Sunday, 8 June 2025
ชาวต่างชาติ

‘แท็กซี่ร้อยเอ็ด’ เก็บเงินครึ่งล้านได้ ประสานส่งคืนเจ้าของชาวซาอุฯ เผย ไม่เคยคิดจะเอาไว้ เพราะต้องการซื่อสัตย์ต่ออาชีพตนเอง

(12 ก.ค. 67) ที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM91 ดร.ไจตนย์ ศรีวังพล ผู้ร่วมดำเนินงานสถานีวิทยุ สวพ.FM91 นายสกล ถาวรกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายสื่อสารองค์กร น.ส.พิชญา อังคทะวานิช ผอ.ฝ่ายรายการ พร้อมด้วย น.ส.จิตต์ผ่องใส ศรีวังพล ผอ.ฝ่ายทรัพยากรบุคคลเเละจิตอาสาสัมพันธ์ ร่วมเป็นสักขีพยานส่งมอบเงินสกุลต่างชาติ มูลค่ารวม 566,127 บาท คืนเจ้าของชาวซาอุดีอาระเบีย หลังลืมไว้บนรถแท็กซี่

สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ นายเสน่ห์ ไชยคาม อายุ 56 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง มฎ-970 กทม. โทรมาแจ้งผ่านโทร 1644 สวพ.FM91 ว่า มีผู้โดยสารลืมกระเป๋าถือสีดำไว้บนรถ ภายในกระเป๋า มีเงินสกุลต่างชาติจำนวนมาก แต่ไม่กล้าเปิดดู

จากนั้นจึงเดินทางเข้ามาที่ สวพ.FM91 เพื่อให้ช่วยตรวจนับทรัพย์สิน ประกาศตามหาเจ้าของ และให้ช่วยประสานส่งคืนทรัพย์สินที่เก็บได้ เป็นกระเป๋าถือสีดำ เป็นลักษณะช่องซิป 2 ช่อง มีปากกา สมุดโน๊ต นามบัตรระบุชื่อ Mr.Ibrahem M.Al Dossary หลังจากตรวจนับ

พบว่า มีเงิน 1,885 เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเงินดอลลาร์ 15,094 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 566,127 บาท คาดว่าจะเป็นของผู้โดยสารที่รับมาจากถนนรัชดาภิเษก ระหว่างซอยรัชดาภิเษก 24-26 จะไปมาบุญครอง แต่รถติด จึงขอลงที่สยามสเเควร์ เวลาประมาณ 15.30 น

แท็กซี่พลเมืองดี เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้โดยสารลงไปแล้ว ก็ขับรถออกไปต่อ พอจังหวะรถติดไฟแดง ได้หันกลับไปดูหลังรถ เห็นมีกระเป๋าสีดำ ตกอยู่ที่พื้น บริเวณหลังเบาะคนขับ ตอนแรกไม่กล้าเปิด แต่พอเปิดมาดู รู้สึกตกใจมาก ไม่เคยเห็นเงินเยอะขนาดนี้มาก่อน ไม่กล้าตรวจสอบข้างใน

นึกถึง สวพ.FM91 จึงรีบโทรมาแจ้ง ให้ช่วยประกาศตามหาเจ้าของ และนำเข้ามาฝากไว้ “ไม่เคยคิดจะเก็บเงินไว้เอง อยากส่งคืนเจ้าของ เงินนี้ไม่ใช่ของเรา เราต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพของเรา”

หลังจากได้รับแจ้งจากแท็กซี่คนดี ทางทีมงานสถานีวิทยุสวพ.FM91 ได้ประกาศตามหาเจ้าของ ขณะเดียวกันได้ประสานงาน ไปทางสน.ปทุมวัน เจ้าของพื้นที่ด้วย จึงทราบว่ามี ชาวซาอุดีอาระเบีย เข้าไปแจ้งความลืมเงินไว้พอดี จึงได้มีการประสานงานนัดหมายส่งคืน

ด้าน นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย เจ้าของเงินเปิดเผยว่า รู้สึกปลื้มใจมาก ๆ ที่รู้ว่าจะได้เงินคืน เนื่องจากตนเองมีแล็ปทางการแพทย์ และได้เตรียมเงินมาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ในงานนิทรรศการเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ในประเทศไทย หลังจากลืมกระเป๋าไว้บนรถแท็กซี่

ได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.ปทุมวัน จากนั้นจึงเข้าพักที่โรงแรมย่านสุขุมวิท ต่อมาได้รับการติตต่อกลับว่า มีแท็กซี่เก็บกระเป๋าเงินได้ และนำมาฝากไว้ที่สวพ.FM91 เพื่อประกาศตามหาเจ้าของ “ดีใจมาก ที่รู้ว่ามีแท็กซี่คนดี เก็บของได้และพร้อมจะส่งคืน จึงขอชมเชยและขอบคุณ ตำรวจ แท็กซี่ และสวพ.FM91 ที่ประสานส่งคืนให้ ประทับใจมาก”

ทั้งนี้ เจ้าของเงินดังกล่าว ได้มอบสินน้ำใจ ให้กับแท็กซี่ จำนวน 10,000 บาท เพื่อเป็นการขอบคุณและชื่นชมในความซื่อสัตย์ของแท็กซี่คนดี

"พัชรวาท" สั่งสร้างเครือข่ายชาวต่างชาติช่วยงานอุทยานฯ ดึงตำรวจท่องเที่ยวร่วมอบรมเพื่อดูแลนักท่องเที่ยว

วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานในพิธีปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ รุ่นที่ 1 และพิธีมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยมี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ นางอภินันท์ ขอพร ผู้อำนวยการส่วนกู้ภัยอุทยานแห่งชาติ นายเพิ่มศักดิ์ คงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ร่วมด้วย และได้รับเกียรติจาก พ.ต.อ.อรรถพล สุดสาย ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการท่องเที่ยว 3 ร่วมบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ การอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว นายสรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ นายตรรก ศิริวรรณ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเครือข่ายชาวไทย และชาวต่างชาติ ได้แก่ ประเทศฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา
อิงแลนด์ เบลเยี่ยม กรีซ อินเดีย รัสเซีย ปากีสถาน แคนาดา เดนมาร์ก โคลัมเบีย และเมียนมาร์ ที่มีความพร้อมและมีความสนใจในการสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมระหว่างวันที่ 11 - 12 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ภูพาโน รีสอร์ท กระบี่ จังหวัดกระบี่

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายและสั่งการให้กรมอุทยานฯ สร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติให้เข้มแข็ง เนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติกว่า 3.7 ล้านคน เมื่อมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เกิดอุบัติเหตุหรือภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นในการตัดสินใจในการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ

อุปสรรคสำคัญที่พบมาก คือ การสื่อสาร กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ดังนั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องดังกล่าว จึงต้องสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยกรมอุทยานฯ ได้ประสานตำรวจท่องเที่ยวเพื่อยกระดับความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและบูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วน จึงได้จัดทำโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย ภาคบรรยายและภาคปฏิบัติ เกี่ยวกับการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย กฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวและนันทนาการในอุทยานแห่งชาติ การเกิดปะการังฟอกขาวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล การปฐมพยาบาลฉุกเฉินบริเวณพื้นที่ชายฝั่ง การกู้ชีพ กู้ภัย ในอุทยานแห่งชาติ การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR & AED) และการสร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ การแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์งานด้านการสร้างเครือข่ายสนับสนุนงานอุทยานแห่งชาติ โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถจากสำนักอุทยานแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ไสใหญ่) โรงพยาบาลกรุงเทพปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

‘ฝรั่ง’ ชื่นชม!! ‘น้ำใจคนไทย’ หลังลืมมือถือไว้บนแท็กซี่ ช่วยตามคืนจนเจอ พร้อมทำให้ฟรี ไม่ยอมรับสินน้ำใจ

(15 ก.ค. 67) จากเฟซบุ๊ก 'Jo Montanee' โดยคุณโจ มณฑานี ตันติสุข ดีเจ พิธีกร นักวิจารณ์ นักเขียนและวิทยากรชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

“Danthomtravel เจ้าของช่อง TikTok ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ถึงกับทำคลิปประกาศให้โลกรู้ว่าคนประเทศนี้เป็นคนดีมีศีลธรรมเพียงใด และควรนำมาเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนในประเทศตะวันตกที่เขาจากมา

คุณแดนลืมมือถือไว้ในรถแท็กซี่ คิดว่าหายแน่แล้ว แต่พี่ ๆ ที่อยู่ข้างหลังเขาเห็นเหตุการณ์เลยวิ่งรถไปตามคืนจนเจอ (น่าจะวินมอเตอร์ไซค์มั้ย?)

ที่แดนปลื้มจนต้องเอามาทำคลิปชื่นชม ก็เพราะพี่ ๆ ไม่ยอมรับสินน้ำใจที่เขามอบให้ค่ะ ไปตามให้ฟรี 

'ชาวบ้าน' โวย!! ฝรั่งเลี้ยงหมาพาเดินชายหาด-ไล่กัดผู้คน ทำท่องเที่ยววูบ วอน!! จนท.เร่งจัดการ เพราะไม่กล้าเคลียร์เอง กลัวทำหมาแล้วจะติดคุก

(19 ส.ค. 67) ที่บริเวณชายหาดบ้านสวนหลวง ตำบลพงศ์ประสาศน์ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการร้องเรียนจากนายโรฟ วีเบอร์ อายุ 76 ปี ชาวสวิตเซอร์แลนด์ พักอาศัยอยู่ที่หมู่ 1 ตำบลพงศ์ประศาสน์ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวชาวไทยและคนที่อยู่บริเวณชายหาดแห่งนี้ว่าถูกสุนัขเลี้ยงของชาวต่างชาติรายหนึ่งที่บริเวณชายหาดสวนหลวงไล่กัดได้รับบาดเจ็บ ขณะเดินออกกำลังกาย บริเวณชายหาด โดนหมาไล่กัดได้รับบาดเจ็บที่ขา อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาอย่างจริงจังกับเรื่องนี้

ทั้งนี้ นายโรฟ วีเบอร์ นักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์ และชาวบ้านได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ในคลิปเห็นฝูงสุนัขจำนวน 6 ตัว 1 ใน 6 ตัวในฝูงดังกล่าวได้ไล่กัดที่ขานายโรฟ วีเบอร์ จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนายโรฟ วีเบอร์ เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่งานอยู่ต่างประเทศ ได้เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่ชายหาดบ้านสวนหลวง ตำบลพงศ์ประสาศน์ อำเภอบางสะพาน แห่งนี้เป็นประจำทุกปี โดยจะมาครั้งละ 3 เดือน

นายโรฟ วีเบอร์ นักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า ขณะเดินออกกำลังกายชายหาด เมื่อช่วงย็นเวลา 17.00 น.ของวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ระหว่างที่เดินอยู่พบฝูงสุนัขประมาณ 6 ตัวเป็นหมาพันธุ์ไทยผสมตัวใหญ่พร้อมเจ้าของ 1 คนชื่อนายมาเทียส ไม่ทราบนามสกุล เมื่อหมาเห็นตน หมาตัว 1 ตัวได้วิ่งเข้ามากัดตนที่ขาขวา ใต้หัวเข่าลงมาจนได้รับบาดเจ็บ จึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือมาบันทึกภาพฝูงสุนัขดังกล่าวเอาไว้ ส่วนเจ้าของหมาเป็นชาวต่างชาติเช่นเดียวกันบอกว่าอย่าไปแจ้งความนะเดี๋ยวเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนค่ารักษาจะออกให้เอง

นายโรฟ วีเบอร์ ได้ฝากบอกอีกว่า ตนมาเที่ยวที่อ่าวบ้านสวนหลวงทุกปี เคยได้ยินข่าวเหตุการณ์แบบนี้ ทุกปีที่มาทำให้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลนั้นตนไม่ติดใจอะไร แต่ไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวคนอื่นอีก จึงฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูแลและแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว ซึ่งชายหาดบ้านสวนหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศและชาวไทยมากันมาก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยเลย

"ที่ผ่านมาเหตุการณ์สุนัขกัดนักท่องเที่ยวและผู้ที่มาเดินเล่นชายหาดแห่งนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับชาวต่างชาติและชาวไทยที่มาเดินออกกำลังกาย เดินเที่ยวที่ชายหาดแห่งนี้ ตัวเองซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและช่วยเหลืออย่างจริงจังเสียที เพราะรายปีที่ผ่านมายังเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวบริเวณนี้ตลอด" นายโรฟ กล่าว

ด้านนายแซ้ม มานะแท้ อายุ 74 ปี ชาวบ้านตำบลพงษ์ประสาศน์ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า มีบ้านและเปิดร้านอาหารติดอยู่กับชายทะเลอยู่แถวนี้ เจอหมาอยู่ 6 ตัวเป็นหมาพันธุ์ไทยผสมเป็นประจำ ซึ่งเป็นของของชาวต่างชาติเลี้ยงไว้ เดือดร้อนมาก บางทีเด็กนั่งเล่นมันเดินมามันก็วิ่งมากัด บางทีแมวอยู่แถวนี้มันก็วิ่งขึ้นมากัด มันกัดหลายคนแล้ว เราจะทำอย่างไรกันดีต่อไป คนจะมาเที่ยวเยี่ยมชมทะเลแต่ไม่กล้ามา พอนักท่องเที่ยวลงไปอาบน้ำมันยังวิ่งลงไปกัดนักท่องเที่ยว แล้วต่อไปคงจะไม่มีใครมาเที่ยว ร้านค้าที่อยู่ตรงนี้ถ้านักท่องเที่ยวไม่มีมามันก็ขาดรายได้

"แม่ค้าชายหาดอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีความรับผิดชอบบ้าง เรามันทำไม่ได้หรอก ถ้าเราทำ คนไปทำหมาไปก็มีโอกาสติดคุก ขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะผู้กำกับ สภ.บางสะพาน ท่านนายอำเภอด้วยให้ช่วยประชาชนด้วยครับ เพราะท่านคนมีอำนาจที่จะทำได้นายแซ้มมานะแท้กล่าว" นายแช้ม กล่าว

นส.สุนันต์ ชาติชาย อายุ 51 ปี อยู่หมู่ 1 ตำบลพงศ์ประศาสน์ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ตนมีบ้านอยู่แถวนี้เมื่อ 2-3 ปีก่อนจะมีกิจกรรมเก็บเศษไม้เศษขยะที่ลอยมาติดชายหาดเป็นประจำจะมีชาวบ้านและชาวต่างชาติช่วยกันทำกิจกรรมนี้ตลอดแต่มาช่วงปีที่แล้วและปีนี้ตนไม่กล้าลงไปเก็บแล้ว เพราะมีสุนัขของชาวต่างชาติรายหนึ่งที่ออกมาเดินชายหาดและวิ่งไล่กัดชาวบ้านเป็นประจำ จึงทำให้ไม่กล้าจัดกิจกรรมแบบนี้อีก

"เคยประสานไปกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อบต.พงศ์ประศาสน์ ทางอำเภอศูนย์ดำรงธรรม แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้รับการแก้ไขใด ๆ ทั้งสิ้น ยังปล่อยหมาออกมาเดินชายหาดจนทำให้ชาวบ้านบริเวณแห่งนี้และนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวพักรีสอร์ทไม่กล้าออกมาเดินชายหาดเพราะกลัวสุนัขวิ่งไล่กัด มีชาวต่างชาติหลายคนที่มาเที่ยวแล้วกลับไปประเทศเขาออกมาโพสต์ว่าประเทศไทยชายหาดแห่งนี้ไม่มีความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวเลยเรื่องนี้ทำความเดือดร้อนให้กลับเจ้าของรีสอร์ทและร้านอาหารที่เปิดอยู่บริเวณแห่งนี้ อยากจะฝากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง ไม่งั้นก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้แบบนี้อีกไม่รู้อีกกี่ครั้ง อยากให้ดำเนินการก่อนที่สุนัขกลุ่มนี้จะไปทำร้ายใครต่อใครอีก" น.ส.สุนันท์กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top