Thursday, 10 July 2025
NEWS FEED

'อนุทิน' สั่งเปิด 3 จุดฉีดวัคซีน mRNA รองรับผู้ไม่เคยฉีด - รอวัคซีนทางเลือก

'อนุทิน' สั่งเปิด 3 จุดฉีดวัคซีน mRNA รองรับผู้ไม่เคยฉีดมาก่อนและยังรอวัคซีนทางเลือก คาดฉีดวัคซีนโควิดครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นพ.ย.

26 พ.ย. 64 - นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 47 ล้านคน จากเป้าหมาย 50 ล้านคน ยังมีผู้ไม่ได้รับวัคซีนอีก 3 ล้านคน คาดว่าจะฉีดครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยทุกแห่งจะเร่งรัดฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ เด็ก และขยายไปถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าว เนื่องจากผู้ไม่ได้รับวัคซีนมีความเสี่ยงติดเชื้ออาการหนักและเสียชีวิต ทั้งนี้ ยืนยันว่าวัคซีนทุกชนิดที่กระทรวงสาธารณสุขจัดซื้อเป็นวัคซีนที่ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลลดความเสี่ยงติดเชื้อ ป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตได้

‘ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน’ เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการจ้างงานในประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานระหว่างและหลังการระบาดของโควิด-19

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการจ้างงานในประเทศไทย “การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานระหว่างและหลังการระบาดของ COVID-19” Employment in Thailand Labour Market Transitions during and post the COVID-19 pandemic ณ ห้องประชุมมารีน่า แกรนด์ บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมโนโวเทลมารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี

โดยกล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อแรงงาน และเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อบริบทด้านแรงงาน ดังนี้

1) แรงงานถูกเลิกจ้าง

2) ชั่วโมงการทำงานลดลง

3) รายได้ของแรงงานลดลง และ

4) ความก้าวหน้าและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีดิจิทัล

ส่งผลให้แนวโน้มอาชีพและรูปแบบการจ้างงานเปลี่ยนแปลงไป กระทรวงแรงงานได้มีการดำเนินงานเพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดการเลิกจ้าง ว่างงาน และเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงานและการจ้างงาน เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการจัดหางาน มีอาชีพ มีงานทำ และมีคุณภาพชีวิตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จึงได้กำหนดมาตรการการส่งเสริมการจ้างงาน และมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้

1.การเตรียมความพร้อมแก่กำลังแรงงานให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทุกกลุ่มให้ทราบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน และใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษา และเลือกประกอบอาชีพ

2.จัดทำมาตรการเพื่อส่งเสริมการจ้างงานและการประกอบอาชีพ โดยมีผลการดำเนินงาน ได้แก่ โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่

โดยภาครัฐและภาคเอกชน (Co - Payment) ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งวันที่ 1 ตุลาคม 2563 - 31 ธันวาคม 2564 เป้าหมาย 50,000 คน ผลการดำเนินงานปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564) อนุมัติการจ้างงานแล้ว จำนวน 55,735 คน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจรวมจำนวน 3,213,122,750 บาท และให้ความช่วยเหลือนายจ้าง/สถานประกอบการในกลุ่มธุรกิจ SMEs เพื่อส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อลดปัญหาการว่างงาน ผลการดำเนินงานปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564) มีนายจ้างในธุรกิจ SMEs เข้าร่วมโครงการ จำนวน 223,838 ราย รักษาระดับการจ้างงาน และส่งเสริมการจ้างงานใหม่ลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 3,068,152 คน เป็นต้น 3.พัฒนาระบบการให้บริการจัดหางาน ซึ่งกระทรวงแรงงานโดยกรมการจัดหางาน ยกระดับการให้บริการจัดหางานและจ้างงานผ่านระบบออนไลน์บนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” เพื่อให้คนหางานเข้าถึงการจ้างงานที่สะดวกรวดเร็ว จับคู่ตำแหน่งงานว่างและคนหางานที่สอดคล้องกับความต้องการส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัลและการจ้างงานที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้ได้รับการบรรจุงานแล้ว จำนวน 192,948 คน

อย่างไรก็ดี ยังเห็นว่ามีการดำเนินงานด้านการพัฒนาแรงงานด้านอื่น ๆ และประเด็นท้าทายที่จะส่งผลให้เกิดการจ้างงานและรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานและสอดคล้องกับแรงงานในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่ต้องให้ความสำคัญและมีการวางแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงต่อไป เช่น การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสนับสนุนให้มีการจ้างงานกลุ่มเปราะบาง และประชากรเฉพาะกลุ่ม การปรับตัวของแรงงานทั้งในและนอกระบบของไทยให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงโดยการพัฒนาเพื่อยกระดับทักษะและสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงานในยุคปัจจุบัน หรือ Up-Skill และ Re-Skill ในสาขาที่เป็นที่ต้องการของห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการบริการที่มีความต้องการแรงงานที่มีทักษะ การคุ้มครองแรงงานเพื่อส่งเสริมการทำงานที่มีคุณค่าเพื่อให้แรงงานได้รับโอกาสในการจ้างงานจ้างและมีความมั่นคงในชีวิตตลอดจนมีหลักประกันทางสังคม

นายสุรชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอบคุณสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยและองค์การแรงงานระหว่างประเทศที่ร่วมจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาแรงงานของประเทศ และหวังว่าผลการประชุมจะนำมาซึ่งข้อเสนอเชิงนโยบายด้านแรงงานด้านการจ้างงานที่มาจากความเห็นของทุกภาคส่วนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อพัฒนาแรงงานของประเทศต่อไป

 

'ที่ปรึกษา ศบค.' เตือน!! โควิดสายพันธุ์ใหม่พบที่แอฟริกาใต้ กลายพันธุ์ถึง 32 ครั้ง แนะรีบฉีดวัคซีนป้องกัน

'ดร.วรัชญ์ ที่ปรึกษาศบค.' เผย โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 พบที่แอฟริกาใต้ กลายพันธุ์ถึง 32 ครั้ง คนที่ฮ่องกง ติดแล้ว ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมาถึงไทย แนะใครที่ยังลังเลไม่อยากฉีดวัคซีน รีบไปฉีดป้องกันไว้ก่อน

26 พ.ย. 64 - ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ว่า

มาอีกแล้ว โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 พบที่แอฟริกาใต้ บอตสวานา แต่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือฮ่องกง ใกล้บ้านเรานิดเดียว (คนที่ติดที่ฮ่องกง ติดจากการไปแอฟริกาใต้)

ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือ สายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์ถึง 32 ครั้ง (เดลตายังกลายพันธุ์แค่ 16 ครั้ง) มากที่สุดเท่าที่เคยพบมา ซึ่งยังไม่มีรายงานว่าทำให้มีการแพร่กระจายง่ายกว่าเดิม หรืออาการรุนแรงกว่าเดิมหรือไม่

‘หมอประสิทธิ์’ เตือนหนาวนี้น่าห่วงระบาดซ้ำ หวั่นตามรอยยุโรป แนะเลี่ยง 3 ปัจจัยเสี่ยง 

ศิริราช เผย ยุโรป "โควิด-19" กลับมาระบาดซ้ำ แม้หลายประเทศฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มครอบคลุมประชากรจำนวนมาก ย้ำเดือน ธ.ค. ช่วงเสี่ยง เทศกาล อากาศเย็นลง แนะหลีกเลี่ยง 3 เสี่ยง ได้แก่ บุคคลเสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง สถานที่เสี่ยง เพื่อให้ "เปิดประเทศ" ปลอดภัย

ข้อมูล องค์การอนามัยโลก มีความกังวลในการแพร่ระบาดโควิด-19 ทวีปยุโรป เพราะขณะนี้สิ่งที่เกิดขึ้นหลายประเทศในยุโรป กลับระบาด มีการคาดการณ์ว่า หากไม่มีการจัดการอะไรเลย ในเดือน มี.ค. 65 อาจจะมีผู้เสียชีวิต มากกว่า 5 แสนราย หากวิเคราะห์เหตุปัจจัย ตั้งแต่ปีก่อนและปัจจุบัน จะพบว่าเมื่อมีการแพร่ระบาดในทวีปใดทวีปหนึ่ง ไม่นานจะกระจายไปทวีปอื่นตามมา

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราช พยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานแถลงข่าว อัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเด็น สถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ระลอกใหม่ใน ยุโรป โดยระบุว่า ข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย. 64 การแพร่ระบาดใหญ่เกิดขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ส่วนยุโรปชัดเจนว่า ช่วงปลาย ส.ค.- ก.ย. 64 เป็นต้นมา แนวโน้มสูงขึ้นไม่หยุด อัตราการระบาดในประเทศในยุโรปที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี ก็ไต่ขึ้น โดย ต.ค. เป็นจุดเปลี่ยน สิ่งที่น่าห่วง คือ ยุโรปเข้าหน้านาว อากาศเย็นลงเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยง ขณะที่สถานการณ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี แต่ในปีที่ผ่านมาการระบาดลดลงในลักษณะนี้และกลับขึ้นมา

"เมื่อถอดบทเรียนการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 ตอนนี้ทวีปยุโรป กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดรอบใหม่ หลายประเทศเปิดประเทศ มีการเดินทางมากขึ้น เตือนขอให้ระวัง เพราะเดือนหน้าเป็นเดือนช่วงเวลาของการเสี่ยงการติดเชื้อ"

ประเทศออสเตรีย
เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการติดเชื้อสูงสุด (รายใหม่ 925 ต่อหนึ่งแสน) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศ จนรัฐบาลใช้มาตรการ Lockdown มีการฉีดวัคซีนแล้ว 12,937,047 โดส ฉีดวันละ 97,929 โดส (ประชากร 9,078,699 คน) 70.3% ของประชากร ได้รับ 1 โดส 65.8% ได้ครบโดส และ 13.7% ได้โดสที่สาม ยังพบคนที่ไม่ใส่หน้ากากเยอะ ทำให้รัฐบาลกำชับมาตรการส่วนบุคคล การป้องกันตนเอง การใส่หน้ากาก และผลักดันการฉีดวัคซีน

สหราชอาณาจักร
กำลังเฝ้าติดตามสายพันธุ์ Delta Plus (มีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง E484K) ว่าจะมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกกระตุ้นจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ (ยังไม่มีหลักฐาน) รายงานใน The Guardian เมื่อ 16/11/2021 ผู้ป่วย COVID-19 ที่อยู่ในหอผู้ป่วยหนัก (ICU) ทั่วสหราชอาณาจักร แทบทั้งหมดคือผู้ที่ยังไม่รับวัคซีนหรือรับไม่ครบ

ทั้งนี้ นอกจากตัวเลขติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น แม้จะมีการฉีดวัคซีนเยอะอัตราการเสียชีวิตก็เริ่มกลับไปในช่วง มี.ค. ที่ยังฉีดวัคซีนไม่มาก สื่อให้เห็นว่า วัคซีนที่กระตุ้นภูมิต้านทานไม่ได้ทำให้ภูมิสูงเป็นปี ปฏิกิริยาการตอบสนองจะอยู่ช่วงเวลาหนึ่งและลดลง เมื่อลดลงทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้น

ศ.ดร.นพ. ประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ยุโรป และสหรัฐฯ มีกลุ่มต่อต้านวัคซีน แต่ก็อยากมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้น มีชาวออสเตรียราว 4 คน ที่ไปร่วมกิจกรรมในตอนเหนืออิตาลี เป็นกิจกรรมที่คนติดเชื้อโควิดมาเจอกัน อยากเอาตัวเองเข้าไปเพื่อติดเชื้อโควิด-19 เพราะหากการติดเชื้อไม่อันตรายจะเกิดภูมิคุ้มกันจากติดเชื้อธรรมชาติ ดังนั้น คนเหล่านี้จึงมองว่า ไปติดเชื้อดีกว่า แต่ขณะนี้ 4 คนดังกล่าว 1 คนเสียชีวิต 3 คนอยู่ในไอซียู และในจำนวนนี้ 1 คนเป็นเด็ก แปลว่าไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุที่ตายจากโควิด คนที่ยังไม่ได้รับภูมิคุ้มกันขอความกรุณาอย่าคิดแบบนี้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าติดเชื้อแล้วภูมิจะขึ้นหรือชีวิตเราจะลด

ข้อสังเกตมาตรการประเทศต่างๆ

รัฐบาลประเทศออสเตรีย ประกาศ Lockdown ประเทศเมื่อ 22/11/2021 เพื่อควบคุมการแพร่ ระบาดของ COVID-19 (64% ของประชาชน ของออสเตรีย ได้รับการฉีดวัคซีนครบ เป็นอัตราที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรป - 66%)

รัฐบาลประเทศเบลเยียม ออกประกาศเมื่อ 22/11/2021 ให้ประชาชน Work from Home อย่างน้อยสัปดาห์ละ 4 วัน ต้องใส่หน้ากากในสถานที่สาธารณะ สำหรับผู้ที่อายุเกิน 10 ปี ต้องใส่หน้ากากในยานขนส่งสาธารณะ ภัตตาคาร โรงภาพยนตร์ และในที่นอกอาคารที่มีกิจกรรมคนจำนวนมาก

รัฐบาลประเทศลัตเวีย (Latvia) ประกาศ Lockdown ตั้งแต่ 21/10/2021 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด (ประชาชนฉีดวัคซีนน้อย 61%) และยกเลิกเคอร์ฟิวเมื่อ 15/11/2021 แต่ยังคงจำกัดชั่วโมงทำงานในที่ทำงาน จำกัดจำนวนคนที่ร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ และไม่อนุมัติให้มีกิจกรรมสันทนาการในอาคารลัตเวียมีอัตราการเสียชีวิตสูงสุดในยุโรป

รัฐบาลประเทศเนเธอร์แลนด์ ประกาศ Lockdown เป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อควบคุม การระบาด ปิดบาร์ ภัตตาคาร ตั้งแต่ 20.00 น. ร้านบริการต่าง ๆ เช่น ร้านตัดผม ปิด 18.00 น. แนะนำให้ทำงานที่บ้านยกเว้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง จำกัดบุคคลภายนอก เข้าบ้านสูงสุดไม่เกิน 4 คน

รัฐบาลประเทศไอร์แลนด์ ประกาศเมื่อ 18/11/2021 ให้ในต์คลับ ภัตตาคารปิดเที่ยงคืน ทำงานที่บ้านยกเว้นจำเป็นอย่างยิ่งถึงจะไปทำงานในที่ทำงาน การเข้าชมภาพยนตร์ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือหายป่วย ผลสำรวจพบ 57% ของผู้ถูกสำรวจจะลดจำนวนการพบปะผู้คนจนผ่าน Christmas 45% ยกเลิกแผนการเที่ยว

ฉะเชิงเทรา-รวมพลังบุญ 27 บริษัทยักษ์ใหญ่ ระดมทุน มอบเงินบริจาค ให้กับโรงพยาบาล พนมสารคามจังหวัดฉะเชิงเทรา กว่า 6 แสนบาท 

ที่โรงพยาบาลพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้จัดงานต้อนรับ พลังบุญกว่า 27 บริษัท ที่ระดมเงินซื้ออุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลพนมสารคามจังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องด้วยยังขาดแคลน ครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์  

นำทีมโดย คุณ อนันต์ ทัพธานี ที่ปรึกษาบริษัท civil engineering มหาชน และคุณ สนธยา หิมะวัน ประธานบริษัทสนธยาการช่าง สื่อมวลชน และแขกเข้าร่วมงาน อีกจำนวนหลายท่าน โดยมีผู้อำนวยการโรงพยาบาล ให้การต้อนรับ

 

รัฐมนตรีเกษตรห่วงเพชรบุรีสั่งชลประทานเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันล่าสุด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ภายหลังลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบฉับพลันล่าสุดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีว่า ได้ประสานการทำงานกับนายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี นายมีชัย ปฏิยุทธ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแก่งกระจาน นายสมเกียรติ แจ่มจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบุรีและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีโดยเร็วที่สุดตั้งแต่เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันเมื่อคืนวันวานที่ผ่านมาตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งมีความห่วงใยในพี่น้องชาวจังหวัดเพชรบุรี

นายอลงกรณ์กล่าวว่า น้ำหลากน้ำท่วมฉับพลันครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนักเหนืออ่างเก็บน้ำและใต้อ่างเก็บน้ำทั้ง3แห่งคือแก่งกระจาน แม่ประจันต์ ห้วยผากและห้วยสงสัยในช่วงวันที่23-24พ.ย. ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่บางหมู่บ้านของอำเภอแก่งกระจาน หนองหญ้าปล้อง ท่ายางและชะอำเป็นภาวะน้ำท่วมแบบฉับพลันมาเร็วไปเร็ว ซึ่งจังหวัดเพชรบุรี ปภ.จังหวัด กำนันผู้ใหญ่บ้าน หน่วยงานชลประทานและเครือข่ายจิตอาสาได้ร่วมกันช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจนขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายเป็นปกติโดยส่วนใหญ่เหลือเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำท่วมขังโดยมอบหมายให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ชลประทานจังหวัดเพชรบุรีและสำนักงานชลประทานที่14ระดมเครื่องจักกลและเครื่องสูบน้ำเร่งแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด

สำหรับการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเพชรบ่ายวันนี้ได้ระบายลงแม่น้ำเพชรบุรี100ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีและคลองระบายน้ำ4สายหลักในปริมาณเท่าๆกันซึ่งด้วยปริมาณน้ำดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ใต้เขื่อนเพชรได้แก่อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาดและเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี แต่อาจมีน้ำท่วมขังในตำบลบ้านกุ่ม ท่าแร้งและบางครกซึ่งชลประทานจะเร่งสูบน้ำและผลักดันน้ำออกจากพื้นที่
ภายในไม่มีวันข้างหน้า

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การตำรวจสากล ครั้งที่ 89 (89th Interpol General Assembly) ณ เมืองอิสตันบูล สาธารณรัฐตุรกี

เมื่อ​ 21 พ.ย.64 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผบก.ตท./รองโฆษก ตร. พร้อมคณะเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมในฐานะผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การตำรวจสากล ครั้งที่ 89 (89th Interpol General Assembly) ณ เมืองอิสตันบูล สาธารณรัฐตุรกี ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 23 – 25 พ.ย.64 

พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผบก.ตท./รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าว เป็นการประชุมครั้งแรกขององค์การตำรวจสากล หลังจากที่ทุกประเทศทั่วโลกได้เผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ภายใต้หัวข้อ ความท้าทายด้านความมั่งคงของโลก (Global Security Threats) โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมมากกว่า 470 คน ทั้งในระดับรัฐมนตรี หัวหน้าหน่วยงานตำรวจ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วยงานตำรวจ จาก 161 ประเทศทั่วโลก 

และเมื่อวันที่ 23 พ.ย.64 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ฯ ได้มีมติให้สหพันธรัฐไมโครนีเซีย เข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ขององค์การตำรวจสากล ส่งผลให้มีประเทศสมาชิกองค์การตำรวจสากล รวมทั้งสิ้น 195 ประเทศ 

นอกจากนี้ การประชุมดังกล่าว มีวาระการประชุมที่สำคัญหลายหัวข้อ อาทิ การร่วมลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานองค์การตำรวจสากลคนใหม่ รวมทั้งคณะกรรมการบริหารระดับสูงขององค์การตำรวจสากล, นโยบายและการบริหารงานในการเสริมสร้างเครือข่ายประเทศสมาชิกองค์การตำรวจสากลเพื่อเพิ่มความปลอดภัยด้านความมั่งคงของโลกแบบไร้พรมแดน (Borderless Management), แผนงานยุทธศาสตร์ขององค์การตำรวจสากล 2022-2025 และการเสริมสร้างความร่วมมือในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นภัยคุกคามร่วมของประเทศสมาชิก

‘อธิบดีผู้พิพากษา ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง’ เป็นประธานในพิธีอบรมและปฏิญาณตนของผู้พิพากษาสมทบ ในศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดสงขลา - ปัตตานี - สตูล และนครศรีธรรมราช

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา 08.45 – 16.00 น. ที่ผ่านมา ณ โรงแรม บีพี สมิหลา บีช สงขลา นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เป็นประธานในพิธีอบรมและปฏิญาณตนของผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสงขลา จำนวน 42 คนจังหวัดปัตตานี 26 คน จังหวัดสตูล 21 คน และจังหวัดนครศรีธรรมราช 36 คน รวมทั้งสิ้น 125 คน 

โดยได้รับเกียรติจากมี นางสาววิไล จิวังกูร ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 9 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา/ นายปัญญา ช่อมณี อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 / นายก่อเกียรติ สุพลพงษ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 9 / นายประคอง เตกฉัตร อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 / นายสถาพร ประสารวรรณ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 / นางวิรา ยากะจิ ณ พิกุล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล 

“หมวดแบงค์” ชนะควบ 2 รางวัล “บทเพลงรักชาติ เสียสละ” รักประชาชน

หมวดแบงค์ แต่งเพลงกินใจ คว้า 2 รางวัล “การประกวดบทเพลงรักชาติ ประจำปี 2564” จากกรมกิจการพลเรือนทหารบก 

กองทัพบก โดย กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้เชิญผู้ที่สนใจ ส่งผลงานบทเพลงเข้าร่วมประกวดในกิจกรรม “การประกวดบทเพลงรักชาติ ประจำปี 2564” เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมทั้งให้ประชาชนเข้าใจถึงความเสียสละของทหาร ในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตย และการช่วยเหลือประชาชน

เนื้อหาเพลงที่ส่งเข้าประกวด แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 กลุ่มบทเพลงความรักของทหารที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน
กลุ่มที่ 2 กลุ่มบทเพลงความรักของประชาชนที่มีต่อประเทศชาติ ทั้งในยามปกติและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
กลุ่มที่ 3 กลุ่มบทเพลงความรัก ความห่วงใย และความเห็นอกเห็นใจของประชาชน ที่มีต่อทหารในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ
 

จิตอาสาพัฒนา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ภายในลานอเนกประสงค์ เทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นางสาวทัสนันทร์ ภมรพล ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทน นายอำเภอเมืองสมุทรปราการ ประธานจัดกิจกรรม จิตอาสาพัฒนา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” นำหัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสาพระราชทาน ข้าราชการตำรวจและประชาชน ร่วมถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้ง ถวายความเคารพพระฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดยมี นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ นำคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ร่วมให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ จิตอาสาพระราชทาน ตลอดจนเข้าร่วมในกิจกรรม จิตอาสาพัฒนา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” โดยมี นายบุญธรรม อินทรแย้ม รองนายกเทศมนตรี นางสาวศิริพร ทับคล้าย รองนายกเทศมนตรี นายธนสัน วสันต์ กำนันตำบลแพรกษาใหม่

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top