Saturday, 28 June 2025
NEWS FEED

ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง 28 ตำแหน่งตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้ “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย โยกผู้ว่าฯ หมูป่าคนดัง ย้ายมาเป็นผู้ว่าปทุมฯ ส่วนผู้ว่าปทุมฯ ขึ้นเป็นรองปลัด

วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมฯ มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยจะเสนอชื่อแต่งตั้งข้าราชการ ตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง 28 ตำแหน่ง โดยมีการเสนอชื่อ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งนายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน โดยมีตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดว่างอยู่ 18 จังหวัด และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 1 ตำแหน่ง

ซึ่งการโยกย้ายครั้งนี้จะเป็นการย้ายสลับผู้ว่าฯ มาแทนตำแหน่งที่ว่างลง พร้อมด้วยการโยกย้ายสลับจังหวัด และจะมีการต่ออายุให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ประกอบด้วย นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าฯ ชลบุรี นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าฯ ขอนแก่น นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าฯ พัทลุง ออกไปอีก 1 ปี

เมื่อดูตามลำดับอาวุโสในระดับเดียวกับ นายสุทธิพงษ์ถือว่าอาวุโสสูงสุด ชื่อเล่น “เก่ง” เกิดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2507 อายุ 57 ปี ยังเหลืออายุราชการอีก 3 ปี เป็น “สิงห์ดำ” รุ่นที่ 36 จบรัฐศาสตร์บัณฑิต และรัฐศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาเดียวกัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เติบโตในอาชีพราชการรวดเร็วขึ้นครองซี 10 ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกในปี 2552 ด้วยวัยเพียง 46 ปี ย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยปี 2556 ต่อมากลับไปเป็นผู้ว่าฯ สระบุรี ย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ ชัยนาท ปี 2557 ขึ้นเป็นรองปลัดมหาดไทย ปี 2558 จากนั้นโยกไปนั่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ปี 2560 (สถ.) ตำแหน่งล่าสุดเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เมื่อปี 2562

นอกจากนี้ที้ประชุม ครม.ยังเห็ชอบแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงสังกัดกระทรวงมหาดไทย ดังนี้

นายไชยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย

นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายสำนักงานปลัดกระทรวงเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย

นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

นายพุฒิธิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่

นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ

นายภาสกร บุญญารักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตราด

นายชาธิป รจนเสรี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

นายชยันต์ ศิริมาส ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี

นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นายนิพนธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี

นายวีระชัย นาคมาส ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา

นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร

นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร

นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา

นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง

นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

นายปริญญา โพธิสัตว์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว

นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย

นายพงศิรัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความประเมินสถานการณ์การเมืองช่วงนี้ว่า...

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความประเมินสถานการณ์การเมืองช่วงนี้ ผ่านเฟซบุ๊ก 'Thepmontri Limpaphayorm' ว่า...

ความจริงในเวลานี้...

ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐ...

>> พ่อฟ้าธนาธร (ผีเน่า) ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง

>> ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตย แบบเผด็จการรัฐสภา (สัมภเวสีหนีคดีโกง) ลุงโทนี่

>> ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลุงตู่ (กำลังถูกไล่)

>>×ตัวเลือกการเมือง ฝ่ายประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข น้าอนุทิน (กำลังถูกไล่)

>>×ส่วนม้านอกสายตา : ชัยเกษม / อภิสิทธิ์ (คู่ขัดแย้งเสื้อแดง)

ประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤติด้วยโรคระบาด โควิด-19...

ประเทศไทยมีม็อบสองเขาสามกีบ ไม่มีความหมาย ไม่มีความสามารถ หรือสติปัญญาเพียงพอที่จะเป็นที่พึ่งหวังได้ แถมเป็นเครื่องมือให้นักการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ ที่อยากจะล้มสถาบัน แนวโน้มแกนนำจะติดคุกกันทั้งหมด

แกนนำระดับตัวพ่อ >> ธนาธร / ปิยบุตร / ช่อ

แกนนำระดับตัวลูก กวิ้น / รุ้ง / ไผ่ / ไมค์ / วีโว้ การศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี และปริญญาโท

เหล่าบรรดาสาวก มีหลากหลายสาขาอาชีพ ปริญญาตรี-ปริญญาเอก แต่หลงเชื่อแนวคิดผู้มีการศึกษาต่ำกว่า ปริญญาตรี

ประเด็นที่ออกมาขับไล่ลุงตู่ 'ยังไม่แหลมคมพอ' เอาแต่ด่า จาบจ้วงเบื้องสูง สะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง ตอบโจทย์สังคมไม่ได้ว่าที่ทำไปทั้งหมดเป็นเรื่องของอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร?

ยิ่งลักษณะที่น่ารังเกียจ คือ การรับเงินบริจาคเป็นรายบุคคล ส่วนสาวกก็เป็นม็อบรับจ้างด้วยแล้ว...

>> ม็อบไร้ความสามารถ เล่นประเด็นผิด ลุงตู่จึงเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=5966356816739729&id=100000964084010


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ประยุทธ์”มอบเงินช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 พร้อมถุงกำลังใจ

ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และถุงยังชีพ (ถุงกำลังใจ) จากเงินบริจาคบัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ไปแล้ว จำนวน 126 ราย เป็นเงินประมาณ 4.5 ล้านบาทเศษ แบ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 86 ราย และเจ้าหน้าที่สนับสนุน 40 ราย  ในวันนี้ คณะกรรมการฯ ให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุน เพิ่มอีกจำนวน 27 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 1,285,000 บาท โดยมี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมพิธี

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งบัญชี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเป็นความร่วมมือของรัฐบาล ภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมนอกจากการช่วยเหลือตามระบบราชการของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว เพื่อเป็นขวัญกำลังแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และครอบครัวที่เสียสละตนเองทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่ รวมถึงการการมอบถุงยังชีพถุงกำลังใจซึ่งบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิต หน้ากากอนามัย และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร สอดคล้องกับการดำเนินงาน Home Isolation  ตามนโยบายของรัฐบาล สิ่งสำคัญ คือ ให้สามารถส่งสิ่งของช่วยเหลือต่าง ๆ และยา ให้ถึงบ้านและถึงมือประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างรวดเร็วขึ้น 

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณคณะรัฐมมนตรี ภาคเอกชน และประชาชน ที่ร่วมกันบริจาคเงินเข้ามา เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียและครอบครัว ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น คุณงามความดีที่บุคคลเหล่านั้นได้กระทำไว้ยังเป็นที่จดจำ รัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมไปถึงการดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มเปราะบางในประเทศไทยด้วย 

โอกาสนี้   นายกรัฐมนตรี มอบเงินช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)  และและถุงยังชีพ (ถุงกำลังใจ) ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แอลกอฮอลล์เจล และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่สนับสนุนสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 18 ราย รวมเป็นเงิน 1,020,000 บาท มีนายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนรับมอบ ,เจ้าหน้าที่สนับสนุนสังกัดกระทรวงหมาดไทย จำนวน 8 ราย รวมเป็นเงิน 250,000 บาท  มีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนรับมอบ ,เจ้าหน้าที่สนับสนุนสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 15,000 บาท มีนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรับมอบ ,และถุงยังชีพช่วยเหลือครอบครัวกลุ่มเปราะบางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 6,796 ชุด รวมเป็นเงิน 6,796,000 บาท มีนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้รับมอบ

ร้านทุเรียน "นุช-นนท์" (ตลาดสี่มุมเมือง) ทำดีไม่มีหยุด! มอบอาหาร 300 กล่อง พร้อมทั้งมังคุด / เงาะ 300 กล่อง ร่วมสู้ภัยโควิด-19

วันที่ 3 สิงหาคม 2564 "น.ส.ชาลินี ลอยนุ้ย" เจ้าของร้านทุเรียน "นุช-นนท์" (ตลาดสี่มุมเมือง ) ประสาน "สะพานบุญ" ให้ "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน พร้อมด้วย "นายโกสินธ์ จินาอ่อน" บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์  และตำแหน่งที่ปรึกษาสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม" "นายณัฐวุฒิ เหมือนเพ็ชร" ผอ.ข่าวจังหวัดสมุทรปราการ (น.ส.พ.สยามโฟกัสไทม์) นำอาหารจำนวน 300 กล่อง / มังคุด เงาะ 300 กล่อง เพื่อมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ผู้ป่วย รวมถึงคนพิการ ครอบครัวคนพิการ ที่ได้รับเชื้อไวรัส covid-19 สร้างขวัญกำลังใจ ด้วยความหาวงใย ให้ได้รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และร่างกาย เป็นการตอบแทนน้ำใจ ความเสียสละ แรงกาย แรงใจ เวลาอันมีค่ามาดูแลรักษาพี่น้องประชาชนคนไทย คนพิการ ให้รอดปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน

โดย "สะพานบุญ" ลงพื้นที่ไปยัง โรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร เพื่อคนพิการ ซึ่งตั้งอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มอบผ่านบุคลากร กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หลังจากนั้น "สะพานบุญ" เดินทางไปยัง ศูนย์พักคอย เพื่อส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี (ชายแดนติดต่อ สระบุรี /นครนายก) มอบผ่าน "นายสมาน ดินแดง" รองปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลศาลาครุ เป็นผู้รับมอบ

ในการนี้ "น.ส.ชาลินี ลอยนุ้ย" ได้กล่าวประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทย เจ้าของสถานประกอบการ  ร้านค้า และภาคเอกชน ที่มีจิตเป็นกุศล ร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้คนละมือ สร้างสรรค์สังคมไทยให้ปลอดภัย ร่วมกันแบ่งปันความสุข รอยยิ้ม กำลังใจ กันและกัน ในช่วงสถานการณ์เชื้อไวรัส covid-19 กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยทั้งชาติ ให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ด้วยดีพร้อมกัน การได้มอบข้าวกล่องให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ในหลาย ๆ พื้นที่ เป็นการแบ่งเบาภาระค่าอาหารให้กับประชาชนได้บ้าง ซึ่งตนได้ทำแล้วก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือประชาชนคนไทยด้วยกัน และจะทำอย่างต่อเนื่อง ตามกำลังเท่าที่มี ด้วยใจจริง

 

แพทย์จุฬาฯ เผยผลวิจัยจากจีน ชี้ ฉีดซิโนฟาร์มช่วงเช้าได้ผลดีกว่าช่วงบ่าย

ไม่นานมานี้ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้โพสต์ความคืบหน้างานวิจัยวัคซีนซิโนฟาร์มของจีน ว่า...

ช่วงเวลาของวันในการฉีดวัคซีน กับระดับภูมิคุ้มกัน!!

Zhang H และคณะ เผยแพร่ผลวิจัยในจดหมายถึงบรรณาธิการ วารสาร Cell Research ศึกษาว่าช่วงเวลาของวันในการฉีดวัคซีน มีผลต่อระดับภูมิคุ้มกันมากน้อยเพียงใดทำในอาสาสมัคร 63 คนที่มหาวิทยาลัย ซุนยัดเซ็น ประเทศจีน เปรียบเทียบการฉีดวัคซีน Sinopharm (BBIBP-CorV, Sinopharm, Beijing) ช่วงเช้า (09.00 - 11.00 น.) และช่วงเย็น (15.00 - 17.00 น.) จำนวน 2 เข็มห่างกัน 28 วัน และเจาะเลือดวัดระดับภูมิคุ้มกัน ณ วันที่ 0, 14, 21, 28 และ 56

น่าสนใจที่พบว่า กลุ่มที่ฉีด 'ช่วงเช้า' มีระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า 'ช่วงเย็น' อย่างมีนัยสำคัญ โดยประเมินจากระดับ Neutralizing antibody ทั้งนี้เค้าเชื่อว่า Circadian rhythm นั้นมีอิทธิพลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้นหากฉีดวัคซีนโดยหวังผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนอง การพิจารณาเรื่องช่วงเวลาของวันในการฉีดก็อาจเกิดประโยชน์

อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อดูว่าจะได้ผลยืนยันเช่นเดียวกับที่ทีมวิจัยนี้ทำหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กลุ่มตัวอย่างที่มากขึ้น การใช้วัคซีนชนิดอื่น ๆ เพื่อประเมินผลที่ได้ว่าแตกต่างกันหรือไม่ รวมถึงระยะเวลาที่ใช้ในการประเมินผลลัพธ์ที่ต้องการที่ยาวขึ้น ทั้งภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดและภูมิคุ้มกันระดับเซลล์

โดยปกติแล้วเวลาเราอ่านงานวิจัยต่าง ๆ จำเป็นต้องประเมินเรื่องระเบียบวิธีวิจัย ก่อนที่จะนำผลวิจัยนั้นไปใช้ประกอบการตัดสินใจประพฤติปฏิบัติ

อัปเดตความรู้ไปเรื่อย ๆ จะช่วยให้รู้เท่าทันสถานการณ์ และมีโอกาสนำไปพัฒนาต่อยอดเพื่อจัดการปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต

อ้างอิง : Zhang, H., Liu, Y., Liu, D. et al. Time of day influences immune response to an inactivated vaccine against SARS-CoV-2. Cell Res (2021)


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/112022


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ทบ. เพิ่มเฮลิคอปเตอร์MI-17 เสริมภารกิจส่งผู้ป่วยCOVID19 กลับบ้าน บินวันนี้เที่ยวแรก กทม.- ตาก - พิษณุโลก  

กองทัพบกยังช่วยการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิด (กลุ่มสีเขียว) กลับภูมิลำเนาต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ 29 ก.ค. ถึง3 สค.64 กองทัพบกได้ใช้เครื่องบินลำเลียงแบบ C295 บินส่งผู้ป่วยโควิดกลับภูมิลำเนาไปแล้วจำนวน4 เที่ยวบิน รวม 84 คน ปลายทางที่ จ.น่าน และ นครพนม ทั้งนี้ยังคงมีประชาชนแจ้งขอให้พากลับบ้านผ่าน ศูนย์ประสานงานภัยโควิดกองทัพบก โทร 0-2092-7766 ต่อเนื่อง และจากนโยบายของกองทัพบกที่พร้อมนำยุทโธปกรณ์ทุกประเภทมาใช้ดูแล ประชาชนในสถานการณ์COVID - 19 ล่าสุด พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้นำเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ17 (ฮ.ท.17)ที่ประจำการอยู่ในกองทัพบกในขณะนี้ มาใช้เป็นพาหนะเสริมการส่งป่วยทางอากาศอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งศูนย์การบินทหารบก ได้ทำการปรับพื้นที่ภายในเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวให้เหมาะกับการส่งป่วย มีระบบการดูแลผู้ป่วยเช่นเดียวกับ เครื่องบินลำเลียงแบบC295 ประกอบด้วยการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ การดูแลผู้ป่วยด้วยทีมแพทย์เวชศาสตร์การบิน ทั้งนี้ได้มีการนำ ฮ.ท.17 ทดสอบการบินส่งผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความพร้อมในทุกด้านเรียบร้อยแล้ว 

โดยกองทัพบกจัดเที่ยวบินส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาด้วย ฮ.ท.17 เป็นเที่ยวบินแรกใน2 เส้นทางบินโดยออกเดินทางจาก กทม.ปลายทาง จ.ตาก และรับผู้ป่วยโควิดจาก จ.ตากไปส่งต่อที่ จ.พิษณุโลก รวมทั้งหมด 11 คน ภายใต้การประสานการปฏิบัติร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 ในการรับผู้ป่วยส่งต่อเข้าสู่การรักษาของสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกและตาก นอกจากนี้ ในวันนี้กองทัพบกยังได้จัดรถยนต์ นำผู้ป่วยโควิด(สีเขียว)กลับภูมิลำเนาอีก 2 จังหวัด คือ พิษณุโลก12 คนและพิจิตรอีก 14 คน

สำหรับ ฮ.ท.17 เป็นอากาศยานที่กองทัพบกจัดหาเข้าประจำการตั้งแต่ปี 2554 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติให้กับประชาชน ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ กองพันบินที่ 41 กรมบิน ศูนย์การบินทหารบก  โดยตั้งแต่เข้าประจำการ กองทัพบกได้นำ ฮ.ท.17 ออกปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในการบรรเทาสาธารณภัย ทั้งส่งมอบอาหาร ยาและสิ่งของจำเป็นแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วม ปฏิบัติการดับไฟป่าโดยติดตั้งตะกร้าบรรจุน้ำดับเพลิง การช่วยประชาชนจากเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน เช่น ปฏิบัติการกู้ภัย13หมูป่าที่ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย รวมถึงการใช้งานในภารกิจหลักทางทหารคือ การลำเลียงพลทางอากาศ เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์  การฝึกศึกษา เช่น หลักสูตรส่งทางอากาศ,การกระโดดร่ม  การฝึกร่วม/ผสมระหว่างเหล่าทัพและมิตรประเทศ ซึ่งภารกิจบินส่ง ผู้ป่วยโควิดในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการนำอากาศยาย ที่ประจำการมาใช้งานอย่างคุ้มค่า ภายใต้บุคลากรและการบริหารจัดการของกองทัพบก

ผู้ป่วยที่มีความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือในการเดินทางกลับภูมิลำเนา สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด-19 กองทัพบก โทร 02-092-7766 ตลอด 24 ชม.

นายกรัฐมนตรี อุดหนุนผลไม้ในโครงการ ‘เกษตรกรHappy’ จำนวน 1 ตัน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และไปรษณีย์ไทย ที่จัดโครงการ ‘เกษตรกรHappy’ เพื่อส่งเสริมการขายผลไม้ไทย โดยเช้านี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งซื้อมังคุด เงาะ ลำไยกับสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส. ผ่านเพจไปรษณีย์ไทย จำนวน 1 ตัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และให้จัดส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปมอบต่อเจ้าหน้าที่และจิตอาสาด่านหน้า พร้อมเชิญชวนคณะรัฐมนตรีร่วมอุดหนุน ช่วยเกษตรกรชวนสวนผลไม้ด้วย

นางสาวรัชดา ยังเปิดเผยว่า ในที่ประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีชื่นชมการจัดทำการส่งเสริมการขายผลไม้ไทย โครงการ ‘เกษตรกรHappy’ ซึ่งเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำในขณะนี้ สาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้การกระจายผลไม้ทำได้ยากขึ้น ขาดแรงงาน รวมทั้งการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ เช่น จีน ก็ติดขัดจากการตรวจเข้มและปัญหาการข้ามแดน

ดังนั้น กระทรวงพาณิชน์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และไปรษณีย์ไทย ได้จัดโครงการส่งเสริมการขายสินค้าเกษตรออนไลน์บนแพลตฟอร์มของไปรษณีย์ไทย ทาง facebook : Thailandpostmart และเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย www.Thailandpostmart.com ได้แก่ มังคุด จ.นครศรีธรรมราช เงาะ จ.สุราษฎร์ธานี และลำไย จ.พะเยา ด้วยการการตลาดแบบใหม่ใช้ช่องทาง Line My Shop และ QR Code ให้ผู้ซื้อ/ลูกค้า ทราบข้อมูลเกี่ยวกับผลไม้และราคาที่นำมาขายและสามารถสแกนซื้อที่ QR Code ของโครงการได้เลย โดยกระทรวงพาณิชย์ จะสนับสนุนค่าขนส่งและค่ากล่องให้กับประชาชนที่สั่งซื้อผลไม้ออนไลน์ผ่าน Thailandpostmart ของไปรษณีย์ ซึ่งไปรษณีย์ไทยจัดส่งให้ฟรีทั่วไทยด้วย

โครงการ 'เกษตรกรHappy’ ยังเป็นการเดินหน้าตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรไทยเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากการค้าออนไลน์สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยทั้งผู้จำหน่ายและผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดด้วย


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ผู้ช่วยเลขา ศอ.บต ชายแดนใต้'​ เผาศพเหยื่อ Covid-19 รายที่ 63 พระครูแจ้ เผย!! ศพมาต่อเนื่อง เตาเผาไม่ได้พัก

ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี​ จ.สมุทรปราการ ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ประกอบพิธีฌาปนกิจศพให้ผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19  รายที่ 63 รวมแล้ว 63 ศพ ที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง รับเผาร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยทางวัดไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการเผาศพแต่อย่างใด  

นายธวัชชัย นามสมุทร ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้จังหวัดยะลา เป็นประธาน ร่วมในพิธีฌาปนกิจศพ นายบุญเหลือ ทองเงิน ผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยมีญาติผู้เสียชีวิตร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแบบ New Normal

โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า วัดได้รับฌาปณกิจศพเหยื่อโควิด-19 มาหลายศพแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 64 ซึ่งขณะนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้เผาศพเหยื่อโควิด-19 ไปแล้วรวม 62 ศพ และรายนี้เป็นศพที่ 63 โดยที่ผ่านมา ทางวัดได้จัดพิธีทำบุญทักษิณานุปทาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ รวม 60 รายด้วยกัน ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง มีความรู้สึกเป็นห่วงพี่น้องประชาชนทุกคนรวมถึงสงสารครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 และมีความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ ที่ยังคงปฎิบัติหน้าที่อย่างเหน็ดเหนื่อย 

อีกทั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้ประกอบพิธีทำบุญทักษิณานุปทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 รวม 30 ราย แต่ในขณะเดียวกันปัจจุบันทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้รับฌาปนกิจศพเหยื่อโควิดมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งวันนี้เป็นรายที่ 63 แล้ว ทางวัดจะรับดำเนินการฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ต่อไป จนกว่าโรคนี้จะหายไปจากประเทศของเรา

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้เตาเผาศพที่ใช้เผาศพโควิดอาจมีการเสื่อมสภาพได้เพราะต้องใช้ความร้อนสูงมากและเผาอยู่ตลอดแทบไม่ได้หยุดพัก เตาเผาศพก็อาจมีการเสื่อมสภาพได้เป็นธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา ทางวัดจะอนุเคราะห์เผาศพโควิดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเตาเผานั้นจะแตก หรือจนกว่าจะไม่สามารถเผาต่อได้ ขณะนี้วัดบางพลีใหญ่กลาง มีญาติผู้เสียชีวิตเข้ามาติดต่อขอให้ทางวัดช่วยเผาศพโควิด และมีคิวจองเผาศพโควิด-19 อยู่อีกหลายราย ทางวัดก็มีความยินดีโดยจะรับอนุเคราะห์ทุกราย แต่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจะไม่รับฌาปนกิจศพเฉพาะวันศุกร์เท่านั้น   

ที่มา: คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

กลาโหม ปฏิเสธเซ็นสัญญาร่วม 'หมอบุญ' สั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 

จากกรณี นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ออกมาระบุว่า  จะมีการเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหม ที่เป็นหน่วยงานนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์นั้น

ล่าสุด พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม กล่าวปฏิเสธถึงกรณีมีการให้ข่าวจากภาคเอกชนว่า จะมีการลงนามในสัญญาร่วมกับกระทรวงกลาโหม สั่งนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ขอยืนยันว่า ขณะนี้ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานในสังกัด ยังไม่มีแผนหรือความตกลงร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนใดๆในการสั่งซื้อหรือนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์แต่อย่างใด  และที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหม ก็ยังไม่เคยติดต่อตรงกับ บ.ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อเรื่องดังกล่าว 

“บิ๊กป้อม” เฮ “น้องแต้ว” คว้าทองแดงในมือ ชวน คนไทยส่งใจเชียร์ ทะลุชิงเหรียญทอง 5 ส.ค.นี้ เผย เตรียมอัดฉีดกว่า8 ล้านบาท 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับ “น้องแต้ว”สุดาพร สีสอนดี  ที่คว้าชัยชนะในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นหญิงรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กิโลกรัม ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงประวัติศาสตร์มวยหญิงไทยในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 โดยทางคณะกรรมการ
โอลิมปิกฯกำหนดให้เงินรางวัลนักกีฬาที่ได้รับเหรียญโอลิมปิกเกมส์ เป็นรายเดือน รวมเวลา 20 ปี โดยเหรียญทอง เดือนละ 12,000 บาท เหรียญเงิน 10,000 บาท และเหรียญทองแดง 8,000 บาท โดยสุดาพรจะได้รับเงินเดือน 8,000 บาท รวมเป็นระยะเวลา 20 ปี เป็นเงิน 1,920,000 รวมทั้งสิ้นน้องแต้วรับเงินรางวัลอัดฉีดเบื้องต้น 8,720,000 บาท

“น้องแต้ว เป็นนักกีฬาของไทยที่มีความสามารถและศักยภาพ ได้ทุ่มเทการฝึกซ้อมมาต่อเนื่อง มีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์โลกปี 2019 และศักยภาพดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้คนไทยได้มีข่าวดีกันอีกครั้ง จึงขอเชิญชวนคนไทยเป็นกำลังใจให้คว้าชัยชนะในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ ให้ได้รับชัยชนะในก้าวต่อไปที่จะลุ้นเหรียญเงิน พล.อ.ประวิตร กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top