Saturday, 10 May 2025
NewsFeed

'สกลธี' ชูแนวคิด 'พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ' จับมือ 'นฤมล' นำ พปชร.สู้ศึกเลือกตั้ง ยึดเมืองหลวง

'สกลธี' รีเทิร์น พปชร. นำแถลงเปิดตัว 30 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 24 ม.ค.นี้ ชูแนวคิด ‘พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ’ ไม่ขายฝัน ทุกนโยบายทำได้จริง จับมือ ‘นฤมล’ นำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง

(23 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกำหนดการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ 24 ม.ค. เวลา 16.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค จะร่วมในงานเปิดตัวครั้งนี้ นำโดยนายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะหัวหน้าทีมดูแลการเลือกตั้ง ส.ส.กทม. ร่วมกับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ภายใต้สโลแกน ‘พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ ไม่ขายฝัน ทุกนโยบาย ทำได้จริง’ ทั้งนี้ จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ประมาณ 30 คน ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 5 เขตจะทยอยเปิดหลังจากนี้

‘สุริยะ’ สั่ง กรมโรงงานฯ เร่งอบรมเจ้าหน้าที่ กทม.  ก่อนถ่ายโอนภารกิจกำกับดูแลโรงงานจำพวกที่ 1 และ 2

‘สุริยะ’ สั่ง กรมโรงงานฯ เร่งเครื่องอบรมเจ้าหน้าที่ กทม. กำกับโรงงานจำพวกที่ 1 และ 2 เน้นทำงานได้จริง สอดคล้อง 'MIND ใช้หัวและใจ ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน'

(23 ม.ค.66) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกำชับกรมโรงงานอุตสาหกรรม อบรมเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ 50 เขต เน้นการลงมือปฏิบัติงานจริง โดยบูรณาการกับหลักทฤษฎีที่ได้เรียนรู้ เพื่อให้การถ่ายโอนภารกิจกำกับโรงงานจำพวกที่ 1 และ 2 ให้ กทม. เป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกำหนด ลดความขัดแย้ง สร้างความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้ประชาชน สอดคล้อง ‘MIND ใช้หัวและใจ ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน’

นายสุริยะ เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) รับนโยบายรัฐบาลในการถ่ายโอนภารกิจกำกับดูแลโรงงานจำพวกที่ 1 และ 2 ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้ อปท. และ กทม. ควบคุมดูแลกิจการโรงงานจำพวกที่ 1 และ 2  และรับแจ้งการประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 2  ตลอดจนตรวจสอบกรณีโรงงานก่อเหตุเดือดร้อนในพื้นที่ โดยได้แต่งตั้งข้าราชการของ อปท. เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน 

ทั้งนี้ ได้กำชับให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ให้การสนับสนุนด้านคำปรึกษาแนะนำแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ของ อปท. และ กทม. ให้ปฏิบัติภารกิจได้ถูกต้อง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกฎหมาย สามารถบริการด้านการประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 1 และ 2 ได้อย่างถูกต้อง เพื่อลดความขัดแย้ง สร้างความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้ประชาชน มุ่งสู่การปรับเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรมวิถีใหม่ สอดคล้องแนวทางนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม ปี 2566 ‘MIND ใช้หัวและใจ ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน’

'อลงกรณ์' คิกออฟโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย ระดมทีมฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่เพชรบุรี

‘อลงกรณ์’ คิกออฟโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยครั้งแรกที่เพชรบุรี ระดมทีมปศุสัตว์ทำหมันสุนัข-แมว พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ประชาชนแห่มาใช้บริการเกินเป้า สั่งเพิ่มบริการวันที่ 31 ม.ค.ที่วัดลาด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ (23 ม.ค.) ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี สำนักงานปศุสัตว์เขต 7 ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรีและตนคิกออฟโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยเป็นครั้งแรกของปี 2566 ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โดยจัดหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่บริการทำหมันสุนัขและแมว พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่วัดพลับพลาชัย อำเภอเมืองเพชรบุรี 

โดยประชาชนในเขตเทศบาลแห่มาใช้บริการเกินเป้าหมายกว่าร้อยตัวและขอให้จัดกิจกรรมทำหมันและฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าอีกจึงขอให้กรมปศุสัตว์จัดหน่วยสัตว์แพทย์เคลื่อนที่เพิ่มบริการในวันที่ 31 ม.ค.ที่วัดลาดตามคำเรียกร้องของประชาชนโดยเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 8.30 น.

'สมุทรปราการ' จัดงานวันคนพิการสากล จ.สมุทรปราการ สุดยิ่งใหญ่

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 ณ ลานอเนกประสงค์หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ "พม.สมุทรปราการ" นำโดย นางวรรณภา สุขคง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับ "นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย" นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ และ ดร.สิงห์คำ มณีจันสุข นายกสมาคมคนพิการจังหวัดสมุทรปราการ จัดงานวันคนพิการสากลจังหวัดสมุทรปราการ ประจำปี 2565 "การปฏิรูปสู่การพัฒนาเพื่อคนทั้งมวล : พลังนวัตกรรมสู่โลกที่เข้าถึงได้และเป็นธรรม" โดยมี นายสุนทร ปานแสงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี และได้รับเกียรติจากนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  /นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ / นางสาวสราญัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ / นายกิตติ อินทรกุล รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ / นายมงคล ปรีสุขเกษม ที่ปรึกษาอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด  พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงาน ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ กระทรวง พม.เข้าร่วมงาน

ซึ่งภายในงานประกอบด้วย พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยจังหวัดนำร่อง "การจัดสวัสดิการให้กับกลุ่มเปราะบางระดับท้องถิ่น" พิธีมอบประกาศเกียรติบัตรกับคนพิการต้นแบบ / ผู้สนับสนุนกิจกรรมวันคนพิการสากลฯ / มอบป้ายสัญลักษณ์สถานที่ที่เป็นมิตรสำหรับคนพิการ / พิธีมอบรถวิลแชร์ กายอุปกรณ์ รถสามล้อโยก และไม้เท้าแก่คนพิการ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายคนพิการ และผู้ดูแลคนพิการเข้าร่วมงาน จำนวน 3,200 คน

ผบ.ตร.สั่งดำเนินการเด็ดขาด ตำรวจท่องเที่ยวและจราจรกลางที่นำขบวนนักท่องเที่ยวจีน พร้อมตรวจสอบทุกประเด็น ทุกมิติ ให้เกิดความกระจ่าง กำชับตำรวจทั่วประเทศไม่ให้เกิดขึ้นอีก หากฝ่าฝืนฟันวินัยทันที

วันที่ 21 มกราคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง ความคืบหน้า กรณี คลิปตำรวจไทยขับรถนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน ว่า...

หลังจากที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการด่วนให้จเรตำรวจตรวจสอบ เบื้องต้นมีการพิสูจน์ทราบแล้วว่า บุคคลที่ปรากฎในคลิปเป็นตำรวจจริง 3 นาย โดยเป็นตำรวจท่องเที่ยว 1 ราย คือ ร.ต.อ. สมพล ภิญโญสโมสร ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และ ตำรวจ บก.จร.2 นาย คือ ส.ต.อ.ธนกร นุกูลธนกิจ และ ส.ต.อ.ธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ 

ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต. ม.ล. สันธิกร วรวรรณ ผู้บังคับกองบังคับการท่องเที่ยว 1 ได้สั่งการให้ผู้กำกับการ 3 ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามสั่งการแล้วตามหนังสือ บก.ทท.1 เลขที่ 0038.201/255 ลง 21 ม.ค.2566

สำหรับ ตำรวจ บก.จร. ทั้ง 2 นาย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการออกคำสั่งตั้งสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับ ออกคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บก.จร. และสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ผกก., รอง ผกก. และ สว. ที่ควบคุมกำกับตำรวจ2 รายนี้ด้ว

โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผบ.ตร.ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก สั่งการให้ตรวจสอบทุกประเด็น ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น ใครสั่งการ ประสานงาน มีอำนาจหน้าที่แค่ไหนอย่างไร พร้อมประเด็นรถที่ใช้ในการนำขบวน มีการนำรถหลวง รถทางราชการ มาใช้ส่วนตัวหรือไม่ ตรวจสอบรถยนต์ที่ปรากฎในคลิปทุกคันที่เกี่ยวข้อง และให้ตรวจสอบย้อนหลังไปว่าเคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ทำเป็นขบวนการหรือไม่ ต้องตรวจสอบทุกข้อสงสัยของสังคม ให้เกิดความกระจ่างโดยเร็วที่สุด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง บินด่วนแก้ปัญหาชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ หลังนายทุนปิดทางสัญจรกระทบชาวบ้านและนักท่องเที่ยว

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.65 กลุ่มชาวบ้านและนักเรียนบนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ได้รวมตัวกันประท้วงกลุ่มนายทุน เนื่องจากได้สร้างประตูปิดทางและนำสิ่งของมาวางขวางกั้นทางสัญจรซึ่งนักเรียนและชาวบ้านใช้ในการเดินทางเข้าออกโรงเรียนและสถานที่สำคัญหลายแห่งภายในเกาะ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวบนเกาะในวงกว้าง ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหา ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นประธานกรรมการ ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย อาทิเช่น กรมที่ดิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมทรัพยาการทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นต้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน

วันนี้ (22 ม.ค.66) ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ, นายไกรศรี สว่างศรี ผอ.ส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ, นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนบ้านเกาะอาดัง เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อเข้ารับฟังปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่ โดยมีชาวบ้านและนักเรียนเข้าร่วมให้ข้อมูลกว่า 200 คน เพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายและตรวจสอบพื้นที่จริง เพื่อให้สามารถพิจารณาปัญหาได้อย่างครบถ้วนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างจริงจัง และรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีการบุกรุกพื้นที่อุทยานจำนวน 4 แปลง พื้นที่ประมาณ 80 ไร่ ของกลุ่มเอกชนจริง โดยจะมีการใช้เครื่องมือพิเศษในการตรวจวัดยืนยันอีกครั้ง หากพบความผิดจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด ในส่วนของพื้นที่ 60 ไร่ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาไปแล้วนั้น จะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สมุทรปราการ-ครบรอบ 7 ปี 'มหพัสต์ ยังสุข';ประธานสโมสร 'ปากน้ำ อะคาเดมี่' จัดเลี้ยงสังสรรค์ ครอบครัวนักเตะเยาวชนร่วมฉลอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ภายในสนามฟุตบอลหญ้าเทียมเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นายมหพัสต์ ยังสุข ประธานสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างทีมผู้ปกครองของนักเตะน้องๆ หนูๆ รุ่นเยาวชน อายุตั้งแต่ 5 ปี ถึง 17 ปี ของทางสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ ประจำปี 2566 ณ สนามหญ้าเทียมเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่

โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี ในกลุ่มผู้ปกครอง อีกทั้ง ยังเป็นการพบประสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาเข้าร่วมรับการฝึกสอนทักษะ และฝึกความรู้เบื้องต้นของกีฬาฟุตบอลกับสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ 

โดย นายมหพัสต์ ยังสุข ประธานสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ กล่าวว่า ในวันนี้ทางสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ ได้จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองเพื่อสร้างความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ โดยกีฬาที่นำมาจัดแข่งขันนั้นคือกีฬาพื้นบ้าน ได้แก่ การวิ่งกระสอบ กินวิบาก วิ่งลูกบอล และการแข่งขันฟุตบอลชาย ฟุตบอลหญิง มีการมอบถ้วยรางวัลให้แก่ทีมชนะเลิศ และทีมรองชนะเลิศ มีการจับรางวัลมอบให้แก่เด็กๆ รวมถึงจับรางวัลมอบทุนการศึกษาให้แก่น้องๆ หนูๆ ที่มาร่วมงานในครั้งนี้อีกด้วย

อีกทั้ง สโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ ยังมีการจัดเลี้ยงสังสรรค์กลุ่มผู้ปกครองที่ให้ความเชื่อมั่นนำบุตรหลานมาเข้ารับการฝึกสอนทักษะความรู้ขั้นพื้นฐาน และฝึกความรู้ ในด้านกีฬาประเภทฟุตบอลให้น้องๆ เยาวชนได้มีความรู้ ความสามารถ และยังเป็นการเสริมทักษะด้านอื่นๆ ให้กับเด็กๆ ได้อีกด้วย โดยทางสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ มีผู้ฝึกสอนและโค้ชมืออาชีพที่มีความรู้ ความสามารถในด้านกีฬาฟุตบอลเป็นพิเศษ มุ่งเน้นการพัฒนาให้เด็กๆ ได้มีความรู้ในการเล่นกีฬาฟุตบอล มีทักษะที่ดีเยี่ยม รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และนับว่าเป็นปีที่ 7 แล้ว สำหรับสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ ที่เดินหน้าสร้างสรรค์เยาวชน น้องๆ หนู นักเตะตั้งแต่อายุ 7 ปี ไปจนถึงอายุ 17 ปี ที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอล ประกอบกับ ทางสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ ได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 7 ปี ของสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี

เชียงใหม่-ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ นำขบวนมาสคอตเชิดมังกรคู่ ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน

วันนี้ (22 มกราคม 2566) นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เผยว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดของคนไทยเชื้อสายจีน กิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นการสร้างสีสันและความสนุกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมสวนสัตว์เชียงใหม่ในวันนี้

สวนสัตว์เชียงใหม่ได้จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวในวันตรุษจีน โดยมี ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ แต่งตัวด้วยชุดสีแดง เป็นอาแป๊ะยิ้มหน้าเทพใจดี เดินนำหน้าขบวนมาสคอตพาเหรด เชิดมังกรคู่ ฉลองเทศกาลตรุษจีน พร้อมแจกส้มมงคลให้เด็กๆ และนักท่องเที่ยว สร้างสีสันด้านการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้กล่าวคำอวยพรให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเที่ยวชมในสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งภายในงาน ได้รับเกียรติจากทีมเจ้าหน้าที่จากสถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาร่วมจัดกิจกรรมโดยสอนนักท่องเที่ยวตัดกระดาษเป็นรูปหน้ากากกระต่าย เขียนคำอวยพรภาษาจีนด้วยคำมงคล ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก 

ในส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ทางทีมพี่เลี้ยงได้มอบ "อั่งเปากระต่ายทองและของชอบหลินฮุ่ย” ให้กับหลินฮุ่ยในช่วงเช้าก่อนที่จะเข้าสู่ส่วนจัดแสดง ภายในประกอบด้วย ตุ๊กตารูปกระต่ายที่ทำจากกระสอบป่าน และมอบกระเช้าอาหารโปรด เช่น แครอท แอปเปิ้ล ขนมปัง และหน่อไม้ มอบเป็นอั่งเปา ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยอบอุ่น เข้ากับบรรยากาศของเทศกาลตรุษจีน

สวนสัตว์ฯ ยังมีความพร้อมในด้านบริการต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงจัดกิจกรรม ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยพัฒนาให้เป็นสวนสัตว์แห่งความสุขของทุกชีวิต ตามมาตรฐานสากล และมาตราการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนั้นสวนสัตว์เชียงใหม่มีการจัดกิจกรรมหลากหลายเริ่มตั้งแต่การจัดภูมิทัศน์ด้วย ดอกเทียนญี่ปุ่นกว่า 10,000 ดอก ที่ส่วนแรกรับธรรมชาติสวนดอกไม้มิสเตอร์ยังก์ ผู้ก่อตั้ง และยังมีการจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองภูมิปัญญาท้องถิ่นจำลองถนนคนเดินเชียงใหม่ นั่งรถกอล์ฟและรถบริการนำชมที่สะดวกปลอดภัยมีมาตรฐาน ชมแพนด้าหลินฮุ่ย ทานอาหารที่ “โซลคิทเช่น” สไตล์เกาหลี สะอาดสวยงาม ชมการให้อาหารฝูงเพนกวินกว่า 15 ตัว พร้อมสัตว์นานาชนิด สักการะโบราณสถานวัดกู่ดินขาวกว่า 1,000 ปี

นักวิ่งกว่า 1,500 คน ร่วมวิ่งการกุศล Walk and Run ไปด้วยกันไปได้ไกล ใจได้บุญ ครั้งที่ 2

นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนแรก และนายกสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธี เปิดการแข่งขัน วิ่งการกุศล Walk and Run ไปด้วยกันไปได้ไกล ใจได้บุญ ครั้งที่ 2 ระยะทาง 11 กม. และ 5 กม. ณ บริเวณถนนหน้าวิหารเซียน หรือ อเนกกุศลศาลา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สถานที่รวบรวมวัตถุโบราณของงานศิลปะของไทยและจีน อยู่ใกล้กับเขาชีจรรย์ และไร่องุ่นซิลเวอร์เลค อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี            

โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้กว่า 1,500 คน โดยได้รับเกียรติจาก นาย วิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ตลอดจนสมาชิกกลุ่มไปด้วยกันไปได้ไกล และแขกผู้มีเกียรติมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

โดย นายอมตะ ใคร่ครวญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง ในนามคณะกรรมการกลุ่มไปด้วยกันไปได้ไกล กล่าวว่า กลุ่มไปด้วยกันไปได้ไกล เป็นกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นมาจากการรวมตัวของบุคคลหลากหลายอาชีพ ในเขตพื้นที่อำเภอสัตหีบ การจัดกิจกรรม Walk and Run ไปด้วยกันไปได้ไกลในใจได้บุญ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อที่จะนำเงินทั้งหมดหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว นำมอบให้กับองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ ในพื้นที่ อำเภอสัตหีบ นอกจากนี้แล้วยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่สัตหีบ และเป็นการส่งเสริมสุขภาพให้กับผู้ที่รักการออกกำลังกายอีกด้วย

ผลงานเด่น สปส.กับภารกิจดูแลคุณภาพชีวิตของลูกจ้าง ผู้ประกันตน

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2566 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) แถลงข่าว สรุปผลงานเด่น ปี 2565 ที่ผ่านมาของสำนักงานประกันสังคมกับภารกิจสำคัญในการดูแลคุณภาพชีวิตของลูกจ้าง ผู้ประกันตน โดยมีผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม พร้อมสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ณ ห้องนายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ อาคารอเนกประสงค์ สำนักงานประกันสังคม ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

นายบุญสงค์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า สำนักงานประกันสังคม ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และนโยบายรัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้ความสำคัญกับ “การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมโดยสร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับคนทุกช่วงวัยทุกเพศภาวะและทุกกลุ่ม” ในปี 2565 ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วน นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และภาคีเครือข่าย "ครอบครัวประกันสังคม" เพื่อแก้ปัญหาภายใต้แนวทาง “แรงงาน...เราสู้ด้วยกัน” ร่วมกันสู้เพื่อก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกัน โดยดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ลดภาระค่าใช้จ่าย และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับนายจ้าง ผู้ประกันตน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 รวมถึงพัฒนาสิทธิประโยชน์ พัฒนาบริการทางการแพทย์ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เพื่อขับเคลื่อนงานประกันสังคม ให้เป็นที่ยอมรับเชื่อมั่น ไว้วางใจจากทุกภาคส่วน ในสังคม ภายใต้แนวความคิดในการขับเคลื่อน“SSO TRUST” โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมมีผลการดำเนินงานสำคัญ ดังนี้...

1. มาตรการให้ความช่วยเหลือนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด จากของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จัดตั้งศูนย์ตรวจคัดกรองโควิด 19 เพื่อให้บริการผู้ประกันตน นอกสถานพยาบาล จำนวน 13 แห่ง (สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น – ดินแดง ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรสาคร ภูเก็ต ระยอง อยุธยา ฉะเชิงเทรา สงขลา และสระบุรี) มีจำนวนผู้ประกันตนที่เข้ารับการตรวจคัดกรอง จำนวน 526,657 ราย พบผู้ติดเชื้อ จำนวน 23,705 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 640 ล้านบาท จัดหาโรงพยาบาล Hospitel ในเครือข่ายประกันสังคม รองรับผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จำนวน 24 จังหวัด จัดหาโรงพยาบาล Hospitel จำนวน 175 แห่ง รองรับผู้ประกันตน จำนวน 61,046 ราย การให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคโควิด 19 สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ในสถานพยาบาลทุกแห่งทั้งภาครัฐและเอกชน โดยไม่ต้องสำรองจ่าย มีผู้ประกันตน ใช้สิทธิประโยชน์ จำนวน 4,550,115 ราย จัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 และสายด่วน 1506 กด 1 กด 6 และกด 7 เพื่อให้บริการสอบถามข้อมูลประสานและจัดหาสถานพยาบาลในการดูแลรักษา และการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33, 39, 40 มีผู้ใช้บริการ 2,5000,075 ราย ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 แก่ผู้ประกันตนฉีดวัคซีน เข็ม 1 เข็ม 2 และเข็ม 3 แก่ผู้ประกันตน รวมทั้งหมด 3,3962,206 ราย แยกเป็นผู้ประกันตนที่เป็นชาวต่างชาติ 593,815 ราย และคนไทย 3,368,391 ราย โครงการ Factory Sandbox (ตรวจรักษา ควบคุม ดูแล) ครอบคลุมในพื้นที่ 12 จังหวัด มีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการจำนวน 730 แห่ง ผู้ประกันตนได้รับการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด 19 จำนวน 407,770 ราย และได้รับวัคซีนจำนวน 112,746 โดส

2. มาตรการช่วยเหลือเยียวยา ลดอัตราเงินสมทบ มาตรา 33 และ 39 ระหว่างปี 2563 - 2565 รวม 7 ครั้ง (21 เดือน) ลดภาระผู้ประกันตนกว่า 13.36 ล้านคน นายจ้าง 502,693 ราย มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 160,250 ล้านบาท มาตรา 40 ระหว่างปี 2564 - 2565 รวม 2 ครั้ง (12 เดือน) ลดภาระผู้ประกันตนกว่า 10.80 ล้านคน มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 3,242 ล้านบาท จ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย นายจ้างหยุดกิจการชั่วคราวจากคำสั่งปิดสถานที่ของรัฐ กรณีลูกจ้างไม่ได้ทำงานเนื่องจากต้องกักตัวเฝ้าระวังการระบาดของโรค โดยให้สิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างที่ส่งเงินสมทบ จ่ายให้เป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน มีผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์รวม 2.73 ล้านคน เป็นเงิน 55,599.09 ล้านบาท เยียวยาแรงงาน กรณีปิดแคมป์คนงาน กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างที่ส่งเงินสมทบ มีผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ รวม 81,136 คน เป็นเงิน 412.65 ล้านบาท โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน สำนักงานประกันสังคม ร่วมกับสถาบันการเงินสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 30,000 ล้านบาท ให้กับสถานประกอบการมีธนาคารที่ลงนามในบันทึกข้อตกลง 5 ธนาคาร คือ ธนาคาร UOB ธนาคารเพื่อการส่งออก และนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย จำนวนเงินสินเชื่อ ให้แก่สถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม จำนวน 1,623 ราย วงเงิน 9,635.33 ล้านบาท สามารถรักษาการจ้างงานลูกจ้างในระบบไว้ได้ จำนวน 112,456 คน โครงการเยียวยาภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เช่น โครงการมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างในสถานประกอบการ ผู้ประกันตนมาตรา 33 รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาจาก พ.รก.เงินกู้คนละ 5,000 บาท, โครงการ ม.33 เรารักกัน ให้ผู้ประกันตนจ่ายซื้อสินค้าและบริการ 8.067 ล้านคน วงเงิน 6,000 บาท เป็นเงิน 48,185,85 ล้านบาท, โครงการเยียวยาผู้ประกันตนกิจการสถานบันเทิง ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 จำนวน 148,409 ราย ฯลฯ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top