Monday, 9 June 2025
จีน

ฮอนดูรัส ขีดเส้น ทูตไต้หวัน ออกจาก ปท.ใน 30 วัน หลังประกาศสะบั้นสัมพันธ์หันซบอก ‘จีน’ เต็มตัว

ไต้หวันต้องย้ายออกจากสถานทูตของพวกเขาในฮอนดูรัส ภายใน 30 วัน จากคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮอนดูรัสในวันจันทร์ (27 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีซิโอมารา คาสโตร ตัดความสัมพันธ์ไทเป แล้วหันไปเข้าข้างจีน ในความพยายามดึงดูดเงินลงทุนและการจ้างงานจากยักษ์ใหญ่เอเชียแห่งนี้

(28 มี.ค.66) อันโตนิโอ การ์เซีย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อออกคำสั่งดังกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแห่งหนึ่งในวันจันทร์ (27 มี.ค.) ตามหลังคำแถลงของรัฐบาลเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ว่าพวกเขาได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับปักกิ่งอย่างเป็นทางการ พร้อมกับยุติความสัมพันธ์ที่มีมายาวนานหลายทศวรรษกับไต้หวัน

ในเวลาต่อมา ฝ่านค้ายหลักของ คาสโตร แถลงว่าพวกเขาขอสงวนไว้ซึ่งการถอนการสถาปนาความสัมพันธ์กับจีน หากพวกเขาก้าวเข้าสู่อำนาจ

จีน กล่าวอ้างมาช้านานกว่าไต้หวัน เกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และไม่มีสิทธิสานสัมพันธ์แบบรัฐกับรัฐ จุดยืนที่ไทเปปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว ทั้งนี้ จีนที่ปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์ ระบุว่าประเทศต่างๆ ที่พวกเขามีความสัมพันธ์ด้วยจำเป็นต้องยอมรับจุดยืนของพวกเขา

การ์เซีย กล่าวว่า "30 วัน เป็นเวลาที่มากพอสำหรับแพกของเก็บกระเป๋าและเดินทางออกไป" พร้อมระบุเป้าหมายของเจ้าหน้าที่คือการเดินทางออกไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นมิตร

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรายนี้ เน้นย้ำถึงความเป็นสำหรับการสานสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก "เราจำเป็นต้องไปในจุดนั้น เพื่อเสาะหาโครงการยักษ์ใหญ่ต่างๆ ที่จีนสามารถมอบให้เรา" เขากล่าว พร้อมบ่งชี้ว่าจีนจะลงทุนราว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในฮอนดูรัส ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับแรงงานท้องถิ่น

จีนจัดพิธีบูชาพระมหากษัตริย์ ไทยบั่นทอนพระมหากษัตริย์

(28 มี.ค. 66) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก 'เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค' ระบุว่า...

“ประเทศที่ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ และมีประธานาธิบดีเป็นประมุข จัดพิธีบูชาและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของจักรพรรดิหวงตี้บรรพกษัตริย์ บรรพบุรุษของชาวจีนทั้งปวง พระมหากษัตริย์ผู้ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาอารยธรรมจีนมาจนถึงทุกวันนี้”

เชงเม้งปีนี้ ตรงกับวันที่ 5 เมษายน ซึ่งทางจีนแผ่นดินใหญ่จะมีพิธีกราบไหว้บูชา ‘จักรพรรดิหวงตี้’ หรือที่เรียกในอีกชื่อว่า ‘จักรพรรดิเหลือง’ (Huangdi, the Yellow Emperor) กษัตริย์ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นบรรพกษัตริย์ บรรพบุรุษของชาวจีนทั้งปวง

พิธีจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี จัดที่สุสานจักรพรรดิหวงตี้ อำเภอหวงหลิง มณฑลส่านซี ตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ถ่ายทอดสดไปทั่วโลกและมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก

ย้อนกลับไปราว 4,600 ปี หลังจากชนะศึกใหญ่ พระเจ้าหวงตี้ขึ้นเป็นจักรพรรดิ ความก้าวหน้าต่างๆ อาทิ การเพาะปลูกพืช การเลี้ยงไหม อักษรจีน และยา ล้วนเกิดขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ ส่งเสริมการพัฒนาอารยธรรมจีนมาจนถึงทุกวันนี้

พิธีบูชาจักรพรรดิหวงตี้ประจำเทศกาลเชงเม้ง ปี 2023 จะยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพื่อให้ชาวจีนทั่วโลกจะได้มีโอกาสร่วมกันรำลึกถึงจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ 

ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ในจีน เสี่ยง!! ตกงาน หลังบริษัทเทคโนโลยี เริ่มปั้นผู้ประกาศข่าว Ai

(30 มี.ค.66) เฟซบุ๊ก 'ไทยคำจีนคำ' ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากได้เห็นข่าวในเมืองจีนมาสักระยะแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงตรงหน้า ว่า...

เมื่อเพื่อนคนจีนของแอดมิน #ไทยคำจีนคำ โทรศัพท์มาขอให้ช่วยเซตอัพทีมถ่ายทำ Green Screen หรือ “ฉากเขียว” โดยจะให้เพื่อนจีนอีกคนที่ปกติทำงานเป็นผู้ดำเนินรายการออนไลน์มาอ่านข่าว 🎬

เราก็จัดไปตามการร้องขอ ต้องการสตูดิโอ, กล้อง, ไมค์, ไฟ เราจัดให้ได้หมด

สุดท้ายมาหน้างานรู้สึกสงสัย เลยถามเพื่อน “พวกนายจะเอาวิดีโอแบบนี้ไปทำอะไร?” 🤔

ที่ถามเพราะมันเป็นการอ่านข่าวธรรมดา ๆ รวม 3 ข่าวยาว ๆ ทุกข่าวเปลี่ยนเสื้อผ้า 1 ชุด อ่านผิดก็ไม่เป็นไรแค่อ่านต่อไปให้ครบ 10 นาที พูดอะไรก็ได้ บางท่อนไม่ต่อเนื่องกันด้วยซ้ำ

สุดท้ายได้คำตอบว่า “พวกเราส่งวิดีโอนี้ไปให้บริษัทเทคโนโลยีที่เมืองจีนทำการสร้างเป็น ‘ผู้ประกาศข่าว AI’ ” 

AI หรือที่ย่อมาจาก Artificial Intelligence แปลเป็นไทยว่า “ปัญญาประดิษฐ์”

ภารกิจของเราในวันนี้แค่บันทึกภาพของการอ่านข่าว โดยเฉพาะการขยับปาก และการเคลื่อนไหวของมือเล็กน้อย เพื่อสะท้อนถึงการแสดงออกทางอารมณ์

รวมถึงบันทึกเสียง เพื่อเป็นแค่หลักยึดให้กับระบบในคอมพิวเตอร์

สุดท้ายแล้วบริษัทที่เมืองจีน ซึ่งรับเอาวิดีโอนี้ไป จะนำหน้าหล่อ ๆ ของเพื่อนคนจีนที่มานั่งอ่านข่าวในวันนี้ ไปสร้างเป็นผู้ประกาศข่าว AI

คือแค่ยืมรูปลักษณ์ภายนอก และบุคลิกภาพ โดยไม่ได้สนใจเนื้อหาที่เราบันทึกกัน

“ต่อไปคือเราแค่นำบทความ หรือเนื้อข่าวใส่เข้าไปในโปรแกรม มันจะสั่งการให้ผู้ประกาศข่าว AI อ่านตาม และแสดงอารมณ์ออกมาตามเนื้อข่าว”

หน้าตาของผู้ประกาศข่าว AI ถอดแบบมาจากคนจริง ๆ (เพื่อนจีนของแอดที่มานั่งอ่านข่าววันนี้) และการขยับปาก จะเปลี่ยนแปลงไปตามเนื้อหาหรือบทที่เราใส่เข้าไป

นั่นหมายความว่าต่อไป ไม่จำเป็นต้องให้คนจริง ๆ มาแต่งหน้า ใส่สูท และอ่านตามบทที่ปริ้นท์ออกมาในกระดาษ 🖨

แต่ใช้แค่การพิมพ์บทเข้าไปในระบบ แค่นี้ผู้ประกาศข่าว AI จัดการอ่านให้ และผู้ชมก็แค่รอดูข่าวเหมือนเดิม

“เทคโนโลยีตัวนี้เมืองจีนเริ่มใช้กันแล้ว ต่อไปคาดการณ์ว่าอาชีพผู้ประกาศข่าวที่เป็นคนจริง ๆ จะตกงานหมด”

“คนเขียนบทยังอาจจะพอมีงานทำอยู่บ้าง หรืออาจจะตกงานเหมือนกัน ต้องรอดู”

พูดง่าย ๆ คือเนื้อหายังคงมีความสำคัญ แต่ผู้ประกาศข่าวที่เดิมมีหน้าที่แค่อ่านตัวหนังสือและพูดออกมา อาจจะไม่จำเป็นอีกแล้ว

ทุกวันนี้ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ในเมืองจีนที่มีชื่อเสียง ถูกเชิญมา Copy บุคลิกและใบหน้าแบบนี้ และนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว

‘จีน-บราซิล’ บรรลุข้อตกลงการค้า ใช้สกุลเงิน ‘หยวน-เรอัล’ หวังลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ หนุนการค้าทวิภาคีมากขึ้น

เมื่อวันพุธที่ 29 มี.ค. 66 รัฐบาลบราซิล ได้ประกาศว่า จีนและบราซิลบรรลุข้อตกลงการค้า โดยใช้สกุลเงินหยวนและเงินเรอัล ในการทำธุรกรรมกันโดยตรงแทนการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินกลาง ซึ่งนับเป็นความพยายามล่าสุดของจีน ที่จะลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ในการค้าระหว่างประเทศ

ด้านสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนของบราซิล (ApexBrasil) แถลงว่า “ข้อตกลงนี้ เป็นที่คาดหวังว่าจะช่วยลดต้นทุน สนับสนุนการค้าทวิภาคียิ่งขึ้น และอำนวยความสะดวกในการลงทุน”

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้ (29 มี.ค. 66) ว่า จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของบราซิล โดยเมื่อปีที่แล้ว มีมูลค่าการค้าทวิภาคีสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.505 แสนล้านดอลลาร์

ข้อตกลงดังกล่าว เกิดขึ้นหลังเสร็จสิ้นการประชุมภาคธุรกิจระดับสูงระหว่างจีน-บราซิล ในกรุงปักกิ่ง โดยก่อนหน้านี้มีการทำความตกลงเบื้องต้นระหว่างสองประเทศเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

‘จีน’ เผย ยอดขาย ‘เครื่องใช้ภายในบ้าน’ กระฉูด พุ่งสูงถึง 2.41 ล้านล้านบาท ในปี 2022

(31 มี.ค. 66) สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่า จากศูนย์การพัฒนาอุตสาหกรรมสารสนเทศแห่งประเทศจีน สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ระบุว่า ยอดค้าปลีกออนไลน์ของเครื่องใช้ภายในบ้านของจีน ครองสัดส่วนร้อยละ 58.2 ของยอดขายทั้งหมดในปี 2022 ท่ามกลางอีคอมเมิร์ซที่เฟื่องฟูในประเทศ

ยอดจำหน่ายทางออนไลน์ของเครื่องใช้ภายในบ้านรวมอยู่ที่ 4.86 แสนล้านหยวน (ราว 2.41 ล้านล้านบาท) ในปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.24 จากปีก่อนหน้า โดยสัดส่วนคำสั่งซื้อออนไลน์ของสินค้าเครื่องใช้ในบ้านหลากหลายหมวดย่อย ทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีที่แล้ว

‘กองทัพมะกัน’ วิตก!! หลังจีน-รัสเซีย-อิหร่าน จับมือใกล้ชิดยิ่งขึ้น เผย เป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ เผชิญหน้ากับมหาอำนาจนิวเคลียร์ 2 ชาติ

(2 เม.ย. 66) พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ บอกกับสมาชิกรัฐสภาเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ว่า จีน รัสเซีย และอิหร่านจะเป็นปัญหาสำหรับอเมริกา ‘ในช่วงหลายปีข้างหน้า’ ในขณะที่ทั้ง 3 ชาติกำลังทำงานร่วมกันใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ระหว่างให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการด้านการทหารของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ร่วมกับ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหม ทาง พล.อ.มิลลีย์ เปิดเผยว่า รัสเซียและจีนกำลังร่วมมือใกล้ชิดกันมากยิ่ง

“ผมคงไม่ใช้คำว่า ‘พันธมิตรเต็มรูปแบบอย่างแท้จริง’ ในความหมายที่แท้จริงของคำนั้น แต่เรากำลังเห็นพวกเขาเคลื่อนไหวใกล้ชิดกันมากขึ้น และนั่นเป็นปัญหา และจากนั้น อิหร่านก็เป็นประเทศที่ 3 ดังนั้น ผมคิดว่า 3 ประเทศเหล่านี้รวมกัน จะกลายเป็นปัญหาสำหรับหลายขวบปีข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซียและจีน สืบเนื่องจากศักยภาพของพวกเขา” พล.อ.มิลลีย์ กล่าว

ท่ามกลางเสียงเน้นย้ำมานานหลายปีของสหรัฐฯ ว่าทั้ง 3 ประเทศได้มุ่งเน้นด้านการทหารอย่างมาก โดยเฉพาะจีนและรัสเซีย ความตึงเครียดระหว่างอเมริกากับทั้ง 3 ชาติ ได้โหมกระพือขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้

ในขณะที่สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือยูเครน ในการป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย ความตึงเครียดกับจีนได้พุ่งสูงขึ้นเมื่อไม่นานที่ผ่านมา หลังจากพบวัตถุบินต้องสงสัยว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน ล่องลอยข้ามน่านฟ้าอเมริกา ก่อนถูกเครื่องบินรบสหรัฐฯ ยิงตกนอกชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีตอบโต้พวกนักรบกลุ่มต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในซีเรีย หลังโดรนต้องสงสัยว่าเป็นของอิหร่าน ทำการโจมตีศูนย์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นฐานของบุคลากรสหรัฐฯ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สัญญาจ้างรายหนึ่งของอเมริกาเสียชีวิต และกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 5 นาย

ตามหลังปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯ พวกนักรบได้ยิงจรวดและส่งโดรนโจมตีเพิ่มเติม เล่นงานเป้าหมายต่าง ๆ ที่เป็นของอเมริกาและบุคลากรของพันธมิตรในซีเรีย

‘จีน’ พบยอดอาสา ‘บริจาคอวัยวะ’ สูงกว่า 6 ล้านคน เผย กลุ่มผู้บริจาคส่วนใหญ่ วัยหนุ่มสาว-วัยกลางคน

(3 เม.ย.66) สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี รายงานจำนวนผู้บริจาคอวัยวะที่ลงทะเบียนในจีนอยู่ที่เกือบ 6.2 ล้านคน ขณะจำนวนการปลูกถ่ายอวัยวะต่อปียังคงสูงติดอันดับสองของโลก

โหวเฟิงจง ผู้อำนวยการศูนย์บริหารการบริจาคอวัยวะแห่งประเทศจีน สังกัดสภากาชาดจีน (RCSC) ระบุว่าผู้บริจาคที่ลงทะเบียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหนุ่มสาวและกลุ่มวัยกลางคนอายุ 45 ปีและต่ำกว่า

‘นักวิจัยจีน’ พัฒนา ‘แบตเตอรี่น้ำเค็ม’ ฝังในร่างกาย ช่วยฆ่า ‘เซลล์เนื้องอก’ ควบคุมการเติบโตของโรค

(4 เม.ย.66) เมื่อวันที่ 3 เม.ย.66 สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่า คณะนักวิจัยจีนพัฒนาแบตเตอรี่น้ำเค็มแบบฝังและชาร์จพลังงานได้เอง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยฆ่าเซลล์เนื้องอกด้วยการควบคุมสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเติบโตของเนื้องอก

การศึกษาฉบับดังกล่าวเผยแพร่ในวารสารไซแอนซ์ แอดวานซ์ (Science Advances) เมื่อไม่นานมานี้ โดยอธิบายว่าแบตเตอรีชนิดนี้จะลดปริมาณเนื้องอกเฉลี่ยร้อยละ 90 ในช่วงสองสัปดาห์ และกำจัดเนื้องอกในหนู 4 ตัวจาก 5 ตัว หากใช้ร่วมกับสารประกอบผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรมที่เรียกว่าทิราปาซามีน (tirapazamine)

ทีมงานจากมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นได้แรงบันดาลใจจากปฏิกิริยารีดอกซ์ของขั้วไฟฟ้าในแบตเตอรี่ โดยพวกเขาออกแบบอุปกรณ์แบบฝัง ซึ่งประกอบด้วยโพลีอิไมด์ที่มีส่วนประกอบเป็นคาร์บอนิลและโลหะสังกะสีที่เข้ากันได้ทางชีวภาพ

แบตเตอรี่ดังกล่าวสามารถสร้างวงจรการคายประจุและการชาร์จตัวเองเพื่อใช้งานออกซิเจนในเนื้องอกของหนู ซึ่งจะควบคุมปริมาณออกซิเจนและระดับความเป็นกรด-ด่างหรือค่าพีเอช (pH) ของเนื้องอก

การศึกษาเผยว่าแบตเตอรี่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการฆ่าเนื้องอกของทิราปาซามีนในการฆ่าเซลล์เนื้องอกในหนู โดยทิราปาซามีนจะใช้ประโยชน์จากสภาวะการลดลงของออกซิเจน (oxygen-depleted) ของเนื้องอกเพื่อเลือกฆ่าเซลล์ที่ขาดออกซิเจน พร้อมเสริมว่าแบตเตอรี่น้ำเกลือมีความสามารถการปรับเปลี่ยนรูปดี จึงสามารถฝังเข้าชั้นใต้ผิวหนังบนผิวเนื้องอกและครอบคลุมพื้นผิวเนื้องอกอย่างเหมาะสม

‘ซีอาร์อาร์ซีฯ’ มุ่งพัฒนา ‘รถไฟแมกเลฟ’ ที่มีความเร็ว 600 กม./ชม.  ล่าสุดมีการ ‘ทดสอบระบบลอยตัวฯ’ เป็นครั้งแรกแล้ว

(5 เม.ย.66) เมื่อวันที่ 4 เม.ย.66 สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด ในมณฑลจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน รายงานการทดสอบระบบลอยตัวด้วยพลังงานไฟฟ้าสภาพนำยวดยิ่งอุณหภูมิสูงครั้งแรกของรถไฟแมกเลฟที่จีนพัฒนาเอง ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ระบบข้างต้นประกอบด้วยระบบย่อยของรถไฟ ราง แหล่งจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อน และการสื่อสารปฏิบัติการ สามารถประยุกต์ใช้กับท่อสุญญากาศระดับต่ำ ความเร็วสูง และความเร็วสูงพิเศษ โดยระบบนี้อาจเป็นตัวเลือกสำคัญของการขนส่งอันรวดเร็วระหว่างเมืองใหญ่และเขตเศรษฐกิจพัฒนาแล้วในอนาคต

‘จีน’ เปิดปฏิบัติการทางทหาร 3 วันรอบไต้หวัน ลั่น!! เป็นการเตือน  ล่าสุด ไต้หวันตรวจพบเรือรบจีน 8 ลำ-เครื่องบิน 42 ลำ

จีนเปิดฉากการฝึกซ้อมทางทหารในช่องแคบไต้หวันเป็นเวลา 3 วัน ย้ำเป็นการเตือนอย่างจริงจังต่อรัฐบาลไต้หวัน หลังจากปธน."ไช่ อิงเหวิน"พบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ล่าสุดพบจีนส่งเรือรบ 8 ลำ เครื่องบินรบ 42 ลำล้อมเกาะไต้หวันแล้ว

(8 เม.ย.66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพภาคตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนหรือพีแอลเอ (PLA) แถลงว่า การฝึกซ้อมทางทหารที่มีชื่อว่ายูไนเต็ดชาร์ปซอร์ด (United Sharp Sword) จะดำเนินไปตั้งแต่วันนี้จนถึงวันจันทร์

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างโฆษกพีแอลเอว่า การฝึกซ้อมทางทหารจะเกิดขึ้นทั้งในน่านน้ำและน่านฟ้าของช่องแคบไต้หวัน นอกชายฝั่งทางเหนือและทางใต้ของไต้หวัน และทางตะวันออกของไต้หวัน เพื่อเป็นการเตือนอย่างจริงจังต่อการที่กองกำลังแยกดินแดนหาทางแยกไต้หวันเป็นเอกราชคบคิดกับกองกำลังต่างชาติ และการดำเนินกิจกรรมยั่วยุ การฝึกซ้อมนี้จำเป็นต่อการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนแห่งชาติของจีน ด้านหน่วยงานทางทะเลของมณฑลฝูเจี้ยนที่อยู่ตรงข้ามกับไต้หวันแจ้งว่า จะมีการฝึกซ้อมทางทหารด้วยกระสุนจริงในน่านน้ำนอกชายฝั่งในวันจันทร์ ขอให้เรือต่าง ๆ หลีกเลี่ยง

ขณะเดียวกันกระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า ตรวจพบเรือรบของจีน 8 ลำ เครื่องบินขับไล่ของจีน 42 ลำ อยู่รอบไต้หวันในช่วงก่อนเที่ยงของวันนี้ หลังจากจีนประกาศฝึกซ้อมทางทหารรอบไต้หวันเป็นเวลา 3 วัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top