Saturday, 17 May 2025
ECONBIZ NEWS

คนหางาน เตรียมตัวให้พร้อม “Bangkok Job Fair 2021”  เสิร์ฟตำแหน่งงานกว่า 5 พันอัตรา

กระทรวงแรงงาน เตรียมตำแหน่งงานกว่า 5 พันอัตรา รองรับคนหางาน กิจกรรมสาธิต 20 อาชีพอิสระติดเทรนด์คนรุ่นใหม่ หาไอเดียธุรกิจ Food Truck รวมทั้งรับบริการและคำปรึกษาด้านแรงงานจากเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงแรงงาน ในงาน BANGKOK JOB FAIR 2021 ณ ฟอร์จูนสตรีท ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ กรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 26 และ เสาร์ที่ 27 มีนาคม 2564 

 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เชิญชวน ผู้สนใจสมัครงาน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานได้ในวันที่ 26 – 27 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.30 น. ที่บริเวณลานฟอร์จูนสตรีท (หน้าอาคาร) ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ กรุงเทพมหานคร โดยภายในงานมีนายจ้าง/สถานประกอบการชั้นนำ เข้าร่วมรับสมัครงาน จำนวน 40 บริษัท อาทิ  บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) บ.ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด  บ. เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด  บ.ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด  บ.เอกชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (มหาชน)  บ.สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  บ. ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) บ. ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บ.บางจากกรีนเนท จำกัด  และ บริษัท ซีพี แลนด์ จำกัด (มหาชน)  เป็นต้น ซึ่งมีตำแหน่งงานว่าง จำนวนกว่า 5,000 อัตรา เช่น วิศวกรโยธา สถาปนิก เขียนแบบ ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน พนักงานบัญชี เจ้าหน้าที่ธุรการ พนักงานบริการ และพนักงานทั่วไป (ฝ่ายผลิต)

 

“สำหรับงาน “Bangkok Job Fair 2021” เป็นงานที่กระทรวงแรงงานตั้งใจจัดขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการสมัครงาน คนหางานได้คัดเลือกตำแหน่งงานว่างที่ตรงกับความรู้ความสามารถ และได้สมัครงานกับนายจ้าง/สถานประกอบการจำนวนมากในคราวเดียว ทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้นายจ้าง/สถานประกอบการและผู้สมัครงานได้พบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง 

 

“ซึ่งการส่งเสริมการจ้างงาน และแก้ปัญหาการว่างงานเป็น 1 ในภารกิจหลักของกระทรวงแรงงาน ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นปัญหาที่กระทบต่อการดำเนินชีวิต การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนถึงเศรษฐกิจในระดับประเทศ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

 

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับผู้ที่กำลังมองหางาน สามารถสมัครงานโดยตรงกับนายจ้าง/สถานประกอบภายในงานได้ทันที เพื่อความสะดวกรวดเร็วผู้สมัครงานอาจเตรียมเอกสารสมัครงาน ได้แก่ เรซูเม่ รูปถ่าย ใบรับรองผลการศึกษา และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาของนายจ้าง/สถานประกอบการ นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ กิจกรรมการสาธิตประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ต้องการของตลาดงาน วันละ 10 อาชีพ อาทิ การทำกระเป๋าบุผ้าปักริบบิ้น สายคล้องหน้ากากอนามัย สบู่สมุนไพร ตระกร้าผ้าย้อมคราม การทำเค้กกล้วยหอม บราวนี่ ขิงอ่อนดอง เป็นต้น  

 

รวมไปถึง ธุรกิจแฟรนไชน์ในรูปแบบ Food Truck  เช่น ซดเตี๋ยว (ก๋วยเตี๋ยวเป็ด) กรอบอยู่ได้ (ลูกชิ้นปลาระเบิด)  Supper Sip (เครื่องดื่มโกโก้) และ Takoyaki by Jenny (ขนมครกญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น) รวมทั้งการให้คำปรึกษาปัญหาด้านแรงงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้แก่ การให้บริการจัดหางานสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ โดยกรมการจัดหางาน  การให้บริการคำปรึกษา คำแนะนำ ตามพรบ.คุ้มครองคนหางาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน  การให้บริการคำปรึกษา คำแนะนำ การฝึกทักษะฝีมือแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  การให้บริการคำปรึกษา คำแนะนำ การขึ้นทะเบียนประกันตน ม.33, ม.39, ม.40 และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามพรบ.ประกันสังคม โดยสำนักงานประกันสังคม การให้บริการตรวจสุขภาพ โดยโรงพยาบาล วิภาราม พัฒนาการ และกิจกรรมบนเวที เสวนาหัวข้อ “ ใช้ชีวิตให้มีความสุขในยุคโควิด ” โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตโต  และพระอาจารย์ ดร.สมชาย รตนวํโส ในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม เวลา 15.00 น.

 

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาร่วมงาน “Bangkok Job Fair 2021” สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกพระราม 9 ติดกับโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน และเทสโก้ โลตัส ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 3 จุด ได้แก่ จุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 9 ขั้นที่ 2  จุดขึ้นลงทางด่วนรัชดาภิเษก –อโศกดินแดง จุดขึ้นลงทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา  หรือเดินทางอย่างสะดวกสบาย ด้วยรถไฟฟ้า ใต้ดิน (MRT) สถานีพระราม 9 ทางออกที่ 1 

 

รถไฟฟ้า BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อรถเมล์ หรือรถตู้ปรับอากาศ มีนบุรี-อนุสาวรีย์ (ลงหน้า อสมท.) หรือสถานีอโศก ต่อรถไฟใต้ดินลงสถานีพระราม 9 ทางออกที่ 1 หรือเดินทางด้วย รถตู้ปรับอากาศ  สะพานใหม่-อสมท., งามวงศ์วาน-อสมท., มีนบุรี-อนุสาวรีย์ (ลงหน้า อสมท.) เดินทางด้วย รถโดยสารประจำทางสาย  172 ,98 ,171  ,36 ,73  ,73ก ,137 ,168 ,204 ,206 ,514 ,517 ,528 และ 529

 

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694

ลุ้น! “คนละครึ่ง” เฟส 3 คนเคยลงทะเบียนแล้วลุ้นเงินเข้าเลย

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงการจัดทำโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการคนละครึ่ง รอบใหม่ เบื้องต้นผู้ได้รับสิทธิรายเดิมอาจจะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง เนื่องจากมีข้อมูลในแอปพลิเคชั่นเป๋าตังแล้ว แต่โครงการรอบใหม่จะไม่ได้ต่อโครงการทันทีในสิ้นเดือนมี.ค.นี้ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการที่ระยะที่ 2 เพราะอาจต้องรอให้โครงการโครงการเราชนะ และ ม.33 เรารักกัน สิ้นสุดในช่วงเดือน พ.ค.64 ก่อน

.

“กระทรวงการคลัง จะมีการพิจารณารายละเอียดของโครงการก่อน เพราะตอนนี้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจยังมีอยู่ถึงในช่วงเดือนพ.ค.นี้ แต่จะพยายามผลักดันให้มีเงินออกมาดูแลเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง”  

.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังขอจัดการเรื่องร้านค้าทุจริตให้เรียบร้อยก่อนจะดำเนินโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โดยตอนนี้มีร้านค้าที่ถูกดำเนินคดีและถูกจับตาจากภาครัฐที่ส่อเกิดการทุจริตอยู่จำนวนหลายร้อยแห่ง ซึ่งในเรื่องนี้จะต้องหาวิธีทำให้รัดกุม ก่อนจะเปิดโครงการระยะต่อไป 

รอเลย “เราเที่ยวด้วยกัน-ทัวร์เที่ยวไทย” เริ่ม พ.ค. นี้

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว 2 โครงการ โดยโครงการแรกคือ ทัวร์เที่ยวไทย โดยรัฐบาลจะสนับสนุนวงเงินแบบร่วมจ่าย 40% ไม่เกินคนละ 5,000 บาท กำหนดวิธีการ คือจะต้องซื้อแพ็คเกจทัวร์กับบริษัททัวร์ในประเทศ 3 วัน 2 คืน ราคาขั้นต่ำ 1.25 หมื่นบาท โดยจะต้องไปเที่ยวในวันธรรมดา คือ วันอาทิตย์-พฤหัส ซึ่งผู้มีสิทธิต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปถึงสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ เริ่มต้นโครงการตั้งแต่เดือนพ.ค.-ส.ค.64 กำหนดเป้าหมายไว้ 1 ล้านคน

“คนที่ต้องการร่วมโครงการจะต้องเข้าไปดูในเวปไซต์ของ ททท. และการจ่ายเงินจะต้องทำผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น ไม่มีการจ่ายเงินลักษณะอื่น และต้องสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด และสแกนใบหน้าของคนใช้บริการในระหว่างที่เข้าไปใช้บริการทั้งที่พักและร้านอาหารกับผู้ให้บริการ ซึ่งผู้ให้บริการต้องมีแอปฯ ถุงเงินเพื่อรับชำระด้วย ถือเป็นระบบตรวจสอบที่จะเอามาใช้ตรวจสอบการทำโครงการเพื่อป้องกันทุจริต”

ส่วนอีกมาตรการคือ เราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 มีเพิ่มสิทธิการเข้ามาใช้ห้องพักอีก 2 ล้านสิทธิ โดยต้องเข้ามาจองห้องพักล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน เริ่มต้นในเดือนพ.ค. - ส.ค.64 เป็นต้นไป ขณะที่บัตรกำนันอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เวาท์เชอร์) ที่เคยให้วันธรรมดาคนละ 900 บาทต่อวัน และวันศุกร์-อาทิตย์ คนละ 600 บาทต่อวัน นั้นจะปรับเหลือราคาเดียวคือคนละ 600 บาทต่อวัน และกำหนดให้ใช้บริการแบบข้ามจังหวัดเท่านั้น ไม่สามารถพักในจังหวัดตามภูมิลำเนาของตัวเองได้

"กรณ์" นำพรรคกล้า ล้อมวงคุย "นิค จีนี่" - "Kim Kwan Su" อดีตทีม YG สร้าง "T-Wave" ให้ดังระดับอินเตอร์

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์รูปพร้อมข้อความลงเฟสบุ๊กหัวข้อ "Soft Power ไทย ไปถึงระดับโลกได้!" โดยนำทีมงานกลุ่ม Soft Power พรรคกล้า พบกับนายวิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้บริหารจีนี่ เรคคอร์ด พร้อมทีมงานแกรมมี่ ร่วมพูดคุยกับนาย Kim Kwan Su อดีตทีมจาก YG Entertainment ที่มีส่วนสำคัญในการสร้าง K-Wave ทั้ง Big Bang, Psy, Black Pink และวงอื่นๆ อีกมากมาย โดยนาย Kwan Su มีความตั้งใจที่จะสร้าง T-Wave (คลื่นไทย) และมีความเชื่อว่าจะสามารถยกระดับวงการบันเทิงให้สร้างผลงานระดับสากลได้ โดยนาย Kwan Su ให้เวลาตัวเองไว้ 5 ปี 

นายกรณ์ บอกต่อว่า คุยกันถึงบทบาทของรัฐในการช่วยส่งเสริม และคุยกันถึงความสำคัญของการมีวัฒนธรรมด้านการบันเทิงเป็นทุนเดิม รวมไปถึงอิทธิพลของ Streaming platform เช่น Netflix ต่อโอกาสและแนวทางการพัฒนา และถามว่า กรณีเพลง Gangnam Style ทำไม Psy ถึงเลือกเปิดตัวเพลงทาง YouTube ซึ่ง Kwan Su เล่าว่าในวันนั้น Psy แทบไม่รู้จัก YouTube ด้วยซ้ำ และไม่มีใครคาดเดาว่าจะดังถึงขนาดนั้น และรายได้หลักของ K-Pop คือการจัดคอนเสิร์ต 

แต่ช่วงโควิดนี้จึงลำบากกันถ้วนหน้ารวมถึงได้รับทราบว่ากรณี Lisa ก็ไม่ได้เป็นยุทธศาสตร์ของ Blackpink ที่จะมีสมาชิกคนไทย เพราะ Lisa เดินเข้าไปนำเสนอตัวเอง เป็นคนมีพรสวรรค์รที่ปฏิเสธไม่ได้ ทั้งๆ การมีสมาชิกในวงที่เป็นคนต่างชาติ ทำให้การบริหารจัดการยากขึ้นมาก วันนี้บริษัทใหม่ของ Kwan Su กำลังปั้นศิลปินไทย คือ ‘น้องแอลลี่’ ที่มีเพลงฮิตคือ How To Love และอีกหนึ่งวงคือ ‘อารีน่า’ ร่วมกับเพื่อนรุ่นน้องผมคือ กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ รอดูว่าเพลงของน้องๆ จะประสบความสำเร็จแค่ไหน (เพลง Come Get It Now) 

การพูดคุยวันนี้ทำให้ได้มุมมองมากมาย แต่สิ่งที่เน้นเป็นพิเศษคือ Production Value งบโปรดักชั่นของมิวสิควิดีโอหรือแม้แต่ซีรีย์ของเกาหลีมีการลงทุนมหาศาล แต่คุ้มค่าเพราะสามารถขายคอนเทนท์ไปได้หลายประเทศทั่วโลก 

จากนั้นพวกทีมไทยแลนด์นั่งระดมความคิดกันต่อว่า วงการบันเทิงไทยจะเติบโตและไปได้ไกลได้อย่างไร จะสร้าง T-Wave ได้เองไหม หรือต้องจับมือกับคนเก่งๆ จากต่างประเทศแล้วเรียนรู้ และพัฒนาฝีมือของเราไปพร้อมๆกัน นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายประเทศไทย และทีมงาน Soft Power พรรคกล้า และนี่คือ 1 ใน 5 ภารกิจหลักสำคัญของ พรรคกล้าครับ 


https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10159493102524740&id=71254499739#TheStatesTimes
 

ฟังแล้วอาจจะดูแปลก ๆ เพราะเวลาพูดถึงสมาชิกแบบรายเดือน หลายคนก็มักจะนึกถึง Spotify สตรีมมิงสำหรับฟังเพลง Netflix สำหรับดูภาพยนตร์ หรือ Dollar Shave Club บริการสมาชิกมีดโกนหนวดรายเดือน

อย่างไรก็ตาม เหล่านี้เป็นบริการสมาชิกที่เกี่ยวข้องกับ ‘มนุษย์’ หากแต่ในมุมหนึ่ง ในโลกก็ยังมีบริการสมาชิกในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงอีกด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือ BarkBox แพลตฟอร์มสมาชิกรายเดือนสำหรับคนรักสุนัขที่กำลังเติบโต และปัจจุบัน มีมูลค่าสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท

เหตุผลเพราะพฤติกรรมของคนที่ต้องอยู่บ้านมากขึ้น เพราะการระบาดของ ‘โควิด-19’ ทำให้ ‘ธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง’ โดยเฉพาะสุนัข จึงยังไปได้ดี

แล้วสมาชิกรายเดือนของ BarkBox แพลตฟอร์มเพื่อคนรักสุนัข มีหน้าตาเป็นอย่างไร ?

จุดเริ่มต้น BarkBox เกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีก่อน โดยผู้ก่อตั้ง 3 คน ได้แก่ Carly Strife, Matt Meeker และ Henrik Werdelin ซึ่งมองว่าการเลี้ยงสุนัขที่ดี คือการส่งเสริมให้สุนัขได้เรียนรู้และเจอสิ่งใหม่ตลอดเวลา

ดังนั้นนอกจากอาหารแล้ว ‘ของเล่นและขนม’ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของสุนัข

อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับพบว่าพนักงานส่วนใหญ่ในร้านค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และพวกเขามักจะไม่ได้รับความช่วยเหลือในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเท่าที่ควร

เรื่องดังกล่าวจึงทำให้พวกเขาเกิดไอเดียในการสร้างเว็บไซต์ BarkBox ขึ้นมา ซึ่งพวกเขาคิดว่า BarkBox จะเป็นโมเดลธุรกิจที่จะช่วยเหลือกลุ่มเจ้าของสุนัขได้อย่างตรงจุด

แล้วโมเดลธุรกิจที่ว่านี้ คืออะไร?

BarkBox มีโมเดลธุรกิจก็คือ การมัดรวมผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัข เช่น ของเล่น ขนม และอาหาร เข้ามาอยู่ภายในกล่องเดียวกัน และจะส่งมอบให้กับลูกค้าที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิก

ทั้งนี้ ก็เพื่อให้กลุ่มผู้เลี้ยงสุนัขไม่ต้องมานั่งคิดว่าแต่ละเดือน จะต้องหาซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอะไรบ้าง โดยลูกค้าที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกก็จะสามารถกำหนดได้ว่าต้องการสินค้ากลุ่มใดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการขอหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจส่งผลต่อภูมิแพ้ หรือเลือกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสุนัขแต่ละประเภท ซึ่งจะมีราคาอยู่ในช่วงระหว่าง 700 ถึง 1,100 บาท ต่อเดือน

ด้วยความที่กลุ่มผู้ก่อตั้งเป็นกลุ่มคนรักสุนัขอยู่แล้ว BarkBox จึงเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในการเลี้ยงสุนัขเป็นอย่างดี

พวกเขาจึงได้นำประสบการณ์ไปปรับให้บริการมีความยืดหยุ่น และให้ความใส่ใจแก่กลุ่มเจ้าของสุนัขได้ดีทั้งในมุมของผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมา รวมถึงการให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้งานผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ แบ่งออกเป็น…

- Facebook มีผู้ติดตาม 3 ล้านบัญชี

- Instagram มีผู้ติดตาม 1.7 ล้านบัญชี

- Twitter มีผู้ติดตาม 3 แสนบัญชี

ส่งผลให้ขณะนี้ แพลตฟอร์ม BarkBox กลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวอเมริกันอย่างมาก ซึ่งปัจจุบัน BarkBox มีจำนวนสมาชิกรายเดือน 660,000 ราย เติบโตขึ้นเป็น 8 เท่า เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน แถมบริษัทยังมี Retention Rate หรืออัตราการใช้บริการซ้ำมากถึง 95%

แล้วนอกจากบริการกล่องของเล่น ขนม และอาหารแล้ว ตอนนี้ บริษัท BarkBox ยังมีบริการอะไรอีกบ้าง ?

ปัจจุบัน BarkBox มีบริการอยู่ 4 แบบ แบ่งออกเป็น…

1.) BarkBox เป็นบริการรายเดือนที่จะส่งขนม ของเล่น และเกมสำหรับใช้เล่นกับสุนัข ซึ่งเหมาะกับสุนัขขนาดเล็ก

2.) Super Chewer เป็นบริการส่งผลิตภัณฑ์ที่เหมือนกับ BarkBox แต่สำหรับสุนัขที่มีขนาดตัว หรือปากที่ใหญ่

3.) Bark Bright เป็นนวัตกรรมสำหรับดูแลฟันและลมหายใจของสุนัข และอนาคต BarkBox ได้มีแผนในการต่อยอด Bark Bright ให้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับดูแลสุขภาพของสุนัขแบบครบวงจร

4.) Bark Eats เป็นการให้บริการเลือกอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของสุนัข

สำหรับ Bark Eats นั้น จะมีการสอบถามเพิ่มเติมโดยตรงกับกลุ่มลูกค้า และจะนำข้อมูลที่ได้นั้นไปทำการวิเคราะห์ต่อเพื่อนำไปพัฒนาการนำเสนอ และส่งมอบอาหารที่เหมาะสมกับสุนัขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

จากจุดนี้เองทำให้ BarkBoxจะแตกต่างจากโมเดลธุรกิจแบบเดิมที่เน้นเฉพาะการขายอาหารสัตว์เลี้ยงเพียงอย่างเดียว โดยบริการ Bark Bright และ Bark Eats เพิ่งทำการเปิดให้บริการเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งในส่วนบริการใหม่นี้ทางบริษัทได้คาดว่าจะเป็นตัวสำคัญที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับ BarkBox และทางบริษัทคาดการณ์ว่ามันจะเป็นบริการที่เข้ามาดิสรัปอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

แล้วปัจจุบัน BarkBox มีรายได้ขนาดไหน?

ผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา 3 ปีย้อนหลัง

...ปี 2018 รายได้ 4,520 ล้านบาท

…ปี 2019 รายได้ 5,840 ล้านบาท เติบโต 29 %

...ปี 2020 รายได้ 6,850 ล้านบาท เติบโต 17%

จากข้อมูล เราก็พอสรุปได้ว่า BarkBox สามารถสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่องแม้ว่าจะเผชิญกับช่วงวิกฤตโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกัน ทางบริษัทก็ได้ตั้งเป้ารายได้โตเฉลี่ยปีละ 47% จากการเพิ่มจำนวนสมาชิกและการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งสะท้อนไปยังบริษัท BarkBox ที่ปัจจุบัน มีมูลค่าสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท

นี่คืออีกธุรกิจที่มีความเข้าใจ และสามารถนำความเข้าใจมาพัฒนาเป็นสินค้า หรือบริการขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง จนตอนนี้มีมูลค่าระดับ 6 หมื่นล้าน ไปแล้วนั่นเอง


ที่มา: https://www.facebook.com/113397052526245/posts/1028981634301111/

‘รมว.อุตสาหกรรม’ สั่งเร่งรัดจัดทำมาตรฐานสารสกัดจากกัญชง เพื่อยกระดับเป็นสินค้า มอก. พร้อมเล็งส่งขายเชิงพาณิชย์ออกสู่ตลาดโลก สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจแก่ประเทศ ตามนโยบายเกษตรแปรรูป

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้สั่งการให้ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. เร่งรัดจัดทำมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) สินค้าเกษตรแปรรูปจากสมุนไพรไทย โดยเฉพาะกัญชง ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ทั้งเปลือก ,ลำต้น, เส้นใย, กิ่งก้าน และราก โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและช่วยเหลือเกษตรกร ในการพัฒนาสินค้าจากกัญชงให้มีคุณภาพ สามารถแข่งขันได้ในเชิงพาณิชย์ อย่างเป็นระบบ เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจแก่ประเทศ

ด้าน นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า สมอ. ขานรับนโยบายรัฐบาล โดยขณะนี้ได้จัดทำมาตรฐานสารสกัดจากสมุนไพรไทย ตามศักยภาพและความต้องการของภาคอุตสาหกรรมแล้ว 29 มาตรฐาน เช่น สารสกัดขมิ้นชันผง, สารสกัดฟ้าทะลายโจรผง ,สารสกัดกระชายดำผง,สารสกัดกระเจี๊ยบแดงผง ,สารสกัดบัวบกผง และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 18 มาตรฐาน เช่น น้ำมันหอมระเหยตะไคร้หอมไทย สารสกัดมะขามป้อม สารสกัดงาขี้ม่อน สารสกัดน้ำมันถั่วอินคา สารสกัดบุกบง และสารสกัดว่านหางจระเข้ผง เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และสามารถแข่งขันได้ในเชิงพาณิชย์

ส่วนมาตรฐานสารสกัดจากกัญชง สมอ. ได้จัดทำมาตรฐานในชุดของกัญชงซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 6 มาตรฐาน เป็นมาตรฐานวัตถุดิบที่จะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ยา เครื่องสำอาง อาหาร เครื่องดื่ม อาหารสัตว์ สิ่งทอ กระดาษ ยานยนต์ และวัสดุก่อสร้าง โดยบอร์ด สมอ. ได้เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา 5 มาตรฐาน ดังนี้

1.) น้ำมันเมล็ดกัญชง (มอก.3171-2564)

2.) สารสกัดจากกัญชงที่มีปริมาณ CBD รวม ไม่น้อยกว่า 30 % โดยมวล (มอก.3172-2564)

3.) สารสกัดจากกัญชงที่มีปริมาณ CBD รวม ไม่น้อยกว่า 80 % โดยมวล (มอก.3173-2564)

4.) เปลือกกัญชง (มอก.3184-2564)

5.) แกนกัญชง (มอก.3185-2564)

อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 1 มาตรฐาน คือ เส้นใยกัญชง คาดว่าจะประกาศใช้ในเร็ว ๆ นี้ นอกจากบอร์ดจะเห็นชอบมาตรฐานสารสกัดจากกัญชงแล้ว ยังเห็นชอบมาตรฐานสารสกัดน้ำมันกฤษณา ด้วย

เลขาธิการ สมอ. ย้ำว่า การประชุมบอร์ด สมอ. เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 บอร์ดได้เห็นชอบมาตรฐานรวมทั้งสิ้น 64 มาตรฐาน ทั้งที่เป็นสินค้าแปรรูปจากสมุนไพร สินค้าทั่วไป และสินค้าที่ สมอ. เตรียมประกาศควบคุมอีก 9 รายการด้วย เช่น ขวดน้ำดื่มพลาสติก เก้าอี้นวดไฟฟ้า เครื่องฟอกอากาศ กล่องพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับการอุ่น และการอุ่นครั้งเดียวในไมโครเวฟ กระทะโลหะและหม้อที่ใช้ความร้อนจากเตาโดยตรง ออกซิเจนทางการแพทย์ และไนทรัสออกไซด์ทางการแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

'สมศักดิ์' ชง!! คลายล็อกกีฬาพื้นบ้าน ไก่ชน - มวย - วัว - ม้า เปิดแข่งแบบไม่มีคนดู - ถ่ายสดผ่านไลฟ์ กระตุ้นปากท้องห่วงโซ่ธุรกิจเกี่ยวข้อง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยถึงการแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ และหารือถึงการคลายล็อก ซึ่งตนคิดถึงกีฬาพื้นบ้าน เช่น ไก่ชน, มวย, ม้าและวัวชน จึงได้เสนอที่ประชุมให้มีการเปิดการแข่งขัน โดยที่ไม่ต้องมีผู้เข้าชม

โดยในปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารพัฒนาไปไกลแล้ว เราสามารถถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านการไลฟ์สดได้ และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นเราก็จะค่อย ๆ ทยอยเปิดให้มีผู้เข้าชมในสนามได้ เหมือนการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกและวอลเล่ย์บอล ซึ่งสิ่งที่จะได้ประโยชน์ตามมาคือ คนที่ทำงานในซุ้มไก่จะมีงานทำและมีรายได้ เพราะปัจจุบันพบว่า ใน 1 หมู่บ้านจะมีคนที่ทำงานเกี่ยวกับซุ้มไก่ เช่น คนเลี้ยงไก่ คนให้น้ำไก่ ประมาณหมู่บ้านละ 10 คน ซึ่งหากเราเปิดตรงนี้ได้คาดว่าจะสร้างงานได้ถึง 8 แสนคน นี่ยังไม่รวมกับค่ายมวย สนามม้าและสนามวัวอีกที่มีลักษณะคล้ายกัน

"ท่านนายกฯเห็นด้วยกับแนวทางนี้ และสั่งการให้ผู้บริหารไปวางแผนและเร่งดำเนินการ อาชีพต่าง ๆ จะต้องไม่ชะงัก สมาคมต่าง ๆ ที่จะเดินทางมาเรียกร้องก็คงไม่ต้องมาแล้ว เพราะท่านนายกฯรับทราบปัญหาและเข้าใจในจุดนี้โดยได้เร่งแก้ไขให้แล้ว แต่ทั้งนี้ หากเปิดให้ทำกิจกรรมแล้ว ทุกคนต้องต้องรักษากฎเกณฑ์ ไม่ให้มีคนดูก็ต้องห้ามเข้าอย่างเด็ดขาด อย่าชุมนุมคนมากมาย เพื่อให้สถานการณ์ต่าง ๆ ผ่านไปด้วยดี คนที่เลี้ยงม้า เลี้ยงวัว เลี้ยงไก่ ทำค่ายมวย ก็ไม่ตกงาน แต่อาจไม่มีรายได้จากค่าผ่านประตู หรืออาจะมีน้อย ตรงนี้ก็ต้องค่อย ๆ แก้ไขกันไป ซึ่งรัฐบาลพยายามค่อย ๆ ผ่อนคลายเป็นส่วนใหญ่แล้ว"


ที่มา: https://www.komchadluek.net/news/politic/461530


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top