Monday, 9 June 2025
ทุเรียน

‘เท้ง’ แนะ!! ‘อิ๊งค์’ สิ่งที่ควรทำมากกว่า ไลฟ์สดขายทุเรียน คือต้องเปิดตลาดใหม่ อย่าพึ่งพิงแค่ตลาดจีน ประเทศเดียว

(18 พ.ค. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ไลฟ์ขายทุเรียน ที่จ.จันทบุรี เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ว่า เรื่องทุเรียน คนนำเข้าหลักๆ คือประเทศจีน ซึ่งคู่แข่งที่สำคัญคือประเทศเวียดนาม

ดังนั้น ตอนนี้ถ้าเราดูสิ่งที่รัฐบาลเวียดนามสนับสนุนเกษตรกรในประเทศของเขา เขาพยายามที่จะมีเงินอุดหนุนให้เกษตรกรตามชนิดพืชที่ปลูกแล้วมีมูลค่ามากขึ้น พูดง่ายๆ คือเปลี่ยนให้ไปปลูกทุเรียน เพื่อมาแข่งกับไทย

แต่เมื่อดูบริบทที่ประเทศไทย ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีมูลค่า แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เห็นการยกระดับหรือช่วยเหลือจากรัฐบาลเท่าที่ควร เกษตรกรอยู่รอดด้วยตัวเอง เพราะคนจีนชอบบริโภคและมองว่าทุเรียนเป็นสินค้าที่มีมูลค่าทานแล้วดีต่อสุขภาพ

“ถ้าจะให้ผมเสนอแนะ สิ่งที่รัฐบาลควรจะทำมากกว่าการไลฟ์สด วัตถุประสงค์ของการไลฟ์สดคือช่วยขยายตลาด แต่ตลาดปัจจุบันเราส่งออกไปจีนโดยส่วนมากอยู่แล้ว สิ่งที่รัฐบาลควรจะทำมากกว่า คือการเปิดตลาดใหม่ เช่น ประเทศอินเดีย ก็มีประชากรเยอะ และเป็นประเทศที่บริโภคผลไม้อาหารต่างๆ ที่มีรสจัดอยู่แล้ว มองหาทางเลือกใหม่ๆ เป็นไปได้หรือไม่

อย่าไปพึ่งพิงที่ตลาดประเทศจีนประเทศเดียว เพราะเราเห็นผลกระทบที่ตามมา เมื่อไหร่ก็ตามที่รัฐบาลจีนมีมาตรการในการกีดกันทุเรียนนำเข้า เราก็จะได้รับผลกระทบ เพราะเราพึ่งพาอยู่ตลาดเดียว ดังนั้น สิ่งที่จำเป็น เราจะช่วยลดต้นทุนเกษตรกร เพิ่มผลผลิตต่อไร่แล้วต้องขยายตลาดออกไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ด้วย” นายณัฐพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

เอกอัครราชทูตจีนเยี่ยมสวนทุเรียนระยอง หนุนความร่วมมือการค้าผลไม้ไทย-จีน

เมื่อวันที่ (19 พ.ค.68) เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย นายหาน จื้อเฉียง เดินทางเยี่ยมชมสวนทุเรียนในจังหวัดระยอง พร้อมสำรวจการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว และการส่งออกทุเรียน โดยได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเกษตรกรและเจ้าของสวนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

เอกอัครราชทูตหานกล่าวว่า ทุเรียนไทยได้รับความนิยมอย่างมากในจีน โดยปีที่ผ่านมา ร้อยละ 85 ของทุเรียนไทยส่งออกไปยังจีน ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น ปัจจุบัน จีนได้เปิดด่านศุลกากรตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าทุเรียนไทยให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมยืนยันความตั้งใจในการขยายความร่วมมือทางการค้ากับไทยต่อไป

ด้านเกษตรกรระบุว่า ปีนี้ผลผลิตทุเรียนออกมามากและราคารับซื้อสูงถึง 120 บาทต่อกิโลกรัม โดยทุเรียนที่เก็บเกี่ยวถูกส่งออกไปยังจีนทันที ผ่านระบบขนส่งทั้งรถไฟ ถนน และทางน้ำ ซึ่งสามารถถึงปลายทางได้ในเวลาเพียง 3 วัน พร้อมขอบคุณรัฐบาลจีนสำหรับมาตรการช่วยเหลือที่ทำให้การส่งออกเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว

สุดยอดนวัตกรรมเครื่องสแกนทุเรียน ตรวจอ่อนแก่-หนอน แม่นยำ 95% ใน 3 วินาที

เผยโฉมนวัตกรรมเครื่องคัดแยกความอ่อน-แก่ และหนอนเจาะทุเรียนด้วยเทคนิค CT scan สู่การนำไปใช้งานจริง หมดปัญหาทุเรียนอ่อน - สุกเกิน ใช้เวลาเพียง 3 วินาที แม่นยำถึง 95%

นางสาวศิริกร วิวรวงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) เปิดเผยถึงการนำเทคโนโลยีผลงานวิจัย “เครื่องคัดแยกความอ่อน-แก่ และหนอนเจาะทุเรียนด้วยเทคนิค CT scan” สู่การนำไปใช้งานจริง ณ โรงคัดบรรจุเอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ล้งถุงถังทอง จังหวัดจันทบุรี พร้อมให้ข้อมูลว่า สวก. ได้สนับสนุนทุนการวิจัยแก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในการดำเนินโครงการ การออกแบบเครื่องคัดแยกความอ่อน-แก่ และหนอนเจาะทุเรียนด้วยเทคนิค CT scan ร่วมกับการประมวลผลผ่านโครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก ที่มีการทดสอบในระดับห้องปฏิบัติการแล้วมาใช้จริงในโรงคัดบรรจุจริง เพื่อเป็นการนำร่องในการเผยแพร่งานวิจัยสู่ประโยชน์ของเกษตรกรและผู้ประกอบการได้จริง สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าทุเรียนของไทยมีคุณภาพ

ด้านรศ.ดร.ชาญชัย ทองโสภา วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สำนักวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า การนำเครื่อง CT-Scan ตกรุ่นปลดระวางจากบริษัทเอกชนที่ให้บริการด้านเครื่องมือแพทย์ มาพัฒนาเป็นเครื่องต้นแบบสำหรับตรวจสอบความอ่อน - แก่ และหนอนในทุเรียนได้อย่างชัดเจนด้วยเทคนิค CT-Scan ที่สามารถสแกนภาพทุเรียนด้วยความละเอียดสูง โดยแต่ละเฟรมจะแสดงค่า CT-Numbers ที่บ่งบอกถึงความหนาแน่นของเนื้อทุเรียน ทำให้ตรวจสอบคุณภาพภายในผลทุเรียนโดยไม่ต้องผ่าและใช้เวลาสแกนเพียง 3 วินาที หรือ 1,200 ลูก/ชั่วโมง

และด้วยระบบ AI ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะให้ทำงานร่วมกันจะช่วยประมวลผลแยกความอ่อน–แก่ ตรวจหาหนอน ได้แม่นยำถึง 95% รวมถึงสามารถตรวจพบเนื้อที่มีความผิดปกติ เช่น เนื้อเต่าเผา เนื้อลายเสือ เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายให้ทุเรียนไทย 100 % ซึ่งที่ผ่านมาไทยยังไม่มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถตรวจจับได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top