Sunday, 8 June 2025
Y WORLD

สสวท. ประกาศรายชื่อนักเรียนที่ได้รับทุน พสวท. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ประกาศผลการคัดเลือกผู้ได้รับทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ทุน พสวท.) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564

https://drive.google.com/file/d/1e3o1NdaVjH4z9-dby5bP_UR-Uk1x5bHP/view?fbclid=IwAR1jXhaHOQPmrOzqwoTcVQ_coSjS3G5GtUkuMV0jglxtCmjy1Fb34jwyN0I
 

สทศ. ประกาศคะแนน O-NET ม.6 ปีการศึกษา 2563 แล้ว

สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. ประกาศผลคะแนน O-NET ม.6 ปีการศึกษา 2563 (#dek64) แล้ว

เข้าระบบสอบถามคะแนน O-NET รายบุคคล ที่

https://bit.ly/3aENH7v

- ปีการศึกษา เลือก 2563

- ระดับชั้น เลือก ม.6

- กรอกเลขประจำตัวประชาชน

คุณพ่ออ๊อด และน้องน้ำฟ้า คุณพ่อผู้สนับสนุนลูก ให้โดดเด่นตามศักยภาพที่แท้จริง | Click on Clever EP.12

พ่อและแม่คือครูคนแรกของลูก การเรียนรู้ศักยภาพที่แท้จริงของลูก เพื่อสนับสนุนเขาให้โดดเด่นในแบบฉบับของเขา คือสิ่งสำคัญสำหรับพ่อแม่

.

.

คติประจำใจจาก "Jim Henson" (นักเชิดหุ่นและผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน)

"Kids don’t remember what you try to teach them. They remember what you are."

"เด็กไม่จำว่าคุณสอนอะไรหรอก เค้าจำในสิ่งที่คุณเป็นอยู่"


- Jim Henson (นักเชิดหุ่นและผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน)

‘โรวัน แอตคินสัน’ หรือ มิสเตอร์บีน ซุปตาร์ตลกชื่อดังของฮอลลีวูด เห็นคาแรคเตอร์ตลก ๆ แต่ใครจะรู้ว่า นอกจากผลงานการแสดงที่สร้างชื่อแล้ว โปรไฟล์ด้านการศึกษาของเขาก็ไม่ธรรมดา!!

โรวัน แอตคินสัน ซุปตาร์ตลกชื่อดังของฮอลลีวูด หลาย ๆ คนรู้จักเขาจากบทบาทการแสดงเป็น มิสเตอร์บีน ตัวละครที่มีเอกลักษณ์เปิ่น ๆ ฮา ๆ เขาเป็นตลกที่มีคุณภาพมาก ๆ คนหนึ่ง ทั้งในด้านคุณภาพฝีมือการแสดงการสร้างความบันเทิง

โดยได้รับการจัดอันดับจากหนังสือพิมพ์ดิออบเซิร์ฟเวอร์ให้เป็น 1 ใน 50 นักแสดงตลกของอังกฤษที่ตลกที่สุด และเป็นนักแสดงตลกชั้นนำ 50 คนแรกในปี 2005 จากผลการสำรวจความเห็นของผู้ที่ชมรายการตลก

นอกจากเป็นนักแสดงตลก เขายังเป็นนักเขียนบทละครที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งของอังกฤษ ผลงานการเขียนของเขา เช่น ซีรีส์ Not The Nine O’Clock News เป็นการเขียบทตลกแนวเสียดสี

ยิ่งไปกว่านั้นตัวตนจริง ๆ ของเขาในด้านการศึกษา มีโปรไฟล์ที่ดีเยี่ยมมาก ๆ เพราะติดคาแรคเตอร์ตลก ๆ และเห็นแต่ผลงานการแสดง หลาย ๆ คนอาจจะไม่ทราบว่าเขาเลือกเรียนเกี่ยวกับวิศวกรรม ดีกรีไม่ธรรมดา เพราะจบปริญญาโทสาขา วิศวกรรมไฟฟ้า (MSc in Electrical Engineering) จาก The Queen’s College ของมหาวิทยาลัย Oxford เป็นมหาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และคณะวิศวกรรมที่แอตคินสันเลือกเรียนนั้นเป็นหนึ่งในคณะที่เรียนยาก แสดงว่าเขาต้องเป็นคนที่เก่งคณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ มาก ๆ


ที่มา: https://campus.campus-star.com/variety/109578.html

ลูกเรียนรู้ช้า ไม่ใช่แค่ความขี้เกียจ แต่อาจมีสาเหตุมาจากความบกพร่องทางด้านสมอง แนะเทคนิคพ่อแม่ ส่งเสริมเด็กที่เรียนรู้ช้า

บางครั้งที่ลูกสอบได้รั้งท้ายของห้อง เรียนไม่ทันเพื่อน อ่านหนังสือไม่เข้าใจ พ่อแม่อาจมีความคิดว่าลูกขี้เกียจ ไม่ตั้งใจเรียน แต่สาเหตุของสิ่งเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดจากความขี้เกียจเสมอไป แต่เกิดจากความบกพร่องทางด้านสมอง

ครูแนน เจ้าของเพจ ครูแนนนักกิจกรรมบำบัด เล่าว่า ลูกเรียนรู้ช้า เกิดได้จาก 3 ปัจจัย 

1.) ความบกพร่องทางสติปัญญา (Intellectual Disabilities) หรือไอคิวต่ำ 

• ไอคิวต่ำ คือ ระดับไอคิวที่ต่ำกว่า 70 จัดได้ว่ามีสติปัญญาบกพร่อง
ครูแนนเล่าว่า เด็กที่มีไอคิวช่วงนี้จะแสดงให้เห็นชัดเจน พ่อแม่จึงไม่ค่อยกังวลเพราะทำใจไว้แล้ว

• ไอคิวระดับ 80 – 89 จัดได้ว่า ปัญญาทึบ
เป็นช่วงที่พ่อแม่มีความกังวลสูง เพราะจะอยู่ก้ำกึ่ง เด็กที่มีไอคิวระดับนี้ อยู่ในโรงเรียนปกติ แต่อาจสอบได้รั้งท้ายของห้อง หากผู้ปกครองทราบเร็วก็สามารถทำให้ดีขึ้นได้ ผ่านคำแนะนำของคุณหมอหรือการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอ

• ไอคิวปกติ อยู่ที่ระดับ 90 – 109 

• ไอคิว 130 ขึ้นไป จัดได้ว่า อัจฉริยะ

2.) ภาวะการเรียนรู้บกพร่อง (Learning Disabilities) เกี่ยวกับการทำงานของสมอง โดยส่วนใหญ่จะพบในเด็กชาย แบ่งได้เป็น 

• บกพร่องทางด้านการอ่าน โดยเป็นด้านที่พบได้มากที่สุด เด็กที่เป็น LD จะบอกว่า เหมือนเห็นตัวอักษรเคลื่อนไหวตลอด ซึ่งนักวิทยาศาตร์พยายามศึกษาถึงสาเหตุ เผยว่า สมองในช่วงขมับเชื่มโยงกับด้านข้าง ที่ทำงานเกี่ยวกับภาษาอย่างซับซ้อน เกิดความบกพร่อง ทำให้เกิดความยากลำบากในการอ่าน  

• บกพร่องทางด้านการเขียน ไม่ใช่เฉพาะเขียนไม่ดีเพียงอย่างเดียว เด็กที่มีปัญหาด้านนี้จะมีปัญหาเกี่ยวกับการรับรู้ทางด้านสายตา คือ มองแล้วเห็นสลับไปสลับมา เช่นเห็น ด เด็ก เป็น ค ควาย 

• บกพร่องทางด้านการคำนวณ เช่น สามารถบวกลบคูณหารได้ แต่คิดโจทย์ปัญหาไม่ได้

3.) พัฒนาการช้ารอบด้าน (Global Developmental Delay) เด็กบางคนมีการพัฒนาช้า เช่น ยังไม่นั่ง ยังไม่ยืน ยังไม่ยังไม่คลาน ยังไม่เดิน โดยอาจจะมีพัฒนาการช้าด้านอื่นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา ไอคิว จึงเรียกว่า พัฒนาการช้ารอบด้าน 

หาจุดอ่อนและจุดแข็ง
เด็กที่เรียนรู้ช้า พ่อแม่ต้องทำการหาทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของลูก วิเคราะห์แบบเฉพาะเจาะจง เพื่อป็นเป้าหมายในการส่งเสริมความมั่นใจของเด็ก พ่อแม่ต้องเข้าไปช่วย ตั้งเป้าจากเล็กไปหาใหญ่ โดยพยายามหาจุดแข็งให้ได้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเรื่องเรียน แต่เน้นไปที่ความพยายาม ครูแนนเล่าว่า เด็กที่มีความต้องการพิเศษนั้น รู้ว่าพ่อแม่หวังดี และต้องการอะไรจากเขา แต่พวกเขาเองก็ต้องการการเข้าใจ และกำลังใจจากพ่อแม่เช่นกัน

ตั้งเป้าหมาย สร้างความมั่นใจให้เด็กที่เรียนรู้ช้า
1.) ฟังมากกว่าพูด ยอมให้เขาพูดระบายความรู้สึก รับฟังโดยไม่ตัดสิน
2.) เน้นในสิ่งที่พวกเขาทำได้ และไม่ตำหนิในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ อะไรที่เขาผิดพลาดให้ชวนคิด แต่ไม่ตำหนิ
3.) ชมในความพยายามมากกว่าชมในเรื่องของผลลัพธ์

เทคนิคในการส่งเสริมเด็กที่เรียนรู้ช้า 
1.) ให้แรงเสริมที่เฉพาะเจาะจงในเรื่องของความพยายามของเขา
2.) พูดสั้น ๆ กระชับ แล้วให้เขาทวนกลับ
3.) จัดตารางเช็คลิสต์หรือตารางชีวิตประจำวันให้ชัดเจน
4.) สร้างสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวและเพื่อน 
5.) ทำกิจกรรมร่วมกับที่บ้านให้เยอะ 


สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก
หัวข้อ : ลูกเรียนรู้ช้าพ่อแม่ยังไงดี
Link : https://www.facebook.com/watch/live/?v=3699317736772086&ref=watch_permalink

เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย : ภารวี สุภามาลา

คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตรอักษรศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรม BALAC

คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตรอักษรศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรม BALAC (The BA Program in Language and Culture) คณะอักษรศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2564 (รอบ admission)

????????????ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องยืนยันสิทธิ์โดยกรอกแบบฟอร์ม Google (ซึ่งจะส่งทางอีเมล) ภายในวันที่ 26 เมษายน 2564 ก่อน 12.00 น.

????????????หากผู้สมัครไม่ดำเนินการตามเวลาที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
????????????????????
https://www.arts.chula.ac.th/~balac/v2020/index.php/2021/04/23/list-of-successful-applicants-for-entry-into-the-bachelor-of-arts-in-language-and-culture-international-program-faculty-of-arts-for-the-2021-academic-year-admission-round/


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3813660668682426&id=230198280362034&sfnsn=mo
 

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ประกาศ การรับสมัครนักเรียนชั้น ม.4 EPTS ปีการศึกษา 2564

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน กำหนดรับบุคคลทั่วไปเข้าศึกษาต่อในระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 โครงการนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษภาคภาษาอังกฤษ (EPTS) ประจำปีการศึกษา 2564 ดังนี้

คุณสมบัติผู้สมัคร
1. เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2563 (โดยได้รับอนุมัติผล การจบการศึกษาก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564) 
2. เป็นผู้มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษระดับดี (ทั้งนี้ต้องเข้ารับการทดสอบภาษาอังกฤษ และผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่โรงเรียนกำหนด) 
3. เป็นผู้มีความประพฤติดี ไม่มีประวัติเสื่อมเสียหรือการถูกตัดคะแนนด้านความประพฤติ จากสถานศึกษาเดิม 
4. เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวหรือโรคติดต่อร้ายแรงที่ขัดต่อการศึกษาใน สถานศึกษา 

จำนวนนักเรียนที่รับ ประมาณ 15 คน ประกอบด้วย 
แผนการเรียนที่ 1 คณิตศาสตร์ - วิทยาศาสตร์ 
แผนการเรียนที่ 2 คณิตศาสตร์- ภาษาอังกฤษ 
แผนการเรียนที่ 3 ภาษาต่างประเทศ

กำหนดการรับสมัคร 
วันพฤหัสบดีที่ 22 - วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2564 
กรอกข้อมูลการสมัครระบบออนไลน์ทาง www.satitpatumwan.ac.th พร้อม ชำระเงินค่าสมัครสอบ 1,000 บาท โดยพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงิน (ใบ pay-in) แล้วนำไปชำระเงินผ่านเคาท์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 
*การชำระเงิน pay-in ค่าสมัครผ่านธนาคารกรุงไทยต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อน วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ.2564 เวลา 19.00 น. ถึงจะถือว่าการสมัครครบถ้วน สมบูรณ์ และเมื่อการสมัครและชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะไม่มีการคืนเงินค่าสมัครไม่ ว่ากรณีใดๆ *

การตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบและพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ 
ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน - วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

กำหนดการสอบคัดเลือก 
วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 
08.30 – 10.00 น. ภาษาอังกฤษ (สอบทุกแผนการเรียน) 
10.30 – 12.00 น. คณิตศาสตร์ (สอบเฉพาะแผนการเรียนที่ 1 และ 2) 
13.00 – 14.30 น. วิทยาศาสตร์ (สอบเฉพาะแผนการเรียนที่ 1)

ประกาศผลการสอบคัดเลือก 
วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15.00 น. 
*การตัดสินผลการสอบคัดเลือก และการพิจารณารับเข้าเรียนถือการพิจารณาของ คณะกรรมการของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เป็นที่สิ้นสุด*

ดาวน์โหลดเอกสารการมอบตัว ใบ pay – in และชำระเงินผ่านธนาคารกรุงไทย 
วันจันทร์ที่ 10 – วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

มอบตัวเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2564 
วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมอาคารสาธิตปทุมวัน 4

อ่านประกาศฉบับเต็ม ประกาศรับสมัคร-ม.4-ปีการศึกษา-2564.pdf
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์โรงเรียน www.satitpatumwan.ac.th
 

ข่าวดี! ธนาคารไทยพาณิชย์ มอบทุนเต็มจำนวน ตลอดหลักสูตร

ทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศ ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Data, Tech and STEM) โดยธนาคารไทยพาณิชย์จะให้การสนับสนุนทุนการศึกษา 100% ตลอดหลักสูตร

1. ระยะเวลาการรับสมัครทุนฯ
ช่วงรับสมัครทุนฯ รวมไปถึงช่วงของการสอบสัมภาษณ์ จะจัดขึ้นในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม เพื่อไปศึกษาต่อในต่างประเทศของปีนั้นๆ

เปิดรับสมัคร: วันนี้ - 30 เมษายน 2564
สัมภาษณ์: พฤษภาคม 2564
ประกาศผล: มิถุนายน 2564

2. คุณสมบัติของผู้สมัครรับทุนฯ
- อายุไม่เกิน 22 ปี นับถึงวันที่สมัครขอรับทุน
- ผลการศึกษาที่ผ่านมา อยู่ในระดับดี
- มีความประสงค์ที่จะสมัครเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศในสาขาวิชาที่ธนาคารกำหนด

3. ขั้นตอนและวิธีการสมัครขอรับทุนฯ
- ผ่านขั้นตอนการสมัครโดยมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ธนาคารฯ กำหนด
- ผ่านการทดสอบ Online Test ตามที่ทางธนาคารฯ กำหนด
- ผ่านการสอบสัมภาษณ์จากคณะกรรมการ
- เกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินผู้มิสิทธิ์ได้รับทุนฯ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดใดยคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาและผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด

4. วงเงินอนุมัติทุนการศึกษา
- ธนาคารให้ทุนการศึกษาค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตร 100%
- ธนาคารรับผิดชอบค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อการศึกษา
- ผู้ได้รับทุนจะได้รับเบี้ยเลี้ยงตามอัตราที่ธนาคารฯ กำหนดตลอดช่วงที่กำลังศึกษาอยู่

5. เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการสมัครขอรับทุนการศึกษา
- ใบสมัครขอรับทุนฯ
- หนังสือรับรองผู้สมัครขอทุนฯ (Reference Letter)
- สำเนาใบแสดงผลการศึกษาระดับชั้นล่าสุด จำนวน 1 ชุด
- เอกสารรายละเอียดค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรจากทางสถาบันฯ
- เอกสารใบตอบรับจากทางสถาบันฯ
- สำเนาหลักฐานแสดงผลคะแนน TOEFL และ GMAT (ถ้ามี)
.
สมัครและรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
https://careers.scb.co.th/th/special-program/detail/scb-young-tech-scholarship/
 

รวมแหล่งทุนการศึกษาจากหน่วยงานในประเทศไทย ทุนการศึกษาต่างประเทศ ทุนการศึกษาโครงการพิเศษ และทุนการศึกษาจากสถานศึกษา

เว็บรวมทุนการศึกษาต่างประเทศ

เว็บไซต์เหล่านี้เป็นเว็บรวมทุนเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งทุนระดับมัธยม ทุนปริญญาตรี ทุนปริญญาโท ทุนปริญญาเอก ทุนระยะสั้นและทุนแลกเปลี่ยน ทุนเรียนภาษา และทุนวิจัยอบรม

 

•WeGoInter (https://www.wegointer.com/)

•Hotcourses Thailand (https://www.hotcourses.in.th/study/international-scholarships.html)

•Scholarship.in.th (https://www.scholarship.in.th/)

•Inter Scholarship (http://th.interscholarship.com/)

•Scholarships for Development (https://www.scholars4dev.com/)

•Dek-D (https://www.dek-d.com/studyabroad/scholarship/)

•Educatepark (https://www.educatepark.com/ทุนการศึกษา)

•สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สป.ศธ. (https://www.bic.moe.go.th/index.php/news-scholar-menu)

•InternationalScholarships (https://www.internationalscholarships.com/)

•Scholarship Lab (https://www.scholarshipslab.com/)

 

ทุนการศึกษาจากหน่วยงานในประเทศไทย

•ทุนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.)

มีทุนการศึกษาสำหรับประชาชนทั่วไปอยู่หลากหลายประเภทด้วยกัน ซึ่งเยาวชนสามารถติดตามข่าวรับสมัครได้ ตัวอย่างทุนจากสำนักงาน ก.พ. เช่น ทุนในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทุนสำหรับผู้กำลังศึกษาระดับมัธยมศึกษา (ทุนศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป) ทุนรัฐบาลเพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพสูง (ทุน UIS) (ทุนศึกษาระดับ ปริญญาตรี ปีสุดท้าย และปริญญาโท) และ ทุนบุคคลทั่วไประดับปริญญา (ทุนศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป)

เว็บไซต์: https://www.ocsc.go.th/scholarship/personal

 

•ทุนสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

สวทช. มีการให้ทุนการศึกษาเพื่อส่งเสริมการแสดงออกถึงความสามารถ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพด้านการทำวิจัย และการสร้างผลงานผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชน (JSTP) โครงการสร้างปัญญาวิทย์ผลิตนักเทคโน (YSTP) ทุนระดับปริญญาโท (TAIST-Tokyo Tech) โครงการทุนสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย (TGIST) โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อการวิจัยและพัฒนาสำหรับภาคอุตสาหกรรม (NUI-RC) และโครงการทุนนักวิจัยหลังปริญญาเอก (Postdoctoral Fellowship Program)

เว็บไซต์: http://www.nstda.or.th/th/scholarship-in-nstda

 

•ทุนมูลนิธิยุวพัฒน์

เป็นทุนสำหรับนักเรียนฐานะยากจนที่กำลังเรียนอยู่มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 (เฉพาะนักเรียนในโรงเรียนเครือข่ายโครงการร้อยพลังการศึกษาเท่านั้น) หรือ มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 (นักเรียนที่เลือกเรียนต่อสายอาชีพเท่านั้น) โดยนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกเป็นนักเรียนของมูลนิธิยุวพัฒน์ จะได้รับทุนการศึกษาจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือ ปวช. 3

เว็บไซต์: https://www.yuvabadhanafoundation.org/th/join/

 

•ทุนมูลนิธิจรูญเอื้อชูเกียรติ

ทุนการศึกษาของมูลนิธิจรูญเอื้อชูเกียรติครอบคลุมการศึกษาสายสามัญในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายถึงอุดมศึกษา (ปริญญาตรี) และการศึกษาสายวิชาชีพ ได้แก่ระดับ ปวช. และ ปวส. โดยทุนนี้เป็นทุนฟรีไม่มีเงื่อนไขคุณสมบัติทั่วไปของผู้รับทุนคือ เป็นผู้มีภูมิลำเนาอยู่นอกกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีผลการเรียนดีตามเกณฑ์ที่มูลนิธิฯ กำหนด และสถาบันที่ผู้รับทุนต้องการเข้าศึกษาเป็นสถาบันของรัฐ

เว็บไซต์: https://www.cefoundation.or.th/node/10

 

•โครงการทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนและบางส่วน Kansinee Scholarship

กองทุน Kansinee Scholarship มีวัตถุประสงค์จัดสอบแข่งขันชิงทุนการศึกษาโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพื่อให้นักเรียนที่มีผลการเรียนที่ดีและโดดเด่นได้มีโอกาสได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นระยะเวลา 1 ปีการศึกษา

เว็บไซต์: https://www.engenius.co.th

 

ทุนจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทย

นอกจากเว็บไซต์รวมทุนการศึกษาหลาย ๆ แหล่งที่ได้กล่าวถึงด้านบนแล้ว หลายมหาวิทยาลัยในประเทศไทยก็ยังมีการให้ทุนการศึกษาของมหาลัยวิทยาลัยของตัวเองด้วย อาทิ

 

•ทุนการศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร

มีทุนการศึกษาบุคคลที่มีความสามารถทางศิลปะการแสดง ดนตรี และกีฬาดีเด่น ทั้งทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยเองและองค์กรภายนอก

เว็บไซต์: https://www.rmutp.ac.th/ทุนการศึกษา

 

•ทุนของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

มีทุนสำหรับนักศึกษาใหม่ประเภททุนเรียนดี ทุนความสามารถพิเศษด้านวิชาการ และทุนเสริมโอกาส

เว็บไซต์: https://www.dpu.ac.th/bachelor-foundations.html

 

•ทุนการศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

มีทุนการศึกษาทั้งจากมหาวิทยาลัยและจากองค์กรภายนอก แบ่งเป็นทุนอุดหนุนการศึกษา ทุนรางวัลเรียนดี ทุนสร้างชื่อเสียง และทำคุณประโยชน์ ทุนอุดหนุนการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และทุนอุดหนุนการวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา

เว็บไซต์: https://www.chula.ac.th/admissions/scholarships/

 

•ทุนการศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

มีทุนการศึกษาทั้งก่อนเข้าศึกษาและขณะศึกษา โดยมีทั้งทุนระดับปริญญาตรี และระดับบัณฑิตศึกษา โดยลักษณะของทุนมีทั้งทุนให้เปล่า ทุนจ้างงานนักศึกษา ทุนจ้างงานผู้ช่วยวิจัยและผู้ช่วยสอน

เว็บไซต์: http://admission.kmutt.ac.th/afford

 

•ทุนการศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต

มีทุนการศึกษากว่า 500 ทุน มอบให้แก่ผู้มีความสามารถพิเศษทางด้านกีฬา ดนตรี ศิลปวัฒนธรรม ศิลปิน สิ่งประดิษฐ์ และนิเทศศาสตร์

เว็บไซต์: https://www2.rsu.ac.th/info/scholarships

 

•ทุนการศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

มีทุนหลายประเภท ทั้งทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ทุนส่งเสริมการศึกษา ทุนภายนอกจากบุคคล/บริษัท ทุนสงเคราะห์จ้างนักศึกษาทำงาน ทุนรางวัล/บทความ นอกจากนี้ยังมีทุนการศึกษาของแต่ละคณะที่มอบให้แก่นักศึกษาในคณะนั้น ๆ อีกด้วย

เว็บไซต์: http://satu.colorpack.net/index.php/th/student-services/scholarships2

 

•ทุนมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

มีทั้งทุนการศึกษาที่มอบให้กับนักเรียนระดับมัธยมทั่วประเทศ และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีโครงการต่าง ๆ เพื่อค้นหาผู้รับทุนที่มีความสามารถในด้านนั้น ๆ เช่น ด้านกีฬา ด้านภาษา ด้านวิชาการ เป็นต้น

เว็บไซต์: https://www.bu.ac.th/th/curriculum/bachelors-degree/scholarships

 

•ทุนการศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล

มีแหล่งทุนสนับสนุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ทั้งทุนจากภายในมหาวิทยาลัย และทุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

เว็บไซต์: https://mahidol.ac.th/th/new-current-student/scholarship/

 

•ทุนการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่

มีทุนการศึกษาส่วนกลางที่เจ้าของทุนไม่ได้ระบุให้นักศึกษาคณะใดคณะหนึ่งโดยเฉพาะ มีจำนวนปีละประมาณ 600 ทุน และทุนการศึกษาคณะ ซึ่งเป็นทุนการศึกษาที่เจ้าของทุนระบุคณะของนักศึกษาที่ต้องการจะให้ทุนการศึกษา มีจำนวนปีละประมาณ 1,500 ทุน นอกจากนี้ยังมีทุนให้กับการเตรียมความพร้อมเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกด้วย

เว็บไซต์: https://www.cmu.ac.th/th/content/D7ABB770-4C2B-41EE-825E-720939F6DFD4

.

•ทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีปทุม (กทม.)

มีทุนการศึกษาหลายประเภท เช่น ทุนบุตรครู ทุนความสามารถพิเศษด้านกีฬาและ ศิลปวัฒนธรรม มีทั้งทุนบางส่วน 50% และ 100%

เว็บไซต์: https://www.spu.ac.th/scholarship/


ขอบคุณข้อมูล: https://www.unicef.org/thailand/th/stories/แหล่งทุนการศึกษาสำหรับวัยรุ่นและเยาวชน

แผลเป็นที่คาดว่าการระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบที่ยาวนานและอาจถาวร คือแผลเป็นด้านการศึกษา โดยสามารถมองเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย ไปพร้อม ๆ กัน

หมายเหตุ – ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอแนะการรับมือสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนในระบบการศึกษาหัวข้อ การจัดการ “แผลเป็นด้านการศึกษา” จากโควิด-19 เพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

มีการกล่าวกันมากว่าการระบาดของโควิด-19 จะก่อให้เกิด “แผลเป็น” ด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการตอกย้ำแนวโน้มการตกงานของกลุ่มแรงงานที่ก้าวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก (ซึ่งสำหรับประเทศไทยอาจมีเกือบประมาณ 40% ของแรงงานทั้งหมด) ผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง เช่น ครอบครัวที่มีคนแก่ คนพิการ เด็กเล็ก ยากจน ถูกผลกระทบแรงกว่ากลุ่มอื่นและมีต้นทุนในการปรับตัวเพื่อรับแรงกระแทกน้อยกว่า จนทำให้ฐานะทางเศรษฐกิจและต้นทุนสังคมถูกกัดกร่อนและร่อยหรอจนอาจยากจะฟื้นตัว แต่ละแผลเป็นมีเรื่องให้ต้องขบคิดกันมากว่าจะทำอย่างไรในการป้องกันหรือให้ความช่วยเหลือคนเหล่านั้นได้บ้าง

อีกหนึ่งแผลเป็นที่คาดว่าการระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบที่ยาวนานและอาจถาวร คือแผลเป็นด้านการศึกษา โดยจะมองเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสไปพร้อม ๆ กัน

ความท้าทายมีหลายประการ อย่างที่ทราบกันดีว่าการปิดโรงเรียนและการเรียนออนไลน์ในช่วงที่มีการระบาดก่อให้เกิดผลกระทบต่อนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ อย่างมาก นักเรียนจำนวนมากเรียนรู้จากการเรียนออนไลน์ได้อย่างจำกัดมาก ไม่ว่าจะเป็นเพราะขาดอุปกรณ์ ขาดสัญญาณอินเตอร์เน็ต ขาดผู้ปกครองที่มีเวลาช่วยแนะนำและกำกับการเรียน ขาดสมาธิ

ปัญหาเหล่านี้ยิ่งหนักขึ้นถ้าเป็นนักเรียนยากจน ซึ่งอาจมีเรื่องอื่นเพิ่มเติม เช่น ช่วงเรียนออนไลน์ไม่อยากเปิดวิดีโอเพราะอายสภาพบ้าน ทำให้ปฏิสัมพันธ์ยิ่งน้อยลง และถ้าเด็กยิ่งอายุน้อยก็ยิ่งมีโอกาสเรียนรู้ได้น้อย (มีงานวิจัยหนึ่งระบุว่าเด็กอนุบาล 3 ของไทยเรียนรู้น้อยลงคิดเป็นประมาณ 4-5 เดือน) ผู้ปกครองเองก็จัดเวลายาก เพราะต้องทำงานไปด้วย ดูแลลูกหลานที่เรียนที่บ้านไปด้วย ครูเองก็ต้องปรับตัวมากในการสอนออนไลน์ บางคนปรับตัวไม่ได้ก็ทำให้ประสิทธิภาพการสอนหย่อนลง

แนวทางการลดผลกระทบก็มีการพูดถึงกันบ้างแล้วไม่ว่าการสลับวันเรียน การลดขนาดห้อง การปรับหลักสูตร นอกจากนี้ ยังมีแนวทางอื่นที่มีการทำในต่างประเทศ เช่น ประเทศอังกฤษมีการตั้งกองทุนชื่อว่า Education catch-up initiatives เพื่อช่วยสอนเสริมและฟื้นฟูความรู้ให้กับนักเรียนที่เรียนรู้น้อยลงในช่วงออนไลน์ ในอเมริกามีโครงการคล้ายกันคือ Acceleration Academies, High Intensity Tutoring หรือมีการคิดค้นกระบวนการเรียนรู้ที่ง่าย ๆ ใช้อุปกรณ์ใกล้ตัวในชุมชน เช่น ในประเทศอินเดียเป็นต้น

ดังนั้น จะขอเน้นเรื่องการแปลงวิกฤตให้เป็นโอกาส ซึ่งก็สามารถทำได้หลายประการ กล่าวคือ

ประการแรก ควรใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดจากกระแสดิจิทัลในกระบวนการเรียนรู้ (digital learning) ที่ถูกบังคับให้เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เช่น ในกลุ่มครูและอาจารย์ มีการสร้างเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และระดมสมองถึงวิธีการใหม่ๆ ในการสอนให้มีประสิทธิภาพภายใต้สภาพแวดล้อมใหม่ เช่น การใช้การสอนแบบ multi-mode คือไม่ใช่ online หรือ offline อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ผสมผสานกัน ควรมีนโยบายส่งเสริมการสร้างเครือข่ายเช่นนี้ให้มีความกว้างขวางยิ่งขึ้น

หรือในกลุ่มผู้ปกครองก็ควรใช้ประโยชน์จากความรู้ความเข้าใจถึงแนวทางในการกระตุ้นการเรียนรู้ของลูกหลานในระหว่างที่ทำหน้าที่กำกับและสนับสนุนการเรียนที่บ้าน แล้วทำการขยายความเข้าใจนี้ไปสู่กลุ่มผู้ปกครองด้วยกัน กลุ่มครูและอาจารย์ รวมถึงการถ่ายทอดสู่วงกว้างด้วย

นอกจากนั้น ยังอาจต่อยอดแนวโน้มเดิมที่เกิดก่อนการระบาดของโควิด เช่น การเปิดคอร์สเรียนออนไลน์แบบ MOOC (Massive Online Open Course) ที่เริ่มในต่างประเทศและได้แพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยโดยมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ปัจจุบันมีการจัดตั้ง Platform รวม ชื่อ Thai MOOC (Thailand Massive Online Open Course) และ Thailand Cyber University ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนทุกระดับการศึกษา ทุกอายุ และทุกอาชีพ โดยในช่วงโควิดมีผู้เรียนต่อวันเพิ่มขึ้นเกือบ 60% และมีเนื้อหาวิชาเกือบ 500 วิชา ผู้เรียนสามารถได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิ หรือกระทั่งโอนหน่วยกิตเพื่อไปรับปริญญาได้

สิ่งที่ควรปรับปรุงในเรื่องนี้ ควรเป็นเรื่องการทำให้แน่ใจว่าหลักสูตรและเนื้อหาที่สอนตรงกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงเร็วของตลาดแรงงาน ซึ่งการสอนแบบ MOOC มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นของเนื้อหาได้อยู่แล้วจึงควรใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นการสอนที่ไม่จำกัดวุฒิการศึกษาและอายุของผู้เรียน จึงอยากให้มีการคิดนอกกรอบในเรื่องเนื้อหาด้วย

เช่น อาจเป็นเนื้อหาที่เหมาะกับแรงงานที่กำลังจะถูกทอดทิ้งจากตลาดแรงงาน เช่นผู้ที่สูงวัยกว่า 40 ปี และมีการศึกษาไม่เกินประถมหรือมัธยมต้น MOOC ควรใช้ความยืดหยุ่นของเนื้อหาสร้างทักษะให้คนกลุ่มนี้ด้วย โดยอาจไม่ใช่ทักษะที่ไม่มีมูลค่าตลาดก็ได้ เช่น การดูแลเด็กเล็ก การดูแลผู้สูงวัย การรักษาสภาพแวดล้อม เป็นต้น

ประการที่สอง กระทรวงศึกษาธิการควรปฏิรูปแนวทางการวัดผลการเรียนให้สอดคล้องกับการเรียนรู้ในภาวการณ์ใหม่ โดยถือโอกาสนี้ปรับปรุงระบบ KPI ที่ล้าสมัยและไม่เชื่อมโยงกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไปพร้อมกัน

ประการที่สาม ควรยกระดับการใช้กลไกชุมชนในกระบวนการเรียนรู้ เช่น การสร้าง “อาสาสมัครการศึกษา” ที่ทำหน้าที่คล้ายอาสาสมัครสาธารณสุข คือ มีในทุกหมู่บ้าน เรื่องนี้มีการทำบ้างแล้วในการระบาดรอบแรก เช่น จ.ราชบุรี ซึ่งสนับสนุนโดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา จึงควรขยายให้กว้างขวางขึ้น รวมทั้งการระดมคนในชุมชนให้ช่วยสร้างอุปกรณ์การเรียนรู้ด้วยตัวเอง

ประการที่สี่ จากข้อเสนอแนะต่าง ๆ ข้างต้นผสมผสานกัน น่าจะก่อให้เกิดบริบทของการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ด้วย โดยเป็นการร่วมมือกันของภาคีต่างๆ และนำนวัตกรรมต่างๆ ที่ค้นพบและทดลองใช้ในช่วงนี้มาเป็นบทเรียน และอยากให้มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมเป็นกลุ่มแรงงานที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เช่น ผู้สูงวัยเกิน 40 ปี และมีการศึกษาไม่เกินมัธยมต้นที่กล่าวถึงข้างต้น

ข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ยังมีเรื่องใหม่ ๆ อีกหลายประการที่เกิดขึ้นในกระบวนการศึกษาช่วงนี้ที่ควรเอามาสกัดเป็นบทเรียนและใช้ประโยชน์ในระยะยาวได้


ขอบคุณที่มา: https://www.matichon.co.th/politics/politics-in-depth/news_2676168

เรื่องราวของสาวน้อยที่ต้องการขับเคลื่อนความเท่าเทียมกันในสังคม ทำให้เธอตัดสินใจออกเดินทางไปใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ ก่อนที่จะไปศึกษาต่อยังสหรัฐอเมริกา ที่นั่นทำให้เธอได้ทั้งแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม

“พี่ครับ ถ้าเราไปอยู่ดาวอังคาร แล้วเราจะหายใจยังไงหรอครับ?”

“อืม นั่นน่ะสิ พี่ก็ไม่รู้แฮะ แต่บนดาวอังคารมันเต็มไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์เราคิดว่าไงล่ะ?

“อ๋อพี่ งั้นเราก็เอาต้นไม้ไปปลูกสิ ต้นไม้จะได้เปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้กลายเป็นออกซิเจนไง”

บทสนทนานี้ของเรากับเด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่คุ้นชินกับป่าไม้ บทสนทนานี้คือส่วนหนึ่งของของการผจญภัยที่มีค่าที่สุดในช่วงเวลาก่อนที่เราจะเดินทางมาศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

เดือนตุลาคมปี 2020 ระว่างที่เรากำลังเรียนออนไลน์จากอีกฝั่งของโลก เรารู้สึกเบื่อกับชีวิตที่วนกับการทำการบ้าน เรียน นั่งหน้าคอมทั้งวัน รวมถึงข่าวการเมืองต่าง ๆ โพสท์เกี่ยวกับปัญหาสังคมเต็มหน้าฟีด เราตั้งคำถามกับตัวเองว่านี่เรากำลังทำอะไรอยู่ และทำไปทำไม เราจะเป็นส่วนนึงที่ขับเคลื่อนความเท่าเทียมกันในสังคมได้ยังไงบ้าง

เราเลื่อนฟีดเฟซบุ๊กไปเรื่อยๆ แล้วเจอกิจกรรมอาสา เป็นพี่เลี้ยงเด็กพาเดินป่า ที่เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มันก็กระตุกให้จำได้ว่า เรามีความสุขกับการได้พูดคุยกับเด็กๆ และคิดว่าเราน่าจะมีอะไรไปแชร์ให้น้อง ๆ ได้เยอะ ตอนนั้นเลยตัดสินใจสมัครไป น้อง ๆ มีกัน 24 คน อายุระหว่าง 7-15 ปี เป็นน้องจากบ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง แม้เวลาจริง ๆ ของค่ายจะเป็นแค่ 2 วัน 1 คืน แต่เราตัดสินใจย้ายไปอยู่เชียงใหม่คนเดียวเพื่อใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่นั่น

เสียงเพรียกจากดาวอังคาร

คืนนั้นในค่าย  หลังจากเดินป่าด้วยกันก็เริ่มเข้าสู่ช่วงกลางคืน ตอนนั้นเป็นปลายเดือนตุลาคม หน้าฝนต้นหนาว ทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เมฆเยอะจนเราไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ดูดาวกับน้อง ๆ แต่โชคดี ในค่ายเยาวชนเชียงดาว ท่ามกลางบรรยากาศของดอยหลวงเชียงดาว ในคืนนั้นฟ้าใสมาก เราวิ่งกลับห้องไปเอาของเล่นสุดที่รักซึ่งก็คือเลเซอร์ชี้ดาว จริง ๆ เราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเราถึงพกมันตลอดเวลา แต่มันเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ๆ

กิจกรรมรอบกองไฟในคืนนั้น เราฟังความประทับใจในวันนั้นของพี่ ๆ น้อง ๆ จนไมค์ถูกยื่นมาถึงเรา ซ้ายมือของเรา (ทิศตะวันออก) คือดาวเคราะห์สีแดงดวงหนึ่ง ซึ่งบังเอิญเป็นช่วงที่อยู่ในตำแหน่ง Conjunction (ใกล้โลกที่สุดในรอบปี) พอดี เราเล็งเลเซอร์ไปที่ดาวสีแดงสว่างจ้าดวงนั้นแล้วพูดว่า

“น้อง ๆ นี่คือดาวเคราะห์ที่เราอยากไปกัน”

สายตาของเด็กๆ 24 คน ที่จ้องไปดาวอังคารและว้าวให้กับเลเซอร์ของเรา ก็ทำให้เราว้าวไม่ต่างกันเลย ในคืนนั้นมีดาวเคราะห์อยู่ 3 ดวง และดวงจันทร์อีกหนึ่ง เราให้น้องลองสังเกตตำแหน่งของดาวเคราะห์และลักษณะของมันว่าต่างจากดาวฤกษ์ยังไง สอนหาดาวเหนือด้วยกลุ่มดาวค้างคาว หลังจากนั้นก็เริ่มพูดถึงนิทานเกี่ยวกับดวงดาว เรื่องรัก ๆ ของสามเหลี่ยมฤดูร้อน ตำนานหนุ่มทอผ้าและสาวเลี้ยงวัว ที่ดาวเดเนบคือหงส์ที่เชื่อมเป็นสะพานให้นางฟ้าโอริฮิเมะ (ดาวเวกา) และฮิโกโบชิ (ดาวอัลแทร์) ข้ามแม่น้ำ (ทางช้างเผือก) มาเจอกัน ทุกวันที่ 7 เดือน 7 หลังจากนั้น นิทานดวงดาวก็มาจากจินตนาการของน้อง ๆ เอง

ในคืนนั้นเลเซอร์ของเรากลายเป็นดินสอสี และท้องฟ้าเป็นก็กลายเป็นผืนกระดาษขนาดใหญ่ที่อนุญาตให้เด็ก ๆ มองขึ้นไปและได้ปลดปล่อยจินตนาการให้เป็นอิสระกว่ากระดาษแผ่นใดบนโลกจะให้ได้ เรานอนลงบนสนามหญ้ากับน้องๆ และฟังเรื่องราวจากรูปวาดของน้องๆ ที่เชื่อมดาวแต่ละดวงเข้าด้วยกัน

“พี่ครับ หมากำลังตะครุบแมว” น้องคนหนึ่งกล่าว “พี่ครับ ดาวดวงนั้นเคลื่อนที่เร็วมากเลย กระพริบได้ด้วย” เรารีบหันไป “นั่นมันเครื่องบิน!” น้อง ๆ หยอกเย้ากันไปกันมาใต้แสงดาว

ระหว่างรับฟังจินตนาการของเด็ก ๆ ก็มีคำถามมากมาย “ทำไมดาวบางดวงถึงสว่างกว่าดวงอื่น” “จริง ๆ แล้วดาวเกิดขึ้นมาได้อย่างไร” หรือ “ถ้าเราไปอยู่บนดาวดวงอื่น เราจะเห็นโลกสว่างแบบนั้นมั้ย” แต่ก่อนจะตอบคำถามของเด็ก ๆ เราจะถามก่อนว่า “แล้วเราคิดว่ายังไงล่ะ” เพื่อหลีกเลี่ยงการลัดกระบวนการเรียนรู้ของน้อง ๆ

เราไม่ได้เป็นคนสอนคนเก่งนัก และเราคงสอนน้อง ๆ ไม่ได้ทุกเรื่อง เราใช้ดาราศาสตร์เป็นตัวกลางในการเรียนรู้ ไม่ใช่เพื่อให้น้อง ๆ ชอบดาราศาสตร์ แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขา กล้าที่จะถาม กล้าที่จะจินตนาการ และกล้าที่จะพยายามหาคำตอบ อย่างอิสระ และระหว่างที่เราเองมองไปที่จักรวาลอันกว้างใหญ่ร่วมกับน้อง ๆ เราก็คิดขึ้นได้ว่า การได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ดูจะไกล และยิ่งใหญ่ อย่างจักรวาล คงจะช่วยกระตุ้นให้ เรากล้าที่จะตั้งคำถามเกี่ยวกับทุก ๆ อย่างโดยไม่ต้องกลัวว่ามันจะใหญ่เกินตัวเราหรือเปล่า ซึ่งรวมถึงการตั้งคำถามเกี่ยวกับความอยุติธรรม
 

วันต่อมา ก่อนน้อง ๆ ขึ้นรถกลับสันทราย มีน้องคนหนึ่งเข้ามาคุยกับเราว่า เขาชอบฟิสิกส์ ชอบเวลาได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับปรากฎการณ์ต่าง ๆ เรื่องราวก็เกิดขึ้นจากที่เราได้อธิบายระหว่างเดินป่าด้วยกัน เช่นการเกิดรุ้ง วัฏจักรของน้ำ ที่เราถามน้องว่าเชื่อป่าว ว่าเดี๋ยวน้ำจากน้ำตกที่เราเดินผ่านเนี่ย จะเป็นเมฆบนนั้น แล้วเดี๋ยวมันก็จะกลับมาเป็นน้ำตกใหม่ ในตอนนั้นน้องถามเราว่าทำไมโรงเรียนสอนฟิสิกส์เป็นการคำนวณไปหมดเลย และน้องชอบดาราศาสตร์ แต่โรงเรียนไม่สอนเลย ตอนนั้นเราเลยบอกไปว่าเดี๋ยวเราจะส่งหนังสือไปให้นะ

นักบินอวกาศ

เราแอบส่อง Facebook ของพี่ ๆ ที่ดูแลบ้านกำพร้า แล้วเจอคลิปน้องคนนั้น นำหมวกกันน็อคมาจินตนาการเป็นชุดอวกาศ และอธิบายว่าตัวเองกำลังไปดาวอังคาร ตอนนั้นเลยได้รู้ว่าน้องมีความสนใจทางด้านนี้มากจริง ๆ และในจุดที่น้องอยู่คงมีโอกาสเข้าถึงน้อย เราไม่อยากปล่อยให้ความฝันของน้องจางไป เราได้รู้ว่าน้องกำลังจบ ม.3 พอดี จึงตัดสินใจช่วยสอนหนังสือให้ “นักบินอวกาศ” และแนะนำทุน พสวท. ให้ เราดีใจที่น้องสนใจ จึงเริ่มลุยไปด้วยกัน

หลังจากค่ายที่เชียงดาว เราเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปแม่แฝกสันทรายแทบทุกอาทิตย์ เพื่อสอนดาราศาสตร์พื้นฐานให้กับน้อง ๆ เช่นความสัมพันธ์ระหว่างโลก ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ที่กำหนดวันเดือนปี การเกิดปรากฎการณ์น้ำขึ้น-น้ำลง อุปราคา ระบบสุริยะ ต่าง ๆ และติววิทยาศาสตร์ทั่วไปให้เด็กชายนักบินอวกาศ เพื่อเตรียมสอบ บ้างก็ไปคนเดียว บ้างก็ชวนเพื่อน ๆ ไป และมีเพื่อนหลาย ๆ คนฝากสื่อการเรียนรู้มาให้น้อง เช่นฝากใจจากมหาสารคาม ด้วยหัวใจที่สร้างจาก 3D Printer

จนช่วงที่เกิดปรากฎการณ์ดาวพฤหัส และดาวเสาร์กำลังขยับเข้ามาใกล้กันที่สุดในรอบ 400 ปี (The Great Conjunction) เราตัดสินใจซื้อกล้องโทรทรรศน์ เพื่อให้น้อง ๆ ได้ส่อง Galilion Moons ดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัส และวงแหวนดาวเสาร์ รวมถึงได้ส่องวัตถุท้องฟ้าที่เราเคยมองด้วยกันอย่างใกล้ขึ้น  ทุกครั้งที่ได้เจอกัน น้อง ๆ จะมาพร้อมกับคำถามที่เหมือนตั้งใจจดไว้เพื่อรอเราตอบ
 

“พี่น้ำหวาน วันก่อนดวงจันทร์ยิ้ม แต่มีแสงตรงที่ไม่ยิ้ม มันคือจันทรุปราคาที่พี่เคยบอกไหมคะ”
“พี่น้ำหวานคะ ดาว 2 ดวงที่เราส่อง มันค่อย ๆ เข้าใกล้กันทุกคืนเลย มันจะจูบกัน!” 
“พี่น้ำหวานครับ วันก่อนพวกเราเห็นดาวตกด้วย มันมาจากไหนหรอครับ”
และเหมือนเดิม เราจะถามน้องก่อนเสมอว่า “เราคิดว่ายังไงล่ะ”

เสียดายที่คืนที่ดาวเสาร์และดาวพฤหัสใกล้กันที่สุด ฟ้าปิด จึงอดพาน้อง ๆ ดูดาวเสาร์ กับดาวพฤหัสในเฟรมเดียวกัน แต่เอาจริง ๆ แทบทุกครั้งที่เราไป มักจะเมฆหนา ทั้งที่คืนก่อนหน้าฟ้าเปิด จนน้อง ๆ แซวเราว่าเป็นตัวเรียกเมฆ คืนที่เกิด The Great Conjunction นั้นเลยเปลี่ยนจากท่องอวกาศ มาเป็นท่องโลกแทน

เราเปิดรูปที่เราเคยไปต่างประเทศให้น้อง ๆ ดูรูปสัตว์ที่ไม่มีที่ไทย รูปบ้านเมือง สภาพแวดล้อมที่ต่างไปจากไทย และภาพถ่ายทางดาราศาสตร์ที่มีอยู่ประมาณหนึ่ง เช่นสุริยุปราคาวงแหวนที่เราไปถ่ายที่สิงคโปร์ ภาพท้องฟ้ากลางคืนของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นซีกโลกใต้จึงได้เห็นกลุ่มดาวกางเขนใต้ (กลุ่มดาวประจำตัวเรา) อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าไทย ดวงจันทร์ที่เป็นกระต่ายกลับหัว การได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของเรา ได้ทำให้เราย้อนคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้มาจากการเดินทาง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตของเราเอง และคงได้ทำให้น้อง ๆ ได้รู้ว่า บนโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่รอให้น้อง ๆ ได้ไปพบเจอ

25 ธันวาคม 2020 เราติว “นักบินอวกาศ” วันสุดท้ายก่อนสอบ ทบทวนเรื่องการออกแบบการทดลองเชิงวิทยาศาสตร์ สอนฟิสิกส์เล็ก ๆ น้อย ๆ จริง ๆ เรากลัวน้องนอนดึก แต่น้องก็ยังยืนยันจะเรียนต่อ มันคงเพราะใจที่สู้ของน้องที่ทำให้เราเองไม่เคยเหนื่อยเลยที่จะแบ่งเวลาจากการเรียน เขียน Essay ยื่นมหาลัยที่สหรัฐฯ มาติวให้น้อง

ในวันสอบของ “นักบินอวกาศ” เราไปเชียร์น้องสอบที่โรงเรียนยุพราชฯ และนั่งเฝ้าน้องทั้งวันกับลูกของเจ้าของบ้านเด็กกำพร้าชื่อแบงค์ แบงค์อายุเท่ากับเรา เลยคุยกันได้ง่าย ระหว่างนั่งรอน้องสอบ แบงค์เล่าเกี่ยวกับครอบครัวของ “นักบินอวกาศ” ให้ฟัง ว่าที่ ๆ น้องมา ในวัยของน้อง คนที่นั่นมักไม่เรียนต่อ ทำงาน มีครอบครัวกันแล้ว และจริง ๆ ช่วงที่เราติวสอบให้น้อง เป็นช่วงหยุดยาว และน้องก็เกือบกลับบ้าน ซึ่งคำว่ากลับบ้านในที่นี่ ไม่ใช่แค่กลับไปหาแม่ แต่อาจคือกลับไปดำเนินชีวิตตามวิถีของที่นั่น ซึ่งคือการทำสวน และแต่ละวันก็คงต้องกังวลเรื่องที่ดินทำกิน จนน้องคงหลุดจากการศึกษาไปเลย

ระหว่างรอสอบก็คิดว่าถ้าน้องรู้สึกว่าข้อสอบยากไป จะคุยกับน้องยังไงดี น้องจะท้อจนไม่อยากเรียนต่อไปเลยรึเปล่า ด้วยความที่เราเองอยู่ในวงการแข่งขัน และบ่อยครั้งที่คนรอบตัวจะเสียใจจากผลที่เทียบความสามารถของตัวเองกับคนอื่น

ช่วงพักเที่ยงน้องมาหาเรา และสิ่งที่น้องพูดคือ “พี่ผมเห็นเด็กชื่อโรงเรียนเท่ ๆ เยอะเลย” บ้างก็ว่า “ข้อสอบมีถามว่า สามารถเอาจักรยานที่พังไปทำเป็นอะไรได้บ้าง ผมอยากเอาไปทำเป็นเครื่องออกกำลังกายอ่ะพี่” หรือ “เอ้อ ที่พี่สอนเมื่อคืนช่วยได้เยอะเลย” นักบินอวกาศเริ่มสำรวจสิ่งรอบตัว “โรงอาหารโรงเรียนยุพราชใหญ่จัง” น้องไม่แม้แต่จะแสดงท่าทีท้อแท้  หรือรู้สึกเสียใจแต่อย่างใด น้องเล่าเกี่ยวกับข้อสอบ ผู้คน และสถานที่ที่น้องได้เจอในวันนั้นอย่างสนุกสนาน “นักบินอวกาศ” ได้ทำให้เราเข้าใจว่า บางทีการใช้ชีวิตที่ไม่ต้องเอาชนะใคร ก็ทำให้เราเปิดใจกว้าง และเห็นคุณค่าในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้มากขึ้น

สุดท้ายแล้วถึง “นักบินอวกาศ” จะสอบไม่ติดทุน แต่น้องได้เห็นโรงเรียนที่ใหญ่ขึ้น ได้รู้จักชื่อโรงเรียนเท่ ๆ ได้รู้ว่ามันยังมีโอกาสให้น้องอีกมากมาย เราไม่ได้บังคับว่าน้องจะต้องเรียนต่อ ม.ปลาย เราไม่ได้บอกว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับน้อง แต่เราแค่ทำให้น้องได้รู้ว่าน้องมีทางเลือก และถึงแม้น้องตัดสินใจที่จะกลับไปยังที่ ๆ น้องจากมา เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวตามวิถีเดิม เราก็ไม่ได้เสียใจกับการที่เราทุ่มเท เราเชื่อว่าจากความพยายามของเด็กคนนึงที่ไม่ได้มีต้นทุนอะไรนอกจากความเชื่อที่จะไปดาวอังคาร  ได้ทำให้น้องได้เห็นพลังในตัวเอง และไม่ว่าจากนี้น้องจะอยู่ที่จุดไหน ชุดอวกาศของน้องจะค่อย ๆ ขยับจากหมวกกันน็อคเก่า ๆ ใบหนึ่ง เป็นอะไรที่มากกว่านั้นได้แน่นอน

คืนวันสิ้นปี เราไปเค้าท์ดาวน์ที่บ้านน้อง ๆ ก่อนไปที่บ้าน ก็เดินเล่นตลาดวโรรสแล้วเจอคนขายหนังสือพิมพ์ ตอนนั้นแค่รู้สึกว่าไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์นานแล้ว เลยซื้อมา และติดไปที่บ้านน้อง ๆ ด้วย เราไปถึงก็วางไว้บนโต๊ะ 

“พี่น้ำหวานคะ อันนี้คือหอไอเฟลหรอคะ หนูขอตัดเก็บไว้ได้มั้ยคะ” น้องเปิดดูหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น แล้วมีข่าวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงโควิดระบาด จึงขอเราเก็บภาพสถานที่เหล่านั้นไว้ การเล่าเรื่องการท่องเที่ยวของเรา ช่วยให้น้องฝันที่อยากจะไปให้ไกลขึ้นได้หน่อยแล้วสินะ

มกราคม เมื่อปี 2021 เดินทางเข้ามา หลังจากการสอนดาราศาสตร์น้อง ๆ มาซักพัก เราเริ่มจัดการเรื่องยื่นมหาวิทยาลัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็อยากเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานทางด้านดาราศาสตร์ โดยเฉพาะการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ด้วยอุปกรณ์ Optical ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT)

NARIT เห็นความสำคัญของการพัฒนากำลังคน เราจึงได้รับโอกาสเข้าไปเรียนรู้ จากกล้องโทรทรรศน์เล็ก ๆ ที่เราซื้อให้น้อง เป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากศึกษาด้านนี้ให้ลึกขึ้น และได้ไปดูการติดตั้งอุปกรณ์ Spectrograph กับกล้องโทรทรรศน์ 2.4 เมตร บนดอยอินทนนท์
 

ชายขอบ

เชียงใหม่ช่วงนั้นมีการรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอร่างกฎหมาย พรบ. สภาชนเผ่า เพื่อให้ชนเผ่าพื้นเมืองสามารถเข้าถึงสาธารณูปโภค การศึกษา ฯลฯ ด้วยความที่น้อง ๆ ต่างก็เป็นกลุ่มชาติพันธุ์  ลาหู่ ม้ง ไทยใหญ่ และจากการสัมผัสกับน้อง ๆ ก็ได้เข้าใจถึงความขาดแคลนตรงนี้ ด้วยความผูกพัน และอย่างที่บอกว่าถึงความฝันของน้อง ๆ จะคือการช่วยที่บ้านทำไร่ ทำสวน ซึ่งก็ไม่ผิด แต่น้องต้องมีสิทธิ์เลือก ที่ไม่ใช่เพราะเกิดที่นั่น จึงเลือกได้แค่นั้น และเราคิดว่า หากร่างกฎหมายนี้ผ่าน คงเป็นการช่วยที่ยั่งยืนอีกทาง 

เสาร์-อาทิตย์ ว่างจากการฝึกงาน เราเดินทางจากตัวเมืองไปสมาคมชนเผ่าพื้นเมือง เพื่อพูดคุยถึงปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ และความสำคัญของสมาคมชนเผ่าพื้นเมือง หลัก ๆ คงเป็นการที่ปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ไม่เคยถูกรับฟังอย่างจริงจัง รัฐฯ แก้ปัญหาไม่ตรงตามวิถีชีวิต หรือแม้แต่การที่คนเมืองพยายามยัดเยียดความเจริญในนิยามของตนเองให้ ฯลฯ

เดือนกุมภาพันธ์ผ่านไป เราไปช่วยน้อง ๆ ย้ายบ้านกัน เนื่องจากเจ้าของที่ที่เคยบริจาคต้องการที่คืน หลังขนของกันอย่างเหน็ดเหนื่อย เราก็ยังสนุกด้วยกิจกรรมเดิม คืนนั้นบังเอิญเห็นดาวตกกัน แน่นอน กิจกรรมคลาสสิค ปิดตาขอพรจากดาวตก 

“เราขออะไรกันบ้างเนี่ย” เราถามน้อง ๆ “ขอให้ลุงตู่ออกไปครับ” เอ้อ ชื่นใจ
“ขอให้พี่น้ำหวานไม่ไปอเมริกาได้มั้ย”
“นี่ ถึงตัวพี่จะไม่อยู่แล้ว แต่สิ่งที่พี่ได้ให้น้องไว้ คำพูด ความคิด มันจะยังอยู่นะ และนั่นแหละคือตัวตนของพี่ ไม่ใช่ร่างกาย ดวงดาวที่เรามองด้วยกันก็ยังอยู่ เราไม่ได้ไกลกันเลย”
“พี่น้ำหวานอย่าลืมถ่ายดวงจันทร์ที่เมกาฝากนะคะ”
“นี่ตา ตา แล้วก็ยิ้ม แค่รอยยิ้มก็เต็มฟ้าแล้ว” จินตนาการอันบริสุทธิ์ ได้ทำให้เราไม่เคยเบื่อเวลาที่มองดาว มันเหมือนมีหน้ายิ้มให้เราตลอดเลย

หลังจากนั้นไม่กี่วันเราได้รับข้อความจากทางทุนว่าเราจะต้องเดินทางไปอเมริกาในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าแล้ว กะทันหันอยู่นะเนี่ย โถ่ อดพาน้องๆดูดวงจันทร์บังดาวอังคาร กลางเดือนเมษาฯ เลย เราใช้เวลาที่เหลือในเชียงใหม่ เรียนรู้เกี่ยวกับงานทางด้าน Optics และหาลู่ทางศึกษาต่อด้านนี้ ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ พรบ. สภาชนเผ่า เพื่อรวบรวมชื่อให้ได้มากที่สุด และเราต้องไปลาน้อง ๆ แล้ว

3 มีนาคม ครั้งสุดท้ายที่เราไปหาน้องๆ พี่ ๆ Optic Lab ของ NARIT ซึ่งมีชาวฝรั่งเศสที่มาทำ Post Doc ได้เดินทางไปหาน้อง ๆ ด้วยกัน วันนั้น NARIT ใจดีให้ยืมกล้องโทรทรรศน์ด็อบโซเนียน และสื่อการเรียนรู้ดาราศาสตร์มากมาย หลังจากกินมื้อเย็นด้วยกันเสร็จแล้ว เรากับพี่ ๆ จาก NARIT ได้สอนน้อง ๆ ใช้แผนที่ดาว หลังจากที่เราสอนจากการลากบนฟ้ามานานพอควร

“เดี๋ยวพี่น้ำหวานไม่อยู่แล้ว เราจะได้ดูดาวกันเองได้ทุกคืน” พี่คนหนึ่งพูด แอบใจหายเหมือนกันนะเนี่ย

คืนนั้นเป็นอีกคืนที่ฟ้าใสแบบที่เราไม่คาดคิด เพราะช่วงกลางวันฝุ่นควันหนามาก จนคิดว่าไม่น่าจะเห็นดาว มันเลยย้อนนึกไปถึงคืนแรกที่เราได้ดูดาวกับน้อง ๆ ที่จากเมฆหนาทั้งอาทิตย์ แต่ฟ้าเปิดให้เราได้วาดเขียนกันที่เชียงดาว และคืนนี้เป็นอีกครั้งที่ฟ้าเป็นใจให้ เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาต้องลาแล้ว จากการหาดาวเหนือด้วยกลุ่มดาวค้างคาวเมื่อเดือนตุลาคม คืนสุดท้ายนั้น เราใช้ดาวหมีใหญ่ในการหาดาวเหนือ นั่นก็คือเกือบครึ่งปีเลยล่ะที่เราใช้เวลาด้วยกัน 

พี่โบ๊ท ลูกแท้ ๆ อีกคนของเจ้าของบ้านเด็กกำพร้าบอกกับเรา ว่าตั้งแต่ที่เรามาช่วยดูแล น้อง ๆ มีความมั่นใจในตัวเองกันมากขึ้นเยอะ กล้าคิด กล้าถาม ซึ่งเราคิดว่าเกือบ 5 เดือน ที่เราได้ทุ่มเททุกอย่าง ให้กับน้อง ๆ มันประสบผลมาก ๆ ทั้งกับตัวน้อง ๆ และกับตัวเราที่ได้เห็นภาพปัญหาได้มากขึ้น ได้แรงบันดาลใจในการต่อยอดความรู้ทางด้านที่เราสนใจต่อไป

อาจพูดได้ว่า เราทำนั่นนี่เต็มไปหมด ยังไม่ได้โฟกัสกับทางใดทางหนึ่ง จนอาจยังไม่เป็นชิ้นเป็นอันนัก แต่สำหรับเรา เรายังอยากใช้ชีวิตด้วยความกระหายที่จะรู้ว่ามีอะไรให้เราได้รู้อีกบ้าง วันนึงเราคงจะแกร่งพอที่จะรวบรวมสิ่งที่เราสะสมมา แล้วทำบางอย่างให้สุดทาง

น้อง ๆ ได้รู้จักดวงดาวเพิ่มขึ้นเยอะเลยจากแผนที่ดาว จากพี่ ๆ ที่ทำงานเฉพาะทางเกี่ยวกับดาราศาสตร์ และที่พิเศษคือ น้องๆ ได้เจอกับพี่นักวิจัยชาวฝรั่งเศส (ประเทศที่ตั้งของหอไอเฟลที่น้อง ๆ เคยขอเราตัดเก็บไว้) การได้เจอต่างชาติที่มาจากประเทศที่น้อง ๆ อยากไป คงทำให้น้อง ๆ มีความมั่นใจในการที่จะฝันถึงการเดินทางไปต่างประเทศได้มากขึ้น คิด ๆ ดูแล้ว เรานี่ก็สรรหาทุกอย่างมาให้ ตามความสนใจของน้อง ๆ จริง ๆ เลยนะเนี่ย

กิจกรรมดำเนินไปเรื่อย ๆ จนเริ่มดึก ก็เข้าสู่ช่วงอำลาแล้ว น้อง ๆ กล่าวขอบคุณพี่ ๆ ที่มา เหมือนทุก ๆ ครั้ง และเป็นเราที่พูดจบ เราขอบคุณน้อง ๆ สำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้เล่นเป็นเด็กอีกครั้ง ได้รับความรัก มิตรภาพ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากตัวน้อง ๆ ได้แรงบันดาลใจมากมาย และข้อความสุดท้ายที่เราบอกน้องคือ

“แม้ว่าสังคมจะบอกว่าความฝันของน้องเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็ตามแต่ พี่ขอให้น้องยังยืนหยัดจะที่จะสู้ต่อไป เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ ถ้าน้องรู้สึกว่าไม่มีใครไปกับน้อง อย่างน้อยจะมีพี่คนนึงที่ไปด้วย ไปให้ถึงดาวอังคาร แบบที่น้องๆ อยากไป ไปด้วยกันนะ”

คืนสุดท้ายแล้ว ยากหน่อยกว่าเราจะเดินทางกลับจริง ๆ ได้ เป็นการกอดลาที่รู้สึกว่ากอดเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ มันคือความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เราเคยได้สัมผัสมา การจากลาครั้งนั้น มันก็แค่การจากลาเพื่อแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี แล้วรอวันกลับมาพบกันใหม่

กางเขนใต้ (Crux)

กลุ่มดาวที่เรายึดถือเป็นกลุ่มดาวประจำตัว คือ Crux โดยปกติทางซีกโลกเหนือจะใช้ดาวเหนือในการหาทิศเหนือ แต่ซีกโลกใต้ ไม่เห็นดาวเหนือ จึงใช้กลุ่มดาว Crux (กางเขนใต้) ในการหาทิศใต้แทน ซึ่งซีกโลกใต้นั้นมีประชากรแค่ประมาณ 10% ของโลก 

Crux อาจดูไม่ได้มีความสำคัญมากนักสำหรับคนหมู่มาก แต่มีความสำคัญมาก ๆ กับคนกลุ่มหนึ่ง สิ่งที่เราทำอาจไม่ได้เปลี่ยนโลก แต่เราเชื่อว่ามุมมองในการมองโลก (และจักรวาล) ของน้อง ๆ ได้เปลี่ยนไปอย่างมากแน่นอน และการได้สัมผัสถึงพลังของตัวเอง การกล้าที่จะตั้งคำถามต่ออะไรก็ตาม จะทำให้น้อง ๆ กล้าที่จะไม่ยอมถูกกดขี่ กดขี่ทางอิสรภาพด้านความคิด พวกเขาฝันที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น และจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไปในทางที่ดีขึ้น 

จบจากเชียงใหม่ เราต้องเดินทางไปยังอีกฝั่งของโลก เพื่อสั่งสมของในตัวให้มากขึ้น และหวังว่าเราเองจะเป็น Crux ให้กับใครได้อีกหลาย ๆ คน หวังว่าจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ นี้จะช่วยให้ความเท่าเทียมเกิดขึ้นในสังคมได้สักวัน และเมื่อคุณอ่านมาถึงจุดนี้แล้ว เราอยากบอกว่า คุณเองก็สามารถเป็น Crux ให้กับผู้คนต่อไปได้เช่นกันนะ

เขียนและเรียบเรียงโดย น้ำหวาน ภิรมณ กำเนิดมณี นักเรียนทุน พสวท. (ฟิสิกส์) ปริญญาตรี-ปริญญาเอก สหรัฐอเมริกา

สามารถรับชมบทสัมภาษณ์ของน้องน้ำหวาน ได้ที่ YouTube : THE STUDY TIMES
.

.


ขอบคุณที่มา: https://spaceth.co/fringe-astronomy/
 

กระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันใช้กำหนดเปิดเรียนวันที่ 17 พ.ค. 2564 ตามเดิม แต่หากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น อาจเลื่อนเปิดวันที่ 1 มิ.ย. 2564 โดยจะพิจารณาเป็นพื้นที่ไปตามสถานการณ์

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เรียกประชุมคณะผู้บริหาร รวมทั้ง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หารือ เพื่อประเมินสถานการณ์เปิด-ปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2564 เบื้องต้น เห็นตรงกันจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 17 พ.ค.2564 นี้ ตามกำหนดการเดิม เพื่อไม่ให้กระทบกับการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ปกครอง

จากนั้นจะประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ ไป หากสถานการณ์ ยังไม่ดีขึ้นจะเลื่อนเปิดเรียนเป็นวันที่ 1 มิ.ย.2564 แทน แต่จะไม่สั่งปิดพร้อมกันทั่วประเทศ

ทั้งนี้ จะพิจารณาตามพื้นที่ความเสี่ยง และจัดรูปแบบการเรียนการสอน ให้เหมาะสมกับผู้เรียน และบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยผู้เรียนเป็นคนเลือกเอง ว่าจะเรียนรูปแบบไหน เช่น ให้ครูส่งแบบฝึกหัดไปให้ทำที่บ้าน เรียนออนไลน์ ต้องไม่บังคับเด็กว่าจะเรียนแบบไหน เปิดโอกาสให้เด็กเลือกเอง

เช่นเดียวกับ การสอบเข้า ม.1 ยังใช้แผนสอบเดิมคือวันที่ 1 พ.ค.2564 ส่วนนักเรียนชั้น ม.4 สอบวันที่ 2 พ.ค.2564 ให้ดำเนินการสอบได้ตามปกติ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยกำหนดให้ห้องสอบและการรายงานตัวต้องไม่เกิน 50 คน หรือใช้สถานที่ของโรงเรียนอื่นที่ใกล้เคียงเป็นสนามสอบ เพื่อกระจายนักเรียนไปไม่ให้เกิดความแออัด โดยกระทรวงศึกษาธิการจะทำแผน เสนอให้ ศบค.พิจารณาตามความเหมาะ

ส่วนกรณี การสอบบรรจุครูที่เรียกตัวมาไม่ทัน อาจส่งผลให้โรงเรียนขาดครูในบางวิชาก็ให้ใช้บัญชีของครูที่มีอยู่แล้ว และให้ใช้แนวทางโรงเรียนพี่โรงเรียนน้อง และโรงเรียนที่มีความพร้อม เข้ามาช่วยเหลือกัน หากโรงเรียนใดยังมีปัญหาอยู่ ให้แจ้งมาที่ส่วนกลางเพื่อเข้าไปสนับสนุน

สำหรับ การหารือครั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังได้เปิดรับฟังข้อเสนอจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเข้ามามีส่วนร่วมตัดสินใจ

ด้าน นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. ระบุว่า ต้องรอประเมินสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่ กทม.ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ก่อน จึงจะตัดสินใจได้ว่า จะเลื่อนเปิดเรียนหรือไม่ จากเดิมกำหนดเปิดเรียนในวันที่ 17 พ.ค.2564 โดยจะประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับผู้อำนวยการโรงเรียนทั้ง 437 แห่ง ประมาณต้นเดือน พ.ค.นี้ แต่จะประเมินให้สอดคล้องกับกระทรวงศึกษาธิการด้วย

อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องปิดภาคเรียนต่อไป สำนักการศึกษาได้เตรียมจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานไว้ 4 รูปแบบ คือ

1.) การสลับชั้นมาเรียนของนักเรียนแบบสลับวันเรียน

2.) การสลับชั้นมาเรียนของนักเรียนแบบสลับวันคู่ วันคี่

3.) การสลับช่วงเวลามาเรียนของนักเรียนแบบเรียนทุกวัน

4.) การสลับกลุ่มนักเรียนแบบแบ่งนักเรียนในห้องเป็น 2 กลุ่ม

โดยแต่ละรูปแบบจะมีความเหมาะสมกับขนาดโรงเรียน และพื้นที่ที่แตกต่างกัน ควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุข

นอกจากนี้ ก่อนเปิดเรียนจะให้ทางโรงเรียนประเมินความเสี่ยงของผู้ปกครองผ่านแบบคัดกรองประเมินความเสี่ยงของ กทม.หากมีความเสี่ยงก็จะขอความร่วมมือให้หยุดเรียนไปก่อน และให้ครูประจำชั้นจัดการเรียนการสอนผ่านไลน์ให้กับนักเรียนแทน

ด้าน นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้ สพฐ.เตรียมความพร้อมเรื่องการเรียนการสอนออนไลน์ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ยังไม่ดีขึ้น เนื่องจาก รมว.ศธ.กำชับเรื่องการเรียนการสอนออนไลน์ต้องทำให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมาเรามีทางเลือกให้เด็กเรียนอย่างหลากหลายทั้งรูปแบบ Online Onsite และ Onhand ดังนั้น ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความถนัด หรือ จะเลือกเรียนแบบผสมผสานก็ได้ ซึ่ง สพฐ.ต้องเตรียมความพร้อมในทุกมิติไม่ว่าสถานการณ์โควิดจะเป็นอย่างไรเด็กต้องได้เรียนอย่างเต็มที่


ที่มา: https://workpointtoday.com/school190464/

CPA (Thailand) ประกาศฉบับที่ 010/2021: วันที่ 17 เมษายน 2564 เรื่อง: ประกาศปิดทำการตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2564 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

เฉพาะสำหรับผู้สอบที่เลือกรับผลคะแนนด้วยตนเองไว้ สามารถรับผลสอบด้วยตนเองในวันที่ 19 - 20 เมษายน 2564 เวลา 10.00-15.00 เท่านั้น

กรุณาเตรียมเอกสารการรับผลให้ครบถ้วน ทั้งกรณีรับผลด้วยตัวเอง และกรณีรับผลแทน โดยผู้มารับผลคะแนนจะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองตามมาตรการฯ​ ตามขั้นตอนปกติ


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10157545409866467&id=154483551466

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 04006/ ว1245 ลงวันที่ 9 เมษายน 2564 เรื่อง การรับนักเรียน ปีการศึกษา 2564 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

แนวทางการรับสมัครและการจัดสอบคัดเลือกหรือคัดเลือกผู้สมัครเข้าศึกษาต่อ (กรณีโรงเรียนมีการจัดสอบ) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด - 19

การรับสมัคร ให้ปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้

1. โรงเรียนสามารถรับสมัครผ่านระบบออนไลน์ หรือทางเว็บไซต์ของทางโรงเรียน

2. กรณีรับสมัคร ณ โรงเรียน

- ผู้สมัคร ผู้ปกครอง และผู้เข้ามาในบริเวณสถานที่รับสมัครของโรงเรียนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า

- คัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิผู้สมัคร ผู้ปกครอง และผู้เข้ามาในบริเวณสถานที่รับสมัครทุกคน

- สถานที่รับสมัคร ให้คำนึงถึงหลัก Social Distancing

- จัดให้มีจุดล้างมือต้วยสบู่ แอลกอฮอล์ เจล หรือน้ำยาอื่น ๆ ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้

- ข้อกำหนดอื่น ๆ ตามบริบทของโรงเรียน

กรณีโรงเรียนมีการจัดสอบคัดเลือก ให้ปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้

1. การดำเนินการก่อนวันสอบ

1.1 ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแนวปฏิบัติของผู้เข้าสอบและผู้ปกครองทาง Online หรือช่องทางอื่น ดังนี้

- ผู้เข้าสอบ ผู้คุมสอบ และผู้เข้ามาในบริเวณสนามสอบทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในวันสอบ

- โรงเรียนต้องประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ เข้าสอบ กำหนดการสอบและตารางสอบ แผนผังที่นั่งสอบแผนผังโรงเรียน (ระบุจุดรับส่ง จุดคัดกรอง จุดพักคอย อาคารสอบ ฯลฯ โดยคำนึงหลัก Social Distancing

- โรงเรียนขอความร่วมมือผู้ปกครองมาส่งและมารับผู้เข้าสอบตามกำหนดเวลาโดยไม่พักคอยหากจำเป็นต้องพักคอย ผู้ปกครองต้องผ่านการคัดกรองและพักคอย ณ จุดที่โรงเรียนกำหนด

- โรงเรียนต้องแจ้งให้ทราบว่าไม่มีบริการจำหน่ายอาหารในวันสอบ

- ข้อกำหนดอื่น ๆ ตามบริบทของโรงเรียน

1.2 ประสานโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อดูแลส่งต่อ

1.3 จัดห้องพยาบาลสำหรับให้บริการโดยเฉพาะ ณ สถานที่จัดสอบ

2. การจัดเตรียมห้องสอบ

2.1 กรณีใช้ห้องเรียนปกติ (ขนาด 8 x 8 เมตร ให้จัดไม่เกินห้องละ 20 คน เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร และไม่ควรจัดให้สอบในห้องปรับอากาศหรือห้องที่มีสภาพอากาศปิด

2.2 กรณีใช้ห้องเรียนขนาดอื่นหรืออาคารอเนกประสงค์ เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร และไม่ควรจัดให้สอบในห้องปรับอากาศหรือห้องที่มีสภาพอากาศปิด

2.3 จัดเตรียมห้องสอบสำรอง กรณีผู้เข้าสอบอยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายมากกว่า หรือเท่ากับ 37.5 C โดยไม่จัดสอบในห้องปรับอากาศหรือห้องที่มีสภาพอากาศปิด และเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร

2.4 ให้ทำความสะอาดพื้นที่ที่นักเรียนต้องใช้ร่วมกันด้วยน้ำยาหรือแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้

3. การดำเนินการในวันสอบ

3.1 ผู้เข้าสอบ ผู้คุมสอบ และผู้เข้ามาในบริเวณสนามสอบทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า

3.2 คัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าสอบ ผู้คุมสอบ และผู้เข้ามาในบริเวณสนามสอบทุกคน

3.3 จัดให้มีจุดล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ เจล หรือน้ำยาอื่น ๆ ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้

3.4 ให้ผู้เข้าสอบพักคอย ยืนยันตัวตน ณ จุดที่กำหนด โดยคำนึงหลัก Social Distancing

3.5 ให้ผู้เข้าสอบทยอยขึ้นห้องสอบ เว้นระยะห่างระหว่างการเดิน โดยคำนึงหลัก Social Distancing

3.6 ดำเนินการสอบให้แล้วเสร็จภายในครึ่งวัน (เวลา 09.00 - 12.00 น.) โดยโรงเรียนกำหนดวิชาและเวลาสอบในแต่ละวิชา ตามบริบทของโรงเรียน

3.7 หากดำเนินการสอบเกินกว่าครึ่งวัน (เกินเวลา 12.00 น) โรงเรียนต้องดำเนินการให้นักเรียนเข้าสอบครั้งเดียวจนเสร็จสิ้น จึงจะสามารถออกจากห้องสอบได้ โดยโรงเรียนจะต้องบริการอาหารว่างและน้ำดื่ม ให้แก่นักเรียนทุกคนที่เข้าสอบในช่วงเวลาพักที่โรงเรียนกำหนด เพื่อลดการสัมผัสและรวมกลุ่มกันของนักเรียน

3.8 เมื่อเสร็จสิ้นการสอบ อนุญาตให้ผู้เข้าสอบออกจากห้องสอบที่ละห้องสอบ โดยต้องให้ผู้เข้าสอบแต่ละคนเว้นระยะห่างระหว่างการเดิน โดยคำนึงหลัก Social Distancing

กรณีการคัดเลือกนักเรียนความสามารถพิเศษ (ถ้ามี)

ให้โรงเรียนดำเนินการปรับใช้แนวทางกรณีโรงเรียนมีการจัดสอบคัดเลือกข้างต้น โดยคำนึงถึงหลัก Social Distancing ทั้งนี้ หากวิธีการคัดเลือกเดิมกำหนดให้ผู้เข้ารับการคัดเลือกต้องสัมผัสตัวกัน ให้ปรับเปลี่ยนวิธีการคัดเลือก โดยถือหลักการหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน

คลิกเพื่ออ่าน หนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 04006/ ว1245 ลงวันที่ 9 เมษายน 2564 เรื่อง การรับนักเรียน ปีการศึกษา 2564 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

http://www.kruwandee.com/datas/file/1618647192.pdf


ขอบคุณที่มา: https://www.kruwandee.com/news-id46093.html?fbclid=IwAR3KoHPuwPsQFDj8oznS-hDU3axcQR7kIJI_Pv_Q6blvgZifvCPltsqR4Rk


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top