Sunday, 18 May 2025
ECONBIZ NEWS

‘กรณ์’ ชี้!! วิกฤต Credit Suisse กระทบไทยน้อย ยัน!! ฐานะทางบัญชีธนาคารไทย ‘เข้มแข็ง’

(16 มี.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี มูลค่าหุ้นของธนาคาร เครดิต สวิส (Credit Suisse) ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์อันดับ 2 ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ร่วงลงไปถึง 24% ภายในวันเดียวในช่วงค่ำวันที่ 15 มีนาคม 2566 ทำให้สำนักงานกำกับตลาดการเงินและธนาคารแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อลดความกังวลที่อาจจะเกิดขึ้น ว่า ธนาคาร Credit Suisse อยู่ในสถานการณ์วิกฤต หลังจากที่วันนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ Saudi National Bank ประกาศว่าไม่สามารถสนับสนุนทุนเพิ่มให้ได้อีกต่อไป

นายกรณ์ กล่าวว่า ธนาคาร Credit Suisse ประสบปัญหาจากการบริหารจัดการที่ไม่ดีมานาน ราคาหุ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาปรับลดลงต่อเนื่องถึง -90% ทางผู้บริหารอ้างว่าทุนเพียงพอ แต่หากมีการแห่ถอนเงินออก เชื่อว่ารัฐบาลสวิสคงไม่ปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะนี้ปรับตัวลง 600 จุด ในขณะที่เงินทุนไหลเข้าตลาดพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้ประเด็นเรื่อง Credit Suisse เป็นคนละประเด็นปัญหากับ SVB และ Signature ของสหรัฐ แต่ความเปราะบางความเชื่อมั่นในขณะนี้จะทำให้ทุกปัญหาถูกขยายผลจนกลายเป็นวิกฤติได้” นายกรณ์ กล่าว

‘รมว.เฮ้ง’ ชวนคนหางานผ่านเว็บไซต์ ‘ไทยมีงานทำ’ รวบรวมอาชีพ-ตำแหน่งงานครบวงจรกว่า 250,000 อัตรา!!

กระทรวงแรงงาน ชวนคนหางานใช้บริการเว็บไซต์ ‘ไทยมีงานทำ.doe.go.th’ และแอปฯ ‘ไทยมีงานทำ’ ให้บริการฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย รวมตำแหน่งงานภาครัฐ เอกชน และตำแหน่งงานจากบริษัทจัดหางานเพื่อผู้หางาน

(16 มี.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน เตรียมตำแหน่งงานว่าง จำนวน 255,885 อัตรา รองรับผู้ว่างงาน ผู้จบการศึกษาใหม่ ผู้สูงอายุ กลุ่มผู้เปราะบาง และทุกคนที่ต้องการมีงานทำ โดยพร้อมให้บริการประชาชนผ่านระบบออนไลน์ บนแพลตฟอร์ม ‘ไทยมีงานทำ’ ซึ่งให้บริการทั้ง Web Application และ Mobile Application ประชาชนสามารถหางาน เข้าถึงตำแหน่งงานที่สนใจเหมาะสมกับตนเอง และสมัครหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสการมีงานทำ

ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งงาน (Active ในระบบ) จากทั่วประเทศ จำนวน 255,885 อัตรา โดยตำแหน่งงาน 5 อันดับแรกที่มีความต้องการมากที่สุด ได้แก่

1.) แรงงานด้านการประกอบ
2.) แรงงานบรรจุผลิตภัณฑ์
3.) พนักงานขายของหน้าร้านและสาธิตสินค้า
4.) พนักงานขายโฆษณาและตัวแทนนายหน้าขาย
5.) ตัวแทนฝ่ายขายด้านเทคนิคและการค้า

“รัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับปัญหาการว่างงานอย่างยิ่ง เพราะเป็นปัญหาเริ่มต้นที่กระทบต่อการดำเนินชีวิต การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของภาคครัวเรือน ตลอดจนเศรษฐกิจในระดับประเทศเป็นลูกโซ่ จึงได้กำชับกระทรวงแรงงานสำรวจและเตรียมตำแหน่งงานไว้เพื่อรองรับคนไทยทุกคนที่ต้องการมีงานทำ” นายสุชาติ รมว.แรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า แพลตฟอร์ม ‘ไทยมีงานทำ’ เป็นเว็บไซต์สำหรับคนหางานที่รวบรวมตำแหน่งงานภาครัฐ เชื่อมโยงข้อมูลจากสำนักงาน ก.พ. ซึ่งมีตำแหน่งงานจากหน่วยงานราชการกว่า 300 หน่วยงาน ภาคเอกชน จากนายจ้าง สถานประกอบการที่เข้ามาใช้บริการแพลตฟอร์ม ‘ไทยมีงานทำ’ และได้แจ้งตำแหน่งงานว่างไว้ และตำแหน่งงานจากบริษัทจัดหางานชั้นนำที่เป็นพันธมิตร ความร่วมมือด้านการส่งเสริมการมีงานทำกับกรมการจัดหางาน อาทิ บริษัท จัดหางาน จ๊อบบีเคเค ดอท คอม จำกัด บริษัท จัดหางานจ็อบท็อปกัน จำกัด บริษัท จัดหางาน อเด็คโก้ (ประเทศไทย) จำกัด โดยคนหางานสามารถค้นหาข้อมูลตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับตัวเอง

นายกฯ ยินดี ‘ไทย-กานา’ ขยายความร่วมมือด้านเกษตร เดินตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง-เกษตรทฤษฎีใหม่

ไทย-กานา ขยายความร่วมมือด้านเกษตรกรรม ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง-เกษตรทฤษฎีใหม่  

(16 มี.ค.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ประเทศกานามีความสนใจในแนวทางพระราชดำริว่าด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ยกเป็นต้นแบบพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งสนใจการทำการเกษตรแบบ BCG Model นายกรัฐมนตรียืนยันไทยพร้อมสนับสนุนเทคโนโลยี องค์ความรู้ ให้คำแนะนำ และผลักดันความร่วมมือสู่ความสำเร็จระหว่างประเทศ

ประเทศกานา มีนโยบายส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกข้าวและเพิ่มผลผลิตภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งประเทศกานาสนใจในแนวทางพระราชดำริว่าด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการทำการเกษตรแบบ BCG Model โดยกานาชื่นชมโครงการ “ข้าวรักษ์โลก” ของไทยที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการใช้สารเคมี และเป็นแนวทางใหม่ของการทำเกษตรกรรมโลก ซึ่งโครงการข้าวรักษ์โลก เป็นต้นแบบการปฏิวัติการทำนาแบบยั่งยืนตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางไว้ จากแนวคิดการผลิตข้าวแบบใหม่ โดยการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้เพื่อการผลิตและลดการใช้สารเคมี ลดต้นทุนการผลิต ข้าวที่ได้มีคุณภาพสูง และสามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากโครงการข้าวรักษ์โลกตอบโจทย์กระแสผู้บริโภคในโลกยุคปัจจุบัน ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

‘นักลงทุน’ แห่ช้อปทองคำ เหตุเป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ ลุ้นนิวไฮใหม่ทองคำ ปี 65 อาจทะลุบาทละ 32,100 บาท

พิษแบงก์มะกันล้ม นักลงทุนแห่ช้อปทองคำ ลุ้นทะลุนิวไฮบาทละ 32,100 บ. ขณะที่หุ้นหายตื่นดีดแรงบวก 41 จุด

(15 มี.ค.66) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีการปิดตัวลงของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank : SVB) และซิกเนเจอร์แบงก์ (Signature Bank) ในสหรัฐ ว่า คงไม่มีผลกระทบกับแผนเงินกู้ในตลาดตราสารหนี้ ที่จับตาดูอยู่ยังไม่มีอะไร และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังดูแลอยู่ เชื่อว่าจะมีการจำกัดผลกระทบส่วนนี้ให้น้อยลง หากเกิดความผันผวนขึ้นมาในช่วงรัฐบาลยุบสภา สามารถใช้มาตรการเข้าไปดูแลในช่วงรักษาการได้หรือไม่นั้น ก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใด ๆ ที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง จำเป็นต้องเข้าไปดำเนินมาตรการเพื่อดูแลประชาชน คาดหวังว่าเหตุที่เกิดขึ้นในสหรัฐจะไม่ได้รับผลกระทบในวงกว้าง หากไม่ได้เป็นประเทศที่ไปลงทุน และฝากเงินใน 2 แบงก์นั้นจำนวนมาก

“ส่วนถามว่าจำเป็นต้องออกมาตรการมาดูแลเช่นใดนั้น ก็ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบว่าปัญหาจะเป็นเรื่องอะไร วิกฤตที่เกิดขึ้นในสหรัฐ แบงก์ที่ปิดตัวเป็นธนาคารในภูมิภาค แม้จะอยู่ที่อันดับ 16 ก็ตาม แต่หากขยายไปสู่แบงก์ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ก็อาจจะมีผลกระทบ” นายอาคมกล่าว

นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทองคำ นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงปัจจุบัน ปรับขึ้นมาแล้วกว่า 1,150 บาทต่อบาททองคำ โดยเฉพาะในเดือนมีนาคมนี้ บวกแล้ว 800 บาทต่อบาททองคำ ราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 31,100 บาทต่อบาททองคำ ราคาทองคำปรับขึ้นร้อนแรงตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ตอบรับวิกฤตธนาคารสหรัฐขาดสภาพคล่องจนต้องปิดตัวไปแล้ว 3 แห่ง ยังไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่รายรอปิดตัวเพิ่มอีก ทำให้ทองคำถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยหรือเซฟเฮฟเว่นในการลงทุนอีกครั้ง เพราะขณะนี้ตลาดมีความกังวลกับการล้มของแบงก์สหรัฐสูงมาก

“มีการมองภาพย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐ ทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องพิมพ์เงินเพิ่มจำนวนมาก (คิวอี) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งถือเป็นการทำคิวอีครั้งแรกในรอบนั้นด้วย โดยในช่วง 10 ปีก่อนหน้าทองคำถือเป็นฮีโร่ในช่วงวิกฤตการเงิน ทำให้นักลงมุนมองว่า ทองคำอาจเป็นฮีโร่อีกครั้งได้ แต่ภาพปัจจุบันแตกต่างกัน เพราะดอกเบี้ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ระดับต่ำมาก แต่ตอนนี้ก็คงค้างอยู่สูงมาแทน” นายพิบูลย์ฤทธิ์กล่าว

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เกาะติดแบงก์สหรัฐฯ ล้ม พร้อมรับมือ แม้สถาบันการเงินไทยไร้ธุรกรรมเกี่ยวข้อง

กรณีธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) และธนาคาร Signature Bank ในประเทศสหรัฐอเมริกาถูกปิดกิจการ เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มี.ค. 2566 ล่าสุด สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ได้มีการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พบว่าปัญหาของธนาคารดังกล่าวมีที่มาจากหลายสาเหตุ ทั้งนี้หน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) และ Federal Reserve (Fed) ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อลดผลกระทบอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นกับธนาคารดังกล่าวนั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ สถาบันการเงินของไทยไม่มีธุรกรรมโดยตรงที่เกี่ยวข้องกับธนาคารดังกล่าวและไม่ได้รับผลกระทบจากการถูกปิดกิจการของธนาคารดังกล่าว

'กรณ์' ออกโรงสร้างความมั่นใจ หลัง 2 แบงก์อเมริกาล้ม  ชี้!! กระทบไทยน้อย ยันธนาคารไทยแข็งแกร่ง

จากกรณี 2 ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ อย่างธนาคาร Silicon Valley Bank หรือ SVB และ Signature Bank ล้มกะทันหัน สร้างความตื่นตระหนกต่อเศรษฐกิจไปทั่วโลก ในส่วนของประเทศไทยเองก็มีความกังวลว่าจะกระทบต่อความมั่นคงของสถาบันการเงินของเราหรือไม่ 

(15 มี.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ที่สามารถฝ่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์จนทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้เมื่อปี 2553 กล่าวถึงประเด็นปัญหาดังกล่าวว่า...

ปรากฎการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน คือวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ แต่จากบทเรียนในอดีตทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการวางแผนรองรับไว้อย่างดี ส่งผลให้สถาบันการเงินของไทยแข็งแกร่งที่สุดในโลก จึงอยากให้มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อลูกค้าของสถาบันการเงินอย่างแน่นอน 

นายกรณ์ วิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหาต่อการล่มสลายของธนาคาร SVB ว่า SVB ก่อตั้งมาเกือบ 40 ปี แต่มาเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงวิกฤตโควิด เนื่องจากฐานลูกค้าเป็นกลุ่มธุรกิจสายเทคถึง 30,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มลูกค้ากระจุกตัวอย่างมาก ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2019  จากเดิมที่มีฐานเงินฝากอยู่ที่ 50,000 ล้านเหรียญ ณ ช่วงต้นปี 2022 ฐานเงินฝากเพิ่มขึ้นเป็น 190,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 300% ซึ่งเร็วกว่าคนสถาบันการเงินอื่นที่เพิ่มขึ้นเพียง 30% เท่านั้น เหตุผลเกิดจากช่วงโควิดมีการใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้มีการระดมทุนของบริษัทสายเทคบูมมาก มีเงินไหลเข้า SVB มาก จนปล่อยกู้ไม่ทัน จึงนำเงินฝากไปลงทุนในพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งในอดีตสามารถทำได้ แต่โดยปกติธนาคารต้องมีความระมัดระวังเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างเงินฝากกับเงินลงทุน และส่วนใหญ่จะลงทุนในพันธบัตรระยะสั้น แต่เนื่องจากช่วงนั้นอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก SVB จึงนำเงิน 90,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปลงทุนในพันธบัตรระยะยาว 10 ปี  เพื่อหวังผลของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น พอลงทุนไป ก็เกิดปรากฏการณ์หลายเรื่องพร้อมกัน จนนำไปสู่การล้มละลายในที่สุด 

อดีต รมว.คลัง กล่าวต่อว่า พอช่วงโควิดผ่านไป ราคาหุ้นของลูกค้า SVB เริ่มปรับลดลง และเริ่มมีการถอนเงินฝากในปริมาณที่สูงกว่าที่ธนาคารคาดไว้ ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จึงมีนโยบายออกมาต่อสู้ โดยการปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น เพื่อลดอุปสงค์ของเงิน แต่อัตราการปรับเพิ่มขั้นดอกเบี้ยถึง 4% ส่งผลกระทบต่อการลงทุนพันธบัตรที่ธนาคารไปลงทุนไว้ ทางการเงินเรียกว่าขาดทุนทางบัญชี เนื่องจากยังไม่ได้ขาย เพราะหากฝากไว้ครบ 10 ปี ก็จะยังได้อัตราดอกเบี้ยที่สูงอยู่ แต่ SVB จำเป็นต้องขายพันธบัตรเนื่องจากขาดสภาพคล่อง จึงทำให้เกิดภาวะขาดทุนจริงถึง 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงมาก และเป็นสาเหตุต้องพยายามเพิ่มทุน 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่ออุดช่องโหว่ ทำให้ลูกค้าธนาคารเริ่มเกิดความกังวลจนแห่ไปถอนเงิน จนเงินหมด ทำให้เฟดต้องเข้ามาจัดการโดยการปิดกิจการ SVB ในที่สุด 

นายกรณ์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน ออกมาย้ำเพื่อความมั่นใจว่า รัฐบาลจะคุ้มครองเงินฝาก 100% ประชาชนไม่ต้องกังวลว่าจะถอนเงินได้หรือไม่ เพราะหากถอนไม่ได้ ผลข้างเคียงจะส่งผลต่อผู้ประกอบกิจการซึ่งส่วนใหญ่เป็นสตาร์ทอัพ ไม่สามารถจ่ายเงินเดือน และชำระหนี้สินได้ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและอาจกระทบจนถึงขั้นปิดกิจการได้ และอาจจะลามไปถึงการแห่ถอนเงินจากสถาบันการเงินอื่น ๆ สร้างปัญหาเป็นวงกว้างทั้งระบบ  อย่างไรก็ตามสิ่งที่นายไบเดนพูด รัฐบาลค้ำประกันเฉพาะผู้ฝาก แต่ไม่ค้ำประกันผู้ถือหุ้น เจ้าของพันธบัตรหรือเจ้าหนี้ของตัวธนาคาร และเป็นการใช้เงินจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากเท่านั้น ไม่กระทบต่อภาษีประชาชนแต่อย่างใด เป็นการส่งสัญญาณเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเหมือนในอดีต ส่วนหนึ่งเนื่องจากเป็นช่วงที่ใกล้เลือกตั้งที่ส่งผลต่อคะแนนนิยม แต่ทั้งนี้สถาบันคุ้มครองเงินฝากก็มีเงินเพียง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าทุกคนยังแห่ถอนเงินก็ไม่เพียงพอ เวลานี้จึงต้องรอดูว่าจะมีใครมาซื้อกิจการของ SVB ของสหรัฐ เหมือนที่ HSBC ซื้อกิจการ SVB ในอังกฤษไปแล้วในราคา 1 ปอนด์ 

นายกรณ์ ตั้งข้อสังเกตว่า ในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในบริเวณ ซิลิคอนวัลเลย์สูง เนื่องจากสตาร์ทอัพเกือบทุกรายใช้บริการ SVB ที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดที่เข้าใจมายาวนาน วันนี้ต้องไปคุยกับสถาบันการเงินอื่นที่เข้าใจน้อยกว่า ทำให้ความได้เปรียบการเข้าถึงแหล่งทุน เมื่อเทียบกับที่อื่นในโลกลดลง ยกเว้นว่าจะมีใครไปซื้อและดำเนินการทำธุรกิจในวัฒนธรรมเดิมกับกลุ่มลูกค้าเดิม ก็อาจไม่ส่งผลมากนัก แต่หากไม่มี หรือมีชุดความคิดที่แตกต่าง ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของสตาร์ทอัพ ที่ซิลิคอนวัลเลย์เริ่มหมดเสน่ห์ หรือขีดความสามารถในการแข่งขันที่เคยได้เปรียบก็จะลดลง 

อลงกรณ์’ เผยบอร์ดเกลือ แก้ปัญหาราคาผันผวน มีมติกำหนดราคาขั้นต่ำเกลือทะเลเป็นครั้งแรก

‘อลงกรณ์’ เผยบอร์ดเกลือมีมติกำหนดราคาขั้นต่ำเกลือทะเลเป็นครั้งแรก แก้ปัญหาราคาผันผวน พร้อมเร่งพัฒนานาเกลือด้วยแนวทาง BCG โมเดลเน้น “เพิ่มมูลค่า-คุ้มค่า-ยั่งยืน”

วันนี้ (15มี.ค. 2566) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย ได้ประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/ 2566 แบบ Hybrid Meeting ณ ห้องประชุม 123 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านระบบการประชุมออนไลน์ zoom cloud meeting 

นายอลงกรณ์ ได้กล่าวหลังการประชุมว่า เพื่อแก้ไขปัญหาราคาเกลือผันผวนมีผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรชาวนาเกลือ คณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ

1. การกำหนดราคาขั้นต่ำเกลือทะเลใน 3 ชนิดเกลือ ดังนี้ (1) ราคาเกลือขาว 1,800 บาท (2) เกลือกลาง 1,500 (3) เกลือดำ 1,300 บาท และขอให้ออกเป็นประกาศของคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย โดยเป็นราคาขั้นต่ำที่กำหนดเป็นเกณฑ์ในการซื้อขายเกลือทะเล

2. คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบในหลักการ มาตรการการจัดการและป้องกันแก้ไขปัญหาเกลือทะเล ปีการผลิต 2565/66 เพื่อรองรับสภาพปัญหาการผลิตเกลือทะเลไทย

3.คณะกรรมการ ฯ ยังได้รับทราบแนวทางการพัฒนาเกลือทะเลไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีแนวทาง มาตรการ และกลไกการดําเนินงานรวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ปี 2564 – 2570 เป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว มุ่งเน้นการพัฒนาห่วงโซ่การเพิ่มมูลค่าเกลือทะเลไทย (BCG Value Chain เกลือทะเลไทย) คำนึงถึงการสร้างมูลค่า การหมุนเวียนใช่ทรัพยากรและความสมดุลและยั่งยืน

โดยกำหนดกิจกรรมในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ตอนน้ำ จนถึงปลายน้ำได้แก่ ต้นน้ำ (เกษตรกร) โดยพัฒนาเกษตรกรผู้ผลิตเกลือทะเลให้เป็น smart farmer กระบวนการผลิตเกลือทะเลได้รับมาตรฐาน GAP รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนการผลิตดอกเกลือและดีเกลือ ใช้พลาสติกปูพื้นนาเกลือเพื่อเพิ่มผลผลิต ทำประมงน้ำกร่อย เชื่อมโยง กลางน้ำ (องค์กรเกษตรกรและผู้ประกอบการ) พัฒนาในส่วนของผู้ประกอบการและองค์กรเกษตร ส่งเสริมการรวมกลุ่มเป็นองค์กรเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็ง ประกอบด้วยแนวทางดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาเกลือทะเลไทยตามรูปแบบโมเดลเศรษฐกิจ ใน 3 ด้าน ได้แก่ 

'สุริยะ' สั่ง 'กรมโรงงาน' จับตา 8 กลุ่มอุตฯ เกิดเพลิงไหม้บ่อย เข้มผู้ประกอบกิจการเฝ้าระวัง หวั่น!! อัคคีภัยช่วงฤดูร้อน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมห่วงใยโรงงาน เน้น 8 กลุ่มอุตสาหกรรม เพลิงไหม้สูงปีที่ผ่านมา ให้เฝ้าระวังอัคคีภัยช่วงฤดูร้อน สั่งการกรมโรงงานอุตสาหกรรมเตรียมรับมือ โดยกำหนดข้อปฏิบัติในการป้องกันอัคคีภัยในโรงงานช่วงฤดูแล้ง แบบตรวจสอบและประเมินตนเองด้านอัคคีภัย (Self Checklist) พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการ เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์

(15 มี.ค.66) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่อากาศแห้ง ทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย จึงขอให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานทุกประเภท โดยเฉพาะใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งมีสถิติเกิดเหตุเพลิงไหม้สูงในปีที่ผ่านมา ระมัดระวัง ตรวจสอบ ตรวจตราอุปกรณ์เครื่องจักรให้พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการจัดเก็บผลิตภัณฑ์ที่สามารถติดไฟได้ง่าย ต้องมีความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ หากเกิดเหตุขึ้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคอุตสาหกรรมและประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เตรียมมาตรการรองรับการเกิดอัคคีภัย โดยการจัดทำข้อปฏิบัติในการป้องกันอัคคีภัยในโรงงานช่วงฤดูแล้ง และแบบตรวจสอบและประเมินตนเองด้านอัคคีภัย (Self Checklist) รวมถึงรณรงค์การป้องกันอัคคีภัยในช่วงฤดูร้อน ให้โรงงานได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของโรงงาน ลดผลกระทบต่อชุมชน ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ตามนโยบาย MIND ที่เน้นสร้างความเชื่อมั่นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของอุตสาหกรรม

นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการจากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงถึง 40 - 43 องศาเซลเซียส เป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอัคคีภัย โดยจากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุปี 2565 พบว่าอุบัติเหตุในโรงงานใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรม กว่า 76% เป็นการเกิดเพลิงไหม้ 81 ครั้ง มากที่สุดในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม และเกิดมากสุดในอุตสาหกรรมพลาสติก โฟม กระดาษ ยาง 26% อุตสาหกรรมสิ่งทอและเส้นใย 14% อุตสาหกรรมโกดังและคลังสินค้า 14% อุตสาหกรรมอาหาร 8% อุตสาหกรรมกากหรือขยะ 6% อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ 6% อุตสาหกรรมสี ไวไฟ 4% และอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี สารเคมี 3% ตามลำดับ

'ผู้เชี่ยวชาญ' แนะ!! จังหวะตลาดหุ้นไทย 'ร่วงแรง'  ช่วงเวลาน่าสนใจ ซื้อ RMF/SSF เก็บเข้าพอร์ต

(15 มี.ค.66) จากเฟซบุ๊ก 'Invest Like A Pro' ได้โพสต์ข้อความหลังเมื่อวานตลาดหุ้นไทยร่วงแรงแบบผิดคาด ว่า...

ปัญหาเกิดที่แบงก์ในสหรัฐฯ แต่ที่ตกใจกลัวที่สุด คือ ตลาดหุ้นไทย 
ต้องยอมรับว่า ที่ SET ร่วงแรงแบบนี้ ผิดคาดมาก เคยคิดว่า 1580 เอาอยู่ นี่เลยมาจนเกือบจะถึงแนวรับถัดไปที่ 1520 แล้ว

พยายามคิดทบทวนอยู่หลายรอบว่า ปัญหา SVB และแบงก์อื่นๆ ในสหรัฐฯ กระทบธนาคารไทยไหม ก็คิดว่า น่าจะไม่กระทบ … SET ที่ลงมาแรงช่วงนี้ จึงน่าจะเกิดจาก Sentiment ‘ความกลัว’ เป็นหลัก มีหลายท่านถามว่า ควรซื้อไหม ขอแนะนำเบื้องต้นว่า ถ้าใครกำลังรอจังหวะซื้อ RMF/SSF ผมว่าจุดนี้ น่าสนใจครับ ส่วนคนที่อยากซื้อเพื่อลุ้นเด้งกลับ ก็ลองดูแนวรับที่ 1520 ครับ 

ครม. ไฟเขียว ปรับเกณฑ์ปล่อยกู้ 3 จว.ชายแดนใต้ ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงเงินทุน-เดินหน้าธุรกิจต่อเนื่อง

(14 มี.ค.66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นการทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม  2565 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอในการลงทุนและดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง 

การปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการในครั้งนี้ มีสาระสำคัญ คือ 
1.คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ ปรับปรุงโดยขยายกลุ่มผู้ขอสินเชื่อให้ครอบคลุมลูกหนี้รายเดิมที่เคยได้รับสินเชื่อโครงการมาแล้วเกิน 5 ปี สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จากเดิมที่ผู้ขอสินเชื่อโครงการนี้ จะต้องไม่เคยได้รับสินเชื่อโครงการ หรือได้รับสินเชื่อโครงการมาแล้วไม่เกิน 5 ปี 

2.วงเงินโครงการ 25,000 ล้านบาท ปรับปรุงโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 
(1) วงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับผู้กู้รายเดิมที่เคยได้รับสินเชื่อของโครงการมาแล้วเกิน 5 ปี ซึ่งสิ้นสุดระยะเวลาไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และมีต้องการขอรับสินเชื่อโครงการต่อเนื่อง 
(2) วงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับผู้กู้รายใหม่ที่ยังไม่เคยได้รับสินเชื่อของโครงการมาก่อน  

ทั้งนี้ สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการจะพิจารณาปล่อยสินเชื่อ โดยให้ความสำคัญกับผู้กู้รายใหม่ที่ยังไม่เคยได้รับสินเชื่อมาก่อนเป็นลำดับแรก 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top