Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

จีน ปรับมาตรการสู้โควิด เน้นสกัดอาการรุนแรง หันพึ่งพา ‘ยาแผนจีน’ ช่วยบรรเทาอาการเบื้องต้น

ปักกิ่ง, 4 ม.ค. (ซินหัว) — ปัจจุบันจีนได้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็น 'คุ้มครองสุขภาพ สกัดอาการรุนแรง' โดยยุทธศาสตร์ส่วนหนึ่งอาศัยจุดแข็งอันมีลักษณะเฉพาะของการแพทย์แผนจีน (TCM)

กลไกร่วมป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 แห่งคณะรัฐมนตรีจีน ได้จัดงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร (3 ม.ค.) โดยมีคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารการแพทย์แผนจีนแห่งชาติจีน และทีมผู้เชี่ยวชาญการแพทย์แผนจีน ร่วมตอบประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้อง

หมี่เฟิง โฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน กล่าวว่า จีนส่งเสริมการบูรณาการแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนตะวันตกในการรับมือโรคโควิด-19 เพื่อเพิ่มอัตราการรักษา ลดอัตราการป่วยหนักและการเสียชีวิต รวมถึงกระตุ้นการหายดีโดยเร็วของผู้ติดเชื้อ

จางจงเต๋อ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน เผยว่ายาแพทย์แผนจีนสามารถช่วยบรรเทาอาการที่เด่นชัด เช่น มีไข้สูง ท้องอืด และท้องผูก ในผู้ติดเชื้ออาการหนัก

หลิวชิงเฉวียน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนปักกิ่ง สังกัดมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์นครหลวง ระบุว่าปกติผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาด้วยยาแพทย์แผนจีนตั้งแต่เนิ่น ๆ จะมีไข้ลดลงจนอุณหภูมิร่างกายกลับสู่ระดับปกติภายในระยะเวลา 2-3 วันหากมีอาการเจ็บคอ ไอ เสียงแหบ และอื่นๆ สามารถรับประทานยาแพทย์แผนจีนตำรับบำรุงทางเดินหายใจ (ซวนเฟ่ยจื่อเขอ) หากมีอาการเจ็บคอหนักมากสามารถรับประทานยาตำรับขับพิษและบรรเทาการเจ็บปวด (ลี่เยี่ยนเจี่ยตู๋จื่อท้ง) หากมีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน และท้องเสีย สามารถรับประทานยาตำรับขจัดความชื้นและพิษ (ฮว่าซือเจี่ยเปี่ยวเล่ย)

ดึงสติโซเชียล!! หลังคนจีนแห่เที่ยวไทย จงเป็นเจ้าภาพที่ดี ที่อยู่กับโควิดให้เป็น

จากกรณีจีนเปิดประเทศ และมีการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2566) จะมีจำนวนประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน โดยคาดว่ามกราคมจะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน และมีนาคม 150,000 คนนั้น ทำให้มีคนจาก 2 ฟากฝ่ายที่ทั้งยินดีต้อนรับ และอคติว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวจีนจะนำพาเชื้อโควิดเข้ามาระบาดสู่ไทยครั้งใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้ 2 แพทย์ชั้นนำของไทยได้ให้ความกระจ่างแบบไม่ต้องตื่นตระหนก เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี และมีความปลอดภัยไว้ ดังนี้...

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ที่ปรึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวไว้ว่า “คนจีนนำรายได้เข้าประเทศเราไม่น้อย ดังนั้นสิ่งที่เราควรระวัง ไม่ใช่ระวัง ‘เขา’ แต่เราต้องลดความเสี่ยง ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ล้างมือบ่อยๆ ยังทำได้ไม่ว่ากับโควิด-19 สายพันธุ์ไหนๆ และวัคซีนยังมีอยู่ให้รีบไปฉีดเลย ไม่ต้องรอ”

'อลงกรณ์' กร้าว!! ปี 66 จะเป็นปีแห่งเทคโนโลยีเกษตรไทย หลังเดินหน้าจัดตั้งศูนย์ AIC 'อำเภอ-ตำบล' ทุกจังหวัด

'อลงกรณ์' เดินหน้าจัดตั้งศูนย์ AIC อำเภอและตำบลทุกจังหวัดเร่งถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรเป็นคานงัดปฏิรูปภาคเกษตรครั้งใหญ่

(4 ม.ค. 66) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และ ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) เป็นประธานการประชุมผ่านระบบทางไกลออนไลน์ ZOOM Cloud Meeting ครั้งที่ 1/2566

โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงมากในฐานะประเทศผู้ผลิตและส่งออกอาหารชั้นนำของโลกหรือครัวของโลก (Kitchen of the World) ดังนั้นการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมเมดอินไทยแลนด์ (Made in Thailand) จึงเป็นคาดงัดที่สำคัญ ในการสร้างจุดเปลี่ยนให้กับภาคเกษตรและเศรษฐกิจของประเทศจึงขอให้ปี 2566 เป็นปีแห่งเทคโนโลยีเกษตรไทยเพื่อยกระดับการพัฒนาภาคเกษตรและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สู่เป้าหมาย 3 สูง คือ ประสิทธิภาพสูง / มาตรฐานสูง และรายได้สูง สอดคล้องกับหมุดหมายเกษตรมูลค่าสูง (Value Shifted) ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 

โดยจะมีการพัฒนาโครงสร้างและระบบใหม่ในปีนี้ได้แก่...

1. ในระดับประเทศ 
คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร4.0และคณะกรรมการบริหารAICในระดับประเทศจะเป็นแกนหลักในการจัดตั้งสร้างองค์กรเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรวิจัยและพัฒนา วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ภาควิชาการและสถาบันเกษตรกรต่างๆทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมและข้อมูลข่าวสารตลอดจนการส่งเสริมการค้าการลงทุนการอบรมบ่มเพาะและถ่ายทอดองค์ความรู้

2. ในระดับจังหวัด
เพิ่มความร่วมมือระหว่างศูนย์ความเป็นเลิศ(AICประเภทCenter of Excellence :CoE) 23 ศูนย์ กับศูนย์ AICระดับพื้นที่(AIC area based)ทั้ง 77 จังหวัด เนื่องจากศูนย์ความเป็นเลิศจะมีความรู้เฉพาะด้าน เป็นองค์ความรู้ความสามารถระดับไทยระดับโลก จำเป็นที่จะต้องให้มีการแลกเปลี่ยน ร่วมมือ และถ่ายทอดองค์ความรู้เฉพาะด้านลงสู่ระดับพื้นที่ เพื่อให้สามารถนำองค์ความรู้ลงไปใช้ใน77จังหวัดจึงให้มีการจัดประชุมร่วมในเดือนหน้า เพื่อวางแนวทางความร่วมมืออย่างเป็นระบบ

3. ในระดับอำเภอ
จัดตั้งศูนย์AICอำเภอขึ้นในสำนักงานเกษตรอำเภอ เพื่อสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมจากศูนย์ระดับจังหวัดมาสู่ระดับอำเภอ รวมถึงศูนย์ความเป็นเลิศทั้ง 23 ศูนย์ด้วย เพื่อให้องค์ความรู้สามารถลงสู่พื้นที่ได้ทุกระดับ

4. ในระดับตำบล
ให้ดำเนินการจัดตั้ง ศูนย์ AIC ในระดับตำบลที่อบต.หรือเทศบาลตำบลขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล 7,255 ตำบล โดยให้ศพก.ที่มีอยู่ 882 แห่ง รวมทั้งเครือข่าย ศพก.และแปลงใหญ่ เป็น AIC Station สนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับหมู่บ้านตำบลชุมชนใน 76 จังหวัดและ 50 เขตในกทม.

5. จัดตั้ง 'อาสาAIC' ตำบล
ดำเนินการเปิดรับสมัคร หรือคัดสรร อาสา AIC ตำบลละ อย่างน้อย 1 คน โดยสรรหาจาก Young Smart Farmer  Smart Farmer และเปิดรับสมัครผู้ที่มีความสนใจและมีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมในการเดินหน้าร่วมการสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมในพื้นที่ของตนเอง

6. การจัดทำระเบียบกระทรวงว่าด้วยการบริหาร AIC เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องต่อไป

ทั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการฯ ภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0
ดังนี้...

1. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Big Data และ Gov Tech ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีความก้าวหน้าการดำเนินงานการจัดทำ Big Data ด้านเกษตร ระดับจังหวัด โดยมีการต้ังคณะทํางานภายในสศก.เพื่อขับเคลื่อนการจัดทํา Big Data ด้านการเกษตร ซึ่งขณะนี้ (ม.ค. - ก.พ. 66) อยู่ในช่วงของการวิเคราะห์ผลการสํารวจและจัดลําดับความสําคัญ คาดว่าหน่วยงานในพื้นที่จะสามารถใช้ประโยชน์จาก Dashboard ที่สมบูรณ์แล้ว ภายในเดือน ก.ย. 66  และผลการดำเนินงานแนวทางการบูรณาการ Application (Super App) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปัจจุบันที่ให้บริการอยู่ในรูปแบบของ Web Application Mobile Application และระบบการบริการภาครัฐ ท่ีได้ถูกแปลงให้เป็นดิจิทัลแล้ว มีจํานวน 175 บริการ โดยวางแนวทางดังนี้...

1) พัฒนา Application ที่มีความสามารถเฉพาะอย่าง ตามภารกิจ ของหน่วยงาน 

2) พัฒนา Application ที่มีเป็นศูนย์รวมการให้บริการ ที่เกษตรกร สามารถติดตั้งใช้งาน โดยไม่ใช้ทรัพยากรมาก โดยการเรียกใช้บริการ จะดําเนินการผ่าน API ที่แต่ละหน่วยงานจัดเตรียมไว้และมีระบบการยืนยันตัวตนที่เป็นมาตรฐานร่วมกัน 

3) ระบบการบริการเชื่อมโยงข้อมูล National Single Window (NSW) หน่วยงานใน กษ.จำนวน 5 หน่วยงาน  57 บริการ คือ  e-Payment และ e-Signature

2. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรอัจฉริยะ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานความก้าวหน้าของการวิจัยและพัฒนาเครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังโดยมีการพัฒนาและวิจัยเครื่องขุดมันสำปะหลังแบบไถหัวหมู เครื่องขุดและเก็บมันสำปะหลัง เครื่องตัดต้นมันสำปะหลังแบบติดตั้งหน้ารถแทรกเตอร์ ซึ่งร่วมกับ บริษัท บีทีโอโตพาร์ท เป็นภาคเอกชนที่นำผลงานวิจัย ไปทำการผลิตและจำหน่าย เป็นการพัฒนาและต่อยอดผลการวิจัยข้างต้นให้เป็นต้นแบบ 'เครื่องเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังแบบกึ่งอัตโนมัติ'

การจัดทำเสนอโครงการการพัฒนาและวิจัยที่จะดำเนินการเสนอ สวก. ในการของงบประมาณการวิจัย 3 โครงการ ได้แก่ โครงการการพัฒนา IoTs Platfrom สำหรับการผลิตทุเรียนแปลงใหญ่อัจฉริยะ โครงการการพัฒนาแอปพลิเคชันทำนายและตรวจวิเคราะห์ศัตรูพืช (โรคพืช แมลงศัตรูพืชและวัชพืช) ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตรอัจฉริยะ (เครื่องสาง + ม้วนใบอ้อย) เพื่อแก้ปัญหาการเผาอ้อย และรายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับบริษัท ล็อกซ์เลย์ จำกัด  (มหาชน) เพื่อขับเคลื่อนแปลงใหญ่เกษตรอัจฉริยะข้าว ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการหารือประเด็นสนับสนุนการลดภาษีการนำเข้าเครื่องดังกล่าว และการติดตั้งซิมการ์ด การเชื่อมโยงและการเข้าถึงข้อมูลสภาพอากาศของเกษตรกร เพื่อสนับสนุนการทำเกษตรอัจฉริยะ

ตร.ภ.7 โชว์ผลกวาดล้างอาชญกรรมช่วงปีใหม่ จับกุมผู้ต้องหา - ยึดของกลางได้จำนวนมาก

ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ‘พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี’ และ กวดขันจับกุมมาตรการ 10 ข้อหาหลัก เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2566 ภายใต้แผนยุทธการ ‘พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี’ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง 8 จังหวัด 104 สถานี พร้อมของกลางจำนวนมาก

(4 ม.ค. 66) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 2 ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม กาญจนบุรี เพชรบุรี และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ตลอดจนผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมให้ห้วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ภายใต้แผนยุทธการ ‘พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี’ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง 8 จังหวัด 104 สถานี ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 65 - 30 ธ.ค.65 (ระยะเวลา 10 วัน) พร้อมของกลางจำนวนมาก

ตามนโยบายของรัฐบาล ที่มีความห่วงใยประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวและประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาของตน อาจมีผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสก่ออาชญากรรม ก่อให้ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการเดินทางสัญจรของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน จึงบัญชาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรม และกวดขันจับกุม 10 มาตรการหลักเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน ให้บังเกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ

ตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมสนองรับนโยบาย ควบคุมการปฏิบัติ และสั่งการให้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด 8 จังหวัด และผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 บูรณาการการทำงานกับหน่วยงานในพื้นที่ ระดม กวาดล้างอาชญากรรมในห้วงดังกล่าว และกวดขันจับกุม 10 มาตรการหลักเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในห้วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ที่พี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา (ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.65 - 2 ม.ค.66) โดยมีผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมภายใต้แผนยุทธการ ‘พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี’ (ระหว่างวันที่ 20 - 29 ธ.ค.65) เน้นเป้าหมายความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ยาเสพติด พรบ.คนเข้าเมือง และบุคคลหมายจับ เพื่อป้องกันเพื่อลดโอกาสมิให้ผู้ไม่หวังดีก่ออาชญากรรมในช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ดังนี้

1. ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จับกุม 584 ราย ผู้ต้องหา 584 คน
2. ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุม 1,977 ราย ผู้ต้องหา 1,993 คน
3. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จับกุม 789 หมาย ผู้ต้องหา 786 คน  
4. ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ จับกุม 2,312 ราย ผู้ต้องหา 2,326 คน
5. ความผิดเกี่ยวกับการพนัน จับกุม 474 ราย ผู้ต้องหา 552 คน
6. ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ จับกุม 8 ราย ผู้ต้องหา 8 คน

พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้
1. อาวุธปืน รวม 503 กระบอก แบ่งเป็น
1.1 อาวุธปืน ไม่มีทะเบียน 420 กระบอก   
1.2 อาวุธปืน มีทะเบียน 83 กระบอก 

2. วัตถุระเบิด 48 ลูก

3. เครื่องกระสุนปืน 954 นัด

4. ยาเสพติด จำนวนมาก แบ่งเป็น
- ยาบ้า 46,020 เม็ด
- ยาไอซ์ 2,515 กรัม
- เฮโรอีน 7.22 กรัม  
- ยาอี 11 เม็ด
- ยาเค 5.98 กรัม

อาลัย!! 'มามาฮัจยะฮฺซอฟียะฮฺ พิศสุวรรณ' มารดา ดร.สุรินทร์ ผู้สร้างคุณูปการแก่สังคม 'ไทย-มุสลิม' บนแผ่นดินสยาม

(5 ม.ค. 66) ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ผอ.ศวฮ.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Dr.Winai Dahlan’ ความว่า...

วานนี้พุธที่ 4 มกราคม 2566 มามาฮัจยะฮฺซอฟียะฮฺ พิศสุวรรณ อายุ 97 ปี มารดา ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้คืนกลับสู่อัลลอฮฺตะอาลาแล้วอย่างสงบ ณ บ้านที่ปอเนาะบ้านตาล รร.ประทีปศาสน์ จ.นครศรีธรรมราช ในนามของศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และครอบครัวดะห์ลัน ขอแสดงความเสียใจมายังครอบครัวพิศสุวรรณทุกคน สิ่งที่มามาทิ้งไว้คือคุณความดีมากมาย ความเสียใจและเสียดายของลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก เป็นการจากไปอย่างยิ่งใหญ่ดั่งขุนเขา

ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ บุตรชายของมามาจากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ก่อนมามากว่าห้าปี ภารกิจที่ท่านทิ้งค้างไว้ในวันเดียวกันนั้นคือ การเป็นประธานเปิดงาน Thailand Halal Assembly 2017 ซึ่งท่านแต่งตัวเตรียมเดินทางไปเปิดงานแทนท่านนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามแม้ท่านพลาดภารกิจนี้ทว่าท่านกลับปฏิบัติภารกิจสุดท้ายในชีวิตที่สำคัญกว่าได้ลุล่วงนั่นคือการเดินทางกลับจากญี่ปุ่นและตรงไปกอดมารดาของท่านด้วยความรักอย่างที่สุดที่ปอเนาะบ้านตาล อันเป็นภารกิจที่ท่านปฏิบัติเป็นประจำจากนั้นจึงบินกลับกรุงเทพฯวันรุ่งขึ้นเพื่อเปิดงานให้กับศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล ทว่าท่านกลับคืนสู่อัลลอฮฺตะอาลาในวันนั้นอย่างที่บอก ทราบจากครอบครัวท่านว่าทุกคนพยายามปิดข่าวการจากไปของ ดร.สุรินทร์มิให้มามาทราบเนื่องจากเวลานั้นมามาสุขภาพไม่ดีนัก

‘ไฮโซพก’ แจง เลิกรา ‘อั้ม พัชราภา’ จริง ยัน!! ไม่มีมือที่สามตามที่เป็นข่าวแน่นอน

(5 ม.ค. 66) หลังมีข่าวออกมาว่าความสัมพันธ์ของ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ กับ ไฮโซพก-ประธานวงศ์ พรประภา ได้ปิดฉากลงแล้ว โดยมีนางเอกชื่อดัง อักษรย่อ ม. เป็นมือที่สาม ล่าสุด ไฮโซพก ประธานวงศ์ ได้ออกมาโพสต์ชี้แจง ยอมรับว่าเลิกกันจริงกับสาวอั้ม แต่ยืนยันงานนี้ไม่มีมือที่สามแน่นอน

โดยไฮโซพกได้โพสต์ข้อความลงในสตอรี่ อินสตาแกรมส่วนตัว ระบุว่า "ผมเห็นข่าวแล้วไม่ค่อยสบายใจจึงตัดสินใจเสริมเรื่องราวให้นิดนึงนะครับ ตอนนี้ผมเห็นหลายบุคคลได้โดนโยงเข้ามาก็เห็นควรที่จะต้องออกมาอธิบายนิดนึงในเรื่องที่คิดว่าควรเป็นเรื่องส่วนตัว ผมรู้สึกไม่ดีที่ต้องทำให้คนที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย ต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องของผม ตั้งแต่เราคบกันมาผมไม่เคยมีแม้แต่คิดว่าจะมีหรือ อยากมีมือที่สาม ด้วยความที่คุณอั้มเป็นผู้หญิงที่ดีที่ผมรักและให้เกียรติมาโดยตลอด

ผู้โดยสาร 4 คนรอดตายหวุดหวิด หลังรถเทสลาตกหน้าผาลึก 76 เมตร

รถยนต์เทสลาตกหน้าผาลึกกว่า 76 เมตร ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ผู้โดยสาร 4 คน รอดชีวิตราวกับปาฏิหาริย์ ตำรวจเผยขณะเกิดเหตุรถไม่ได้เปิดระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ พร้อมเร่งหาสาเหตุที่ทำให้รถเสียหลัก

เมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งยี่ห้อเทสลา สีขาว 4 ประตู ตกเหวที่บริเวณหน้าผาใกล้กับ ‘เดวิล สไลด์’ เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์ (2 ม.ค. 66) ที่ผ่านมาและดิ่งชนกับโขดหินที่ลึกลงไปกว่า 76 เมตร

หลังจากได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ ก่อนจะสังเกตเห็นผู้โดยสารบนรถมีการเคลื่อนไหวจากระยะไกล จึงเร่งช่วยเหลือและพบว่าผู้โดยสารทั้ง 4 คน ประกอบไปด้วย เด็ก 2 คน และผู้ใหญ่ 2 คน ยังรอดชีวิตอยู่อย่างปาฏิหาริย์ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวแม้จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นนบ่อยครั้งแต่ก็ยากที่จะพบผู้รอดชีวิต

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บินด่วนนำทีมจับกุม ปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ห้วยคต สมรู้ร่วมคิดจ้างวานเผาเสาไฟฟ้าผู้รับเหมาเสียหาย ในพื้นที่ สภ.ห้วยคต จว.อุทัยธานี

จากกรณีช่วงระหว่างวันที่ 19 - 20 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้ลักลอบวางเพลิงเผาเสาไฟฟ้าส่องสว่างจำนวน 28 ต้น เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายห้วยช้าง-คูคต ต.ห้วยคต อ.ห้วยคต จว.อุทัยธานี พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ห้วยคต ภ.จว.อุทัยธานี ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลได้นำเสนอไปแล้วนั้น กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ทำหน้าที่ควบคุมดูแลสั่งการการสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นคดีที่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ มีความเกี่ยวเนื่องกับคดีอื่น ๆ อีกหลายคดีในลักษณะเดียวกันนี้ อีก 9 เหตุการณ์ ใน 7 พื้นที่ 2 จังหวัด ซึ่งมีลักษณะพฤติการณ์ในคดีใกล้เคียงกัน อาจมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางธุรกิจ เกี่ยวข้องกับการประมูลงานในระดับท้องถิ่น และอาจมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.ตราด, พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมด้วยทีมงานพนักงานสืบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 587/2565 รวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียด และเร่งรัดการสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว

จากการสืบสวนทราบว่า หลังจากเกิดเหตุคดีเผาเสาไฟฟ้าจำนวนหลายต้น ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 65 นายอนุชา หรือบีม อายุ 19 ปี ได้เดินทางมามอบตัวต่อ พงส.สภ.ห้วยคต และให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ ก่อเหตุวางเพลิงเผาเสาไฟฟ้าส่องสว่างดังกล่าวด้วยตนเองจริง และได้ก่อเหตุแต่เพียงผู้เดียว พงส.จึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายอนุชาฯ หรือบีม ว่าได้กระทำความผิดฐาน “วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, ทำให้เสียทรัพย์” ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ทีมงานพนักงานสืบสวนฯ พบข้อพิรุธต้องสงสัยหลายประการ จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ทำให้ทราบว่าพฤติการณ์ตามที่นายอนุชาฯ หรือบีม ให้การรับสารภาพกับ พงส.สภ.ห้วยคต ดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง นำไปสู่รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมและยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ได้ร่วมก่อเหตุในคดีดังกล่าวเพิ่มเติม ได้แก่

1. นายสุรสีห์ หรือปลัดแมว หรือ ป.แมว อายุ 45 ปี ปลัดอำเภอห้วยคต ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1/2566 ลงวันที่ 2 ม.ค.66
2. นายวิรัตน์ หรือต้อม อายุ 34 ปี พนักงานราชการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า วนอุทยานห้วยคต ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2/2566 ลงวันที่ 2 ม.ค. 66 

ซึ่งได้ร่วมกันกระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และซ่องโจร' 

'อนุทิน' ย้ำ!! มาตรการดูแล นทท.ทุกชาติเท่าเทียม วอน!! อย่าตั้งป้อมกับจีน เพราะไม่เคยขัดแย้งกัน

‘อนุทิน’ ย้ำ มาตรการดูแลนักท่องเที่ยวทุกชาติเท่าเทียม ชี้ ปรับตามสถานการณ์ที่เปลี่ยน วอน อย่าตั้งป้อมรับจีน เพราะไม่เคยขัดแย้งกัน

(5 ม.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ว่า วันนี้ข้อสรุปแต่ละมาตรการมีอยู่แล้ว และจะนำมาหารือและแจ้งให้แต่ละหน่วยงานทราบในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามาในไทย ที่คาดว่าในต้นปีจะมีประมาณ 4-5 หมื่นคน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับทราบมาตรการรองรับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน แล้วจะสอบถามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องค่าเหยียบแผ่นดิน ที่เปรียบเหมือนการทำประกันของนักท่องเที่ยว ที่จะต้องดูนักท่องเที่ยวที่เจ็บป่วย ไม่เฉพาะโควิด-19 จะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ จะได้มีงบประมาณดำเนินการ ขณะที่ระบบสาธารณสุขของไทย ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก็มีงบประมาณก้อนหนึ่งสำหรับดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นกัน 

ผู้สื่อข่าวถามว่านักท่องเที่ยวจีนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันทีที่ถึงสนามบินหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้กรมควบคุมโรค จะกำหนดมาตรการออกมาตามสถานการณ์ และจะมีข้อกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ และต้องทำเต็มที่กับทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่ามาตรการป้องกันกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะใช้มาตรการที่มีอยู่เดิมให้มากที่สุด และเรารับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะกับจีน แต่อีกทางจะต้องเน้นที่ตัวเองต้องหุ้มเกราะ คือฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อน อย่างน้อย 4 เข็มเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงโดยสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะและพื้นที่แออัด ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีน เขามีการตรวจก่อนเดินทางออกนอกประเทศและเมื่อกลับเข้าประเทศ ในขณะที่สถานทูตจีน ได้ประสานกับโรงพยาบาลที่จะทำการรักษาไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาสามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศ ไม่ได้แบ่งว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาติไหน เพราะเราถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมด แต่ละคนก็มาจากประเทศที่มีการติดเชื้ออยู่ที่ว่าจะเป็นเชื้อใหม่หรือเก่า ถ้าเป็นเชื้อใหม่ มาตรการรับมือก็เปลี่ยนได้ ดังนั้นอย่านำมาตรการของไทยไปเทียบกับประเทศอื่น เพราะนี่ประเทศไทยไม่เหมือนกัน

เมื่อถามว่าทางประเทศจีน ระบุในทำนองจะมีมาตรการตอบโต้ประเทศที่ปฏิเสธรับคนจีน นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับจีน และมีความสัมพันธ์ที่ดี ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด

‘ดร.เทอดศักดิ์’ แนะ ‘บิ๊กตู่’ ถือฤกษ์ 16 ม.ค. ชี้!! เป็นวันดี เหมาะแก่การสมัครพรรค รทสช.

เมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 65) เว็บไซต์ ‘vihok news’ ได้โพสต์คำทำนายของ ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา เกี่ยวกับดวงชะตาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยระบุว่า…

ดวงชะตาสังกัดพรรค

เจ้าชะตาชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

- เกิดวันที่ 24 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2497 ค.ศ. 1954 เกิดเวลาสุทธิที่ 03:54 น. ลัคนาสถิตราศีกุมภ์ ประกอบด้วยเทศาตรีฤกษ์
- ตามสุริยคติ เป็นวันพุธ จันทรคติ เป็นวันอังคาร จ.ศ. 1316
- เกิดที่ประเทศ : เกิดประเทศไทย จังหวัด : นครราชสีมา
- เลือกวิธีตัดเวลาท้องถิ่นเพื่อคำนวณหาดาวและลัคนา : ตัดเวลาท้องถิ่นหาดาวและลัคนา
- เวลาเกิดจริงและเวลาเกิดสุทธิ : เกิด 24/03/2497 เวลา 04:05 น. ตัดเวลาท้องถิ่นเพื่อหาตำแหน่งดาวและลัคนา นครราชสีมา 11 นาที เหลือเวลาเกิดสุทธิ 03:54 น.
- วันเและเวลาที่ใช้คำนวณหาดาวและลัคนา : เกิด 24/03/2497 ดาว ณ 03:54 น. ลัคนา ณ 03:54 น. (ตัดเวลาท้องถิ่นหาดาวและลัคนา)
- ณ วันนี้เจ้าชะตา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อายุได้ : 68 ปี 9 เดือนกับอีก 16 วัน (นับเป็นจำนวนวันได้ 25,128 วัน)

การจะสมัครพรรค รวมไทยสร้างชาติ ถือฤกษ์ วันที่ 9 มกราคม ดาวจร ณ วันที่ 9 เดือนมกราคม พ.ศ. 2566 ค.ศ. 2023 เวลา 09:00 น. ลัคนาสถิตราศีกุมภ์ ประกอบด้วยเพชฌฆาตฤกษ์

- ตามสุริยคติ เป็นวันจันทร์ จันทรคติ เป็นวันจันทร์ ตรงกับ แรม 3 ค่ำ เดือน 2 ปีขาล จ.ศ. 1385

- แสดงคำทำนายดาวจรส่งอิทธิพลในเกณฑ์ 21 องศา คือแสดงคำทำนายดาวจรเฉพาะที่องศาดาวกำเนิดกับองศาดาวจรห่างกันในระยะ 21 องศาเท่านั้น

เพชฌฆาตฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย (ภารตะ) เรียกว่า นิธนะ เพชฌฆาต ฤกษ์ แปลว่า ผู้ทำการตัด การแบ่ง ไม่ใช่เพชฌฆาต ที่ไว้ฆ่าคน สมัยก่อนการลงโทษโดยการประหารชีวิตด้วยการตัดคอ มีผู้ทำการลงโทษก็เรียกว่า เพชฌฆาต ทำให้คนเข้าใจสับสน

ซึ่งศัพท์คำนี้แปลว่า ‘ผู้ตัด’ เฉย ๆ ส่วน เพชฌฆาต ฤกษ์ แปลความว่า ‘ฤกษ์แห่งการตัด’ ไม่เกี่ยวกับการฆ่าแต่อย่างใด มีดาวพฤหัสเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 ตัดขาดกัน และ ตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า ‘ตรินิเอก’ คืออยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท

ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลโดยทั่วไป เป็น ฉินทฤกษ์ แต่เป็นฤกษ์ดีหมาะสำหรับ การฟันฝ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่าง ๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง

ลงเลขยันต์ สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยาก ๆ การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ การบวชเรียน การบำเพ็ญเพียรทางจิต

แต่ในทางกลับกัน ฤกษ์ผานาที ดาวจร ณ วันที่ 16 เดือนมกราคม พ.ศ. 2566 ค.ศ. 2023 เวลา 09:00 น. ลัคนาสถิตราศีมีน ประกอบด้วยราชาฤกษ์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top