Saturday, 7 June 2025
ฝรั่งเศส

'ฤกษ์อารี นานา' นักเรียนไทย ผู้ที่ทำให้พวกฝรั่งเหยียดเอเชียทึ่ง!!

ถือเป็นอีกมุมมองที่พอจะทำให้เห็นถึงความเจริญของ ‘ประเทศไทย’ ในสายตาต่างชาติได้มากขึ้น ภายหลังจาก ‘แมน’ ฤกษ์อารี นานา ทายาทของ ‘นายไกรฤกษ์ นานา’ นักประวัติศาสตร์ชื่อดังของประเทศไทย ได้บอกกล่าวภาพรวมของประเทศในยุโรป โดยเฉพาะในฝรั่งเศส ที่ครั้งหนึ่งเจ้าตัวได้เห็นความเจริญของประเทศแห่งนี้จากการไปเรียนต่ออยู่หลายปี ผ่านช่องยูทูบ ‘UTN Today’ ในช่วงหนึ่งของเนื้อหาคลิปที่ชื่อว่า ‘เรียนต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย 'ซ้ำชั้น 2 รอบ' แต่ใจสู้ | UTN World กับ แมน นานา EP.1’ โดยเจ้าตัวเผยคำสั้น ๆ เมืองไทย ‘ศิวิไลซ์’ แล้วจริง ๆ 

คุณแมน เล่าให้ฟังว่า ตนอยู่ฝรั่งเศสตั้งแต่อายุ 15 ถึง 25 โดยช่วงอายุประมาณ 13 ปี คุณแม่ของคุณแมนได้ส่งไปเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศส โดยมีญาติอยู่ที่นั่น แต่ด้วยความที่ไปคนเดียว ก็จะมีความรู้สึกที่เหงาอยู่บ้าง และการไปอยู่ที่นั่น เรื่องภาษาก็เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะเขาจะใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเลย ตนจึงต้องเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศสแบบจริงจัง 

“ตอนนั้นผมไปแบบนักเรียนไทยธรรมดา ๆ ไปอยู่หออยู่ ซึ่งหอก็เป็นหอชายล้วน และโดยสภาพแวดล้อมก็บังคับให้เราต้องตั้งใจเรียนอย่างหนัก โดยเฉพาะภาษาฝรั่งเศส เพราะถ้าไม่ได้ภาษาที่นั่นก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย เนื่องจากคนที่นั่นเขาไม่ใช้ภาษาอังกฤษ มันเป็นการปรับตัวที่ยากพอสมควร...

“อย่างไรก็ตาม แม้ผมจะเป็นคนไทยคนเดียวในโรงเรียนที่ได้ไปอยู่ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนที่เป็นคาทอลิก แต่ผมก็เป็นคนที่ค่อนข้างเปิดรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ ชอบทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ จะเรียกว่าเป็นคน Extrovert ก็ได้ เพราะพื้นฐานเดิมของผมเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรม จึงเข้ากับสังคมได้ง่าย แต่แน่นอนว่าถ้าหากใครที่เป็นคนเก็บตัวประมาณหนึ่ง (Introvert) หรือไม่กล้าแสดงออก ก็อาจจะอยู่ในกรอบเซฟโซน” 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นคนเรียนรู้เร็ว ทั้งเรื่องภาษา (พื้นฐานภาษาอังกฤษดีตั้งแต่อยู่เมืองไทย) และด้านวิชาการต่าง ๆ ทำให้คุณแมน ค่อนข้างจะได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อนร่วมชั้นอย่างมาก สวนทางกับมุมมองของคนที่นั่นที่มักจะมองว่าคนเอเชียไม่เก่ง เพราะมาจากประเทศที่ล้าหลัง

“เอาจริง ๆ แล้วสมัยที่ผมไปเรียนช่วงนั้น ผมมองว่าระบบการศึกษาที่ฝรั่งเศส ก็มีความคล้ายคลึงกับในไทย คือ เน้นท่องจำ เน้นทฤษฎีซะส่วนใหญ่ ซึ่งผมก็โอเคกับมันเพราะว่าผมก็ค่อนข้างชอบทฤษฎีอยู่แล้ว แต่จะต่างกันตรงเด็กส่วนใหญ่จะมีเป้าหมายในการคะแนนที่แข่งกับตัวเองอย่างมาก เช่น ต้องทำคะแนนให้ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ต้องทำคะแนนให้ได้ดีกว่าเพื่อน ต้องทำคะแนนให้ได้ดีในระดับโรงเรียน และถึงขั้นต้องทำคะแนนให้ได้ดีกว่าเด็กโรงเรียนอื่นด้วย โดยที่ฝรั่งเศสเขาจะวัดคะแนนเป็นเต็ม 20 คะแนน แต่ถ้าเมืองไทยจะเป็นเกรด 1-2-3-4 ซึ่งถ้าอยู่ที่ฝรั่งเศสคะแนนเต็ม 20 หากทำได้สัก 15 ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว แล้วมันมีช่วงหนึ่งที่ผมไปสอบวิชาเศรษฐศาสตร์ (เทียบระดับพอ ๆ กับ ม.6 ของไทย) ผมทำคะแนนได้ 19 คุณครูกับเพื่อน ๆ ก็ตกใจอย่างมาก”

ทั้งนี้ คุณแมน มองว่า การที่คนที่นั่นรู้สึกตกใจในสิ่งที่คนเอเชีย ซึ่งเป็นคนไทย คนที่พวกเขาคิดว่ามาจากประเทศด้อยพัฒนาทำได้จากคะแนนที่สูงเช่นนั้น ส่วนสำคัญเพราะ หากการพัฒนาของประเทศไทย จะเป็นการพัฒนาทุก ๆ เรื่องไปตามการพัฒนาของประเทศ ซึ่งนั่นก็หมายรวมถึงความสามารถด้านการศึกษา แต่กลับกันกับฝรั่งเศสหรืออาจจะหมายรวมถึงยุโรปด้วยนั้น จะยังคงความเป็นอนุรักษ์นิยมค่อนข้างสูง

ตรงนี้หมายถึงอะไร? ก็หมายถึงพวกเขายังชื่นชมในประวัติศาสตร์ของประเทศตน ทวีปตน ที่เคยยิ่งใหญ่ล้ำหน้าใครในโลก เรียนรู้เร็ว เจริญเร็ว แต่วันนี้พวกเขาเริ่มหยุดเจริญแล้ว และความเจริญที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ล้วนมาจากบุญเก่า สังเกตได้ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ยังอยู่ได้เพราะชื่อเสียงด้านการศึกษา ทำให้มีนักเรียนต่างชาติเข้ามาเรียนมากมายในลอนดอน ซึ่งหากถ้าไม่มีนักเรียนต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนเอเชียด้วยแล้ว ก็นึกภาพอนาคตของประเทศนี้ไม่ออกเช่นกัน เพราะนักเรียนที่ไปเรียนต่อ ล้วนแล้วแต่ไปสร้างรายได้ให้กับประเทศของเขาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ค่าเรียนต่อ ค่าเช่าบ้าน ค่าร้านอาหาร ค่า Shopping และอื่น ๆ … ความขลังของบุญเก่ายังมีผลอยู่

เฉกเช่นเดียวกันกับความขลังในเรื่องของแบรนด์เนม เช่น ฝรั่งเศส กับ Hermès หรือ Louis Vuitton ที่ผู้คนยังพร้อมที่จ่ายให้ประวัติศาสตร์ที่มีความขลังนี้ และทุกวันนี้ประเทศที่ว่ามา ก็ยังใช้บุญเก่านี้ทำมาหากินได้อยู่ไปเรื่อย ๆ 

คุณแมน เผยต่อว่า จากมูลเหตุเหล่านี้ จึงทำให้ประเทศในยุโรป (ฝรั่งเศส) ยังกระหยิ่มยิ้มย่อง และทำให้เขามองว่าเอเชียอย่างเรา ยังไงก็ยังล้าหลัง

“เวลาเขามองประเทศไทยวันนี้ เขายังรู้สึกว่าเหมือนมองเมืองไทยในยุคเลย 20 ปีที่แล้วไปอีกไกล คนไทยขี่ช้างอยู่ คนไทยขี่เกวียนอยู่ จนกระทั่งวันที่เพื่อนของผมที่เป็นคนฝรั่งเศสได้มาไทย ก็ตกใจกันอย่างมาก เพราะเมืองไทยมีการใช้จ่ายผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด ใช้จ่ายกันตั้งแต่ร้านค้าใหญ่ ๆ ไปจนถึงร้านค้าเล็ก ๆ เมืองไทยมีรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ที่ไม่มีความสกปรก ไม่มีขอทาน รถไฟฟ้าไม่มีกลิ่นฉี่ ดูดีมาก แต่ในปารีสกลับมีหนู มีคนปัสสาวะเรี่ยราด มีขอทาน แล้วก็มีคนเล่นยาด้วยในรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งคนฝรั่งเศสคนไหนที่ได้มาเปิดหูเปิดตาในไทยตอนนี้ พูดได้แค่คำเดียวว่า ‘ศิวิไลซ์’ มาก ๆ...

“ไม่เพียงเท่านี้ เขายังมองอีกว่า บ้านเราอารยะ มีมารยาทสูง เอาแค่ในรถไฟฟ้าของไทย ผู้คนจะมีมารยาทในการใช้งาน ไม่โวยวาย ไม่คุยเสียงดัง เข้า-ออก ตามคิวอย่างเป็นระเบียบ และยังเอื้อเฟื้อต่อเด็ก, สตรีมีครรภ์ และ คนชรา ได้นั่งก่อน กลับกันในรถไฟฟ้าที่ยุโรป เช่น ในฝรั่งเศส ใครจะโทรศัพท์หาใคร จะตะโกนยังไงก็ได้ เพราะเขามองว่ามันก็เป็นสิทธิ์ของเขา หนักข้อคือจะกินข้าวเลอะเทอะยังไงก็ได้ ซึ่งตรงนี้ในมุมมองคนฝรั่งเศสที่ได้มาไทย เขายอมรับเลยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เจริญแล้ว” 

“และนั่น จึงไม่ใช่แปลกเลย ที่วันนี้เราจะเห็นฝรั่งเขาพร้อมใจกันทำคลิปเรื่องดี ๆ ของไทยในแง่มุมต่าง ๆ ไปนำเสนอให้คนประเทศเขาได้เห็นถึงความเจริญในเมืองไทยมากขึ้น” คุณแมน ทิ้งท้าย 

อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามบทสัมภาษณ์เวอร์ชันเต็มได้ที่ >> https://youtu.be/Jy0PmsZ1xK0?si=SIhOj4b39yOhh8Pn 
 

ซ้ายตกขอบ!! เสียงสะท้อนผลเลือกตั้ง 'ฝรั่งเศส-อังกฤษ'  คนยุโรปเริ่มล้มทุกรัฐบาลที่หนุนสงครามยูเครน-แซงชั่นรัสเซีย

(7 ก.ค.67) เพจ ‘สานต่อเจตนารมณ์ อาจารย์สมเกียรติ โอสถสภา’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ การเมืองในเวทีโลก โดยได้ระบุว่า ...

เลือกตั้งอังกฤษเมื่อสองวันที่แล้วยืนยันว่าคนยุโรปล้มทุกรัฐบาลที่สนับสนุนสงครามยูเครน แซงค์ชันรัสเซีย รับผู้อพยพแอฟริกาเหนือและยูเครนเข้ามาแบบไร้สติ

ทั้งหมดล้วนเป็นแนวทางที่ส่งผลให้คนยุโรปอยู่ยาก จนลง เพราะของแพง รัฐสวัสดิการเอาไม่อยู่ ถูกรัฐจับทำงานจนแก่ 

ถ้าชิงตายก่อนถึงเกณฑ์รับเงินก้อนจากรัฐ อดได้เอ็นจอยการหอบเงินที่สะสมทั้งชีวิตมาอยู่เป็นป๋าที่พัทยา

รัฐบาลริชชี สุนัก แพ้ราบคาบ อดีตนายกอย่างลิซ ทรัสส์ สอบตกในเขตตัวเอง จบ 14 ปี ของรัฐบาล Conservatives ภายใต้นายก 5 คน 

วันนี้ฝรั่งเศสเลือกตั้งรอบสอง ฝ่ายซ้าย ฝ่ายกลางรวมพลังบล็อก ฝ่ายขวา ไม่ต่างจากช่วงที่ฝ่ายขวาไทยบล็อกก้าวไกลเมื่อปีที่แล้ว 

สองลุงของฝรั่งเศส (เมลลองฌอง-มาครอง) ฉลาดกว่าสองลุงของไทย มีการถอนตัวผู้ลงสมัครทั้งจากฝ่ายซ้ายและฝ่ายกลาง จะได้ไม่ตัดคะแนนกันเองในแต่ละเขต

ไล่ประท้วงไล่ตีกันทั้งประเทศ เพราะไม่มีเพจของคนหน้าตาดีบอกให้ไปนอนก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่

มองกันว่าฝ่ายขวาจะชนะแต่ไม่ขาด แต่ก็ยังจะเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายขวาฝรั่งเศสได้เข้ามาเป็นรัฐบาลในห้วง 80 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

แนวทางนโยบายจะเป็นผลประโยชน์ฝรั่งเศสต้องมาก่อน ไม่เอาผู้อพยพ ไม่ส่งทหารไปยูเครน

นายกวิคเตอร์ ออร์บัน จากฝ่ายขวาของฮังการีเป็นประธานหมุนเวียนอียูระยะ 6 เดือนไปตลอดถึงสิ้นปี 

สิ่งแรกที่ทำคือหาทางจบสงครามยูเครน-รัสเซีย แบกตำแหน่งประธานอียูไปคุยกับปูตินถึงที่

ไปแบบไม่สนหน้าใครในอียู

เดือน พ.ย. สหรัฐเลือก ปธน ถ้าทรัมป์ที่คะแนนนำอยู่ชนะ แนวร่วมรัสเซียในเวทีระหว่างประเทศจะกว้างและครอบคลุมมาก

เป็นการเปลี่ยนแปลงขั้วการเมืองครั้งใหญ่ของโลก ที่เกิดจากความงี่เง่าของฝ่ายซ้ายตะวันตกล้วนๆ 

โอกาสได้จบสงครามดีที่สุดในรอบ 3 ปี กำลังมา 

แต่ถ้าจบที่รัสเซีย จะย้าย theater มาทะเลจีนใต้หรือไม่

นักการทูต ทหาร ฝ่ายความมั่นคงไทย ทบทวนตำราศรีธนญไชยเตรียมไว้ได้เลย

เราเน้นแนวทางรบด้วยปาก

นอกนั้นมาช่วยกันสาธุ 99 ได้ครับ

คนรวยในฝรั่งเศส เตรียมย้ายออก นอกประเทศ เหตุ!! กังวลถูกรีดภาษี หนีความวุ่นวายทางการเมือง

(14 ก.ค.67) พลเมืองผู้มั่งคั่งหลายรายในฝรั่งเศสกำลังพิจารณาย้ายออกนอกประเทศ สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมือง และแนวโน้มอัตราภาษีที่สูงขึ้น หลังศึกเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อเร็วๆ นี้ ตามรายงานของบลูมเบิร์กเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ค.) อ้างอิงที่ปรึกษาด้านการบริหารความมั่งคั่ง

ความเคลื่อนไหวนี้ ส่วนหนึ่งสืบเนื่องจากผลการเลือกตั้งเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีพรรคไหนครองเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด ก่อให้เกิดรัฐสภาแขวน แม้พันธมิตรฝ่ายซ้ายคว้าเก้าอี้มาได้มากที่สุดก็ตาม

บลูมเบิร์กรายงานอ้างบรรดาที่ปรึกษาด้านการบริหารความมั่งคั่ง เปิดเผยว่า บรรดาลูกค้าผู้ตื่นตระหนกของพวกเขาหลายรายได้เริ่มโอนย้ายเงินทุนไปยังต่างแดนแล้ว และเริ่มมองหาความเป็นไปได้ในการโยกย้ายถิ่นฐาน เกือบทั้งหมดกังวลว่า แม้ทั้งพรรคขวาจัดหรือพรรคซ้ายจัดต่างไม่มีใครคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งอย่างเด็ดขาด แต่หลายพรรคมีนโยบายหาเสียงอันน่ากังวล อย่างเช่นขึ้นภาษี ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจได้รับความเห็นชอบกลายเป็นกฎหมายในไม่ช้านี้

‘เรามีลูกค้าใหม่ๆ อย่างเช่นผู้บริหารระดับสูง ซึ่งสอบถามว่าพวกเขาจะสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อปกป้องตนเอง ตามหลังเบร็กซิต มีนายธนาคารจำนวนมากไหลบ่าเข้าไปยังฝรั่งเศส แต่พวกมีรายได้สูงเหล่านี้อาจย้ายออกนอกประเทศ เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการจ่ายภาษีมากกว่านี้’ เซเนีย ลาเกรนด์ จากบริษัทกฎหมายโฮเกน โลเวลล์ส ที่มีสำนักงานในปารีส บอกกับบลูมเบิร์ก

แนวร่วมนิว ป็อปปูลาร์ ฟรอนต์ (เอ็นเอฟแอล) พรรคฝ่ายซ้าย ซึ่งคว้าเก้าอี้ได้มากสุดในศึกเลือกตั้ง ประกาศจะรีดภาษีกำไรพิเศษของบริษัททั้งหลาย และคืนสถานะภาษีมั่งคั่งที่เรียกเก็บจากคนรวย ซึ่งข้อเสนอกฎหมายเหล่านี้สวนทางกับนโยบายต่างๆ ที่บังคับใช้โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ซึ่งถูกมองว่าเป็นมิตรกับคนรวยมากกว่า และแม้กระทั่งได้รับฉายาว่า ‘ประธานาธิบดีของคนรวย’

เอ็มมานูเอล อังเจเลียร์ ประธานบริษัทบริหารจัดการทรัพย์สิน La Financiere d’Orion ทำนายว่า ‘ผู้คนที่สามารถย้ายประเทศได้ จะย้ายประเทศ ถ้าหากว่านโยบายสุดขั้วต่างๆ ถูกบังคับใช้ ฝรั่งเศสจะไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าดึงดูดใจสำหรับต่างชาติอีกต่อไป และคนรวยจะย้ายหนีไปด้วย’

จูเลียน มากิตเตรี ที่ปรึกษาด้านทรัพย์สินส่วนบุคคลของบริษัท Barnes Family Office by Côme ระบุว่า บางคนเริ่มเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากฝรั่งเศสแล้วตั้งแต่ก่อนศึกเลือกตั้งรอบ 2 ด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่ย้ายเงินทุนไปที่ประเทศต่างๆ อย่างเช่นสวิตเซอร์แลนด์และลักเซมเบิร์ก ขณะที่บรรดาผู้จัดการด้านทรัพย์สินส่วนใหญ่บอกว่ามีหลายประเทศ อย่างเช่นอิตาลี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ และสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่อยู่ภายใต้การพิจารณาของบรรดาผู้มั่งคั่งฝรั่งเศส

ฝรั่งเศสเป็นถิ่นพำนักของบรรดาบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกบางส่วน ในนั้นรวมถึง บอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ชายที่รวยที่สุดในยุโรปและเป็นเจ้าของบริษัทแบรนด์เนมหรู LVMH ฟรองซัวส์ เบตตองกูร์ เมเยอร์ส เศรษฐินีชาวฝรั่งเศส เจ้าของบริษัทเครื่องสำอาง L’Oréal สตรีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก และพี่น้องตระกูลเวอร์ไธเมอร์ เจ้าของแบรนด์ชาแนล

อ้างอิงจากผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยสำนัก Elabe เมื่อต้นสัปดาห์ พบว่าชาวฝรั่งเศส 7 ใน 10 คน ไม่พอใจกับผลการเลือกตั้ง และองค์ประกอบของสมัชชาแห่งชาติชุดใหม่ โดยบอกว่าเวลานี้ประเทศอยู่ในสถานการณ์ที่ปกครองไม่ได้

'เอ็นโซ่' โพสต์ขอโทษผ่านไอจี หลังเหยียดเชื้อชาติฝรั่งเศส ด้านผู้เล่นฝรั่งเศสของเชลซี เลิกติดตามไอจีเจ้าตัวทันที

(17 ก.ค. 67) จากกรณีที่ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ นักเตะทีมชาติอาร์เจนตินาของเชลซี ถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังได้ร้องเพลงในเชิงเหยียดเชื้อชาติฝรั่งเศส และเหยียดรสนิยมทางเพศ ในระหว่างไลฟ์สดบรรยากาศฉลองแชมป์โคปา อเมริกา 2024 บนรถบัส ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แฟนบอล และนักเตะฝรั่งเศสโดยเฉพาะในทีมเชลซี เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, อักเซล ดิซาซี่, เบอนัวต์ บาเดียชิลด์, มาโล กุสโต้ และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู พร้อมกับได้ให้ยุติการถ่ายทอดสดไปก่อน 

ล่าสุดกองกลางวัย 23 ปี ได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวขอโทษต่อเหตุการณ์ทั้งหมด และทั้งหมดนั้นไม่ใช่อุปนิสัยของตัวเอง

"ผมอยากขอโทษจากใจสำหรับวิดีโอที่โพสต์ในอินสตาแกรมของผมระหว่างการฉลองกับทีมชาติ"

"เนื้อหาของเพลงมีภาษาที่ก้าวร้าวอย่างแรง และไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ เลยสำหรับถ้อยคำเหล่านั้น"

"ผมมีจุดยืนต่อต้านการเลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบ และขอโทษสำหรับการสนใจเพียงความสนุกตื่นเต้นอย่างเต็มที่ในการฉลองแชมป์โคปา อเมริกา ของพวกเรา"

"ช่วงเวลาวีดีโอนั้น เวลาเหล่านั้น ถ้อยคำต่าง ๆ ไม่ได้สะท้อนความเชื่อหรือคาแรกเตอร์ (ตัวตน) ของผม"

"ผมเสียใจอย่างแท้จริง"

อย่างไรก็ตามเวลานี้ เชลซี กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ และสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส ก็พร้อมจะดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายกับเฟร์นานเดซ ด้วยเช่นกัน โดยฟิลิปป์ ดิยัลโล่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส ได้ประณามการเหยียดผิวและเหยียดเชื้อชาติ และร้องเรียน อาร์เจนติน่า โดยตรงต่อฟีฟ่า พร้อมยื่นเรื่องทางกฎหมายสำหรับการดูหมิ่นเชื้อชาติ และการปฏิบัติต่อบุคคลที่ไม่เหมาะสม

หึ่ง!! ‘สาวออสเตรเลีย’ ถูก 5 ชายฉกรรจ์ รุมข่มขืนในกรุงปารีส เบื้องต้นจับกุมยังไม่ได้ ท่ามกลางโอลิมปิกเกมส์กำลังจะเกิดขึ้น

(24 ก.ค.67) ตำรวจฝรั่งเศสกำลังทำการสืบสวน หลังหญิงสาวชาวออสเตรเลียรายหนึ่งบอกว่าเธอถูกชายฉกรรจ์ 5 คน รุมข่มขืนในย่านใจกลางกรุงปารีส ไม่กี่วันก่อนหน้ามหกรรมโอลิมปิกเกมส์ ที่เมืองหลวงแห่งนี้รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจะเริ่มขึ้น

โดยสื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า ผู้หญิงวัย 25 ปี หลบอยู่ในร้านเคบับ ในย่าน Pigalle ของกรุงปารีส ในตอนเช้าวันเสาร์ (20 ก.ค.) ในสภาพที่ชุดถูกฉีกขาดเป็นบางส่วน เธออ้างว่าโดนข่มขืน เบื้องต้นยังไม่มีการจับกุมใคร แต่อัยการยืนยันว่าพวกเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบสวนคดีนี้ในฐานะคดี ‘รุมโทรม’ โดยเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนที่เมืองหลวงของฝรั่งเศส จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 2024

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ Le Parisien ของฝรั่งเศส รายงานว่า เจ้าของร้านเคบับ โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ หลังพบหญิงสาวอยู่ในสภาพชุดถูกฉีกขาดเป็นบางส่วน และเธออ้างว่าถูกประทุษร้ายทางเพศ เบื้องต้นเธอได้รับการดูแลจากหน่วยดับเพลิง จากนั้นถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล Bicha เพื่อตรวจร่างกาย โดยแพทย์มืออาชีพ

ต่อมา สำนักงานอัยการปารีส เปิดเผยว่า ตำรวจกำลังสืบสวนคำกล่าวอ้างดังกล่าวและกำลังทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ในเหตุการณ์ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันศุกร์ (19 ก.ค.) จนถึงเช้าวันเสาร์ (20 ก.ค.)

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแม้ว่าปัจจุบันมีตำรวจจำนวนมากกระจายกำลังอยู่ทั่วกรุงปารีส เพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ผู้คนภายในเมือง ระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันศุกร์นี้ (26 ก.ค.)

เจ้าหน้าที่ใช้บุคลากรจำนวนมากในการลาดตระเวนในกรุงปารีส นับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ในนั้นรวมถึงเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยติดอาวุธแถว ๆ แม่น้ำแซน

นอกจากนี้ ได้มีการกำหนดโซนความปลอดภัยหลายพื้นที่รอบเมือง โดยที่กรุงปารีสถูกแยกเป็นโซนต่าง ๆ หากใครก็ตามปรารถนาเข้าไปยังบางพื้นที่ ในนั้นรวมถึงหอไอเฟล จำเป็นต้องยื่นขอบัตรผ่านพิเศษบนแพลตฟอร์มหนึ่งที่จัดทำโดยตำรวจ

‘ลุงป้อม’ เตรียมบินไปฝรั่งเศส 1 สิงหานี้ เพื่อให้กำลังใจทีมไทย มั่นใจ!! นักกีฬาแบดมินตันไทย มีหวังได้ ‘เหรียญทอง’ กลับบ้าน

(28 ก.ค. 67) ที่สำนักงาน คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้สัมภาษณ์ ถึงการให้กำลังใจนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศฝรั่งเศสว่า ว่า ส่วนตัวเตรียมที่เดินทางไปเยี่ยมนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศฝรั่งเศสอยู่แล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) นักกีฬาแบดมินตันไทย แบดมินตันหนุ่มสาวไทย หวดผ่านฉลุยรอบแรกในการแข่งขัน จะเพิ่มเงินอัดฉีดหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ชนะซิ และมีหวังจะได้เหรียญทองด้วย”

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร จะเดินทางไปให้กำลังใจกับนักกีฬาที่ฝรั่งเศสในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

‘เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ’ ทรงฉลองพระองค์แบบ ‘นักกีฬาขี่ม้า’ ส่งแรงเชียร์ให้ นักกีฬาทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

(28 ก.ค. 67) เผยพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงฉลองพระองค์แบบนักกีฬาขี่ม้า พร้อมส่งแรงเชียร์ให้ทีมนักกีฬาทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นพระราชวงศ์ไทยพระองค์แรกที่จบหลักสูตรการขี่ม้าจากประเทศฝรั่งเศส และมีพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถด้านการขี่ม้า พระองค์ทรงได้รับการถวายรางวัลประเภท Dressage ในหลายรายการ ทั้งในการแข่งขันระดับประเทศและนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น รายการไทยแลนด์แชมเปี้ยนชิพ คิงส์คัพ 2012 , รายการกีฬาซีเกมส์ ในปี 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย , รายการแข่งขันศิลปะการบังคับม้าระดับนานาชาติในระดับ Prix St George และ Intermediate I ณ สนามแข่งขันที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี รวมไปถึงรายการ ‘FEI Asian Championships Pattaya 2019’ ที่ทรงนำทัพนักกีฬาไทยสร้างผลงานไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

ล่าสุด พระองค์ยังทรงร่วมส่งแรงเชียร์และแรงสนับสนุนให้กับทัพนักกีฬาทีมชาติไทยอย่างสุดพระหฤทัย ที่เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันใน มหกรรมกีฬาโอลิมปิก ประจำปี 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในฐานะของนักกีฬาถึงนักกีฬาด้วยกัน โดยพระองค์ทรงเชื่อมั่นว่า ทัพนักกีฬาไทยจะประสบความสำเร็จ สามารถนำชื่อเสียงของประเทศไทยให้กระหึ่มไปทั่วโลก ทั้งความสามารถทางด้านกีฬา และความงดงามของวัฒนธรรมและประเพณีไทย

เมื่อ 'เสรีภาพการแสดงออก' เกินเบอร์ในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิก 2024 ทำลาย ‘ความศรัทธา’ จนก่อให้เกิด ‘ความบาดหมางและแตกแยก’

พิธีเปิดกีฬาโอลิมปิก 2024 เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2024 ที่ผ่านนั้นมา มีการแสดงต่าง ๆ มากมายที่เน้นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของฝรั่งเศส และกองเรือ 85 ลำบรรทุกนักกีฬา 6,800 คน ล่องไปตามแม่น้ำแซนเป็นระยะทาง 3 ไมล์ครึ่งท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างหนัก ก่อนจะปิดฉากอย่างอลังการด้วยม้าเงินแอนิมาโทรนิกส์ที่วิ่งไปตามทางน้ำสู่ทรอคาเดโร ในพิธีเปิดที่กินเวลานานถึง 4 ชั่วโมงนี้แตกต่างจากพิธีเปิดที่ผ่านมาในรอบ 128 ปีของการแข่งขันโอลิมปิกสมัยใหม่

แต่การแสดงบางส่วนต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์คริสต์ศาสนิกชนอย่างหนัก เนื่องจากมีการใช้การแสดงล้อเลียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ‘The Last Supper’ ซึ่งวาดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 โดย Leonardo Da Vinci ภาพนี้แสดงให้เห็นพระเยซูกับอัครสาวกทั้ง 12 คน ซึ่งเป็นภาพช่วงเวลาที่พระองค์ประกาศว่าอัครสาวกคนหนึ่งจะทรยศต่อพระองค์ เป็นภาพวาดเหตุการณ์เกี่ยวกับอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูกับอัครสาวก ก่อนที่พระองค์จะทรงถูกนำไปตรึงกางเขน โดยการแสดงดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังจากมีวิดีโอเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย

การแสดงดังกล่าว มีฉากที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงท้ายของการแสดงในพิธีเปิดที่กินเวลานานถึง 4 ชั่วโมง มีนักแสดงประมาณ 18 คนยืนโพสท่าอยู่หลังโต๊ะยาว โดยมีแม่น้ำแซนและหอไอเฟลเป็นฉากหลัง โดยในจำนวนนี้ มีนักแสดง Drag queen (ชายแต่งกายเป็นหญิง) ชื่อดัง 3 คนจาก Drag Race France ร่วมแสดงด้วย ตรงกลางมีนักแสดง Drag queen นางหนึ่ง ซึ่งแต่งตัวอย่างประณีตสวมผ้าโพกศีรษะสีเงินขนาดใหญ่คล้ายรัศมีตามที่เห็นในภาพพระเยซู เธอยิ้มและทำมือเป็นรูปหัวใจ ในขณะที่กลุ่มนักแสดง Drag queen คนอื่นๆ โพสท่าให้กล้องถ่ายก่อนจะเข้าสู่การแสดงท่าเต้นที่ออกแบบไว้ 

นอกจากนั้นแล้ว ยังรวมถึงแฟชั่นโชว์แบบสด ๆ โดยผู้ที่เข้ามาชมได้ร่วมเต้นรำไปตามข้างสนาม นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของฉาก มีถาดเสิร์ฟวางอยู่บนเวที และชายที่แต่งกายบางเบาและทาตัวด้วยสีฟ้าแวววาวทั้งตัว ออกมาปรากฏตัวออกมาจากข้างใน เพื่อเพิ่มความตระการตา บัญชี X อย่างเป็นทางการของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกระบุว่า “นี่คือ การตีความของเทพเจ้ากรีก Dionysus ซึ่งทำให้เราตระหนักถึงความไร้สาระของความรุนแรงระหว่างมนุษย์"

อย่างไรก็ตาม การแสดงดังกล่าวได้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นการล้อเลียนคริสต์ศาสนา แม้กระทั่ง Elon Musk CEO ของ Tesla และ SpaceX ยังได้แสดงความเห็นว่า “การกระทำดังกล่าวเป็นการไม่ให้เกียรติคริสต์ศาสนาเป็นอย่างยิ่ง” Musk ตอบโต้ต่อการพรรณนาถึงไดโอนีซัส เทพเจ้ากรีกผู้ทำไวน์และความอุดมสมบูรณ์ โดยกล่าวว่า “ทำไมถึงมีสิ่งนี้ในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิก ไนเมื่อคนบนโลกกำลังจะย้ายไปดาวอังคาร” 

ส่วน Marion Marechal นักการเมืองฝรั่งเศสและสมาชิกรัฐสภายุโรป ถึงกับต้องออกปากขอโทษว่า “ถึงคริสต์ศาสนิกชนทั่วโลกที่รับชมพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิก 2024 และรู้สึกไม่พอใจกับการแสดงล้อเลียนภาพ ‘The Last Supper’ ขอให้รู้ไว้ว่า นี่ไม่ใช่เสียง(ความคิดเห็น)ของชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ แต่เป็นเสียงของกลุ่มคนฝ่ายซ้ายส่วนน้อยที่พร้อมและต้องการที่จะยั่วยุในทุกวิถีทาง” Marion Marechal เป็นหลานย่า/ยายของ Jean-Marie Le Pen ผู้ก่อตั้งพรรคแนวร่วมแห่งชาติ และเป็นหลานสาวของ Marine Le Pen ประธานกลุ่มชุมนุมแห่งชาติในรัฐสภา

Auguste Pfluger สมาชิกพรรครีพับลิกันจากมลรัฐ Texas โพสต์บน X ว่า “เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่พิธีเปิดมีการล้อเลียนคริสต์ศาสนาและภาพอาหารค่ำมื้อสุดท้าย แล้วยังให้เด็กเข้าร่วมการแสดง Drag queen” 

Daniel French บาทหลวงแห่งเมือง Salcombe และ Marlborough ได้วิจารณ์การแสดงดังกล่าวอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยกล่าวว่า “พิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกเป็นการล้อเลียนศาสนาคริสต์ และ ภาพ ‘The Last Supper’ ในลักษณะที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับศาสนาอื่น” ทั้งได้เรียกร้องให้ Justin Welby ซึ่งเป็น Archbishop แห่ง Canterbury ได้สะท้อนความคิดเห็นของ Robert Barron บาทหลวงชาวสหรัฐฯ ผู้ดูแลสังฆมณฑลวิ Winona-Rochester ใน Southern Minnesota ผู้ที่กล่าวถึงการแสดงครั้งนี้ว่าเป็นการ “ล้อเลียน” คริสต์ศาสนาอย่างร้ายแรง

ผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายคนยังได้วิพากษ์วิจารณ์การแสดงดังกล่าวว่ามีเด็กเกี่ยวข้องด้วย “โอลิมปิก 2024 ที่ปารีสถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีการนำ ‘เด็ก’ มาประกอบในการแสดง ‘The Last Supper’ ซึ่งเป็นการล้อเลียนศาสนาและดูหมิ่นศาสนาแบบสุดโต่ง แทนที่จะนำผู้คนมารวมกันเพื่อความสมัครสมานสามัคคี แต่ผู้จัดงานกลับต้องการล้อเลียนศาสนาที่มีผู้คนนับถือถึง 2.4 พันล้านคน” ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่งระบุ

ทางด้านโฆษกของโอลิมปิก 2024 กล่าวที่กรุงปารีสว่า “เห็นได้ชัดว่า การแสดงไม่มีเจตนาที่จะไม่เคารพต่อศาสนาหรือความเชื่อใด ๆ แต่ตรงกันข้าม ภาพในพิธีเปิดโอลิมปิกปารีส 2024 แต่ละภาพมีจุดประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองชุมชนและการยอมรับในความแตกต่าง” พวกเขายังกล่าวเสริมว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ศิลปินได้รับ “แรงบันดาลใจจากภาพวาดชื่อดังของ Leonardo Da Vinci” เพราะมีมาตั้งแต่ “Andy Warhol ไปจนถึง The Simpsons ซึ่งศิลปินหลาย ๆ คนได้เคยทำมาแล้ว” กีฬาโอลิมปิกปารีส 2024 ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา และการแข่งขันจะดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2024

‘ฝรั่งเศส’ โจรชุม!! ‘เจ้าหญิงกาตาร์’ โดนปล้นกระเป๋าแอร์เมส 11 ใบ ขณะโดยสารรถไฟมาปารีส แถมเจ้าหน้าที่ยังคว้าน้ำเหลวหาขโมย

(30 ก.ค.67) ท่ามกลางการแข่งขันที่เป็นไปอย่างดุเดือดของเหล่านักกีฬาจากหลากหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังชิงชัยคว้าเหรียญโอลิมปิก นอกสนามก็มีการแข่งขันเช่นกัน แต่เป็นการแข่งเอาตัวรอดว่าใครจะรอดพ้นจากการถูกจี้ และปล้นนานกว่ากัน เพราะตั้งแต่ยังไม่เริ่มเปิดการแข่งขัน ก็มีข่าวนักกีฬาโดนจี้ โดนปล้นกันชนิดรายวัน ทั้งทุบรถขโมยทรัพย์สิน โดนล้วงกระเป๋า ไปจนถึงความวุ่นวายอย่างการก่อวินาศภัยระบบรถไฟ

แถมล่าสุดมีข่าวฮือฮา เมื่อเจ้าหญิงกาตาร์ ‘อัล มายัสสา บินท์ ฮามาด อัล ธานิ’ ที่มีศักดิ์เป็นลูกสะใภ้ของผู้ครองนครกาตาร์ หนึ่งในครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งได้เดินทางไปเชียร์นักกีฬาในการแข่งขันโอลิมปิก โดนปล้นกระเป๋าแอร์เมส 11 ใบ ขณะกำลังโดยสารรถไฟความเร็วสูง TGV จากเมืองนีซไปยังปารีส

ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้มีการหยุดรถไฟกว่า 20 นาที และพยายามค้นหาขโมย แต่ก็คว้าน้ำเหลว ไม่พบผู้ก่อการและไม่สามารถตามหากระเป๋าแบรนด์หรูได้ เรียกได้ว่าเป็นการปล้นที่มีมูลค่าสูงมาก เพราะแค่กระเป๋าแต่ละใบก็มูลค่าหลักล้านบาทแล้ว แถมด้านในยังมีข่าวว่าบรรจุทรัพย์สินมีค่ามากมายทั้งข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า นาฬิกา และอัญมณี เครื่องประดับต่าง ๆ

'ปารีส' หั่นราคาห้องพักโรงแรม หวังดึงนักท่องเที่ยวช่วงโอลิมปิก 2024 หลังความต้องการฮวบ!! เหตุ 'เงื่อนไขเยอะ-หวั่นความปลอดภัย'

(1 ส.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เปิดฉากกันไปแล้วสำหรับโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเหล่าธุรกิจ-การค้าของประเทศฝรั่งเศสเริ่มตื่นตัว ตัดสินใจดำเนินการเพื่อดึงนักเดินทางด้วยการลดราคาและยกเลิกข้อกำหนดการพักขั้นต่ำ หลังจากมีบางคนเกิดการลังเลเนื่องจากเห็นว่ามีการโก่งราคาค่าห้องพักก่อนจะถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

ด้าน สำนักงานการท่องเที่ยว กรุงปารีส รายงานว่า ราคาค่าห้องพักโรงแรมโดยเฉลี่ยในระหว่างโอลิมปิก ลดลงไปอยู่ที่คืนละ 258 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 10,000 บาท จากเดิมที่ราคาในช่วงฤดูร้อนอยู่ที่ 342 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 13,200 บาท ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 จากค่าห้องพักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 202 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 7,800 บาทเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 

ด้าน บริษัทท่องเที่ยว กล่าวว่า นักท่องเที่ยวอาจจะได้ลดราคาห้องพักอีกระหว่างร้อยละ 10-70 เนื่องจากผู้บริหารโรงแรมเสนอราคาพิเศษให้หลังจากความต้องการห้องพักในช่วงโอลิมปิกต่ำกว่าที่คาดหมายไว้ เนื่องจากห้องพักมีราคาสูงและมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย บางโรงแรมยกเลิกข้อจำกัดต่าง ๆ รวมถึงวันเดินทางมาถึงและระยะเวลาในการพัก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ตัดสินใจได้ในวินาทีสุดท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top