Thursday, 8 May 2025
NewsFeed

‘พุดเดิ้ล’ ห่วง ‘แอนนา’ โหมรับงาน จนดมยาสลบ 5 ครั้งใน 2 เดือน ลั่น!! “มันไม่ปกติแล้ว รู้ว่าเครียด แต่คนอยู่ด้วยผวา กลัวคิดสั้น” 

(16 ก.ค. 66) โดยล่าสุด ‘พุดเดิ้ล ยุพดี’ โพสต์เฟซบุ๊กว่า "เพลียมาก คือ คลินิกเค้านอยว่าแอนนาไม่มาตัดไหมที่คลีนิคแต่ไปตัดที่อื่น วันที่ 17 ที่นัดว่าต้องทำหน้าช่วงกราม แอนนาก็ไม่พร้อม ทำเงินค่าจ้างเขาก็จ่ายมาเต็มแล้ว เค้าตามมากับพุดเดิ้ล คือพุดเดิ้ลรับทุกทาง จนพุดเดิ้ลเครียดไปหมดแล้ว แต่ก็เข้าใจสภาพจิตใจแอนนา นางคิดสั้นจนคนในบ้านผวาไปหมด ช่วงนี้พักรับงานให้แอนนาก่อนนะคะ นางไม่ปกติแล้ว"

นอกจากนี้ยังโพสต์อีกว่า "ไม่หวาน ไม่จ้อจี้ แอนนาก็รับงานเอง รับจนดมยาสลบ ไป 5 ครั้ง ใน 2 เดือน มันไม่ปกติคนแล้ว รู้ว่าอยากได้เงิน รู้ว่ามีปัญหา แต่นี่ก็หมดคำจะพูด รักแอนนา แต่อยากให้แอนนารักตัวเองกว่านี้ ดมยาจนตี 3 ตี 4 เดินทั่วบ้าน 8 โมง 9 โมงตื่นมาเดินวนไปมา คนในบ้านมันผวากันหมด กลัวนางจะคิดสั้นอีก คนอยู่ด้วยระแวงไปหมดแล้ว"

นอกจากนี้ ‘แอนนา’ ยังแชร์โพสต์ของ ‘พุดเดิ้ล’ ไปที่เพจของตนพร้อม โพสต์อีกว่า "งดติดต่องานผ่านพุดเดิ้ลก่อนนะคะช่วงนี้ ติดต่อทุกอย่างทักเพจค่ะ พุดเดิ้ลนางรับไม่ไหวแล้ว" และบอกอีกว่า "อย่าไปตามจิกที่นาง มีอะไรมาตามที่แอนนา"

'ติ่งก้าวไกล' ฟาดเดือด!! ปม ‘พิธา’ รั้นแก้ ม.112  ถามแรง!! ควรแก้ปัญหาปากท้องให้ปชช.ก่อนไหม? 

เมื่อวานนี้ (15 ก.ค. 66) ผู้ใช้ TikTok บัญชี ‘@_breakingnews24’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอชายหนุ่มคนหนึ่ง ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับประเด็นที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยืนยันจะแก้ ม.112 ในสภาฯ พร้อมบอกว่า ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนควรถูกแก้ไขก่อนเป็นอันดับแรก โดยในคลิปได้ระบุว่า…

“ตกลงพี่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต้องการมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อมาแก้ ม.112 อย่างนั้นหรืออย่างไร? ผมจะบอกไว้ให้นะคุณทิมพิธา ที่ผมและพี่น้องอีกหลายสิบล้านคนไปเลือกคุณเนี่ย ไม่ได้หวังเพื่อให้คุณไปแก้ ม.112 แต่หวังให้คุณมาแก้เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ให้แก้เรื่องข้าราชการท้องถิ่นคอร์รัปชัน แค่ปัญหาเศรษฐกิจเท่านั้น ไม่ได้หวังให้ไปแก้ ม.112 เลย นี่คือเสียงของผม ที่ผมได้ออกไปเลือกคุณ”

“ปัญหาบ้านเมือง หรือปัญหาความยากลำบากของประชาชนควรมาก่อนเรื่องอื่น ทำไมถึงไม่ยอมเปลี่ยน Mindset ของตัวเอง จะเอาอกเอาใจติ่งส้มมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ? กลัวขนาดนั้นเลยหรือ? คุณพิธา วันนี้คุณมีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในสภาฯ ทำไมถึงไม่ประกาศว่าตัวเองและพรรคก้าวไกลจะไม่ไปยุ่ง ไม่แก้ ม.112 ทำไมถึงไม่พูดแบบนี้ ทั้งๆ ที่ ส.ว.ได้พูดออกมาแล้วว่าหากยังยืนยันจะดื้อด้านเพื่อแก้ ม.112 อยู่ ส.ว.นั้นจะไม่โหวตให้ ซึ่งเขาจะไม่โหวตให้ก็รู้กันอยู่ แล้วเพราะอะไรคุณถึงยังดึงดันจะทำอยู่ ทำไมคุณถึงมาทำลายความหวังของประชาชน คุณต้องการเข้าไปเป็นนายกฯ เพื่อไปแก้ ม.112 อย่างเดียวหรือ? ไม่ต้องไปพูดอะไรมากหรอก ผมจะพูดประเด็นนี้ ทัวร์จะลงผมก็ช่าง ผมไม่สน”

“คุณเห็นไหม? สมัยก่อนที่ ‘คุณทักษิณ’ เขาได้เป็นรัฐบาล ได้เป็นนายกฯ เขาไปพูดเรื่องนี้หรือเปล่า แน่นอนว่าเขาไม่เคยไปพูดหรือเข้าไปยุ่ง ทำให้เขาได้คะแนนท่วมท้นจนแลนด์สไลด์ และที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่จะมีนโยบายไปแก้ ม.112 แม้แต่รัฐบาลเดียวเลย แล้วคุณเป็นใคร? ประชาชน 14 ล้านเสียง เขาบอกคุณหรือ ว่าให้เข้าไปแก้ ม.112 แล้วทุกคนจะรวยขึ้น จะมีความสุขขึ้น ใครบอกคุณ?”  

‘รองโฆษกตำรวจ’ เตือน!! แอปฯ ดูดเงินระบาดหนัก พร้อมแฉ ‘3 อุบาย’ โจรออนไลน์ใช้ดูดเงินหมดบัญชี

(16 ก.ค. 66) เวลา 09.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยอุบายของโจรออนไลน์ที่ใช้หลอกลวงประชาชนให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ และทำการดูดเงินในบัญชี

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกให้ติดตั้งแอปฯ ดูดเงินเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง จึงขอประชาสัมพันธ์เน้นย้ำถึงวิธีการของโจรออนไลน์ ที่จะทำการติดต่อประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์ ไลน์ หรือการส่งข้อความสั้น (SMS) แนบลิงก์ เพื่อหลอกให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์และทำการดูดเงินในบัญชี โดยใช้อุบายดังต่อไปนี้

1. หลอกว่าเป็นหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมที่ดิน (อ้างว่าสำรวจผู้เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) สรรพกร (อ้างคืนภาษีหรือตรวจสอบภาษีประจำปี) และการไฟฟ้า/การประปา (อ้างโอนค่าบริการส่วนเกินคืนหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ฟรี) เป็นต้น โดยโจรออนไลน์จะทำการติดต่อประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ และแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน ภาครัฐ ส่งเอกสารราชการปลอมเพิ่มความน่าเชื่อถือ และพูดจาหว่านล้อมให้ประชาชนหลงเชื่อกดลิงก์เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันปลอมที่คล้ายกับของจริง นำไปสู่การติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน 

2. หลอกว่าเป็นหน่วยงานภาคเอกชน เช่น สายการบิน และบริษัทขายอุปกรณ์ไอทีชื่อดัง โดยมิจฉาชีพจะส่งข้อความถึงประชาชน หรือโพสต์โฆษณาทางสื่อสังคมออนไลน์ และอ้างอุบายที่ดึงดูดความสนใจ อาทิ ได้รับตั๋วเครื่องบินฟรี เป็นผู้โชคดีได้ของขวัญ/ของรางวัล หรือ มีโปรโมชั่นลดราคาสินค้า เมื่อประชาชนหลงเชื่อกดลิงก์ก็จะถูกดูดเงินจนหมดบัญชี

3. หลอกให้เกิดความสงสัย โดยมิจฉาชีพจะส่งข้อความถึงประชาชนในเชิงหาเรื่อง ทำให้เกิดความสงสัย กระวนกระวายใจ เช่น “เธอทำแบบนี้กับเราได้อย่างไร”, “ไม่รู้ตัวเหรอว่ามีคลิปหลุด”, “ทำตัวแบบนี้ น่าโดนประจานให้อาย” แล้วโจรออนไลน์จะส่งลิงก์มาให้เพื่อกดดู เมื่อหลงเชื่อกดเข้าไป อาจถูกดูดเงินจนหมดบัญชี

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนรับข้อมูลอย่างมีสติ ‘ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน’ เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของโจรออนไลน์ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้จัดทำแบบทดสอบ Cyber Vaccine จำนวน 40 ข้อ เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไซเบอร์ให้กับประชาชน 

ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ที่ www.เตือนภัยออนไลน์.com และ เพจเฟซบุ๊ก ‘เตือนภัยออนไลน์’ ปรึกษา-ขอคำแนะนำได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-866-3000 โดยผู้เสียหายสามารถติดต่อธนาคารของตนเองเพื่อทำการระงับบัญชี โดยธนาคารจะออก Bank ID ผ่าน SMS และขอให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจที่ใดก็ได้โดยเร็ว โดยไม่ต้องคำนึงถึงท้องที่เกิดเหตุภายใน 72 ชั่วโมง หรือแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com

‘ธัญญ่า อาร์สยาม’ เคลียร์!! หลังถูกโยงดรามาปมเล่นของจนชีวิตพัง เผย ตนแค่เป็นสายมู แต่ไม่เคยเล่นของ ลั่น!! “ตอนนี้ชีวิตดีมาก”

(16 ก.ค. 66) ทำเอานักร้องสาว ‘ธัญญ่า อาร์สยาม’ ต้องออกมาชี้แจงเป็นการด่วน ๆ เมื่อถูกโยงจากคำใบ้ถึงนางเอก-น้องสาวเล่นของแล้วไม่แก้ จนของเข้าตัวเองทำชีวิตพัง โดยงานนี้ ธัญญ่า ได้ชี้แจงว่า...

“เห็นคลิปนึงที่เขาออกมาพูดมีหลาย ๆ เพจหลาย TikTok ด้วยที่ออกมาพูดถึงประเด็นที่มีอักษรย่อออกมาว่า นางเอกนักร้องดังเล่นของแล้วไม่ไปแก้แล้วของเข้าตัวเอง อะไรซักอย่าง ซึ่งพอไปอ่านในคอมเมนต์แล้วอักษรย่อมันมาตกอยู่ที่หนู แล้วคนก็บอกว่าหนูอ่ะเคยโดนของหรือเปล่า มีโยงมาที่หนูเยอะมากนะคะ แล้วมันมีต่อท้ายด้วยนะคะว่า ตอนนี้ชีวิตคือพังมาก”

“ก็ถามว่าถ้าเรื่องเคยโดนของไหม หนูเคยโดนของนะคะ เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว แต่ว่าก็ไม่ได้ปรักปรำว่าใครเป็นคนทำ แล้วก็เคยไปเล่าในรายการ เดอะโกสเรดิโอ อันนี้ก็ไปหาฟังกันเองนะคะ อาการอะไรยังไงนะคะ แต่ในส่วนของที่เคยไปทำของใส่ใครไหม หรือตัวเองเคยเล่นของไหม ไม่เคยนะคะทุกคน”

“แต่ยอมรับว่าเป็นนักร้องสายมูจริง ๆ มูแบบว่าทำบุญบ่อย ไปวัดบ่อยหรืออาจจะมีลงนะหน้าท้องบ้าง ก็เหมือนคนที่ชอบทำบุญแล้วก็สายมูปกตินี่แหละค่ะ แต่ว่าไม่เคยไปทำของใส่ใครแน่นอน แล้วตอนนี้ชีวิตคือดีมากนะคะ แล้วก็กำลังค้าขายรุ่งเรือง ธุรกิจการงานคือดีมากเลยค่ะ เพราะฉะนั้นอักษรย่อที่มาลงที่ธัญญ่าไม่ใช่นะคะทุกคน”

‘สายชาบู-สุกี้สไตล์จีน’ ระวัง!! ‘ไส้กรอกจีน’ เสี่ยงปนเปื้อนโรคระบาด หวั่นเชื้อแพร่กระจายสู่คน เตือน!! พบเห็นสินค้า รีบแจ้งเบาะแสด่วน

(16 ก.ค. 66) นับเป็นเมนูยอดฮิตในช่วงนี้ สำหรับสุกี้สไตล์จีน ชาบูหมาล่า ที่พบเห็นแทบทุกหัวมุมถนน และมีผู้คนต่อคิวยาวเหยียด โดยร้านเหล่านี้มักจะมีเนื้อสัตว์ต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์แปรรูป และน้ำต่าง ๆ จากประเทศจีนประกอบอยู่ในเมนูด้วย

ล่าสุดทำให้ผู้ที่ชื่นชอบอาหารประเภทนี้ตกใจไม่น้อย หลังเพจเฟซบุ๊ก ชุดปฏิบัติการทีมสุนัขดมกลิ่น (DLD-Quarantine and Inspection Canine unit) ได้โพสต์ภาพ ไส้กรอกจำนวนมาก ในห่อสีแดง พร้อมระบุว่า “หากพบเห็นสินค้า หน้าตาแบบนี้ ที่ใดภายในประเทศไทย โปรดแจ้งเบาะแส”

โดยพบว่าภาพดังกล่าวเป็นปฏิบัติงานตรวจสอบ การลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ ทั้งขาเข้าและขาออก บริเวณอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 เวลา 21.00 น.สัมภาระเที่ยวบิน HU 7939 สายการบิน ไห่หนานแอร์ไลน์ ต้นทางท่าอากาศยานนานาชาติเหม่ยหลาน เมืองไหโข่ว ประเทศจีน สุนัขบีเกิล ตรวจพบไส้กรอกหมู จำนวน 100 แท่ง น้ำหนัก 8.5 กิโลกรัม ราคาประมาณ 2,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ เผยว่า ประเทศต้นทางมีโรคระบาด จึงไม่อนุญาตให้นำเข้า

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์มีความเสี่ยงในการนำโรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสัตว์สู่คน ที่อาจปนเปื้อนมา ให้มีการแพร่กระจายไปในที่ต่าง ๆ หากมีการนำขนส่งไปมา โดยไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐบาลที่ควบคุมเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายซากสัตว์

‘ส.ว.เสรี’ สุดจะทน!! เตรียมยื่นฟ้อง ‘2 เกรียนคีย์บอร์ด’ หลังถูกหมิ่นประมาทบนโลกออนไลน์มาแล้วหลายครั้ง

(16 ก.ค. 66) นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค. 66) ตนได้ให้ตัวแทนยื่นฟ้องบุคคล 2 คน ที่โพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ ทำให้ตนเกิดความเสียหาย ต่อศาลอาญาตลิ่งชัน ถือเป็นการฟ้องร้องคดีแรกของตน หลังจากที่ถูกหมิ่นประมาทด้วยข้อความทางโลกออนไลน์มาหลายครั้งหลายคราวก่อนหน้านี้ และในวันเดียวกันเวลา 11.00 น. ตนจะแถลงในรายละเอียดและเปิดเผยชื่อบุคคลที่ตนยื่นฟ้อง 2 คน พร้อมจะพาทนายความไปรับเรื่องจาก ส.ว.ท่านอื่นที่ถูกบูลลี่ หรือหมิ่นประมาทด้วยข้อความอันเป็นเท็จจากโลกออนไลน์ด้วย จากนั้นจะทยอยฟ้องต่อไป

“รอบนี้เอาจริงและไม่ทน เพราะพวกเขาทำตัวเป็นอันธพาลคอยหาเรื่องและคุกคามมากเกินไป ทั้งด่าทอและใส่ร้ายคนอื่น ส่วนกรณีที่โลกออนไลน์รณรงค์สืบหาธุรกิจส.ว. หรือ เมียน้อยส.ว.นั้น หากทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดี ขณะที่ตลาดเสรีที่เป็นธุรกิจของผม ถูกโซเชียลเปิดเผยนั้น ไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะตลาดคือสถานที่ที่ทำให้คนได้มีอาชีพ ค้าขาย ขณะเดียวกันประชาชนต้องมาจับจ่ายใช้สอย เป็นสิ่งจำเป็น โดยขณะนี้พบว่ามีคนมาเดินซื้อสินค้ามากขึ้น แต่ผมไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น” นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวถึงกรณีที่นายอานนท์ นำภา เตรียมทำกิจกรรมคาร์ม็อบเพื่อยื่นใบลาออกให้ ส.ว. ว่า กิจกรรมทำได้แต่ต้องไม่ด่าทอ หรือหมิ่นประมาท ซึ่ง ส.ว.จะไม่ยอม

‘ตูน บอดี้สแลม’ ยังฟิต!! นำทีมคนดังวิ่งการกุศล หารายได้สมทบทุนซื้อรถพยาบาล จังหวัดภูเก็ต

(16 ก.ค. 66) ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองน้ำในหาด ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และ นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมกับสโมสรโรตารีอันดามัน ร่วมพิธีเปิดงาน ‘ราไวย์มินิมาราธอน ครั้งที่ 6 สร้างสุขภาพที่ดี’

โดยมีดาราดังร่วมงานในครั้งนี้ อาทิ ตูน บอดี้สแลม หรือ นายอาทิวราห์ คงมาลัย, นายคงกะพัน แสงสุริยะ, เสนาหอย นายเกียรติศักดิ์ อุดมนาค, หน่อย นายศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง

ซึ่งจุดประสงค์การจัดกิจกรรมวิ่งครั้งนี้ เพื่อจัดหารายได้สมทบทุนการกุศล จัดซื้อรถพยาบาล ให้แก่โรงพยาบาลฉลอง จังหวัดภูเก็ต ขณะที่ ‘ตูน บอดี้สแลม’ ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม ระบุว่า…

“6/7/2023… 12k เช้านี้ที่ราไวย์มินิมาราธอน ขอบคุณพี่ ๆ นักวิ่งทุก ๆ ท่านที่ทำให้ตลอดเส้นทางวันนี้มีแต่รอยยิ้มนะครับ รัก ปล.ขอบพระคุณ @garminbygis @garmin_thailand สำหรับนาฬิกา forerunner 965 สุดเจ๋ง มา ณ ที่แห่งนี้ด้วยนะครับ #artiwararunningdiary”

‘อัษฎางค์’ ชี้!! ‘บิ๊กตู่’ ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช มาตลอด แต่ถูก ‘สื่อ-นักการเมือง’ เอาไปพูดบิดเบือนจน ปชช.เข้าใจผิด

(16 ก.ค. 66) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ ระบุว่า…

สำนักข่าวอิศรา ที่เคยรายงานทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2558 พบรายละเอียด ดังนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีทรัพย์สิน 102,317,152.64 บาท ได้แก่

- เงินฝาก 6 บัญชี มูลค่า 58,967,022 บาท
- เงินลงทุน 9 แห่ง 23,072,380 บาท
- ที่ดิน 2 แปลง 2,284,750 บาท
- โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 ล้านบาท
- ยานพาหนะ 4 คัน มูลค่า 8 ล้านบาท
ทรัพย์สินอื่นฯ 4 รายการ มูลค่า 4,193,000 บาท

นอกจากนี้ แจ้งว่ามีคู่สมรส คือ นางนราพร จันทร์โอชา มีทรัพย์สิน 26,347,382.76 บาท ได้แก่

- เงินฝาก 6 บัญชี 7,977,382 บาท
- ที่ดิน 3 แปลง (1 แปลงร่วมกรรมสิทธิ์กับผู้อื่น) 5,350,000 บาท
- โรงเรือนฯ 2 ล้านบาท
- ยานพาหนะ 1 คัน 5 ล้านบาท
- ทรัพย์สินอื่นฯ 1 รายการ 7,520,000 บาท
หนี้สินรวมทั้งสิ้น 654,745.06 บาท

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ แจ้งด้วยว่า ได้รับเงินจากการขายที่ดิน 9 โฉนดแก่บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (บริษัทเครือข่ายของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของเบียร์ช้าง) จากบิดา (พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา) รวมมูลค่า 540 ล้านบาท และได้แบ่งให้บิดากับน้องรวม 267 ล้านบาท มอบให้ลูก 2 คน 198 ล้านบาท และได้รับเงินจากน้องที่สร้างบ้านให้พ่ออีก 6 ล้านบาท

สรุปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 128,664,535.40 บาท

ส่วนการเข้ารับตำแหน่งในครั้งที่ 2 พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. แล้วเช่นกัน ทั้งที่กฎหมายไม่ได้บังคับ กฏหมายบัญญัติให้แสดงทรัพย์สินเพียง 2 ครั้ง คือ เมื่อเข้ารับตำแหน่งและหมดวาระ ดังนั้น เมื่อเข้ารับตำแหน่งในครั้งที่ 2 ซึ่งถือว่าดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง ป.ป.ช. จึงไม่ต้องนำมาเปิดเผย

แต่สื่อ นักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และอาจารย์นักวิชาการ เอาไปพูดบิดเบือนจนประชาชนเข้าใจผิด และออกมาโจมตีว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอมแสดงบัญชีทรัพย์สินหรือ ปปช.ไม่ยอมเปิดเผย ซึ่งส่อแววทุจริต

อัษฎางค์ ยมนาค

‘ช่อ พรรณิการ์’ โต้กลับเสียงคัดค้าน ปม ‘ก้าวไกล’ แตะ ม.112 ชี้!! แค่ข้ออ้างในการไม่หนุนพรรคอันดับ 1 เพราะถูกตัดวงจรคอร์รัปชัน

(16 ก.ค. 66) ผู้ใช้ TikTok บัญชี ‘@canac_nat’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอของ ‘ช่อ พรรณิการ์ วานิช’ ผู้ก่อตั้งคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้ออกมาพูดถึงประเด็นการแก้ไข ม.112 และความจงรักภักดี ในหัวข้อ ‘ต่อให้คุณได้เสียงเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่จงรักภักดี เท่ากับ ไม่มีสิทธิ์’  โดยในคลิปได้ระบุว่า…

“คุณกำลังสร้างตรรกะนี้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยหรือคะ? คุณกำลังจะบอกว่า ต่อให้เป็นพรรคที่มีความชอบธรรมจากประชาชน มีนโยบายมากมายกว่า 300 นโยบาย ที่แม้แต่พวกคุณเองก็ยอมรับว่าเห็นด้วยในหลาย ๆ นโยบาย แต่เมื่อถูกตราหน้าว่า ‘ไม่จงรักภักดี’ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นรัฐบาล ในขณะที่คนที่กล้าพูดว่าตัวเองเป็นโจร หรือกล้าที่จะบอกว่าสามารถยิงคนที่ไม่จงรักภักดีได้โดยไม่ผิดกฎหมาย… ‘เป็นโจร แต่จงรักภักดี’ กลับมีที่อยู่ที่ยืนในประเทศนี้ ในขณะที่คนที่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำครบทุกอย่างกลับโดนตราหน้าว่า หากคุณไม่จงรักภักดี คุณจะไม่มีที่ยืน คุณกำลังเอาพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนความนิยมเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มาชนกับสถาบันฯ หรือคะ คุณทำไปเพื่ออะไร?”

“ข้ออ้างมีหลากหลาย คุณกลัวว่าจะทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้ บ้านใหญ่ของคุณอาจถูกทำลาย หรือคุณไม่พอใจในเรื่องของสัมปทานที่อาจจะถูกยกเลิกภายใต้ ‘รัฐบาลก้าวไกล’ ที่ทำงานอย่างโปร่งใส คุณมีหลากหลายเหตุผลที่ไม่อยากจะเลือก ‘คุณพิธา’ และพรรคก้าวไกล แต่คุณไม่กล้าพูดออกมาตรง ๆ เพราะคุณรู้ว่ามันเป็นเหตุผลที่ใช้ไม่ได้ เมื่อถึงเวลาคุณจึงมาอ้างเหตุผลว่า เพราะพรรคก้าวไกลไม่มีความจงรักภักดี หากคุณทำแบบนี้ ขอถามว่า แล้วใครได้ประโยชน์ ใครกันที่เสียประโยชน์? ใครกันแน่ที่กำลังทำลายสถาบันฯ อยู่” 

ช่อ พรรณิการ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า “เรื่องนี้น่ากลัวและน่าตกใจมาก และยังเป็นเกมที่เสี่ยงมาก ที่พวกคุณเอามาเล่นกันเอง ไม่ใช่พรรคก้าวไกลนะคะ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top