Saturday, 10 May 2025
NewsFeed

‘ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์’ โพสต์ถึง ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระพันปีหลวงฯ’ ที่ทรงเป็นราชินีต้นแบบที่ดีของคนไทย และเป็นศูนย์รวมใจของชาติ

เมื่อไม่นานนี้ ‘คุณภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน’ หรือ ‘คุณปุ๋ย’ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เพื่อเทิดพระเกียรติถึง ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง’ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านได้ทรงมีเมตตาต่อตนเองและครอบครัว อีกทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พสกนิกรไทยเสมอมา พร้อมชื่นชมในความน่ารักและเป็นกันเองของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ โดยระบุว่า…

“I sincerely want to pay our most humble respect to Her Majesty, the Queen Mother of Thailand. My family and I always have the beloved Queen Sirikit in our hearts,
especially at this time with the concerning news of her recent stroke. Our Queen has been a profound role model for me from a young age. For a Thai girl growing up in the US, seeing Her Majesty's photos was always a source of Thai Her loveliness and arace are inimitable.

“ข้าพเจ้าขอแสดงความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีของไทย ข้าพเจ้าและครอบครัว เทิดไท้องค์ราชินีในดวงใจเสมอมา โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่มีข่าวล่าสุด เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมองของพระองค์ องค์ราชินีของเราทรงเป็นแบบอย่างที่ลึกซึ้งสำหรับข้าพเจ้าตั้งแต่ยังเด็ก สำหรับสาวไทยที่เติบโตในอเมริกา การได้ชมพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ และได้เห็นถึงความน่ารัก อันเป็นเอกลักษณ์ทางเชื้อชาติของพระองค์ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ อีกทั้ง ยังถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเสมอมา นับเป็นความซาบซึ้งอย่างหาที่สุดมิได้”

‘ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน’ หรือ ‘คุณปุ๋ย’ อดีตนางสาวไทย และนางงามจักรวาล หรือ มิสยูนิเวิร์สประจำปี 2531 ซึ่งในขณะนั้น เธอเป็นตัวแทนชาวไทยคนที่ 2 ที่ได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาล หลังจากอาภัสรา หงสกุล นางงามจักรวาลชาวไทยคนแรกชนะการประกวดนางงามจักรวาลในปี 2508 นอกจากนั้น เธอยังได้ดำรงตำแหน่ง ผู้แทนองค์การสหประชาชาติสำหรับโครงการช่วยเหลือเด็กและสตรีในระดับนานาชาติ และเป็นประธานตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็กอีกหลายแห่ง อีกทั้งเธอยังเป็นนักธุรกิจอีกด้วย
 

ข่าวดี!! ‘แหล่งเอราวัณ’ เพิ่มกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติ เป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทำให้ ‘ค่าไฟ’ จ่อถูกลง

วันที่ (30 มิ.ย. 66) นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตของแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61 (แหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ) ได้ดำเนินการเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติจากอัตรา 210 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน 
 
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ได้เร่งดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อประกอบกิจการปิโตรเลียมภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิต (วันที่ 24 เมษายน 2565) จนถึงปัจจุบัน
 
โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้ดำเนินการติดตั้งแท่นหลุมผลิตใหม่ จำนวน 8 แท่น และการจัดหาแท่นขุดเจาะจำนวน 4 ตัว เพื่อใช้สนับสนุนการเจาะหลุมบนแท่นหลุมผลิตใหม่ และแท่นหลุมผลิตเดิม 
 
รวมทั้งมีแผนจัดหาแท่นขุดเจาะเพิ่มเติมอีกจำนวน 2 ตัว เพื่อนำมาใช้เร่งการเจาะหลุมผลิตเพิ่มเติม โดยความคืบหน้าสิ้นเดือนพฤษภาคม 2566 ได้มีการเจาะหลุมแล้วเสร็จจำนวน 96 หลุม จากแผนเจาะหลุมตามแผนงานในปี 2566 จำนวนทั้งสิ้น 273 หลุม
 
ซึ่งการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาระดับอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติได้ที่อัตรา 210 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และสามารถเพิ่มอัตราการผลิตเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันได้ตามแผน ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
 
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้กำหนดเป้าหมายในการเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติของแปลงสำรวจฯ G1/61 ที่อัตรา 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 และที่อัตรา 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป โดยจะมีการดำเนินงานสำคัญเพิ่มเติมภายในปีนี้ เพื่อให้สามารถเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติตามเป้าหมาย อาทิ การติดตั้งแท่นหลุมผลิตใหม่ การจัดหาแท่นขุดเจาะเพิ่มเติม และการบริหารจัดการการใช้งานแท่นขุดเจาะเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นต้น
 
“การผลิตปิโตรเลียมจากแปลงสำรวจฯ G1/61 กลับมามีอัตราการผลิตสูงสุดในอ่าวไทยอีกครั้ง ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อสถานการณ์ด้านพลังงานของประเทศ โดยจะส่งผลให้ช่วยลดการนำเข้า LNG จากต่างประเทศมาผลิตไฟฟ้า ช่วยลดความผันผวนของภาระค่าไฟฟ้า และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน เศรษฐกิจ และสังคม ให้แก่ประเทศต่อไป” นายสราวุธ กล่าวทิ้งท้าย
 .

‘อานนท์’ ลั่น!! ถ้า ‘ก้าวไกล’ ถอยเรื่องแก้โครงสร้างการเมือง เลือกตั้งคราวหน้าก็เตรียมตัวสูญพันธุ์เหมือนกับพรรคอื่นๆ

วันที่ (30 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอานนท์ นำภา นักเคลื่อนไหวการเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า…

“ถ้าก้าวไกลถอยเรื่องการแก้ไขโครงสร้างอำนาจของสถาบันการเมือง ก็ไม่ต่างอะไรกับพรรคการเมืองอื่นๆ เลือกตั้งครั้งหน้าก็เตรียมสูญพันธุ์เช่นกัน

การจะแก้ไขโครงสร้างอำนาจมันก็ต้องทำในสภา ถ้าไม่ได้ตำแหน่งประธานสภา ก็ยากที่จะทำได้ สักพักไปเจอการเตะถ่วงร่างกฎหมาย การเบรคไม่ให้อภิปราย ทุกอย่างก็จบ

ถ้าเพื่อไทยเห็นจุดนี้และอยากร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยก็ควรถอยเรื่องประธานสภา ให้ก้าวไกลเป็นหัวหอกเรื่องนี้ โดยมีเพื่อไทยเป็นกองหนุนและทำงานด้านปากท้องแบบที่เพื่อไทยอ้างว่าถนัดและทำเป็น แบบนี้สังคมจะได้ประโยชน์กว่า

เว้นเสียแต่ว่าเราไม่มีความฝันร่วมกัน สภาพมันจึงเป็นเช่นที่เราเห็นตอนนี้”
 

เข้าซื้อกิจการ Singco Trading เ

🔍 หลายวันก่อนมีข่าวว่า ‘ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ หรือ MINT เข้าซื้อกิจการ Singco Trading เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาแบรนด์ร้านอาหาร Sizzler (ยกเว้นประเทศสหรัฐอเมริกา, กัวเตมาลา และเปอร์โตริโก้) หวังผลค่าสิทธิในการใช้สินทรัพย์ทางปัญญา รวมถึงโอกาส และความยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจในอนาคต

วันนี้ THE STATES TIMES จะพาไปดู ‘อาณาจักรของ MINT’ ที่ไม่ได้มีแค่ธุรกิจอาหาร แต่มีทั้งธุรกิจโรงแรม สปา ไปจนถึงธุรกิจไลฟ์สไตล์ ส่วนจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน!!
 

นั่งเชียร์กีฬาแบบฉบับ ‘คนดังระดับโลก’ ถ้ากล้องจับ ‘โบกมือ-ยิ้มแล้วจบ’ ไม่หวงแสง

(30 มิ.ย.66) ภาพนักการเมืองหนุ่มพร้อมคณะเข้าไปชมการแข่งขันวอลเลย์บอลระหว่างทีมชาติไทยกับตุรกีเมื่อวันก่อน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะภาพของคนรุ่นใหม่ถูกฉายทับกับการกีฬานั้น ไม่ว่ามองมุมไหนก็ต้องบอกว่า ‘งดงาม’

แต่ทว่า 'เขา' คนนั้นกลับแสดงออกจน ‘เกินงาม’

ในหมู่ประเทศที่กีฬาได้รับความนิยมมากๆ เช่น อังกฤษ หรือ สหรัฐอเมริกา การมีคนดังเข้าไปนั่งเชียร์ถึงริมขอบสนามคือเรื่องธรรมดาสามัญ (มาก) รักเชียร์ทีมไหน กีฬาประเภทใด ก็ตามแต่กำลังใจ กำลังทรัพย์ของท่าน (เอง) บางคนได้ตั๋วเชิญ บ้างก็ลงทุนซื้อตั๋วรายปีเพื่อสนับสนุนทีมรักของตนอีกทาง

แทบทั้งหมดล้วนมีฐานะ 'แฟนคนหนึ่ง' เช่นเดียวกับ 'แฟนานุแฟนทั้งหลาย'

เพราะในงานกีฬา ‘พระเอก-นางเอก’ ก็คือ ‘นักกีฬา’

ไม่ว่าคุณจะยิ่งใหญ่คับโลกระดับ สตีเวน สปีลเบิร์ก, เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่, แจ็ค นิโคลสัน, แมทธิว แม็คคอนนาเฮย์ หรือตัวมัม ริฮานนา กระทั่งอดีตและปัจจุบันประธานาธิบดี บารัก โอบามา & โจ ไบเดน ก็นั่งปะปนกับคนดูท่านอื่นข้างสนาม หรือเต็มที่ก็ริงไซด์ (แถวหน้า) กล้องจับขึ้นจอสนามก็โบกมือทักทายตามมารยาทสักที เท่านี้จบ ไม่มีวนรอบ 2 หรือ 3

ย้ำอีกทีว่าตัวเอกของทุก ๆ สเตเดียม คือ 'นักกีฬา'

ดารา นักร้อง นักแสดง นักการเมือง ต่างก็มีเวทีพร้อมแสงไฟสปอร์ตไลท์จับเป็นของตนเองอยู่แล้ว ตามธรรมเนียมปฏิบัติจึงไม่ควร 'หาซีน' แก่ตัว โดยช่วงชิงพื้นที่นักกีฬาผู้กำลังทำหน้าที่อย่างแข็งขัน

คนดูกีฬาก็เสมือนกำลังชมละครซึ่งปราศจากการแสดงนั่นเอง

หลายปีก่อนเคยมีนักร้องผิวสีคนหนึ่ง เข้าไปชมเกมบาสเกตบอลอย่างคนดูเกมปกติธรรมดา โดยเขาคนนั้นกำลังมีข่าวพัวพันเรื่องยาเสพติด แถมข้อหาทำร้ายร่างกายแฟนสาว โชคไม่ดีมีคนดูท่านอื่นจำ (เขา) ได้ เสียงโห่ไล่จนนักกีฬาหยุดเล่น สุดท้ายพ่อหนุ่มนักแรปรายนั้น ต้องเดินคอตกออกจากสนามไป...และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าไม่มีกล้องตัวใดในสนามจับภาพเขาคนนั้นเลย

พลังของแฟน (คนดู) สนับสนุนกีฬานั้นยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์เสมอ

เรื่อง: พรชัย นวการพิศุทธิ์
 

‘เพนตากอน’ เผย ‘บอลลูนสอดแนมจีน’ ที่ถูกเครื่องบินรบยิงตก ไม่ได้เก็บข้อมูลใดๆ แค่ลอยออกนอกเส้นทางเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐฯ

วันที่ (30 มิ.ย. 66) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า บอลลูนสอดแนมของจีนที่ถูกเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ยิงตกนอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้นไม่ได้เก็บข้อมูลข่าวกรองใดๆ ขณะลอยอยู่เหนือประเทศสหรัฐฯ
 
นายแพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมากล่าวว่าทางสหรัฐฯ รับรู้ว่า บอลลูนลูกดังกล่าวมีขีดความสามารถในการเก็บข้อมูลข่าวกรอง แต่จากการประเมินในตอนนี้บ่งชี้ว่า บอลลูนที่ว่านี้ไม่ได้เก็บข้อมูลใดๆ ขณะบินอยู่เหนือประเทศสหรัฐฯ และความพยายามของสหรัฐฯ ในการลดการเก็บข้อมูลข่าวกรอง ส่งผลให้บอลลูนไม่สามารถเก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนใดๆ ออกไปได้
 
บอลลูนลูกดังกล่าวลอยข้ามดินแดนประเทศสหรัฐฯ ไล่ตั้งแต่รัฐอะแลสกาไปจนถึงบริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐเซาท์แคโรไลนา กินระยะเวลาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยบินผ่านสิ่งก่อสร้างทางทหารที่มีความละเอียดอ่อน จุดให้เกิดความกังวลว่า จีนอาจใช้บอลลูนลูกดังกล่าวในการเก็บข้อมูลข่าวกรองที่สำคัญ
 
ภายหลังการถูกยิงตก กองทัพสหรัฐฯ ได้กู้ซากของบอลลูนดังกล่าวขึ้นจากมหาสมุทรแอตแลนติก และหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างวิเคราะห์เศษชิ้นส่วนของบอลลูน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ย่ำแย่ลง โดยนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกมายกเลิกกำหนดการเดินทางเยือนประเทศจีนในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่จีนออกมาปฏิเสธว่า บอลลูนลูกดังกล่าวไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสอดแนม เพียงแต่ลอยออกนอกเส้นทางจนเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐฯ เท่านั้น
 
ทั้งนี้ นายไรเดอร์ไม่ได้ยืนยันรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล ที่รายงานว่าบอลลูนดังกล่าวของจีน มีการใช้อุปกรณ์ที่สหรัฐฯ ผลิต แต่กล่าวว่ าในอดีตอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนของจีนมีการใช้อุปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่หาได้ทั่วไป
 

‘หลวงปู่ชลอ’ เจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง มรณภาพ หลังอาพาธเนื่องจากชราภาพ สิริอายุ 94 ปี

(30 มิ.ย. 66) มีรายงาน ‘พระพรหมวชิราลังการ’ หรือ ‘หลวงปู่ชลอ’ เจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง จ.เพชรบูรณ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) มรณภาพอย่างสงบ ที่ รพ.วิชัยยุทธ กรุงเทพฯ หลังมีอาการอาพาธเนื่องจากชราภาพ สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74

โดยรายงานเผยว่า วันที่ 30 มิ.ย. 2566 ทางด้านพระโสภณวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ (ธ) เลขานุการเจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง เปิดเผยว่า จากการที่พระพรหมวชิราลังการ เจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวงปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) มีอาการอาพาธเนื่องจากชราภาพ คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ได้นำตัวไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพมหานคร แพทย์และพยาบาลได้ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มความสามารถ แต่เนื่องจากท่านชราภาพมากแล้ว ร่างกายอ่อนแอ ประกอบกับมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด จึงได้ละสังขารด้วยอาการอันสงบ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 เวลา 20.38 น. สิริอายุ 94 พรรษา 74

ซึ่งสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับคณะสงฆ์และชาวจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง สำหรับประวัติ หลวงปู่ชลอ พระโสภณวชิรากร  เจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6 และ 7 (ธ) มีนามเดิมว่า ชลอ เขื่อนเจริญ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2472 ที่บ้านหนองหลวง ตำบลบางลี่ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ขณะอายุ 14 ปี ได้เข้าบรรพชา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 ณ วัดบางลี่ ตำบลบางลี่ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี โดยมี พระอธิการสุข สุขสโร วัดบางลี่ เป็นพระอุปัชฌาย์

ภายหลังบรรพชาใหม่ในคณะธรรมยุติกนิกาย เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2490 ณ วัดสิริจันทนิมิตร ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยมี พระศีลวรคุณ (ลำเจียก สงฺกิจฺโจ) วัดสิริจันทนิมิตร เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 ณ วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมดิลก (ทองดำ จนฺทูปโม) วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระศีลวรคุณ (ลำเจียก สงฺกิจฺโจ) วัดสิริจันทนิมิตร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

การศึกษา
นักธรรมชั้นเอก พ.ศ. 2499 สอบได้ เปรียญธรรม 5 ประโยค

เกียรติคุณ
ได้รับถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

ตำแหน่ง ฝ่ายปกครอง
พ.ศ. 2496 เป็น เลขานุการผู้ช่วยเจ้าคณะภาค 1-2-6 รูปที่ 2
พ.ศ. 2508 เป็น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร
พ.ศ. 2518 เป็น เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์
พ.ศ. 2545 เป็น รองเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ)
พ.ศ. 2549 เป็น เจ้าคณะภาค 4-5-6-7  (ธ)
พ.ศ. 2552 เป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ)
พ.ศ. 2555 เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง
พ.ศ. 2555 เป็น เจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง

สมณศักดิ์
พ.ศ. 2499 เป็น เปรียญธรรม 5 ประโยค
พ.ศ. 2508 เป็น พระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูภัทรสังวรคุณ
5 ธันวาคม พ.ศ. 2516 เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ที่ พระกิตติสารโสภณ วิมลศีลาภรณ์ ธรรมิกคณิสสร
5 ธันวาคม พ.ศ. 2534 เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชพิศาลสุธี ศรีปริยัติคุณาภรณ์ ยติคณิสสร ยวรสังฆาราม คามวาสี
5 ธันวาคม พ.ศ. 2539 เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพรัตนดิลก สาธกธรรมวิจิตร ปสาทกิจธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
12 สิงหาคม พ.ศ. 2547 เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมวราลังการ ศีลาจารวัตรวิมล โกศลวิหารกิจ พิพิธธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวชิราลังการ ปูชนียฐานประยุต วิสุทธิ์ภาวนาโกศล วิมลสีลสมาจารมุนี ตรีปิฎกคุณาภรณ์ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
 

ศึกชิงตำแหน่งประธานสภาฯ

ศึกชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ระหว่างก้าวไกลและเพื่อไทยยังคงลอยเป็นกระแสในโลกโซเชียลอยู่ กองเชียร์ของทั้ง 2 พรรคต่างก็มีเหตุผลมาหนุนให้พรรคในดวงใจได้นั่งเก้าอี้ประธานสภาฯ 
.
โดยตัวเต็งของเพื่อไทย คือ ‘สุชาติ ตันเจริญ’ อดีตรองประธานสภาฯ คนที่ 1 (ปี 2548 และ 2562) และอดีต ส.ส. 9 สมัย มีประสบการณ์ทางการเมืองมากกว่า 30 ปี 
.
ทางฟากก้าวไกลก็คือ ‘หมออ๋อง’ ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตสัตวแพทย์ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (ก่อนเป็นก้าวไกล) หนึ่งในมืออภิปรายทุจริตกองทัพ ต้นตอกราดยิงโคราช
.
วันนี้ THE STATES TIMES สรุปประวัติคร่าวๆ ของตัวเต็งทั้ง 2 พรรคมาให้แล้ว จะโดดเด่น เหมาะสมกับตำแหน่งแค่ไหน มาดูกัน!!
 

เกาะไอเดีย COMMART ในวันที่รายอื่นตายจาก ผสานพลัง ‘ออฟไลน์-ออนไลน์อีเวนต์’ รุกตลาดต่อเนื่อง



(1 ก.ค. 66) แม้พฤติกรรมการช็อปปิ้งสินค้าของคนรุ่นใหม่กับหลากหลายประเภทสินค้า จะเริ่มเทซัดไปสู่การซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายและตรวจสอบราคา โปรโมชัน ได้แบบทันใจ แต่ก็ยังมีกลุ่มสินค้าบางอย่างที่บางครั้งต้องยอมรับว่า ‘หากไม่เห็นกับตา’ ก็อาจจะยังยากต่อการตัดสินใจ

สินค้าที่ว่านั้น คือ สินค้าในกลุ่มไอซีที ที่ประกอบไปด้วยคอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และสารพัด Device เพื่อเชื่อมต่อทุกการสื่อสารและไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลครองเมือง ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายสินค้าไอทีทั่วไป เพียงแต่ หากคุณอยากเห็นสินค้าแบบครบลูป ครบรุ่น และรวมถึงเทรนด์สินค้าใหม่ๆ ในที่เดียว ก็ยังต้องพึ่งพางาน Exhibition ที่มักจะจัดขึ้นกันทุกปี

ทว่า งานแสดงสินค้าไอทีเหล่านี้ ก็ค่อยๆ ล้มหายกันไปทีละราย ส่วนหนึ่งก็อาจจะเพราะต้านทานแรงพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่บางกลุ่มที่ไม่ซีเรียสกับการต้องเห็นสินค้าจริง แต่เช็กดูรีวิวในโลกออนไลน์แล้วก็ตัดสินใจซื้อแบบทันใจ อีกส่วนหนึ่งก็เพราะการจัดงานประเภทนี้ต้องใช้พลังในการดึงคู่ค้า รวมถึงการต่อรองให้เกิดการนำสินค้า และโปรโมชันที่ควรค่าแก่การดึงดูดคนมาในงาน ซึ่งยากมาก

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันก็ยังมีผู้เล่นในตลาดแสดงสินค้าด้านไอซีทีหลงเหลืออยู่ และยังอยู่แบบไม่ยอมหายไปไหน นอกจากโควิด19 เท่านั้นที่มาเบรกชะลอการจัดงาน แต่ก็ยังสามารถผสานรูปแบบการจัดงานผ่านออนไลน์มาชดเชยได้ โดยผู้เล่นรายนั้นก็คือ Commart โดย ARIP ซึ่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ (6-9 ก.ค. 66) ก็จะมีอีเวนต์เพื่อสายไอที และชื่นชอบเทคโนโลยีมาให้ไปแวะเวียนในพิกัดที่คุ้นเคย

ว่าแต่ทำไม Commart ถึงยังยืนหยัดเป็นอีเวนต์ขาประจำได้ในยุคปัจจุบัน? และทำอย่างไรถึงสามารถฝ่ามรสุมโควิด19 มาได้? เรื่องนี้ นายบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) หรือ ARIP ผู้ดำเนินธุรกิจสื่อและคอนเทนต์ การจัดงานอีเวนต์ และธุรกิจ Digital Platform & Service ในฐานะเจ้าของงานแสดงมหกรรมสินค้าไอซีทีชื่อดังของไทยภายใต้ชื่อ ‘Commart’ ได้เผยผ่านรายการ ‘NAVY TIME เรื่องดีๆ ประเทศไทยยามเช้า’ ออกอากาศช่วงเช้า เวลา 07.00 - 08.00 น. ทางสถานีวิทยุเสียงจากทหารเรือวังนันทอุทยาน (ส.ทร.วังนันทอุทยาน) FM93 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 โดยเล่าถึงการขับเคลื่อน COMMART ให้ยังอยู่รอดในช่วงวิกฤตโควิด19 และสามารถขยายขีดจำกัดในการจัดงานไปสู่ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างออนไลน์ไว้อย่างน่าสนใจ ว่า...

แม้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 จนทำให้ไม่สามารถจัดงานแบบ On ground ได้เต็มที่ แต่ทาง ARIP ก็สามารถปรับตัวตามแนวโน้มของสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาต่อยอด ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์มารองรับการจัดงานอีเวนต์ ภายใต้การประยุกต์เทคโนโลยี AR / VR และ Metaverse ต่อยอด Virtual & Hybrid Event เพื่อนำเสนออีเวนต์ในรูปแบบใหม่ผ่านโลกออนไลน์ 

“เรามีลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมากมาย เช่น งานกาชาดออนไลน์ในปี 63 และปี 64 ซึ่งพัฒนาอีเวนต์ออกมาในรูปแบบ Virtual Event ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม e-Commerce ของงานออกร้านคณะภริยาทูตครั้งที่ 55 ที่พัฒนาให้กับสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย, งาน Virtual Event ที่จัดให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), งาน Virtual Event พิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่น ของสำนักงานคปภ. เป็นต้น

“เช่นเดียวกันกับงาน Commart ที่ถึงแม้ว่าทาง ARIP จะไม่ได้จัดอีเวนต์แบบ On Ground ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิดอย่างรุนแรง แต่ก็ได้นำแพลตฟอร์ม Virtual Event มาประยุกต์ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ รวมถึงความสำเร็จจากการจัดงาน Commart ช่วงปลายปี 64 จนทำให้เจ้าของสินค้าและผู้จัดจำหน่ายทั้งรายเล็กและรายใหญ่เชื่อมั่นในการร่วมมือกับงาน Commart ในปี 65 อย่างต่อเนื่อง”

นายบุญเลิศ กล่าวอีกว่า “ด้วยสถานการณ์ในปีนี้ที่ดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้า โควิดไม่รุนแรงเหมือนเก่า และผู้คนมีวัคซีนป้องกันโดยทั่วแล้วนั้น จึงทำให้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และนั่นก็ทำให้งาน Commart ตั้งแต่ช่วงต้นปีกลับมาจัดได้เหมือนเดิม แต่ถึงกระนั้น รูปแบบวิธีการจัดงานที่ถูกปรับเข้ามาใหม่ด้วยแพลตฟอร์ม Virtual Event ก็ได้สร้างความตื่นเต้นจากฐานผู้เข้าชมผ่านแพลตฟอร์มนี้ในระดับหนึ่งด้วยเช่นกัน เพราะสามารถช่วยให้พวกเขาเข้าถึงงาน Commart ได้จากทุกหนทุกแห่ง พร้อมตอบโจทย์ระบบแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายที่สามารถซื้อจากที่ไหนก็ได้ไปพร้อมๆ กัน 

“แม้เราจะกลับมาจัดงาน Commart รูปแบบเดิมได้แบบปกติ แต่เราก็จะไม่ทิ้งกลุ่มคนที่อยู่บนออนไลน์ หรือคนที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ โดยจากนี้ไปเราจะผสานรูปแบบการจัดงานให้อยู่ในทรงของ Hybrid ต่อไป เพราะตรงนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดีต่อ ARIP ที่จะกลายเป็นผู้มีประสบการณ์และความพร้อมในการเป็น Exhibitor ที่สามารถจัดงานได้ทั้งแบบ On  Ground และ Online สร้างผลกำไรให้บริษัท และสามารถปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นได้มากขึ้นต่อไปด้วย”

ทั้งนี้ นายบุญเลิศ ได้กล่าวเสริมอีกด้วยว่า แม้จะรูปแบบอีเวนต์ออนไลน์เสริมเข้ามา แต่ก็ยังอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นใจเสน่ห์ของ Commart On Ground ที่ทาง ARIP คงไว้ให้ทุกคนสัมผัสได้ทุกครั้ง คือ ความครบของแบรนด์สินค้าชั้นนำ และทุกรุ่นสินค้าที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ เทสต์ทดลองได้ สามารถซื้อและนำกลับบ้านได้เลย ขณะเดียวกันในส่วนของโปรโมชันต่างๆ ก็จัดเต็มแบบคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นคูปองส่วนลด และพริวิลเลจต่างๆ ภายในงาน ที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่มาแวะเวียนเสมอ เพราะนี่คือจุดแข็งของ Commart ที่ยังคงเอื้อประโยชน์ต่อคู่ค้าและผู้บริโภคได้ไม่เปลี่ยน

“อนาคต Commart จะทำแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Personal Live Marketing เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคของสินค้าไอทีโดยเฉพาะเพิ่มเข้ามาด้วย รอติดตามกันครับ” นายบุญเลิศ ทิ้งท้าย

สำหรับการจัดงาน Commart Crazy Deal ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 6-9 กรกฎาคม 2566 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เวลา 10.00-21.00 น. ณ EH 98-99 จะมีสินค้าไอทีมากกว่า 500 แบรนด์ รวมกันกว่า 200 บูธ โดยเทรนด์เทคโนโลยีในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 นี้ นายบุญเลิศ เผยว่า ผู้บริโภคจะได้เห็นโน้ตบุ๊กที่บางเบา สเปกแรง รวมถึงสมาร์ตดีไวซ์ที่มีเทคโนโลยี AI ฝังอยู่ในการทำงาน นอกจากนี้แล้วยังมีความคึกคักในส่วนของเทคโนโลยี AR และ VR อีกด้วย ซึ่งเป็นผลพวงจากการมาของ Apple Vision Pro เป็นต้น
 

'อาร์ต พศุตม์' ประกาศชัด ยืนทุกครั้งที่ได้ยินเพลงสรรเสริญฯ ชี้!! ใครไม่ยืนไม่ว่า แต่ไม่มีสิทธิไปต่อว่าคนที่ยืน

วันที่ (30 มิ.ย. 66) หลังจากกรณีที่ นักแสดงรุ่นใหญ่ที่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน อย่าง 'นก สินจัย' โพสต์ภาพการยืนถวายความเคารพในโรงหนัง โดยมีข้อความประกอบว่า..."แม้เหลือคนเดียวทั้งโรง เราก็จะยืน" พร้อมลงแคปชันว่า "...เราก็จะยืน" จนกลายเป็นกระแส และมีเพื่อนร่วมวงการ ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับดัง นักร้อง นักแสดง ต่างก็ออกมาแสดงจุดยืนกันอีกมากหน้าหลายตา

ล่าสุดดาราหนุ่มอย่าง 'อาร์ต พศุตม์' ก็ได้ออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการยืนถวายความเคารพในโรงหนังเมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีบรรเลงขึ้น โดยได้โพสต์ภาพ พร้อมระบุข้อความแสดงจุดยืนของตนอย่างชัดเจน ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @art_phasut98 ระบุว่า...

"สะดวกแบบนี้ ใครไม่ยืน แต่ผมยืนทุกครั้ง ที่ได้ยินเพลงนี้ไม่ว่าที่ไหน

….ไม่เคยต่อว่าใครว่าไม่ยืน แต่ คนที่ไม่ยืนก็ไม่มีสิทธิต่อว่าคนที่ยืน"

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ ก็มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาคอมเมนต์และชื่นชมกันมากมาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top