Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

'อนุทิน-ศักดิ์สยาม' ประสานเสียง ปมป้าย 33 ลบ.สถานีบางซื่อ ลั่น!! หากพบสิ่งผิดปกติ ต้องยกเลิกและลงโทษ

'อนุทิน - ศักดิ์สยาม' ประสานเสียง พบสิ่งผิดปกติเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อสุดแพง พร้อมยกเลิกและลงโทษ 

(3 ม.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวอีกครั้งถึงกรณีที่มีการเปิดเผยถึงการลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่าสูงถึง 33 ล้านบาท ว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงคมนาคมไปดำเนินการตรวจสอบแล้ว แต่ป้ายมันใหญ่ ก็ต้องดูว่าราคากับปริมาณงานเป็นอย่างไรเพราะเป็นป้ายลักษณะพิเศษตัวหนังสือใหญ่ และเป็นการทำป้ายทั้งหมดหลายรายการ 

เมื่อถามว่าแต่กระแสสังคมว่าแพงไป นายศักดิ์สยามกล่าวว่า คงมีการชี้แจง เพราะเรามีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ ไม่ต้องกลัวในเรื่องเหล่านี้ ถ้าถูกก็คือถูก ถ้าผิดก็คือผิด ทั้งนี้ได้สั่งการไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ม.ค.แล้ว ไม่เกิน 7 วันก็คงทราบผล

'ประชาชน' โอด!! เรือโดยสารไฟฟ้าคลองผดุงฯ จอดนิ่งมา 3 เดือน วอนผู้ว่าฯ ตรวจสอบ

ประชาชนโอด เรือโดยสารไฟฟ้า คลองผดุงกรุงเกษม จอดนิ่งไม่ได้ให้บริการมานานกว่า 3 เดือนแล้ว จนทำให้ได้รับผลกระทบการสัญจร วอนผู้ว่าฯ กทม. ตรวจสอบเพื่อความสะดวกสบายของประชาชน

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Suttachitt Narutt’ โพสต์ร้องเรียนหลังเรือโดยสารไฟฟ้า คลองผดุงกรุงเกษม จอดนิ่งไม่ได้ให้บริการมานานกว่า 3 เดือนแล้ว จนทำให้ตนได้รับผลกระทบ วอนหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อความสะดวกสบายของประชาชนที่สัญจรโดยเรือไฟฟ้าดังกล่าว

โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า "เรือโดยสารไฟฟ้าจอดนิ่งสนิทมาประมาณ 3 เดือนแล้ว เมื่อไหร่จะกลับมาวิ่งให้บริการประชาชนอีก ชช. ช่วยที เพื่อเห็นแก่การเดินทางของประชาชน เส้นทางนี้มีประโยชน์ ช่วยให้การเดินทางสะดวก เพื่อมาต่อรถไฟ รถประจำทาง รถไฟใต้ดิน ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงได้เป็นอย่างดี"

'ไอติม' ซัด ส.ว. อย่าเลือกนายกฯ ตามความเชื่อส่วนตัว แต่ควรโหวตนายกฯ ตามเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.

(3 ม.ค. 66) พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล กล่าวถึงท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่แสดงออกผ่าน พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ที่ให้สัมภาษณ์ระบุว่าไม่มีความจำเป็นต้องรีบ ‘ปิดสวิตช์ ส.ว.’ และการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นไปตาม ‘ดุลยพินิจของสมาชิก’

พริษฐ์ระบุว่า การให้สัมภาษณ์ของประธานวุฒิสภาดังกล่าวนั้น แสดงให้เห็นถึงการละเว้นไม่พูดถึงสาระสำคัญของปัญหา เพราะแม้ ส.ว. จะเหลือวาระอีกไม่นาน แต่ระยะเวลาที่เหลือนั้นคาบเกี่ยวกับการเลือกตั้งในปี 2566 ทำให้ ส.ว. ยังคงสามารถแทรกแซงกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลไปอีก 4 ปีตามวาระรัฐบาลใหม่ ซึ่ง ส.ว. ไม่ควรเลือกนายกรัฐมนตรีตามความเชื่อของตนเอง แต่ควรเลือกจากบุคคลที่ได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง หากต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยที่เคารพเสียงของประชาชนที่แสดงออกผ่านบัตรเลือกตั้งจริง ๆ

พริษฐ์ยังกล่าวต่อไปว่า หาก ส.ว. อยากเห็นประเทศเดินหน้าตามวิถีประชาธิปไตย ที่เคารพ 1 สิทธิ 1 เสียงของประชาชนในการเลือกตั้ง ส.ว. ควรจะต้องทำ 2 เรื่องในอนาคตอันใกล้นี้ ประกอบด้วย 

1) ลงมติเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคเพื่อไทยได้ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรไปเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 เพื่อยกเลิกมาตรา 272 และปิดสวิตช์ตนเองก่อนการเลือกตั้ง

'เสี่ยหนู' ถาม ส.ว. ให้นั่งนายกฯ หรือไม่ หากภท. ชนะเลือกตั้ง พร้อมปฏิเสธสูตรนายกฯ คนละครึ่ง ลั่น!! ไม่ขอเป็นทายาทใคร

'เสี่ยหนู' โยน ถาม ส.ว. ให้นั่งนายกฯ หรือไม่ หากภท.จัดตั้งรบ.สำเร็จ มีเสียงเหนือพปชร. - รทสช. พร้อมปฏิเสธสูตรนายกฯ คนละครึ่ง ลั่นต้องทำด้วยตัวเอง ไม่ขอเป็นทายาทใคร 

(3 ม.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสการวิเคราะห์ว่าพรรคภูมิใจไทยอาจได้เสียงมาเป็นอันดับ 1 ของขั้วรัฐบาลเดิม จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์เท่านั้น ใครจะวิเคราะห์อย่างไรพรรคภูมิใจไทยก็จะเดินไปแบบนี้ ทำนโยบายแบบนี้ เราอาจจะไม่เด่นในเรื่องของพรรคที่มีกระแส เราก็ต้องเน้นเรื่องสมาชิกที่อยู่ใกล้ชิดชาวบ้าน ใกล้ชิดพื้นที่ ได้รับความเชื่อถือจากชาวบ้าน สมาชิกเหล่านี้ถือเป็นฟันเฟืองของพรรคภูมิใจไทย ในฐานะของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นี่คือการที่พรรคภูมิใจไทยเข้าถึง และสื่อสารกับชาวบ้าน 

ขณะเดียวกันชาวบ้านก็สื่อกับพรรคภูมิใจไทยผ่านสมาชิกเหล่านี้ ในเมื่อเราไม่ทราบว่ากระแสเราแข็งแรงขนาดไหน แต่อย่างน้อยเราก็มีสิ่งที่เชื่อมต่อกับประชาชนได้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ ได้ส.ส.จำนวนมากกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) ที่คาดว่าชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือ พรรคพลังประชารัฐ ที่คาดว่าชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ นายอนุทิน จะเป็นนายกฯ หรือไม่ หรือจะดูบริบททางการเมืองประกอบด้วย

ผบ.บก. ควบคุมสุริโยทัย ตรวจเยี่ยมมอบขวัญ ให้กำลังใจ กำลังพลเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานป้องกันชายแดน เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2566

วันที่ 3 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ฐานปฎิบัติการชุดป้องกันชายแดน กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส  พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย เดินทางมาตรวจเยี่ยม ติดตามผลการปฏิบัติงาน และรับทราบปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ ในการปฏิบัติภารกิจ ซึ่งกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ในการนี้ ได้เครื่องอุปโภค บริโภค มอบเป็นของขวัญ และอวยพรปีใหม่ 2566 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น เข้มแข็ง ต่อไป

‘เพื่อไทย’ ยก 5 ปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทย เตือนรัฐบาลหาทางรับมือก่อนเศรษฐกิจย่ำแย่

(3 ม.ค. 66) จุฑาพร เกตุราทร โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และ ผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ว่าพรรคเพื่อไทยได้เตือนไว้ก่อนแล้วว่าเป็นสัญญาณเศรษฐกิจที่ไม่ดี และแนวโน้มจะทำให้การส่งออกของไทยในปีนี้น่าจะไม่สดใส ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ทีมเศรษฐกิจจึงขอเตือน 5 ปัจจัยเสี่ยงดังนี้ 

1. ปัญหาหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน หนี้จากธุรกิจหลังสถานการณ์โควิด ส่งผลกระทบให้มีหนี้เสียในระบบธนาคาร และหนี้นอกระบบมากขึ้น ซึ่งจะเป็นเหมือนระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจ หากรัฐบาลไม่สามารถจัดการกับเรื่องหนี้เหล่านี้ได้ 

2. ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย จากการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เพื่อหยุดเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบไปทั้งโลก ทั้งเศรษฐกิจของ สหรัฐ ยุโรป จีน และ ญี่ปุ่น ก็จะไม่ดี ซึ่งจะทำให้การส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนของไทยลดลงได้ 

3. ปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ไทยอาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม และจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน

‘อนุทิน’ เผย พร้อมแจงอภิปราย ม.152 ลั่น!! ทำงานเต็มที่ ไม่มีเสียหายต่อประชาชน

(3 ม.ค. 65) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเตรียมความพร้อมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ภายใต้ยุทธการถอดหน้ากากคนดี ว่า ต้องเตรียมความพร้อม ต้องดูว่าผู้อภิปรายอภิปรายเรื่องอะไร หากอภิปรายเรื่องงานที่ทำมา ทุกอย่างก็พร้อมที่จะตอบ ตนคิดว่าพวกเราทำงานเต็มที่ ในส่วนที่รับผิดชอบไม่มีประเด็นอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชน

‘ไรเดอร์’ เซ็งหนัก เขียนข้อความดุดันให้ร้านค้า หลังเจอร้านปิดช่วงปีใหม่ แต่ไม่ปิดรับออเดอร์

(3 ม.ค. 66) แม้จะเป็นช่วงปีใหม่ที่มีวันหยุดหลายวัน แต่สำหรับอาชีพรับ-ส่งอาหาร หรือ ไรเดอร์ กลับไม่ได้หยุดอย่างคนอื่น ๆ เขา แต่เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมากลับมีเรื่องให้ไรเดอร์ได้หัวร้อนเนื่องจากต้องวิ่งรับ-ส่งออเดอร์แต่คนขายดันปิดร้านแต่ไม่ปิดรับออเดอร์ ทำให้ไรเดอร์ไปเสียเที่ยว โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพที่มีข้อความระบุว่า  “_วย ปิดร้าน ไม่ปิดเครื่องรับออเดอร์”

หลังจากโพสต์ไป ก็มีเสียงวิพาษ์วิจารณ์จำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเห็นใจไรเดอร์ เพราะต้องเสียค่าน้ำมันและเสียเวลาไปฟรี ๆ เช่น

"บางร้านเลือกที่จะปิดเครื่อง มากกว่าที่จะเข้าแอพไปกดปิดร้าน ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที เรื่องง่าย ๆ ยังผลักให้เป็นภาระที่คนอื่นต้องเสียเวลาวิ่งมาที่ร้าน ติดต่อก็ไม่ได้ ติดต่อ cc ก็นาน ไม่นานยังไงก็เจ๊ง ไม่เจ๊งก็ไม่โต เพราะถ้าเเค่เรื่องโง่ ๆ ยังทำไม่ได้ แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปพัฒนาร้านให้ดีได้"

"ข้างบ้านหยุดยาวกลับบ้าน แต่ไม่ได้ปิดแอพ มีไรเดอร์มายืนรอหน้าบ้าน น่าสงสารมาก ยกเลิกก็ไม่ได้ เขาต้องถ่ายให้เห็นว่าร้านปิด แต่เขาขายในบ้านไม่มีป้ายบอกว่าร้านปิด CC ก็ติดต่อร้านไม่ได้ เพราะมือถือที่รับออเดอร์มันแบตหมดอยู่ในบ้านที่ปิด ไรเดอร์ยืนรอเกือบ 45 นาที เราได้ช่วยติดต่อข้างบ้านให้ อันนี้เข้าใจไรเดอร์จริง ๆ น่ะ จะยกเลิกเองก็ยุ่งยากมาก ไม่เหมือนร้านยกเลิกน่ะ"

‘วิโรจน์’ จี้ ‘อนุพงษ์’ ปลด ‘ปลัด มท.’ พ้นตำแหน่ง หลังไล่ภูเก็ตถอนตัวเจ้าภาพ Specialized Expo 2028

‘วิโรจน์’ ซัด ปลัด มท. พูดจาไม่สร้างสรรค์ ไล่ภูเก็ตถอนตัวเจ้าภาพ Specialized Expo 2028 คาดเป็นพฤติกรรมเลียนแบบนายกฯ ด้านว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกลภูเก็ตออกจดหมายเปิดผนึก เรียกร้อง ‘อนุพงษ์’ ปลด ‘สุทธิพงษ์’ พ้นตำแหน่ง - เร่งปลดล็อกท้องถิ่น ให้อำนาจจัดการภูเก็ตอยู่ในมือประชาชน

วันที่ 3 มกราคม 2566 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิป สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตำหนิจังหวัดภูเก็ตว่าไม่มีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialized Expo 2028 และขอร้องให้ถอนตัวจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ ด้วยถ้อยคำเชิงเสียดสี ว่า การให้ความคิดเห็นเช่นนี้ของปลัดกระทรวงมหาดไทย มีแต่การบั่นทอน ไม่สร้างสรรค์ ไม่แสดงถึงภาวะผู้นำหรือแม้แต่การเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี สิ่งที่ควรจะเป็นคือไม่ว่ามีอุปสรรคอะไร ก็ต้องแก้ไขให้ลุล่วง ต้องปักธงให้งานสำเร็จ ไม่ใช่เสียดสีให้ถอนตัว ยังไม่นับว่าข้าราชการส่วนกลางไม่เคยรับรู้ความหวังของคนภูเก็ตว่าต้องการให้งานนี้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดขนาดไหน แต่กลับถืออำนาจบาตรใหญ่จากส่วนกลาง

วิโรจน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังนิ่งเฉยต่อพฤติกรรมของปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า น่าตั้งคำถามถึงเส้นสายของปลัดกระทรวงมหาดไทย ทั้งที่เกิดกรณีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมขนาดนี้ แต่รัฐมนตรีกลับเลือกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

“ปลัดสุทธิพงษ์คงดูคลิปคุณประยุทธ์มาเยอะ เช่น ทุ่มโพเดียม ขว้างกล้วย ดังนั้น พูดให้ถึงที่สุด ปลัดคนนี้คงอยู่รอด เพราะพฤติกรรมที่แสดงออก เป็นไปได้ว่าเลียนแบบเอาอย่างมาจากนายกรัฐมนตรี เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เห็นว่าเลียนแบบมาจากคนที่ใหญ่กว่าตน ก็เลยไม่กล้าแตะ” วิโรจน์กล่าว

‘เสี่ยหนู’ ปฏิเสธข่าวจับมือกับทุกขั้วการเมือง ยัน!! ไม่เคยคุยกับใคร - รอผลเลือกตั้งอย่างเดียว

(3 ม.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวที่พรรคภูมิใจไทยพร้อมจับมือกับทุกขั้วพรรคการเมือง ว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์ของผู้สื่อข่าว ใครเขาจะออกมาให้สัมภาษณ์ จะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร คนที่อยากเห็นบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าก็ควรบอกว่าไม่ควรมีความขัดแย้ง ไม่ควรมีการแบ่งขั้ว ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้สื่อข่าวจึงเอาตนไปพูดว่าพร้อมจับมือกับทุกขั้ว ตนไม่เคยพูดสักคำ ตนพูดอยู่คำเดียวตลอดเวลา และย้ำมาตลอดหลายครั้งว่า ต้องรอผลเลือกตั้ง แล้วผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะไปทางไหน 

เมื่อถามว่า ไม่ปิดประตูสำหรับทุกด้าน ทุกฝ่ายใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่นิยมความขัดแย้ง เราไม่ต้องการทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เราไม่ต้องการสร้างความจงเกลียดจงชังระหว่างกัน ฉะนั้น ที่ดีที่สุดคือรอผลการเลือกตั้ง ตนต้องปฏิเสธข่าว 2-3 วันที่ผ่านมา ช่วงปีใหม่ไม่รู้ว่าจะไปแก้ข่าวอย่างไร 

“ที่บอกว่าอนุทินไปเอ่ยชื่อพรรคก้าวไกล ไม่มีคำว่าก้าวไกลออกจากปากผมเลย จนถึงวินาทีนี้ แต่ละพรรคมีนโยบายอย่างไรก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ส่วนแนวทาง ทิศทางของพรรคการเมือง ผมเชื่อว่าทุกพรรคก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง” นายอนุทิน กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top