Friday, 20 June 2025
NEWS FEED

รพ.ศิริราช เผยความคืบหน้าอาการ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ล่าสุด สามารถลุกเดินเองได้ โดยไม่ต้องใช้วอล์คเกอร์ การหายใจ พูดจา ทานอาหาร เข้าสู่ภาวะปกติ สามารถตักอาหารทานเองได้ เตรียมตรวจภูมิคุ้มกันอีก 1 - 2 วัน

วันนี้ (1 มีนาคม 2564) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงความคืบหน้าอาการป่วยของ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ผ่านระบบ Zoom โดยระบุว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งวันหยุดที่ผ่านมา ตอนนี้ผู้ว่าฯ ลุกเดินแล้ว โดยไม่ต้องใช้วอล์คเกอร์ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ทำกายภาพเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยเฉพาะขา พบว่าเดินได้ดี ยิ่งเดินมาก ก็ยิ่งจะมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้เร็ว การพูดจาปกติ การทานอาหารเข้าสู่ภาวะปกติ มือตักอาหารทานข้าวได้เอง

“สำหรับการออกจากโรงพยาบาลกลับไปยัง จ.สมุทรสาคร จะปรึกษากันอีกครั้งว่า หากมีคนสามารถดูแลการเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อที่สมุทรสาครได้ ท่านก็พร้อมและสามารถกลับได้ แต่หากจะอยู่ที่นี่ให้นักกายภาพช่วยพัฒนาความแข็งแรงอีกระยะก็ทำได้ แต่ตอนนี้เข้าสู่ระยะฟื้นตัวปกติ หายใจอากาศปกติ โดยจะเจาะเลือดดูภูมิคุ้มกันอีก 1 - 2 วัน แต่แม้ภูมิจะขึ้น ก็ยังต้องใส่หน้ากากเว้นระยะห่าง”

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้เข้าสู่ระยะพักฟื้น เพิ่มกำลังกล้ามเนื้อ เพราะตอนนี้ผ่านพ้นระยะวิกฤติเรียบร้อยแล้ว หากกลับไปจะทำงานก็ทำได้ เพราะตอนนี้ทำงานที่บ้านได้ มือ แขน ทำงานได้ปกติ และตอนนี้เป็นจังหวะที่สมุทรสาครการติดเชื้อใหม่น้อยลง เป็นจังหวะดีที่อาจจะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป

"ส่วนการรับวัคซีน ตอนนี้รอดูผลการตรวจภูมิคุ้มกัน หากตอนนี้ภูมิสูงมาก วัคซีนอาจจะไม่จำเป็นเพราะภูมิคุ้มกันสูง สามารถรอไปก่อนได้ เพราะตอนนี้ ทั่วโลกยังไม่รู้ว่าคนที่ติดเชื้อและมีภูมิคุ้มกันสูง ภูมิจะอยู่ได้กี่เดือน จากการวิจัย สำนักงานสาธารณสุขในอังกฤษ (Public Health England: PHE) ที่ผ่านมา พบว่าภูมิคุ้มกันอยู่ได้ 7 เดือน แต่ก็ยังตอบไม่ได้ว่า 8 - 9 เดือนหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร"

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/925060

สหราชอาณาจักร (UK) เร่งฉีดวัคซีนสัปดาห์ละ 3 ล้านคน กลุ่มคนอายุ 40 ขึ้นไปในยูเค จะเป็นกลุ่มต่อไปที่จะได้คิวรับวัคซีนป้องกันโควิด หลังจากกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ได้รับการฉีดวัคซีนทุกคนภายในวันที่ 15 เมษายนนี้

โดยใช้เกณฑ์อายุเป็นหลัก ไม่ใช่อาชีพ ที่จะได้รับการจัดลำดับความสำคัญต่อไปในแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในระยะที่สอง

การฉีดวัคซีนตามลำดับอายุเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการลดการเสียชีวิตจากโควิด -19 ในระยะถัดไป ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษารัฐบาล สหราชอาณาจักร กล่าว

คนอายุ 40 ขึ้นไปจะเป็นกลุ่มต่อไป เมื่อการฉีดแผนปัจจุบันเสร็จ

การจัดลำดับความสำคัญตามอาชีพจะ "ซับซ้อนมากขึ้น" และอาจทำให้โปรแกรมการฉีดวัคซีนช้าลงได้ คณะกรรมการร่วมว่าด้วยการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรคกล่าว

ทั้ง 4 ประเทศของสหราชอาณาจักร (อังกฤษ, เวลส์, สก๊อตแลนด์ และ ไอร์แลนด์เหนือ) จะปฏิบัติตามแนวทางนี้โดยมีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้กับทุกคนทั้งหมดภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

จนถึงขณะนี้มีคนมากกว่า 20 ล้านคนในสหราชอาณาจักรที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว

บุคคลอาชีพ ครูและเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหนึ่งในผู้ที่รณรงค์ให้มีการจัดลำดับความสำคัญในระยะต่อไป - แต่ตอนนี้พวกเขาจะได้รับการฉีดวัคซีนตามกลุ่มอายุ

คณะกรรมการร่วมว่าด้วยการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (JCVI) ได้พิจารณาถึงหลักฐานในการลดการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากโควิด -19 ในระยะที่สองของโครงการฉีดวัคซีนของสหราชอาณาจักรกล่าวว่าการจัดลำดับความสำคัญทางอาชีพ อาจทำให้กลุ่มเปราะบาง บางคนต้องรอการฉีดวัคซีนเข็มแรกนานขึ้น

JCVI กล่าวว่า ควรจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มต่อไปนี้เมื่อกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดในระยะที่หนึ่งได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็มฉีดไปแล้ว (ภายในกลางเดือนเมษายน): คิวกลุ่มถัดไปคือ

- ทุกคนที่มีอายุ 40 - 49 ปี

- ทุกคนที่มีอายุ 30 - 39 ปี

- ทุกคนที่มีอายุ 18 - 29 ปี

และขอแนะนำ ให้บุคคลบางกลุ่มมารับวัคซีนทันทีเมื่อถึงคิว กลุ่มเหล่านี้คือ :

- ผู้ชาย

- ผู้ที่อยู่ในชุมชนคนผิวสี, เอเชีย และ ชนกลุ่มน้อย (หมายถึงคนไทยทุกคนในสหราชอาณาจักร)

- ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

- ผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านที่ยากจน

ในระยะที่หนึ่งมีการกำหนดกลุ่มลำดับความสำคัญ 9 กลุ่มตามอายุและสภาวะสุขภาพพื้นฐาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มความเสี่ยง รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพและการดูแล เพื่อปกป้องคนที่เปราะบางที่พวกเขาดูแล

การฉีดวัคซีนกลุ่มเหล่านี้น่าจะป้องกันได้ประมาณ 99% แก่ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจาก Covid-19 มากที่สุด

ผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด 4 อันดับแรก - ราว 15 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ มากกว่า 95% ของผู้ที่มีอายุเกิน 70 ปีที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว

มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนทุกสัปดาห์ จำนวนสัปดาห์ละสามล้านคนในสหราชอาณาจักรด้วยวัคซีน ไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) หรือไม่ก็ ของ อ็อกซ์ฟอร์ด-เอสด้าเซนเนก้า (Oxford-AstraZeneca)

การวิจัยเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า วัคซีนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในการป้องกันโรคร้ายแรงจาก Covid-19 ในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีข้อบ่งชี้บางประการที่อาจลดการแพร่กระจายของไวรัสระหว่างคนได้


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3863670853671897&id=178210772217942

https://www.bbc.com/news/health-56208674

‘บิ๊กตู่’ แจงเจ้าหน้าที่จำเป็นใช้มาตรการตามมาตรฐานสากล หลังม็อบใช้ความรุนแรงก่อน วอนสื่อนึกถึงบ้านเมืองนำเสนอข่าวสองทาง ลั่นไม่ว่าประชาธิปไตยแบบไหนก็ต้องมีกฎหมาย ยันไม่ละเมิดผู้ชุมนุม แต่ถ้าใครละเมิดกฎหมายต้องดำเนินการ

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม REDEM ที่บริเวณหน้าบ้านพักวานนี้( 28 ก.พ.) มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นว่า สื่อก็เห็นแล้วว่าเป็นความรุนแรง ดังนั้นต้องเสนอข่าวทั้งสองทางไม่ใช่บางสื่อเสนอข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเพียงข้างเดียว แต่ภาพอีกฝ่ายกลับไม่นำมาออกเลย แบบนี้ตนว่าบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ จึงขอร้องสื่อทุกสื่อด้วย ซึ่งตนก็ได้ติดตามอยู่

"ผมก็ติดตามอยู่ว่าทำไมออกข่าวข้างเดียวว่าตำรวจใช้ความรุนแรง ท่านไม่ดูก่อนหน้าที่จะเกิดการชุมนุมมีความรุนแรงเกิดขึ้น แรกๆก็โอเคเป็นไปตามปกติของเขา ท่านก็รู้อยู่แล้วเขาพูดจาอะไรก็เป็นเรื่องที่เขาทำถูกทำผิดก็ไปว่ากันมาตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นและมีการรุกเข้ามาในพื้นที่ของตำรวจ รุกเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่หวงห้าม และมีการใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาก็จำเป็นต้องใช้มาตรการตามมาตรฐานสากลออกไป ซึ่งถ้าเราไม่ทำแบบนี้มันจะอยู่กันยังไงประเทศชาติบ้านเมือง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า "ทั้งนี้ขอให้ทุกคนรวมทั้งสื่อต่าง ๆ ยึดถือบ้านเมืองเป็นหลัก ซึ่งตนจะไปบังคับไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ขอร้องว่าทำอย่างไรให้บ้านเมืองของเรามีความสงบและเคารพกฎหมาย เป็นไปตามกฎหมายของบ้านเมืองแค่นั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยแบบใดก็ตามต้องมีกฎหมายเพียงแค่นั้น ขณะเดียวกันก็มีการปฏิบัติดูแลคุ้มครองสิทธิในการสู้คดีอะไรต่าง ๆ โดยยืนยันว่าไม่ได้ละเมิดอะไรผู้ชุมนุม

แต่หากผู้ชุมนุมละเมิดกฎหมายก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ ดังนั้นขอให้เห็นใจต้องให้พี่ตำรวจบ้างที่ทำงานหนัก อดทนและยังได้รับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจนทำให้บาดเจ็บเสียหาย ซึ่งการทำลายข้าวของและทรัพย์สินราชการทำได้หรือไม่ หากเป็นการชุมนุมโดยสงบก็ว่ากันไปซึ่งการชุมนุมสงบหรือไม่สงบกฎหมายจะเป็นตัวตัดสินอยู่แล้ว"

“บิ๊กป้อม” เสียใจตำรวจควบคุมฝูงชน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ม็อบ REDEM ยันยังไม่ถึงขั้นให้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมยังให้เป็นหน้าที่ของ ตร.จัดการ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มมวลชม REDEM ที่เกิดความวุ่นวายถึงขั้นการจราจร ว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับ ร.ต.อ.วิวัฒน์ สินเสริฐ สังกัด สน.ธรรมศาลา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิต ซึ่งต้องเสียใจกับทางครอบครัวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่เขาก็ตั้งใจทำงาน แต่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้สูญเสียชีวิตและมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บถึง 16 คน

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมสถานการณ์เมื่อคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์เจ้าหน้าที่ถึงขั้นต้องใช้กระสุนยางเข้าดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการชี้แจงแล้ว ซึ่งก็เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน

เมื่อถามว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นปัญหาอยู่ที่ว่าไม่ปรากฏแกนนำ รองนายกฝ่ายความมั่นคงกล่าวว่า “แล้วผมจะทำอย่างไรได้ ก็เขาว่าเขาไม่มีแกนนำ”

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีมาตรการเด็ดขาดหรือสลายการชุมนุมหากมีบุคคลใดสร้างเงื่อนไขสถานการณ์ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาว่ามาตรการต่าง ๆ ตามขั้นตอน แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะให้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ

เมืองพัทยา เดินหน้าพัฒนาสู่ Smart City อย่างสมบูรณ์แบบ ผุด LINE@PATTAYA CONNECT 'เชื่อมคุณภาพชีวิต สร้างพัทยาให้น่าอยู่' เสิร์ฟข้อมูล พร้อมอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวครบวงจร

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา จ.ชลบุรี นายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดตัว LINE@PATTAYA CONNECT ภายใต้แนวคิด เชื่อมคุณภาพชีวิต สร้างพัทยาให้น่าอยู่ ช่องทางการสื่อสารโซเชียลเน็ตเวิร์กโฉมใหม่ ให้บริการข้อมูลข่าวสารเมืองพัทยาอย่างครบวงจร

สำหรับ LINE@PATTAYA CONNECT เป็นไลน์แอด ที่ทางเมืองพัทยาได้นำเอาบริการที่หลากหลาย มาให้กับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองพัทยา โดยได้มีการรวบรวมฟังก์ชั่น 6 ฟังก์ชั่น อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย

1.) งานจราจรที่สามารถแจ้งผู้ใช้รถใช้ถนนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจัดงาน หรืองานก่อสร้างทาง การศึกษา ที่มีคลิปความรู้ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี เหมาะกับทุกกลุ่มอายุตั้งแต่แรกเกิด จนถึงวัยเกษียณ

2.) การนัดหมายโรงพยาบาลที่สามารถร่นระยะเวลาในการติดต่อรอพบแพทย์

3.) การร้องเรียนและร้องทุกข์ ทีประชาชนสามารถพิมพ์เรื่องร้องเรียนพร้อมถ่ายรูปและแชร์โลเกชั่นได้อย่างเรียลไทม์ ซึ่งจะทำให้เมืองพัทยาดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

4.) การท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาที่พัก ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว การเดินทางภายในเมืองและระหว่างเมือง

5.) รวมถึงผู้ประกอบการในเมืองพัทยาก็ยังสามารถใช้แอปเพื่อให้ทางเมืองพัทยาได้โปรโมตสินค้าและบริการได้

และ 6.) ฟังก์ชั่นสุดท้าย คือ ระบบข้อมูลราชการที่จะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นในการติดต่อราชการมาให้ผู้ที่ใช้งาน ได้อ่านกันง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก โดยทั้ง 6 ฟังก์ชั่นได้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกกลุ่มและทุกสาขาอาชีพ เพื่อเป็นหนึ่งในการผลักดันให้เมืองพัทยาก้าวสู่ Smart City อย่างสมบูรณ์แบบ เปิดให้ทุกคนสามารถแอดเฟรนด์กันได้แล้วผ่านทางไลน์แอพพลิเคชั่น


ภาพ/ข่าว อนันต์ สุขวัฒนะ เอกชัย สุขวัฒนะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พัทยา จ.ชลบุรี

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ Thanathorn Juangroongruangkit (@Thanathorn_FWP) ถึงการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยระบุว่า .....

ผู้มีอำนาจไม่ต้องการให้ประชาชนออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เขาต้องการกดขี่ประชาชนไว้เพื่อรักษาอำนาจของตนเองต่อไป - รัฐบาลที่ไม่สามารถดำรงไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชน หนำซ้ำก่อความรุนแรงกับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประเทศนี้ ย่อมเป็นรัฐบาลที่ล้มเหลว #ม็อบ28กุมภา

‘ข้าวไทย’ เป็นสินค้าส่งออกของประเทศมายาวนาน แต่หากจะสืบย้อนกลับไป ว่าเมืองไทยเริ่มมีการพัฒนา ‘พันธุ์ข้าว’ อย่างจริงจังเมื่อไร เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2450 หรือวันนี้เมื่อ 114 ปีที่แล้วนี่เอง

ตามประวัติศาสตร์ ประเทศไทยมีการศึกสงครามมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา มาจนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น รวมเวลากว่า 550 ปี จนเมื่อเข้าสู่ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรือง มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้นเป็นลำดับ

โดยสินค้าส่งออกชนิดหนึ่งที่มีการค้าขายจนกลายเป็นของสำคัญ นั่นคือ ข้าว ทว่า ‘ข้าวไทย’ ในยุคสมัยดังกล่าว มีเมล็ดพันธุ์ที่ปะปนกันอยู่มากมาย ทั้งข้าวพันธ์ดีไปจนถึงพันธ์คุณภาพต่ำ ส่งผลให้มีราคาต่ำกว่าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน

ด้วยเหตุนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 5 จึงทรงโปรดให้มีการประกวดพันธุ์ข้าวขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่เมืองธัญบุรี (รังสิตในปัจจุบัน) มีชาวนาส่งข้าวเข้าประกวดถึง 324 ราย รวมข้าวได้ 165 พันธุ์ ซึ่งข้าวที่ได้รับรางวัลที่ 1 มีชื่อว่า ‘ข้าวปิ่นทอง’

จากการประกวดในครั้งนั้น ทำให้มีการจัดแบ่งพันธุ์ข้าวอย่างมีมาตรฐานยิ่งขึ้น หลังจากนั้นจึงมีการประกวดพันธุ์ข้าวเรื่อยมา โดยนอกจากจะเป็นการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปแล้ว ภายหลังยังมีการแจกจ่ายขยายพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี เพื่อให้ประชาชนได้นำไปปลูกต่อไป รวมทั้งยังได้ตั้งพันธุ์ข้าวมาตรฐานเอาไว้ด้วยกัน 8 พันธุ์ ได้แก่ พวงเงิน ขาวทดลอง ทองระย้าดำ จำปาซ้อน ปิ่นแก้ว บางพระ น้ำดอกไม้ และนางตานี ซึ่งต่อมายังได้มีพันธุ์ข้าวอื่น ๆ เกิดขึ้นจากสถานีพันธุ์ข้าว และวิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน


ที่มา:

http://brrd.ricethailand.go.th/index.php/2016-07-15-05-29-43/136-2017-05-04-02-32-02

http://www.thairiceexporters.or.th/features/Thai%20rice%20center%20of%20modern%20rice%20varieties.htm

นักท่องเที่ยวบ่ย่านอากาศร้อนขึ้นบันได 1,049 ชั้น กราบนมัสการหลวงปู่ขาว และรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาภูพานคำขอนแก่น พร้อมชมทิวทัศน์บนยอดเขาที่มองเห็นทัศนียภาพของเขื่อนอุบลรัตน์ที่สวยงาม

นักท่องเที่ยวบ่ย่านอากาศร้อนขึ้นบันได 1,049 ชั้น กราบนมัสการหลวงปู่ขาวและรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาภูพานคำขอนแก่น พร้อมชมทิวทัศน์บนยอดเขาที่มองเห็นทัศนียภาพของเขื่อนอุบลรัตน์ที่สวยงาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั้ง จ.ขอนแก่น และ จากจังหวัดใกล้เคียง ต่างพากันเดินทางมาที่วัดพระพุทธบาทภูพานคำ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เพื่อกราบนมัสการหลวงปู่ขาวและรอยพระพุทธบาท เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัวในช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวัน โดยทุกคนต่างพากันเดินขึ้นบันไดที่สูงถึง 1,049 ขั้น เพื่อทดสอบกำลังร่างกาย แม้สภาพอากาศวันนี้จะร้อนจัดก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาไม่ขาดสาย

ซึ่งบนยอดเขาภูพานคำ ภายในวัดพระพุทธบาทภูพานคำนั้น มีพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ตั้งตระหง่าน โดยภายใต้ฐานพระพุทธรูปเป็นพระอุโบสถสำหรับการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปทำบุญ ถวายสังฆทานและกราบสักการะพระพุทธรูปเพื่อขอพรและเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ภายใต้การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ขณะเดียวกันนอกจากจะได้กราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์แล้ว หลายคนอดไม่ได้ที่จะเก็บภาพทิวทัศน์ที่สวยงามบนยอดเขาซึ่งเมื่อมองลงมาจะเห็นเขื่อนอุบลรัตน์อย่างสวยงามอีกด้วย

สำหรับพระพุทธบาทภูพานคำตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาภูพานคำ อ.อุบลรัตน์ เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองในมณฑป และ หลวงพ่อพระใหญ่ หรือพระพุทธอุตรมหามงคลอุบลรัตน์เป็นองค์พระคอนกรีต เสริมเหล็ก สีขาว อยู่บนฐานดอกบัวสีชมพู ความสูงขององค์พระ 14 เมตร โดยสร้างแล้วเสร็จเมื่อ พศ. 2514 ปัจจุบันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวขอนแก่นให้ความเคารพนับถือและกราบขอพรทุกวัน

‘พุทธิพงษ์’ โพสต์ภาพกราบพ่อ แม่ พร้อมระบายผ่านข้อความ ระบุ หมดแรง หมดใจ หมดศรัทธา แต่ย้ำว่าไม่เสียใจในสิ่งที่ทำด้วยสติ ความคิดและศรัทธา

#หมดแรงหมดใจหมดศรัทธา

#พุทธิพงษ์โพสต์ภาพกราบพ่อแม่

#พ้อสิ่งที่ทำมันไร้ค่าไร้ราคาสิ้นดี

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความ ว่า

“หมดแรง หมดใจ หมดศรัทธา เพราะสิ่งที่ทำมันไร้ค่า ไร้ราคาสิ้นดี?...”

ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ผู้แทนของประชาชนด้วยความมุ่งมั่นและศรัทธา วันนี้คงได้เวลากลับไปดูแลคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัว ลูกๆ...ขอบคุณในทุกๆกำลังใจที่มีให้ผมมาโดยตลอด จากนี้จะมีโอกาสได้ทบทวนตัวเอง มองไปข้างหน้า ไม่เสียใจในสิ่งที่ได้ทำ เพราะเราทำด้วยสติ ความคิดและศรัทธา เราจะทำหน้าที่ประชาชนที่ดีต่อไปด้วยความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ภูมิใจที่สุดที่ได้อยู่บนแผ่นดินไทยของพระองค์

#เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน


ที่มา : เพจ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ https://www.facebook.com/BeePunnakanta/photos/pcb.2092035407594733/2092035354261405

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564)

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน

(28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564)

ผู้ติดเชื้อวันนี้ 70

เสียชีวิตสะสม 83

ผู้ติดเชื้อสะสม 25,951

หายป่วยแล้ว 25,128

อาเซียน

ประเทศบรูไน 186

ประเทศกัมพูชา 805

ประเทศอินโดนีเซีย 1.33 ล้าน

ประเทศลาว 45

ประเทศมาเลเซีย 2.98 แสน

ประเทศพม่า 1.42 แสน

ประเทศฟิลิปปินส์ 5.74 แสน

ประเทศสิงคโปร์ 59,925

ประเทศเวียดนาม 2,432


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top