Wednesday, 21 May 2025
NewsFeed

‘มะกัน’ กลับลำ!! ตราหน้า ‘จีน’ ต้นเหตุโควิดระบาด แม้ภายในสหรัฐฯ ยังไร้ข้อยุติ หลุดจากแล็บอู่ฮั่นจริงหรือไม่

(27 ก.พ. 66) จีนปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่า โรคระบาดใหญ่โควิด-19 มีสาเหตุจากการรั่วไหล หลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการหนึ่งของปักกิ่ง ภายหลังสื่อมวลชนตะวันตก รายงานกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สรุปแล้วว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุด ว่ากรณีนี้จะเป็นต้นตอของโรคระบาด ทั้งที่ทางทำเนียบขาวและประชาคมข่าวกรองของอเมริกายังไม่ฟันธงในเรื่องนี้

ข้อสรุปดังกล่าว ซึ่งบันทึกอยู่ในรายงานลับสุดยอดของสำนักงานของนางแอฟริล เฮนส์ (Avril Haines) ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ตามรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ถือเป็นการกลับลำของกระทรวงพลังงานอเมริกา ที่ก่อนหน้านี้ เคยระบุว่ายังไม่ได้ข้อสรุปว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ปรากฏตัวขึ้นมาได้อย่างไร

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลและนิวยอร์กไทม์ส รายงานอ้างผู้คนที่ได้อ่านรายงานลับสุดยอดดังกล่าว ระบุกระทรวงพลังงานลงความเห็นในเรื่องนี้ภายใต้ ‘ความเชื่อมั่นระดับต่ำ’ เป็นการตอกย้ำว่าหน่วยงานต่าง ๆ ยังคงมีความเห็นแตกแยกกันเกี่ยวกับแหล่งที่มาของโควิด-19 และโรคระบาดใหญ่ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกในช่วงต้นปี 2020

อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ซึ่งว่ากันว่ามีพื้นฐานจาก ‘ข้อมูลข่าวกรองใหม่’ ก็ยังนับว่ามีนัยสำคัญ เนื่องจากกระทรวงพลังงานนั้น กำกับดูแลเครือข่ายห้องปฏิบัติการแห่งชาติ รวมถึงห้องแล็บบางแห่ง ซึ่งทำการศึกษาวิจัยด้านชีวภาพในระดับก้าวหน้า

ข้อสรุปนี้ ทำให้กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ที่เชื่อว่า โควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตประชากรโลกไปเกือบ 7 ล้านคน มีต้นตอจากความผิดพลาดในห้องแล็บของจีน ซึ่งทำให้เชื้อไวรัสรั่วไหลออกมาสู่ภายนอก

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด จอห์น เคอร์บี (John Kirby) โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เมื่อวันจันทร์ (27ก.พ. 66) ที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงไม่บรรลุความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าโรคระบาดใหญ่ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร แม้มีรายงานข่าวอ้างกระทรวงพลังงาน สรุปว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุด ว่าไวรัสจะหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการหนึ่งในจีน

“ประชาคมข่าวกรองและหน่วยงานที่เหลือของรัฐบาล ยังคงตรวจสอบเรื่องนี้” นายจอห์น เคอร์บีกล่าว

“ยังไม่มีข้อสรุปอย่างชัดเจน ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะพูด หรือผมควรรู้สึกเช่นไร ที่ผมต้องออกมาปกป้องรายงานข่าวของสื่อมวลชน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของข้อบ่งชี้ในเบื้องต้น สิ่งที่ประธานาธิบดีต้องการคือ ข้อเท็จจริง”

โพลิติโก (Politico) เว็บไซต์ข่าวการเมืองสหรัฐฯ รายงานด้วยว่า มีหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่น ๆ หลายแห่ง ที่เห็นแย้งกับข้อสรุปของทางกระทรวงพลังงาน โดย 4 หน่วยงานลงความเห็นภายใต้ ‘ความเชื่อมั่นระดับต่ำ’ ว่า ไวรัสติดต่อโดยธรรมชาติผ่านสัตว์ ส่วนอีก 2 หน่วยงาน ในนั้นรวมถึง ซีไอเอ (CIA) ยังไม่ลงความเห็นในข้อสรุประหว่าง 2 ทฤษฎีแหล่งที่มาของโควิด-19

นายเจค ซัลลิแวน (Jake Sullivan) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว เน้นย้ำว่า ยังคงมีมุมมองในหลากหลายในประเด็นนี้

“ในตอนนี้ ยังคงไม่มีคำตอบอย่างชัดเจนที่ปรากฏออกมาจากประชาคมนานาชาติ ในเรื่องเกี่ยวกับคำถามดังกล่าว” นายเจค ซัลลิแวน กล่าวกับซีเอ็นเอ็น

ในส่วนของจีน ได้ออกมาปฏิเสธอีกรอบ โดย นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เรียกร้องให้ “หยุดโหมกระพือคำกล่าวอ้างว่า โควิดมีต้นตอจากการรั่วไหลออกมาจากห้องปฏิบัติการ หยุดป้ายสีจีน และหยุดเล่นการเมืองในประเด็นแกะรอยหาแหล่งที่มาโควิด”

นางเหมา หนิง กล่าวระหว่างแถลงข่าวอีกว่า “ข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ ที่ร่างโดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญร่วมจากจีนและองค์การอนามัยโลก ไม่พบความเป็นไปได้ของการรั่วไหลหลุดจากห้องปฏิบัติการ”

‘ธนกร’ ปัด ‘รทสช.’ อยู่เบื้องหลังพาชูวิทย์บุกทำเนียบ ชี้!! ที่ผ่านมา ก็วิจารณ์นายกฯ มาตลอด 1 ปี

(28 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้ายื่นหนังสือกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ทำเนียบรัฐบาล หลายฝ่ายมองว่าเป็นเกมการเมือง ว่า ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค รทสช. ต้องมองว่าที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 1 ปี นายชูวิทย์ก็วิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาโดยตลอด นายกฯ ก็ไม่เคยตอบโต้เลย ตนเองก็รู้จักกับนายชูวิทย์ เดินสวนกันไปมาหลายครั้ง ก็ไม่เคยโกรธ เพราะนายชูวิทย์ก็ทำหน้าที่ของเขา ดังนั้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคด้วย ว่าพรรค รทสช.ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง หรือไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายชูวิทย์ ต่างคนต่างมีหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ติดใจตรงที่นายพีระพันธุ์ มารับหนังสือจากนายชูวิทย์ด้วยตัวเอง นายธนกร กล่าวว่า นายพีระพันธุ์มารับหนังสือในฐานะเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งความจริงไม่มีอะไร และหากย้อนดู หลายเรื่องที่นายชูวิทย์พูดก็มีประโยชน์ ซึ่งรัฐบาลก็ดำเนินการมาตลอด ตรงไหนที่ยังไม่ได้ทำ เราก็จะดำเนินการ

“เรื่องนี้อย่าไปคิดว่าพรรคไหนอยู่เบื้องหลัง และความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกับนายกรัฐมนตรี ก็ดีมาตลอด ไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ให้เกียรติซึ่งกันและกันมาโดยตลอด เรื่องนี้ต้องแยกออกจากกัน การวิพากษ์วิจารณ์ของนายชูวิทย์ เป็นสิ่งที่เขาสามารถทําได้ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกผม” นายธนกร กล่าว

แม่ทัพภาคที่ 3 ประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ

ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลโท สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ร่วมประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ประจำปี 2566 เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคง ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงต่อประชาชนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม 

ซึ่งแนวโน้มการบุกรุกพื้นที่ป่าและรับรอบการตัดไม้ทำลายป่า ยังคงมีความรุนแรงทำให้พื้นที่ป่าลดลงอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อสมดุลทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยรวม ทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีความรุนแรงมากขึ้น ปัญหาด้านยาเสพติดซึ่งยังคงความรุนแรง โดยพื้นที่ภาคเหนือด้านจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ยังคงเป็นพื้นที่นำเข้าหลักและเป็นทางผ่านของยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใดของประเทศ ส่งผลให้ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดยังคงความรุนแรงต่อเนื่อง และด้านแรงงานต่างด้าวและผู้รับรอบเข้าเมือง 

แนวโน้มแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาที่ขาดคุณสมบัติและมีข้อจำกัดในการดำเนินการจะยังคงลักลอบเข้าเมืองเพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะถูกจับกุมและผลักดันกลับประเทศแต่ยังคงความพยายามลักลอบหลบหนีเข้ามาใหม่ โดยส่วนใหญ่พบในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตลอดจนภัยสังคมในรูปแบบต่าง ๆ 

ปส. ร่วมกับจว.พระนครศรีอยุธยา บุกค้น 8 จุด ในจว.พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี จับแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ตามยึดทรัพย์กว่า 100 ล้านบาท

(28 ก.พ. 66) เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำหมายค้นของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าบุกค้นบ้านนายชัยวัตร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังมีความเชื่อมโยงกับแก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง ไอซ์เกือบ 300 กิโลกรัม เมื่อปลายปี 2565

ในเวลา 10.00 น พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบวงศ์สุข ผช.ผบ.ตร/รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร, พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาร่วมแถลงข่าวการจับกุมกลุ่มเครือข่ายผู้ายาเสพติดรายใหญ่ 3 เครือข่าย ตั้งแต่ เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา คือ

1.) เครือข่ายนายฮ้อยทมิฬ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 จับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 7,000,000 เม็ด ในพื้นที่ จว.พระนครศรีอยุธยาและพื้นที่ใกล้เคียงหลายจุด พร้อมยึดทรัพย์ 11 ล้านบาท
2.) เครือข่ายรถบรรทุกโลจิสติกส์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 พนักงานของบริษัทรับขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ 1 คน พร้อมยาบ้า 2,000,000 เม็ด ได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ จว.ลำปาง และ 3. จว.ลำปาง ต่อเนื่อง อยุธยา
3.) เครือข่ายหนองตาโล่ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2565 เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมกลุ่มลำเลียงยาเสพติด 3 รายพร้อมไอซ์ 279 กิโลกรัม ในพื้นที่ จว.พัทลุง ก่อนจะขยายผลออกหมายจับเครือข่ายเพิ่ม 2 ราย คือ ผู้สั่งการ และผู้ทำหน้าที่ส่งมอบยาเสพติดให้กับกลุ่มผู้ต้องหา และตรวจคันจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคกลางอีก 6 จุดซึ่งในระหว่างวันที่ 20 - 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 สามารถขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คดีข้างตัน จำนวน 9 หมาย พร้อมเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจคันพื้นที่เพื่อจับกุมบุคคลตามหมายจับ 20 จุด ในพื้นที่จังหวัดเซียงใหม่, เขียงราย, ตาก, สระบุรี และ พระนครศรีอยุธยาเบื้องต้น สามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ 4 ราย และตรวจยึดอายัดทรัพย์สินที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดเพื่อนำมาตรวจสอบหลายรายการ อาทิ เงินสด, รถยนต์, รถตู้, รถแทรกเตอร์, รถประจำทาง,รถจักรยานยนต์, ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และโฉนดที่ดิน รวม 60 รายการ มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 100 ล้านบาท

‘เสี่ยหนู’ ตอบปมพิพาท ‘ชูวิทย์’ เชื่อ ปชช.แยกแยะได้ เผย รู้ตัวคนอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่พูด ลั่น!! ทำงานดีกว่า

(28 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีพิพาทกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ว่า…

“ทำงานดีกว่า ไม่ให้ราคา ก็คือไม่ให้ราคา”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบหรือไม่ว่า ใครอยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนของนายชูวิทย์ นายอนุทิน ตอบว่า รู้ แต่ไม่พูด

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แล้วจะจัดการนายชูวิทย์อย่างไร นายอนุทินตอบว่า เห็นคนจะปองร้าย ก็ต้องหลบ ไม่ปะทะ

“มาถึงจุดนี้ ผมเชื่อว่าประชาชนมองออกว่าอะไรเป็นอะไร”

เมื่อถามถึงเรื่องที่นายชูวิทย์พาดพิงนายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทินตอบว่า ท่านก็ยังตกใจ เพราะก็อยู่บ้านดี ๆ เอาเข้าจริงพวกเราไม่เคยสู้กับใคร ทำงานอย่างเดียว

‘ก้าวไกล’ บุกศูนย์ร้องเรียนฯ ยื่นหลักฐานปมทุจริตบ้านพักทหาร ตามคำท้าของ ‘บิ๊กตู่’ จี้ หากยังนิ่งเฉย พร้อมยกระดับกดดัน

(28 ก.พ. 66) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ยื่นหลักฐานกรณีทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหาร ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่เหตุกราดยิงโคราชเมื่อปี 2563 สืบเนื่องจากการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ที่นายปดิพัทธ์อภิปรายประเด็นดังกล่าว และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท้าให้ส่งหลักฐาน

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ในการอภิปรายมาตรา 152 ที่ผ่านมา ตนได้เปิดเผยหลักฐานที่ส่วนใหญ่มาจากผู้เสียหาย คือ คุณก้อยและคุณเบิร์ด (นามสมมุติ) ว่า การทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหาร มีการเรียกรับสินบน 5% และอมส่วนต่างค่าบ้าน จนนำไปสู่ความกดดันของทหาร ทำให้เกิดเหตุกราดยิงโคราช เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ภายในกองทัพ แต่ไม่มีการลงโทษใด ๆ

เมื่อคุณก้อยยื่นหลักฐานไปยังกรมสวัสดิการทหารบกและกระทรวงกลาโหม ก็ปรากฎว่าไม่ได้รับความยุติธรรม มีการลงโทษผู้กระทำผิดเพียงงดบำเหน็จครึ่งปี ส่วนอีกคนหนึ่งกักตัวแค่ 7 วัน ทำให้เราเห็นถึงความไม่ชอบธรรม ทั้งที่ผู้บัญชาการทหารบกน่าจะรับรู้เรื่องทั้งหมด และการที่โครงการบ้านพักทหารเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 และสิ้นสุดโครงการในปี 2564 เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี เป็นช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประยุทธ์จึงควรมีส่วนรับผิดชอบด้วย

อย่างไรก็ตาม ผ่านมากว่า 2 สัปดาห์หลังการอภิปรายมาตรา 152 นายกฯ ยังคงไม่มีคำตอบในเรื่องนี้ กลับท้าว่าหากมีหลักฐานให้นำมายื่น ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้เสียหายพยายามยื่นเรื่องไปยังทุกช่องทางของกองทัพแล้ว การมาที่นี่วันนี้ จึงเป็นการพิสูจน์รอบสุดท้ายว่านายกฯ ได้รับเรื่องร้องเรียน และหวังว่าหลักฐานจะถึงมือนายกฯ

อัปเดต ไทม์ไลน์ 'เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5'

สายเที่ยวห้ามพลาด!! เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนแล้ว โดยรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรม/ที่พัก 40% จำนวน 560,000 สิทธิ์ (ห้อง/คืน) เข้าพักได้ 10 มี.ค.ถึง 30 เม.ย.นี้

‘ตร.’ เปิดปฏิบัติการ ‘อินทรชิตแผลงศร’ รวบกลุ่มบิ๊กค้ายา พร้อมทรัพย์สินกว่าร้อยล้าน

(28 ก.พ. 66) ตำรวจเปิดปฏิบัติการ ‘อินทรชิตแผลงศร’ ขยายผลปิดล้อมจับกุม 3 เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 20 จุด ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส. พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ป.ป.ส. และ นายนิโคลัส เจ.วิลส์ หัวหน้าสำนักงาน DEA กรุงเทพมหานคร ร่วมกันแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุม 3 เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ เมื่อปี 2565 ได้แก่

เครือข่ายนายฮ้อยทมิฬ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 จับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 7,000,000 เม็ด ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ใกล้เคียงหลายจุด พร้อมยึดทรัพย์ 11 ล้านบาท หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลออกหมายจับและจับกุมกลุ่มผู้สั่งการในพื้นที่ภาคเหนือ 3 ราย ยึดทรัพย์สินอีก 35 ล้านบาท

เบื้องต้นสามารถออกหมายจับบุคคลในเครือข่าย 4 คน คือ กลุ่มผู้สั่งการในพื้นที่ภาคเหนือ 2 ราย เข้าตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จุด และออกหมายจับกลุ่มรับยาเสพติด ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง 2 ราย เข้าทำการตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคกลาง 2 จุด

เครือข่ายรถบรรทุกโลจิสติกส์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 พนักงานของบริษัทรับขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ 1 คน พร้อมยาบ้า 2,000,000 เม็ด ได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ จ.ลำปาง หลังนำยาเสพติดซุกซ่อนปะปนไปกับพัสดุอื่น ๆ ก่อนจะลำเลียงไปส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ตอนใน และขยายผลจับกุมผู้รับยาเสพติดปลายทางได้ทันที 1 ราย ในปฏิบัติการครั้งนี้ขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่าย 3 ราย คือ ผู้สั่งการ 1 ราย และผู้ที่นำยาเสพติดมาส่งให้ผู้ต้องหาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 2 ราย เข้าทำการตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 7 จุด จังหวัดลำปาง ต่อเนื่อง จังหวัดอยุธยา

‘ผอ.CIA’ เย้ย ‘จีน’ ยากยึดไต้หวันภายในปี 2027 ฟาก ‘จีน’ เชื่อ!! ไต้หวัน ไม่เหมือน ยูเครน!!

(28 ก.พ. 66) ไม่นานมานี้ วิลเลียม เบิร์นส ผู้อำนวยการสำนักหน่วยข่าวกรองสหรัฐ (CIA) ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ (26 ก.พ. 66) ว่า สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่เตรียมจะยกพลบุกไต้หวันอย่างแน่นอนภายในปี 2027 นั้น เริ่มกังวลถึงแสนยานุภาพของกองทัพจีนว่าจะทำสำเร็จหรือไม่?

แม้ทุกคนรู้ว่า จีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และต้องการผนวกดินแดนอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2027 ในยุคสมัยของ สี จิ้นผิง แต่สิ่งที่ ผอ. CIA คนนี้ได้ตั้งข้อสงสัยว่า หาก สี จิ้นผิง มีความคิดที่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดครองไต้หวันจริง ๆ ผู้นำจีนจะยังมั่นใจอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ ที่กองทัพจีนจะสามารถยึดไต้หวันได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจ 

เพราะจากตัวอย่าง สงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’ ที่ผ่านมา ซึ่งเคยคาดว่า กองทัพรัสเซียจะสามารถยึดเมืองเคียฟได้อย่างง่ายดาย แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปเสียแล้ว จากความช่วยเหลือด้านอาวุธของสหรัฐฯ และพันธมิตรชาติตะวันตก ที่เสริมให้กองทัพยูเครนมีศักยภาพเพียงพอที่จะยื้อการสู้รบกับกองทัพรัสเซียได้นานเป็นปี และสร้างความบอบช้ำให้กับรัสเซีย ทั้งในด้านการทหาร และเศรษฐกิจอย่างมาก 

ผ.อ. CIA ผู้นี้ได้ให้สัมภาษณ์ย้ำชัดอีกว่า จากผลลัพธ์ของสงครามในยูเครน รัฐบาลสหรัฐฯ ก็จะไม่ยอมให้จีนยกกองทัพรุกรานไต้หวันอย่างเด็ดขาด และพร้อมจะใช้กำลังทางทหารเข้าแทรกแซงเหมือนกัน ถ้าเป็นสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว 

วิลเลียม เบิร์นส มั่นใจ ว่าหากสหรัฐอเมริกาแสดงจุดยืนแข็งกร้าวกับจีนในข้อพิพาทไต้หวัน จะทำให้จีนต้องกลับมาประเมินศักยภาพกองทัพตัวเองใหม่ เพราะการเปิดศึกครั้งนี้ จะไม่ง่ายอย่างที่รัฐบาลจีนคิดอีกต่อไป 

ความขัดแย้งระหว่างจีน และไต้หวัน เกิดขึ้นในปี 1949 เมื่อกองทัพคอมมิวนิสต์จีน ของ เหมา เจ๋อตุง ชนะสงครามกลางเมืองและจัดตั้งรัฐบาลกลางที่กรุงปักกิ่ง พรรคก๊กมินตั๋งของ เจียง ไคเช็ก จึงลี้ภัยมาจัดตั้งรัฐบาลของตนเองบนเกาะไต้หวัน 

แล้วหลังจากนั้น ต่างฝ่ายต่างก็ประกาศตนเป็นตัวแทนของรัฐบาลจีนใหญ่บนเวทีโลก แต่สุดท้ายในปี 1978 องค์การสหประชาชาติได้ประกาศรับรองรัฐบาลปักกิ่งเป็นรัฐบาลจีนเดียว ตามมาด้วยการถอนการรับรองสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในสมัยของประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์ ที่ทำให้ไต้หวันถูกลดบทบาท กลายเป็นดินแดนปกครองตนเองที่ถูกจีนอ้างสิทธิ์เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายจีนเดียวนับแต่นั้นมา

‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ภัยทันสมัยในม่านควัน หรือวาทกรรมที่ถูกปั้นเพื่อให้คนกลัว

“...แวดวงนักกลืนควันในอดีต เวลาจุดบุหรี่สูบก็ต้องสูบให้หมดมวน แต่บุหรี่ไฟฟ้าสูบคำสองคำก็พอ ทำให้ลดการสูบลง” คือคำพูดของเด็กหนุ่มใกล้ตัวที่คุยกับผม ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ได้รับความนิยมอย่างสูงในแวดวงนักกลืนควันวันนี้ ทั้งที่รู้อยู่เต็มบอกว่ามันก็มีอันตรายไม่แตกต่างจากบุหรี่ (จริง)

บรรพบุรุษของบุหรี่รุ่นแรกมีหน้าตาค่อนไปทางซิการ์ คือ มวนโตและห่อพัน (ใบยาสูบ) ด้วยใบยา (อีกที) และดูเหมือนจะมีมาก่อนในดินแดนเม็กซิโกและอเมริกากลาง ราวศตวรรษที่ 9 ซึ่งก็คือบริเวณที่ชาวมายาและแอซเท็กเริ่มสูบยา รวมถึงใบยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทกับพิธีกรรมทางศาสนา โดยพบหลักฐานภาพวาดบนเครื่องปั้นดินเผาและภาพแกะสลักบนวิหาร เป็นภาพนักบวชหรือเทพเจ้ากำลังสูบบุหรี่ ซึ่งทั้งซิการ์กับบุหรี่คือ วัฒนธรรมของชนชาวพื้นเมืองแถบแคริบเบียน, เม็กซิโก, อเมริกากลาง และใต้ ก่อนเผยแพร่ไปทั่วโลกเพียงไม่กี่ทศวรรษ

“สูบบุหรี่แก้ขวย ช่วยเข้าสังคม” คือคำโฆษณาจากรัฐบาลยุคมาลานำไทย เชิญชวนให้คนสูบบุหรี่ (ซึ่งเป็นกิจการของรัฐ) นัยว่าช่วยพัฒนาประเทศทางอ้อม ด้วยภาพลักษณ์ของการสูบบุหรี่ยังดูโก้เก๋ ทันสมัย มีอารยะ

คนไทยโบราณไม่ว่าหญิงหรือชายจะมีของติดตัวกันแทบทุกคน สำหรับสตรีไทย คือ ‘กระทายหมาก’ หรือ ‘เชี่ยนหมาก’ ส่วนของบุรุษก็คือ ‘กลักบุหรี่’ หรือ ‘กระป๋องใส่บุหรี่’ ที่ยังไม่ได้มวนพร้อมสูบ สมัยนั้นเวลาจะสูบบุหรี่สักที ก็ต้องนั่งมวนต่อมวน แล้วจุดด้วยไฟที่เกิดจากการตี ‘หินเหล็กไฟ’ จนเกิดประกายติดใส่นุ่นในหลอดที่มีพร้อมอยู่ข้างกาย จึงจะได้สูบบุหรี่สำเร็จได้ดังใจนึก

บุหรี่หรือยาสูบ เคยถูกใช้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนควบคู่กับ ‘หมาก - พลู’ โดยเห็นได้จากคำกล่าว “หมากพลู บุหรี่” รับแขกบนชานเรือนของตน ก่อนการแพทย์และสาธารณสุขจะล่วงรู้ถึงภัยร้ายของควันบุหรี่ จนกระทั่งสังคมก็เริ่มเสื่อมความนิยมต่อ ‘บุหรี่’ ลงเป็นลำดับ

แต่หากดูตามสถิติ ‘นักสูบหน้าใหม่’ ก็ยังเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยหันหาสิ่งที่เรียกว่า ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ มากขึ้น ๆ และด้วยความเชื่อว่า ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ มีภัยต่อร่างกายน้อยกว่า ‘บุหรี่’ จริง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top