Saturday, 10 May 2025
NewsFeed

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานการประชุมติดตามการให้ความช่วยเหลือครอบครัว และกำลังพล กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง พร้อมกับเร่งรัดเพื่อให้ได้รับสิทธิกำลังพลและสวัสดิการ อย่างครบถ้วน

วันที่ 28 มิ.ย.66 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือและประธานกรรมการบูรณาการติดตามเรื่องสิทธิกำลังพล การสวัสดิการ และการช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และครอบครัว กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 4 เพื่อเร่งรัดติดตามการดำเนินการ ณ ห้องประชุม ชั้น 5 กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือเน้นย้ำให้คณะกรรมการฯ และหน่วยต้นสังกัดแจ้งความก้าวหน้าตลอดจนสอบถามถึงความเดือดร้อนของครอบครัว และกำลังพลที่ประสบเหตุฯ อย่างต่อเนื่อง โดยกองทัพเรือยังคงห่วงใยครอบครัวของผู้ประสบเหตุฯ และจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งปัจจุบันคณะกรรมการฯ ได้เร่งรัดดำเนินการในด้านต่าง ๆ ให้กับผู้เสียชีวิตและสูญหาย จำนวน 29 นาย ซึ่งมีความก้าวหน้าประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ดังนี้

- สิทธิกำลังพล ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ประกอบด้วย การเลื่อนชั้นเงินเดือน 3 - 5 ชั้น , การแต่งตั้งยศและการขอพระราชทานยศ (จ่าเอก - พลเรือโท) , และการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (เบญจมาภรณ์มงกุฏไทย - ตริตาภรณ์ช้างเผือก)

- สวัสดิการต่างๆ ของหน่วย ประกอบด้วย เงินประกันภัยกลุ่มแบบ “เฉพาะกิจกองทัพเรือ” , เงินกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดขอบของกองทัพเรือ , เงินสงเคราะห์กรมสวัสดิการทหารเรือ , เงินฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี และเงินช่วยเหลืออื่นๆ รายละ 1.4 - 3.5 ล้านบาท

- การบรรจุทายาททดแทน ประกอบด้วย การบรรจุรับราชการในกองทัพเรือ จำนวน 11 นาย , เห็นชอบให้พิจารณาบรรจุแล้ว จำนวน 12 นาย (อยู่ในระหว่างการศึกษา) , อยู่ในระหว่างการขอบรรจุ จำนวน 2 นาย และสละสิทธิ์ จำนวน 4 นาย

- ทุนการศึกษาสำหรับบุตร โดยได้รับค่าเล่าเรียนตามระดับการศึกษา ปีละ 5,000 - 15,000 บาท

- การมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติราชการเพื่อชาติ “เหรียญบางระจัน” ให้แก่กำลังพลที่เสียชีวิต และสูญหาย จำนวน 29 นาย เมื่อ 1 มิ.ย.66

- ผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 27 นาย ได้รับความช่วยเหลือนายละ 68,000 - 104,000 บาท และได้รับเครื่องแบบใหม่

- ผู้ประสบภัย (ไม่ได้รับบาดเจ็บ) จำนวน 49 นาย ได้รับความช่วยเหลือนายละ 58,000 บาท และได้รับเครื่องแบบใหม่

- การให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ เช่น ทุนการศึกษาสำหรับบุตร (อยู่ในระหว่างการดำเนินการ)

เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารเรือที่ต้องการดูแลกำลังพล และครอบครัวจากกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในด้านต่างๆ อย่างเต็มกำลัง และดีที่สุด

“อนุทิน” เปิดมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 20 ชูแนวคิด “สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย”

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 20 ภายใต้แนวคิด “สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย” นำเสนอการใช้ภูมิปัญญาไทยดูแลสุขภาพ พร้อมกิจกรรมสาธิต นิทรรศการ จับคู่ธุรกิจ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยมาตรฐานกว่า 500 ร้านค้า ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคม นี้ ที่ ฮอลล์ 11-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดผู้เข้าร่วมงานกว่า 200,000 คน เงินสะพัดกว่า 400 ล้านบาท

วันนี้ (28 มิถุนายน 2566) ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข 
พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง สมาชิกวุฒิสภา นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และคณะผู้บริหาร เปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 20 ภายใต้แนวคิด “สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย” พร้อมมอบรางวัลหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ. 2566 แก่ พ่อหมอบุญมา มุงเพีย “หมอ 10 บาท รักษาทุกโรค” จากจังหวัดสกลนคร, นายประวิทย์ แก้วทอง เจ้าของแนวคิด “หมอไม่หวงวิชา สอนให้ใครก็ได้ลูกหลานใครก็ได้ที่สนใจ ถ้าไม่ให้วิชาก็จะตายไปกับตัว ถ้าให้เด็กก็จะได้สานต่อช่วยคนอีกเป็นหมื่นเป็นแสน” จากจังหวัดสงขลา มอบรางวัลพื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 5 รางวัล และรางวัลพื้นที่ต้นแบบดีเด่นชมรมผู้สูงอายุด้านการแพทย์แผนไทย ประจำปี พ.ศ. 2566 จำนวน 3 รางวัล

 นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญต่อการนำสุขภาพมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (Health for Wealth) มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) โดยเฉพาะสมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย ถือเป็นจุดแข็งที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้ โดยการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรเชื่อมโยงการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้เกษตรกร นำเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม และต่อยอดใช้ในระบบสุขภาพ ซึ่งการจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งนี้ มุ่งเน้นให้ประชาชนเข้าถึงและใช้บริการการแพทย์แผนไทยฯ ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ปลอดภัย ยกระดับความสามารถในการแข่งขันในตลาด เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ประชาชนเชื่อมั่น ใช้ยาสมุนไพรดูแลสุขภาพตนเองเมื่อเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นจาก 1.48% เป็น 15% มีบริการที่เป็นเลิศ โดยเลือกใช้บริการการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก เมื่อเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นจาก 4.58% เป็น 20% รวมถึงบริโภคสมุนไพรในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 90,000 ล้านบาท และเป็น 1 ใน 3 ของเอเชีย ภายในปี 2570 

 ด้านนพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายกว่า 230 องค์กร ร่วมกันจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 และได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างมาก โดยในปีนี้มีทั้งกิจกรรมสาธิตและนิทรรศการ ภายใต้แนวคิด “Thai Herbs & Medical Cannabis for Health and Wealth” นำเสนอ Innovation and Product, Wellness and Thainess Tourism รวมถึงภูมิปัญญาในการดูแลสุขภาพ การให้บริการและคำปรึกษาด้านสุขภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิ “สุขสำราญนิทราคลินิก” รักษาอาการปวดเรื้อรังและนอนไม่หลับมิติใหม่ การรักษาแบบองค์รวมครบวงจร การบำบัดฟื้นฟูและลดอันตรายจากยาเสพติด (Harm Reduction Model) และการดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคอง (Palliative Care) รวมถึงการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งมีประเทศที่เข้าร่วมอาทิ เกาหลี มาเลเซีย ศรีลังกา รัสเซีย ลาว และมีบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยมาตรฐานกว่า 500 ร้านค้า       
                                                        
นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาแลกเปลี่ยนด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์ทางเลือกและสมุนไพร ร่วมกับต่างประเทศ (International Medical Cannabis Conference 2023) และการประชุมกรอบความร่วมมือระดับอนุภูมิภาคในอนุทวีปเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (BIMSTEC) การประชุมวิชาการประจำปีภายในประเทศ การประกวดผลงานวิชาการประจำปี อบรมหลักสูตรระยะสั้นเพื่อส่งเสริมอาชีพและการดูแลสุขภาพด้วยตนเองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนกว่า 200,000 คน และมีเงินสะพัดภายในงานกว่า 400 ล้านบาท


เจนกิจ นัดไธสง รายงาน

ผช.ผบ.ทร. ประชุมติดตามการให้ความช่วยเหลือครอบครัวและกำลังพล เรือหลวงสุโขทัยอับปาง

 

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.66 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ (ผช.ผบ.ทร.) และประธานกรรมการบูรณาการติดตามเรื่องสิทธิกำลังพล การสวัสดิการ และการช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และครอบครัว กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 4 เพื่อเร่งรัดติดตามการดำเนินการ ณ ห้องประชุม ชั้น 5 กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำให้คณะกรรมการฯ และหน่วยต้นสังกัดแจ้งความก้าวหน้า ตลอดจนสอบถามถึงความเดือดร้อนของครอบครัว และกำลังพลที่ประสบเหตุฯ อย่างต่อเนื่อง โดยกองทัพเรือ ยังคงห่วงใยครอบครัวของผู้ประสบเหตุฯ และจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งปัจจุบันคณะกรรมการฯ ได้เร่งรัดดำเนินการในด้านต่างๆ ให้กับผู้เสียชีวิตและสูญหาย จำนวน 29 นาย ซึ่งมีความก้าวหน้าประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ดังนี้

- สิทธิกำลังพล ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ประกอบด้วย การเลื่อนชั้นเงินเดือน 3 - 5 ชั้น , การแต่งตั้งยศและการขอพระราชทานยศ (จ่าเอก - พลเรือโท) , และการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (เบญจมาภรณ์มงกุฏไทย - ตริตาภรณ์ช้างเผือก)

- สวัสดิการต่างๆ ของหน่วย ประกอบด้วย เงินประกันภัยกลุ่มแบบ “เฉพาะกิจกองทัพเรือ” , เงินกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดขอบของกองทัพเรือ , เงินสงเคราะห์กรมสวัสดิการทหารเรือ , เงินฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี และเงินช่วยเหลืออื่นๆ รายละ 1.4 - 3.5 ล้านบาท

- การบรรจุทายาททดแทน ประกอบด้วย การบรรจุรับราชการในกองทัพเรือ จำนวน 11 นาย , เห็นชอบให้พิจารณาบรรจุแล้ว จำนวน 12 นาย (อยู่ในระหว่างการศึกษา) , อยู่ในระหว่างการขอบรรจุ จำนวน 2 นาย และสละสิทธิ์ จำนวน 4 นาย

- ทุนการศึกษาสำหรับบุตร โดยได้รับค่าเล่าเรียน ตามระดับการศึกษา ปีละ 5,000 - 15,000 บาท

- การมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติราชการเพื่อชาติ “เหรียญบางระจัน” ให้แก่กำลังพลที่เสียชีวิต และสูญหาย จำนวน 29 นาย เมื่อ 1 มิ.ย.66

- ผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 27 นาย ได้รับความช่วยเหลือนายละ 68,000 - 104,000 บาท และได้รับเครื่องแบบใหม่

- ผู้ประสบภัย (ไม่ได้รับบาดเจ็บ) จำนวน 49 นาย ได้รับความช่วยเหลือนายละ 58,000 บาท และได้รับเครื่องแบบใหม่

- การให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ เช่น ทุนการศึกษาสำหรับบุตร (อยู่ในระหว่างการดำเนินการ)

เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ต้องการดูแลกำลังพล และครอบครัวจากกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง และดีที่สุด

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

สวนนงนุชพัทยา จัดโปรโมชั่นสำหรับผู้สูงอายุบัตรผ่านประตูลดราคา50% ทุกวัน (ยกเว้นวันศุกร์ยังเข้าฟรีเหมือนเดิม) ตลอดเดือน กรกฎาคม

สวนนงนุชพัทยานำโดย นายกัมพล  ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา จัดโปรโมชั่นพิเศษ เพิ่มให้กับผู้สูงอายุ (อายุตั้งแต่60ปี ขึ้นไป ) ซื้อบัตรผ่านประตูในราคาลด 50 เปอร์เซ็นต์ ทุกวันจันทร์ ถึง วันพฤหัสบดี และวันเสาร์-อาทิตย์  ส่วนวันศุกร์ยังคงโปรโมชั่นเดิมผู้สูงอายุเข้าชมสวนฟรี เด็กสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตรและผู้พิการพร้อมผู้ติดตามเข้าฟรีทุกวัน สำหรับผู้ที่ต้องการชมการแสดงนงนุชโชว์และช้างแสนรู้เพียงท่านละ200 บาทเท่านั้น โดยโปรโมชั่นนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฏาคม 2566  เท่านั้น

สวนนงนุชพัทยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย  มีสวนสวยมากกว่า 50 สวน บนพื้นที่ 1,700 ไร่ และยังติด 1ใน10 สวนที่สวยที่สุดในโลก   แต่ละสวนสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทย ให้เที่ยวกันแบบยกครอบครัวในราคาประหยัด เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในสวนนงนุชพัทยามีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้สูงอายุ และผู้พิการ มีทางลาดในทุกๆสวนเชื่อมต่อกัน สามารถเข้าชมได้ทุกที่ มีรถบริการชมสวนสวยสำหรับผู้ที่ใช้วีลแชร์เรายังมีห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุและผู้ใช้วีลแชร์ทุกจุดที่ให้บริการ นอกจากนี้สวนนงนุชพัทยามีบริการในด้านอาหารและเครื่องดื่มพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน

เปิดตัว ‘ดนัย’ คนรับซื้อที่ดิน 14 ไร่ ที่ปราณบุรี ของ ‘พิธา’ เจ้าตัวเผย ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ยัน!! เป็นการซื้อขายตามปกติ

เปิดตัว ‘ดนัย ศุภการ’ คนรับซื้อที่ดินมรดก 14 ไร่ 6.5 ล้าน อ.ปราณบุรี ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ โพรไฟล์ธุรกิจ กรรมการถือหุ้น บริษัทอสังหาฯ ใน อ.หัวหิน 6 แห่ง ก่อนหน้าแจงทำธุรกรรมปกติ ไม่รู้จัก หัวหน้าก้าวไกลมาก่อน เคยเสนอมากกว่า 10 ล้าน ต่อรองหลายครั้ง

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 66 กรณีที่ดินตามโฉนดหมายเลข 13543 ตำบลวังก์พง อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ 14 ไร่ 0 งาน 62.7 ตารางวา ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งแจ้งยื่นแสดงในบัญชีรายการทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตอนรับตำแหน่ง ส.ส.ปี 2562 ระบุเป็นทรัพย์ที่ ‘ได้รับมรดก’ มูลค่าปัจจุบัน (ขณะนั้น) 18 ล้านบาท นำข้อมูลมารายงานแล้วว่า ที่ดินแปลงนี้ปัจจุบันเปลี่ยนมือไปแล้วโดยทำสัญญาซื้อขายเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2566 ในราคา 6,500,000 บาท (หลังจากหลังยุบสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 20 มี.ค. 66 ประมาณ 7 วัน) ในขณะที่ราคาที่ดินที่เจ้าหน้าที่ประเมินราคาที่ดินแปลงนี้อยู่ที่ 8,777,185 บาท เท่ากับนายพิธาจดทะเบียนขายในราคาต่ำกว่าราคาประเมิน 2,277,185 บาท โดยนายพิธาอ้างว่าที่ดินบางส่วนมีสภาพเป็นบ่อน้ำ

ขณะที่ผู้ซื้อชี้แจงว่า เป็นการซื้อขายตามปกติ เนื้อที่ดินตามจริงอาจน้อยกว่าจำนวนที่ระบุในโฉนด เนื่องจากพื้นที่ติดคลอง และมีบ่อ ส่วนราคาประเมินที่เขาแจ้งไว้สมัยก่อนอาจจะสูง แต่ซื้อขายจริงอาจจะไม่ถึง และไม่รู้มาก่อนว่าเป็นที่ดินของนายพิธา

โดยข้อมูลเบื้องต้นก่อนหน้านี้ ที่ออกมาว่า ‘ผู้ซื้อ’ ที่ดินแปลงนี้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีชื่อเป็นกรรมการถือหุ้นธุรกิจอสังหริมทรัพย์อย่างน้อย 5 บริษัท ล่าสุดได้มีการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายดนัย ศุภการ ผู้ซื้อที่ดินมีชื่อเป็นกรรมการและ/หรือถือหุ้น 6 บริษัท รายละเอียดดังนี้

1.) บริษัท สมาร์ทเฮ้าส์ วิลเลจ หัวหิน จำกัด จดทะเบียนวันที่ 15 มกราคม 2550 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการ การให้เช่า การขาย การซื้อ อสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 100 หมู่ 1 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายประวัติ ศิริพรสกุล และนายดนัย ศุภการ บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันประชุม 9 มีนาคม 2566 นายดนัย ศุภการ ถือหุ้นใหญ่ 50,000 หุ้น บริษัท ดรากอนริชลี่ จำกัด 45,000 หุ้น จากผู้ถือหุ้น 3 ราย รวมทั้งหมด 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท

2.) บริษัท สมาร์ทเฮ้าส์ วัลเล่ย์ หัวหิน จำกัด จดทะเบียนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบการเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งเลขที่ 100 หมู่ 1 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายประวัติ ศิริพรสกุล และ นายดนัย ศุภการ เป็นกรรมการ บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 30 เมษายน 2566 นายดนัย ศุภการ 8,000 หุ้น บริษัท ดรากอนริชลี่ จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 84,000 หุ้น จากผู้ถือหุ้นทั้งหมด 3 ราย รวมทั้งสิ้น 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท

3.) บริษัท เอส เอช วี หัวหิน จำกัด จดทะเบียนวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 ทุน 2 ล้านบาท ประกอบกิจการซื้อ ขาย ดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 100 หมู่ 1 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายประวัติ ศิริพรสกุล และ นายดนัย ศุภการ เป็นกรรมการ บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันประชุม 30 เมษายน 2565 นายดนัย ศุภการ ถือหุ้นใหญ่ 100,000 หุ้น บริษัท ดรากอนริชลี่ จำกัด 90,000 หุ้น และ น.ส.เรณู ปั่นเทพ 10,000 หุ้น รวมทั้งหมด 200,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท

4.) บริษัท หัวหิน เรสซิเด้นท์ เรียลเอสเตท จำกัด จดทะเบียนวันที่ 28 ตุลาคม 2548 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 359 หมู่ 7 ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายดนัย ศุภการ และ นายประวัติ ศิริพรสกุล เป็นกรรมการ บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันประชุม 30 เมษายน 2566 นายดนัย ศุภการ 35,500 หุ้น บริษัท ดรากอนริชลี่ จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 58,050 หุ้น จากผู้ถือหุ้นทั้งหมด 3 ราย รวมหุ้นทั้งหมด 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท

5.) บริษัท ดีน่า โฮม ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 22 มีนาคม 2566 ทุน 2 ล้านบาท ประกอบกิจการซื้อ ขาย เช่า ให้เช่าที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง พัฒนา จัดสรร และแบ่งที่ดินเป็นแปลงย่อย เป็นตัวแทนซื้อ ขายในกิจการอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด ที่ตั้งเลขที่ 299/1 หมู่ 1 ตำบลเขาน้อย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

6.) บริษัท ไทยคันทรีโฮม หัวหิน จำกัด จดทะเบียนวันที่ 25 มีนาคม 2559 ทุน 2 ล้านบาท ประกอบการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัย ที่ตั้งเลขที่ 100 หมู่ 1 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางจันทรา บีแชม นายแกรแฮม จอห์น บีแชม นายประวัติ ศิริพรสกุล นายเอกรัตน์ ศุภการ เป็นกรรมการ บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันประชุม 30 เมษายน 2566 นายดนัย ถือ 1,000 หุ้น จากผู้ถือหุ้นทั้งหมด 6 คน จำนวนหุ้นทั้งหมด 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท (ไม่มีชื่อนายดนัยเป็นกรรมการ)

ทั้งหมดเป็นโพรไฟล์ธุรกิจของผู้รับซื้อที่ดิน 14 ไร่ 6,500,000 บาทจากนายพิธา

รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี เตรียมเปิดให้ใช้ได้ภายในปี 2566 เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับประชาชน

เพจเฟซบุ๊ก Thailand LOVER ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ที่กำลังจะเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการภายในปีนี้ โดยระบุว่า ...

รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี 

รวมจำนวนสถานีทั้งหมด 30+2 สถานี ดังนี้

ช่วงที่ 1 หลักสี่-มีนบุรี แบ่งเป็น 17 สถานี กำหนดเปิด Q1/ปี 66
ช่วงที่ 2 ศูนย์ราชการนนทบุรี-ทีโอที แบ่งเป็น 13 สถานี กำหนดเปิด Q2/ปี 66
ช่วงที่ 3 ส่วนต่อขยายเมืองทองธานี แบ่งเป็น 2 สถานี กำหนดเปิดปี 68

เส้นทางการเดิน รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงที่ 1  หลักสี่ – มีนบุรี แบ่งเป็น 17 สถานี คาดจะเปิดให้บริการในช่วง Q1 ของปี 2566 มีรายละเอียดดังนี้

🚧 PK14 สถานีหลักสี่ ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดถนนแจ้งวัฒนะและถนนวิภาวดีรังสิต สามารถเชื่อมต่อกับโครงการระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต
PK15 สถานีราชภัฏพระนคร สถานีสุดท้ายบนถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

PK16 สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ สามารถเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต

PK17 สถานีรามอินทรา 3 สถานีแรกบนถนนรามอินทราตั้งอยู่บริเวณหน้าโครงการลุมพินี รามอินทรา-หลักสี่ และศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก

PK18 สถานีลาดปลาเค้า ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราระหว่างซอยรามอินทรา 21 และซอยรามอินทรา 23 ใกล้กับห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า

PK19 สถานีรามอินทรา กม.4 ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา ระหว่างซอยรามอินทรา 33 และซอยรามอินทรา 37

PK20 สถานีมัยลาภ ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราหน้าปากซอยรามอินทรา 41 ใกล้กับสามแยกมัยลาภ

PK21 สถานีวัชรพล ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา ถัดจากทางพิเศษฉลองรัช บริเวณซอยรามอินทรา 59 และซอยรามอินทรา 61

PK22 สถานีรามอินทรา กม.6 ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา ช่วงระหว่างซอยรามอินทรา 40 และซอยรามอินทรา 42

PK23 สถานีคู้บอน ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราช่วงระหว่างซอยรามอินทรา 69 และซอยรามอินทรา 46

PK24 สถานีรามอินทรา กม.9 ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา ใกล้กับโรงพยาบาลสินแพทย์ ช่วงระหว่างซอยรามอินทรา 54 และซอยรามอินทรา 56

PK25 สถานีวงแหวนรามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราถัดจากถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ใกล้ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ และ The Promenade

PK26 สถานีนพรัตน์ ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา ใกล้ซอยรามอินทรา 103/1 และโรงพยาบาลนพรัตน์

PK27 สถานีบางชัน ตั้งอยู่บนถนนบริเวณซอยรามอินทรา 113 และซอยรามอินทรา 115

PK28 สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราใกล้กับโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ระหว่างซอยรามอินทรา 121 และ ซอยรามอินทรา 123

PK29 สถานีตลาดมีนบุรี สถานีแรกบนถนนสีหบุรานุกิจ ตั้งอยู่บริเวณหน้าตลาดนัดจตุจักร 2

PK30 สถานีมีนบุรี ตั้งอยู่ริมถนนรามคำแหง บริเวณศูนย์ซ่อมบำรุงของระบบขนส่งมวลชนสายสีชมพูฯ ใกล้กับถนนรามคำแหง เป็นสถานีปลายทางของโครงการ และสามารถเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี

🚧เส้นทางการเดิน รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงที่ 2 ศูนย์ราชการนนทบุรี-ทีโอที แบ่งเป็น 13 สถานี คาดจะเปิดให้บริการในปี 2566 มีรายละเอียดดังนี้

PK01 สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี สถานีต้นทางตั้งอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรีและบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ

PK02 สถานีแคราย ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ บริเวณด้านหน้าสถาบันทรวงอก

PK03 สถานีสนามบินน้ำ ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ใกล้กับสามแยกสนามบินน้ำ

PK04 สถานีสามัคคี ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ใกล้ทางแยกเข้าถนนสามัคคี ระหว่างคลองบางตลาดกับถนนสามัคคี

PK05 สถานีกรมชลประทาน ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ใกล้กับโรงเรียนชลประทานวิทยา
PK06 สถานีแยกปากเกร็ด ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมทางแยกปากเกร็ด ก่อนเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะ

PK07 สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี และโฮมโปร ก่อนถึงทางแยกเลี่ยงเมืองปากเกร็ด

PK08 สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้กับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ บริเวณซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28

PK09 สถานีศรีรัช ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 35 ก่อนถึงทางด่วนศรีรัช ใกล้กับหมู่บ้านเมืองทองธานี

PK10 สถานีเมืองทองธานี ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าสำนักงานซ่อมบำรุงกรมทางหลวงและห้างแม็คโคร สาขาแจ้งวัฒนะ

PK11 สถานีแจ้งวัฒนะ 14 ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ระหว่างบิ๊กซีแจ้งวัฒนะและซอยแจ้งวัฒนะ 14

PK12 สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้ากรมการกงศุล ใกล้กับศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา

PK13 สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ระหว่างซอยแจ้งวัฒนะ 5 และซอยแจ้งวัฒนะ 7

🚧 ส่วนต่อขยายเมืองทองธานี รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงที่ 3 แบ่งออกเป็น 2 สถานี คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2568 มีรายละเอียดดังนี้

MT01 สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี สถานีส่วนต่อขยายตั้งอยู่บนถนนบางปะอิน-ปากเกร็ด ใกล้กับชาเลนเจอร์ฮอลล์ ของอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยจะมีทางเชื่อมจากสถานีเข้าสู่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ได้สะดวกเลย

MT02 สถานีทะเลสาปเมืองทอง สถานีส่วนต่อขยายตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 39 บริเวณทางแยกไปทางพิเศษอุดรรัถยา โดยจะเชื่อมทางขึ้นลงไปที่ อิมแพ็ค ฟอรั่ม และทะเลสาบเมืองทองได้สะดวกเลย

🚧 โดยส่วนต่อขยายเมืองทองธานีของ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ผู้โดยสารจะทำการเปลี่ยนได้ที่ PK09 สถานีศรีรัช นั่นเอง เรียกได้ว่าเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะขยายพื้นที่การเดินทางให้กับผู้โดยสารจำนวนมาก สามารถระบายผู้ใช้รถใช้ถนน อาจช่วยลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดบนถนนแคราย – มีนบุรีได้ในอนาคต

‘ONE Championship’ เตรียมจัดการแข่งขันครั้งแรกในกาตาร์ เล็งเจาะกลุ่มแฟนกีฬาศิลปะการต่อสู้ในตลาดตะวันออกกลาง


เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 66 ‘ONE Championship’ บรรลุข้อตกลงกับ ‘Media City Qatar’ เจ้าของเครือข่ายสื่อยักษ์ใหญ่ของประเทศกาตาร์ เตรียมเปิดตัวการแข่งขัน ONE เป็นครั้งแรก ตั้งเป้าเจาะกลุ่มแฟนกีฬาศิลปะการต่อสู้ในภูมิภาคตะวันออกกลาง

มีการคาดการณ์ว่า ONE จะยกพลบินลัดฟ้าเยือนถิ่นกาตาร์ เพื่อเปิดตัวอีเวนต์แรกในกรุงโดฮาภายในปีนี้ โดยมีแผนที่จะดึงตัวนักกีฬาชั้นแนวหน้าระดับโลกและระดับภูมิภาคเข้าร่วมการแข่งขัน แต่ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน

ก่อนหน้านี้ ONE และ ‘Media City’ ได้ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกัน เพื่อผลิตคอนเทนต์อันหลากหลายสู่สายตาผู้ชมทั่วตะวันออกกลาง และประเทศกาตาร์ยังถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำรายการเรียลลิตีระดับโลก ‘The Apprentice : ONE Championship Edition’ ซีซันสองอีกด้วย โดยปรากฏว่ามีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี นำมาซึ่งการขยายความร่วมมือเพื่อการจัดแข่งขัน ONE เป็นครั้งแรกในภูมิภาคนี้

ภูมิภาคตะวันออกกลางถืออีกหนึ่งตลาดสำคัญที่มีกลุ่มเป้าหมายศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรรุ่นใหม่ที่มีความเข้าใจเรื่องดิจิทัล นอกจากนี้ ONE ยังมีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแรงซึ่งเอื้อต่อการขยายการลงทุนต่อไปในอนาคตด้วย

โดยนอกจากเป้าหมายในการขยายฐานแฟนกีฬา และเครือข่ายพันธมิตรแล้ว ONE ยังตั้งใจจุดกระแสความนิยมในศิลปะการต่อสู้ และเปิดพื้นที่ให้นักกีฬาการต่อสู้ระดับอาชีพในภูมิภาคนี้ ได้มีโอกาสแสดงฝีมือในเวทียิ่งใหญ่ระดับโลกอีกด้วย

โดยแฟน ๆ สามารถติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของ ONE ได้ที่เฟซบุ๊ก ‘ONE Championship Thailand’ เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม ‘ONEChampTh’
 

เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.5 แมกนิจูด ที่พิษณุโลก ล่าสุด ‘ผู้ว่าฯ’ สั่งสำรวจความเสียหาย-จับตา After Shock

ระทึก!! แผ่นดินไหวขนาด 4.5 แมกนิจูดที่จังหวัดพิษณุโลก ผู้ว่าฯ สั่ง ปภ.สำรวจความเสียหายโดยเฉพาะอำเภอบางกระทุ่ม และตัวเมือง เบื้องต้นยังไม่รับรายงานความเสียหาย จับตา After Shock พร้อมตั้งวอร์รูม ณ ที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่ม

(29 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเวลา 00.33 น. มีรายงานแจ้งว่ากองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว แจ้งเกิดเหตุแผ่นดินไหว บริเวณตำบลไผ่ล้อม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก เมื่อเวลา 00.17 น. ขนาด 4.5 แมกนิจูด ความลึก 5 กิโลเมตร โดยสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ เรื่องเกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณตำบลไผ่ล้อม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ที่ละติจูด 16.558 องศาเหนือ ลองจิจูด 100.368 องศาตะวันออก ขนาด 4.5 แมกนิจูด ความลึก 5 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร และจังหวัดกำแพงเพชร

รายงานข่าวแจ้งว่า ในเขตอำเภอเมืองพิจิตร หลายตำบลได้รับรู้แรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวครั้งนี้ จุดศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอบางกระทุ่มจังหวัดพิษณุโลก พื้นที่ใกล้เคียง อำเภอเมืองพิจิตร

นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอขณะกำลังเกิดแผ่นดินไหวในตัวเมืองพิษณุโลกหลายจุด อาทิ บริเวณวังปลาหน้าวัดโพธิญาณ บริเวณแม่น้ำน่านฝูงปลาจำนวนมากพากันแตกตื่นจนผิวน้ำกระเพื่อมอย่างเห็นได้ชัดเจน และมีผู้ใช้ติ๊กต๊อก isyou_55 ขณะตนเองและแฟนสาวกำลังพักผ่อนอยู่ภายในบ้านแต่ต้องตกใจสุดขีด เพราะรู้สึกว่าบ้านนั้นสั่นไหวเป็นอย่างมาก และน้องแมวที่นอนอยู่บนโซฟาก็รับรู้ได้เช่นกัน ขณะที่พี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลกหลายคนก็มีการพูดถึงเรื่องแผ่นดินไหวครั้งนี้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในชีวิต

ด้าน นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโ ลก นั้นเกิดขึ้นเมือเวลา 00.17 วันที่ 29 มิ ย.ที่ผ่านมา ขณะหนี้ได้สั่งการให้ทุกอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วนแล้ว และให้รายงานเข้ามาในช่วงเข้าของวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตของ อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งมีอาคารสูงจึงได้สั่งการให้เทศบาลนครพิษณุโลกและเทศบาลเมืองอรัญญิก เร่งสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วน และมีการเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่องที่จะเกิดอาฟเตอร์ช็อก แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังไม่มีการเกิดอาฟเตอร์ช็อค สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือการติดความความเสียหายที่เกิด ขึ้นพยายามไม่ไห้ประชาชนในพื้นที่ตื่นตระหนกอีกด้วย พร้อมกับตั้งวอร์รูม ณ ที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่มเพื่อช่วยเหลือประชาชน
 

‘ก้อย อรัชพร’ เลิกกับ ‘นิกกี้ ณฉัตร’ แต่ก็ยังช่วยกันดูแล ‘น้องไนล่า’ ย้ำ ไม่ได้เลี้ยงแบบหมา แต่เลี้ยงแบบลูก

แม้ว่าจะเลิกรากันไปแล้ว แต่อดีตคู่รักอย่าง นิกกี้ ณฉัตร และ ก้อย อรัชพร ก็ตัดสินใจช่วยกันดูแลน้องหมา “ไนล่า” เหมือนเดิม เพราะรักและผูกพันเหมือนลูกคนหนึ่ง แต่ไม่วายเจอดราม่า คนมาว่า สาวก้อย กั๊กความสัมพันธ์ นิกกี้ ไม่ยอมคืนน้องหมาไปทั้งที่เลิกกันไปแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว

ดราม่าเรื่องน้องหมา ที่หลายคนมองว่ายังไปเจอ “นิกกี้” ถูกตีความไปเองโดยที่ยังไม่ได้ฟังเรา? “อ๋อ จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ก้อยคุยกับพี่นิกกี้ชัดเจนตั้งแต่วันที่เราตัดสินใจแยกกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง คิดว่าไม่ได้ดราม่าอะไร ก้อยคิดว่ามันเป็นเรื่องปัจเจกมาก บางคนอาจจะมองว่าความสัมพันธ์ยื้อยึง”

“แต่ก้อยกับพี่นิกกี้ได้คุยกันชัดเจนมากๆ แล้วว่านี่คือทางร่วมและการตัดสินใจร่วมกัน อย่างที่บอกคือก้อยไม่ได้เลี้ยงน้องหมาตัวนึงแบบหมา ก้อยเลี้ยงเขาแบบลูกและเราทั้งคู่ต่างมีความสุขที่ให้เขาได้อยู่กับเราทั้งคู่ ถึงแม้ผ่านวันที่ดราม่ามาก็ยังได้คุยกันว่า เราก็เดินต่อทางนี้แหละเพราะนี่คือเส้นทางที่เราทั้งคู่ตัดสินใจแล้ว”

เราทั้งคู่ทำใจแล้วว่าต้องมีเรื่องทำนองนี้ออกมา? “ใช่ๆ เราเลือกสิ่งที่เรารักเป็นที่ตั้ง นั่นคือ “ไนล่า” อาจจะมีคนที่ไม่ได้เข้าใจในความสัมพันธ์ของเราซึ่งนั่นก็ไม่เป็นไร พอเกิดดราม่าเรามาคุยกันมันก็ยังเป็นในรูปแบบเดิม มันคือสิ่งที่เราตัดสินใจกันถึงความรักที่เรามีต่อน้อง มันก็เลยไม่ได้มีอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าใจในความสัมพันธ์แบบนี้ แต่ละคนก็มีแนวทางที่ไม่เหมือนกัน ก็เข้าใจได้ค่ะ”

จริง ๆ มันกระทบไหมกับคอมเมนต์ด้านลบที่มาวิจารณ์เรา? “ตอนนั้นที่หนูเลือกที่จะพูดออกไป เพราะปกติคอมเมนต์ด้านลบมันมีมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ทีนี้มันจะมีไอจีของน้องหมา ซึ่งสำหรับหนูมันเป็นไอจีบริสุทธิ์ น้องหมาก็วิ่งเล่นทุกวันก็จะมีคนเข้ามารุมใส่ลบๆ แต่ก็คือรุมด่าหนูแหละส่วนใหญ่ แต่มาลงในช่องไอจีนี้ คือพลังลบในชีวิตมันมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว”

“แต่เรารู้สึกว่าพื้นที่นี้มันเป็นพลังบวกของเรา มันเหมือนไปโดนเส้นเรา จริงๆ พลังงานลบเข้ามาในชีวิตหนูมันไม่น้อยอยู่แล้ว แต่ ณ เส้นนั้นมันคือพลังบวกของหนู เราก็เลยเอาซะเลย เป็นแค่โมเมนต์เดียว แค่พอผ่านโมเมนต์นั้นมันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หนูคือคนที่เข้าใจได้ว่าหนูทำสิ่งนี้เพื่ออะไร ทำไปทำไม ถ้าคนที่เรารู้จัก เรารัก เราเคยคุยสิ่งนี้ไปแล้วมันก็ตามนั้น”

หนียังไงก็ไม่พ้น? “ทุกคนแหละ ไม่ใช่แค่ก้อย ไม่ใช่แค่คนที่อยู่ในวงการ ทุกคนไม่สามารถทำให้ใครเข้าใจเราได้เสมออยู่แล้ว ตอนนั้นมันองค์ประธานไง มันคือความน่ารักแต่ก็มีมาแบบแน่นๆ แน่นเดียวไม่พอ แน่นไม่หยุด เราก็เลยคิดในหัวว่าหรือเขาต้องการ การสื่อสารบางอย่างจากเรา ก็เลยสื่อสารบางอย่างกลับไป แต่เราสื่อสารสิ่งนั้นไปก็ไม่ได้ช่วยอยู่ดี เราไม่สามารถทำให้เขาเข้าใจได้ ก็โนพอยท์อยู่ดี แต่ก็อาจจะทำให้บางคนเข้าใจมากขึ้น”

เราทั้งคู่มองข้ามดราม่า? “โห เราเจอกันมาไม่น้อยอ่ะ ทั้งหนู ทั้งพี่นิกกี้ ยิ่งผ่านมาเราก็ยิ่งได้รู้ว่าพื้นที่ไหนคือพื้นที่ที่เรารัก พื้นที่ไหนที่เราหวังดีต่อกัน เราคิดดี คิดทุกอย่างบวก แล้วเราเลือกแล้วว่ามันคือการตัดสินใจของเรามันก็แค่นั้นเอง”

‘จิ๊บ ศศิกานต์’ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีการทำร้ายร่างกายผู้หญิง พร้อมชวนทุกคนร่วมกันต่อสู้ เพื่อให้ความรุนแรง-ทำร้ายร่างกายหมดไป

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ (จิ๊บ) อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขตบางแค ภาษีเจริญ หมายเลข 7 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ กรณีการทำร้ายร่างกายผู้หญิง โดยได้ระบุว่า ...

ในฐานะลูกผู้หญิง.. 
การถูกทำร้ายร่างกายจากคนที่เรารัก คือความเจ็บปวด
การถูกทำร้ายร่างกายจากคนที่สังคมเชิดชู คือ จุดเริ่มต้นแห่งหายนะของสังคม
ขอเชิญชวนทุกคน ร่วมกันต่อสู้เพื่อให้การใช้ความรุนแรงและการทำร้ายร่างกายต่อสตรีให้หมดไปจากสังคม เพราะฝันร้าย ต้องอยู่กับผู้กระทำ ไม่ใช่ผู้ถูกกระทำ.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top