Wednesday, 18 June 2025
SPECIAL

'แอนโทนี บลิงเคน' นัดคุยนอกรอบผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา  ถกปัญหา ปชต.ในเขมร ก่อนเลือกตั้งใหญ่ปีหน้า 

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางมาถึงกัมพูชาแล้ว เพื่อเข้าร่วมงานประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 55 ที่จัดขึ้นในกรุงพนมเปญ

ซึ่งการเดินทางมากัมพูชาในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกำหนดการเยือนต่างประเทศเป็นเวลา 10 วัน ของ บลิงเคน ซึ่งได้เลือกแลนด์ดิ้งที่กัมพูชาเป็นประเทศแรก ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังฟิลิปปินส์, แอฟริกาใต้, คองโก, รวันดา ตามลำดับ 

โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เข้าพบกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อหารือกันในหลายประเด็น ตั้งแต่สถานการณ์ในพม่า ความมั่นคงด้านสาธารณสุขของอาเซียน การสนับสนุนด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังย้ำถึงบทบาทของอาเซียนในการร่วมประณามรัสเซียในวิกฤติสงครามยูเครน รวมถึงความโปร่งใสของรัฐบาลกัมพูชา ในความร่วมมือด้านการทหารกับจีนในการพัฒนาฐานทัพเรือที่เมืองเรียม 

และนอกจากประเด็นเหล่านี้ บลิงเคน ยังได้หยิบยกเอาเรื่องของ นาง เธียรี เส็ง นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวกัมพูชา ที่ถือสัญชาติสหรัฐฯ ขึ้นมาพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ด้วย 

ซึ่ง ตอนนี้ เธียรี่ เส็ง ถูกตัดสินจำคุกนาน 6 ปีในข้อหากบฏ หลังจากที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลของ นาย ฮุน เซน โดย บลิงเคน กล่าวย้ำว่าต้องการให้รัฐบาลปล่อยตัวนาง เธียรี เส็ง โดยไว และให้รัฐบาลกัมพูชาเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของชาวกัมพูชาในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้อย่างอิสระ

บลิงเคน กับ ฮุน เซน ยังได้มีการพูดคุยเรื่องปัญหาการเมืองภายในประเทศอีกด้วย หลังจากตอนนี้มีนักการเมืองฝ่ายค้าน และนักเคลื่อนไหว ถูกตัดสินในความผิดข้อหากบฏ ขายชาติไปแล้วกว่า 60 คน ซึ่งบลิงเคนมองว่า เป็นสิ่งที่กัดเซาะหลักการด้านสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตยในกัมพูชา

ราชภัฏเชียงใหม่เจ๋ง!! ร่วม ‘ฮิโนต้า’ วิจัยพัฒนาการผลิตอินทรีย์ นำผลลัพธ์ขับเคลื่อนสู่เชิงพาณิชย์

ไม่นานมานี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ การวิจัยและพัฒนาปัจจัยการผลิตอินทรีย์ กับ บริษัท ฮิโนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อนำผลงานวิจัยขับเคลื่อนสู่เชิงพาณิชย์

โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ชาตรี มณีโกศล ตำแหน่ง รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ได้เป็นประธานในพิธีพร้อมลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ การวิจัยและพัฒนาปัจจัยการผลิตอินทรีย์ กับ นายโอฬาร ระสถิตย์ชัย ที่ปรึกษาอาวุโสกรรมการผู้จัดการบริษัท ฮิโนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ณ ห้องประชุมสะลวง ชั้น 2 อาคารอำนวยการและบริหารกลาง มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม ซึ่งเป็นการร่วมกันวิจัยและพัฒนาปัจจัยการผลิตอินทรีย์ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในประเทศไทย

โรงพยาบาลพญาไท 3 จัดกิจกรรม ครอบครัวคนรักษ์ข้อครั้งที่ 13 'ข้อฟิต คนฟิน'

ปัจจุบันแนวโน้วสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ในปัจจุบันหันมาดูแลสุขภาพและเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี ดังนั้นกิจกรรมกลุ่มสำหรับผู้สูงอายุจึงเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นสำหรับประชากรในกลุ่มนี้ โรงพยาบาลพญาไท 3 โดยศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและข้อโรงพยาบาลพญาไท 3 จึงให้ความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยจัดกิจกรรม ครอบครัวคนรักษ์ข้อซึ่งในปีนี้เราจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 13 โดยตลอดระยะเวลา 12 ปีของการจัดงานที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลพญาไท 3 มุ่งเน้นเรื่องการรักษาที่มีประสิทธิภาพและการดูแลหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมอย่างใกล้ชิด ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติอีกครั้ง อีกทั้งเรายังไม่หยุดพัฒนาเรื่องการรักษามีการนำเข้าหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเข้ามาวางแผนการผ่าตัดร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มความแม่นยำ ลดอาการบาดเจ็บ ฟื้นตัวเร็ว ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ

กิจกรรมครอบครัวคนรักษ์ข้อครั้งที่ 13 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่โรงพยาบาลพญาไท 3 นำทีมโดย นพ.สุรพล โล่ห์สิริวัฒน์ ผุ้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 3 ร่วมกับ ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและข้อโรงพยาบาลพญาไท 3 พร้อมด้วยทีมแพทย์และคณะผู้บริหารตั้งใจจัดกิจกรรมดีๆ นี้ขึ้น เพื่อผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมกับทางโรงพยาบาลได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทำกิจกรรมร่วมกัน 

โดยในครั้งนี้จัดขึ้นในวันที่ 31 กรกฏาคม 2565 ณ โรงแรม RAMADA เจริญกรุง ภายใต้คอนเซ็ปการจัดงาน 'ข้อฟิต คนฟิน' มุ่งเน้นการทำกิจกรรมเพื่อสร้างความสุขสนุกสนานพร้อมทั้งผู้ที่เข้าร่วมงานยังได้โชว์ศักยภาพข้อเข่าที่ได้รับการผ่าตัดรักษาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้า และบุคลากรในโรงพยาบาลทุกภาคส่วนขอบคุณที่ลูกค้าทุกท่านให้ความไว้วางใจเข้ามาผ่าตัดรักษาเปลี่ยนข้อเข่าเทียมกับทางโรงพยาบาลพญาไท 3 โดยบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ด้วยฐานกิจกรรมเกมส์มหาสนุกตามฐานต่างๆ กิจกรรมเวิร์คช้อป DIY หน้ากากผ้าอนามัย ฐานกิจกรรมทางกายภาพบำบัด พร้อมทั้งรับประทานอาหารร่วมกัน

ปลื้ม..!! ตำรวจท่องเที่ยว ภรรยาผู้บริหารยางบริดจ์สโตน ทำโทรศัพท์มือถือหาย ตำรวจท่องเที่ยว ช่วยตามหาส่งคืน

วันนี้ (31 ก.ค.2565) เวลา 12.00 น. พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการและโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงต่อสื่อมวลชนว่า 

เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.2565) เวลา 10.50 น. สถานีตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดอยุธยา ได้รับแจ้งจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 1155 ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นร้องขอความช่วยเหลือเนื่องจากไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ตำรวจท่องเที่ยวอยุธยาจึงได้นำตำรวจท่องเที่ยวพร้อมล่ามแปลไปพบนักท่องเที่ยวดังกล่าวทันที  

จากการสอบถามผ่านล่ามทราบว่า นักท่องเที่ยวดังกล่าวชื่อ นางอะยาโนะ ยาสุฮาระ ( Ayano Yasuhara ) อายุ 45 ปี สัญชาติญี่ปุ่น เป็นภรรยาของผู้บริหารระดับสูงบริษัทผลิตยางยี่ห้อบริดจ์สโตน เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา และมีกำหนดบินกลับญี่ปุ่นในวันที่ 2 ส.ค.2565 ได้ทำโทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟนหายเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันเดียวกัน

ตำรวจท่องเที่ยวอยุธยาได้สอบถามนางอะยาโนะว่าไปที่ไหนมาบ้าง และทราบภายหลังว่า ก่อนมาไหว้พระที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุธยานั้น ตนเองได้เเวะปั๊มน้ำมันเชลล์ที่ตำบลบ้านป้อม จังหวัดอยุธยา เพื่อเข้าห้องน้ำ ตำรวจท่องเที่ยวจึงรีบพานางอะยาโนะไปตรวจสอบที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าวทันที 

เมื่อถึงปั๊มน้ำมัน ได้พบนางวันเพ็ญ มาเมือง พนักงานทำความสะอาดประจำปั๊มน้ำมันดังกล่าว ซึ่งแจ้งว่าตนเองเป็นผู้พบโทรศัพท์มือถือไอโฟนตกอยู่หน้าห้องน้ำจึงเก็บมา แล้วไปฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ปั๊มน้ำมันเพราะคิดว่าเจ้าของโทรศัพท์ต้องกลับมาติดต่อรับคืนอย่างแน่นอน ตำรวจท่องเที่ยวตรวจสอบเเล้วพบว่าเป็นของนางอะยาโนะจริง จึงให้นางวันเพ็ญนำมาส่งคืนให้นางอะยาโนะด้วยตนเอง
      
ทันทีที่คุณอะยาโนะได้รับโทรศัพท์มือถือของตัวเองคืน ได้แสดงอาการดีใจและเข้ามาขอบคุณนางวันเพ็ญ และตำรวจท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ยืนยันว่า จะกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกแน่นอน 

พล.ต.ต.อภิชาติฯ ถือโอกาสนี้ ขอบคุณตำรวจท่องเที่ยวอยุธยาที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ และขอขอบคุณคุณวันเพ็ญ มาเมือง ที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยว โดยกล่าวยกย่องการกระทำของคุณวันเพ็ญ นำมาซึ่งความประทับใจต่อนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรายนี้อย่างมากมาย ซึ่งเชื่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะถูกนำไปถ่ายทอดให้กับคนญี่ปุ่นอีกหลายคนต่อไป จะส่งผลให้การท่องเที่ยวไทยเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและจะเป็นมหาอำนาจของการท่องเที่ยวของโลกต่อไป 

พล.ต.ต.อภิชาติฯ กล่าวเสริมอีกว่า ตำรวจท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้การท่องเที่ยวมีคุณภาพไปได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม และเหตุการณ์ในครั้งนี้ รวมทั้งครั้งก่อนๆ ที่ตำรวจท่องเที่ยวได้สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ที่ผ่านมา จะเป็น good signature ของการท่องเที่ยวไทยที่นักท่องเที่ยวไม่มีวันลืมเลือนจากหัวใจ 

‘เจ๊นาง โรงทาน’ คนดังเมืองกาฬสินธุ์ ทำเอาคนมาร่วมงานฌาปนกิจศพต่างอบอุ่นซึ้งใจ ไปตามกัน เมื่อประกาศพร้อมส่งเสียวัยรุ่นฝาแฝดยากจนบ้านอยู่ข้างเมรุ ที่กำพร้าพ่อ ส่วนแม่พิการทางสติปัญญา ให้มีโอกาสได้ศึกษาต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เมรุสถานโนนบ้านเก่า บ้านตูม หมู่ 4 และหมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พระครูโพธิชยานุโยค เจ้าคณะตำบลบัวบาน เขต 1 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา หรือ “เจ๊นาง โรงทาน” อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พิธีทอดผ้ามหาบังสุกุลและวางดอกไม้จันทน์ ในงานฌาปนกิจศพนายชาตรี ภูผาลาด อาชีพเลี้ยงกุ้งก้ามกรามและพ่อค้าคนกลางกุ้งก้ามกราม บ้านตูม หมู่ 4 หลังเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว โดยมีนายบรรจง ยนต์ชัย ส.อบจ.อ.ยางตลาด เขต 4, นางสมจิตร จันทะภา สท.ทต.โคกศรี อ.ยางตลาด, นางละมุล ภักดีนอก ผู้ใหญ่บ้านตูม หมู่ 4 พร้อมแขกผู้มีเกียรติ ญาติพี่น้อง จำนวนกว่า 200 คนร่วมพิธี และไว้อาลัยให้กับผู้วายชนม์

โดยพิธีฌาปนกิจจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าอาลัย ทั้งนี้ ก่อนที่จะถึงขั้นตอนของการอ่านประวัติผู้วายชนม์ และถวายผ้าบังสุกุล  ได้มีการมอบเงินสงเคราะห์ญาติผู้ล่วงลับ โดยองค์กรและสมาคมฌาปนกิจต่างๆ  จากนั้นเจ้าภาพมอบทุนสนับสนุนเพื่อการสาธารณะกุศลแก่วัด โรงเรียน หมู่บ้าน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติของชุมชน 

จากนั้นนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา หรือเจ๊นาง โรงทาน ได้ร่วมมอบเงินทำบุญให้กับเจ้าภาพ พร้อมแจ้งให้พิธีกรในงานประกาศว่า ในโอกาสนี้ยังจะได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวเด็กวัยรุ่นฝาแฝดชายฐานะยากจน โดยบิดาถูกทำร้ายเสียชีวิต อาศัยอยู่กับมารดาซึ่งเป็นบุคคลพิการทางสติปัญญา ขณะที่บ้านซึ่ง 3 คนแม่ลูกพักอาศัยเป็นบ้านปูนชั้นเดียว และมีสภาพทรุดโทรม โดยเฉพาะที่สร้างความสลดและหดหู่ให้กับผู้พบเห็นคือ ตัวบ้านที่กินอยู่หลับนอน อยู่ห่างจากเมรุเผาศพเพียง 30 เมตรเท่านั้น

 นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา หรือเจ๊นาง โรงทาน กล่าวว่า ตนจำได้ว่าเมื่อปี 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับการประสานจากเครือข่ายจิตอาสาให้เข้ามาช่วยเหลือครอบครัว น.ส.บุญรบ ขันอาสา อายุ 50  ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 4 หญิงพิการทางสติปัญญา พร้อมบุตรชายฝาแฝดวัย 14 ปี คือ ดช.ธนพล และ ดช.ภัทรพล ภูนาชัย ซึ่ง 3 แม่ลูกฐานะยากจน ที่พักอาศัยเป็นบ้านปูนหลังเล็กๆติดพื้น ก่อหยาบๆ สภาพเก่าทรุดโทรม ฝาผนังและหลังคาสังกะสี เต็มไปด้วยรูโหว่ แทบไม่มีสภาพเป็นบ้าน 

โดยครั้งนั้นตนไม้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งพร้อมถุงยังชีพ ประกอบด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง ก่อนที่ต่อมาส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เข้ามาต่อยอดโดยปรับปรุงที่พักอาศัยและมอบเครื่องนอน ซึ่งในครั้งนั้นตนได้พูดคุยกับ 3 แม่ลูก ต่อหน้าผู้นำชุมชนและญาติ ว่าพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้ทุกด้าน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ตั้งธงไว้คือพร้อมที่ส่งเสริมด้านการศึกษาให้กับเด็กชายฝาแฝด หากต้องการหรือขาดเหลืออะไรให้บอกด้วย หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้ติดตามผล แต่ก็รู้สึกเบาใจที่ทราบว่ามีหลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมดูแล 3 แม่ลูกเป็นระยะๆ

สายการบินนกแอร์ ขอเยียวยาผู้โดยสารจากเหตุเครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ด้วย 5 มาตรการ อาทิ ได้รับบัตรโดยสารไป-กลับฟรี 1 ที่นั่ง โดยไม่ระบุชื่อผู้โดยสาร โดยเก็บเครดิตไว้ได้ 100%  ตลอด 1 ปี ยังไม่จำเป็นต้องเดินทาง

กรณีเครื่องบินสายการบินนกแอร์เที่ยวบินที่ DD108 เส้นทางดอนเมือง-เชียงราย ผู้โดยสาร 164 ท่าน พร้อมลูกเรือ 6 ท่าน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 20.03 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เวลา 21.06 น. ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายมีฝนตกหนัก ทำให้เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ และนักบินสามารถจอดเครื่องได้อย่างปลอดภัย และนำผู้โดยสารพร้อมลูกเรือทั้งหมดลงจากเครื่องเข้าไปยังอาคารผู้โดยสาร โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ในเวลาต่อมาสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ต้องประกาศปิดบริการทุกเที่ยวบินเพิ่มอีกเป็นเวลา 3 วันนั้น และทางบริษัทฯ จะเร่งดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้วแจ้งให้ทราบตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด วันนี้ (31 ก.ค.) สายการบินนกแอร์แจ้งมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกเที่ยวบิน  ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย วันที่ 31 กรกฎาคม 2565 โดยทางสายการบินนกแอร์ขอเยียวยาผู้โดยสาร 5 มาตรการ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระบรมราชานุญาต ให้ประชาชนเข้าถวายสักการะ พระบรมรูปทรงม้า ภายในเขตพระราชฐาน ลานพระราชวังดุสิต ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. ย้ำชัดไม่เคยปิดกั้นอย่างที่ลือ

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. เฟซบุ๊ก “Wassana Nanuam” ของ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอความยาวกว่า 2 นาที เผยว่า ลานพระบรมรูปทรงม้า ประชาชนสามารถเข้าสักการะได้แล้ว ในช่วงเวลา 6.00 น. -22.00 น. ทุกวัน โดยได้ระบุข้อความว่า

"ในหลวง พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ประชาชน เข้าสักการะ "พระบรมราชานุสรณ์ ร.5" ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ลานพระราชวังดุสิต ได้ทุกวัน เวลา 0600-2200น. แม้สร้างรั้ว เพื่อความปลอดภัย เขตพระราชฐาน ไม่ใช่แบ่งกั้นพระราชากับประชาชน

"รองฯ รอย" แท็กทีม ผบช ปส. เปิดปฏิบัติการฯบุกค้น 4 เครือข่ายค้ายาฯ ภาคเหนือ รวบตัวระดับผู้สั่งการ ยึดทรัพย์กว่า 60 ล้านบาท เครือข่ายนายฮ้อยทมิฬ,เครือข่ายมังแม่เปา,เครือข่ายอาข่าผาขาว และเครือข่ายฝิ่นดิบมูเซอ

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 เวลา 11.00 น. ที่ บ้านเลขที่ 256 ม.5 ต.แม่ยาว อ.เมือง จว.เชียงราย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.และผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ท.บุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3,ผบ.ศป.บส.ชน., พล.ต.ท.พรชัย เจริญวงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร.รรท.รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.นพดล ศรสําราญ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.จิรวัฒน์ ผยุงธรรม รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ประยูรศิริ รองผบช.ภ.5,นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย,พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1,พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พ.อ.ธรรมรัตน์ เหรียญ ทอง ผบ.บก.ควบคุม ปส. และ นายอนุเทพ ธาระณะ นักสืบสวนสอบสวนชํานาญการชํานาญพิเศษ/ผู้อํานวยการส่วนตรวจสอบ ทรัพย์สินและบังคับโทษปรับ และ พ.ต.อ.อดุลย์ สิริสิทธินันท์ ผกก.ตชด.32 ได้ร่วมแถลงข่าวผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น แผนปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น กลุ่มนักค้ายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ จํานวน 4 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายนายฮ้อยทมิฬ, เครือข่ายม้งแม่เปา, เครือข่ายอาข่าผาขาว,เครือข่ายฝิ่นดิบมูเซอ และการจับกุมยาบ้า จํานวน 5,690,000 เม็ด และ เคตา มีน 10 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565

พล.ต.อ.รอยฯ เปิดเผยว่า “กรณีแรก "เครือข่ายนายฮ้อยทมิฬ” สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมนักค้ายาเสพติด รายสําคัญ ได้จํานวน 3 คน พร้อมของกลางยาบ้าประมาณ 7 ล้านเม็ด ตนและ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 ดําเนินการเร่งขยายผลและจับกุมผู้กระทําความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาดําเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และจากการ สอบสวนสืบสวนขยายผลพบว่าในเครือข่ายมีกลุ่มผู้สั่งการผู้ต้องหาในการลําเลียงยาเสพติดเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จนถึงถูกจับกุมมีการลักลอบลําเลียงยาเสพติดไปแล้วมากกว่า 20 ครั้ง แต่ละครั้งมากน้อยไม่เท่ากัน รวมยาบ้าที่ถูกลําเลียง มาแล้วประมาณ 50 ล้านเม็ด และยังมีการสั่งการให้ผู้ต้องหาเปิดบัญชีธนาคารส่งไปให้กลุ่มผู้สั่งการใช้รับเงินค่ายาเสพติด จากการตรวจสอบบัญชีตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ถึงถูกจับกุมมีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 400 ล้านบาท สำหรับกรณีนี้ กลุ่มผู้สั่งการจะ ถอนเงินสดส่วนหนึ่งส่งให้กับเจ้าของยาเสพติดภายนอกประเทศ เงินอีกส่วนหนึ่งจะนํามาซื้อทรัพย์สินเป็นบ้าน, ที่ดิน, ทองคํา, รถหรู และเก็บเงินสดไว้ในบัญชีธนาคารส่วนตัว จากการขยายผลข้อมูลดังกล่าว จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถ ขออนุมัติจากศาลอาญาออกหมายจับกลุ่มบุคคลผู้สั่งการได้ จํานวน 3 คน คือ

(1.)นายสุวิจักขณ์ สงวนนามสกุล อายุ 44 ปี ที่อยู่ 127 ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน จว.พะเยา เป็นบุคคลตามหมายจับ จํานวน 4 หมายจับ คือ หมายจับศาลจังหวัดแพร่ ที่ 20/2559 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559 ข้อหา “ครอบครองยาเสพติดเพื่อจําหน่าย”, หมายจับของศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ.48/2564 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2564 ข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์, ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ซึ่งมีปริมาณคํานวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินกว่ายี่สิบกรัมขึ้นไปไว้ในความครอบครองเพื่อจําหน่ายและ จําหน่ายโดยผิดกฎหมาย”, หมายจับของศาลจังหวัดพะเยา ที่ จ.81/2564 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์”, หมายจับศาลอาญา ที่ 429/2565 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, กระทําโดยหัวหน้า ผู้มีหน้าที่สั่งการ หรือผู้มีหน้าที่จัดการในเครือข่ายอาชญากรรม และทําให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป, ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน, สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป กระทําความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทําความผิดฐานฟอกเงินตามเหตุที่ได้มีการสมคบกัน”

(2.)นายวีรชน สงวนนามสกุล อายุ 40 ปี ที่อยู่ 170 หมู่ที่ 9 ต.ศรีถ้อย อ.แม่สรวย จว.เชียงราย เป็นบุคคลพ้นโทษในคดียาเสพติด และเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 430/2565 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน, กระทําโดยหัวหน้าผู้มีหน้าที่สั่งการ หรือผู้มีหน้าที่จัดการในเครือข่ายอาชญากรรม และทําให้เกิดผลกระทบต่อ ความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป,ฟอกเงิน,ร่วมกันฟอกเงิน,สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป กระทําความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทําความผิดฐานฟอกเงินตามเหตุที่ได้มีการสมคบกัน”

(3.)น.ส.ศิริพร สงวนนามสกุล อายุ 30 ปี ที่อยู่ 256 หมู่ที่ 5 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย เป็นบุคคล ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 431/2565 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, กระทําโดยหัวหน้า ผู้มีหน้าที่สั่งการ หรือผู้มีหน้าที่จัดการในเครือข่ายอาชญากรรม และทําให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือ ความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป,ฟอกเงิน,ร่วมกันฟอกเงิน,สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป กระทําความผิดฐานฟอกเงิน และได้กระทําความผิดฐานฟอกเงินตามเหตุที่ได้มีการสมคบกัน”   ต่อมาในวันที่ 27 กรกฎาคม 26565 จึงได้ทําการจับกุมนายสุวิจักขณ์  ได้ในพื้นที่ จว.แพร่ และจับกุม นายวีรชน  กับน.ส.ศิริพร  ได้ในพื้นที่ จว.เชียงราย และได้มีการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อยึดทรัพย์เครือข่าย “นายฮ้อยทมิฬ”จํานวน 20 จุดตรวจค้น (พื้นที่จังหวัดเชียงราย, พะเยา และชัยนาท) โดยบูรณาการร่วมกับ สํานักงาน ป.ป.ส., ตํารวจภูธร ภาค 5, ศอ.บส.ชน., บก.ตชด.ภาค 3, หน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ทั้งเจ้าหน้าที่ตํารวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ สํานักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา ประจําประเทศไทย (DEA) โดยมีผลการปฏิบัติจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบรวมมูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท ประกอบด้วย
(1) เงินสด จำนวน 100,000 บาท (2) อายัดเงินในบัญชีธนาคาร 15,665,700 บาท (3) ทองคํา 22 บาท (4) ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 8 หลัง (5) ที่ดินเปล่า 2 แปลง (6) รถยนต์ 16 คัน
(7) รถจักรยานยนต์ จํานวน 3 คัน

สวนนงนุชพัทยา  เพิ่มรอบการแสดงนงนุชโชว์และการแสดงช้างแสนรู้อีก1รอบเป็น2รอบต่อวันเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

     สวนนงนุชพัทยา  จัดเพิ่มรอบการแสดงนงนุชโชว์และการแสดงช้างแสนรู้ จากเดิมวันละ 1 รอบ เพิ่มเป็นวันละ 2 รอบ คือ รอบเช้า 10.30 น. และ รอบบ่าย 13.30 น.เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมสวนนงนุชพัทยา พร้อมกันนี้สวนนงนุชพัทยาได้จัดโปรโมชั่นสำหรับเข้าชมนงนุชโชว์และช้างแสนรู้เพียง100 บาทเริ่ม 1 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป

  สวนนงนุชพัทยา ยังต่อโปรโมชั่นพิเศษสุดตลอดเดือนสิงหาคมเพียงท่านซื้อบัตรผ่านประตู 1ใบแถมฟรี1ใบและยังคงมีโปรโมชั่นสำหรับเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 140 ซม. เข้าชมสวนฟรี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าชมสวนฟรีทุกวันศุกร์โดยสวนนงนุชเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา08.00 น.–18.00 น.  
     
     

รัฐบาล ยันเดินหน้าแก้หนี้ กยศ. ทุกมาตรการ พร้อมเร่งดันกฎหมายเข้าสภา หวังช่วยผู้กู้ที่เดือดร้อน เผยที่ผ่านมาช่วยปรับโครงสร้างหนี้กยศ. มีผู้ได้รับประโยชน์แล้วกว่า 2.3 ล้านคน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเร่งให้การช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ.อย่างเต็มที่ ครอบคลุมการลดภาระหนี้ ลดความเสี่ยงถูกดำเนินคดี แก้กฎหมายให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น ล่าสุดกองทุนฯ ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม จัดงานไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศเพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ 

มีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มที่ค้างชำระหนี้ที่ถูกบอกเลิกสัญญาและกำลังจะถูกฟ้อง และกลุ่มที่จะถูกบังคับคดี หากผู้กู้ยืมเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ย กองทุนฯจะไม่ดำเนินคดี และนอกจากนั้น ผู้กู้ยืมจะได้รับส่วนลดเบี้ยปรับ รวมทั้งได้รับโอกาสในการขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้ถึงอายุ 65 ปี เพื่อให้ผู้กู้ยืมสามารถกลับเข้ามาสู่ระบบการชำระหนี้ให้เป็นปกติ 

พร้อมทั้งขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้กู้ยืมมาชำระเงินคืน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 65 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 65 โดยมีมาตรการ คือ 1. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ 2. ลดเงินต้น 5% กรณีชำระหนี้ปิดบัญชี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ 

3. ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี 4. ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี เมื่อชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) และ 5. ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

‘บิ๊กป้อม’ ควง ‘สุริยะ – สุชาติ’ เตรียมลงพื้นที่หนองคาย 6 ส.ค.นี้ อวดผลงานบริหารจัดการน้ำแล้ง และผลงานรัฐบาล 8 ปี จับตาเซอร์ไพรส์ใหญ่

พรรคพลังประชารัฐ เตรียมจัดเวทีใหญ่จังหวัดหนองคาย นำโดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ,สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีแรงงาน และ สมาชิกพรรคคนอื่นๆ อาทิเช่น วิรัช รัตนเศรษฐ์ รรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ,นายเอกภาพ พลซื่อ ส.ส.ร้อยเอ็ด , พลเรือเอก พิเชฐ ตานะเศรษฐ คณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี ฯลฯ 

โดยงานครั้งนี้จะถูกจัดขึ้นโดยมีกำหนดการเบื้องต้น คือ วันที่ 6 สิงหาคม 2565 ณ บริเวณลานฝั่งตรงข้าม Chic Chic Market จังหวัดหนองคาย ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ซึ่งภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการผลงานพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะนโยบายด้านการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงมีการออกบูท ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ฯ 

ไฮไลท์สำคัญ คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่จะมาพูดถึงผลงานการบริหารจัดการน้ำ น้ำบาดาล ฯลฯ อันเกิดประโยชน์เป็นรูปธรรม รวมไปถึงการบริหารจัดการแหล่งต้นน้ำ ป่าต้นน้ำ ซึ่งจากนโยบายดังกล่าว มีเกษตรกรทั่วประเทศได้รับความช่วยเหลือไปแล้วหลายล้านคน 

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เตือนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ระวังโดนลูกค้าใช้สลิปบัญชีธนาคารปลอมหลอก แนะให้เช็คยอดโอนให้ชัวร์ก่อนส่งสินค้า

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า  จากกรณีที่มีข่าวการแจ้งเตือนพ่อค้าแม่ค้าระวังภัยออนไลน์จากลูกค้าใช้สลิปบัญชีธนาคารปลอมแจ้งว่าชำระเงินแล้ว หลอกให้ส่งของโดยไม่ได้โอนเงินจริง และพบมีคนทำโปรแกรมสร้างสลิปปลอมมาขาย โดยสามารถกรอกชื่อผู้รับ ผู้โอนเป็นใครก็ได้ ตัวเลขเท่าใด โอนวันไหน เวลาไหน แล้ว สร้างภาพสลิปออกมา จึงขอแจ้งเตือนให้พ่อค้า แม่ค้า ระมัดระวัง ควรสังเกตสลิปก่อนที่จะส่งของให้ลูกค้า ตรวจสอบยอดเงินโอนในมือถือก่อนว่ามียอดเงินเข้ามาแล้วจริงๆ ก่อนส่งมอบสินค้า  

ทั้งนี้ โดยทั่วไป การทำธุรกรรมโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร ในแต่ละครั้งธนาคารจะมีการบันทึกสลิปการทำธุรกรรมที่มีระบุรายละเอียดในการโอนเงิน คือ  ชื่อผู้รับ/ผู้ส่ง ,วัน เดือน ปี เวลา ที่ทำรายการ ,จำนวนเงิน ,QR Code เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดหรือมีปัญหาในการทำธุรกรรม 

“ในกรณีสลิปปลอมมิจฉาชีพอาจจะใช้ช่องโหว่ของภาพสลิปมาดัดแปลง ทำซ้ำ เพื่อให้พ่อค้า แม่ค้า ที่ไม่ได้ทันสังเกต เห็นภาพสลิปโอนเงินปลอม ที่มิจฉาชีพแสดงหรือส่งไลน์ไปเป็นหลักฐานให้กับร้านค้าต่าง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมปลอมสลิป เพราะสามารถใช้แอป แต่งรูปภาพบนสมาร์ทโฟนทำได้เลย”

ไอเดียเจ๋ง! คนรุ่นใหม่หัวหิน ร่วมมือ กองทุนสื่อฯ เปิดตัวนวัตกรรม HUA HIN Smart Community แพลตฟอร์มการศึกษา เพื่อการ Upskill & Reskill เตรียมทักษะดิจิทัลช่วย สร้างรายได้ให้กับเยาวชน

นายธนพนธ์ สิงหพันธุ์ หัวหน้าโครงการ Hua Hin Smart Community กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เครือข่ายเยาวชน SEED Thailand และ คณะอนุกรรมการคณะอนุกรรมการพัฒนาสื่อดิจิทัลในกลุ่มเยาวชนอย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย วุฒิสภา จัดงานเปิดตัว แพลตฟอร์ม “HuaHin Smart Community” โดยมี นางสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ผู้ทรงคุณวุฒิกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ด้านการศึกษา เป็นประธานในพิธี

แพลตฟอร์ม “HuaHin Smart Community” คือแพลตฟอร์มรวบรวบเยาวชนในพื้นที่ ผู้ที่มีประสบการณ์ และผู้ประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้จากใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ พร้อมด้วยเคล็ดลับ เทคนิคต่างๆ โดยเฉพาะทักษะดิจิทัล ที่สามารถสร้างรายได้ และ เป็นโอกาสทางธุรกิจให้กับทุกคนได้ โดยเมื่อเรียนจบหลักสูตรต่างๆ ที่มีในแพลตฟอร์มแล้วนั้น ผู้เรียนหลักสูตรจะได้รับใบรับรอง ที่สามารถแสดงได้ว่าท่านผ่านการการเรียนรู้ในทักษะนั้นๆ  

นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม Hua Hin Smart Community มีระบบประชุมออนไลน์ฟรี ไม่จำกัดเวลา ไม่จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานเพรียบพร้อม เพื่อรองรับกับการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันของคนหัวหิน (ไม่ใช่คนหัวหินก็ใช้งานได้เช่นกัน) 

'บิ๊กป้อม' สั่ง 'ดีอี' กวาดล้างเว็บพนันออนไลน์ เหตุกระทบ 'เด็ก-เยาวชน' หลังพบติดพนันอื้อ!!

(31 ก.ค.65) พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมในฐานะโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานถึงผลกระทบจากเว็บไซด์พนันออนไลน์ ซึ่งกระจายอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากและเข้าถึงง่าย โดยมีการร้องเรียนจากประชาชนถึงการถูกข่มขู่ คุกคาม ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนจำนวนมาก ที่เข้าไปเกี่ยวข้องและติดการพนันออนไลน์ รวมทั้งปัญหาสภาวะทางจิต การเรียน ปัญหาครอบครัว การกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งมีอัตราการฆ่าตัวตายสูง

โดยพล.อ.ประวิตร สั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประสานตำรวจเข้าไปตรวจสอบและทำการปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่มีอยู่ทั้งหมดโดยเร็ว โดยใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งขยายผลเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดที่อยู่เบื้องหลังและเกี่ยวข้องกับเว็บไซด์พนันออนไลน์ที่มีอยู่ในประเทศ โดยนำสู่การยึดทรัพย์ ทำลายเครือข่ายทั้งหมดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว  

‘นิพนธ์’ ยัน 3 ปีที่ผ่านรัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้วกว่า 520,000 ล้านบาท ทั้งจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ จ่ายลดต้นทุนการผลิต เยียวยาเกษตรกร ดูแลราคาไม้ผล ขณะที่เกษตรกรได้ประโยชน์กว่า 35 ล้านคน

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการตลาดนัดสินค้าเกษตร ประจำปี 2565 โดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา นายสมยศ พลายด้วง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 พรรคปชป.สงขลา นายนิพัทธ์ อุดมอักษร เลขานุการนายกอบจ.สงขลา คณะผู้บริหาร ที่ปรึกษา หัวหน้าส่วนราชการในสังกัด อบจ.สงขลา ร่วมในพิธีเปิด  ณ ตลาดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (ตลาดโคกไร่) ตำบลพะวง อำเภอเมือง จังกวัดสงขลา

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้จัดทำโครงการตลาดนัดสินค้าเกษตร ประจำปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มผู้ผลิต เกษตรกร กลุ่มองค์กรด้านการเกษตรและเครือข่ายการเกษตรในจังหวัดสงขลา กลุ่มผู้ผลิตสินค้าโอทอป และหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ได้มีพื้นที่ในการจัดการแสดงและจำหน่ายสินค้า และบริการด้านการเกษตร การนำเสนอและให้ความรู้ในด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการเกษตร และให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงประชาชนทั่วไปในจังหวัดสงขลา และผู้ที่สนใจ ได้เลือกซื้อสินค้าการเกษตร สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top