Monday, 21 April 2025
แพทองธาร_ชินวัตร

'สุริยะ' มั่นใจ!! 'อุ๊งอิ๊ง' มุ่งมั่นทำงาน คนไทยฝากความหวังได้ เชื่อ!! บทเรียนในอดีตช่วยให้ไม่พลาด ส่วนอายุน้อยไม่ใช่ปัญหา

(16 ส.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับการโหวตจากสภาให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า…

ต้องขอแสดงความยินดีกับนายกฯ คนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 3 แล้วของคนในตระกูลชินวัตร น.ส.แพทองธารอยู่ในแวดวงการเมืองตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นเลขาธิการพรรคไทยรักไทยแล้ว ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ว่าจะไปไหนก็จะพา น.ส.แพทองธารไปด้วย เชื่อว่า น.ส.แพทองธารได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองมานาน และตอนที่ น.ส.แพทองธาร มาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็มีการสะสมประสบการณ์มาเรื่อย ๆ จึงคิดว่า เมื่อ น.ส.แพทองธารมารับตำแหน่งนายกฯ ในวันนี้ ได้รับเสียงโหวตจากสภาฯ และหลังจากได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ อย่างเป็นทางการ ก็เชื่อมั่นว่า น.ส.แพทองธารจะสามารถช่วยประเทศชาติได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ได้อย่างดี

ต่อคำถามที่ว่า แม้ น.ส.แพทองธารจะตามนายทักษิณมานาน แต่ด้วยอายุและประสบการณ์ยังน้อยเกินไปสำหรับการเป็นนายกฯ ที่จะมาบริหารประเทศ นายสุริยะ กล่าวว่า ยุคนี้เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ อย่างนายกฯฝรั่งเศสก็อายุยังน้อย ฉะนั้น คนรุ่นใหม่มีความกระฉับกระเฉง โลกวันนี้ไม่ได้แข่งกันที่ความใหญ่ แต่มันแข่งกันที่ความรวดเร็ว โลกยุคใหม่ คนรุ่นใหม่ จะทำได้ดีมาก ตนเชื่อมั่นอย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มองอย่างไรที่คนมองว่า น.ส.แพทองธารอาจจะมีจุดจบทางการเมืองเหมือนกับพ่อและอา นายสุริยะ กล่าวว่า ตนไม่เชื่ออย่างนั้น แต่เชื่อว่า ถ้าตราบใดที่เรามีบทเรียนในอดีตอยู่แล้ว ที่ผ่านมามีความผิดพลาดอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่า ในอดีตมันมีระบบที่เข้ามาพยายามทำลายระบอบประชาธิปไตย แต่ทุกครั้งเราก็กลับมาได้ ดังนั้น จึงเชื่อว่า จากบทเรียนที่ผ่านมา นายกฯ คนใหม่จะเอาบทเรียนในอดีตมาพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามซักต่อว่า เรื่องของดิจิทัลวอลเล็ต ไม่น่าห่วงสำหรับนายกฯ ใหม่ใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า โครงการนี้หลังจากฟอร์มรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางพรรคร่วมรัฐบาลจะมาดูกันอีกทีว่า จะดำเนินการกันอย่างไร 

ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มว่า ยังต้องรับฟังความคิดเห็นจากรัฐบาลอีกหรือ ในเมื่อให้ประชาชนลงทะเบียนไปแล้ว นายสุริยะ กล่าวว่า เนื่องจากตอนนี้มีการเปลี่ยนนายกฯ คนใหม่ พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องมาคุยกันอีกครั้ง 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยืนยันว่าโครงการนี้จะไม่หยุดชะงักกลางคันใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า รอพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ประชาชนฝากความหวังกับนายกฯ คนใหม่ได้ใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า เชื่อว่า น.ส.แพทองธาร จะมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็มั่นใจว่า น.ส.แพทองธาร จะทำหน้าที่ได้ดี ฉะนั้น มั่นใจว่า ประชาชนฝากความหวังไว้ได้

‘จีน’ ยินดีที่ไทยได้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ พร้อมเดินหน้า!! พัฒนาสองประเทศ

เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.67) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้ตอบคำถามนักข่าวกรณี ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทยในวันที่ 16 ส.ค. ฝ่ายจีนมีความเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้ และมีความคาดหวังอย่างไรต่อความสัมพันธ์จีน-ไทย

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ระบุว่า ฝ่ายจีนขอแสดงความยินดีกับคุณแพทองธารที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย และเชื่อว่าประชาชนชาวไทยจะบรรลุผลสำเร็จใหม่ ๆ ที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น บนเส้นทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับเงื่อนไขของประเทศ

จีนและไทยเป็นมิตรประเทศและเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ในปี 2025 จะเป็นวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทย นับเป็นโอกาสใหม่ในประวัติศาสตร์ของการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งฝ่ายจีนยินดีทำงานร่วมกับไทยเพื่อสานต่อมิตรภาพดั้งเดิม เสริมสร้างการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ กระชับความร่วมมือเชิงปฏิบัติให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตลอดจนเสริมสร้างการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันให้เข้มแข็งและลึกซึ้งมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

‘อ.สุวินัย’ ชี้เป็น ‘นายกฯ’ ช่วงนี้เหมือนมีทุกขลาภ!! เศรษฐกิจตกต่ำ หากทำได้ไม่ดี มีถูกตราหน้าไปอีกนาน

เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.67) รองศาสตราจารย์ ดร. สุวินัย ภรณวลัย นักเขียนชาวไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้มีฉายาว่า ‘มูซาชิเมืองไทย’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ป้ายแดง โดยได้ระบุว่า …

ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งที่สังคมต้องเผชิญ คือปัญหาหนี้ครัวเรือน วิกฤติฐานราก วิกฤติสภาพคล่อง ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เศรษฐกิจโลกตกต่ำ และผลกระทบจากสงครามใหญ่

จะว่าไปแล้วคนที่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงนี้ น่าจะเป็นทุกขลาภมากกว่า...ดุจเอาคอไปพาดเขียงก็ว่าได้

หมากตานี้ดูเหมือนเป็นหมากบังคับให้เจ้าตัวจำต้องเดินมากกว่าเต็มใจเดินเอง...ตั้งแต่เจ้าตัวคิดกลับเมืองไทย กระดานหมากกระดานนี้ก็ถูกปูรอไว้แล้วด้วยซ้ำ

จนเจ้าตัวจำต้องลุยไฟฝ่าทุ่งสังหารไปตายเอาดาบหน้า โดยหอบหิ้วลูกสาวคนโปรดฝ่าไปด้วย

ข้อดีของการได้นายกฯ คนใหม่คนนี้ก็มีเหมือนกัน ...คือเปิดทางให้ยกเลิกการแจกเงินหมื่นดิจิทัลโดยไม่เสียหน้า จึงไม่เสี่ยงต่อการสร้างหายนะทางการคลัง

สังคมไทยคงได้ซึมซับความอ่อนด้อยในการบริหารที่แท้จริงของนายกฯหญิงที่เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่วัยแค่ 37 ปี

ภาพลักษณ์ที่เป็นภาพลบของนาง น่าจะนำไปสู่ฉากอวสานแห่งภาพพจน์ที่เคยคุยโม้นักหนาว่า ‘เก่งเศรษฐกิจ’ และคงจะถูกสังคมตราหน้าไปอีกนานแสนนาน ...ท่ามกลางความฉิบหายทางเศรษฐกิจที่รออยู่ข้างหน้าอย่างถ้วนหน้า

ในบางสถานการณ์ การอดทนอดกลั้นรอเวลาให้อีกฝ่ายแพ้ภัยตัวเอง คือ กลยุทธ์ที่แยบยล 

คือต้องให้สังคมไทยและคนไทยเห็นด้วยตา ประจักษ์ด้วยสายตาตนเอง ว่าใครเก่งจริง และใครกลวงจริง

คนไทยยังจะต้องเจอความทุกข์ทรมานมากกว่านี้ ถึงจะได้บทเรียนฝังใจ ...นี่คือชะตากรรมที่เลี่ยงได้ยากเหลือเกิน บางครั้งความยุติธรรมที่ล่าช้า คือ กลยุทธ์ที่ทรงพลัง

‘ดร.อานนท์’ ชี้ ‘อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร’ น่าสงสาร คนเกลียดพ่อ ‘ไม่แยกแยะ’ พาลเกลียดลูกไปด้วย

(17 ส.ค.67) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊ก ภายหลังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โหวตเลือก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยได้ระบุว่า …

‘น่าสงสาร ตอนนี้คนเกลียดพ่อไม่แยกแยะเลยพาลเกลียดลูกสาวไปด้วย’

‘อุ๊งอิ๊ง’ โพสต์ข้อความใน X ขอบคุณที่มอบความไว้วางใจ ให้เป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ เผย!! จะจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อ เพื่อคนไทยทุกคน

(17 ส.ค.67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความใน X ว่า ...

ดิฉันขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ที่มอบความไว้วางใจให้ดิฉันรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติสูงสุดในฐานะประชาชนคนไทย

หลังจากนี้ การจัดตั้งรัฐบาลจะดำเนินการตามกระบวนการ และจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ

ดิฉัน พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนพร้อมทำงาน ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อ เพื่อคนไทยทุกคนค่ะ

‘แพทองธาร ชินวัตร’ รับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ เป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ เผย!! จะทำเพื่อความสุขของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม จะรับผิดชอบหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด

(18 ส.ค.67) เวลา 09.29 น. ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้อัญเชิญไปยังสถานที่ในการรับสนองพระบรมราชโองการฯ

จากนั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31  ความว่า

“พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่าสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เห็นชอบด้วย ในการแต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 16 สิงหาคม พุทธศักราช 2567
เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
ประธานสภาผู้แทนราษฎร

จากนั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังรับสนองพระบรมราชโองการว่า 

เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม  แต่งตั้งให้ดิฉัน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนับเป็นเกียรติยศ และเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต

ดิฉัน ครอบครัว และพรรคเพื่อไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้นทั้งจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชนสนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการและตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ

ดิฉัน ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่ได้มอบความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ให้ดิฉันได้มีโอกาสทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะนำพาประเทศไทยเดินหน้าฝ่าฟันทุกอุปสรรคแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาปากท้องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน 3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ดิฉันในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารจะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความเห็น เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง

พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านคะ ภารกิจยิ่งใหญ่นี้ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ดิฉันมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของบุคคลที่มีความสามารถในประเทศไทยจากทุกภาคส่วนทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชนและพี่น้องประชาชน

ดิฉัน จะส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพ และทักษะของคนไทยทุกคน และทำให้ทุกตารางนิ้วของบนแผ่นดินไทย เป็นพื้นที่ให้คนไทยได้กล้าฝัน กล้าสร้างสรรค์และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง

ดิฉัน แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะรับผิดชอบหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาส เป็นประเทศแห่งความสุขของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม ขอบคุณค่ะ

‘ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง’ ใส่ชุดขาวเต็มยศ เข้าพิธีรับพระบรมราชโองการนายกรัฐมนตรี สีหน้าสดใส!! เผยความดีใจ ‘สส.เพื่อไทย-พรรคร่วมรัฐบาล’ ร่วมยินดี

(18 ส.ค.67) ที่อาคารวอยซ์สเปซ ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นที่ทำการใหม่ของพรรคเพื่อไทย บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีและสส. ของพรรคเพื่อไทยทยอยกันเดินทางมาร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

ในส่วนของพิธีรับพระบรมราชโองการนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 นั้น ได้จัดขึ้นที่บริเวณห้องโถงกลาง อาคารว้อยซ์สเปซ ซึ่งจะมีเฉพาะบุคคลสำคัญที่ได้รับอนุญาตเข้าร่วมในพิธีการดังกล่าวและอนุญาตให้เฉพาะ ช่างภาพจากสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย

ต่อมาเวลา 07.49 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงด้วยรถตู้เบนซ์ทะเบียน ขจ 995 กรุงเทพมหานคร ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทักทาย เมื่อสื่อมวลชนถามว่าเมื่อคืนนอนหลับฝันดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “หลับค่ะ รีบนอนเลยเพราะกลัวตื่นสาย”

จากนั้นครอบครัวของ น.ส.แพทองธาร ทั้ง น.ส.พินทองทา ชินวัตรคุณากรวงศ์ ได้เดินทางมาสมทบ โดย น.ส.พินทองทาได้ช่วยน้องสาวจัดแต่งชุด เครื่องแบบปกติขาว พร้อมยืนรอรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดา ที่เดินทางมาถึงในเวลา 07.50 น. โดย น.ส.แพทองธารได้เดินไปรับถึงหน้าประตูรถ ซึ่งทันทีที่นายทักษิณลงจากรถได้เข้าสวมกอดพร้อมกับหอมแก้มบุตรสาว เพื่อแสดงความยินดี ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและทักทายกับสื่อมวลชน เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายทักษิณว่าดีใจหรือไม่ นายทักษิณยิ้มพร้อมตอบว่า “ดีใจสิ”จากนั้นทั้งสองคนได้ หันมาให้สื่อมวลชนเก็บภาพอย่างอารมณ์ดีก่อนที่น.ส.แพทองธาร จะจับมือนายทักษิณพาเข้ามาทักทายบรรดารัฐมนตรีทั้งจากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงสส.ที่มาร่วมแสดงความยินดีวันนี้

โดย น.ส.แพทองธารได้บอกว่าใครอยากถ่ายรูปพร้อมที่จะเซลฟี่ ซึ่งบรรดารัฐมนตรีและสส. ต่างส่งเสียงแสดงความยินดีท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น

โดยช่วงหนึ่งที่นายทักษิณ เดินทางมาถึงได้แวะเข้าห้องรับรองสส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล และได้เข้ามาทักทายพูดคุยอย่างเป็นกันเองด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ซึ่งมีสส.หลายคนถ่ายภาพร่วมกับนายทักษิณด้วย จนน.ส.แพทองธาร ได้เดินมาเชิญนายทักษิณไปรออีกห้องหนึ่ง

ทั้งนี้ได้มีคนแซวว่าได้กลับมาใส่ชุดขาวอีกครั้งหนึ่ง นายทักษิณ จึงระบุว่า เขินอยู่ ไม่ได้แต่งมานานแล้ว ซึ่งระหว่างทางที่เดินออกไปอีกห้องหนึ่งได้มีการทักทายกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมตลอดทาง ผู้สื่อข่าวได้ถามนายทักษิณย้ำว่าดีใจหรือไม่ นายทักษิณกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า แน่นอนสิ จะได้เรียนรู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่

ในส่วนของ พรรคร่วมรัฐบาล เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธารที่อาคารว๊อยซ์ สเปซ เช่นกัน โดยในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางเพื่อไปแสดงความยินดี ในเวลา 08.00 น. นำทีมโดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค และนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคเช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ก็เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีในช่วงเวลาเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐมอบหมายให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรค นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์

'เบื้องลึก-เบื้องหน้า' ความท้าทาย 'อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร' 'ลบคำปรามาส-สร้างภาพใหม่' นายกฯ ตระกูลชิน

ต้องบันทึกไว้ว่า 18 ส.ค.2567 เป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์สำคัญสำหรับตระกูลชินวัตร...และจะเกี่ยวโยงกับการเมืองไทยครั้งสำคัญ

- เป็นวันที่ แพทองธาร ชินวัตร 'อุ๊งอิ๊ง' บุตรสาวคนสุดท้องของทักษิณ ชินวัตร ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย เป็นนายกฯหญิงคนที่สองของไทยและเป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุด

- เป็นวันที่ทักษิณ ชินวัตร พ้นสภาพนักโทษเด็ดขาดชายเร็วกว่ากำหนดเดิม (31 ส.ค.2567) ทั้งนี้เพราะเข้าเกณฑ์ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567

ย้อนไปสัปดาห์ก่อน การเมืองเปลี่ยนแปลงเร็วแบบ 'ตัดจบ' แบบกะพริบตาทีเดียวก็ตามไม่ทัน  

วันที่ 14 ส.ค.เศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งด้วยมติ 5 ต่อ 4 ของศาลรัฐธรรมนูญ โทษฐานขาดคุณสมบัติไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์/ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง...

เย็นวันเดียวกันมีหนังสือนัดประชุมสภาฯ โหวตนายกฯ วันที่ 16 ส.ค.เวลา 10.00 น. 

ตกค่ำวันเดียวกัน มีข่าวสะพัดจากบ้านจันทร์ส่องหล้าหลังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปพบทักษิณเมื่อ 17.00 น.ว่า...ว่าที่นายกฯ คนใหม่คือ ชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งแคนดิเดตท่ามกลางเสียงคัดค้านของ สส.เพื่อไทย

วันที่ 15 ส.ค.ที่สภาฯ พรรคเพื่อไทย ประชุมสองรอบ...รอบแรก สส. รอบสองกรรมการบริหาร...ตัดชื่อชัยเกษม เสนอชื่อ 'แพทองธาร'

วันที่ 16 ส.ค. 'อุ๊งอิ๊ง' ได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกฯ คนใหม่ด้วยคะแนนท่วมท้น เห็นชอบ 319 ไม่เห็นชอบ 145 งดออกเสียง 27  

มีการวิเคราะห์ตีความกันมากมายว่า เกมพลิกจาก 'ชัยเกษม' เป็น 'อุ๊งอิ๊ง' ได้อย่างไร...'เล็ก เลียบด่วน' ฟันธงว่า เกมไม่ได้พลิกอะไรแต่อย่างใด แต่เป็นธงที่ 'นายใหญ่' วางไว้ทุกประการ กึ่งๆ สมคบคิดกับสส.ของพรรค โดยเฉพาะสส.รุ่นใหม่ๆ ด้วยซ้ำ...ส่วนการโยนชื่อ 'ชัยเกษม' ออกมา ก็เพื่อไม่ให้สังคมไปตีความว่า...เชือดเศรษฐาเพื่อลูกสาว...และให้ใคร/สังคมรุมต้านแค่นั้นเอง

แน่นอนที่สุดเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามนี้...เท่ากับว่าทักษิณและตระกูลชินวัตรได้ทิ้งไพ่ใบสำคัญใบสุดท้ายออกมาเล่น...งานนี้จึงเป็นงานใหญ่เดิมพันพรรค เดิมพันตระกูลกันเลยทีเดียว...ทักษิณในฐานะพ่อ รวมทั้ง 'หญิงอ้อ' คุณหญิงพจมาน ชินวัตร คุณแม่ ก็คงแนะนำช่วยเหลือลูกสาวอย่างเต็มที่...

ถ้า 'อุ๊งอิ๊ง' มีวุฒิภาวะเพียงพอแล้ว ก็ย่อมตระหนักรู้ว่า นอกเหนือจากโจทย์ยากในการบริหารประเทศแล้ว ยังมีโจทย์ท้าทายว่าฉากจบของตนเองในฐานะนายกฯ คนที่ 6 ของสายพันธุ์ไทยรักไทยต้องไม่ซ้ำกับ 5 อดีตนายกฯ ที่ผ่านมา...

1) พรรคไทยรักไทย-ทักษิณ ชินวัตร 2544-2548 และ 2548-2549  เป็นนายก 2 สมัยรวม 5 ปี 222วัน ถูกรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ด้วยเหตุผลหลักๆ รัฐบาลทุจริต/จาบจ้วงฯ/แทรกแซงองค์กรอิสระ

2) พรรคพลังประชาชน-สมัคร สุนทรเวช  29 ม.ค.2551-9 ก.ย.2551 ศาลรธน.ชี้ กระทำการต้องห้ามฯ รธน.2550 (ผลประโยชน์ทับซ้อน-คดีชิมไปบนไป)

3) พรรคพลังประชาชน-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ 18 ก.ย.2551-2 ธ.ค.2551 พรรคพลังประชาชนถูกยุบข้อหาทุจริตเลือกตั้งเมื่อ 2 ธ.ค.2551

4) พรรคเพื่อไทย-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 5 ส.ค.2554-7 พ.ค.2557 ศาลรธน.ให้พ้นตำแหน่งกรณีย้ายถวิล เปลี่ยนศรี ถูกรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 หนีไปต่างประเทศเมื่อปี 2560 วันที่ศาลตัดสินจำคุก 5 ปีคดีทุจริตจำนำข้าว

5) พรรคเพื่อไทย-เศรษฐา ทวีสิน 22 ส.ค.2566-14 ส.ค.2567 ศาลรธน.ให้พ้นจากตำแหน่งกรณีถูกร้องไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์/ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงกรณีตั้งนายพิชิต ชื่นบาน  เป็นรัฐมนตรี

นั่นคือประวัติศาสตร์ที่นายกฯ ชื่อแพทองธาร ต้องตระหนักด้วยความเข้าใจมากกว่าโกรธแค้นชิงชัง...

วันก่อน 'เปลว สีเงิน' เจ้าสำนักไทยโพสต์ได้มอบคาถา 3 บทให้ 'อุ๊งอิ๊ง' พร้อมรับประกันว่าจะอยู่ได้อย่างน้อยหนึ่งปี คือ..

- คาถาบทแรก-อย่าไปแตะมาตรา 112  
- บทที่สอง-อย่าไปแทรกแซงแบงก์ชาติ   
- บทที่สาม-อย่าไปเชื่อพ่อทักษิณทุกเรื่อง

สำหรับ 'เล็ก เลียบด่วน' ซึ่งไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีที่บางฝ่ายวิเคราะห์ว่า การเปิดทางให้ 'อุ๊งอิ๊ง' เป็นนายกฯ เป็นการลากตระกูลชินวัตรมาประหารแบบล้างคอก นัยว่าเป็นแผนการของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ขอแถมคาถาต่อจาก 'เปลว สีเงิน' อีกสักบทว่า...อย่าโกง แต่จงช่วยปราบโกง...

สาธุ!!

‘อ.ไชยันต์’ โพสต์ข้อความพร้อมภาพ ‘แพทองธาร-พรรณิการ์’ ระบุ!! สองสตรีผู้โดดเด่นทางการเมืองจาก ‘รัฐศาสตร์ จุฬาฯ’

(18 ส.ค.67) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์รูปภาพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ พร้อมข้อความระบุว่า 

สองสตรี ผู้โดดเด่นทางการเมือง จากกำเนิดเดียวกัน ‘รัฐศาสตร์ จุฬาฯ’

‘ดร.เอ้’ ฝาก 4 นโยบาย ‘นายกฯคนใหม่’ ให้ยกระดับสังคมไทย เน้น!! ‘การศึกษา-แก้ยาเสพติด-ยกคุณภาพชีวิต-เอาผิดคอร์รัปชัน’

(18 ส.ค.67) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 พร้อมเสนอ 4 นโยบาย ยกระดับสังคมไทย หากทำได้ จะได้ใจประชาชน ระบุว่า

ขอแสดงความยินดีกับ นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ‘คนรุ่นใหม่’ และยังเป็น ‘คุณแม่’ ที่ลูกยังเล็ก ซึ่งน่าจะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่เป็นพ่อ ในสภาวะสังคมไทยที่อ่อนแอลงทุกวัน

สังคมไทยที่กำลังห่อเหี่ยวรอความหวัง ในการปฏิรูป สังคม และเศรษฐกิจ สู่โลกยุคดิสรัปชั่น ที่ต้องแข่งขันด้วย ทรัพยากรมนุษย์ เน้นทักษะขั้นสูง ทดแทนการใช้ แต่ทรัพยากรธรรมชาติที่เน้นแต่การท่องเที่ยวแบบแมสที่ผลาญสิ่งแวดล้อม

นายสุชัชวีร์ ระบุว่า นโยบายของรัฐบาล 1 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ยัง ไม่เข้าฝัก ไม่เป็นรูปธรรม แม้นายกฯทุกคน ต้องเน้นเรื่องปากท้อง เพราะเป็นความทุกข์ใกล้ตัวประชาชน แต่มี 4 เรื่องสำคัญ ตนขอฝากนายกฯ ช่วย 'ยกระดับสังคม' เป็นประโยชน์ต่อคนไทยและลูกหลาน หากทำได้ จะได้ใจประชาชนมาก คือ 

1.การศึกษา ต้องมาก่อน และเริ่มทันที นายกฯ ต้องเน้นเรื่อง การปฏิรูปการศึกษา แบบจริงจัง เพราะเป็นเรื่องระยะยาว ไม่อาจเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ไม่ทำแบบขอไปที ต้องทำหน้าที่แทนพ่อแม่ของเด็กไทย รักลูกท่านอย่างไร ต้องรักลูกชาวบ้านเช่นกัน

ท่านนายกฯ ในฐานะคุณแม่ที่มีลูกเล็ก ย่อมรู้ดีที่สุดว่า คุณภาพการศึกษาของ เด็กปฐมวัย คือ จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด ผู้นำรัฐบาลในทุกประเทศชั้นนำ จะลงมากำกับดูแล คุณภาพเด็ก ด้วยตนเอง วางแผนระยะยาว ไม่ปล่อยให้คนอื่นสักแต่ทำ หรือ ทำแบบขอไปที หากนายกฯ ทำเรื่อง การศึกษาเด็ก ให้มีคุณภาพ คนจะชื่นชมมาก นายสุชัชวีร์ กล่าว

2.ขจัดยาเสพติด ทุกรูปแบบ นายกฯ อ่อนโยนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องยาเสพติด ต้องแข็งกร้าว ไม่เอายาเสพติด คงไม่ต้องไปทำถึงวิสามัญ แต่ต้องใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เป็นธรรม เพื่อป้องกัน ลูกหลานให้ห่างไกลจากอันตรายยาเสพติดทุกประเภท ปัญหายาเสพติดไม่ใช่การต่อรองทางการเมือง แต่ต้องเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้นำประเทศทุกคน

3.ความปลอดภัยสาธารณะ คือ สิทธิขั้นพื้นฐาน นายกฯ ต้องรักและห่วงใยประชาชนเสมือนคนในครอบครัว ต้องสร้างสังคม ที่ลูกหลานปลอดภัย ไปไหน ไม่ต้องกังวลว่า จะถูกรถมาชนบนทางม้าลาย ของจะหล่นใส่หัว เดินไปโรงเรียนจะตกท่อ โรงงานสารเคมีข้างบ้านจะระเบิด เพราะสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ คือ การดำรงชีวิตอย่างปลอดภัย คือ มาตรวัดคุณภาพชีวิตของคนไทย และคือ มาตรวัดผลงานรัฐบาล ทั้งเรื่อง ฝุ่นพิษ PM2.5 ที่ทำร้ายสุขภาพเด็กไทย อย่างรุนแรงรัฐบาลที่ผ่านมามักแก้ปัญหาแบบตามฤดูกาลเดี๋ยวก็ลืมกันไป นายกฯต้องแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ หากทำได้ ได้ใจพ่อแม่ทั้งประเทศไทยแน่นอน

4.รัฐบาลโปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน นายกฯต้อง ใจแข็ง ใครก็รู้ การเมืองไทยกับปัญหาการคอร์รัปชัน มันอยู่คู่กันมานาน แต่นายกฯ ได้เปรียบเพราะมีผู้มีพลังหนุนหลัง ไม่ต้องง้อใคร ไม่ต้องขอใคร ไม่ต้องเกรงใจใคร ทำสิ่งที่ถูกต้องได้โดยไม่มี ข้ออ้าง การลดคอร์รัปชันจะเป็นสัญญานบวกที่มีพลังมากที่สุดต่อภาคธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ใครก็อยากมาลงทุนในประเทศไทย เพราะไม่ต้องกังวลเรื่อง เงินใต้โต๊ะเงินทุนก็เข้าระบบ เศรษฐกิจก็จะดีขึ้นทันที หากแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้นายกฯ จะเป็นซูเปอร์ฮีโร ได้รับการจดจำนานเท่านาน

“ผมในฐานะพลเมืองไทยและมนุษย์พ่อขอเป็นกำลังใจให้ท่าน ทำงานให้สำเร็จ เพื่อประโยชน์ของชาติ จะขอเฝ้าดู ติดตาม และกล้าเห็นต่าง หากท่านลืมไปว่า ท่านเป็นผู้นำที่มีหน้าที่ รับผิดชอบ ต่อประชาชนไทย” นายสุชัชวีร์ กล่าวทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top