Friday, 16 May 2025
NewsFeed

‘ชัยวุฒิ’ ยก ‘ดิว อริสรา’ ตัวอย่างพลเมืองดี-กล้าหาญ หลังแฉกลุ่ม ‘มาเก๊า 888’ วอน ‘ตำรวจ’ ดูแลความปลอดภัย

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม เปิดเผยว่า ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้นโยบายให้เร่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ รวมถึงการพนันออนไลน์ ก็ต้องขอบคุณ ทางสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ท่าน พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ท่านพล.ต.ท ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร.พล.ต.ท วรวัฒน์วัฒน์ นครบัญชา เเละทีมตำรวจไซเบอร์ทุกๆ ท่าน ที่เปิดปฏิบัติทลาย ขบวนการ มาเก๊า 888 ซึ่งก็เป็นพนันออนไลน์เจ้าใหญ่ ที่สําคัญต้องขอบคุณ น้องดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ ซึ่งเป็น อินฟลูเอนเซอร์ เป็นดารา และช่วยแจ้งเบาะแสร้องเรียน จนเป็นที่มาของการทลายบ่อนออนไลน์ มาเก๊า 888 น้องดิว ถือว่าเป็นพลเมืองดี เป็นบุคลตัวอย่าง ที่น่ายกย่อง และเสียสละกล้าที่จะให้ข้อมูล อันนี้สำคัญมากครับ แล้วให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ในการทําคดี ผมขอฝากเจ้าหน้าที่ตํารวจไปดูแลความปลอดภัยให้กับน้องดิวด้วย เพราะว่าพลเมืองดีที่ไม่ค่อยกล้าแจ้งเบาะแสเพราะกลัวขบวนการเหล่านี้ เพราะว่าการไปบอกอะไรเกี่ยวกับพวกบ่อน เหมือนมาเฟียก็เป็นผู้มีอิทธิพลมันก็อาจจะมาทําร้าย ทําลายครอบครัว 

'จ๊ะ นงผณี' โพสต์เดือด กรณี 'เอ๊ะ จิรากร' โดนต่อย เผย เคยโดนสาดเบียร์ใส่ แต่ตนเขวี้ยงกระป๋องเบียร์กลับ

(6 ก.พ. 66) กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในแวดวงศิลปินเลยทีเดียว หลังจากที่ 'เอ๊ะ จิรากร สมพิทักษ์' นักร้องชื่อดัง ถูกชายใส่เสื้อขาว เมาอาละวาด สาวหมัดใส่หน้า ระหว่างร้องเพลงในผับแห่งหนึ่ง โดย เอ๊ะ จิรากร เตรียมแจ้งความหนุ่มรายดังกล่าวในวันที่ 7 ก.พ. นี้

ล่าสุด 'จ๊ะ นงผณี มหาดไทย' ก็ได้ออกมาเปิดใจผ่าน facebook ส่วนตัว 'นงผณี มหาดไทย' ถึงกรณีดังกล่าว วอนให้เกียรติกัน เพราะศิลปินก็คน ก่อนเล่าว่าตัวเองก็เคยโดนเอาเบียร์สาด แต่แรงมาแรงกลับจ้า

“ศิลปิน ก็คือ คนนะคะ.. ให้เกียรติกันบ้าง อย่าหาทำอะไรแรง ๆ เลย ให้คิดไว้เสมอ เราไม่ชอบอะไร ก็อย่าไปทำแบบนั้นกับใคร!!! ส่วนทีมจ๊ะ แรงมา แรงกลับ ตำนานคนข้างหน้าเวทีสาดเบียร์ใส่ฉัน แล้วฉันเอากระป๋องเบียร์ปาหัวเขากลับ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ฉันบอกเลย ตั้งแต่มีคลิปนั้นออกไป ฉันไม่ค่อยได้เจอ คนแรง ๆ หน้าเวทีเลย มีบ้างที่ปากไม่ดี มั่นหน้า ด่าฉันหน้าเวที แต่ฉันด่ากลับดังกว่าค่ะ เพราะฉันมีไมค์ 😂🤣”

‘ฉลอง เรี่ยวแรง’ ยกครอบครัวซบภูมิใจไทย เผยถูกใจ ‘อนุทิน’ ดำรงไว้ซึ่งมาตรา 112

(6 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 11.50 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค ให้การต้อนรับนายฉลอง เรี่ยวแรง, นางเจริญ เรี่ยวแรง อดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.ปารมี เรี่ยวแรง บุตรสาว ที่มาเปิดตัวเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย

โดย นายอนุทิน กล่าวว่า "พรรคภูมิใจไทยยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทั้ง 3 ท่าน ซึ่งจะเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี ทั้ง 3 ท่าน มีประสบการณ์ทำงาน มีความสนิทคุ้นเคยกับผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยมายาวนาน วันนี้เราดีใจมากที่ท่านนำครอบครัว 'เรี่ยวแรง' มาร่วมงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเชื่อว่า ทั้ง 3 ท่านจะทำงานให้ จ.นนทบุรี ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ล่าสุดพรรคได้รับสำเนาจากคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเดิมของทั้ง 3 ท่าน ได้รับการประทับรับเอกสารเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน นางเจริญ ก็ได้ทำหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส.ในวันนี้ (6 ก.พ. 66) เรียบร้อยแล้วเช่นกัน"

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนที่ทั้ง 3 ท่าน มาเปิดตัวร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ (6 ก.พ. 66) เพื่อความไม่ประมาท เราจึงเชิญท่านมาสมัครวันนี้ เพื่อป้องกันเดดล็อกทางการเมืองเกี่ยวกับเงื่อนไขเวลา 90 วัน ในการสังกัดพรรคการเมือง กรณีหากนายกรัฐมนตรีไม่ประกาศยุบสภา ไม่ได้เป็นการออกปุ๊บเข้าปั๊บ แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยง และการเกิดปัญหาในอนาคต

เมื่อถามว่า จะส่งผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี ครบทั้ง 8 เขตหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อเราได้ผู้ใหญ่อย่างนายฉลอง และนางเจริญ เข้ามาร่วมงานกับพรรค ทำให้การบริหารจัดการ หรือการนำเสนอผู้สมัครท่านอื่น ๆ พรรคจะมอบความรับผิดชอบการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ให้ท่านได้พิจารณาตัดสินใจว่าจะส่งครบทุกเขตหรือไม่ เราเชื่อมือซึ่งกันและกัน

‘บียอนเซ่’ ราชินีเพลงป็อป ชาวอเมริกัน คว้ารางวัล ‘Grammy Awards’ มากที่สุดตลอดกาล

(6 ก.พ. 66) บียอนเซ่ ราชินีเพลงป๊อปชาวอเมริกันทำลายสถิติตลอดกาลของการประกาศผลรางวัลแกรมมี ที่เป็นรางวัลด้านเพลงที่สำคัญของโลก หลังจากที่เธอกวาดรางวัลไปได้ 4 สาขาในปีนี้ ส่งผลให้เธอกลายเป็นศิลปินที่ได้รับรางวัลแกรมมีไปครองมากที่สุดรวมทั้งสิ้น 32 รางวัล

‘บียอนเซ่’ มาร่วมงานประกาศรางวัลแกรมมี่ ครั้งที่ 65 ที่นครลอสแอนเจลิส เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ โดยเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลทั้งหมด 9 สาขา แต่ได้รับรางวัลไปครอง 4 สาขา ได้แก่ รางวัลอัลบัมเพลงแดนซ์/อิเล็กทรอนิกยอดเยี่ยม (Best Dance/Electronic Music Album) จากอัลบั้ม ‘เรอเนสองส์’ (Renaissance), รางวัลบันทึกเสียงเพลงแดนซ์-อิเล็กทรอนิกยอดเยี่ยม (Best Dance/Electronic Recording) จากเพลง ‘เบรค มาย โซล’ (Break My Soul), รางวัลเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม (Best R&B Song) จากเพลง ‘คัฟ อิท’ (Cuff It) และรางวัลการแสดงเพลงอาร์แอนด์บีแบบเทรดิชันนอลยอดเยี่ยม (Traditional R&B Performance) จากเพลง ‘พลาสติก ออฟ เดอะ โซฟา’ (Plastic Off the Sofa)

‘อนุทิน’ ยัน!! โยก ‘หมอสุภัทร’ เป็นเรื่องฝ่ายประจำ ชี้!! อุทธรณ์เป็นสิทธิ ว่ากันไปตามขั้นตอน

‘อนุทิน’ ยันซ้ำโยก ‘หมอสุภัทร’ เป็นเรื่องฝ่ายประจำ รมต.ไม่เกี่ยว ชี้ อุทธรณ์เป็นสิทธิว่าตามขั้นตอน เมิน ‘ก้าวไกล’ หวังใช้โจมตีช่วงอภิปราย ม.152 ห้ามใครพูดไม่ได้ ลั่นต้องยึดกม. แจงปม ‘ป้ายนโยบายผู้สูงอายุ’ แยกระหว่างงานการเมือง กับงานบริหารราชการแผ่นดิน เปรียบเหมือนเป็น ‘แบรนด์แอมบาสเดอร์’ ให้ฟรี อัดกลับอย่ามาเสียเวลากับเรื่องที่ไร้ผลใด ๆ

(6 ก.พ. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการโยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ ไปเป็น ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา ที่มีผลวันที่ 6 ก.พ. 66 ว่า ถ้าตามเอกสารมีผลวันที่ 6 ก.พ. 66 และเท่าที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขรายงานก็เห็นว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามขั้นตอนราชการ ซึ่งตนยังไม่มีเวลาไปติดตาม เพราะว่าไม่ใช่เรื่องของตน เป็นเรื่องของส่วนราชการประจำ

เมื่อถามว่า ได้มีการยื่นคัดค้านมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าจะมีการยื่นคัดค้านมา ก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว ต้องยื่นอุทธรณ์ ซึ่งเป็นสิทธิข้าราชการ ต้องยื่นอุทธรณ์ขึ้นมาเป็นลำดับชั้น ตนคิดว่าเราต้องดูตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าอุทธรณ์ขึ้นมาจะมีระยะเวลากำหนดว่าต้องกี่วัน ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับระดับการเมือง เพราะมาไม่ถึงจริง ๆ ขึ้นมาก็ขึ้นไม่ถึง ลงมาก็ลงไม่ถึง เพราะว่าระบบของส่วนราชการอยู่ภายใต้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าอะไรก็ตามเป็นเรื่องงานบริหารราชการในส่วนข้าราชการประจำ ก็เป็นเรื่องปลัดกระทรวงอยู่แล้ว รัฐมนตรีมอบนโยบายในการทำงานของกระทรวง ไม่ใช่มอบนโยบายในการบริหารบุคคล อันนั้นไม่ใช่หน้าที่รัฐมนตรี ไม่มีสิทธิมอบด้วย

เมื่อถามว่า แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างกรณีพรรคก้าวไกลมองว่าเป็นเรื่องการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ายิ่งมองเป็นเรื่องการเมือง ยิ่งทำให้ความชอบธรรมไม่เกิด เรื่องนี้เป็นเรื่องของข้าราชการประจำ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีวุฒิภาวะ มีดุลพินิจในการบริหารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเต็มตัวอยู่แล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องมาปรึกษาใด ๆ กับฝ่ายการเมือง

ตนขอเรียนย้ำอีกครั้งการหารือในเรื่องของการบริหารงานบุคคล ในส่วนที่ปลัดกระทรวงจะหารือกับทางรัฐมนตรีได้ก็คือ เมื่อมีการเสนอข้าราชการระดับ 10 ขึ้นไป ตรงนั้นรัฐมนตรีมีสิทธิหารือปลัดกระทรวงได้ เพราะรัฐมนตรีเป็นคนลงนาม นำเสนอเพื่อรับการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตรงนั้นถึงจะมีช่องทางพูดคุยกันได้ ในส่วนของข้าราชการที่ต่ำกว่าระดับซี 10 ลงไป ตรงนี้ปลัดกระทรวงไม่จำเป็นต้องมาหารือใด ๆ ฝ่ายนโยบาย 

เมื่อถามว่า จะเป็นประเด็นให้พรรคก้าวไกล นำไปใช้ช่วงอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่สามารถห้ามใครพูดอะไรได้ แต่การชี้แจงต้องเป็นไปตามกฎหมาย บางครั้งไม่ชอบใจในบางเรื่องก็บอกว่ารัฐมนตรีก้าวก่าย บางเรื่องรัฐมนตรีไม่เคยยุ่ง ก็บอกทำไมรัฐมนตรีไม่ลงไปล้วงลูก เพราะฉะนั้น การเถียงแบบนี้มันนานาจิตตัง สิ่งที่ดีที่สุดคือ ต้องยึดตามระเบียบว่าอย่างไรก็ตามนั้น กรณีนี้ในการโยกย้าย ผอ.โรงพยาบาล ถือเป็นระดับซี 9 ไม่มีส่วนไหนที่รัฐมนตรีจะเข้าไปเกี่ยวข้องได้

‘ปตท.’ มุ่งต่อยอด ‘ขยะ’ สู่วัสดุทดแทนที่มีคุณค่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม - สอดคล้อง BCG Model

ปตท. มุ่งพัฒนาศักยภาพ 'ขยะ' ต่อยอดเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ร่วมขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ 3 มิติ (BCG Model) ของประเทศไทย

จากวัสดุเหลือทิ้ง หรือ ‘ขยะ’ ที่ถูกมองข้าม ปตท. โดยทีมนักวิจัย จากสถาบันนวัตกรรม และ บริษัท เอช จี เนกซ์ จำกัด จับมือร่วมพัฒนาต่อยอดจนได้ทางออกที่สมบูรณ์ให้กับผู้ที่อยากเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นทรัพยากรทดแทนที่มีคุณค่า เติมเต็มช่องว่างของการค้นหาทรัพยากรใหม่ ๆ ที่มีอยู่อย่างจำกัดในปัจจุบัน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดพิธีเปิดงานนิทรรศการ ‘Waste is MORE’ โดยมี นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นให้เห็นถึงมิติของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผ่านการพัฒนาศักยภาพของ ‘ขยะ’ ที่ถูกมองว่าไร้ค่า ให้กลายเป็นวัสดุทดแทนที่ ‘ไม่ไร้ค่า’ อีกต่อไป โดย ปตท. พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันศักยภาพของนวัตกรรมการวิจัย และการออกแบบของคนไทย ให้เติบโตไปแข่งขันในเวทีระดับโลก ทั้งยังคำนึงถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน

'ลุงป้อม' ลงพื้นที่ติดตามโครงการน้ำ-แก้ภัยแล้ง จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านปลื้ม!! มีน้ำใช้เพียงพอ หนุนเป็น 'ว่าที่นายกฯ คนที่ 30'

(6 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ในฐานะ ผอ.กอนช. พร้อมคณะ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการต่อเนื่องจากจังหวัดขอนแก่นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยในช่วงบ่ายได้ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อติดตามขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร

โดยเมื่อเดินทางถึงศาลากลาง จ.ชัยภูมิ ได้ประชุมหารือร่วมกับนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด, เลขาฯ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมพญาแล โดยสรุป จังหวัดยังมีปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเกิดจากน้ำหลากพื้นที่ลาดชัน ก่อให้เกิดสภาพน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่หลายอำเภอ ซึ่งจังหวัดได้มีการถอดบทเรียน ร่วมฟังความคิดเห็นจากประชาชน แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งอย่างยั่งยืน สำหรับภัยแล้ง เกิดจากปริมาณฝนเฉลี่ยน้อยขาดแหล่งเก็บกักน้ำ ประกอบกับดินส่วนใหญ่เป็นดินทรายไม่อุ้มน้ำ

ทั้งนี้ รัฐบาลได้สนับสนุนโครงการต่าง ๆ ในปี 61-65 งบกลางกรณีฉุกเฉินปี 65 และงบบูรณาการปี 66 รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการ สนับสนุนโครงการตามที่จังหวัดร้องขอเพิ่มเติมได้แก่ โครงการก่อสร้างวงแหวนน้ำรอบพื้นที่เมืองชัยภูมิ และก่อสร้างฝายแกนดินซีเมนต์เพื่อชะลอการไหลของน้ำในฤดูฝนและกักเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง จำนวน 1,000 ฝาย รองรับการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ

‘แสนสิริ’ ครองแชมป์เปิดโครงการใหม่ปี 66 เดินหน้า 52 โครงการ มูลค่ากว่า 7 หมื่นลบ.

ไม่นานมานี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ในปี 2565 แสนสิริสามารถเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยประสบความสำเร็จด้วยยอดขายรวม 50,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 50% จากปี 2564 มียอดโอน 36,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 เช่นกัน

สำหรับในปี 2566 แสนสิริ วางแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท นับเป็นการทุบสถิติการเปิดตัวโครงการใหม่ ด้วยมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเติบโต 74% จากปี 2565 และเติบโตจากช่วงเกิดโควิด-19 ถึง 1,000% หรือ 10 เท่าตัว

ทั้งนี้โครงการใหม่ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ คอนโดมิเนียม 22 โครงการ โดยตั้งเป้ายอดขายปี 2566 อยู่ที่ 55,000 ล้านบาทและตั้งเป้ารายได้รวม 40,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงตั้งเป้ากำไรสุทธิที่จะทุบสถิติ ALL-Time High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ตั้งบริษัท

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2566 ครอบคลุมทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม ในทุกระดับราคา ทุกทำเล และเจาะกลุ่ม Real demand โดยเฉพาะโครงการแนวราบ วางแผนเปิดตัว 30 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 50,700 ล้านบาท และเตรียมเปิดตัว 9 แบรนด์ใหม่ ครอบคลุมทุกกลุ่ม ส่วนโครงการแนวสูงนั้น มีแผนจะเปิดตัวคอนโดมิเนียม 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 24,300 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 151% จากปี 2565

“ในปี 2566 นี้แสนสิริได้ปรับภาพแบรนด์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ในคอนเซปต์ Stay Well-Rounded คอนโดที่คิดเพื่อชีวิตดีรอบด้าน โดยนำเสนอคอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ใส่ใจความเป็นอยู่ที่ดีในชีวิตทุกด้าน กับแบรนด์ดีคอนโด ซีรีส์ใหม่ 5 โครงการ 5 ทำเล รวมมูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท”นายอุทัย กล่าว

‘สหพรรค’ รบ.วิบากกรรมของ ‘หม่อมคึกฤทธิ์’ ดั่งถูก ‘สหบาทา’ จากผลประโยชน์อันมิลงรอย

ณ ปัจจุบันนี้ เราจะเห็น ส.ส. ในพรรคต่าง ๆ ย้ายพรรคกันอย่างสนุกสนาน เพื่ออนาคตหลังการเลือกตั้ง ซึ่งทุกคนต่างก็หวังจะได้มีโอกาสเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฟากฝั่งของรัฐบาล โดยเฉพาะได้อยู่ในพรรคอันดับหนึ่งที่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล หรือพรรคใหญ่อันดับรอง ๆ ที่มีโอกาสต่อรองสูง 

แต่หากย้อนกลับไปในอดีต มีพรรคขนาดเล็กที่มี ส.ส.เพียง 18คน ที่สามารถเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล ในขณะที่ ส.ส. ทั้งสภามีที่นั่งรวม 296 คน 

ผมนั่งเขียนเรื่องนี้แล้วก็คิดตามว่า...มันต้องมีพลังในการประสานประโยชน์เบอร์ไหนถึงทำได้ ว่าแล้วก็ลองไปติดตามกันดูครับ 

ในการเลือกตั้งเมื่อ วันที่ 26 มกราคม 2518 เป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ของประเทศไทย ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกหลังจากการปกครองของระบอบเผด็จการทหาร พร้อมเปลี่ยนจากการเลือกตั้งจากเขตจังหวัด มาเป็นหลายอำเภอรวมกันเป็นหนึ่งเขตเลือกตั้ง และมีจำนวน ส.ส. ได้เขตละ 3 คน 

การเลือกตั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ทำให้ประชาธิปไตยมีความเบ่งบานอย่างมาก จึงทำให้มีพรรคเข้าร่วมการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างเป็นประวัติการณ์ และผลจากการเลือกตั้งก็ได้พรรคการเมืองที่ได้ ส.ส. เข้าสภาฯ ถึง 22 พรรค โดยชัยชนะตกเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นหัวหน้าพรรค โดยได้ ส.ส. ไป 72 คน ตามมาด้วยพรรคธรรมสังคม 45 คน, พรรคชาติไทย 28 คน, พรรคเกษตรสังคม 19 คน, พรรคกิจสังคม 18 คน ทั้งนี้มีพรรคการเมืองขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่าพรรคต่ำสิบอีก 13 พรรค และมีพรรคที่ได้เพียง 1 คน อีก 5 พรรค ซึ่งหากจะตั้งรัฐบาลได้จะต้องมี ส.ส. 135 คน จาก ส.ส. ทั้งหมด 269 คน 

ในฐานะพรรคอันดับ 1 พรรคประชาธิปัตย์ได้สิทธิ์รวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่ด้วยเงื่อนไขทางการเมืองที่ประชาธิปัตย์สร้างไว้เองคือ คำสัญญาที่ให้ไว้ในช่วงหาเสียงว่าพรรคจะไม่จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ ‘อดีตสมาชิกพรรคสหประชาไทย’ ซึ่งเคยเป็นพรรคของ จอมพล ถนอม กิตติขจร โดยเด็ดขาดเพราะเป็นพรรคเชื้อสายทรราช (คุ้น ๆ อีกแล้ว) ด้วยเงื่อนไขนี้ทำให้ไม่สามารถจับมือกับพรรคธรรมสังคมซึ่งมี ส.ส. 45 คน รวมไปถึงพรรคสังคมชาตินิยมอีก 16 คน นอกจากนี้ ยังไม่สามารถตกลงจับมือกับพรรคชาติไทยซึ่งนำโดย พล.ต.อ. ประมาณ อดิเรกสาร ได้ เพราะพรรคชาติไทยเรียกร้อง 3 กระทรวงใหญ่คือ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ ถ้ามองกันรวม ๆ แล้ว ที่การตกลงกันไม่ได้นั้น น่าจะเกิดจากความไม่ตั้งใจจริงที่จะเจรจากันมากกว่า รวมถึงความไม่สนใจที่จะไปเจรจาจับมือกับกลุ่มพรรคต่ำสิบ 

ทำให้สุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์ต้องไปรวมกับพรรคเกษตรสังคมที่มี 19 คน และพรรคแนวร่วมสังคมนิยม รวมมีคะแนนเสียงสนับสนุน 103 คน ซึ่งไม่ถึงครึ่งของสภาที่ต้องมี 135 คน เลยต้องพยายามจัดตั้งรัฐบาลผสมเสียงข้างน้อยขึ้น แต่ก็ล้มเหลว เพราะเมื่อ เมื่อถึงวันแถลงนโยบายเพื่อขอความไว้วางใจในการจัดตั้งรัฐบาลต่อสภา ในวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2518 ปรากฏว่า รัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ได้รับเสียงสนับสนุนเพียง 111 เสียง ไม่ได้รับการไว้วางใจให้จัดตั้งรัฐบาล จึงต้องสละสิทธิ์การจัดตั้งรัฐบาลไป แม้ประชาธิปัตย์จะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง แต่ก็ล้มเหลวในการรวมเสียงตั้งรัฐบาล แท้งตั้งแต่ก่อนเริ่มปฏิบัติหน้าที่ จึงเป็นช่องที่ทำให้ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคม ซึ่งมี ส.ส.เพียง 18 คน ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ‘สหพรรค’ ขึ้น

หลังความล้มเหลวของ ‘หม่อมพี่’ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช แห่งพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่สามารถตั้งรัฐบาลบริหารประเทศได้ ก็ถึงคิวของ ‘หม่อมน้อง’ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคม โดยเริ่มต้นการเจรจาไปที่พรรคการเมืองที่มีอดีตสมาชิกพรรคสหประชาไทย (ซึ่งหม่อมพี่ไม่เอา) รวมกลุ่มกันในชื่อ ‘กลุ่มรวมชาติ’ เป็นแกนนำของ ‘พรรคธรรมสังคม’ ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 2 มี ส.ส. 45 คน ได้เจรจากับพรรคกิจสังคม โดยหวังใช้ชื่อเสียงและบารมีของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ มาช่วยเรื่องภาพลักษณ์ในอดีตของกลุ่มตน

แม้พรรคกิจสังคมจะมี ส.ส. เพียง 18 ที่นั่งในสภา แต่ด้วยกลวิธีการเจรจาต่อรอง สร้างแรงจูงใจจากความสามารถของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรค ทำให้สามารถตั้งรัฐบาลได้ !!! โดยมีพรรคหลัก ๆ อย่าง พรรคกิจสังคม พรรคไท พรรคพลังประชาชนและพรรคอื่น ๆ ที่เรียกกันอย่างสุภาพว่า ‘รัฐบาลสหพรรค’ หรือฉายาที่มีคนตั้งให้ว่า ‘รัฐบาลร้อยพ่อพันแม่’ เพราะเป็นรัฐบาลผสมที่เกิดขึ้นจาก 12 พรรค ได้ 135 เสียง เท่ากับครึ่งหนึ่งพอดี (ก่อนจะดึงพรรคอื่นมารวมเบ็ดเสร็จไม่ต่ำกว่า 16 พรรค) 

ที่สุดแล้วการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2518 ผลการลงมติออกเสียงเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2518 ปรากฏว่า หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเสียง ส.ส. 135 คน และ พ.อ. สมคิด ศรีสังคม ได้ 59 คน งดออกเสียง 88 คน และคณะรัฐบาลได้รับการไว้วางใจไปด้วยคะแนน 140 ต่อ 124 เสียง ไม่มาก ไม่น้อย 

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีจุดเทียนเปิดงานเทศกาลง่วนเซียว ประจำปี 2566 ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

วานนี้ (วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ผู้ช่วยกรรมการ ร่วมในพิธีจุดเทียนเปิดงานเทศกาลง่วนเซียว และเริ่มประกอบพิธีสงฆ์ สวดชัยมงคลคาถา (พะเก่ง) ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top