Thursday, 19 June 2025
SPECIAL

'อนุทิน' ลุ้น!! ฝ่ากระแส 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' แบ่งเค้ก ส.ส.กทม. หลังดึง 'พุทธิพงษ์' นั่งแท่นว่าที่แม่ทัพเมืองหลวงของพรรค

นาทีนี้แลดู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมั่นใจมากขึ้น สำหรับความหวังในการปักธงสีน้ำเงิน ในสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร หลังจากมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ทยอยลาออกมากรอกใบสมัครเข้าพรรคเพิ่มขึ้น

ผู้อยู่เบื้องหลังในการเจรจาดึงตัว ส.ส.เหล่านั้น คือ 'เสี่ยบี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์' อดีต รมว.ดีอีเอส ว่าที่แม่ทัพเมืองหลวงของพรรคสีน้ำเงิน  

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2565 กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา และ ภาดาท์ วรกานนท์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยก่อนหน้านั้น ก็มี 3 ส.ส.กทม. อย่าง จักรพันธ์ พรนิมิตร, กษิดิ์เดช ชุติมันต์ และพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว รวมๆ แล้ว ส.ส.กทม.พรรคลุงป้อม ที่ย้ายมาพรรคเสี่ยหนู 5 คน ส่วนจากพรรคเพื่อไทย มี 1 คนคือ ส.ส.อ๊อด-ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ (เขตห้วยขวาง-ดินแดง)

จะว่าไป พรรคภูมิใจไทย ก็มี ส.ส.กทม.อยู่แล้ว 2 คนคือ ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย (เขตสวนหลวง) และโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี (เขตจอมทอง) ทั้งคู่เป็น ส.ส.สมัยแรก สังกัดพรรคอนาคตใหม่ ภายหลัง มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ พวกเขาจึงเลือกมาอยู่พรรค ภท. ไม่ไปพรรคก้าวไกล

อย่างไรซะ ภูมิใจไทยของ 'อนุทิน' ก็มีภาพลักษณ์เป็นพรรคบ้านใหญ่ พรรคทุนท้องถิ่น ซึ่งความล้มเหลวในสนาม กทม. เมื่อการเลือกตั้งปี 2554 และปี 2562 ก็ให้คำตอบชัดว่า พรรคเสี่ยหนู ไม่ถูกจริตคนเมืองหลวง

แต่เมื่อมีขุมกำลังจากพรรค พปชร.ย้ายเข้ามาอยู่พรรค ภท. เสี่ยหนูจึงแอบหวังว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจะได้ ส.ส.กทม. 

เพราะสมัยที่แล้ว พรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส. 12 ที่นั่ง หลัง 2 ส.ส.อย่าง ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ (เขตบางซื่อ) และสิระ เจนจาคะ (เขตหลักสี่-จตุจักร) เจออุบัติเหตุการเมืองต้องพ้น ส.ส. จึงเหลืออยู่ 10 คน โดย ส.ส.ทั้งหมดนี้ จะไม่มีใครอยู่พรรค พปชร.อีกต่อไป 

อย่างตอนนี้ 5 คน ประกอบด้วย พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ (เขตปทุมวัน-บางรัก), กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา (เขตคลองเตย), ภาดาท์ วรกานนท์ (เขตพญาไท), กษิดิ์เดช ชุติมันต์ (เขตลาดพร้าว) และจักรพันธ์ พรนิมิตร (เขตบางพลัด) ที่เลือกไปพรรคภูมิใจไทย

มีข่าวว่า ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ (เขตบางกะปิ) และ ประสิทธิ์ มะหะหมัด (เขตสะพานสูง) จะไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ 

ศิริพงษ์ รัสมี (เขตหนองจอก) เตรียมย้ายไปสังกัดพรรค ปชป. และกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ (เขตพระนคร) ไปพรรคเพื่อไทย ส่วน ชาญวิทย์ วิภูศิริ (เขตมีนบุรี) มีข่าวว่าจะเว้นวรรค

‘ตำรวจ’ รวบ ‘แก๊งโดราเอม่อน’ พร้อมของกลาง หลังตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพฯ

(22 ธ.ค. 65) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระรองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.โอภาส หาญณรงค์ รอง.ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง.ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.อำนวย เงินนา สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) บก.สส.บก.น.9, สน.หลักสอง, สน.เพชรเกษม, สน.ธรรมศาลา และสภ.กระทุ่มแบนจับกุมนายสุเทพ สงวนนามสกุล อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 851/2565 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2565  จับกุมตัวได้ที่ บ้านพักซอยวิภาวดี 16/26 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 

นายอนุสรณ์ หรือเบิร์ด สงวนนามสกุล อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 737/2565 ลง 24 พ.ย. 2565 จับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าหอพักบ้านทองอยู่ ซอยเพชรเกษม 126 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 

และนายอมร หรือบอล สงวนนามสกุล อายุ 24 ปี ข้อหา ‘ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือร่วมกันรับของโจร’ จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ม.6 ต.อ้อมน้อย อกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า WAVE 110 I สี ดำ, ส้ม เลขตัวถัง : MLHJA1408J5737742 เลขเครื่อง : JA140E-0737742 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ได้จากลักทรัพย์มา และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1ขช 7572 กทม. คันที่ใช้ก่อเหตุ จับกุมได้เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. เวลาประมาณ 07.00 น. ที่ผ่านมา

ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล IDMB รับแจ้งความเดือดร้อนของประชาชน โดยให้ดำเนินการช่วยเหลือทันทีตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สืบทราบว่าแก๊งโดราเอม่อนได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 10 ครั้งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก หลังเมื่อประมาณเดือนต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล IDMB ได้ตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มคนร้ายกลุ่มหนึ่งตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพ โดยกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้จะมีเอกลักษณ์พิเศษคือทุกครั้งที่ก่อเหตุจะสวมใส่เสื้อลาย ‘โดราเอม่อน’ ซึ่งสืบทราบพบว่าเป็นความเชื่อของกลุ่มคนร้ายว่าเหมือนชุดนำโชค โดยก่อเหตุเป็นจำนวนรวมมากกว่า 10 ครั้ง และยังคงหลบหนีการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่มาจนถึงปัจจุบัน 

พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชิต นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ลงพื้นที่สืบสวนแกะรอยกว่า 2 เดือนจนกระทั่งสามารถยืนยันตัวผู้กระทำผิด ซึ่งได้ส่งพยานหลักฐานให้ส่งพนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ นายสุเทพและขออนุมัติศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับ นายอนุสรณ์ 

ต่อมาวันที่ 21 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 09.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ปฏิบัติการปิดล้อมจับกุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบก.สส.บก.น.9, สน.หลักสอง, สน.เพชรเกษม, สน.ธรรมศาลา และสภ.กระทุ่มแบน นำมาสู่การจับกุม ‘แก๊งโดราเอมอน’ ได้ 3 รายดังกล่าว เหลืออีก 1 รายคือ น.ส.พิมลรัตน์ แก้วเทพ อยู่ระหว่างหลบหนี ทำหน้าที่ย้ายรถไปซุกซ่อนเตรียมหลบหนี

เจ้ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ไฟเขียว!! ตั้ง ‘อารี ไกรนรา’ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง ‘นายอารี ไกรนรา’ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารแถลงการณ์ผลการจับกุมแก๊งค้ายาบ้า 2 ราย 418,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 10.30 น นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พล.ต.ต.ชัชชัย วงศ์สุนะ ผบก.ก.จว.มุกดาหาร พ.ต.อ.สงกรานต์ สันหกรณ์ รอง ผบก.ๆพร้อม พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผกก.สืบสวนฯ และชุดปฏิบัติการฯ กองกำกับการสืบสวน เฝ้าติดตามและสืบสวนจับกุม ทั้งการตั้งด่านเสันทางในพื้นที่ การสะกดรอย ซุ่มสังเกตการณ์ตลอตแนวแม่น้ำโขงเรื่อยมา จนกระทั่ง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลา 20.00 น. ชุดปฏิบัติการ กองกำกับการสืบสวน ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีการลำเลียงยาเสพติดผ่านในพื้นที่ จ.มุกดาหาร จะมีขบวนการการลักลอบขนยาเสพติด(ยาบ้า) จำนวนมาก จากเส้นทางถนนบ้านหนองหอย ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร มาทางสี่แยกโพนทราย ต.โพนทราย อ.มือง จ.มุกดาหาร โดยรถคันที่ใช้ขนยาบ้าเป็นรถยนต์กระบะ แคป ยี่ห้ออีซูสุ รุ่นดีแม็ก สีดำ ติตแผ่นป้ายทะเบียน หน้า-หลัง 2ฒล 5739 กทม. 

เมื่อชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ศรุตฯพร้อมพวกวางแผนเพื่อจับกุม จึงได้จัดวางกำลังบริเวณสี่แยกโพนทราย กระทั่งเวลาประมาณ 19.16 น. รถของเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมมองเห็นรถทะเบียน 2ฒล 5739 กทม. จอดติดไฟแดงที่แยกโพนทราย จึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวไเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ขับหลบหนี ขับย้อนกลับไปทางบ้านแก่นเต่า พ.ต.ต.ศรุตฯจึงได้สั่งการให้ไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด แต่รถคันดังกล่าวใช้ความเร็วสูง รถตำรวจชุดจับกุมจึงได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด กระทั่งถึงบริเวณสะพานหัวยหวายดิน ต.พังแดง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร 

ตร. ปส. ระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธปืน พบเครือข่ายยาเสพติดหัวใส อาศัยช่วงน้ำท่วม ลอบขนยาบ้า 4 แสนเม็ด เตรียมส่งลูกค้าช่วงปีใหม่

ปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และส่วนที่เกี่ยวข้องได้เดินหน้าปราบปราม อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งการการระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 20-29 ธ.ค. ตามสั่งการของ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ลงพื้นที่ตรวจสถานบริการ สถานบันเทิง สถานประกอบการ และตรวจชุมชนเป้าหมายที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด ภายใต้การอำนวยการ ของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม) /ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส.,พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์  บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1 และ พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธ์ ผบก.ปส.4 ได้สั่งการให้ลงพื้นที่รับผิดชอบในการกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ วานนี้ เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปส.4  ได้สืบสวนขยายผลแกะรอยนักค้ารายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งคาดว่าเตรียมส่งมอบยาบ้าให้ลูกค้าห้วงก่อนปีใหม่ ประกอบกับในพื้นที่ภาคใต้เกิดอุทกภัยน้ำท่วม เบื้องต้นสามารถจับ 4 ผู้ต้องหา 4 คน 

1. นายยามีน อายุ 45 ปี 2. น.ส.รัชนีกร อายุ 26 ปี  3. นายสุเทพ อายุ 33 ปี  4. น.ส.ชัญญานุช อายุ 36 ปี ในพื้นที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 400,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน ซึ่งใช้ซุกซ่อนยาเสพติด และเป็นรถนำทางล่วงหน้า โดยแจ้งข้อหา 'ร่วมกับมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป'

สืบนครบาลรวบ 'หมูฟ้า' หลอกทุกกระบวนท่าเจ้าตัวอ้างแค่บัญชีม้าตำรวจไม่เชื่อ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก  โดยต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ 'สืบสวนนครบาล IDMB' ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวหมูฟ้า หรือ น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล มีพฤติการณ์หลอกหลวง 'หลายรูปแบบ' เช่น หลอกลวงแฮ็คเฟสบุ๊คผู้เสียหายสูงอายุเอาข้อมูลรหัส ID Password เพื่อยืมเงินคนอื่น , ใช้หน้าไลน์ปลอมเป็นบุคคลอื่นเพื่อหลอกเอาเงิน ,หลอกลงทุนผ่านเพจ DM WALL , หลอกขายของออนไลน์ผ่าน Facebook Mami Mami เป็นต้น  และจากการตรวจสอบพบบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 10 บัญชีที่เป็นชื่อ น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล มีเงินหมุนเวียนในบัญชีร่วมล้านบาท สืบสวนนครบาลจึงได้เร่งรัดออกสืบสวนติดตาม

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 09.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รอง ผกก.ฯ เจ้าหน้าที่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. และ สภ.แม่ปิง ร่วมสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล หรือ หมูฟ้า อายุ 20 ปี ที่อยู่ 51 หมู่ที่ 7 ตำบลศรีชมภู  อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ ผู้ต้องหา พบหมายจับจำนวน 3 หมาย ประกอบด้วย
1. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1028/2565 ลงวันที่ 19 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงฯและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์' ท้องที่ สภ.แม่ปิง
2. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1029/2565 ลงวันที่ 19 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงฯและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์' ท้องที่ สภ.แม่ปิง
3. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1030/2565 ลงวันที่ 19 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงฯและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์' ท้องที่ สภ.แม่ปิง
โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบื่อน หรือปลอมไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด”

โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณซอยเทศบาลบางปู 69/3 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล หรือหมูฟ้า ได้ตระเวนก่อเหตุฉ้อโกงในโลกออนไลน์ หลายรูปแบบ เช่น ใช้หน้าไลน์ปลอมเป็นบุคคลอื่นเพื่อหลอกเอาเงิน , หลอกลงทุนผ่านเพจ DM WALL , หลอกขายของออนไลน์ผ่าน Facebook Mami Mami โดยก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 คดี โดยล่าสุดได้หลอกลวงแฮ็คเฟสบุ๊ค และไลน์ของผู้เสียหายหญิงสาววัย 59 ปี โดยหลอกเอาข้อมูลรหัส ID Password จากเฟสบุ๊คโดยการแสร้งสนทนาเพื่อขอหมายเลขโทรศัพท์ของเหยื่อ จากนั้นเมื่อได้หมายเลขโทรศัพท์แล้วก็นำหมายเลขโทรศัพท์ของเหยื่อ ใส่เข้าไปใน ID ช่อง Login แล้วแจ้งลืม Password เพื่อให้ระบบส่งข้อความ OTP เข้าไปยังโทรศัพท์ของเหยื่อ จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อแค็ปภาพหน้าขอข้อความดังกล่าวส่งกลับมาให้ ทำให้เฟสบุ๊คของเหยื่อตกไปอยู่ในมือผู้ต้องหาทันที และจากนั้นก็เข้าไปตระเวนยืมเงินจากเพื่อนในแอ็พพลิเคชั่น ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่กระทั่งได้มีการออกหมายจับ น.ส.ดวงอรทัยฯ เป็นจำนวน 3 หมายจับ ซึ่งต่อมา ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ 'สืบสวนนครบาล IDMB' ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ดวงอรทัยฯ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.4 บก.สส.บช.น. นำทีม กก.สส.4 บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามจับกุมตัว

ศึกเลือกตั้ง ‘เมืองคอน’ ครั้งหน้าส่อแววระอุ หลัง ‘นายหัวสิทธิ์’ ซบ ‘รทสช.’ ชิงเก้าอี้ ส.ส.โซนชะอวด

นายหัวสิทธิ์ ประกาศแล้วเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.โซนชะอวด-จุฬาภรณ์ ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยประกาศเจตนารมณ์ออกมาแล้ว

พี่น้องครับเรามาร่วมกันตามหาโอกาสที่สูญเสียไป กันนะครับ

ผมขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกบนถนนสายการเมือง ที่อาสาเข้ามาทำงาน เพื่อการรับใช้ประชาชน ด้วยเจตนาและอุดมการณ์ สำนึกรักบ้านเกิด เกิดมาต้องแทนคุณแผ่นดิน

นายสิทธิรัก ทิพย์อักษร (นายหัวสิทธิ์) ผู้เสนอตัว ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร(ส.ส.) พรรครวมไทยสร้างชาติ เขตอำเภอชะอวด อำเภอจุฬาภรณ์ และอำเภอไกล้เคียง (เนื่องจากการแบ่งเขตเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ) จังหวัดนครศรีธรรมราช

‘ตำรวจ’ เผยผล ทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด ชี้!! ได้ท่อน้ำเลี้ยงจาก ‘ทุนจีน’ มีเงินสะพัดกว่า 2.5 พัน ล.บ.

ปฏิบัติการทลายแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหดผ่านแอปพลิเคชันส่งข้อความข่มขู่ลูกหนี้ รวบนายทุนจีนพร้อมพวก 19 ราย พบเงินสะพัดในระบบกว่า 2,500 ล้านบาท

ในช่วงระหว่างปลายปี 64 ถึงปี 65 ได้มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. กรณีกู้เงินมาจากแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบชื่อ กระเป๋าให้ท่านมีที่ยืม และ Self service รวมถึงแอปพลิเคชันอื่นที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 40 แอปพลิเคชัน โดยเรียกดอกเบี้ยโหดกว่าร้อยละ 2,080 ต่อปี 

นอกจากนั้นยังมีพฤติการณ์ข่มขู่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกหนี้ เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย จากกรณีดังกล่าว ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) นำโดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปน.ตร., พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปน.ตร., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปน.ตร. ได้สั่งการให้ บช.ก. เร่งรัดปราบปรามแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรากว่าที่กฎหมายกำหนด และมีการข่มขู่คุกคามผู้กู้ให้ได้รับความเดือดร้อน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จึงได้มอบหมายให้ บก.ปอศ. โดย พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. ดำเนินการสืบสวนหาเครือข่ายผู้กระทำความผิดดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ต่อมาวันที่ 15 ธ.ค. 65 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 / หัวหน้าชุดปฏิบัติการส่วนกลาง ศปน.ตร. พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการ บก.ปอศ. ร่วมบูรณาการกับ น. ภ.1 ภ.2 ภ.5 และ ภ.7 รวมกำลังทั้งสิ้นกว่า 100 นาย บุกทลายเครือข่ายลักลอบปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านแอปพลิเคชันชื่อ ‘Self service’ และ แอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกว่า 40 แอปพลิเคชัน ซึ่งมีพฤติการณ์ในการปล่อยเงินกู้ เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ทวงถามหนี้โดยส่งข้อความข่มขู่คุกคามผู้เสียหาย 

ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีกลุ่มทุนชาวจีนอยู่เบื้องหลัง โดยเจ้าหน้าที่สามารถพิสูจน์ทราบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแอปลิเคชั่นดังกล่าว และออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 23 หมาย ผู้ต้องหา 22 ราย และได้ปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 22 จุด ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี เชียงราย พะเยา ชลบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 20 หมาย ผู้ต้องหา 19 ราย ประกอบด้วย

1. น.ส.เปา ลู่ ซัน สัญชาติจีน อายุ 34 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 828/2565 ลง 13 ธ.ค.65 
2. น.ส.ไช่ ซิง เหมย สัญชาติจีน อายุ 29 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 829/2565 ลง 13 ธ.ค.65 และหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 737/2565 ลง 13 ธ.ค.65    
3. น.ส.กรรณฐภรรฐ อายุ 32 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 821/2565 ลง 13 ธ.ค.65 
4. นายกิติศักดิ์ อายุ 33 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 818/2565 ลง 13 ธ.ค.65
5. น.ส.ดวงนภา อายุ 37 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 825/2565 ลง 13 ธ.ค.65
6. น.ส.พรรณรัตน์ อายุ 28 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 822/2565 ลง 13 ธ.ค.65
7. น.ส.น้ำฝน อายุ 27 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 823/2565 ลง 13 ธ.ค.65  
8. น.ส.บุญเพ็ง นาพรม อายุ 47 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 824/2565
ลง 13 ธ.ค.65  
9. นายคณิน อุดมเดช อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 820/2565 ลง 13 ธ.ค.65
10. นายสราวุฒ ดงพลับ อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 819/2565 
ลง 13 ธ.ค.65

11. น.ส.ปราณี อายุ 29 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 817/2565 ลง 13 ธ.ค.65
12. นายอำนาจ อายุ 48 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 826/2565 ลง 13 ธ.ค.65
13. น.ส.ดารณี อายุ 32 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 827/2565 ลง 13 ธ.ค.65
14. นางสาวพัชรินทร์ อายุ 50 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 728/2565 ลง 13 ธ.ค.65
15. นางสาวสุพรรษา อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 729/2565 ลง 13 ธ.ค.65
16. นายเกรียงไกร อายุ 50 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 733/2565 ลง 13 ธ.ค.65 
17. นายธนดล อายุ 31 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 734/2565 ลง 13 ธ.ค.65
18. นางสาวศิริพร อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 735/2565 ลง 13 ธ.ค.65
19. นางสาวคนึง อายุ 58 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 730/2565 ลง 13 ธ.ค.65

โดยผู้ต้องหาทั้ง 19 ราย จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน ‘ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับเป็นทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และร่วมกันทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่’

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถตรวจยึดของกลางได้ รวม 7 รายการ ประกอบด้วย
1. สมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 5 เล่ม
2. คอมพิวเตอร์ จำนวน 3 เครื่อง
3. บัตรอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 3 ใบ
4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
5. ซิมการ์ด จำนวน 4 ซิม
6. เราเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง
7. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 5 เครื่อง

และได้อายัดบัญชีเงินฝากที่เกี่ยวข้อง จำนวน 33 บัญชี ยอดเงิน 5,293,869.77 บาท

‘ตร. PCT’ เข้าตรวจค้นร้าน ‘LOS SANTOS’ ยึดอาวุธปืนสงคราม-กระสุนปืนได้จำนวนมาก

วันที่ (19 ธ.ค. 65) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค./ผหน.ด้านปฏิบัติการฯ และ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สพฐ.ตร./หน.ด้านข่าวสารฯ พร้อม ตร.PCT ชุดที่ 4 พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ รอง ผบก.ปส.4, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก สส ตม.3 ได้ร่วมกันแถลง การเข้าตรวจค้นร้านปืนออนไลน์ ยึดอาวุธปืนสงครามและกระสุนปืนจำนวนมาก พร้อมขยายผลยึดทรัพย์สิน

พล.ต.อ.รอย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ทราบว่ากลุ่มเครือข่ายมีการกระทำผิดและหลบซ่อนตัวอยู่ในหลายพื้นที่ได้แก่ อ.สันกำแพง จว.เชียงใหม่, อ.เมือง จว.สุรินทร์ และ อ.บ้านบึง จว.ชลบุรี ก่อน เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมกลุ่มผู้ค้าอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์ภายใต้ชื่อ ‘LOS SANTOS’ ได้ดังนี้

1. หมายค้นศาลอาญาที่ 1522/2565 ลง 14 ธ.ค.65 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 118/8 ม.8 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จว.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอุปกรณ์ยิงปืน ชื่อ Shooter Tactical CNX ผลการตรวจค้น

(1.1) จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ได้แก่ นายอิทธิเดช สงวน นามสกุล และ น.ส.ภชรธร สงวนนามสกุล 
(1.2) ของกลาง 
- อาวุธปืน จำนวน 30 กระบอก (ปืนยาว 24 กระบอก,ปืนสั้น 6 กระบอก)
- กระสุนปืน จำนวน 16,578 นัด (ได้แก่ ขนาด .22, ขนาด.38, ขนาด 9 มม., ขนาด .45, ขนาด 308, ขนาด 5.56 และกระสุนปืนลูกซองเกรด 12) 
- โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
- อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง
- บัญชี ธนาคาร จำนวน 18 บัญชี
(1.3) ตรวจยึด
- เงินสด จำนวน 3,004,000 บาท    
- รถยนต์หรู จำนวน 5 คัน ได้แก่ นิสสัน GTR สีดำ จำนวน 1 คัน, บีเอ็มดับบลิว 730Ld สีดำ จำนวน 1 คัน, ออดี้ R8 สีเทา จำนวน 1 คัน, เบนซ์ CLA200 สีเทา จำนวน 1 คัน และ บีเอ็มดับบลิว x1 สีเทา จำนวน 1 คัน
- รถจักรยานยนต์ ฮาร์เล่ย์เดวิดสัน จำนวน 4 คัน

ตำรวจ บุกรวบ CEO บริษัทขายฉลากกินแบ่งรัฐบาลทิพย์ ชี้ ไม่มีฉบับจริง พบเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้าน 

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม นายณัฐ การัณยภาส อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2745/2565 ลง 6 ธ.ค.2565 ในความผิดฐาน "ทุจริตหรือหลอกลวงโดย นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ได้ที่ บริเวณหน้าวัดพระธาตุซ่อนแก้ว ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความเอาผิด บริษัท ดีโชติช่วง จากกรณีขายสลากกินแบ่งรัฐบาลซ้ำ ไม่มีสลากต้นฉบับ เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนพบว่ามีการกระทำในลักษณะดังกล่าวจริง ในลักษณะการขายผ่านแม่ทีม ซึ่งผู้ซื้อจะต้องซื้อสลากผ่านแม่ทีมที่มีคนแนะนำเท่านั้นถึงจะซื้อได้ 

ของใครลอยมา "ยึดไอซ์25กก.ขณะลาดตระเวนริมฝั่งแม่น้ำโขงเชียงแสน"

ในห้วงเช้าของวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตากโดยกองร้อยทหารพรานที่3102หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่31จัดกำลังพล1ชุดปฏิบัติการทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ตามริมฝั่งแม่น้ำโขงหลังจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขงในห้วงวันที่15 – 20ธันวคม 2565 ซึ่งขณะทำการลาดตระเวนมาถึงบริเวณบ้านสบคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสนจังหวัดเชียงรายตรวจพบถุงพลาสติกสีดำ จำนวน1ถุงอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงจึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบว่าภายในเป็นกระสอบบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ไอซ์)จำนวน 25 ถุงน้ำหนักรวมประมาณ 25 กิโลกรัม

'กรณ์' เปิดตัว 'จูรี' ลงเขต 2 สงขลา แต่ตัวเต็งยังเป็น 'ภูมิใจไทย-ปชป.-พปชร.'

เมื่อวานนี้ ‘กรณ์ จาติกวณิช’ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้เปิดตัวผู้สมัคร 4 เขตของสงขลา แต่ที่น่าสนใจคือเขต 2 ส่ง ‘จูรี นุ่มแก้ว’ หรือจูรี แหลงเล่า ดาวติ๊กต๊อก อดีตผู้ประกาศข่าวทีวีช่องหนึ่ง

จูรีเป็นคนระโนด จ.สงขลา ที่เริ่มมีชื่อเสียงจากการทำติ๊กต๊อก แนวเสียงสาวประเภทสอง ใช้สำเนียงใต้สไตล์ชาวบ้าน ที่ผันตัวเองมาจากคนอ่านข่าว จัดรายการข่าว

หลังตัดสินใจลงเล่นการเมืองได้มอบหมายให้ ‘แสงทอง นครศรี’ หรือ ‘แสงทอง อโนทัย’ นักร้องดังภาคใต้ทำเพลงให้เรียบร้อยแล้ว

กล่าวถึงเขต 2 สงขลา อันเป็นโซนเมืองของหาดใหญ่ เจ้าของพื้นที่คือ ศาสตรา ศรีปาน จากพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การสนับสนุนของพันเอก (พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล เป็นเด็กรุ่นใหม่ ขยันลงพื้นที่ เลือกตั้งครั้งหน้าย้ายตาม ‘ลุงตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ

เดิมคู่แข่งสำคัญของศาสตรา น่าจะเป็นทนายหมู ‘ฉัตรชัย ชูแก้ว’ จากพรรคภูมิใจไทย แต่จู่ ๆ ทนายหมูมาเสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน ทั้ง ๆ ที่กำลังเป็นดาวรุ่ง พรรคภูมิใจไทยจึงหันหน้าไปมอง ‘เจษฎาพงศ์ ชูแก้ว’ น้องชายทนายหมู ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ 

พรรคประชาธิปัตย์ก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องกลับมาทวงคืนพื้นที่โซนเมืองหาดใหญ่ให้ได้ ส่ง ‘นิพัฒน์ อุดมอักษร’ เลขานุการนายกฯอบจ.สงขลาลงชิง ว่ากันว่า นิพัฒน์เป็นเด็กข้างแคร่ของ ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่นิพนธ์หวังปั้นให้แจ้งเกิดเช่นกัน

สนามเลือกตั้งสตูล 2 เก้าอี้ ส่อเค้าเดือด ประชาธิปัตย์ส่งหน้าใหม่ ‘ปลัดซอบรี-กำนันเกตุชาติ’ ลงทวงแชมป์คืนจากภูมิใจไทย

เมื่อวานเจอ ‘กำนันเกตุชาติ เกษา’ ในงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ลูกสาวพี่อ๊อดบ้านสวน ปทุมธานี ซึ่งมาจัดงานเลี้ยงย่านพระราม 9 ได้เจอกับกำนันเกตุชาติ

กล่าวสำหรับกำนันเกตุชาติ ผมไม่เคยรู้จัก หรือพบเจอมาก่อน แต่จากการบอกกล่าวทราบว่า เป็นคนกว้างขวางพอได้ ในจังหวัดสตูล

กำนันเกตุชาติเคยลงสมัครชิงเก้าอี้นายกฯ อบจ.สตูล แต่คะแนนแพ้ ‘สัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์’ นายกฯ อบจ.สตูล สมัย 2 แต่ยังมุ่งมั่นเดินหน้าทำกิจกรรมทางการเมืองมาตลอด

ปัจจุบันกำนันเกตุชาติเป็นที่ปรึกษาท่านประธานรัฐสภา ‘ชวน หลีกภัย’ ทำงานใกล้ชิดท่านชวนมาตลอด เป็นกำนันมา 29 ปี

"ผมตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สตูล เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การสนับสนุนของพี่นิพนธ์ บุญญามณี และท่านประธานชวน หลีกภัย ทั้งสองท่านเมตตา และเอ็นดูผมเหมือนลูกเหมือนหลาน ให้คำปรึกษา ชี้แนะตลอด"

กล่าวสำหรับเขตเลือกตั้งที่ 2 สตูล ทุกวันนี้ ‘วรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์’ (โกแพ) เป็น ส.ส.อยู่ในนามพรรคภูมิใจไทย ถ้าเป็นอย่างนี้ กำนันเกตุชาติก็ต้องไปสู้กับโกแพนั้นเอง อาจจะกล่าวได้ว่า เมื่อกำนันเกตุชาติลงลุยสนามเลือกตั้ง ส.ส.และชนกับโกแพ สนามนี้ก็จะไม่ธรรมดา กระแสพรรคภูมิใจไทยในภาคใต้ และทั่วประเทศกำลังดี มี ส.ส.ไหลเข้าจากแรงดูดค่อนข้างมาก แต่กำนันเกตุชาติ ได้ใช้ตำแหน่งนักปกครองช่วยเหลือประชาชนในนามส่วนตัวมามาก และยาวนาน เป็นที่รู้จักกันของพี่น้องชาวสตูล ก็พอจะฟัดเหวี่ยงกันได้

ตำรวจภูธรภาค 6 แถลงข่าวปฏิบัติการตรวจค้นจับกลุ่มเครือข่ายโดยพนัน AGOBET (อะโกเบ็ท)

วันที่ 16 ธันวาคม 2565 เวลา 11:00 น บริเวณหน้าอาคารกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พล.ต.ต.บัณฑิต  ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6  เป็นประธานการแถลงข่าวการปฏิบัติการตรวจค้นจับกลุ่มเครือข่ายโดยพนัน AGOBET (อะโกเบ็ท)

ด้วยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 6 (สปอส.ภ.6) ได้รับเรื่องร้องเรียน จากประชาชน เกี่ยวกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ โดยพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ. 6 ได้สั่งการชุด ศปอส.ภ.6 นำโดย พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.สารนัย คงเมือง รอง ผบก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.อนิวรรตน์ สุรินทวงศ์ ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.6 ให้ทำการสืบสวน จนพบว่าเป็นเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ได้ว่าจ้างให้ประชาชนในเขตภาคเหนือตอนล่างได้แก่ จังหวัดสุโขทัย และ จังหวัดใกล้เคียง เปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจเว็บพนัน ออนไลน์ โดยมีช่องทางสมัครเข้าเล่นผ่านทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น ชื่อ agobet (อะโกเบ็ต) และชื่ออื่นๆ ที่ใกล้เคียง กันนี้ พบผู้ร่วมเล่นจำนวนมาก มีการเสนอ ฝาก-ถอน เงินสดสำหรับเป็นเครดิตในการเล่นพนันผ่านธนาคารในประเทศไทย โดยมีโปรแกรมให้เลือกเล่นพนันออนไลน์หลากหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น ไพ่บาคาร่า, ไพ่เสือมังกร, สล็อต, รูเล็ต และเกมส์ยิงปลา เป็นต้น คล้ายกับการเล่นการพนันในบ่อนคาสิโนทั่วไป สามารถเข้าเล่นพนันออนไลน์ได้ตลอดเวลา โดยมีพนักงานคอยให้บริการลูกค้าผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ 24 ชั่วโมง

จากการสืบสวนทำให้ทราบว่า เครือข่ายพนันออนไลน์ดังกล่าว มีนาย พ. เป็นตัวการและเป็นเจ้าของเว็บพนัน โดยได้ใช้บัญชีของประชาชนที่รับจ้างเปิดบัญชีในพื้นที่ จ.สุโขทัย และ จังหวัดใกล้เคียง ในการรับแทงและจ่ายเมื่อลูกค้า เล่นชนะพนัน เมื่อได้รับเงินจากลูกค้าจะใช้บัญชีในการยักย้ายถ่ายเงินออกไปเพื่ออำพรางเส้นทางการเงินและฟอกเงิน 4-5 ชั้น และจากการสืบสวนได้ตรวจพบพยานหลักฐาน ทรัพย์สิน เครือข่ายบุคคลผู้ร่วมกันกระทำความผิดทั้งในและ นอกเขตพื้นที่ ภ.6 อีกหลายราย เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายของกลาง และทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดได้ทัน ผบช.ภ. 6 ได้สั่งการให้จัดกำลังปฏิบัติการเข้าค้น และจับกุมพร้อมกัน จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพิษณุโลก อนุมัติหมายจับจำนวน 5 ราย เป็นนาย พ. เจ้าของเว็บพนัน และผู้รับจ้างเปิดบัญชี 4 ราย และยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง อนุมัติหมายค้นในพื้นที่ย่านบางนา และมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 จำนวน 4 จุด เริ่มปฏิบัติการ เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย คือผู้ต้องหาตามหมายจับ 1 ราย ได้แก่ นาย พ. เจ้าของเว็บพนัน และแอดมินทำหน้าที่เกี่ยวกับการตลาดและการโฆษณาให้กับเว็บพนัน 3 ราย ตรวจยึดของกลาง เป็นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนและไอแพดที่ใช้ติดต่อลูกค้ารวม 18 เครื่อง, ซิมการ์ด 35 หมายเลข คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กใช้จัดการระบบพนันออนไลน์ 10 ชุด และทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดเป็น รถยนต์หรู 4 คัน กระเป๋านาฬิกาแบรนด์เนม ทองคำรูปพรรณ ฯลฯ หลายรายการ ยึดและบัญชีธนาคารที่ใช้ในการกระทำความผิดและที่เกี่ยวข้อง รวม 80 บัญชี รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 20 ล้านบาท ตรวจสอบรายการเดินบัญชีพบเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท ต่อจากนี้ไปจะดำเนินการขยายผล ตรวจสอบเส้นทางการเงินบัญชี ความเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการเบื้องต้นพบว่ามีความเชื่อมโยงไปยังเว็บพนันรายใหญ่อีกหลายรายในจังหวัดกรุงเทพมหานคร และจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาเพื่อดำเนินคดีต่อไป

'หมอวรงค์' ผวา!! ประชาธิปไตยเงินสด จำยอม หากคนไทยยังไม่เป็นตัวของตัวเอง

ผมเองเขียนเรื่อง 'ประชาธิปไตยเงินสด' มาหลายครั้ง ไม่ต้องการให้นักการเมืองเอาเงินมาฟาดหัวประชาชน เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในสภาแทนประชาชน

แต่ยิ่งเขียนดูเหมือนกระแสเงินสดหมุนเวียนในแวดวงการเมืองจะเพิ่มตัวเลขขึ้นมาเรื่อยๆ จาก 5 ล้าน เป็นสิบล้าน ยี่สิบล้าน วันนี้พูดถึงตัวเลข 30 ล้าน/เขตกันแล้ว ซึ่งเป็นการพูดที่ดูหมิ่นดูแคลนประชาชน เจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง และนั่นคือ ต้นเหตุของปัญหา 'วงจรอุบาทว์' ในการเมืองไทย

แอบชื่นชมการต่อสู้ของ 'หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม' มาพอสมควร แต่นานๆ จะกล่าวถึงสักครั้ง วันนี้แอบไปส่องเฟซบุ๊กของหมอรวงค์ เขียนตรงใจกับที่ผมคิด จึงขออนุญาตนำมาสื่อสารต่อ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ 'ประชาธิปไตยเงินสด' โดยระบุว่า...

การที่ ส.ส.ลาออก ย้ายพรรค มีการควบรวมพรรคกันจำนวนมากช่วงนี้ ทำให้นึกถึงการเมืองที่เรียกว่า ‘ประชาธิปไตยเงินสด หรือ Cash Democracy หรือ cash politics’ ทุกอย่างอยู่ที่ข้อตกลงเรื่องตัวเลขเงินสด

เหตุการณ์ทำนองนี้ ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น เคยเกิดขึ้นมาตลอด ในระบบการเลือกตั้งแบบบัตรสองใบ เพราะอำนาจต่อรอง จะไปอยู่ที่ตัว ส.ส. มุ้ง บ้านใหญ่ และเงินจะมีอิทธิพลสูงมาก ไม่ใช่อุดมการณ์

ดังนั้นประชาธิปไตยเงินสด ซึ่งแหล่งเงินที่มา ก็มาจาก 'ทุนสีเทา' ทั้งหวย บ่อน ยา น้ำมันเถื่อน ตลอดจนเงินที่เกิดจากการโกง ทุจริตคอร์รัปชัน เรียกรับและต่อรอง ของผู้มีอำนาจ ประชาชนต้องไม่มองว่า เหตุนี้เป็นเรื่องปกติ แต่เป็นสิ่งเลวร้าย ที่ทำลายประชาธิปไตย

เพราะสุดท้ายประชาธิปไตยเงินสด ก็จะยิ่งนำพาประเทศ เข้าสู่วังวน วงจรอุบาทว์ การทุจริตคอร์รัปชัน สร้างความขัดแย้ง เพราะผลประโยชน์ จะหนักยิ่งกว่ายุคแจกกล้วย และเป็นตัวทำลายประชาธิปไตยที่แท้จริง

ถ้าประเทศมีปัญหา เพราะประชาธิปไตยเงินสด ให้จำรัฐสภาชุดนี้ไว้ เพราะเป็นผู้ผ่านกติกาการเลือกตั้งแบบนี้ กลับมาใช้ ทั้งๆ ที่รู้ว่า ระบบนี้เคยสร้างปัญหาให้ประเทศมาแล้ว

พรรคไทยภักดี ยืนยันมาหลายรอบแล้วว่า เราจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยเงินสด ไม่ยุบ ไม่รวม พร้อมที่จะต่อสู้กับทุนสีเทา การทุจริตคอร์รัปชัน เพราะเราเชื่อว่า มีประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่อยากเห็นพรรคการเมืองสักพรรค ยืนหยัดต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top