'แอนโทนี บลิงเคน' นัดคุยนอกรอบผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา  ถกปัญหา ปชต.ในเขมร ก่อนเลือกตั้งใหญ่ปีหน้า 

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางมาถึงกัมพูชาแล้ว เพื่อเข้าร่วมงานประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 55 ที่จัดขึ้นในกรุงพนมเปญ

ซึ่งการเดินทางมากัมพูชาในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกำหนดการเยือนต่างประเทศเป็นเวลา 10 วัน ของ บลิงเคน ซึ่งได้เลือกแลนด์ดิ้งที่กัมพูชาเป็นประเทศแรก ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังฟิลิปปินส์, แอฟริกาใต้, คองโก, รวันดา ตามลำดับ 

โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เข้าพบกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อหารือกันในหลายประเด็น ตั้งแต่สถานการณ์ในพม่า ความมั่นคงด้านสาธารณสุขของอาเซียน การสนับสนุนด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังย้ำถึงบทบาทของอาเซียนในการร่วมประณามรัสเซียในวิกฤติสงครามยูเครน รวมถึงความโปร่งใสของรัฐบาลกัมพูชา ในความร่วมมือด้านการทหารกับจีนในการพัฒนาฐานทัพเรือที่เมืองเรียม 

และนอกจากประเด็นเหล่านี้ บลิงเคน ยังได้หยิบยกเอาเรื่องของ นาง เธียรี เส็ง นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวกัมพูชา ที่ถือสัญชาติสหรัฐฯ ขึ้นมาพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ด้วย 

ซึ่ง ตอนนี้ เธียรี่ เส็ง ถูกตัดสินจำคุกนาน 6 ปีในข้อหากบฏ หลังจากที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลของ นาย ฮุน เซน โดย บลิงเคน กล่าวย้ำว่าต้องการให้รัฐบาลปล่อยตัวนาง เธียรี เส็ง โดยไว และให้รัฐบาลกัมพูชาเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของชาวกัมพูชาในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้อย่างอิสระ

บลิงเคน กับ ฮุน เซน ยังได้มีการพูดคุยเรื่องปัญหาการเมืองภายในประเทศอีกด้วย หลังจากตอนนี้มีนักการเมืองฝ่ายค้าน และนักเคลื่อนไหว ถูกตัดสินในความผิดข้อหากบฏ ขายชาติไปแล้วกว่า 60 คน ซึ่งบลิงเคนมองว่า เป็นสิ่งที่กัดเซาะหลักการด้านสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตยในกัมพูชา

เท่านั้นยังไม่พอ บลิงเคน ยังได้นัดคุยนอกรอบกับ นาย เข็ม โสกา ผู้นำฝ่ายค้านที่ตอนนี้กำลังต่อสู้กับคดีกบฏเช่นเดียวกัน จากข้อกล่าวหาว่าเขาสมคมคิดกับชาวต่างชาติ ที่อาจนำมาสู่ภัยความมั่นคงของกัมพูชา ซึ่งถ้าหากเขาถูกตัดสินว่าผิดจริง นอกจากจะถูกจำคุกแล้ว ยังถูกตัดสิทธิ์จากการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าด้วย 

เรียกได้ว่า การมาเยือนกัมพูชาหนนี้ของสหรัฐฯ มาพร้อมกับหลากประเด็นกดดันผู้นำกัมพูชามากพอสมควร ทั้งในแง่ความเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับจีน, กระบวนการยุติธรรมในกัมพูชา ที่ถูกนำมาใช้เพื่อตัดตอนฝ่ายค้าน หรือสกัดนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านระบอบฮุน เซน, การส่งสัญญาณให้แสดงท่าทีชัดเจนต่อสงครามรัสเซียยูเครน รวมไปถึงการนัดคุยนอกรอบกับผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา

เหล่านี้ จะส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไปของ ฮุน เซน ผู้ทรงอิทธิพล ที่ครองตำแหน่งผู้นำ้นำกัมพูชายาวนานถึง 37 ปี และได้เตรียมวางแผนให้ นาย ฮุน มาเนต บุตรชายคนโต สืบทอดอำนาจต่อจากเขา ผ่านการเลือกตั้งใหญ่ที่จะจัดขึ้นในปี 2566 แค่ไหน? จะยังทำให้ผลเลือกตั้งแลนด์สไลด์อย่างที่แล้วๆ มาได้หรือไม่? ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไป...


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์
อ้างอิง: U.S. Department of State / Phnom Penh Post / VoA / France 24