่ยว ซึ่งขนส่งผู้โดยสารจาก 49 ประเทศและภูมิภาค จำนวน 41,735 คน โดยจำนวนผู้โดยสารขาเข้าอยู่ที่ 22,066 คน ซึ่งมากกว่าผู้โดยสารขาออกราวร้อยละ 12.2 และร้อยละ 54 เป็นนักท่องเที่ยว

‘เต้ย จรินทร์พร’ ปลื้มหนัก!! กระแส ‘มาตาลดา’ เปรี้ยงทุกตอน ดีใจที่ละครช่วยฮีลใจคน ล่าสุดไปไหนใครๆก็เรียกแต่ ‘มาตา’

(24 ก.ค. 66) ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นละครเรื่องโปรดในใจของแฟน ๆ ไปแล้ว สำหรับละครเรื่อง มาตาลดา ที่ออกอากาศทางช่อง 3HD ละครที่ทำให้หัวใจใครหลายพองโต กับหญิงสาวที่ชื่อ มาตาลดา หญิงสาวแสนซื่อ มองโลกในแง่ดี แม่ในโลกนี้จะเต็มไปด้วยความโหดร้าย แต่ยังมีเธอที่มองโลกในแง่ดี เต็มไปด้วยพลังของความใจดีของเธอ

ล่าสุด เต้ย-จรินทร์พร จนเกียรติ ได้มีโอกาสไปร่วมงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดตัว
แคมเปญ เที่ยว Win Win ฟิน โค้ด โค้ด (เที่ยวสนุก สะสมพ้อยท์ ได้ฟินต่อ) ร่วมกับ นุนิว ชวรินทร์พร้อมชวนไปเที่ยวบางกระเจ้า สถานที่พักผ่อน สำหรับคนที่อยากหาที่เที่ยวแบบชิล ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติและใกล้กรุงเทพฯ

งานนี้ เต้ย ยังได้เผยถึงกระแสตอบรับละคร มาตาลดา ที่เรตติ้งพุ่งสูงขึ้นทุก EP ว่า ดีใจมากกก (ลากเสียงยาว) และดีใจที่ตอนนี้เวลาเจอใคร ทุกคนก็จะเรียก มาตา ขนาดไปเดินป่าที่เดนมาร์ก ก็เจอคุณแม่ท่านหนึ่งที่เป็นคนไทยก็ยังเรียก มาตาลดา เลย ก็เชื่อว่าทั้งทีมผู้จัด ทีมงาน และนักแสดงทุกคนก็ดีใจมาก ๆ ด้วยเหมือนกัน

รู้สึกว่าละคร มาตาลดา เป็นผลงานที่มีคุณค่ากับสังคม ดีใจที่มาตาได้ฮีลใจคนเยอะมาก ๆ จริง ๆ รู้สึกว่านีคือซอฟต์พาวเวอร์ของละครไทยอย่างหนึ่งเลยที่เดียว หลังจากนี้ละครก็ยังมีความเข้มข้น ความอบอุ่นใจขึ้นเรื่อย ๆ ตอนอ่านบทเรื่องนี้ครั้งแรก เต้ยยังน้ำตาไหลออกมาด้วยความปลื้มใจ รู้สึกมันอิ่มใจไปหมดเลย ก็ฝากให้ทุกคนติดตามกันต่อไปด้วย

เที่ยวทุ่งบัวตองหน้าฝน ชมทิวทัศน์แนวเขา ความเขียวขจี ที่โอบล้อมไปด้วย พืชพรรณธรรมชาติ

ช่วงฤดูฝนเป็นเวลาที่สภาพธรรมชาติ มีการฟื้นตัวจากช่วงฤดูแล้ง กลับมามีความสวยงามของพืชพรรณ มีความชุ่มชื้น อากาศเย็นสบาย เป็นฤดูกาลที่ธรรมชาติงดงามมาก โดยเฉพาะทะเลหมอก บางครั้งเมื่อมองชมทิวทัศน์ตามแนวทิวเขา ก็จะเห็นหมอกเคลื่อนตัวคล้ายกับน้ำตกที่ไหลเคลื่อนตัวช้า ๆ ผ่านยอดเขาต่าง ๆ อีกทั้งสภาพอากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งวัน

ที่ทุ่งบัวตอง ณ วนอุทยานดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นอีกพื้นที่หนึ่ง ที่ประชาชนมักจะนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ตุลาคม - ธันวาคม เนื่องจากมีทุ่งดอกไม้สีทองบานอร่ามเต็มท้องทุ่งตามเนินเขาสุดสายตา แต่ในช่วงฤดูฝน ทุ่งดอกบัวตองแห่งนี้ ก็ได้นำส่งประสบการณ์ในอีกมุมหนึ่ง นั่นคือทุ่งบัวตอง ที่ยังไม่ออกดอก นั้นเป็นสีเขียวเต็มท้องทุ่ง สร้างความประทับใจและอิ่มเอมกับความสวยงามของธรรมชาติในอีกบรรยากาศ ประกอบกับในปีนี้ ทาง วนอุทยานดอยแม่อูคอ ร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอขุนยวม และ อบต.แม่อูคอ ได้ดำเนินการแผ้วถาง กำจัดวัชรพืชชนิดอื่น รวมทั้งจัดเก็บขยะ จัดระเบียบ ปรับแต่งภูมิทัศน์ของพื้นที่ให้สวยงามมากยิ่งยึ้น ทำให้ทุ่งบัวตองสีเขียว ในวันนี้ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ฤดูฝน ไปจนถึงฤดูหนาวที่จะมีดอกบัวตองบานต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยดอกไม้สีทองเต็มพื้นที่อีกครั้ง

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ทุกวัน ที่นี่มีจุดกางเต๊นท์ รวมทั้งเต๊นท์ พร้อมเครื่องนอน โดยสามารถติดต่อได้ที่ วนอุทยานทุ่งดอกบัวตอง นอกจากนี้ยังมีบริการโฮมสเตย์จากชุมชนใกล้เคียง วนอุทยาน ตลอดจนมีบริการอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ในวันและเวลาราชการได้ที่ ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน เลขที่ 4 ถนนราชธรรมพิทักษ์ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000 
โทรศัพท์ 0 5361 2982 - 3 
โทรสาร 0 5361 2984 
อีเมล์ [email protected] 
Facebook (Page) ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน

‘กระแต อาร์สยาม’ ฉีกคราบสาวแซ่บ!! ทำแฟนคลับขยี้ตารัวๆ หลังเจ้าตัวนุ่งกระโปรงยาว อวดลุคสาวหวานสไตล์แบบไทย

(24 ก.ค. 66) ปกติเราจะเห็นแต่เธอขายสวยขายแซ่บตลอด สำหรับนักร้องสาวเสียงดี ‘กระแต อาร์สยาม’ แต่ล่าสุดทำแฟน ๆ แตกตื่นไม่น้อยเมื่องานนี้สาวกระแตฉีกลุคขายความสวยหวานสไตล์ไทย ๆ บ้าง

เธอมาในชุดผ้าไทยสายเดี่ยวกระโปรงยาวทรงหางปลาที่คลุมมิดถึงตาตุ่ม เพิ่มดีเทลความปั๊วะปังด้วยเลื่อม โดยเจ้าตัวระบุแคปชันว่า “ลุคนี้งามก่อเจ้าาาา? นาน ๆ แม่จะนุ่งกระโปรงยาว”

งานนี้แฟน ๆ ถูกใจกดไลก์สนั่น ต่างคอมเมนต์บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า งามนักงามขนาดดด ,สวยมากครับพี่แต, สวยมากเลยค่าาาา, งามขนาดเลยครับ, งามแต๊ ๆ เจ้า, งดงามมากกกก

'พรรคเพื่อไทย' หารือ 'สมาคมพลังงานลม' ร่วมผลักดันนโยบายพลังงานสะอาด

(24 ก.ค. 66) พรรคเพื่อไทย นำโดย จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าคณะทำงานด้านนโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย จักรพล ตั้งสุทธิธรรม อดีต สส.เชียงใหม่, กฤชนนท์ อัยยปัญญา, วิกรม เตชะธีราวัฒน์, รัฐพงศ์ ระหงษ์, สิริพัชรระ จึงธีรพานิช, พงศภัค นครศรี และศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ ให้การต้อนรับตัวแทนสมาคมพลังงานลม (ประเทศไทย) ประกอบด้วย อิศเรศร์ ภมรนิยม ประธานสมาคม, วรวิทย์ วิสูตรชัย กรรมการ, โทมัส ลีโอนาร์ด กรรมการ และคณะ ร่วมหารือผลักดันนโยบายพลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ที่มีแหล่งกำเนิดตามธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่มีวันหมดไป

ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ได้มีการใช้ประโยชน์จากการใช้พลังงานลมเพื่อการผลิตพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น แต่ยังอยู่ในอัตราส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับในต่างประเทศ ดังนั้น หากประเทศไทยจะมีการผลักดันให้ใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้จัดทำเป็นนโยบายและเกิดขึ้นได้จริง รวมถึงพรรคเพื่อไทยก็เล็งเห็นประโยชน์ของการใช้พลังงานดังกล่าวเพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนด้วยเช่นกัน

'ผู้ตรวจการแผ่นดิน' มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อชี้ขาด กรณี 'มติสภาห้ามชงชื่อซ้ำ' พร้อมขอให้ชะลอโหวตนายกฯ

(24 ก.ค. 66) ที่สำนักงาน​ผู้ตรวจการ​แผ่นดิน​ พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการ​สำนักงาน​ผู้ตรวจการ​แผ่นดิน​ แถลงผลวินิจฉัยกรณีขอให้ยื่นคำร้องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความกรณีรัฐสภาลงมติวินิจฉัยว่าการเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นญัตติ ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 41 ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ในที่ประชุมรัฐสภาได้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้ม​เจริญ​รัตน์​ หัวหน้า​พรรค​ก้าวไกล​ ให้ที่ประชุมพิจารณาเป็นครั้งที่ 2 แต่มีประเด็นโต้แย้งว่าการเสนอชื่อเป็นญัตติซ้ำเป็นข้อห้ามของข้อบังคับรัฐสภา กรณีที่ญัติใดที่ตกไปแล้วห้ามเสนอชื่ออีกในสมัยประชุมเดียวกัน

โดยสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาชิกรัฐสภา และประชาชนจำนวน 17 คำร้อง ขอให้ผู้ตรวจการ​แผ่นดิน​เสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ​ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 213 จากกรณีที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 ลงมติวินิจฉัยว่า การเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นญัตติ ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 41 ซึ่งกำหนดว่าญัตติใดที่ตกไปแล้ว ห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักการเช่นเดียวกันขึ้นเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน เป็นการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องเรียน จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น

ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ประชุมปรึกษาหารือและเห็นชอบร่วมกัน โดยพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนว่า เข้าองค์ประกอบ เงื่อนไข และหลักเกณฑ์ ในการเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2561 หรือไม่

โดยเห็นว่า รัฐสภาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นหนึ่งในสามของอำนาจอธิปไตย รัฐสภาจึงถือเป็นหน่วยงานซึ่งใช้อำนาจรัฐ หากการกระทำของรัฐสภาละเมิดสิทธิเสรีภาพ ย่อมถูกตรวจสอบได้โดยศาลรัฐธรรมนูญและการกระทำของรัฐสภา ในการลงมติวินิจฉัยว่าการเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นญัตติ ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 41 นั้น เป็นการนำข้อบังคับการประชุมไปทำให้กระบวนการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้กำหนดเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไว้เป็นการเฉพาะแล้วตาม มาตรา 159 ประกอบ มาตรา 272 การกระทำของรัฐสภาดังกล่าวจึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญการกระทำของรัฐสภาในการลงมติวินิจฉัยดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้ร้องเรียนโดยตรง

โดยผู้ร้องเรียนเป็นสมาชิกรัฐสภาและประชาชนผู้ทรงสิทธิและเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ ตามหมวด 3 ว่าสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย หากการกระทำของรัฐสภาดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ การกระทำดังกล่าวย่อมเป็นอันใช้ไม่ได้ และมีผลเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องเรียน นอกจากนี้ ปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการกระทำของรัฐสภาดังกล่าวยังคงมีอยู่และมิได้รับการวินิจฉัยให้เป็นที่ยุติย่อมส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องเรียนและประชาชนทั่วไป ซึ่งอยู่ภายใต้การใช้อำนาจของรัฐโดยรัฐสภา ผู้ร้องเรียนรวมถึงประชาชนทั่วไปจึงได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้

นอกจากนี้คำร้องเรียนส่วนหนึ่ง ได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีข้อวินิจฉัยในเรื่องนี้ออกมา ซึ่งเป็นคำขอเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดมาตรการหรือวิธีการใด ๆ เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย ซึ่ง ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อป้องกันความเสียหายที่ยากแก่การเยียวยาในภายหลัง และเป็นคำขอที่อยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ จึงได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รัฐสภารอการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญมีข้อวินิจฉัยในเรื่องนี้ออกมา ซึ่งก็เป็นดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่อไป

ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจจะขัดต่อกฎหมาย และอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประเทศ และยากที่จะเยียวยาแก้ไข จึงเห็นด้วยกับคำร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ​กำหนดการชะลอพิจารณานายกฯ ออกไปก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ​จะมีคำวินิจฉัย อย่างไรก็ตามการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ​ นี้คาดว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้ 25 ก.ค. หรือ 26 ก.ค.นี้

‘เชอรี่ เข็มอัปสร’ ปลุกไฟการแสดงในรอบ 8 ปี รับบทหมอผ่าตัดหัวใจ ในละคร ‘ลมเล่นไฟ’

(24 ก.ค. 66) ที่ช่อง3 ‘เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ’ นางเอกชื่อดัง ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานบวงสรวงละคร ลมเล่นไฟ ถึงเรื่องที่ตัดสินใจกลับมาเล่นละครในรอบ 8 ปี ปลุกไฟตัวเองเหมือนเป็นนักแสดงหน้าใหม่ พร้อมเผยเคล็ดลับหน้าไม่เปลี่ยน

>>เหตุผลที่กลับมารับละครในรอบ 8 ปี? 
เชอรี่ เข็มอัปสร: “ทุกอย่างมันลงตัวค่ะ เราไม่เคยแพลนเลยว่าจะกลับมาเล่นละคร ที่ผ่านมาก็มีคนส่งบทมาให้อ่าน แล้วก็รู้สึกมั่นใจเลยว่ากระทิง (เลือดมังกร) น่าจะเป็นเรื่องสุดท้ายแน่ๆ คิดอย่างนั้นมาตลอด จนพอพี่นก (จริยา) ส่งบทเรื่องลมเล่นไฟมา ซึ่งพี่นกโทรมาด้วยความเกรงใจว่ายังไงเราก็ไม่น่าจะรับหรอก แต่ว่าอยากให้ลองอ่านก่อน แล้วพออ่านแล้วชอบตัวบท อยากเล่นเป็นหมอเพราะไม่เคยเล่นเป็นหมอผ่าตัดหัวใจด้วย แล้วเรื่องครอบครัวแบบนี้ก็ไม่เคยเล่น เลยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง”

>>ย้อนไปตอนที่รู้สึกว่าไม่อยากเล่นละคร เป็นเพราะอะไร? 
เชอรี่ เข็มอัปสร: “ไม่รู้เลยค่ะ มันแค่อ่านบทแล้วไม่รู้สึกอยากเล่น ตั้งแต่ท้ายๆ ที่รับงานมาจะมาจากการที่อ่านบทแล้วเห็นตัวเองและอยากเล่น แต่มันไม่เห็นเลย ซึ่ง 8 ปีที่ผ่านมาก็ปฏิเสธไปหลายเรื่อง บวกกับมีงานที่เราไปเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมด้วยแล้วเราก็อินมาก กลายเป็นไฟในใจในด้านนั้นไปซะเยอะ พอมันไม่มีไฟด้านการแสดงที่มาคอยเติมเลยแบบมองว่าทางโน้นมันสนุกอยู่”

>>ปลุกไฟตัวเองยังไงให้กลับมาอีกครั้ง? 
เชอรี่ เข็มอัปสร: “อ่านบทค่ะ ต้องขอบคุณเรื่องลมเล่นไฟจริงๆ ไม่ใช่แค่ตัวบทที่เราเล่น แต่ชอบตัวละครรายล้อมทุกตัวเลย มันไม่ค่อยเหมือนเรื่องครอบครัว ความแตกแยก เมียหลวงเมียน้อยอันอื่นๆ ที่เป็นเพราะผู้ชายเจ้าชู้ แต่เรื่องนี้เราเป็นครอบครับที่แข็งแรง แต่อะไรที่มันทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้”

>>ลงสนามจริงต้องเคาะสนิมเยอะไหม? 
เชอรี่ เข็มอัปสร: “ตอนแรกกลัวมากในการกลับมาเล่น (หัวเราะ) เลยขอเวิร์กช็อปและทำการบ้านของตัวเอง ทั้งในแง่ของการเป็นหมอผ่าตัดและในการเล่นละคร แล้วพอเราทำการบ้านเยอะจนถึงวันเปิดกล้อง ปรากฏว่าซีนแรกๆ ที่เขาให้เราเล่นคือดรามาขีดสุดเลย เราก็แบบทำไมรีบปิดโลเคชันเหรอ (หัวเราะ) วันสองวันแรกที่มาถ่ายคือไปถึงตอน 8 แล้ว รีบเหรอคะ ไม่ให้เวลาในการอุ่นเครื่องเหรอคะ แต่ข้อดีคือพอมันยากไปขีดสุดแล้ว มันคลายความกังวลและกำแพงทั้งหลายของเราไปหมดเลย ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเยอะ”

>>บรรยากาศในกองถ่ายเปลี่ยนไปไหมจาก 8 ปีที่แล้ว?
เชอรี่ เข็มอัปสร: “เปลี่ยนค่ะ ความเฟรชของตัวเราในการที่เราเล่นตอนนั้น พอเราหยุดไปแล้วกลับมาเล่นเรารู้สึกว่าเราคือนักแสดงหน้าใหม่ท่านหนึ่ง (หัวเราะ) ตั้งใจในทุกรายละเอียดไปหมดเลย แต่ตัวเองก็ยังคิดว่านี่ก็อาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายก็ได้ มันก็เลยเป็นความพยายามที่เราจะทำงานเต็มที่ที่สุดและมีความสุขในทุกๆ วัน (แล้วจะรับละครเรื่องใหม่ต่อเลยไหม?) ไม่รู้เลย ถ้าอ่านบทแล้วเจออีกเมื่อไหร่ก็คือเมื่อนั้นค่ะ”

>>8 ปีที่หายจากละครไป สิ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยคือหน้าเหมือนสตัฟฟ์ไว้?
เชอรี่ เข็มอัปสร: “ขอบคุณค่ะ (ยิ้ม) ยอมรับว่าเขินพอคนชมแบบนี้ แต่เราก็ดูแลตัวเอง ดูแลนี่หมายถึงทุกอย่างรวมกัน ทั้งภายใน ทั้งอาหารการกิน การพักผ่อน หรือการทรีตเมนต์เสริมความงาม แล้วเราก็เน้นเรื่องของความเป็นธรรมชาติ ทำยังไงให้เราประคองให้ได้แบบสมวัย ไม่อยากจะศัลยกรรม”

>>เคยไปจิ้มๆ บ้างไหม?
เชอรี่ เข็มอัปสร: “ถ้าเป็นทรีตเมนต์ เลเซอร์อะไรอย่างนี้ปกติค่ะ (มีแพลนอยากทำศัลยกรรมบ้างไหม?) ถ้าเป็นสมัยเด็กเลยจะแอนตี้เรื่องศัลยกรรม แต่พอมา ณ วันนี้อาจจะต้องหาข้อมูลอะไรบ้างเผื่อไว้ (หัวเราะ) แต่ก็อยากให้เป็นอนาคตอันไกลที่สุด (โบทอกซ์ล่ะ?) อันนี้ทำได้ จริงๆ จิ้มหางตานิดๆ หน่อยๆ ก็ทำเพราะว่าเป็นคนตาโต ซึ่งถ้าฉีดมันจะเห็นชัดมาก เพราะฉะนั้นเราไม่ชอบอะไรที่มันดูไม่ธรรมชาติอ่ะค่ะ”

‘แตงโม’ เผย ‘สหรัฐฯ' ไม่สวยหรู-ไม่ปลอดภัยอย่างที่หลายคนคิด ชี้!! ประเทศไทยน่าอยู่-เสรี-ปลอดภัย แนะเด็กไทย 'รักชาติดีกว่า'

(24 ก.ค.66) แตงโม 'จูเลียน' ชาวอเมริกันมาจากเมืองซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย หรือที่รู้จักกันในฉายา 'ฝรั่งพูดไทย' ได้เผยผ่าน TikTok ช่อง 'sigmamo007' เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง 'ไทย-สหรัฐฯ' ไว้ว่า…

“อันนี้สาระ อยากฝากไว้ให้กับทุกคน และ 14 ล้านเสียงนั้น สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่อายุเท่าผม คุณต้องหัดไปฝึกศึกษาเรื่อง ‘ความเคารพ’ ให้กับคนที่สร้างแผ่นดินให้คุณอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ทำให้อยู่อย่างสงบและสุขสบาย ซึ่งผมจะบอกอะไรให้นะ ตอนนี้ประเทศไทยขึ้นเป็นอันดับแรก ๆ บนโลกใบนี้ ถ้าเราจะพูดถึงเรื่องความเสรี, ความปลอดภัย, เศรษฐกิจ และการใช้ชีวิตที่ไม่เดือดร้อน ถือว่าประเทศไทยยังขึ้นอันดับอยู่ ดังนั้น ‘รักชาติดีกว่า’ ต้องรู้จักการให้เกียรติและเคารพกับครอบครัว”

“อย่างตอนนี้ผมเดินบนถนน ถ้าเป็นที่อเมริกาล่ะจะเป็นยังไง? แน่นอนโอกาสที่จะโดนปล้นหรือมีเรื่องก็สูงอยู่ หากไม่เชื่อสามารถไปดูในยูทูบได้ หรือไม่คุณก็ลองไปเดินที่อเมริกาเอาเอง ซึ่งคนที่ยังไม่เคยไปก็เอาแต่พูดว่าอเมริกามันดีอย่างงั้นดีอย่างงี้ แต่ตัวผมที่เกิดที่นู่นและเคยอาศัยมาแล้ว และยังเคยไปมาหลายประเทศ รวมถึงคนไทยหลายคนที่เคยไปมาแล้วได้รู้จักกับผม เขายังบอกว่าไม่น่าอยู่ สุดท้ายก็กลับมาคิดถึงประเทศไทย”

“ผมอยู่นี่ และถ้าเมื่อไหร่ที่ผมได้มีโอกาสได้ถือสัญชาติประเทศไทย ผมก็อยากจะขอบพระคุณ เพราะว่าผมแคร์ และก็ได้เห็นศักยภาพของประเทศไทย ผมเห็นภาพอนาคตของชาติไทยและประเพณีไทย ซึ่งควรรักษาไว้ หากคุณจะให้ประเทศไทยเป็นเมืองขึ้นของอเมริกา คุณควรไปดูสภาพของอเมริกา อยากให้คิดเอาไว้ให้ดี ๆ แต่ละอย่างที่เราฟังมาจากพระเอกนายกโซเชียล ดารา พูดจาดี วางตัวได้ดี เอาเป็นว่าผมขอไม่พูดหรอกว่ามันถูกหรือผิด? ดีหรือไม่ดี? สำหรับแต่ละอย่างที่สื่อออกจากปากเขา คุณลองไปวิเคราะห์วิจารณ์ไปหาข้อมูลเอาเองและคุณจะได้พบเจอคําตอบที่แท้จริง” 

“สุดท้ายผมอยากบอกว่า…ธรรมะแท้ไม่มีคําปลอบใจ ถ้าคุณรับมือกับความจริงให้ได้ ชีวิตคุณจะดีขึ้น ดังนั้นผู้ใหญ่แต่ละคนที่กำลังเตือนสติเรา ฟังคําพูดไว้ให้ดี ๆ เชื่อผมเถอะ ผมยังเป็นวัยรุ่น และผมเข้าใจพวกคุณ” 

รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566

(24 ก.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในนามรัฐบาลดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ดังนี้ 

1.  การจัดพิธีทางศาสนา
1.1 จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เวลา 07.00 น. ในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 โดยส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 172 รูป มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีพร้อมภริยา ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม 

1.2 จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาให้วัดทุกวัดในประเทศไทยจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล ในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 สำหรับวัดไทยในต่างประเทศให้พิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

2. จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 เวลา 07.45 น. โดยส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนจะได้เชิญชวนหน่วยงานของรัฐจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงาน กำหนดระหว่างวันที่ 20-28 กรกฎาคม 2566 รวมทั้งเชิญชวนลงนามถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ทางเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ www.ocsc.go.th กำหนดระหว่างวันที่ 1 - 31 กรกฎาคม 2566

3.  จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 เวลา 18.00 น. และเวลา 19.19 น. ตามลำดับ โดยส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีพร้อมภริยา ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

4.จัดพิธีเชิญเครื่องราชสักการะและพานพุ่มจากท้องสนามหลวงไปทูลเกล้าฯ ถวาย ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ในวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2566 เวลา 08.00 น. โดยกระทรวงกลาโหมเป็นหัวหน้าคณะเชิญเครื่องราชสักการะและพานพุ่มไปทูลเกล้าฯ ถวาย และขอพระราชทานผู้แทนออกรับเครื่องราชสักการะและพานพุ่ม

5. จัดทำสาร สารคดีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติฯ ในนามคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ เพื่อเผยแพร่ในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา

6. จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลเฉลิมพระเกียรติฯ ในเดือนกรกฎาคม 2566 ตามความเหมาะสม โดยประสานงานกับศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และสำนักงานจิตอาสาภาครัฐ สำนักนายกรัฐมนตรี 

ในการนี้ นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแสดงความจงรักภักดี และร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ โดยจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักการะ จัดตกแต่งสถานที่ประดับพระบรมฉายาลักษณ์ ประดับธงชาติไทยคู่กับธงอักษร พระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และประดับผ้าระบายสีเหลืองร่วมกับผ้าระบายสีขาว ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน จัดทำคำถวายพระพรชัยมงคลเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของหน่วยงาน และจัดลงนามถวายพระพรชัยมงคลภายในหน่วยงานหรือทางเว็บไซต์ ดำเนินการตลอดเดือนกรกฎาคม 2566 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top