Tuesday, 13 May 2025
NewsFeed

'รมว.ยุติธรรม' มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายและทายาท เหยื่อ Mountain B จำนวน 12 ราย เฉียดล้านบาท

ที่ ว่าการอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานมอบเงินเยียวยา จากคดีอาญา ตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา คดีไฟไหม้ผับ Mountain B 12 ราย เป็นเงิน 954,104.75 บาท โดยมี นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ผู้เสียหายและทายาท เข้าร่วม

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สำหรับลงพื้นที่เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้สถานบันเทิง Mountain B เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 ซึ่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จำนวนมากถึง 57 ราย ด้วยเหตุนี้ กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จึงได้นำเงินเยียวยามามอบให้แก่ผู้เสียหาย โดยลงพื้นที่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 มอบเงินเยียวยาให้แก่ผู้เสียชีวิตจำนวน 19 ราย รวมเป็นเงิน 2,176,899 บาท (สองล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหกพันแปดร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน) และต่อมากรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้โอนเงินเยียวยาให้แก่ผู้เสียหายอีก 25 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 6 ราย และบาดเจ็บ 19 รายรวมเป็นเงิน 1,922,179 บาท (หนึ่งล้านเก้าแสนสองหมื่นสองพันหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเก้าบาทถ้วน)

องค์การสวนสัตว์ ส่งนกกาฮัง (นกกก) กลับบ้าน ณ ดอยหลวงเชียงดาว ครั้งแรกของ จ.เชียงใหม่ ในรอบ 20 ปี

องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการศึกษาวิจัยที่เป็นการกอบกู้วิกฤติการณ์การสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ด้วยการนำสัตว์ป่าหายากกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของการฟื้นฟูทรัพยากรและการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย  โดยการนำ 'นกกาฮัง' หนึ่งในนกเงือกขนาดใหญ่ที่สุดของไทยปล่อยคืนสู่พื้นที่ป่าอนุรักษ์ของจังหวัดเชียงใหม่ 'นกกาฮัง' หรือ 'นกกก' คู่แรกของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นนกกาฮังคู่ที่สองที่ทำการทดลองปล่อยคืนสู่ธรรมชาติภาคเหนือ ภายหลังจากการสูญหายไปจากผืนป่าภาคเหนือของประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี                                                   

วันที่ 9 มกราคม 2566 ณ สถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นายวุฒิชัยม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ นายกฤตภาส ขันทะธงสกุลดี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ นายสงัด บูรณภัทรโชติ นายอำเภอเชียงดาว นายณัฐกุล ขันทะสอน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว คณะผู้บริหารองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ดร.วรพัฒน์ อรรถยุกติ ประธานมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ภาคเหนือ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชน ผู้นำโรงเรียน ตัวแทนชาวบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันเปิดโครงการ “การทดลองปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในเขตพื้นที่ภาคเหนือ” ณ สถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด 'นกกาฮังปิ๊กบ้าน' โดยการ นำนกกาฮังที่ได้รับการฟื้นฟูพฤติกรรมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของกระบวนการในการฟื้นฟูประชากรนกเงือกขนาดใหญ่ขึ้นใหม่อีกครั้ง ภายหลังการสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภาคเหนือมานานนับ 20 ปี                                                    

จากความสำเร็จขั้นต้นของการนำนกกาฮังคู่แรก ที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภาคเหนือ ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ. ลำปาง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งนกที่ทำการทดลองปล่อยยังคงสามารถอาศัยอยู่ได้ในพื้นที่ป่าธรรมชาติ คณะผู้วิจัยของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 6 แห่ง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) จึงได้ดำเนินโครงการศึกษาวิจัย การทดลองปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติฯ เป็นครั้งที่ 2 ณ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ของสถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว (พื้นที่บริเวณดอยหลวงเชียงดาว) ขึ้น ซึ่งถือเป็นนกกาฮังคู่แรก ที่ทำการทดลองปล่อยคืนสู่ธรรมชาติอย่างเป็นทางการในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ 

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลหน่วยปฏิบัติงานในสนาม ประจำปี 2566 ในพื้นที่กองกำลังสุรนารี

วันที่ 9 มกราคม 2566 พลเอกศิราวุฒิ วงศ์ขันตี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้เเทน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเดินทางมาตรวจเยี่ยมเเละบำรุงขวัญกำลังพลป้องกันชายแดนในพื้นที่กองกำลังสุรนารี ณ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร(ผามออีแดง) อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี พลตรี บุญสิน พาดกลาง รองแม่ทัพภาคที่ 2 พลตรีวีระยุทธรักศิลป์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ ให้การต้อนรับและร่วมปฏิบัติภารกิจ

ผบ.บก.ควบสุริโยทัย ตรวจเยี่ยมติดตามการปฏิบัติงาน ชุดป้องควบคุมชายแดนที่ 4 อ.ตากใบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ กองร้อยชุดควบคุมป้องกันชายแดนที่ 4  ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย เดินทางมาตรวจเยี่ยม ติดตามผลการปฏิบัติงาน ของชุดควบคุมป้องกันชายแดนที่ 4 พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานของหน่วย และรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างไทย - มาเลเซีย เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่าง2 ประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

กรมอู่ทหารเรือ จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 133 ปี

เมื่อวานนี้ (9 ม.ค. 66) พลเรือโท สุทธิศักดิ์ บุตรนาค เจ้ากรมอู่ทหารเรือ จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมอู่ทหารเรือ ครบรอบปีที่ 133 โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ อดีตผู้บังคับบัญชา และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่สัตหีบ เข้าร่วมในพิธี ณ กองบังคับการกรมอู่ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมอู่ทหารเรือปีนี้ ได้จัดให้มีกิจกรรมได้แก่ วันที่ 1 ธ.ค.65 นำกำลังพลร่วมบริจาคโลหิต ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และนำกำลังพลร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ณ วัดคีรีภาวนาราม อ.บ้านฉาง จ.ระยอง วันที่ 28 ธ.ค. 65 มอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ สังกัดกรมอู่ทหารเรือ ณ กองบังคับการกรมอู่ทหารเรือ วันที่ 5 ม.ค.66 จัดกิจกรรม Big Cleaning Day บริเวณพื้นที่กรมอู่ทหารเรือ วันที่ 6 ม.ค.66 มอบเงินทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนอนุบาลอธิฎฐาน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และในวันนี้ 9 ม.ค. 66 จัดพิธีสงฆ์และถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ณ กองบังคับการกรมอู่ทหารเรือ

พลเรือโท สุทธิศักดิ์ บุตรนาค เจ้ากรมอู่ทหารเรือ กล่าวว่า กรมอู่ทหารเรือ ดำเนินการซ่อมสร้างเรือตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งในสมัยนั้น ได้มีเรือกลไฟใช้ราชการในยุคนั้นมีชื่อเรียกว่า อู่เรือหลวง กรมอู่ทหารเรือ ตั้งอยู่ด้านใต้ของวัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัดธนบุรี มีเนื้อที่ 40 ไร่ กาลเวลาต่อมา เรือหลวงมีมากขึ้นและมีขนาดของเรือใหญ่ขึ้นมาเป็นลำดับ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าโปรดให้สร้างอู่ไม้ขนาดใหญ่ และเสด็จพระราชดำเนิน ประกอบพิธีเปิดอู่เรือหลวงเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ.2433 จึงได้ถือเอาวันที่ 9 มกราคม ของทุกปี เป็นวันคล้าย วันสถาปนากรมอู่ทหารเรือ กิจการอู่เรือก็ได้เริ่มดำเนินการและได้มีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงในด้านองค์วัตถุที่สำคัญ ๆ เพื่อเพิ่มพูนขีดความสามารถให้พอเพียงกับจำนวนเรือ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2465 ได้ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสนาธิการทหารเรือ มาเป็นผู้บัญชาการในหน้าที่เจ้ากรมยุทธโยธาทหารเรืออีกตำแหน่งหนึ่ง ปี พ.ศ.2475 สร้างอู่ใหม่ขนาดกว้าง 9.8 เมตร ยาว 130 เมตร ลึก 4 เมตร เรียกว่าอู่หมายเลข 2

ปรากฏการณ์ 'ตู่ - ตุ๋ย - ไตร (รงค์)' แห่งพรรคใหม่ 'รวมไทยสร้างชาติ'

นับเป็นกระแสความสนใจมาตลอดตั้งแต่เปิดพุทธศักราช 2566 สำหรับพรรคการเมืองใหม่หมาด 'รวมไทยรักษาชาติ' ที่ประกาศเปิดตัวร่วมสังฆกรรมทางการเมืองกับ 'พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา' นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความคาดหวัง และคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา

จากความสับสนอลหม่านในศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 มกราคม 2566 แหล่งข่าวซึ่งน่าเชื่อถือ ไว สด และท่วงทันต่อเหตุการณ์ที่สุดก็น่าจะมาจากสื่อมวลชนสายการเมืองรุ่นอาวุโสสองท่านนี้

คนแรก 'เป๊ปซี่ - เสริมสุข กษิติประดิษฐ์ นักหนังสือพิมพ์ อดีตหัวหน้าข่าวสายทหารแห่งหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของประเทศ โดยเขาได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยภาษาขำๆ ตามสไตล์ว่า "...นึกว่าราคาคุย ผู้สนับสนุน รทสช.จะมากันหลักหมื่น มวลชนผู้สนับสนุนลุงตู่ มากันเต็มเหนี่ยวจากทั่วประเทศ เต็มห้องโถงใหญ่ของศูนย์ประชุมสิริกิติ์ น่าจะเป็นการชุมนุมทางการเมืองเปิดตัวสมาชิกพรรค รทสช. ที่มากันมหาศาล มโหฬารจริม ๆ"

พร้อมทั้งยังตอบคอมเม้นต์ของแฟนเพจรายหนึ่ง ซึ่งจงใจถามหรือเพียงแสดงความเห็นก็มิอาจทราบ "ขนมาทั้งนั้นนี่หว่า" แบบ "...ขนมานี่เรื่องปกติครับท่าน ที่ไม่เคยมี คือ ขนมามหาศาลขนาดนี้ :-) ทำข่าวมายาวนาน ไม่เคยเห็นเปิดตัวสมาชิกพรรค ขนมาได้ขนาดนี้ เกินหมื่นครัช.."

ทั้งนี้แหล่งข่าวจากพรรค 'รวมไทยสร้างชาติ' ชี้แจงเบื้องต้นว่า ผู้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานการเปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติโดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรค ตอนแรกคาดว่าจะมีเพียง 5,000 คน แต่พอถึงวันงานเปิดตัวเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้รับแจ้งว่าผู้สนับสนุนจากหลากหลายทุกภูมิภาคของประเทศ ต่างต้องการเข้ามาร่วมแสดงความยินดีและมีส่วนร่วมครั้งนี้เกินหลักหมื่นคน

นักข่าวอาวุโสผู้คร่ำหวอดจากสายทหารและการเมืองอีกท่าน 'วาสนา นาน่วม' ก็ได้รายงานผ่านสื่อโซเชียลมีเดียถึงงาน 'พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา' กับ 'พรรครวมไทยสร้างชาติ' ไว้อย่างน่าสนใจว่า "...ยิ้ม อิ่มใจ งานเปิดตัวบิ๊กตู่ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี กองเชียร์พรึ่บ! กว่า 1.1 หมื่นคน แถมบิ๊กตู่เซ็นใบสมัครสมาชิกพรรค รทสช. แล้ว ปิดงาน ส่งนายกฯ กลับ FC ก็เอากุหลาบ มาให้กำลังใจ 'ท่านตุ๋ย พีระพันธุ์' หัวหน้าพรรค เจ้าตัว ถือกุหลาบ แล้วยิ้มหวาน ก่อนถามว่า หน้าตาผมเข้ากับดอกกุหลาบมั้ย"

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 2 – 6 ม.ค. 66 จับตาปัจจัย ‘บวก-ลบ’ ชี้ แนวโน้ม 9 – 13 ม.ค. 66

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 2 – 6 ม.ค. 66 จับตาปัจจัย ‘บวก-ลบ’ ชี้ แนวโน้ม 9 – 13 ม.ค. 66

ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยรายสัปดาห์ลดลงจากความกังวลของนักลงทุนว่าเศรษฐกิจโลกอาจถดถอย จากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางโดยเพาะสหรัฐฯ ที่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยล่าสุด อยู่ที่ระดับ 4.25 – 4.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามในวันที่ 8 ม.ค. 66 มีปัจจัยสนับสนุนจากจีนกลับมาเปิดพรมแดนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี สิ้นสุดนโยบาย Zero-COVID-19 โดยสมบูรณ์ และคาดว่าจีนมีแนวโน้มนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น ซึ่ง Bloomberg รายงานจีนซื้อน้ำมันดิบ CPC จากคาซัคสถานเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรล ส่งมอบในเดือน ก.พ. 66  ส่งผลให้จีนนำเข้าน้ำมันดิบ CPC จากคาซัคสถาน รวมในเดือน ก.พ. 66 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 122,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 191,000 บาร์เรลต่อวัน 

อุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้นจากการเดินทางเริ่มคึกคักจากชาวฮ่องกงและชาวจีนหลั่งไหลข้ามฝั่งอย่างคับคั่ง กระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งผลสำรวจนักวิเคราะห์โดย Bloomberg ปรับคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของฮ่องกงในปีนี้ จะอยู่ที่ +3.3% จากปีก่อน (ปรับเพิ่มจากประมาณการณ์ครั้งก่อนที่ +2.7% จากปีก่อน) ซึ่งจะทำให้ GDP ฮ่องกง ขยายตัวมากกว่าสิงคโปร์เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ

ให้จับตาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเวเนซุเอลาที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลสหรัฐฯ อนุญาตบริษัท Chevron Corp. ลงทุนและผลิตน้ำมันดิบในเวเนซุเอลาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 65 ซึ่ง Kpler รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเวเนซุเอลาปัจจุบันอยู่ที่ 630,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดการณ์จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 730,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน มิ.ย. 66 และ 820,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ม.ค. 67 ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ผ่อนผันมาตรการการส่งออกน้ำมันดิบสู่สหรัฐฯ เนื่องจากอุปทานในตลาดโลกที่ตึงตัว

ทางเทคนิคราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 75-81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

‘ชูวิทย์’ ชื่นชม ‘บิ๊กตู่’ เป็นชายชาติทหาร หลังรับปากตรวจสอบ ปมหลานเอี่ยวทุจริต

‘ชูวิทย์’ ชื่นชม ‘บิ๊กตู่’ เป็นชายชาติทหาร หลังยอมพบถกปมหลานเอี่ยวทุนจีนสีเทา ยอมหยุดแฉตามที่นายกฯ ขอเพื่อตรวจสอบ ชี้นายกฯ รับปากพร้อมฟันหากผิดจริง บอกงานนี้มาไม่เสียเที่ยว

เมื่อวานนี้ (9 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 20.15 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังร่วมกิจกรรมเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ห้องรับรองเป็นเวลา 10 นาที

จากนั้น นายชูวิทย์ได้เปิดเผยว่า เมื่อเข้าไปในห้อง นายกฯ ได้ทักทายและกล่าวว่า “ชูวิทย์ มีอะไรก็ว่ามา” “ชูวิทย์ พอแล้ว หยุดได้แล้ว อย่าไปพูดทําร้ายใคร ถ้ามีหลักฐานก็นํามาแสดง และถ้าเป็นจริง ก็พร้อมที่จะฟัน” 

ซึ่งนายกฯ ยืนยันแบบชายชาติทหารว่าจะจัดการกับปัญหานี้ แต่การดำเนินการต้องมีขั้นมีตอน โดยรอให้ฝ่ายจเรสรุปเรื่องก่อน โดยนายกฯ กล่าวว่าได้กำชับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แล้ว ตนก็รับฟัง ซึ่งตนก็ต้องยอมรับ ถ้านายกฯ พูดอย่างงี้ก็แสดงว่า ท่านมีความเอาใจใส่ ถ้านายกฯ พูดแบบนี้แสดงว่าใจถึง เมื่อนายกฯ ใจถึงยอมรับฟัง คนอย่างชูวิทย์ ซึ่งเป็นประชาชนคนเล็ก ๆ ก็ถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ รับฟังปัญหาของประชาชนคนหนึ่ง ตนก็ต้องให้เวลาจัดการปัญหาตามระบบราชการ

เตรียมอำลา ‘สถานีกรุงเทพ’ ต้นสายการเดินทาง สู่ ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์’ ศูนย์กลางใหม่รถไฟไทย

เมื่อวานนี้ (9 ม.ค. 66) เพจ ‘โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure รู้สึกได้รับพรที่ สถานีรถไฟหัวลำโพง (Bangkok Railway Station)’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการอำลาสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อเปลี่ยนไปใช้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ศูนย์กลางใหม่ของรถไฟไทย โดยระบุว่า…

อีก 10 วัน!!! เตรียมอำลาสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) สู่สถานีรอง มุ่งสู่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ศูนย์กลางใหม่ของรถไฟไทย!!!

วันนี้ผมมาเก็บภาพสถานีกรุงเทพ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า หัวลำโพง ก่อนที่จะถูกย้ายต้นทางหลักของการรถไฟไปสู่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ในวันที่ 19 มกราคม 66 นี้ ซึ่งเหลืออีกแค่ 10 วันเท่านั้น!!!!

รายละเอียดการย้ายศูนย์กลางระบบรางสู่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตามลิงก์นี้ครับ
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1584694601969013/?mibextid=cr9u03

บรรยากาศสถานีหัวลำโพงที่เราคุ้นเคย ก็ยังคึกคักอยู่เหมือนเดิม พร้อมกับผู้โดยสารที่รอเดินทางอยู่หลายร้อยคน บริเวณโถงสถานีรถไฟหัวลําโพง

‘สันติ’ เผย ไม่ง้อ หาก ส.ส.ย้ายพรรค ลั่น!! พรรคมีตัวสำรองที่มีความตั้งใจเยอะ

วันนี้ (10 ม.ค. 66) เวลา 09.07 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงประเด็นการเช็กลิสต์ ส.ส.ย้ายไปยังพรรคอื่นว่า ส.ส.เมื่อเขาจะไป แล้วตนจะทําอย่างไรได้ ตนในฐานะเลขาพรรคก็ทําหน้าที่ หาดูคนดี ๆ มาสํารองเอาไว้ เพราะคนเหล่านี้เป็นคนดีมีความตั้งใจ เราจึงนำมาสํารองเอาไว้ นี่ก็เป็นตัวหนึ่งที่จะเป็นหลักประกัน ว่าส.ส. ที่คิดจะย้ายไปย้ายมา ก็ต้องคิดให้ดี

ด้านอนาคตทางการเมืองสองพรรคในระหว่างรวมไทยสร้างชาติกับพลังประชารัฐ จะจับมือกันได้ไหม สันติกล่าวว่า ให้ทุกคนดูว่าหัวหน้าพรรคนั้นคือพลเอกประวิตร เป็นคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน ทุกพรรค ฉะนั้นเรื่องที่จะไปรังเกียจ พรรคนี้ รังเกียจ ส.ส.ของพรรคนี้ มันจะรังเกียจได้ยังไง ในเมื่อพี่น้องประชาชนเลือกมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top