Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

‘อัษฎางค์’ ข้องใจ ‘ชัชชาติ’ ไม่สานต่อผลงานผู้ว่าฯ คนก่อน เพราะนึกถึงผลประโยชน์ปชช. หรือ ผลทางการเมืองกันแน่

(5 ม.ค. 66) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ ถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ โดยระบุว่า

“ล้ม เลิก”

เพราะคำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชนหรือผลทางการเมืองของตนเองและพวกพ้อง?

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวถึง “การเดินเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle EV) ในคลองผดุงกรุงเกษม เขตพระนคร” ว่า จะมีการพิจารณาว่าจะทำต่อไหม

1. ถ้าทำต่อจะคุ้มค่าไหม
2. หากจะทำต้องดูเรื่องความคุ้มทุนด้วย
3. เนื่องจากเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน

มาดูการขนส่งสาธารณะอื่น ๆ

ข้อมูลเท่าที่ผมมีคือ

ขสมก.เริ่มต้นเดินรถเมื่อ 1 ตุลาคม 2519 โดยตลอดระยะเวลากว่า 43 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง องค์กรนี้ขาดทุนสะสมทุกปี ยกเว้นปี 2535 ปีเดียวเท่านั้นที่มีกำไร 61 ล้านบาท

ในปี 2563 ขสมก. ขาดทุนเฉลี่ยถึงเดือนละ 360 ล้านบาท ที่น่าสนใจคือ 233 ล้านบาท หรือ 65% เป็นการจ่ายภาระดอกเบี้ย

ในปี 2563 ขสมก.มีหนี้สิน 127,786 ล้านบาท มีผลขาดทุนสะสมกว่า 9,000 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 มีการประเมินว่า หนี้สิ้นของ ขสมก.จะเพิ่มเป็น 127,786 ล้านบาท

จึงต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมี 4 พี่น้อง ที่ต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ คือ การบินไทย ขสมก., การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.)

‘ศักดิ์สยาม’ ลงนามตั้ง 10 คณะกรรมการ สอบปมเปลี่ยนป้ายชื่อ ‘สถานีกลางบางซื่อ’

(5 ม.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามในคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการปรับปรุงป้ายชื่อ ‘สถานีกลางบางซื่อ’ เป็น ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์’ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แล้ว

โดยประกาศเนื้อหาระบุว่า ตามที่ปรากฏข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย (Social Media) และ เว็บไซต์ข่าว เกี่ยวกับการลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มีมูลค่าสูงถึง 33 ล้านบาทเศษ (วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจำนวน 34 ล้านบาท) มีราคากลางคำนวณ ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2566 จำนวน 33,169,726.39 บาท โดยใช้วิธีการจัดซื้อหรือจ้างแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งผู้ที่ได้รับ การคัดเลือกและราคาที่ตกลงซื้อหรือจ้าง ได้แก่ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ

เป็นเหตุให้มีการตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมในการใช้งบประมาณ รวมถึงนายสราวุธ สราญวงศ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไม่ใช่เหตุของความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการโดยใช้วิธีการว่าจ้างเอกชนด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยสูญเสียงบประมาณในการว่าจ้างปรับปรุงป้ายชื่อที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าปกติ

ทั้งนี้ หากดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีการประกาศเชิญชวนหรือวิธีการคัดเลือกก่อนจะทำให้การใช้งบประมาณของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นไปอย่างเหมาะสมเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวว่า ได้มีการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ และระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร และการใช้งบประมาณเหมาะสมกับปริมาณงาน และราคากลางของกรมบัญชีกลางหรือไม่ และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมตามหลักธรรมาภิบาลและรักษาผลประโยชน์ของชาติ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 แต่งตั้ง คณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้

หนุ่มกัมพูชาร้องสื่อ ถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรง ทวงเท่าไรก็ไม่คืน แถมถูกชักปืนถล่มกลับ

เมื่อวันที่ (4 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายบอล คัต อายุ 26 ปี สัญชาติกัมพูชา ว่าเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 3 เกิดเหตุคนร้ายบุกถล่มยิงบ้านจนได้รับความเสียหาย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 33/41 ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ แล้ว แต่ด้วยตนเองเป็นชาวกัมพูชา และผู้ก่อเหตุเป็นคนพื้นที่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนให้ช่วยนำเสนอ เพื่อมิให้คนร้ายกลุ่มนี้ลอยนวลได้

โดยนายบอล เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ทำงาน ที่ร้านขายกระท่อมและน้ำกระท่อมต้ม ภายในซอยชัยพฤกษ์สอง โดยตกลงค่าจ้างวันละ 300 บาท แต่เจ้าของร้านกลับเบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าแรงตนและเพื่อน เมื่อทักไปทวงก็จะนัดวันนั้นวันนี้ เมื่อทวงบ่อยเข้าเจ้าของร้านกลับเกิดความไม่พบใจ เคยมาด่าทอที่หน้าบ้าน กระทั่งวันที่ 3 มกราคม เจ้าของร้านกระท่อมที่ตนเองเคยทำงานด้วยได้โทรมาอาละวาดสอบถามว่า ทวงทำไมหนักหนาจนตนรับอารมณ์จากการถูกด่าไม่ไหว จึงด่าสวนกลับไป ก่อนมีการท้าทายนัดกันออกมาเคลียร์ แต่ตนเองกับเพื่อนไม่กล้าออกไป ส่วนที่ตนเองออกจากร้านนั้นเพราะเจ้าของคิดว่าพวกตนขโมยเงิน ทั้งที่เป็นไปไม่ได้

คนซื้อบ้านได้เฮ!! รัฐลดค่าธรรมเนียม 'โอน-จำนอง' ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีผลแล้ว ถึง 31 ธ.ค.66 นี้

'ทิพานัน' เผยข่าวดี รัฐบาล 'พล.อ.ประยุทธ์' ลดค่าธรรมเนียมโอน-จำนอง บ้านพร้อมที่ดิน-คอนโดฯ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทมีผลแล้ว ถึง 31 ธ.ค.66 นี้ รองรับเศรษฐกิจฟื้นตัว มุ่งสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ฟื้นธุรกิจอสังหาฯ-ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

(5 มค. 66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงผลักดันให้ลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการมีที่อยู่อาศัยมากขึ้น 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศเรื่องที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับการโอนและการจำนองจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง พ.ศ.2565 โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และมาตรา 103 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2521

โครงการ ‘เข้าท่า’ เรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม แต่ ‘หมดท่า’ เมื่ออยู่ในมือผู้ว่าฯ กทม.เบอร์ 8

กระผมต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ได้เป็นแฟน (สมัยนี้ต้องเรียกว่า 'FC' หรือ 'ติ่ง') ท่าน กับทั้งมิได้แน่นแฟ้นเป็นแฟนคลับของท่านผู้ว่าฯ คนก่อนแต่อย่างใด ผมมันแค่คนอาศัยกรุงเทพมหานครเป็นแผ่นดินเกิดเท่านั้น

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมีคือความ 'รักษ์โลก' และมีมากระดับว่าราวเคยดำรงตำแหน่งกัปตันเรือ Rainbow Warriors แห่งพลพรรคขุนพลกรีนพีซก็มิปาน เพราะฉะนั้นเรื่องที่อดีตผู้ว่าฯ คนก่อนได้ดำริเรื่องเดินไฟฟ้าเพื่อการสาธารณะในคลองผดุงกรุงเกษม คลองซึ่งขุดมาตั้งแต่ครั้งสมัยพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ ๕ จึงถูกใจคนอย่างกระผมยิ่งนัก

ใครที่เคยโดยสารรถประจำทางสาธารณะ หรือเรือด่วนเจ้าพระยาในพระนคร ย่อมจะรู้และเข้าใจเป็นอันดีว่ากลิ่นไอเสียจากน้ำมันดีเซลนั้นมันชวนคลื่นเหียนเวียนศีรษะเพียงใด ยามเวลาเครื่องยนต์เดินรอบต่ำเพื่อ 'จอดป้าย' หรือ 'เข้าท่า' ควันมลพิษเหล่านั้นก็โชยทวนลมเข้ารูจมูกส่งให้เราตายเร็วลงอย่างมีประสิทธิภาพ

นั่งรถเมล์สาย 8 ห้าป้าย ไม่ช่วยสำเหนียกใด ๆ เรื่องพวกนี้ดอกครับ

เรือไฟฟ้าจึงเป็นคำตอบอันน่าตื่นเต้นและตื่นตัว จนต้องลงแข่งขันประกวดตั้งชื่อเรือไฟฟ้าทั้ง 7 ลำนั้นอย่างเหมาะเจาะคล้องจองลงตัวว่า - สัมพันธวงศ์ชลธิศ, ดุสิตสาคเรศ, เทเวศร์ชลธาร, ปทุมวันชลาศัย, ธารป้อมปราบศัตรูพ่าย, ชเลครรไลพระนคร, ชโลทรบางรัก ตามเขตคามแห่งคลองผดุงกรุงเกษมเคลื่อนไหลผ่าน

รองโฆษก ตร. เตือน ปชช. ระวังโจรออนไลน์ หลอกให้โหลดแอปควบคุมมือถือ ก่อนฉกเงินหนี

วันนี้ (5 ม.ค. 66) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษก ตร. เปิดเผยกรณี มีผู้เสียหาย ถูกคนร้ายส่งข้อความ “ขอขอบคุณที่ใช้บริการ จะมอบคูปองฟรีให้ 1 ใบ” ตามลิงก์ที่คนร้ายส่งให้ ผู้เสียหายกดลิงก์แอดไลน์ คนร้ายขอให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน ไลอ้อนแอร์ แล้วพิมพ์ชื่อ นามสกุล ภาษาอังกฤษ และเบอร์โทรศัพท์ จากนั้น คนร้ายบอกว่าให้รอห้ามวางสาย ต่อมาปรากฎว่ามีเงินหายไปหมดบัญชี คนร้ายยังกดเงินจากบัตรเครดิตซึ่งผูกกับ แอปพลิเคชันธนาคารออนไลน์ สูญเงินทั้งสิ้นกว่า 2 แสนบาท

รองโฆษก ตร. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวคนร้ายแอบอ้างบริษัทเอกชน ที่มีชื่อเสียงต่างๆส่ง sms แจ้งเหยื่อว่าจะได้รับของรางวัล หากหลงเชื่อจะหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันที่สามารถควบคุมมือถือระยะไกล โดยปกติจะมีขั้นตอนของมันเล็กน้อย คนร้ายอาจจะบอกให้เรากรอก ตัวเลข หรือ ตัวอักษรสักชุด หรือไม่ คนร้ายก็หลอกถามเอาตัวเลขชุดนั้นจากเรา เมื่อคนร้ายได้รหัสหรือตัวเลขบางอย่างจากเครื่องของเรา คนร้ายจะนำรหัสไปใช้ในการควบคุมเครื่องของเราได้ทันที สามารถใช้งานบังคับ ทุกอย่างได้ เปรียบเสมือนเป็นเจ้าของเครื่อง ขณะหลอกให้รอห้ามวางสาย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นช่วงดูดข้อมูล จากนั้นคนร้ายจะขอเปลี่ยนรหัสเข้าบัญชีเอง เพราะมีเลข OTP ส่งจากธนาคารมาที่โทรศัพท์ผู้เสียหาย แต่คนร้ายสามารถเห็นได้ที่หน้าจอคนร้ายเอง และจะทำการโอนเงินไปสู่บัญชีเป้าหมายด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องให้เหยื่อโอนเงินให้เหมือนวิธีเดิมๆ ทำให้เหยื่อสูญเงินออกจากบัญชี

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ วิธีป้องกันตนเองต่อภัยโจรออนไลน์ในหลากหลายรูปแบบ ในกรณีนี้ สามารถป้องกันได้โดย

1. มีสติ ตรวจสอบข้อความที่ได้รับอย่างระมัดระวัง หากมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานใดติดต่อหรือแสดงตัว ไม่ว่าเรื่องใด ๆ ให้โทรสอบถามจากเบอร์กลางของหน่วยงานที่ถูกอ้างถึงนั้น ๆ ทุกครั้ง

2. ห้ามกดลิงก์หรือติดตั้งแอปที่ไม่ทราบที่มาที่ไป รวมถึงไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ เมื่อรับสายจากต้นทางที่ไม่ทราบที่มาที่ไปชัดเจน

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบของขวัญวันเด็ก 1.8 แสนชิ้น แด่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบให้กับเด็กและเยาวชน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566

วานนี้ (วันพุธที่ 4 มกราคม 2566  เวลา 15.00 น.) นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ  พร้อมด้วยคณะกรรมการ และผู้บริหารมูลนิธิฯ เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบของขวัญวันเด็ก ประกอบด้วย สมุด ดินสอ ดินสอสี และไม้บรรทัด จำนวน 180,000 ชิ้น นำไปแจกจ่ายแก่เด็กและเยาวชน เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยในวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดมอบชุดของขวัญวันเด็กให้กับนักเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย โดยมีผู้แทนโรงเรียนเป็นผู้รับมอบ  รวมทั้งจัดให้มีการส่งชุดของขวัญวันเด็กของมูลนิธิฯ เพื่อมอบให้กับเยาวชนในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ 

‘เพื่อไทย’ จี้ รัฐบาลผุดแผนรองรับ นทท.จีน หวั่นโควิด-19 ระบาดซ้ำ กระทบภาคเศรษฐกิจ

(5 ม.ค. 66) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ภายหลังการระบาดของไวรัสโควิดตั้งแต่ปี 2562 นักท่องเที่ยวจีนหายไป เราก็มีความคิดถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนมาก และต้องขอบคุณที่นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวในประเทศไทยส่งผลให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวดีขึ้น ดังนั้นการที่จีนจะเปิดประเทศในต้นปี 2566 ประเทศไทยมีความยินดีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ทั้งจากประเทศจีนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย ในส่วนของการต้อนรับนักท่องเที่ยว การบริหารการท่องเที่ยว ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานการยกระดับความปลอดภัย เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ดังนั้นในการเปิดประเทศรอบใหม่ อยากเห็นว่ารัฐบาลมีการถอดบทเรียนที่ผ่านมาหรือไม่อย่างไร เพราะเชื่อว่าไม่มีผู้ประกอบการคนไหนอยากให้เหตุการณ์ที่ผ่านมาย้อนกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง

'Forbes' ยก ‘ไทย’ ติดท็อป 10 ประเทศน่าอยู่หลังเกษียณ

ไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ของเอเชีย และเป็นลำดับที่ 9 ของโลก ในฐานะ ‘ประเทศที่น่าพำนักอยู่ภายหลังเกษียณ’ ประจำปี 2023 จากการจัดอันดับของ Annual Global Retirement Index

เมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 66) เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เปิดเผยผลสำรวจ 10 ประเทศที่น่าพำนักอยู่ภายหลังเกษียณ (10 Cheapest Places To Live Afer Retiring) ประจำปี 2023 ซึ่งจัดทำโดย Annual Global Retirement Index ซึ่งระบุว่า ไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับคนหลังเกษียณเท่านั้น แต่ยังรวมอยู่เป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตไม่แพง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และอาจอยู่ได้โดยแทบไม่ต้องทำงานหรือใช้เงินจำนวนมาก โดยประมวลข้อมูลจากทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต สภาพอากาศ วีซ่า ค่าอาหาร ที่พัก และค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ

โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับ 9 จากทั้งโลก (เท่ากับอิตาลี) และอันดับ 1 ในเอเชีย โดยอธิบายว่าถึงประเทศไทยว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลก แม้ว่าการท่องเที่ยวจะมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ แต่ประเทศไทยเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ชีวิตทั้งผ่อนคลายและเต็มไปด้วยการผจญภัย ประเทศไทยเป็นดินแดนที่สวยงามทั้งภูมิประเทศและขนบธรรมเนียมประเพณี ส่วนหนึ่งมาจากการที่ไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก ทำให้ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี

Annual Global Retirement Index ยังแนะให้ผู้สนใจเลือกที่จะใช้ชีวิตทั้งในกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงสีแลตึกใหญ่ หรือเลือกอยู่ในจังหวัดทางภาคเหนือทีอากาศเย็นสบาย ขณะที่ค่าใช้จ่ายเรื่องที่อยู่อาศัยก็ไม่แพง สามารถเลือกซื้อคอนโดมิเนียมขนาด 2 ห้องนอนได้ในราคาไม่ถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเลือกเช่าได้ในราคาเพียงเดือนละ 180 ดอลลาร์สหรัฐฯ

‘บิ๊กป้อม’ สั่งฟัน ‘พนันออนไลน์’ แฝงเว็บราชการ ย้ำ ‘ดีอีเอส’ อุดช่องโหว่ ยกระดับความปลอดภัย

(5 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) ครั้งที่ 1/2566 

โดยที่ประชุมเห็นชอบ กรอบแนวทางการดำเนินการสร้างความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ให้กับเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐ สืบเนื่องจากที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐถูกโจมตีด้วยการแฝง เว็บพนันออนไลน์ โดยอาศัยช่องโหว่จากการพัฒนาเว็บไซต์ และจุดอ่อนของระบบปฏิบัติการ รวมทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ที่ให้บริการฝากเว็บไซต์ เป็นจำนวนมาก ส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของหน่วยงานภาครัฐของไทย โดยมีการกำหนดแนวทาง การดำเนินงานออกเป็น ระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว พร้อมเห็นชอบรายงานเหตุการณ์ภัยคุกคาม ห้วง 1 ต.ค. 64 - 30 ก.ย. 65 รวมทั้งสิ้น 551 เหตุการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการแฮ็กเว็บไซต์ จำนวน 367 เหตุการณ์ และจะมีการรายงานให้ ครม.ทราบ ต่อไป รวมทั้งได้เห็นชอบรายงานประจำปี 65 ของสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ซึ่งมีการพัฒนาไปมาก ทั้งด้านการขับเคลื่อนนโยบาย ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ การเฝ้าระวัง การรับมือภัยคุกคาม ตลอดจนการสร้างความตระหนักรู้ ให้แก่ประชาชน โดยมีผลการประเมินร้อยละ 91.83 ซึ่งจัดอยู่ในระดับดีมาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top