Tuesday, 10 June 2025
WEEKEND NEWS

รอดนอนคุก! ศาลให้ประกัน ‘ปริญญ์’ วงเงินประกัน 7 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ‘ห้ามออกนอกประเทศ’

(17 เม.ย. 65) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง พนักงานสอบสวนสน.ลุมพินี ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อายุ45 ปี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศ ที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล รวม 3 สำนวนเป็นคดีกระทำอนาจาร 2 สำนวน และคดีข่มขืนหญิงอื่น ฯ1 สำนวน คือคดีหมายเลยดำ ข้อหากระทำอนาจาร ฝ.173/2565 ฝ.174/2565 , และข้อหาข่มขืนฯ ฝ.175 /2565

เนื่องจากพนักงานสอบสวน ยังต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม รอผลการตรวจประวัติอาชญากรผู้ต้องหา และอื่นๆ จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้เป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 17- 28 เม.ย.นี้

โดยศาลอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ ต่อมาทนายความยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 3 สำนวน ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาโดยตีราคาประกันคดีกระทำอนาจารหมายเลขดำฝ.173 และดำฝ.174/2565 สำนวนละ 200,000 บาท

ตีไข่ ใส่สี! ‘กห.’ สยบเฟกนิวส์ ยัน ‘แก๊งยากูซ่าไทย’ ถูกจับที่สหรัฐฯ ไม่ใช่ ‘ลูกชายปธ.องคมนตรี’ ย้ำ! แค่คนชื่อคล้าย

โฆษกกลาโหม ยันผู้ต้องหาคนไทย แก๊งยากูซ่าที่สหรัฐฯจับกุม คือ สุขสันต์ จุลนันท์ ไม่เกี่ยวข้อง "สันต์ จุลานนท์" ลูกชายประธานองคมนตรี แค่ชื่อ-นามสกุลคล้ายกัน พบมีคนบางกลุ่มบิดเบือน ทำเสียหายปล่อยข่าวปลอม ย้ำผู้ต้องหาไม่เคยเป็นทหาร ไม่มียศพลเอก

(16 เม.ย. 65) พลเอก คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม ชี้แจงถึง กรณีมีการบิดเบือนข่าวการจับกุม 3 คนไทย ที่เป็นแก๊งค์ยากูซ่า ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า ผู้ต้องหาชาวไทย คนหนึ่งชื่อ นายสุขสันต์ จุลนันท์ ว่าเป็น นายสันต์ จุลานนท์ ลูกชายพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เพราะมีชื่อและนามสกุลคล้ายกันนั้นว่า ยืนยันว่า ผู้ต้องหา คนดังกล่าว ไม่ใช่ นายสันต์ จุลานนท์ และไม่เกี่ยวข้องใดๆกับ ประธานองคมนตรี

“ตอนนี้ มีการปล่อยเฟคนิวส์ ปล่อยข่าวบิดเบือน ไปเชื่อมโยงกับ บุตรชายประธานองคมนตรี เพิ่อหวังให้เกิดความเสียหาย จากการตรวจสอบกับระบบกำลังพลของกองทัพและทางตำรวจ ยืนยันว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าวชื่อนายสุขสันต์ จุลนันท์ ไม่ได้เป็นทหาร และไม่เคยเป็นทหาร และไม่ใช่นายสันต์ จุลานนท์ แต่อย่างใด ขอผู้ไม่หวังดี หยุดบิดเบือนข่าวในทุกช่องทาง" พลเอกคงชีพ ระบุ

พลเอกคงชีพ ระบุว่า นายสุขสันต์ จุลนันท์ เป็นคนไทยอาศัยอยู่ในอเมริกา และถือ 2 สัญชาติคือไทยและอเมริกา เป็นคนละคน กับนายสันต์ จุลานนท์ และยืนยันว่า ที่แชร์กันด้วยว่า เป็น พลเอกสุขสันต์ จุลานนท์ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะไม่ได้เป็นทหาร แต่เพียงแต่มีชื่อและนามสกุลคล้ายๆกันเท่านั้น แต่ก็มีการมาเขียนตีไข่ใส่สี สร้างความเสียหาย
 

หั่นงบโปรโมตรัฐ!! ‘วิโรจน์’ ชี้ รัฐสวัสดิการที่ดีทำได้ เพียงแบ่งเค้กเท่าเทียม แนะ หั่นงบ PR รัฐ เพิ่มขนาดเค้ก กทม.

วิโรจน์ชี้ สร้างรัฐสวัสดิการที่ดีทำได้จริง ไม่ใช่แค่เพิ่มขนาดเค้ก แต่ต้องแบ่งเค้กเท่าเทียม ปกป้องเค้กของประชาชนไม่ให้มือดีแอบกิน พร้อมเสนอ 5 นโยบายทำได้ทันทีเพื่อเพิ่มขนาดเค้ก กทม. รวมถึงการตัดงบ PR ภาครัฐ ซึ่งใช้เงินมหาศาลโดยประชาชนไม่ได้ประโยชน์ 

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สัครผู้ว่าฯ กรุงเทพ เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดีย ว่าด้วยการจัดทำรัฐสวัสดิการที่ดี ต้องเพิ่มขนาดเค้ก หรือขนาดรายได้ของรัฐก่อน โดยวิโรจน์ยืนยันว่าการเพิ่มขนาดเค้กเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องแบ่งเค้กอย่างเป็นธรรม และปกป้องเค้กของประชาชนไม่ให้ถูกเบียดบัง มิฉะนั้นต่อให้เค้กก้อนใหญ่ขึ้นแค่ไหน ประชาชนก็จะไม่ได้รับผลประโยชน์ 

“หากเราไม่สนใจที่จะจัดสรรอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าเค้กจะใหญ่ขึ้นสักเท่าใดคนที่ได้รับประโยชน์ก็จะไม่ใช่ประชาชนอยู่ดี และอันที่จริง เค้กของประเทศไทยไม่ใช่ว่าจะไม่ใหญ่ขึ้น แม้ GDP ไทยจะโตช้ากว่าเพื่อนบ้าน แต่ก็โตทุกปี แต่ในขณะที่เค้กใหญ่ขึ้น คนจนกลับจนลง คนรวยกลับยิ่งรวย จนประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่เหลื่อมล้ำที่สุดในโลก การจัดสรรอย่างเป็นธรรมจึงต้องทำทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้เค้กใหญ่ขึ้นก่อนแล้วค่อยจัดสรร” วิโรจน์กล่าว

วิโรจน์ยังเสนออีกว่า หากเปรียบงบประมาณทั้งหมดเป็น เค้ก 1 ก้อน เพื่อสร้างรัฐสวัสดิการ เพื่อสร้างเมืองที่คนเท่ากัน มี 3 สิ่งที่ต้องทำไปพร้อมกัน ได้แก่

1. ปกป้องเค้กของประชาชน มีตัวอย่างมากมายที่เค้กถูกตัดไปใช้ในโครงการที่ประชาชนแทบไม่ได้ประโยชน์ หนักไปกว่านั้นคือมีคนแอบกินเค้ก จากที่เล็กแทบจะไม่พออยู่แล้วก็ยิ่งเหลือน้อยลงไปอีก แต่เราก็ไม่เคยเห็นผู้ว่าฯ คนไหนลุกขึ้นมาปกป้องเค้กของประชาชน

ต่างเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพราะคนที่จะมาปาดหน้าหรือแอบกินได้ หากไม่ใช่พวกพ้องที่ต้องคอยเกรงอกเกรงใจแล้ว ก็ต้องเป็นคนใหญ่โต ผู้มีบารมี ไม่ใช่ตาสีตาสา อะไรที่ไม่จำเป็น อะไรที่ฟุ่มเฟือย ผู้ว่าฯ ต้องกล้าหาญพอที่จะตัดทิ้ง รวมถึงการแอบเบียดบังเค้กก็ต้องถูกจัดการให้หมดไป เพื่อรักษาไว้ซึ่งเค้กของประชาชน

2.แบ่งเค้กอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าเค้กจะก้อนเล็กหรือใหญ่ มันจะต้องถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรมและรัฐสวัสดิการคือหนึ่งในสิ่งที่จะลดความเหลื่อมล้ำและทำให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้นในสังคม

3. ทำให้เค้กก้อนใหญ่ขึ้น หากเราทำข้อ 1 และ 2 ได้ดี เค้กก็จะดูใหญ่ขึ้นโดยอัตโนมัติ เพราะการแบ่งที่เท่าเทียม และการป้องกันไม่ให้ใครมาเบียดบังแอบกินเค้ก

อย่างไรก็ตามด้วยงบประมาณที่มี แม้เราจะสามารถสร้างรัฐสวัสดิการได้ แต่ก็ยังไม่ดีพอเพื่อสร้างรัฐสวัสดิการที่ดีกว่านี้ เราจำเป็นต้องทำให้เค้กใหญ่ขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

วิโรจน์เสนอว่า สำหรับ กทม. สิ่งที่ผู้ว่าฯ สามารถทำได้ทันทีเพื่อให้ได้เค้กก้อนที่ใหญ่ขึ้น ได้แก่การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและภาษีป้ายให้ครบถ้วน เพราะทุกวันนี้ กทม. ปล่อยให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เจ้าของห้างสรรพสินค้า นายทุนพลังงาน นายทุนทหาร เอาที่ไปล้อมรั้วปลูกกล้วย แยบยลกว่านั้นคือการซอยที่ให้เป็นที่เส้นก๋วยเตี๋ยวหรือที่ตาบอดเพื่อเลี่ยงภาษี ส่วนภาษีป้ายโฆษณา ปัจจุบัน กทม. จัดเก็บเข้าระบบได้เพียง 30-40% เท่านั้น ที่เหลือเป็นป้ายเถื่อนที่ใช้ระบบมาเฟียเส้นสาย ทำกำไรมหาศาลโดยไม่เข้ารัฐ

อีกช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้กทม. คือการกำหนดค่าธรรมเนียมขยะใหม่ กทม. มีค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะปีละ 7,000 ล้าน (หรือ 12,000 ล้าน หากรวมค่าจ้าง ค่าเสื่อมราคา ค่าซ่อมแซมรถขนส่งขยะ)  ต่เก็บค่าธรรมเนียมจัดการขยะได้เพียง 500-600 ล้านบาทต่อปี วิโรจน์ยืนยันว่ารัฐสามารถขาดทุนเพื่อให้บริการสาธารณะได้ แต่รัฐไม่ควรขาดทุนเพื่อโอบอุ้บนายทุน เพราะเมื่อลงไปดูรายละเอียดเราจะพบว่าเหล่าห้างสรรพสินค้าทั้งหลายที่ผลิตขยะเป็นจำนวนมหาศาลกลับจ่ายค่ากำจัดขยะเพียงเดือนละไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้น

ช่วยเหยื่อกลับไทย!! ‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม ‘ไทย-กัมพูชา’ ช่วย ‘เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์’ พร้อมเดินหน้าช่วยคนไทยพ้นขุมนรก อีกกว่า 2 พันราย!

นายกฯ ชื่นชม หน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งไทย-กัมพูชา ช่วยเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผย ยังติดตามการเข้าช่วยคนไทย อีกกว่า 2 พันคน ที่ยังถูกบังคับทำงานอยู่ในหลายๆเมือง

(17 เม.ย. 65)  น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุนษย์ เรื่องการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งปฎิบัติการช่วยเหลือรวมแล้วกว่า 11 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว ช่วยเหลือคนไทยกลับประเทศ 600 กว่าคน และนายกฯยังติดตามการเข้าช่วยเหลือคนไทยอีก 2 พันกว่าคน ที่ยังถูกบังคับทำงานอยู่ในหลายๆเมือง

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และองค์กรภาคประชาสังคม ในความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอก และได้ขอบคุณประเทศกัมพูชา ที่สนับสนุนให้ข้อมูล อำนวยความสะดวก และคอยช่วยเหลือจนสามารถช่วยเหลือคนไทยได้อย่างต่อเนื่อง 

พร้อมกับขอความร่วมมือคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างรวดเร็ว ห้ามละเว้นการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบและรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมขบวนการฯ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงให้ประชาชนรู้ถึงความผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายดังกล่าว 

เตือนแล้วนะ! ‘รัสเซีย’ เตือน ‘สหรัฐฯ-นาโต’ หยุดส่งอาวุธให้ยูเครน ขู่!  หากดึงดัน อาจเกิดผลลัพธ์เกินคาดเดา!

รัสเซียเตือนอย่างเป็นทางการถึงสหรัฐฯ และนาโต ว่า จะเกิดผลลัพธ์ที่คาดเดาไม่ได้ต่อเสถียรภาพความมั่นคงทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ถ้าหากยังไม่หยุดส่งอาวุธให้แก่ยูเครน ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวว่า ทหารยูเครนราว 2,500-3,000 นาย เสียชีวิตในช่วงเวลา 7 สัปดาห์ของสงครามกับรัสเซียและอีกราว 10,000 นาย ได้รับบาดเจ็บ พร้อมเรียกร้องนานาชาติให้คว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม


สำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์รายงานว่า รายงานอ้างสื่อในสหรัฐฯ หลายสำนักที่ระบุว่า รัสเซียได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการลงวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมาถึงกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ผ่านทางสถานทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี เตือนสหรัฐฯ และองค์การนาโต ว่า จะเกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ หากยังคงส่งอาวุธไปให้แก่ยูเครน ในหนังสือของรัสเซียระบุว่า การที่สหรัฐฯ และนาโต จัดส่งอาวุธที่อ่อนไหวมากที่สุดไปให้แก่ยูเครนนั้น เท่ากับเป็นการเติมเชื้อเพลิง ซ้ำเติมความขัดแย้ง พร้อมกับเรียกร้องให้สหรัฐฯ และพันธมิตรของสหรัฐฯ หยุดการส่งอาวุธให้ยูเครนอย่างไม่รับผิดชอบ เพราะจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่คาดเดาไม่ได้ต่อเสถียรภาพความมั่นคงทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ข่าวคำเตือนของรัสเซียออกมา หลังจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มความช่วยเหลือทางการทหารแก่ยูเครนอีก 800 ล้านดอลลาร์ในวันพุธที่ผ่านมา 2 วันหลังจากรัสเซียส่งหนังสือเตือนดังกล่าว อาวุธใหม่ที่สหรัฐฯ เตรียมจะส่งให้แก่ยูเครน สำหรับความช่วยเหลือทางทหารครั้งใหม่ 800 ล้านดอลลาร์นั้น รวมถึง ปืนใหญ่วิถีโค้ง หรือฮาวอิทเซอร์ ขนาด 155 มม. ซึ่งสหรัฐฯ ยังไม่เคยส่งให้แก่ยูเครนมาก่อนรวมไปถึงระบบเรดาร์ต่อต้านปืนใหญ่ ที่ไม่มีในคลังอาวุธของกองทัพยูเครน ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ รวมถึงปืนใหญ่ กระสุนปืนใหญ่ ยานเกราะลำเลียงพล และเฮลิคอปเตอร์

ด้านประธานาธิบดีไบเดนกล่าวในวันที่ประกาศเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเมื่อวันพุธดังกล่าว ว่า อาวุธชุดใหม่ที่จะจัดส่งให้แก่ยูเครนนี้ รวมถึงอาวุธประสิทธิภาพสูง ที่เคยส่งให้แก่ยูเครนมาแล้ว และเพิ่มเติมคือ อาวุธศักยภาพใหม่ที่คัดมาโดยเฉพาะเพื่อมอบให้แก่ยูเครน ใช้รับมือการโจมตีจากรัสเซียระลอกใหม่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในภาคตะวันออกของยูเครน ไบเดนระบุด้วยว่า การส่งอาวุธให้แก่ยูเครนอย่างต่อเนื่องของสหรัฐฯ และพันธมิตร เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ที่ช่วยให้ยูเครนสามารถสู้รบกับรัสเซียได้อย่างต่อเนื่อง

การประกาศเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน เป็นไปตามคำร้องขอล่าสุดจากประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ที่เพิ่งร้องขออาวุธหนักจากสหรัฐฯ เพื่อเตรียมรับมือปฏิบัติการใหม่ของรัสเซีย ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในภาคตะวันออกของยูเครนในเร็วๆ นี้

บทละครที่ถูกจับทาง 'เสธ.นิด' มอง!! 'สงครามรัสเซีย-ยูเครน' ใต้เงา 'สหรัฐ-นาโต' ในวันที่ 'ปูติน' ไม่โดดเดี่ยวอย่างที่ 'ไบเดน' คาดหวังไว้ .

พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ 'เสธ.นิด' อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก 'Vachara Riddhagni' เผยถึงสงครามการเมืองการทูตรัสเซีย/ยูเครน 2022 ที่มีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า...

รัสเซียโดยประธานาธิบดีปูตินไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างที่ประธานาธิบดีไบเดนคาดการณ์ไว้ “เพราะคิดว่าเงาปีศาจสตาลินจะมาหลอกหลอน” คนทั้งโลกได้

แต่ขณะนี้ หลังจากรัสเซียประกาศขับไล่นักการทูตสหภาพยุโรปออกจากกรุงมอสโก เพื่อเป็นการตอบโต้ที่หลายประเทศในสหภาพยุโรปขับไล่นักการทูตรัสเซีย 

ผลตามมา คือ การเจรจาเพื่อยุติสงครามในขณะนี้เป็นไปยากขึ้นและในขณะที่รัสเซียกำลังได้เปรียบในสงครามนี้ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซีย “เริ่มมีความได้เปรียบมากขึ้น” เพราะว่า...

1. สังคมโลกเริ่มมองย้อนหลังและสามารถเปรียบเทียบ “พฤติกรรมสงครามของสหรัฐฯ, อังกฤษ, นาโต” ในยุคสงครามก่อการร้ายโลกกับพฤติกรรมสงครามของรัสเซีย ว่า มีข้อแตกต่างกันมาก!!

ตั้งแต่ครั้งรัสเซียโดยประธานาธิบดีเบรสเนฟแห่งสหภาพโซเวียตบุกอัฟกานิสถาน เพราะมีปัญหาวุ่นวายการเมืองภายในอัฟกานิสถานเองและโซเวียตที่สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งอัฟกานิสถาน เห็นโอกาสอันดีที่จะเข้าครองอิทธิพลในเอเชียกลาง จึงส่งกองทัพเข้ายึด

สหรัฐฯ ได้โอกาสที่จะทำลายศรัทธาโซเวียตและพรรคคอมมิวนิสต์อัฟกานิสถาน จึงสนับสนุน มูจาฮิดีน ต่อสู้แบบกองโจรต่อเนื่อง จนในที่สุดโซเวียตเห็นว่า “สิ้นเปลืองไม่คุ้มค่าทางการเมืองและไม่มีผลประโยชน์อะไรจึงถอนทัพ” 

การแทรกแซงของต่างชาติในอัฟกานิสถานทำให้เกิด “แนวคิดต้นตำรับอิสลามเรียกว่า Taliban แปลว่า The Students ซึ่งยึดมั่นในวิถีอิสลามแบบเก่าอย่างเคร่งครัดและสนับสนุน Jihad สงครามศักดิ์สิทธิ์แบบอิสลามและได้ให้ที่พักพิง “อุซามะฮ์ บินลาดิน” ที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่าเป็นตัวการก่อการวินาศกรรมด้วยการจี้เครื่องบินโดยสารสหรัฐฯ 3 ลำและใช้เครื่องบินเหล่าบินชนตึก WT 1, 2 และเพนตากอน

ด้วยเหตุที่รัฐบาลตอลิบานไม่ส่งตัว อุซามะฮ์ บินลาดิน...สหรัฐฯ จึงถล่มกรุงคาบูลอย่างหนักแบบราบเป็นหน้ากลอง แล้วสร้างให้ใหม่

พร้อมทั้งทำสงครามกองโจรก่อการร้ายกับตอลิบานและดึงเอากองทัพนาโต้เข้าร่วมรบด้วย

แต่ไม่นานกองทัพนาโตถอนตัวเหลือสหรัฐฯ โดดเดี่ยวและไม่สามารถกำจัดกองทัพตอลิบานได้อย่างเด็ดขาด สิ้นเปลืองงบประมาณมากมายมหาศาล จึงถอนทัพในที่สุดเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว (2564)

2. สงครามอ่าวครั้ง 1 และ 2 สหรัฐฯ โจมตีกรุงแบกแดดอย่างหนักจนราบเป็นหน้ากลองและสหรัฐฯ เข้ายึดครองประเทศและบ่อน้ำมันทั้งหมด งานก่อสร้างปฏิสังขรณ์ประเทศเป็นของนายทุนสหรัฐฯ และสหรัฐฯ สร้างบริษัทหรือกองทัพทหารรับจ้าง Black Water เข้ารับงาน รปภ.บริษัทอเมริกันทั้งหมดในอิรัก

3. ช่วงการต่อต้านเปลี่ยนรัฐบาลในตะวันออกกลาง Arab Springs ซึ่งหลายประเทศมีลักษณะเป็น “เผด็จการ” ลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ดังนั้น NGO ตะวันตกถือโอกาสแทรกแซง ปราบปรามผู้นำที่สหรัฐฯ ควบคุมไม่ได้และจะเป็นภัยกับอิสราเอล ซึ่งมีความผูกพันกับนักการเมืองยิวที่มีอิทธิพลมากๆ ในพรรคการเมือง

และรัฐบาลสหรัฐฯ จะแสวงหาคนที่ “ตะวันตก” ควบคุมได้ง่ายกว่าผู้นำก่อนหน้านี้ เป็นรัฐบาลผนวกกับป้องกันอิสลามหัวรุนแรงไม่ให้เข้าไปมีอำนาจปกครองประเทศซึ่งจะเกิดความวุ่นวายขึ้นได้

4. ทุกครั้งที่กลุ่มแสวงผลประโยชน์ชาติตะวันตกเกิดขึ้น ก็เกิดกลุ่มต่อต้านที่เป็นมุสลิม และกลุ่มใหม่ คือ กลุ่ม ISIS ที่พัฒนาจากกลุ่มต่อต้านสหรัฐฯ ในอิรักและซีเรีย ซึ่งสหรัฐฯ ใช้ในการโค่นล้มประธานาธิบดี อัล อัสซัด แห่งซีเรีย แต่ไม่สำเร็จ จึงกลายเป็นสงครามการเมืองและรัสเซียเข้าช่วยประธานาธิบดีอัล อัสซัด ต่อสู้กับ ISIS ซึ่งเชื่อกันว่า สหรัฐฯ จัดตั้งขึ้นมาอย่างลับๆ เพื่อทำลายความแข็งแกร่งของชาติตะวันออกกลางที่สหรัฐฯ ควบคุมไม่ได้

5. สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดที่ตั้ง ISIS เพื่อเล่นละครหลอกสังคมโลก จนบ้านเมืองพินาศไม่เหลือซากเพื่อต้องการเพียงสังหารผู้นำ ISIS ซึ่งต่อมาเรียก สั้นๆ ว่า IS 

สหรัฐฯ จะใช้ยุทธวิธีเด็ดหัว Decapitation ด้วยเครื่องโจมตีทิ้งระเบิด

6. หากเปรียบเทียบตั้งแต่สหภาพโซเวียตล้มสลายลงนั้น “รัสเซียจำเป็นต้องรักษาอำนาจอิทธิพลของรัสเซียไว้ให้ได้”

จึงมีการรบปราบปรามการก่อการร้ายในจอร์เจียและเชชเนียที่ต้องการออกจากอิทธิพลของรัสเซีย

การทำลายที่มั่นกองกำลังก่อการร้าย ก็เพราะหากหลุดมือไปสหรัฐฯ จะเข้ามาครอบงำกลุ่มประเทศเหล่านี้ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัสเซียโดยตรง

แต่การโจมตีของกองทัพรัสเซียแตกต่างจากการทิ้งระเบิดถล่มของสหรัฐฯ เพราะรัสเซียใช้กองกำลังรถถังมากกว่า ผลการโจมตีทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ น่าจะเป็นแบบอย่างให้อิสราเอลโจมตีที่มั่นกลุ่ม Hamas ในปาเลสไตน์

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ ที่ 17 เมษายน 2565 : หลวงปู่แบน ธนากโร

คนที่...ดูแลพ่อแม่อย่างดี ไม่มีทางตกต่ำ

แม้ตัวเองต้องรับกรรมที่ทำมา ก็จะมีบุญ จะมีคนช่วย เพราะความกตัญญูของเราเอง

- หลวงปู่แบน ธนากโร- 

‘ลี เซียนลุง’ นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ปูทางให้ ‘ลอว์เรนซ์ หว่อง’ รัฐมนตรีคลัง วัย 49 ปี เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา 

วันที่ 16 เมษายน 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า “ลี เซียนลุง” นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวว่า “ลอว์เรนซ์ หว่อง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นผู้รับตำแหน่งต่อจากเขา

หว่อง ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคกิจประชาชน (PAP) รุ่นที่ 4 ซึ่งเป็นการปูทางให้เขาก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ลี โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า “แผนสำหรับลอว์เรนซ์คือให้เขารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนผม ไม่ว่าจะก่อนหรือหลัง (หาก PAP ชนะ) ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในปี 2568 และจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากอย่างแน่นอน”

ลี ซึ่งเป็นลูกชายของ “ลี กวนยู” นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเช่นเดียวกับบิดาของเขาตั้งแต่ปี 2547 เขามีส่วนสำคัญที่ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่มั่งคั่งและมีเสถียรภาพ สามารถดึงดูดนักลงทุนและนักธุรกิจในภูมิภาค ที่เผชิญความวุ่นวายทางการเมืองบ่อยครั้ง

หว่อง อายุ 49 ปี เป็นผู้นำทางให้สิงคโปร์ผ่านการระบาดของโควิด-19 ในฐานะประธานร่วมของคณะทำงานเฉพาะกิจรับมือโควิด-19 เขาถูกจับตาจากนักวิเคราะห์ในฐานะผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากลี ในวัย 70 ปี

กกต.กทม. ชี้ ‘แอนนา’ ถอนตัวสมัคร ส.ก.ไม่ได้ เตรียมแจ้งเตือน หวั่นเข้าข่ายจูงใจให้หลงผิด ทำให้มีคะแนนนิยมได้

16 เม.ย.2565 - นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวกรณีน.ส.หทัยรัตน์ (วิทยพูม) ธนากิจอำนวย หรือ แอนนา  ภรรยาของนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย “ลูกนัท” (ไฮโซลูกนัท) นักขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเมือง ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)เขตสวนหลวง พรรครวมไทยยูไนเต็ด ประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สมัครส.ก.เพื่อลบข้อครหาการแจ้งจับนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหวังผลเลือกตั้งว่า ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 53 เมื่อลงสมัครแล้วไม่สามารถถอนตัวจากการเป็นผู้สมัครได้ ซึ่งคงต้องทำความเข้าใจกับคุณแอนนาว่าเมื่อลงสมัครแล้วไม่สามารถถอนตัวได้

โดยขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายศึกษา และตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ที่คุณแอนนาประกาศนั้นคำว่า "ถอนตัว" วัตถุประสงค์ของการประกาศคืออะไร เพราะการจะไม่เป็นผู้สมัครมีแค่กรณีขาดคุณสมบัติแล้วผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานครไม่ประกาศรับสมัคร  เมื่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพฯประกาศให้คุณแอนนาเป็นผู้สมัครแล้ว ความเป็นผู้สมัครของคุณแอนนา จะมีอยู่ไปจนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้น ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปหย่อนบัตรให้ก็ถือเป็นคะแนน

‘อรรถวิชช์’ ทีมเศรษฐกิจพรรคกล้า ขอ ครม. ฟังผู้ประกอบการ ลดจัดเก็บภาษีที่ดิน 90% ต่ออีก 1 ปี หวังช่วยผู้ประกอบการฟื้นตัวจากพิษโควิด

16 เมษายน 2565 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ในฐานะทีมเศรษฐกิจ พรรคกล้า กล่าวถึงกรณีรัฐจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปีนี้เต็ม 100% ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน โดยเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาลดหย่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 90% จ่ายจริง 10% เช่นเดียวกับ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะผู้ประกอบการประสานเสียงพร้อมกันแล้วว่า “ยังไม่พร้อมจ่าย” โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและบริการ ธุรกิจโรงแรมกว่า 70,000 แห่งทั่วประเทศ ต้องรับภาระเต็มๆ ทั้งที่รายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 80% และยังต้องแบกรับภาระขาดทุนสะสมตลอดการระบาด 2 ปีที่ผ่านมา

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวเสริมว่า โดยเฉพาะหน่วยงาน กทม. ยิ่งไม่พร้อม เพราะเป็นท้องถิ่นที่มีส่วนราชการย่อยอีก 50 เขตปกครอง ต่างจาก อบต. , เทศบาล หรือเมืองพัทยา ที่มีส่วนราชการเพียง 1 เขตปกครองเท่านั้น ระบบไอทีที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้นำมาใช้นั้น จะใช้ไม่ได้สมบูรณ์ในกรณี กทม.  และ กทม.เองก็เพิ่งประมูลระบบไอที เพื่อการจัดเก็บภาษีที่ดินโดยเฉพาะไปไม่ถึง 2 เดือนเอง กว่าจะใช้ได้จริงก็สิงหาคม ระบบอัตรากำลังคนก็ยังไม่ได้ปรับปรุง ฝ่ายรายได้ของสำนักงานเขตมีคนไม่ถึง 15 คน แต่มีงานประเมินใหม่กว่า 20,000 รายใน 1 เขต  คงยากถ้าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามเป้าภายในเดือนมิถุนายน   


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top