Sunday, 22 June 2025
NEWS FEED

เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายกลางเมืองเควตต้า จุดเกิดเหตุอยู่ที่ด้านหน้าโรงแรม Serera เครือโรงแรมหรูอันดับต้น ๆ ของประเทศ ด้วยระเบิด Car bomb พบผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย บาดเจ็บอีก 12 ราย

เหตุระเบิดฆ่าตัวตายมักเกิดขึ้นบ่อยในแคว้นที่มีชายแดนติดกับอัฟกานิสถาน แต่สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ น่าจะมีนัยยะซ่อนเร้นมากกว่าแค่การก่อความไม่สงบ เพราะในวันเกิดเหตุ โรงแรมกำลังต้อนรับแขกบ้าน แขกเมืองคนสำคัญของรัฐบาล นั่นคือ เอกอัครราชทูตจีน และคณะผู้ติดตามรวม 4 คน

ทั้งนี้ ผู้ก่อการร้ายได้ติดตั้งระเบิดภายในรถ และนำเข้ามาจอดที่ลานจอดรถหน้าโรงแรม จนถึงช่วงหัวค่ำ ก็เกิดระเบิดสนั่นจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งต่อมากลุ่มตาลีบันในปากีสถานได้ออกมาประกาศว่าเป็นฝีมือของตน และเป็นการก่อเหตุระเบิดพลีชีพ

ส่วนคณะทูตจีน ไม่ได้อยู่ภายในโรงแรมขณะที่เกิดเรื่อง แต่ได้เดินทางออกจากโรงแรมไปประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด แจม คามัล จึงไม่มีใครในคณะได้รับบาดเจ็บ

ชีค ราชิค อาห์หมัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของปากีสถาน กล่าวว่า ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และท่านเอกอัครราชทูต หนง หลง พร้อมคณะปลอดภัยดี และไม่ได้เสียขวัญอะไร พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่จนแล้วเสร็จ จึงค่อยเดินทางกลับ

ถึงกระนั้น ข้อสันนิษฐานเรื่องการโจมตีโรงแรม Serena เพื่อหวังผลโจมตีคณะทูตจีน ก็ยังมีความเป็นไปได้สูง เพราะเคยมีการบุกโจมตีโรงแรม Pearl Continental ที่เมืองกวาดาร์ แคว้นบาลูจิสถานในปี 2019 และโจมตีสถานฑูตจีนในกรุงอิสลามาบัด โดยกลุ่มกองกำลังแบ่งแยกดินแดนบาลูจิสถาน เพื่อขัดขวางโครงการยักษ์ใหญ่ของจีน CPEC หรือ ระเบียงเศรษฐกิจ 'จีน- ปากีสถาน' ที่เป็นส่วนหนึ่งของเมกะโปรเจกต์เส้นทางสายไหมยุคใหม่ของจีน (Belt and Road Initiative) ซึ่งแคว้นบาลูจิสถาน ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของจีน ที่จะสร้างท่าเรือน้ำลึกกวาดาร์ ที่จะเป็นประตูออกสู่ทะเลอาหรับ

แคว้นบาลูจิสถาน นับเป็นแคว้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของปากีสถาน เป็นแคว้นที่มีประชากรน้อย และยากจนที่สุดของประเทศ แต่ก็มีทรัพยากรธรรมชาติมากที่รอการสำรวจ ต่อมาแคว้นนี้ ก็กลายเป็นที่จับตามองเป็นพิเศษเมื่อจีนเข้ามาลงทุน สร้างถนนเชื่อมตรงจากจีนสู่ท่าเรือน้ำลึกกวาดาร์ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์

แต่โครงการนี้ ก็ถูกต่อต้านโดยคนในพื้นที่ ที่มองว่าจีนเข้ามาแย่งทรัพยากรในดินแดนของพวกเขา และรัฐบาลปากีสถานก็ยังมีปัญหากับกลุ่มก่อการร้าย และกองกำลังแบ่งแยกดินแดน ที่มีอยู่หลายกลุ่มในแคว้นบาลูจิสถานแห่งนี้

ดังนั้นหากจีนจะสานฝันโครงการ CPEC ให้สำเร็จก็คงต้องฝ่าดงระเบิดอีกหลายลูก และต้องทุ่มงบประมาณด้านความมั่งคงให้กับปากีสถานอีกหลายปีทีเดียว

 

ที่มา: หรรสาระ By Jeans Aroonrat https://www.facebook.com/104132041212023/posts/286100319681860/

แหล่งข้อมูล:

https://www.theguardian.com/world/2021/apr/21/four-killed-in-bomb-explosion-at-pakistan-hotel-hosting-chinese-ambassador

https://www.theguardian.com/world/2019/may/11/armed-militants-storm-luxury-hotel-in-gwadar-pakistan

https://www.bbc.com/news/world-asia-56834937

https://timesofindia.indiatimes.com/world/pakistan/pakistan-tightens-security-in-balochistan-to-protect-cpec-projects/articleshow/81227467.cms

https://thediplomat.com/2020/06/how-cpec-left-behind-the-people-of-gwadar/


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

หนุ่มญี่ปุ่นโดนแหกวีรกรรมขั้นเซียน คบซ้อนสาวทีเดียว 35 คน ใช้คำหวานล่อลวง หลอกเอาเงิน - ของขวัญวันเกิด - หลอกขายเครื่องกรองน้ำ - เซ็นสัญญาขายตรง

หนุ่มญี่ปุ่น ชื่อว่า 'ทาคาชิ มิยากาวะ' (Takashi Miyagawa) วัย 39 ปี เป็นพนักงานพาร์ตไทม์ ไม่มีอาชีพประจำหรือรายได้ที่มั่นคง และมีถิ่นที่อยู่อาศัยชัดเจน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว หลังพบรายงานว่า เขาหลอกลวงเหยื่อผู้หญิงหลายคนที่คบหาด้วย ไม่ต่ำกว่า 35 คน ในช่วงเวลาเดียวกัน ตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

อาวุธสำคัญของมิยากาวะ คือ 'ปาก' เขาจะใช้คำหวานล่อลวง โปรยเสน่ห์จีบผู้หญิง ก่อนจะแกล้งโกหกวันเกิดขึ้นมา เพื่อหลอกเอาเงินและของขวัญวันเกิดที่มีราคา

หญิงรายหนึ่งอายุ 47 ปี ถูกหลอกว่าวันเกิดของเขาคือ 22 กุมภาพันธ์ แต่เขาอ้างกับหญิงอีกคนวัย 40 ปี ว่าเขาเกิดเดือนกรกฎาคม และโกหกหญิงอีกคนอายุ 35 ปีว่า เดือนเมษายนเป็นวันเกิดเขา

รวมจากหญิง 3 รายนี้ มิยากาวะได้บัตรของขวัญอิเล็กทรอนิกส์ 20,000 เยน และชุดสูท 30,000 เยน รวมเป็นเงินราว 100,000 เยน (ประมาณ 29,000 บาท)

ขณะที่สาวอีกรายหนึ่งเผยว่า มิยากาวะจูบเธอทันทีหลังจากเดตครั้งที่ 2 พร้อมกับคำพูดแสนหวานว่า "ผมจริงใจกับคุณ คุณเป็นคนที่ถูกลิขิตมาเพื่อผมจริง ๆ ผมจะอยู่กับคุณตลอดไป"

ในจังหวะที่หญิงสาวกำลังเคลิบเคลิ้มและมึนงง ไม่มีสติในการตัดสินใจ มิยากาวะรีบใช้โอกาสนี้พูดคำลวงส่งเสริมการขายเครื่องกรองน้ำหัวฝักบัว รวมทั้งให้เซ็นสัญญาผลิตภัณฑ์ขายตรงอื่น ๆ ให้

ผู้หญิงหลายคนมารู้ตัวในภายหลังว่าโดนมิยากาวะหลอก และได้รวมกันเป็นกลุ่มพันธมิตร ก่อนจะรวบรวมหลักฐาน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเดือนกุมภาพันธ์

มิยากาวะถูกจับในข้อหาฉ้อโกง และวันเกิดที่แท้จริงของเขาคือ 13 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม เขายังคงปิดปากเงียบ ในระหว่างถูกสอบสวน และมีเหยื่ออีกหลายคนที่เกี่ยวข้อง

ภายหลังจากวีรกรรมของเขาถูกเผยแพร่เป็นข่าวดัง ผู้คนในโซเชียลมีเดียได้แสดงความคิดเห็นเสียดสีทำนองว่า "คุณหล่อมาก", "นายบริหารเวลาเก่งมาก", "เพียง 24 ชั่วโมงต่อวัน 35 คน แข็งแกร่งสุดๆ"

 

ที่มา: https://hilight.kapook.com/view/212848

https://youtu.be/-UAmRRnfC8U


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เว็บไซต์ CNN Travel ได้เปิดการจัดอันดับเมนูอาหารที่รสชาติยอดเยี่ยมจากทั่วโลก 50 เมนู และผลสำรวจ ยกให้อาหารที่รสชาติดีที่สุดคือ ‘แกงมัสมั่น’ จากประเทศไทย

เว็บไซต์ CNN Travel ได้เปิดการจัดอันดับเมนูอาหารที่รสชาติยอดเยี่ยมจากทั่วโลก 50 เมนู และผลสำรวจ ยกให้อาหารที่รสชาติดีที่สุดคือ ‘แกงมัสมั่น’ จากประเทศไทย ขณะเดียวกัน ยังพบว่า ‘ต้มยำกุ้ง’ หนึ่งในเมนูดังของไทย ยังติดอันดับที่ 8 ด้วย

 

สำหรับ 10 อันดับ อาหารจานเด็ดจากทั่วโลก ได้แก่

1.) แกงมัสมั่น จากประเทศไทย

2.) Neapolitan pizza จากอิตาลี

3.) ช็อกโกแลต จากเม็กซิโก

4.) ซูชิ จากญี่ปุ่น

5.) เป็ดปักกิ่ง จากจีน

6.) แฮมเบอร์เกอร์ จากเยอรมนี

7.) Penang assam laksa จากมาเลเซีย

8.) ต้มยำกุ้ง จากประเทศไทย

9.) Ice cream, global

10.) ไก่มูอัมบา จากกาบอง

นอกจากนี้ อาหารที่คนไทยคุ้นเคย อย่าง ‘ส้มตำ’ ยังติดอันดับที่ 46 โดย และ CNN Travel ยังยกให้ประเทศไทย เป็นดินแดนที่มีการขายอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกเกือบทุกมุมถนนอีกด้วย

ที่มา : https://edition.cnn.com/travel/article/world-best-food-dishes/index.html


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

กิ๊ฟมีสปอร์ต (givemesport) เว็บไซต์ข่าวสารวงการกีฬา ยกย่องให้ ตระกูลศรีวัฒนประภา เจ้าของทีม เลสเตอร์ เป็นเจ้าของทีมที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

กิ๊ฟมีสปอร์ต (givemesport) เว็บไซต์ข่าวสารวงการกีฬา ยกย่องให้ ตระกูลศรีวัฒนประภา เจ้าของทีม เลสเตอร์ เป็นเจ้าของทีมที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ เพราะทั้งให้ความสำคัญกับแฟนบอลและบริหารทีมได้ดีจนทำให้มีผลงานที่โดดเด่น

กิ๊ฟมีสปอร์ต (givemesport) เว็บไซต์ข่าวสารวงการกีฬารายหนึ่ง ยกย่องให้ตระกูลศรีวัฒนประภา เจ้าของทีม เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นเจ้าของทีมที่ดีที่สุดของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2020-21

ประเด็นเรื่องเจ้าของทีมในวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีถูกหยิบขี้นมาพูดถึงอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้บริหารของ 6 ทีมดังจาก พรีเมียร์ลีก อันประกอบไปด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล, เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เคยคิดที่จะให้ทีมของพวกเขาไปร่วมจัดรายการ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก มาชนกับฟุตบอลถ้วยในช่วงกลางสัปดาห์ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ซึ่งมันก็ทำให้ผู้บริหารของทีมเหล่านั้นโดนตำหนิอย่างหนักจนต้องถอนตัวจากโปรเจ็กต์ในเวลาต่อมา

กิ๊ฟมีสปอร์ต บอกว่าสาเหตุที่พวกเขาให้ตระกูลศรีวัฒนประภาเป็นอันดับ 1 ในชาร์ตนี้นั้น ก็เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับแฟนบอลอย่างแท้จริง, ลงทุนกับสโมสรอย่างเต็มที่ และทำการเสริมทัพได้ยอดเยี่ยม แถมยังตาถึงจากการเอา เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามาคุมทีมด้วย จนทำให้ตอนนี้ทีมกำลังมีลุ้นได้โควตาเล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า

สำหรับอันดับ 2 ในชาร์ตดังกล่าวคือ เกา กวนฉาง มหาเศรษฐีชาวจีนที่เป็นเจ้าของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ตามด้วย นาสเซฟ ซาวิรี่ กับ เวส เอเดนส์ เจ้าของทีม แอสตัน วิลล่า

ทั้งนี้ มีเจ้าของทีมจากทีมใหญ่ติด 10 อันดับแรกเพียงคนเดียว นั่นคือ ชีคห์ มันซูร์ บิน ซาเย็ด อัล นาห์ยาน เจ้าของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อยู่ในอันดับ 7 โดย โรมัน อับราโมวิช บิ๊กบอส เชลซี อยู่ที่ 11, แดเนี่ยล เลวี่ ของ สเปอร์ส อยู่ในอันดับ 15, สแตน โครเอ็นเก้ ของ อาร์เซน่อล อยู่ที่ 18, จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ บิ๊กบอส ลิเวอร์พูล อยู่อันดับ 19 ขณะที่ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในอันดับ 20 หรืออันดับสุดท้าย

 

อันดับเจ้าของทีม พรีเมียร์ลีก ที่ดีที่สุดประจำฤดูกาล 2020-21 ตามการจัดของ กิ๊ฟมีสปอร์ต

1.) ตระกูลศรีวัฒนประภา (เลสเตอร์)

2.) เกา กวนฉาง (วูล์ฟส์)

3.) นาสเซฟ ซาวิรี่ และ เวส เอเด็นส์ (แอสตัน วิลล่า

4.) โทนี่ บลูม (ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน)

5.) ฟาร์ฮัด โมชิรี่ (เอฟเวอร์ตัน)

6.) อันเดรีย ราดริซซานี่ (ลีดส์)

7.) ชีคห์ มันซูร์ บิน ซาเย็ด อัล นาห์ยาน (แมนฯ ซิตี้)

8.) เกา จีเฉิง (เซาธ์แฮมป์ตัน)

9.) ไล่ กั๋วฉวน (เวสต์บรอมฯ)

10.) ชาฮิด ข่าน (ฟูแล่ม)

11.) โรมัน อบราโมวิช (เชลซี)

12.) สตีฟ แพริช, จอช แฮร์ริส และ เดวิด บลิตเซอร์ (คริสตัล พาเลซ)

13.) อับดุลลาห์ บิน มูซัด บิน อับดูลาซิว อัล ซาอุด (เชฟฯ ยูไนเต็ด)

14.) อลัน เพซ (เบิร์นลี่ย์)

15.) แดเนี่ยล เลวี่ (สเปอร์ส)

16.) เดวิด โกลด์ และ เดวิด ซัลลิแวน (เวสต์แฮม)

17.) ไมค์ แอชลี่ย์ (นิวคาสเซิ่ล)

18.) สแตน โครเอ็นเก้ (อาร์เซน่อล)

19.) จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ (ลิเวอร์พูล)

20.) ตระกูลเกลเซอร์ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

ที่มา : https://www.siamsport.co.th/football/kingpower/view/234191

https://www.givemesport.com/1679399-premier-league-club-owners-ranked-from-worst-to-best-after-super-league-mess


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ผลกระทบข้างเคียงฉีดวัคซีนโควิด ล่าสุดพบสาวมะกัน วัย 18 ปี อาการโคม่า! หลีงฉีดวัคซีนโควิดฯ ‘จอห์นสันฯ’ แพทย์ผ่าสมอง 3 รอบยื้อชีวิต พบสาเหตุลิ่มเลือดอุดตัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผลกระทบข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ขนานต่าง ๆ ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุด ผู้ใช้วัคซีนขนานของบริษัท “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” ในสหรัฐฯ ทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.เอ็มมา เบอร์คีย์ อายุ 18 ปี พำนักอาศัยอยู่ในย่านคลาร์กเคาน์ตี นครลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐฯ เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ในเส้นเลือดดำบริเวณสมอง หรือซีวีเอสที ภายหลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีนขนานนี้ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา

รายงานข่าวแจ้งว่า เอ็มมา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และมีอาการโคม่า จนทางคณะแพทย์ต้องผ่าตัดเพื่อรักษาอาการเส้นเลือดดำอุดตันบริเวณสมอง โดยมีรายงานว่า คณะแพทย์ต้องดำเนินการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง ซึ่งในเวลานี้ น.ส.เบอร์คีย์ สามารถออกจากห้องไอซียู และถอดเครื่องช่วยหายใจได้แล้ว หลังจากอาการดีขึ้นอย่างช้า ๆ อย่างไรก็ตาม คนไข้รายนี้ยังคงต้องใส่ท่อหลอดลมที่คอ

รายงานระบุว่า เอ็มมาฉีดวัคซีนของจอห์นสันโดสแรกเมื่อวันที่ 1 เม.ย. และผ่านไปราว 1 สัปดาห์จึงมีอาการ ส่งผลให้ครอบครัวต้องเร่งพาไปโรงพยาบาลเซนต์โรส โดมินิกัน ในเมืองเฮนเดอร์สัน แต่เพราะอาการวิกฤตจึงต้องนำตัวขึ้นหน่วยบินแพทย์ฉุกเฉินเพื่อส่งไปโรงพยาบาลโลมา ลินดา ในนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย

เอ็มมา เบอร์คีย์ ถือเป็น 1 ใน 6 ราย ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนขนานของบริษัท “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” แล้วเกิดผลกระทบข้างเคียงด้วยภาวะลิ่มเลือดอุดตัน


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

.

หน.ศปม. ส่งรถทหาร 10 คัน ช่วยภารกิจลำเลียงผู้ป่วยประเภทสีเขียว ไปส่งรพ.สนาม สั่งแสตนบายอีก 20 คัน

เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2564 พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.) กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้นำรถทหาร เข้ามาช่วยในการลำเลียงผู้ป่วยโควิด-19 ว่า จะมาเข้าสนับสนุนในส่วนผู้ป่วยประเภทสีเขียว คือที่แพทย์ได้วินิจฉัยแล้วว่ามีผลเป็นบวก แต่อาการไม่มาก โดยจะเคลื่อนย้ายจากโรงพยาบาล ที่ผู้ป่วยได้เข้ารับการตรวจ และเอ็กซเรย์ปอดวินิจฉัยแล้วเข้าข่ายผู้ป่วยประเภทสีเขียว ไปส่งยังโรงพยาบาลสนาม

เบื้องต้นจนถึงขณะนี้ กองทัพได้สนับสนุนรถทหาร ในภารกิจแล้ว 10 คัน ตามแผนจะใช้ประมาณ 30 คัน โดยจะเป็นรถพยาบาล ของกองพันเสนารักษ์รวมถึงรถสองตอน ที่ต้องแยกระหว่างคนขับกับผู้ป่วยออกจากกัน  ซึ่งส่วนใหญ่จะดำการในกรุงเทพมหานคร เป็นหลัก

นพ.ยง เผยผลตรวจภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวค พบผู้ฉีดมีภูมิต้านทานขึ้นได้ดีมาก เป็นที่น่าพอใจ ตรวจพบภูมิต้านทาน ต่อสไปรท์โปรตีน หรือหนามแหลม ถึง 99.4%

วันนี้ (22 เม.ย.) นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า โควิด-19 วัคซีน ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากวัคซีนจีน Sinovac

ทางศูนย์ได้ทำการศึกษาร่วมกับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว สมุทรสาคร การรายงานเบื้องต้น ถึงภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 Sinovac 2 เข็มห่างกัน 3 สัปดาห์

ตรวจภูมิต้านทานก่อนและหลังการให้วัคซีน พบว่าภูมิต้านทานขึ้นได้ดีมาก เป็นที่น่าพอใจ

4 สัปดาห์หลังฉีดเข็ม 2 ภูมิต้านทานที่ขึ้นได้เท่าเทียมกับภูมิต้านทานที่ตรวจพบจากการติดเชื้อโดยธรรมชาติที่ 4 ถึง 8 สัปดาห์ ดังแสดงในรูป

 

ผู้ที่ฉีดวัคซีนตรวจพบภูมิต้านทาน ต่อสไปรท์โปรตีน หรือหนามแหลม ถึงร้อยละ 99.4 ในขณะผู้ที่ติดเชื้อตรวจพบภูมิต้านทาน ร้อยละ 92.4 ระดับภูมิต้านทานในกลุ่มที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มมีค่าเฉลี่ยเรขาคณิต อยู่ที่ 89.5 u/ml

ส่วนผู้ที่ติดเชื้อในธรรมชาติจะมีระดับภูมิต้านทานค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 61 u/ml แสดงให้เห็นว่าการได้รับวัคซีนมีภูมิต้านทานเกิดขึ้นได้เท่าเทียมกับภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ

ขณะนี้กำลังศึกษาระยะยาวถึงความคงอยู่ของภูมิต้านทาน เพื่อจะคาดการณ์ โอกาสที่จะเกิดการติดโรคหรือเป็นซ้ำ

เพราะเป็นที่ทราบดีแล้วว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 ถึงหายแล้วก็ยังมีโอกาสที่อาจจะติดเชื้อซ้ำได้ แต่ความรุนแรงน่าจะน้อยลง

ในระยะยาว จากผลการศึกษานี้จะช่วยบอกว่าจำเป็นที่จะต้องมีการกระตุ้นด้วยวัคซีนเข็มที่ 3 หรือไม่ และถ้าจะต้องกระตุ้นจะกระตุ้นเมื่อใด

ที่มา : https://www.facebook.com/yong.poovorawan


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียประกาศว่านักการทูตอเมริกัน 10 คนเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาและให้เดินทางออกจากรัสเซียภายใน 1 เดือน ตอบโต้ที่สหรัฐอเมริกาประกาศขับนักการทูตรัสเซีย 10 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน

ได้เวลาเอาคืน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียประกาศว่านักการทูตอเมริกัน 10 คนเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาและให้เดินทางออกจากรัสเซียภายใน 1 เดือน ตอบโต้ที่สหรัฐอเมริกาประกาศขับนักการทูตรัสเซีย 10 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แถลงนโยบายเตือนคู่แข่งจากตะวันตกอย่าล้ำเส้น ชี้เอะอะก็โทษรัสเซีย

รัฐบาลรัสเซียเคยขู่ภายหลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเนรเทศนักการทูตรัสเซีย 10 คนเพื่อลงโทษต่อการกระทำที่สหรัฐระบุว่าเป็นการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี, การโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ และกิจกรรมปรปักษ์อื่น ๆ ว่ารัสเซียจะตอบโต้สหรัฐในแบบเดียวกัน และในวันพุธที่ 21 เมษายน กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียจึงได้ฤกษ์ประกาศขับนักการทูตสหรัฐ 10 คน โดยประกาศว่าคนเหล่านี้เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา

"บุคคลเหล่านี้ได้รับคำสั่งให้ออกจากดินแดนของประเทศเราภายในสิ้นวันที่ 21 พฤษภาคม" กระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวในแถลงการณ์ โดยบอกว่าเป็นการตอบโต้การดำเนินการปรปักษ์ของฝ่ายอเมริกันในแบบเดียวกันกับที่สหรัฐขับลูกจ้างของสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียในกรุงวอชิงตันและสถานกงสุลใหญ่รัสเซียในนครนิวยอร์ก และกระทรวงจะดำเนินการเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรที่ "ผิดกฎหมาย" ของสหรัฐฯ ต่อไป

ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตะวันตกดิ่งสู่จุดตกต่ำครั้งใหม่ในเวลานี้ รัสเซียและรัฐบาลตะวันตกหลายชาติกำลังขัดแย้งกันทั้งด้วยกรณีของ อเล็กเซย์ นาวัลนี แกนนำฝ่ายค้านคู่ปรับของปูติน, การวางกำลังทหารจำนวนมากตามแนวชายแดนติดกับยูเครน และเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการจารกรรมในหลายประเทศ

วันเดียวกันนี้ ประธานาธิบดีปูตินแถลงนโยบายแห่งชาติประจำปีต่อบรรดาสมาชิกรัฐสภาและผู้ว่าการระดับภูมิภาคต่าง ๆ ตอนหนึ่งเขากล่าวเตือนคู่แข่งจากโลกตะวันตกว่า อย่าได้ล้ำเส้น พร้อมกับตำหนิประเทศอื่น ๆ ว่าเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรก็โทษมาที่รัสเซีย

"ในบางประเทศ พวกเขาเริ่มมีธรรมเนียมหยาบคายในการกล่าวโทษรัสเซียทุกเรื่อง" เอเอฟพีอ้างคำกล่าวของปูตินในสุนทรพจน์ที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ "มันเป็นกีฬาบางชนิด เป็นกีฬาชนิดใหม่"

ผู้นำรัสเซียกล่าวด้วยว่า รัสเซียต้องการมีความสัมพันธ์อันดีกับสมาชิกประชาคมระหว่างประเทศทุกประเทศ แม้แต่ประเทศที่มีความเห็นไม่ตรงกัน "แต่หากใครก็ตามตีความเจตนาอันดีของเราเป็นความอ่อนแอ ปฏิกิริยาของเราจะไม่สมมาตร, รวดเร็ว และรุนแรง"

"ผมหวังว่า จะไม่มีใครคิดข้ามเส้นสีแดงที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย และเราจะเป็นผู้กำหนดเองเป็นกรณีไปว่าเส้นสีแดงนั้นอยู่ตรงไหน" ปูตินกล่าว

ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/100269


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

‘ดิว อริสรา’ แจ้งความเพื่อนซี้ ‘เบล ลูกบรรยิน’ ปมถูกทำร้ายร่างกายในปาร์ตี้บนเรือยอร์ช

กรณีดราม่างานปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนบนเรือยอร์ช ที่นางร้ายสาว ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ และ เบล-บุษญา ลูกสาว นายบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปร่วมงานและมีเรื่องกัน เพราะมีคนที่ติดเชื้อโควิด-19 มาร่วมงานด้วย จนทำให้ทั้งสองสาวต้องกักตัว ก่อนจะมีการเผยแพร่แชทลับที่เบลอ้างว่าได้คุยกับเซบาสเตียน แฟนหนุ่มของดิว ตั้งแต่มีเรื่องไม่เข้าใจกันช่วงวาเลนไทน์

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 เมษายน ที่ สน.ปากคลองสาน น.ส.อริสรา ทองบริสุทธิ์ หรือดิว นักแสดงสาว พร้อม นายสาคร ศิริชัย ทนายความแจ้งความกับ พ.ต.ท.แดนชัย ทูลอ่อง สว. (สอบสวน) สน.ปากคลองสาน ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.กลอยใจ เพื่อนสาวคนสนิทของ น.ส.บุษยา ตั้งภากรณ์ หรือเบล ที่ทำร้ายร่างกายดิว ขณะอยู่บนเรือดังกล่าว โดยมี น.ส.เกวลิน ศรีวรรณา หรือยีน นางเอกสาวชื่อดัง มาเป็นพยาน

น.ส.เกวลินกล่าวว่า วันเกิดเหตุตนเห็น น.ส.กลอยใจ ยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์บนเรือกับดิว จู่ ๆ ดิวก็ล้มลงและมีรอยแดง แถมยังพูดอะไรไม่ออก ซึ่งตนไปคว้าตัวดิวไว้ได้ จังหวะนั้นเห็น น.ส.กลอยใจกำหมัดไว้อยู่ จึงเชื่อว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย เพราะดิวจะไม่ล้มเฉย ๆ และยืนยันว่าดิวไม่ได้ต่อว่าบุพการีหรือพูดจาเหยียดหยามเรื่องแฟนของเบลเลย

ด้านนายสาครกล่าวว่า ดิวเองก็เคารพนับถือนายบรรยิน พ่อของเบล เพราะรู้จักครอบครัวกันมาตั้งแต่เด็ก และไม่เหยียดเพศ ไม่ได้เหยียดเพื่อนสาวสนิทของเบลตามที่มีข่าวออกมา วันนี้จึงพายีนมาเป็นพยานพร้อมนำเอกสารหลักฐานการตรวจร่างกายมาแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดี น.ส.กลอยใจ ในเรื่องทำร้ายร่างกาย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

องค์การอนามัยโลก เผย ‘ยอดป่วยโควิด-19’ พุ่งทั่วโลก ต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ ขณะที่กังวล พบคนวัยหนุ่มสาวติดเชื้อมากขึ้น จากไวรัสชนิดกลายพันธุ์

21 เม.ย.64 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่าจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มขึ้นทั่วโลก เป็นสัปดาห์ที่ 8 แล้ว โดยในสัปดาห์ที่แล้วพบผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 5.2 ล้านราย และมีอัตราป่วยในหมู่คนหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตกกังวล

ทีโดรส กล่าวว่า ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน ทำให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่มากกว่า 3 ล้านราย ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยหากพิจารณาจากตัวเลขขององค์การ ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แตะระดับ 1 ล้านรายในช่วงเวลา 9 เดือน ต่อมาเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2 ล้านรายใน 4 เดือน และล่าสุดแตะระดับ 3 ล้านรายใน 3 เดือน

ขณะที่อัตราการติดเชื้อและการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ที่มีอายุระหว่าง 25-59 ปี เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งอาจมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ที่มีอัตราการแพร่ระบาดสูง และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ใหญ่ที่มีอายุไม่มากนัก

เพื่อรับมือกับความจำเป็นเร่งด่วนด้านวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในทั่วโลก องค์การฯ ได้เผยแพร่เอกสารแสดงความสนใจ (EOI) เมื่อวันศุกร์ (16 เม.ย.) เพื่อก่อตั้งศูนย์ส่งต่อเทคโนโลยีโควิด-19 สำหรับวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ด้วยหวังว่าจะช่วยเพิ่มการผลิตวัคซีนให้ประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง

ทีโดรสเรียกร้องให้ผู้ผลิตดั้งเดิมของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดนี้ ส่งต่อเทคโนโลยีและข้อมูลให้กับศูนย์กลาง เพื่อให้ประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางแสดงความสนใจของตนในการรับเทคโนโลยีดังกล่าว

“เรามีนวัตกรรมล้ำสมัยทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งตอนนี้เราจำเป็นต้องใช้นวัตกรรมเพื่อรับรองว่าจะมีผู้เข้าถึงประโยชน์ของวิทยาศาสตร์นี้ได้มากที่สุด” ทีโดรสทิ้งท้าย

ที่มา : https://www.naewna.com/inter/567405


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top