Sunday, 8 June 2025
Y WORLD

วิชาสอนให้คิด: เรื่อง อัลกอลิทึม

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันพุธที่ 19 พฤษภาคม วิชาสอนให้คิด: เรื่อง อัลกอลิทึม 

#DekThaiOnline

https://dekthai-online.com/browse

.

.

วิชาฟิสิกส์: เรื่อง ตะลุยโจทย์ฟิสิกส์เข้าเตรียม ปี 63

THE STUDY TIMES X ClassOnline

????วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม วิชาฟิสิกส์: เรื่อง ตะลุยโจทย์ฟิสิกส์เข้าเตรียม ปี 63 .

#ClassOnline

https://www.classonline.co.th/

.

.

วิชาคณิตศาสตร์: เรื่อง แนวข้อสอบ สอวน. ผลบวกอนุกรมเศษส่วน factorial

THE STUDY TIMES X DekThai Online 

????วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม

วิชาคณิตศาสตร์: เรื่อง แนวข้อสอบ สอวน. ผลบวกอนุกรมเศษส่วน factorial

#DekThaiOnline

https://dekthai-online.com/browse 

.

.

THE STUDY TIMES X DekThai Online, ClassOnline สัปดาห์แรก พบกับวิดีโอสรุปเนื้อหา เทคนิค แนวข้อสอบ แต่ละรายวิชา

???? THE STUDY TIMES X DekThai Online, ClassOnline สัปดาห์นี้

???? วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม - วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564

⏰ ทุกวัน เวลา 18.00 น.

พบกับวิดีโอสรุปเนื้อหา เทคนิค แนวข้อสอบ 5 รายวิชา คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ไทย อังกฤษ และสังคม

???? วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม

วิชาคณิตศาสตร์: เรื่อง แนวข้อสอบ สอวน. ผลบวกอนุกรมเศษส่วน factorial

???? วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม

วิชาฟิสิกส์: เรื่อง ตะลุยโจทย์ฟิสิกส์เข้าเตรียม ปี 63

???? วันพุธที่ 19 พฤษภาคม

วิชาสอนให้คิด: เรื่อง อัลกอลิทึม

???? วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม

วิชาภาษาอังกฤษ: เรื่อง เทคนิคสำหรับการทำ Reading

???? วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม

วิชาสังคม: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสังคม 9 วิชาสามัญ

???? ช่องทางรับชม

Facebook และ YouTube: THE STUDY TIMES

นอกจากความน่ารักของ 'เบเบ้' เรื่องความเก่งของเธอก็ไม่เป็นรองใคร เพราะสามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 ทั้งปริญญาตรีและโท!!

เบเบ้ ธันย์ชนก ฤทธินาคา เน็ตไอดอลรุ่นแรกของเมืองไทย นอกจากเรื่องความสวยและน่ารักแล้ว เส้นทางการศึกษาของเธอก็ไม่ธรรมดาเลย ถึงแม้ว่าจมีงานเยอะแค่ไหน แตเธอก็สามารถจัดสรรเวลาได้อย่างดี จนสามารถคว้าเกียรตินิยมอับ 1 มาครองได้ทั้งระดับปริญญาตรีและโท

นอกจากนี้แล้ว เธอยังเคยเป็นอาจารย์พิเศษสาขาการตลาด มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และในช่วงกักตัวแบบนี้ เบเบ้ ยังเป็นเหมือนครูสอนการออกกำลังกายให้กับหลายๆ คน จากคลิปสอนออกกำลังกายบนยูทูปของเธออีกด้วย

ประวัติการศึกษา เบเบ้

• จบระดับประถมศึกษา โรงเรียนแย้มสอาด

• ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพจาก โรงเรียนเซนต์จอห์นคอมเมิร์ซ ภาคอินเตอร์

• สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ด้วยคะแนนเกรดเฉลี่ยสะสม 3.91

• สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ด้วยคะแนนเกรดเฉลี่ยสะสม 3.97

สำหรับกุญแจของความสำเร็จเบเบ้เปิดเผยว่า "เบเบ้เป็นคนขยัน คือต้องขยันกว่าคนอื่นเป็น 2 เท่าเลย เพราะต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ต้องอ่านหนังสือให้มากๆ มากกว่าคนอื่น ช่วงสอบเบเบ้จะตื่นตี 5 แล้วก็อ่านหนังสือในห้องจนถึงดึก ไม่ชอบพักการอ่านหนังสือเพราะกลัวลืมค่ะ"


ที่มา

https://www.sanook.com/campus/1400104/

https://www.sanook.com/campus/1373121/

นักเรียนชายแฝด 3 สอบติดหมอมหิดล พร้อมกัน เผยเคล็ดลับ เรียนห้องเดียวกัน ปรึกษาเรื่องเรียนกันเสมอ

กลายเป็นที่ฮือฮาในจังหวัดเพชรบุรี และเป็นเรื่องที่น่ายินดี เมื่อนักเรียนชายแฝด 3 คน โรงเรียนชื่อดัง สอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมกัน ขณะที่พ่อโล่งอก ดีใจ เพราะเกรงหากคนใดคนหนึ่งสอบไม่ติดแล้วจะคิดมาก

หลังมีการแชร์ข้อมูล นักเรียนชาย 3 คน ที่เป็นพี่น้องฝาแฝด โรงเรียนพรหมานุสรณ์ จังหวัดเพชรบุรี สร้างประวัติศาสตร์ สอบติดโควตาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้พร้อมกันทั้ง 3 คน จนเป็นที่ฮือฮาในจังหวัดเพชรบุรี และมีการนำเรื่องดังกล่าวไปแชร์ในโซเชียล ซึ่งชาวเน็ตพากันแสดงความยินดีกับครอบครัวของนักเรียนทั้ง 3 คน จำนวนมาก 

โดยนักเรียนทั้ง 3 คน คือ น้องปอนด์ นายธนรัตน์ เข็มกลัด พี่ชายคนโต, น้องดอลลาร์ นายธนารักษ์ เข็มกลัด คนกลาง และ น้องมาร์ค นาย ธนพัฒน์ เข็มกลัด น้องคนเล็ก ทั้ง 3 คน อายุ 18 ปี เกิดเวลาไล่เลี่ยกัน 

นายไพโรจน์ เข็มกลัด หรือ เฮียดำ อายุ 65 ปี พ่อของแฝดสาม เผยว่า ครอบครัวภูมิใจที่ลูกชายฝาแฝดทั้ง 3 คน ทำได้สำเร็จ เพราะที่ผ่านมาสนับสนุนลูกมาตลอด โดยเฉพาะด้านการเรียน ได้เรียนห้องเดียวกัน และแต่ละคนมีอุปนิสัยคล้ายกัน มักปรึกษาเรื่องเรียนกันเสมอ เนื่องจากอาจจะถนัดและเก่งคนละวิชา จึงนำมาแชร์กันได้ ทำให้ผลการเรียนดีทุกคน แต่ก็ยอมรับก่อนหน้านี้หนักใจมาก กังวลมาก เพราะหากลูกคนใดคนหนึ่งสอบไม่ติด จะเสียใจและคิดมาก แต่เมื่อประกาศผลก็ทำให้โล่งอก


ที่มา: https://news.ch7.com/detail/485262
 

‘ร.ต.ท.ปรฉัตร รักษาวงษ์’ จากเด็กกศน. สามารถจบปริญญานิติศาสตร์บัณฑิต ตั้งแต่อายุ 19 ปี นอกจากนี้ยังสอบติดตำรวจตั้งแต่ครั้งแรกด้วยวัยดังกล่าว จากนั้นสอบตำรวจชั้นสัญญาบัตรได้คะแนนอันดับ 1 ของรุ่น

การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการที่เรามีวุฒิการศึกษาสูงเพียงใดก็ยิ่งเปรียบเสมือนใบผ่านทาง หรือเรียกได้ว่าเป็นกุญแจด่านแรกของการดำเนินชีวิตด้วยตนเองเลยก็ว่าได้

เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของครอบครัว หลังจากเฟซบุ๊ก Manunya Ruksawong คุณแม่ท่านหนึ่งได้เผยการเรียนของลูกชาย ที่ตัดสินใจไม่เรียนตามระบบ แต่ขอออกมาศึกษาด้วยตัวเองที่บ้าน พร้อมกับสอบเทียบวุฒิกับ กศน. แทน ทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกกังวลกับอนาคตของลูกชายเป็นอย่างมากตลอดช่วงที่ผ่านมา

แต่เรื่องราวกลับเกินกว่าที่ผู้เป็นแม่คิดไว้ เพราะแม้จะเรียน กศน. แต่ลูกก็จบปริญญานิติศาสตร์บัณฑิต ตั้งแต่อายุ 19 ปีนอกจากนี้ยังสอบติดตำรวจตั้งแต่ครั้งแรกด้วยวัยดังกล่าว จากนั้นสอบตำรวจชั้นสัญญาบัตรได้คะแนนอันดับ 1 ของรุ่น และในวัย 22 ปี ลูกชายก็จบเนติบัณฑิต และปริญญาโทอีกด้วย

โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเรียน กศน. ทำเอาคนเป็นแม่หัวใจสลาย คิดไปว่าลูกหลงเดินทางผิด แล้วจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร เปรียบเสมือนเดินบนเส้นด้ายอันน่าหวาดเสียว แต่ก็ห้ามไม่ได้

จนผู้เป็นแม่ได้แต่ร้องไห้ และเศร้าใจ ซึ่งก็มีพี่สาวเพื่อนที่คอยปลอบใจเท่านั้น พร้อมให้แนวคิดว่า เราจะให้ลูกมีความสุข หรือแม่มีความสุข การเรียน HOME SCHOOL นั้น เป็นทางเลือกลูก ให้ลูกเรียนไปเถอะ

ซึ่งแม่เองนั้นก็คิดว่าลูกเดินทางผิดแน่นอน เพราะไม่เข้าใจ ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากลูกเป็นคนขี้เกียจ เกเร

เด็กหลายคนเขามีเหตุผลส่วนตัวที่หลาย ๆ คนก็ไม่เข้าใจ แต่แล้วเด็ก กศน. คนนี้กลับทำให้แม่ภูมิใจ

จบปริญญานิติศาสตร์บัณฑิต เพียงอายุ 19 ปี จบเนติบัณฑิต อายุ 22 ปี จบปริญญาโท อายุ 22 ปี แล้วสอบ กพ.ครั้งแรกก็ผ่านฉลุย

สอบตำรวจครั้งแรก ก็ผ่านฉลุย (ตำรวจรับวุฒิ ป.ตรี อายุ 19 ปี อายุน้อยที่สุดในรุ่น ทำงานตำรวจชั้นประทวนได้ 2 ปีมีสิทธิ์สอบตำรวจชั้นสัญญาบัตร ผลปรากฏว่า สอบได้ที่ 1 ของรุ่นทั่วประเทศ ได้คะแนน 137 เต็ม 150)

จึงอยากให้ผู้ปกครองทั้งหลายได้เข้าใจและให้กำลังใจลูก เพราะเด็กบางคนเขามีเหตุผลในการเลือกเรียนนอกระบบ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้แบบนี้ นายแน่มาก ร.ต.ท.ปรฉัตร รักษาวงษ์

หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปได้มีผู้แชร์ออกไปเป็นจำนวนมากในโลกโซเชียล พร้อมทั้งชื่นชมกับความตั้งใจของหนุ่มคนนี้ที่ทำให้ผู้เป็นแม่ภาคภูมิใจ


ขอบคุณที่มา welovedantruat

ที่มา: https://thaisiamnews.info/2021/05/09/

เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่น่าชื่นชม "ณัฐ ศักดาทร" หรือ ณัฐ AF4 เพราะนอกจากจะมีความสามารถทางด้านดนตรี การร้องเพลงแล้ว ณัฐยังเป็นดารานักร้องที่เรียนเก่งตั้งแต่เด็ก

"ณัฐ ศักดาทร" เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ เข้าศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ก่อนไปศึกษาต่อจนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่ Peddie School ประเทศสหรัฐอเมริกา และเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จากนั้นศึกษาด้านดนตรีต่อที่ Berklee College of Music อีก 1 เทอม

สมัยเรียนอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ชั้นประถม ณัฐเรียนได้ 4.00 ทุกเทอม ระดับมัธยมต้นก็เรียนได้เกรดเฉลี่ยถึง 3.97 และตอนที่ไปเรียนมหาวิทยาลัยดังระดับโลกอย่าง ฮาร์วาร์ด ในคณะเศรษฐศาสตร์ ก็ได้เกรดเฉลี่ยสูงถึง 3.69 สามารถคว้ารางวัลเกียรตินิยมอันดับ 1 มาได้


ที่มา:

https://www.sanook.com/campus/1370710/

https://th.wikipedia.org/wiki/ณัฐ_ศักดาทร

เปิด (ปม) ภาคการศึกษา EP.3 เมื่อโรงเรียนไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัย ความเจ็บปวดในรั้วสถานศึกษาผ่านการถูกกลั่นแกล้ง (Bullying )

ทั้ง ๆ ที่สถานศึกษาควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย แต่ทำไมปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมักมีต้นตอมาจากในรั้วสถานศึกษา?

หากพูดถึงปัญหาในรั้วสถานศึกษา คงแยกย่อยออกมาได้มากมายหลายประเด็น ทั้งระบบการศึกษา คุณครู บุคลากร รวมถึงตัวเด็กนักเรียน หนึ่งในปัญหาที่พบได้มากในปัจจุบัน คงหนีไม่พ้น การบูลลี่ในโรงเรียน 

บูลลี่ (Bully) คือ การกลั่นแกล้งที่แสดงออกด้วยคำพูด หรือ พฤติกรรมที่ก้าวร้าวต่อผู้อื่น ซึ่งมักเกิดขึ้นในสังคมที่มีช่องว่างระหว่างผู้ที่มีพละกำลัง หรืออำนาจมากกว่าแสดงออกแก่ผู้ที่อ่อนแอกว่า และมีโอกาสเกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยการบูลลี่ในโรงเรียนนั้นพบได้มาก นำไปสู่ปัญหาสภาพทางจิตใจที่ร้ายแรงได้ในอนาคต

การบูลลี่มี 3 ประเภท ดังนี้ 
•    การกลั่นแกล้งทางวาจา คือ การสื่อสาร เขียน เพื่อสื่อความหมายกลั่นแกล้ง เช่น ล้อเล่น, เรียกชื่อ 
•    การกลั่นแกล้งทางสังคม คือ วิธีการทำให้เสียหน้า หรือแกล้งให้สูญเสียความสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างตั้งใจ เช่น ขับเพื่อนออกจากกลุ่ม, กระจายข่าวลือให้เสียหาย, ทำให้เกิดความอับอายในที่สาธารณะ
•    การกลั่นแกล้งทางกายภาพ คือ การกลั่นแกล้งที่เกี่ยวข้องกับร่างกายและสวัสดิภาพของผู้ถูกกลั่นแกล้ง เช่น การทุบตี ทำร้าย 

ปัญหาการถูกบูลลี่ หรือการเป็นผู้บูลลี่เองนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติในสังคมทั้งไทยและต่างประเทศ แต่สิ่งที่ทุกคนพยายามมองว่าเป็นเรื่องปกติ หากมองให้ลึกลงไปจะพบว่า การเมินเฉยต่อประเด็นดังกล่าว สร้างความเจ็บปวดในระยะยาวกับเหยื่อ ปกติแล้วการบูลลี่มักมาในรูปแบบการกลั่นแกล้งในโรงเรียน รังแกตามแบบฉบับเด็ก ๆ แต่การบูลลี่ในปัจจุบัน พบว่าเน้นไปที่การพูดจาทำร้าย บั่นทอน เหยียดหยาม ยกปมด้อยขึ้นมาหยอกล้อ 

เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน ให้ข้อมูลว่า จากการสำรวจกลุ่มเด็กอายุ 10 - 15 ปี ใน 15 โรงเรียน พบว่าร้อยละ 91.79 เคยถูกบูลลี่ และวิธีการที่ใช้มากที่สุดคือ การตบหัว ถูกล้อชื่อพ่อชื่อแม่ และถูกเหยียดหยาม และอื่น ๆ เช่น ล้อปมด้อย พูดจาเสียดสี เป็นต้น

การตกเป็นเหยื่อของการบูลลี่ เหยื่อนั้นต้องแบกรับอารมณ์ความรู้สึกด้อยค่า ไม่มั่นใจ กดดัน ส่งผลให้เด็กเก็บกด อับอาย จนอาจถึงขั้นทำร้ายตัวเอง ดังกรณีข่าวเมื่อช่วงต้นปีที่แล้วของเด็กชายคนหนึ่ง ชื่อ น้องมาร์ค นักเรียนชายวัยมัธยมต้น ที่เจ้าตัวตัดสินใจจบชีวิตลงด้วยตัวเอง ทั้งที่ยังเด็ก ด้วยการผูกคอตาย โดยสาเหตุของการฆ่าตัวตายของน้องมาร์ค ถูกเปิดเผยเนื่องจากน้องมาร์คได้มีการเขียนข้อความทิ้งเอาไว้ บอกว่าสาเหตุนั้นไม่ใช่เพราะเรื่องเรียน หรือเรื่องอะไร แต่สาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจจบชีวิต เพราะถูกเพื่อนร่วมห้องแกล้งและบูลลี่มาโดยตลอด หรือกรณีของเด็ก ม.1 ที่ก่อเหตุยิงเพื่อนเพราะถูกล้อว่าเป็นตุ๊ด และข่าวน้อง ป.5 ผูกคอในห้องน้ำโรงเรียน หนีการถูกเหยียด

กรณีที่ยกมาเป็นเพียงแค่ตัวอย่าง ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ในรั้วโรงเรียนที่เกิดขึ้นมากมาย โดยที่สังคมหรือผู้ปกครองไม่รับรู้ ในสังคมไทยต้องเลิกมองว่าเรื่องบูลลี่ กลั่นแกล้งกัน เป็นเรื่องปกติธรรมดาแล้วปล่อยผ่าน เรื่องนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญ และสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่ถูกต้อง เร่งปลูกฝังเรื่องการเคารพสิทธิเนื้อตัวร่างกาย การให้เกียรติกัน 

หากการบูลลี่ยังคงอยู่ในสังคมไทย และไม่มีการจัดการที่เป็นรูปธรรม อาจนำไปสู่ปัญหาทำให้เด็กไม่อยากไปโรงเรียน ส่งผลต่อการเรียนและความปลอดภัยของเด็ก การรณรงค์เพียงอย่างเดียวอาจไม่ช่วยให้ปัญหานี้หมดไป แต่มองว่าผู้ปกครองและสถาบันครอบครัว ควรมีบทบาทในการสอดส่องดูแล สังเกตพฤติกรรม อารมณ์ความรู้สึก อบรมสั่งสอน ทั้งสร้างความมั่นใจให้กับเด็ก ไม่ให้ตกป็นเหยื่อของการถูกบูลลี่ รวมถึงการสั่งสอนให้ลูกไม่เป็นผู้กระทำการบูลลี่เอง

 

อ้างอิงข้อมูล

https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2034455
https://hilight.kapook.com/view/200921
https://www.thairath.co.th/news/society/1729051

.

.

การประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ประจำปี 2564 ร่วมโหวตผลงานโดนใจ "เตียงลอยน้ำจากขวดพลาสติกเพื่อผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ประสบอุทกภัย"

เตียงลอยน้ำจากขวดพลาสติก เพื่อผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ประสบอุทกภัย Floating bed made of plastic bottles for bed-bound patient in the flood area.

เตียงลอยน้ำจากขวดพลาสติกเพื่อผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ประสบอุทกภัย

แนวคิด นำขวดพลาสติกใช้แล้วทิ้ง ใส่แนวคิดเชิงออกแบบ เป็นนวัตกรรมช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่อุทกภัย

ลักษณะเฉพาะ ทำยูนิตทุ่นลอยน้ำจากขวดและตะกร้าพลาสติก รับน้ำหนักได้ตามหลักแรงลอยตัวทางฟิสิกส์

กระบวนการ นำขวดพลาสติกปิดฝาจัดวางจนเต็มตะกร้า ยึดปิดด้วยสายรัดพลาสติก จัดวางและยึดแต่ละยูนิตต่อกันตามต้องการ

ทดลองใช้และมอบสู่ชุมชน สามารถใช้งานได้จริงและปลอดภัย มอบให้ผู้ป่วยติดเตียงในชุมชนปากนคร 5 ครอบครัว เตียงขนาด 3.5 ฟุต รับน้ำหนักได้ 288 กก.

การต่อยอดเชิงพาณิชย์ ทำเตียงลอยน้ำ 2 ชั้น สำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแล โดยเตียงเสริมทำจากโครงตะแกรงเหล็ก ติดตั้งล้อเลื่อน และมีจุดเชื่อมยึดกับเตียงหลักเข้าด้วยกันเมื่ออุทกภัย ทำให้ผู้ดูแลสามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและของใช้จำเป็น ได้อย่างทันท่วงที (จดอนุสิทธิบัตร 5 มี.ค. 64)

ประโยชน์จากโครงการ

- ลดขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม เตียง 3.5 ฟุต ลดปริมาณขวดน้ำ (600 cc) 480 ขวด ตะกร้า 40 ใบ

- ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่องค์กรและชุมชน ได้แก่ อบจ. วพบ. อสม. ปากนคร และชุมชนเกาะทวด นครศรีธรรมราช

ผู้จัดทำ

1.) นายพชร อัศวผดุงสิทธิ์ นางสาวพิชามญชุ์ อัศวผดุงสิทธิ์

2.) แพทย์หญิงเจริญตา อัศวผดุงสิทธิ์ นายแพทย์สุรเจตน์ อัศวผดุงสิทธิ์

 

ร่วมโหวตได้ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 พ.ค. 64

https://kmutnb-inno.top/invention/11/atifact/70?back=%2Fvote

วันฉัตรมงคล ตรงกับวันที่ ๔ พฤษภาคม วันสำคัญอีกวันหนึ่งของไทย เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี

ความหมายของวันฉัตรมงคล

วันฉัตรมงคล (อ่านว่า ฉัด-ตระ-มง-คล) มีความหมายตามพจนานุกรมว่า พระราชพิธี ฉลองพระเศวตฉัตร ทำในวันซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษก

ความสำคัญของวันฉัตรมงคล

วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

ดังนั้น รัฐบาลไทยและพสกนิกร จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตรหรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พสกนิกรชาวไทยจึงได้ถือเอาวันที่ ๔ พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคล เพื่อน้อมรำลึกถึงวันสำคัญนี้


ที่มา: https://hilight.kapook.com/view/188122

คติประจำใจจาก "St. Augustine of Hippo" (นักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดองค์หนึ่งของคริสตจักรคาทอลิก)

"The world is a book and those who do not travel read only one page."

"โลกใบนี้เปรียบเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่เคยเดินทางเลย ก็เปรียบเหมือนคนที่อ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว."


St. Augustine of Hippo (นักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดองค์หนึ่งของคริสตจักรคาทอลิก)

ประสบการณ์จำไม่ลืมในจีน ของ 4 สาวเพื่อนซี้ | เพื่อนซี้หนี่ห่าว EP.10

4 สาวเพื่อนซี้ พากันมาเล่าประสบการณ์จำไม่ลืม ช่วงที่ไปเรียนประเทศจีน จะแสบขนาดไหน ต้องติดตาม! พร้อมคำศัพท์น่ารู้ที่สาว ๆ นำมาฝาก

.

.

เอ็มม่า วัตสัน หนึ่งในนักแสดงวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จสุดๆ คนหนึ่งของวงการฮอลลีวูด ทั้งผลงานการแสดงสร้างชื่อมากมายและประวัติการศึกษาที่ไม่ธรรมดา!

เอ็มม่า วัตสัน (Emma Watson) เป็นที่รู้จักกันดีในบทแม่มดน้อย เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ จาก Harry Potter ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนักเขียนชาวอังกฤษ J.K. Rowling นวนิยายที่ขายดีที่สุด

เอ็มม่าเข้าศึกษาที่โรงเรียน Dragon ในเมืองออกซ์ฟอร์ด ตอนเอ็มม่าอายุ 6 ขวบ เอ็มม่ารู้ตัวว่าอยากเป็นนักแสดง เอ็มม่าจึงเข้าเรียนร้องเพลง เต้นรำ และการแสดงที่โรงเรียน Stagecoach Theatre Arts แบบไม่เต็มเวลาหลังเลิกเรียน

ตอนอายุ 10 ขวบ เอ็มม่าได้แสดงละครเวทีของโรงเรียนสเตจโคชหลายเรื่อง รวมถึงเรื่อง "Arthur: The Young Years" and "The Happy Prince"

หลังจบโรงเรียน Dragon School เอ็มม่าย้ายไปเรียนที่โรงเรียน Headington School ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 เอ็มม่าได้เข้าสอบ GCSE 10 วิชา ได้รับเกรด A+ ทั้งหมด 8 วิชา และเกรด A ทั้งหมด 2 วิชา

เอ็มม่าได้เริ่มเข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยบราว์ (Brown University) ตั้งแต่ปี 2009 และมหาวิทยาลัยบราวน์เป็น 1 ใน 8 สมาชิกของไอวีลีก (Ivy League) คือ กลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชนในอเมริกาที่มีชื่อเสียงอย่างมากในด้านคุณภาพการศึกษาที่ดีเยี่ยม

เอ็มม่าได้พักการเรียนปี 1 ปีในปี 2011 เพื่อกลับไปเต็มที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Harry Potter ภาคสุดท้ายในเสร็จ หลังจากนั้นเอ็มม่าก็กลับมามุ่งมั่นตั้งใจเรียนต่อเพื่อลบคำสบประมาทของใครหลายๆ คนที่บอกว่าเธอจะเรียนไม่จบ และเอ็มม่าได้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยบราวน์ คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวรรณกรรมอังกฤษ


ที่มา: https://ewthailand.blogspot.com/p/emma-watson-biography.html

ประกาศโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

ประกาศโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เรื่อง การรับรายงานตัวและมอบตัวนักเรียน ตามลำดับสำรอง ครั้งที่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2564 ประกาศ ณ วันที่ 30 เมษายน 2564

https://www.facebook.com/1418062688512699/posts/2900724780246475/?sfnsn=mo


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top