Monday, 23 June 2025
NEWS FEED

สีสันจากต่างประเทศ เมื่อทางการลาสเวกัสต้องการดึงดูดให้คนฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงผุดไอเดียแปลกตั้งบูธฉีดวัคซีนไว้ในคลับเปลื้องผ้าเสียเลย

ความต้องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐฯ ที่ลดลง ทำให้หลายพื้นที่พากันเค้นไอเดียหาวิธีที่จะดึงดูดให้ประชากรในสหรัฐฯ หันมาฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในลาสเวกัสก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่ประสบปัญหาดังกล่าว

พวกเขาจึงหันมาใช้วิธีที่แหวกแนวมากขึ้นในการจูงใจให้ผู้คนมาฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วยการเปลี่ยน Larry Flynt’s Hustler Club คลับสำหรับผู้ใหญ่ที่เคยมีโชว์เปลื้องผ้ามาเป็นคลินิกฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินแทน

โจแอนน์ รูปิเปอร์ หัวหน้าพยาบาลของฝ่ายบริการสาธารณสุขรัฐเนวาดาใต้ ซึ่งดูแลคลินิกแบบวอล์กอิน กล่าวว่า “นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเข้าถึงประชากรของเรา...มันอาจจะช่วยดึงดูดบางคนที่ชอบความแปลกใหม่ให้มาฉีดวัคซีนจนได้ ฉันคิดว่านะคะ”

คลินิกแห่งนี้เปิดทำการเฉพาะหัวค่ำ โดยให้บริการแก่ประชากรได้ประมาณ 100 คนต่อวัน หลังจากนั้นก็จะคืนพื้นที่ให้คลับเปลื้องผ้าเปิดทำการตามปกติ พนักงานหลายคนในคลับ รวมถึงเหล่านักแสดงโชว์ต่างก็เข้ารับการฉีดวัคซีนที่นี่

ผู้รับวัคซีนโควิด-19 บางคนที่เดินทางมาฉีดวัคซีนที่นี่ยอมรับว่า แต่เดิมพวกเขาไม่ได้เต็มใจที่จะรับวัคซีน แต่ตัดสินใจที่จะมารับวัคซีนเพราะต้องการมาดูโชว์ในคลับแห่งนี้ ถือเป็นผลพลอยได้

โรเบอร์โต มอนต์ติ ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับคลับดังกล่าว เล่าว่า เขาคิดจะไปฉีดวัคซีนในสถานอื่น แต่สุดท้ายตัดสินใจมาที่ Hustler Club เพราะรู้สึกคุ้นเคยมากกว่า

“ผมเคยมาที่นี่หลาย...เอ่อ สองสามครั้ง...จริง ๆ อาจจะเป็น 10 ครั้งแหละ (หัวเราะ)” มอนต์ติบอก

ด้าน ไมเคิล ไมเยอร์ส ชาวเมืองลาสเวกัสกล่าว ขณะที่เขายืนรอคิวอยู่ท่ามกลางภาพวาบหวิวและป้ายแนะนำการเว้นระยะห่างทางสังคมว่า “ตอนภรรยาของผมบอกว่าที่นี่มีบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ผมก็ถามเธอว่า ‘โอ้ จริงหรอ’ พอเธอบอกว่าจริงผมก็ตอบกลับเลยว่า ‘ขอคิดดูสักครู่’”

ลิซา ฮาร์เปอร์ ภรรยาของไมเยอร์สบอกว่า สามีของเธอเปลี่ยนใจมาฉัดวัคซีนโควิด-19 ทันทีเมื่อเธอบอกเขาว่าสามารถมาฉีดที่ Hustler Club ได้

“คนจำนวนมากที่เดิมตัดสินใจหรือลังเลว่าจะไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เปลี่ยนใจทันที มีผู้ชายหลายคนบอกว่า พวกเขามาที่นี่เพราะมันคือ Hustler Club นี่เป็นไอเดียที่ฉลาดมาก” ฮาร์เปอร์บอก

ไมเยอร์สในวัย 70 ปีบอกว่า เดิมเขาไม่เต็มใจที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 และกังวลว่ามันใช้งานได้จริงแค่ไหน แต่อายุของเขามากแล้ว และเขากังวลว่าจะแพร่เชื้อให้คนอื่นรวมถึงภรรยาของเขา บวกกับเมื่อมีบริการฉีดที่ Hustler Club ก็ทำให้เขาตัดสินใจได้

ไมเยอร์สกล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่มีนักเต้นอยู่บนเวทีในขณะที่เขากำลังฉีดวัคซีน แต่ก็เป็นไปได้ว่านั่นเพื่อกันไม่ให้ผู้ที่จะเข้ารับวัคซีนเกิดความดันขึ้นหรือพลุ่งพล่านเกินไปเสียก่อน

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐเนวาดากล่าวในสัปดาห์นี้ว่า ประชากรในรัฐที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปมากกว่า 46% ได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งเข็มแล้ว แต่มีอัตราการฉีดลดลงอย่างมาก ทำให้รัฐไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ โดยมีเป้าหมายฉีดวัคซีนอยู่ที่ 75% ของประชากรที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีน

นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเนวาดาหันมาเปิดบูธคลินิกฉีดวัคซีนตามสถานที่ต่าง ๆ มากขึ้น เช่น โบสถ์ โรงเรียน และบ้านพักคนชรา มาจนถึงคลับเปลื้องผ้า เพื่อเข้าถึงประชากรให้มากขึ้น

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของลาสเวกัส กล่าวว่า Hustler Club เป็นฝ่ายติดต่อมาเพื่อช่วยเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีน โดยทางคลับบอกว่าเคยทำมาก่อนแล้วในนิวออร์ลีนส์และประสบความสำเร็จดี โดยมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่มีหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น สิทธิเข้าชมฟรี เครื่องดื่มฟรี โชว์พิเศษจากนักแสดงที่ได้รับวัคซีน และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ

ราล์ฟ เจมส์ ผู้จัดการทั่วไปของ Hustler Club กล่าวว่า นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ช่วยเหลือชุมชนให้กลับสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้น เขายอมรับว่า คนทั่วไปอาจมองว่าคลับเปลื้องผ้ากับสาธารณสุขเป็นสองอย่างที่อยู่ไกลกัน แต่เขากล่าวว่า “เราจะให้โอกาสนี้ ทำให้หลายคนได้เห็นว่า ที่นี่สะอาดแค่ไหน และมันก็เป็นธุรกิจปกติเหมือนธุรกิจอื่น ๆ”

ปัจจุบัน สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชากรแล้วกว่า 164 ล้านคน หรือ 49.68% ของประชากรทั้งประเทศ ขาดอีกเพียงราว 20% เท่านั้นก็จะบรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ประชากร 70% ซึ่ง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศไว้ว่า จะฉีดให้ถึงเป้าภายใน 4 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันชาติ

 

ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/148180



แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

‘มาเลเซีย’ เตรียมใช้โดรนส่งพัสดุพื้นที่ห่างไกล พร้อมตั้งเป้าผู้นำด้าน DroneTech

เพจ AEC Connect ได้โพสต์ถึง Teleport บริษัทร่วมทุนด้านโลจิสติกส์ของ AirAsia Digital ที่ได้ร่วมมือกับ Malaysian Global Innovation and Creativity Centre (MaGIC) ซึ่งเป็นสำนักเลขาธิการหลักของ National Technology and Innovation Sandbox (NTIS) ของประเทศมาเลเซีย เปิดตัวบริการจัดส่งพัสดุในพื้นที่เขตเมืองโดยใช้โดรน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทดสอบ นอกจากนี้โครงการยังมีเป้าหมายที่จะพัฒนาบริการดังกล่าวเพื่อใช้ในการจัดส่งพัสดุในพื้นที่เขตเมืองในระยะยาวอีกด้วย

Khairy Jamaluddin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของมาเลเซียกล่าวว่า มาเลเซียพร้อมที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม DroneTech ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ 127 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 และมีแผนที่จะขยายธุรกิจการจัดส่งสินค้าด้วยโดรนให้ครอบคลุมในทุก ๆ ภาคส่วน เช่น การจัดส่งสิ่งของที่จำเป็นหรือเวชภัณฑ์ไปยังพื้นที่ชนบทห่างไกลหรือได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ

ปัจจุบันโครงการนำร่องสำหรับการจัดส่งสินค้าโดยโดรนได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของ AirAsia ที่มีชื่อว่า “AirAsia Shop”

สำหรับการทดสอบใช้โดรนจะใช้ระยะเวลา 6 เดือน ในพื้นที่ของ NTIS ในเมือง Cyberjaya ซึ่งการทดสอบจะมีผู้ให้บริการโดรนในพื้นที่จำนวน 2 ราย เข้าร่วม ได้แก่ VStream Revolution Sdn Bhd และ Meraque Services SdnBhd

โดรนจัดส่งพัสดุจะได้รับอนุมัติให้เปิดบริการได้ก็ต่อเมื่อการทดสอบประสบผลสำเร็จ โดยในระยะแรกของการให้บริการจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อประเมินความสามารถ ประสบการณ์ กระบวนการอนุมัติ ความพร้อมในการปรับใช้ และการขยายบริการของผู้ให้บริการโดรน

NTIS ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานการบินพลเรือนแห่งมาเลเซีย (CAAM) โดยวางแผนที่จะรับรองความปลอดภัยของบริการอากาศยานไร้คนขับหรือยูเอวีในเขตพื้นที่เมืองให้เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของหน่วยงานกำกับดูแลด้านเทคนิคของมาเลเซีย

Tony Fernandes ซีอีโอของ AirAsia Group เชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับ MaGIC ในการพัฒนาโดรนจัดส่งพัสดุจะนำมาซึ่งโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและความเป็นเลิศในการดำเนินงาน นอกจากนี้ยังช่วยให้เวลาในการจัดส่งพัสดุในเขตพื้นที่เมืองโดยโดรนรวดเร็วขึ้นอีกด้วยและกล่าวเสริมว่า นวัตกรรมนี้จะสร้างโอกาสในการทำงานใหม่ ๆ ให้กับใครหลาย ๆ คนในอุตสาหกรรมการบินที่กำลังตกงานอยู่


ที่มา: https://www.facebook.com/111389082537287/posts/1458050424537806/
Drones will begin delivering your packages in Malaysia - Tech (mashable.com)


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ชาวเน็ตญี่ปุ่นตื่นตา ‘พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์’ แห่งถ้ำพระยานคร อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นกระแสรีทวิตในในทวิตเตอร์ว่ามีความสวยงามเหมือนอยู่ในโลกเกม RPG

เพจ Wa-Japan นำเสนอกระแสในทวิตเตอร์ของชาวเน็ตญี่ปุ่นว่า ตอนนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งของไทยที่คนญี่ปุ่นรีทวิตกันไปเป็นจำนวนมาก โดยกล่าวกันว่า สถานที่นี้มันช่างเหมือนโลกในเกม RPG และเหมือนโลกในอนิเมะเสียเหลือเกิน นั่นก็คือที่ ‘ถ้ำพระยานคร’ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั่นเอง โดยเจ้าของทวิตยังใช้คำว่า ‘Suay maaaaak’ และกล่าวว่า หากโควิดหายแล้วอยากจะไปเที่ยวสักที่ แนะนำเลยที่นี่ไม่ผิดหวัง อีกทั้งคอมเมนต์ต่าง ๆ ชาวของคนญี่ปุ่นก็มีทั้งกล่าวว่า ไม่น่าเชื่อเลยจะมีสถานที่แบบนี้ในโลก บ้างถึงกับอุทานว่าสวยมาก เหมือนฉากในเกม SEKIRO เป็นต้น

สำหรับ ‘ถ้ำพระยานคร’ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่บนเขา ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบโดยเจ้าพระยานครศรีธรรมราช ซึ่งในอดีตขบวนเดินทางของท่านที่มุ่งหน้าสู่กรุงรัตนโกสินทร์เคยมาแวะพักแรมแถวนี้ แล้วได้สำรวจพบถ้ำบนเขา จึงให้ชื่อว่า’ถ้ำพระยานคร’ ปัจจุบันถ้ำแห่งนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยภายในถ้ำมีปล่องขนาดใหญ่ด้านบน ทำให้แสงสามารถสาดส่องลงมาถึงภายในถ้ำ

บริเวณที่แสงตกกระทบลงมาอย่างเหมาะเจาะนั้นเป็นที่ตั้งของ ‘พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์’ พลับพลาทรงจัตุรมุขเปิดโล่งทำด้วยไม้สักประดับด้วยช่อฟ้าใบระกา กว้าง 2.55 เมตร มีความยาว 8 เมตร สูง 2.55 เมตร สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โดยพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพลับพลาที่ประทับไว้ ในคราวเสด็จประพาสถ้ำพระยานคร เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2433 และพระราชทานนามว่า ‘พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์’

เมื่อพระอาทิตย์สาดแสงผ่านปล่องถ้ำ แสงนั้นจะส่องกระทบองค์พระที่นั่งดูงดงามเรืองรองเป็นที่น่าประทับใจยิ่งนัก ถือเป็นความงดงามที่เป็นอันซีนไทยเแลนด์อย่างแท้จริง และการเข้าถึงถ้ำพระยานครนั้นสามารถทำได้ 2 วิธีคือการเดินเท้าขึ้นและข้ามเขาเทียนไปประมาณ 500 เมตร หรือสามารถนั่งเรือไปขึ้นที่หาดบางปู นั่งอ้อมเขาไปประมาณ 10 นาที จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาในระยะทาง 430 เมตรสู่ตัวถ้ำ ถือว่าไม่ง่ายนักในการไปชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้

 

ที่มาภาพ : Twitter@KenKenPhoto

https://mgronline.com/travel/detail/9640000049899?fbclid=IwAR0gt8y09k1DNaVQlWqKtKgpyTYXrF9qLb-kUT4kB-RLo14UXqxYLNxyt-o


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

‘จิตดี’ จะได้พูดแล้ว! ผู้ประกาศสาว ลาออก ‘ทุบโต๊ะข่าว’ แล้ว โดดร่วมดำเนินรายการ ‘ข่าวอรุณอมรินทร์’ แทน

เป็นอีกหนึ่งพิธีกรข่าวสาวที่คนไทยรู้จักกันดี สำหรับ จิตดี ศรีดี พิธีกรข่าวสาว คู่ขวัญของ “พุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี” พิธีกรข่าวชื่อดังจากรายการ “ทุบโต๊ะข่าว” โดยล่าสุดเจ้าตัวออกมาประกาศแล้วว่าจะย้ายไปทำรายการข่าวอรุณอมรินทร์ ร่วมกับ กรุ๊งกริ๊ง รังสิมา ศฤงคารนฤมิตร, บอล สถาปัตย์ แพทอง และ โจ อรชุน รินทรวิทูรย์ ซึ่งรายการใหม่นั้นจะเริ่มวันที่ 29 พฤษภาคมนี้

โดย จิตดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jitdee Sridee ระบุข้อความว่า

จิตดี จะได้พูดแล้วค่าาาาาา

ขอบพระคุณผู้ใหญ่ที่ไว้วางใจ และให้โอกาสนะคะ

ดีใจที่ได้ร่วมงานกันนะคะ รังสิมา ศฤงคารนฤมิตร Ball Sathapat และพี่โจ อรชุน

แล้วพบกันในข่าวอรุณอมรินทร์ จ.-ศ.05:30-08:30 น.

และข่าวอรุณอมรินทร์ สุดสัปดาห์ ส.-อา. 06:00-09:00 น.

 

ที่มา : https://www.facebook.com/jeabjitdee

https://www.matichon.co.th/entertainment/thai-entertainment/news_2742517


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

“ผบ.นทพ.” สั่งตั้ง จุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สนับสนุน สธ. บริการกำลังพล-ปชช.

ที่อาคารอเนกประสงค์ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้สั่งการให้ ส่วนสนับสนุนทหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สสน.นทพ.) จัดเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการจัดตั้งจุดฉีดวัคซีนให้บริการแก่กำลังพลและประชาชนทั่วไป โดยใช้สถานที่ บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ธุรการของหน่วย

โดยได้รับการสนับสนุนวัคซีน Sinovac Biotech จากกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 300 โดส เพื่อใช้ทดสอบระบบและขั้นตอนการปฏิบัติโดยให้ สสน.นทพ. ดำเนินการจัดตั้งจุดบริการฉีดวัคซีน ที่อาคารอเนกประสงค์ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เร่งด่วน ทำการทดสอบระบบ โดยทำการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อให้กับกำลังพลกลุ่มเสี่ยงของหน่วยที่ออกปฏิบัติงาน จิตอาสา 904 และประชาชนจิตอาสา ที่ได้ร่วมปฏิบัติงานกับ นทพ.ตามภารกิจที่ได้รับมอบจากกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ในการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อ กลุ่มเสี่ยง และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สำหรับผลการทดสอบระบบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จะต้องปฏิบัติงานในการจัดตั้งจุดฉีดวัคซีนและสามารถสร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลที่ออกปฏิบัติงาน และจิตอาสาที่ร่วมปฏิบัติงานกับ นทพ.ได้เป็นอย่างดี

ครม. จัดงบ 311 ล้าน ป้องกันโควิดในเรือนจำทั่วประเทศ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. อนุมัติกรอบวงเงิน 311,650,300 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย

1.) ค่าชุดตรวจไวรัสโควิด-19 แบบ RT PCR จำนวน 100,000 ชุดเป็นเงิน 80 ล้านบาท

2.) ค่าก่อสร้างโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยวิกฤติในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 2 แห่งเป็นเงิน 51,967,200 บาท 

3.) ค่าก่อสร้างโรงพยาบาลสนามประจำเขตกลุ่มเรือนจำและทัณฑสถาน จำนวน 10 แห่ง เป็นเงิน 92,680,000 บาท

4.) ค่าก่อสร้างและปรับปรุงห้องกักกันโรคประจำเรือนจำและทัณฑสถานจำนวน 65 แห่ง เป็นเงิน 49,835,500 บาท และ 5.ค่าวัสดุ อุปกรณ์ป้องกันโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน เป็นเงิน 37,167,600 บาท

สำหรับการจัดหายาฟาวิพิราเวียสำหรับผู้ติดเชื้อนั้น ให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามแนวปฏิบัติโดยขอรับการสนับสนุนยาจากกระทรวงสาธารณสุขโดยตรงและเร่งด่วน

“หลังเกิดปัญหาการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานหลายแห่ง จึงจำเป็นต้องก่อสร้างปรับปรุงสถานที่ พร้อมจัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อแก้ไขและป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ นายกรัฐมนตรีจึงได้มีบัญชาเห็นชอบให้ ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยให้กรมราชทัณฑ์เร่งจัดทำแผนปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมด้วย”

รถพุ่มพวงทหารมาแล้ว..!!! “บชร.3” นำผลผลิตทหารพันธ์ุดี ใส่รถกระบะแจกจ่ายช่วยเหลือปชช. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากโควิด-19

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก กองทัพภาคที่ 3 และกองบัญชาการช่วยรบที่ 3 มีความห่วงใยตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน

พล.ต.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ ผู้บัญชาการ กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ นำผลผลิตที่ได้จากโครงการทหารพันธุ์ดี อาทิ ข้าวสาร ไข่ไก่ และพืชผักชนิดต่าง ๆ สิ่งของที่จำเป็นในการอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ที่ประสบความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนสร้างการรับรู้แนะนำพี่น้องประชาชน ลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติในชีวิตประจำวันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้ทางหน่วยได้รับความร่วมมือจากหน่วยขึ้นตรง กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 โดยจัดกำลังพลและยานพาหนะ หน่วยละ 1 คัน รวมทั้งสิ้น 6 คัน และผลผลิตที่ได้จากโครงการทหารพันธุ์ดีของหน่วย ร่วมกับสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ตามศักยภาพของหน่วย และได้รับการสนับสนุนข้าวสาร และหน้ากากอนามัยจากกองทัพภาคที่ 3 พื้นที่เป้าหมายในการแจกจ่าย ในชุมชนกัลยานมิตร หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 9 บ้านโคกมะตูม ชุมชนมหาจักรพรรดิ และชุมชนวัดหนองบัว ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนรอบค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ

รัฐบาลเดินหน้าจัดระบบหลักประกันสุขภาพ ผู้ต้องขังที่มีปัญหาทางสถานะบุคคลและต่างด้าวในเรือนจำ

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (25 พ.ค. 2564) ว่า ครม.อนุมัติหลักการนโยบายการจัดระบบหลักประกันสุขภาพสำหรับผู้ต้องขังที่มีปัญหาทางสถานะบุคคลและต่างด้าวในเรือนจำ และให้จัดสรรงบเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการเข้าถึงบริการสุขภาพให้เทียบเท่ากับผู้สิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นการดูแลผู้ต้องขังที่มีปัญหาสถานะบุคคลและต่างด้าวในเรือนจำ ประมาณ 16,000 คน เช่น ผู้ต้องขังสัญชาติอื่น บุคคลที่ไม่มีเอกสารหลักฐานการยืนยันตัวตนใด ๆ  บุคคลต่างด้าว เป็นต้น ที่ผ่านมา ผู้ต้องขังกลุ่มนี้ไม่มีสิทธิในการเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพ เมื่อเจ็บป่วยจนเกินศักยภาพการรักษาของสถานพยาบาลเรือนจำ จึงต้องส่งตัวไปรับการรักษานอกเรือนจำ ทำให้โรงพยาบาลในพื้นที่ต้องเป็นผู้รับภาระค่ารักษาพยาบาล โดยในปี 2563 มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจำนวน 13.71 ล้านบาท จากเรือนจำและทัณฑสถาน จำนวน 127 แห่ง

สำหรับการบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพ ที่ประชุม ครม. ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการใน 2 ระยะ คือ

1.) ระยะสั้น ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ตั้งงบประมาณเป็นการเฉพาะในเรื่องนี้ โดยขอรับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 13.71 ล้านบาท

2.) ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้ดูแลจัดระบบริการและระบบประกันสุขภาพสำหรับผู้ต้องขัง และในกรณีที่มีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับการดำเนินงาน ให้ สปสช. ไปศึกษาและดำเนินการแก้ไขให้สามารถดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ลุงป้อม ร่วมปลูกต้นไม้ เนื่องใน "วันวิสาขบูชา : วันต้นไม้ประจําปีของชาติ 2564" เชิญชวนคนไทยร่วมใจ ทั่วแผ่นดิน 1 คน 1 ต้นกล้า ปลูกเพิ่มผืนป่า เพื่อลูกหลานไทย

เมื่อ 26 พฤษภาคม 2564 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำ รอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนรม. ได้ร่วมกิจกรรม เนื่องใน "วันต้นไม้ประจำปีของชาติ 2564"  โดยได้ทำการปลูก "ต้นสัก" จำนวน 1 ต้น บริเวณพื้นที่ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด สืบเนื่องจาก เมื่อ 31 ม.ค. 32 ครม.ได้มีมติกำหนดให้ วันวิสาขบูชาของทุกปี เป็น "วันต้นไม้ประจำปีของชาติ" โดยกรมป่าไม้ ได้จัดกิจกรรมและเชิญชวนให้คนไทยทุกคน ร่วมกันปลูกต้นไม้ อย่างน้อยคนละ 1 ต้น เป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับ วันพุธที่ 26 พ.ค. 64 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเพิ่มผืนป่า และป้องกันไฟป่า รวมทั้งการแก้ปัญหาภัยแล้ง และการเสื่อมสภาพของป่า โดยเฉพาะในพื้นที่เขาสูงชัน เพื่อเป็นการฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ ตามนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ ที่กำหนดให้มีพื้นที่สีเขียว ร้อยละ 55 ของประเทศ ซึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่วางไว้ มีจำนวน 2.68 ล้านไร่ ในระยะเวลา 8 ปี (2563-2570)

พร้อมกันนี้  พล.อ.ประวิตร ได้เชิญชวนคนไทย ทั่วประเทศ ร่วมกันปลูกต้นไม้ 1 คน 1 ต้นกล้า เพื่อเพิ่มผืนป่า ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และส่งต่อให้กับลูกหลานคนไทย ในอนาคต สืบต่อไป 

ทั้งนี้ ทส.โดยกรมป่าไม้ ได้ จัดเตรียมกล้าไม้ จากหน่วยงานเพาะชำกล้าไม้สังกัด กรมป่าไม้ ทั่วประเทศ ไว้บริการให้กับประชาชนแล้ว สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร.02-5614292-3 ต่อ 5551

สำนักข่าวเอเอ็นไอรายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย ท่ามกลางรายงานข่าวว่าโรคใหม่นี้อันตรายกว่าเชื้อราสีดำ

คนไข้รายหนึ่งซึ่งกำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 ถูกพบมีอาการต่าง ๆ ของ ‘เชื้อราสีเหลือง’ สำนักข่าวเอเอ็นไอรายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย ท่ามกลางรายงานข่าวว่าโรคใหม่นี้อันตรายกว่าเชื้อราสีดำ

นายแพทย์บีพี เตียจี แพทย์ด้านโสต ศอ นาสิกวิทยาในเมืองกาเซียบัด รัฐอุตตรประเทศ ระบุว่า เคสเชื้อราสีเหลืองที่พบในชายวัย 45 ปี นับเป็นเคสแรกในคนไข้ที่กำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 ที่รักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 นานนับเดือน อย่างไรก็ตามอาการของผู้ป่วยรายดังกล่าวทรุดลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและจากการตรวจร่างกายพบ ‘เชื้อราสีเหลือง’

แพทย์รายนี้ กล่าวว่า ‘เชื้อราสีเหลือง’ อาจเป็นโรคร้ายแรงถึงตายที่มีต้นเหตุจากสภาพสุขอนามัยที่ย่ำแย่และความชื้น มันมีความอันตรายมากกว่าเชื้อราสีดำหรือเชื้อราสีขาวที่พบก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะวินิจฉัยโรค เพราะจุดเริ่มต้นเกิดจากภายในร่างกาย ส่งผลกระทบต่ออวัยวะภายใน ผิดกับเชื้อราสีดำที่เริ่มต้นจากอาการพิการบนใบหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย

อาการต่าง ๆ ของเชื้อราสีเหลือง มีทั้งเซื่องซึม ไม่อยากอาหาร น้ำหนักลด และในเคสรุนแรง โรคนี้อาจทำให้อวัยวะทำงานผิดปกติ ทั้งนี้แพทย์บอกด้วยว่าคนไข้รายนี้เคยมีอาการของเชื้อราสีดำและเชื้อราสีขาว ซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน

การค้นพบล่าสุดนี้มีขึ้นในขณะที่เคสเชื้อราสีดำหรือมิวคอร์ไมโคซิส (mucormycosis) และเชื้อราสีชาว ถูกพบเพิ่มขึ้นในหมู่คนไข้โควิด-19 ในอินเดีย หลายรัฐประกาศให้มันเป็นโรคระบาด

เชื้อราทั้ง 2 ชนิด มีรายงานพบในคนไข้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจมาเป็นเวลานาน หรือผู้ป่วยที่ใช้ยาสเตียรอยด์ส่วนหนึ่งในการรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งเชื้อราสีดำและเชื้อราสีขาวส่งผลกระทบกับปลอดและอวัยวะสำคัญอื่น ๆ และสามารถก่ออันตรายร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม เอ็นเค คุปตา หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์ของกาเซียบัด ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นดีทีวีของอินเดียว่า ยังไม่ได้รับแจ้งเคสใด ๆ ของเชื้อราสีเหลือง

นอกจากนี้แล้วเอ็นดีทีวียังอ้างคำสัมภาษณ์ของนายแพทย์รันดีป กูเลเรีย อายุรแพทย์โรคระบบหายใจและผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ออลอินเดียในนิว เดลี เตือนเช่นกันว่า การตั้งเชื่อการติดเชื้อราบนพื้นฐานของสีและพื้นที่ที่มันส่งผลกระทบ อาจนำมาซึ่งความเข้าใจผิด ๆ และก่อความสับสน

“โดยทั่วไป รูปแบบของเชื้อราที่เราพบเห็นส่วนใหญ่คือมิวคอร์ไมโคซิส แคนดิดา(Candida) และแอสเปอร์จิลโลซิส (Aspergillosis) โดยมิวคอร์ไมโคซิสถูกพบมากกว่าในเคสผู้ติดเชื้อโควิดที่ใช้ยาสเตียรอยด์และเป็นโรคเบาหวาน พวกมันถูกพบในจมูก ไซนัสและบางทีอาจเข้าสู่สมอง”

เชื้อราแคนดิดา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเชื้อราสีขาว พบในคนไข้ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เป็นจุดต่างสีขาวในช่องปากและบางทีอาจแพร่กระจายสู่เลือด ส่วนที่พบเห็นโดยทั่วไปน้อยที่สุดคือเชื้อราแอสเปอร์จิลโลซิส ซึ่งส่งผลกระทบกับปอดและบางทีอาจก่ออาการแพ้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและอาการต่างๆของเชื้อราสีเหลือง

 

ที่มา : รัสเซียทูเดย์

https://mgronline.com/around/detail/9640000050629


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top