Saturday, 10 May 2025
ECONBIZ NEWS

แรงงานไทยเนื้อหอม!! ดูไบต้องการเชฟร้านอาหาร นวดสปาจำนวนมาก ให้ค่าจ้างสูง

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ได้เดินทางไปพบปะแรงงานไทยในโอกาสเดินทางมาราชการ ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเข้าร่วมการประชุม World Government Summit ครั้งที่ 8 โดยได้เดินทางไปยังร้านอาหารไทยร้านแรกเป็นร้านเบญจรงค์ (Benjarong) รัฐดูไบ เป็นหนึ่งในร้านอาหารไทยในดูไบที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของคนต่างชาติในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้พบปะเยี่ยมให้กำลังใจแรงงานไทย จำนวน 6 คน ซึ่งทำงานในตำแหน่ง Thai Chef ร้านที่สอง เป็นร้าน White Orchid Restaurant &  Lounge ร้านนี้เป็นร้านที่ใช้แรงงานไทยที่มีทักษะฝีมือและได้รับอัตราค่าจ้างที่สูง อยู่ในรัฐดูไบ มีเชฟไทยทำงานอยู่จำนวน 3 คน ทำงานในตำแหน่ง chef de cuisine ตำแหน่ง JR. Sous และตำแหน่ง Demi Chef และ ร้านที่สาม เป็นร้าน CALM Spa& Salon  มี Spa Therapist ไทย อยู่ในรัฐดูไบ ร้านนี้เป็นร้านที่ใช้แรงงานไทยที่มีทักษะฝีมือและได้รับอัตราค่าจ้างที่สูง มีแรงงานไทยทำงานรวม 4 คน ในตำแหน่ง Spa Manager พนักงานนวดสปา ครูสอนนวด (Spa supervisor /Trainer) พนักงานนวดสปา 
 
นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลไทยและกระทรวงแรงงานมีความห่วงใยแรงงานไทย แม้ว่าจะเป็นแรงงานไทยที่ทำงานในต่างประเทศก็ตาม แรงงานไทยที่ทำงานในต่างประเทศถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากแต่ละปีมีรายได้ส่งกลับให้ครอบครัวในประเทศไทย เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แรงงานไทยได้รับการยอมรับจากนายจ้างในทักษะฝีมือ ซึ่งเป็นเอกลักษณะและความโดดเด่นยากที่จะมีแรงงานชาติไหนมาเลียนแบบได้ โดยเฉพาะเสน่ห์ในงานและทักษะฝีมือในสาขานวด สปาไทย กุ๊ก เชฟ ผู้ประกอบอาหารไทย และที่สำคัญวันนี้ได้มาพบแรงงานและเจ้าของสถานประกอบการที่เป็นคนไทย ได้เห็นลูกค้าที่มาใช้บริการสถานประกอบการร้านค้าของคนไทย จะทำให้เจ้าของสถานประกอบการมีรายได้ มีกำไรจากกิจการ ลูกจ้างเองก็ได้รับค่าจ้าง เงินเดือน และทิปจากการทำงาน ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมีความต้องการแรงงานไทย เนื่องจากแรงงานไทยมีทักษะฝีมือดี ขยัน มีความรับผิดชอบ จึงเป็นที่ต้องการของนายจ้าง

“การเดินทางมาเยี่ยมแรงงานไทยในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในครั้งนี้ เพื่อต้องการพบปะพูดคุยกับเจ้าของสถานประกอบการ ซึ่งวันนี้ดีใจที่ได้พบผู้ประกอบการไทย และแรงงานไทยที่จากบ้านมาทำงานในต่างแดน สอบถามสารทุกข์สุกดิบ พร้อมส่งกำลังใจและความห่วงใยจากท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มีความห่วงใย และกำชับมอบหมายให้มาสอบถามพูดคุยกับทุกท่านด้วยตัวเอง”นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

กนง.เอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ต่อปี

นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2565 และ 2566 จะขยายตัวได้ต่อเนื่องแม้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยผ่านการปรับขึ้นของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ และอุปสงค์ต่างประเทศที่ชะลอลง ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยปี 2565 จะปรับสูงขึ้นเกินกรอบเป้าหมาย ก่อนจะทยอยลดลงและกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงต้นปี 2566 จากราคาพลังงานและอาหารที่คาดว่าจะไม่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นเป็นผลจากปัจจัยด้านอุปทาน (cost-push inflation) เป็นหลัก ในขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ (demand-pull inflation) ยังอยู่ในระดับต่ำ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้มีความต่อเนื่อง

คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยจะขยายตัวในปี 2565 และ 2566 ที่ร้อยละ 3.2 และ 4.4 ตามลำดับ จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยว โดยผลของการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่มากเท่าระลอกก่อนหน้า 

'ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส' ผนึก 'bp- Neste' ร่วมสร้างโลกที่ดีขึ้น เปลี่ยนใช้เชื้อเพลิงลด 'คาร์บอนฯ' ภาคขนส่งทางอากาศ

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประกาศความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้านการใช้พลังงานเชื้อเพลิงทางการบินอย่างยั่งยืน ร่วมกับ bp และ Neste ด้วยปริมาณน้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืนกว่า 800 ล้านลิตร

• bp และ Neste ได้ทำข้อตกลงในการจัดหาเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในการบินที่ยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) มากกว่า 800 ล้านลิตร ให้กับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส จนถึงปี 2569
• SAF ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตลอดวัฏจักรของเชื้อเพลิง เทียบเท่ากับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์ประมาณ 400,000 คันต่อปี
• ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการมุ่งสู่เป้าหมายของกลุ่มบริษัท ดอยช์โพสต์ ดีเอชแอล ที่จะใช้เชื้อเพลิงทางการบินที่ยั่งยืน 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับการขนส่งทางอากาศภายในปี 2573
• แฟรงค์ แอพเพล ซีอีโอของกลุ่มบริษัท ดอยช์โพสท์ ดีแอชแอล กรุ๊ป กล่าวว่า “ปัจจุบันการใช้ SAF เป็นหนึ่งในแนวทางหลักเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของการขนส่งทางอากาศ”

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประกาศก้าวสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการขนส่งทางอากาศให้เป็นไปอย่างยั่งยืนมากขึ้น โดยดีเอชแอลได้ยืนยันถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับสองบริษัทคือ bp และ Neste ในการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สร้างจากวัสดุทางชีวภาพเพื่อการบินที่ยั่งยืน (SAF) มากกว่า 800 ล้านลิตรให้กับ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสภายในห้าปีข้างหน้า ภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่ที่เป็นหนึ่งในข้อตกลง SAF ที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน 

ข้อตกลงดังกล่าวมาพร้อมกับการเปิดตัว SAF บนเครือข่ายของดีเอชแอลก่อนหน้านี้ในซานฟรานซิสโก (SFO) อีสต์มิดแลนส์ของอังกฤษ (EMA) และอัมสเตอร์ดัม (AMS) ซึ่งจะทำให้บรรลุเป้าหมายมากกว่าครึ่งหนึ่งของเป้าหมายที่ตั้งไว้ในการใช้ SAF 10 เปอร์เซ็นต์สำหรับการขนส่งทางอากาศภายในปี 2569 ดีเอชแอลคาดว่าความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้จะช่วยลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณสองล้านตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์โดยสารประมาณ 400,000 คันต่อปี

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ดำเนินการขนส่งเอกสารและพัสดุด่วนระหว่างประเทศมากกว่า 480 ล้านชิ้นต่อปี ครอบคลุม 220 ประเทศทั่วโลกผ่านเครือข่ายการบินของบริษัทที่มีอยู่ทั่วโลก กล่าวได้ว่าด้วยน้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืนกว่า 800 ล้านลิตร จะสามารถใช้งานกับเที่ยวบินของดีเอชแอล 1,000 เที่ยวต่อปีโดยประมาณ ในเส้นทางบินจากเมืองซินซินนาติ สหรัฐอเมริกา ไปยังเมืองไลพ์ซิก เยอรมนี ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777 บินได้ระยะเวลาประมาณ 12 ปี นับเป็นการใช้เชื้อเพลิง SAF 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเทียบเท่ากับเที่ยวบินระยะไกล 12,000 เที่ยวบินที่ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ (carbon neutral long-haul flights)

แฟรงค์ แอพเพล ประธานกรรมการบริหารของกลุ่มบริษัท ดอยช์โพสท์ ดีแอชแอล กล่าวว่า “ในฐานะที่ดีเอชแอลเป็นผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์ชั้นนำของโลก เรามุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชันที่สร้างความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้าของเรา ความร่วมมือด้านเชื้อเพลิงที่ใช้ในการบินที่ยั่งยืน (SAF) ที่ทางบริษัทได้ร่วมมือกับ bp และ Neste นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการบิน และสอดคล้องกับแผนความยั่งยืนของเรา ปัจจุบันการใช้ SAF เป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญของอุตสาหกรรมการบินเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการใช้พลังงานเชื้อเพลิงในแต่ละชนิดของเครื่องบินที่มีอยู่ในปัจจุบัน”

มาร์ติน ทอมป์สัน, รองประธานอาวุโส Air bp กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ความร่วมมือสำคัญนี้สำเร็จด้วยดี ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับกลุ่มบริษัท ดอยช์โพสต์ ดีเอชแอล ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เมื่อ bp ได้เปลี่ยนผ่านสู่การเป็นบริษัทพลังงานแบบครบวงจร เราใช้ประโยชน์จาก value chain ของเราซึ่งครอบคลุมตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการผลิตทั่วโลก การขนส่ง และโครงสร้างพื้นฐานในสนามบิน มีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่มีความเชี่ยวชาญด้านการค้าและการทำธุรกิจด้าน SAF ซึ่งต้องอาศัยการออกแบบ และนำเสนอโซลูชันตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ซับซ้อน เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับสนามบินและสายการบินต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นทางเลือกของธุรกิจที่มีเป้าหมายในการใช้พลังงานที่ไม่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (decarbonization) รวมถึงส่งเสริมกระบวนการ SAF เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกให้ตระหนักถึงความสำคัญในการลดปริมาณคาร์บอน”

'กอบศักดิ์' ส่อง!! ค่าเงินเยนอ่อนลงต่อเนื่อง เหตุสวนทาง 'นโยบายเฟด-ธนาคารกลางทั่วโลก'

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์ค่าเงินเยน ของญี่ปุ่น ว่า 

เกิดอะไรกับค่าเงินเยน?

อ่อนค่าสุดในรอบ 7 ปี!!!

หลายคนถามว่า ทำไมค่าเงินเยนถึงอ่อนค่ามากช่วงนี้

ลงไปแตะ 125.09 เยน/ดอลลาร์ เมื่อสองวันที่แล้ว 

อ่อนสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา และถ้าอ่อนอีกนิด ทะลุ 126 ก็จะอ่อนสุดในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว 

ล่าสุด กำลังขึ้นลงไปมา ทำให้ทางการญี่ปุ่นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

เรื่องนี้ ความจริงแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของ "หนังม้วนสำคัญ" ที่เราชมอยู่

จากการปรับนโยบายของเฟด และธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก ในการที่จะดึงสภาพคล่องกลับ และขึ้นดอกเบี้ยไปสู้กับเงินเฟ้อ

แต่ที่ญี่ปุ่นกลับทำตรงกันข้าม ส่งสัญญาณออกมาชัดเจนว่า แบงก์ชาติญี่ปุ่นจะยังคงปล่อยสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง และพยายามดูแลดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป 

สหรัฐฯ เล็งสอบจีนโยกฐานการผลิตอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ ส่อหลีกเลี่ยงมาตรการภาษี หลังใช้อาเซียนเป็นฐานส่งออก

กระทรวงพาณิชย์ของ #สหรัฐ แถลงว่า กระทรวงจะสอบสวนการนำเข้าอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ #อุปกรณ์โซลาร์ จาก #ประเทศไทย #มาเลเซีย #เวียดนาม และ #กัมพูชา ว่าเป็นการช่วยให้ #จีน หลีกเลี่ยงมาตรการทางด้านภาษีจากทางสหรัฐหรือไม่

ทั้งนี้ สหรัฐนำเข้าอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์จาก 4 ประเทศดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 80% ของการนำเข้าทั้งหมด ซึ่งหากพบว่าการนำเข้าดังกล่าวได้ช่วยให้จีนหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีจากทางสหรัฐ ก็จะทำให้สหรัฐเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจากกลุ่มประเทศดังกล่าวจำนวน 50-250%

ก่อนหน้านี้ Auxin Solar ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยื่นฟ้องต่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเพื่อให้มีการสอบสวนว่า ผู้ผลิตของจีนได้โยกย้ายฐานการผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์เข้าสู่ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชาเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีจากทางสหรัฐหรือไม่

รมว.สุชาติ เยี่ยมชมศูนย์บริการสาธารณสุขซาอุฯ มุ่งยกระดับระบบบริการสุขภาพแก่ผู้ประกันตน

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน นายสธน เกษมสันต์ ณ อยุธยา อุปทูต ณ กรุงริยาด เยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการเพื่อกระชับความร่วมมือด้านแรงงานและเยี่ยมชมระบบการให้บริการสาธารณสุขของซาอุดีอาระเบีย กับนายฟาหัด บิน อับเดอราห์มาน อัล จาลาเจล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย ณ Seha vitual Hospital และ National Health Command Center กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย
 
นายสุชาติ กล่าวว่า ตนและคณะรู้สึกยินดีและขอขอบคุณท่าน รมว.สาธารณสุขซาอุดีอาระเบียอย่างยิ่งที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และพาคณะเยี่ยมชมศูนย์ดังกล่าว รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาดูแลและให้บริการผู้ป่วย ช่วยให้สามารถลดความแออัดในโรงพยาบาล เน้นการให้บริการที่รวดเร็ว ทันสมัย ตลอดจนทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง อันจะส่งผลดีประสิทธิภาพและมีคุณภาพการให้บริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งกระทรวงแรงงานเองมีโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมที่ให้บริการดูแลสุขภาพของผู้ประกันตน โดยระบบดังกล่าวจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการได้อย่างดียิ่ง

การกลับมาของรัสเซีย ในสงครามค่าเงินรูเบิล จาก 177 สู่ 95/US ความสำเร็จ ที่สหรัฐฯ และ NATO ไม่อยากเห็น

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุว่า ความสำเร็จของรัสเซีย ในสงครามค่าเงินรูเบิล

วันนี้ ขอนำกลับไปตรวจอีกแนวรบหนึ่ง ที่รัสเซียสามารถรุกคืบ ยึดพื้นที่กลับคืนมาเรื่อยๆ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

จากค่าเงินรูเบิลที่เคยร่วง ระเนระนาด ไปแตะ 177.26 รูเบิล/ดอลลาร์

ล่าสุด ค่าเงินรูเบิลกลับมาอยู่ที่ 95 รูเบิล/ดอลลาร์ !!!!

ถ้านับจากช่วงก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉาก ที่ 77-78 รูเบิล/ดอลลาร์ ค่าเงินรูเบิลได้อ่อนค่าลงไปเพียงประมาณ 20% เท่านั้น

หลายคนคงสงสัยว่าทำไม? ทำไมรัสเซียถึงสามารถรุกคืบกลับมาได้

ทั้งๆ ที่สหรัฐและพันธมิตรได้ Freeze เงินสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียไปบางส่วนแล้ว

คำตอบอยู่ที่ มาตรการ Capital Control และ Exchange Control ของธนาคารกลางรัสเซียที่ประกาศใช้ในช่วงที่ผ่านมา

- ไม่ให้ต่างชาติขายสินทรัพย์ในรัสเซีย และไม่ให้เอาเงินออก

- ให้ผู้ส่งออกต้องนำเงินตราต่างประเทศที่ได้มา 80% ขายสู่ตลาด

- คนที่อยากแลกเงินรูเบิลเป็นเงินตราต่างประเทศต้องจ่ายค่าคอม 30%

ทั้งหมดนี้ ทำให้รัสเซียไม่ค่อยมีเงินไหลออกจากประเทศ 

ซึ่งเมื่อรวมกับเงินจาก Current account ที่ปกติแล้วจะเป็นบวก (ปีที่แล้ว +5% ของ GDP) จากน้ำมันและก๊าซที่ยังสามารถขายให้ยุโรปและคนอื่นๆ ตลาดค่าเงินรูเบิลจึงเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นเรื่อยๆ 

ยิ่งมีเสถียรภาพ คนรัสเซียยิ่งมั่นใจ ไม่ไปต่อแถวแลกเงิน

โดยมีเจ้ามือใหญ่ กระเป๋าใหญ่ (เพราะพิมพ์แบงก์เอง) คือ ธนาคารกลางของรัสเซีย กำกับภาพรวม กำหนดกฎเกณฑ์ที่ทำให้รัสเซียได้เปรียบ  

นับเป็นความสำเร็จ ที่สหรัฐและ NATO ไม่อยากเห็น 

เพราะหมายความว่า "นิวเคลียร์เศรษฐกิจ" ที่ต้องการทำให้ เงินเฟ้อรัสเซียพุ่ง บริษัทรัสเซียล้มละลายจากหนี้ต่างประเทศ (เหมือนไทยปี 40) คนตกงาน ต้องปิดแบงก์ นำไปสู่ Financial Sector Meltdown ไม่เป็นไปตามแผน  

นับว่าแนวรบนี้ รัสเซียสำเร็จในการยึดพื้นที่คืน

ทำให้สหรัฐและพันธมิตร ต้องไปหามาตรการอื่นๆ มา Sanctions เพิ่มเติม

ออมสินคาดปล่อยกู้จำนำทะเบียนรถทะลุ 2 หมื่นล้าน

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ประชาชนที่มีรายได้น้อย จำนวนมากร่วม 800,000 ราย ได้รับอนุมัติสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ “เงินสดทันใจ” ทั้งที่เป็นสินเชื่อใหม่และรีไฟแนนซ์ วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งช่วยเติมสภาพคล่องในการนำเงินกู้ไปหมุนเวียนใช้จ่ายและแก้ปัญหาการเงิน ด้วยต้นทุนเงินกู้ที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดอยู่ที่ประมาณ 5-8% สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยให้ลูกค้าคิดประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยในปี 2565 นี้ ประเมินว่า จะอนุมัติสินเชื่อรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 

สำหรับการดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามที่รัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายธนาคารออมสินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบ ด้วยต้นทุนที่เป็นธรรมและถูกลง โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ธนาคารได้เข้าร่วมทุนในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด เปิดตัวสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำช่วงเปิดตัวที่ 11% ต่อปี ส่งผลให้หลังจากนั้นไม่นานตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ได้ทยอยปรับลดโครงสร้างดอกเบี้ยจาก 28% ณ เวลานั้น ลงเหลือ 19% ในปัจจุบัน 

สมอ. คุมเข้ม!! ‘หลอดไฟแอลอีดี - ยางหล่อดอกซ้ำ’ ย้ำต้องได้มาตรฐาน มีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้

สมอ. ควบคุมหลอดไฟแอลอีดี และยางหล่อดอกซ้ำสำหรับรถบรรทุก ต้องได้มาตรฐาน มอก. มีผลบังคับใช้ 29 มีนาคม 2565 และ 5 พฤษภาคม 2565 เตือนผู้ประกอบการทุกราย ก่อนทำ นำเข้า ต้องขออนุญาตจาก สมอ.  

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรม และการคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้า โดยกำหนดเป็นนโยบายสำคัญและได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ดำเนินการ เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักที่ดำเนินงานด้านการมาตรฐานของประเทศ ทั้งการกำหนดมาตรฐาน การควบคุมและกำกับติดตามการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน 

“การดำเนินงานด้านการกำหนดมาตรฐานของ สมอ. มีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะการคุ้มครองประชาชนที่ต้องได้รับการดูแลด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไป เพื่อให้การขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของประเทศ สามารถแข่งขันทางการค้าได้อย่างยั่งยืนและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ซึ่งผมได้กำชับกับสมอ. ให้เร่งรัดดำเนินการ โดยเฉพาะมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประชาชนให้ประกาศเป็นสินค้าควบคุมเป็นอันดับแรก” นายสุริยะฯ กล่าว

ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. ดำเนินงานตามนโยบายท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด โดยประกาศควบคุมสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนแล้วจำนวน 127 รายการ รวมถึงสินค้า 3 รายการ ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้ ได้แก่ หลอดแอลอีดีเปลี่ยนทดแทนขั้วคู่ มอก.2779-2562 และหลอดแอลอีดีมีบัลลาสต์ในตัว มอก.2780-2562 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 มีนาคม 2565 และยางหล่อดอกซ้ำสำหรับรถบรรทุก รถบัส และรถพ่วง มอก.2979-2562 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 นี้ด้วย 

ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายที่จะทำ หรือนำเข้าสินค้าดังกล่าว ต้องได้รับอนุญาตจาก สมอ. ก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย โดยสินค้าทุกชิ้นจะต้องแสดงเครื่องหมายมาตรฐานบังคับคู่กับ QR code เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้รับใบอนุญาตได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย ผู้ทำหรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำหน่ายสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และแสดงเครื่องหมายมาตรฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

เลขาธิการ สมอ. กล่าวต่อว่า มาตรฐานหลอดแอลอีดีเปลี่ยนทดแทนขั้วคู่ ซึ่งโดยทั่วไปอาจเรียกว่า หลอดแอลอีดีชนิด T5, T8 หรือ หลอดแอลอีดีแบบยาว จะควบคุมเรื่องความปลอดภัยในขณะใช้งาน เพื่อป้องกันไฟรั่ว  ไฟดูด ควบคุมอุณหภูมิของขั้วหลอดในภาวะไฟฟ้าวิกฤติ และการติดไฟ เป็นต้น ขณะนี้มีผู้ยื่นขออนุญาตแล้วจำนวน 3 ราย เป็นผู้ทำ 1 ราย ผู้นำเข้า 2 ราย  

CPF ประเดิมส่งไก่ล็อตแรกไปซาอุฯ ช่วยหนุนส่งออกไก่ปีนี้ เพิ่มเป็น 9.8 แสนตัน

กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับซีพีเอฟ ได้ฤกษ์ปล่อยขบวนตู้คอนเทนเนอร์ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่เที่ยวแรกของไทยไปยังซาอุดีอาระเบีย หลังฟื้นความสัมพันธ์ 2 ประเทศ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ร่วมกันทำพิธีปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูป ออกจากโรงงานแปรรูปไก่เนื้อ มีนบุรี เพื่อเตรียมส่งออกไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย

โดยนายจุรินทร์ระบุว่า หลังเสียโอกาสมานาน 18 ปี ครั้งนี้นับเป็นผลิตภัณฑ์ไก่จากประเทศไทย ล็อตแรก ตั้งแต่ปี 2547 โดยรัฐบาลซาอุฯ ได้อนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกของไทยจากโรงงาน 11 แห่ง ที่ผ่านการตรวจรับรองแล้ว ทำให้ในปี 2565 ตั้งเป้ายอดการส่งออกไก่ เพิ่มเป็น 9.8 แสนตัน มูลค่ารวม 1.1 แสนล้านบาท เฉพาะประเทศซาอุฯ ประมาณ 6 หมื่นตัน จากที่ปี 2564 สามารถส่งออกได้ 9 แสนตัน โดยมั่นใจว่าคุณภาพไก่ไทย สามารถแข่งขันในตลาดโลกอย่างไม่มีปัญหา ขณะเดียวกันยังได้สั่งให้มีการควบคุมราคาขายไก่ในประเทศให้เป็นไปตามต้นทุน ป้องกันการขึ้นราคาจนประชาชนเดือดร้อน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top