Sunday, 20 April 2025
POLITICS NEWS

ตำรวจเตรียมออกหมายจับ 'ฟอร์ด ทัตเทพ' หลังไม่มารายงานตัว คดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา ม.112 กรณีผู้ต้องหาจัดชุมนุมและปราศรัยในกิจกรรม ‘ไปสภาไล่ขี้ข้าศักดินา’

เมื่อวันที่ 1 เม.ย.64 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์, น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรืออั๋ว, นายชนินทร์ วงษ์ศรี หรือบอล และนายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ หรือบิ๊ก แกนนำและแนวร่วมเครือข่ายผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร - เยาวชนปลดแอก เดินทางมารายงานตัวอัยการตามที่พนักงานสอบสวน สน.บางโพ นัดส่งตัวพร้อมสำนวนให้อัยการ คดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา ม.112, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายฯ ม.215 และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กรณีผู้ต้องหาจัดชุมนุมและปราศรัยในกิจกรรม #ไปสภาไล่ขี้ข้าศักดินา ที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2563

โดยนางสาวภัสราวลี และนางสาวจุฑาทิพย์ ยืนยันว่า การถูกแจ้งข้อกล่าวหาโดยเฉพาะการแจ้งความผิดตามมาตรา112 เกิดจากกรณีที่มีการปราศรัยเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญและมีการนำเสนอเกี่ยวข้อเรียกร้องในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่ความเป็นจริงส่วนตัวเชื่อว่าเนื้อหาการปราศรัยมีเจตนาที่จะก่อให้เกิดผลดีต่อสถาบันฯ

แต่ทั้งนี้ยอมรับว่า ค่อนข้างเป็นกังวลหากคดีถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือกระบวนการการพิจารณาคดีมีความล่าช้าไป เนื่องจากหลายคนที่ถูกตั้งข้อกล่าวหายังมีภาระหน้าที่ การเรียนการศึกษาต้องรับผิดชอบ

ทั้งนี้ แกนนำทั้ง 2 คน ยังยืนยันที่จะสนับสนุนแนวทางการเคลื่อนไหวของทุกกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและขอเป็นกำลังใจให้ทุกการต่อสู้

ต่อมา ภายหลังกระบวนการส่งสำนวนและรายงานตัวเสร็จสิ้น พนักงานอัยการได้นัดฟังคำสั่งคดีในส่วนของ น.ส.ภัสราวลี, น.ส.จุฑาทิพย์, นายชนินทร์ และนายเกียรติชัย 4 ผู้ต้องหา เป็นวันที่ 21 พ.ค. 2564 เวลา 10.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนกรณีนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ ฟอร์ด แกนนำเยาวชนปลดแอก ผู้ต้องหาที่ไม่ปรากฏตัวเดินทางมารายงานตัวอัยการวันนี้ ทางพนักงานสอบสวน สน.บางโพ เตรียมยื่นขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไปภายในสัปดาห์หน้า


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

ชง กรุงเทพฯ เปิดรับต่างชาติไม่กักตัว เริ่ม ต.ค.นี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมหารือกับกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อขอให้จัดสรรวัคซีนป้องกันไวรัสโควิดมาฉีดให้กับคนกรุงเทพฯ ภายในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอให้กรุงเทพฯ เข้ามาเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป เนื่องจากกรุงเทพฯ ถือเป็นเมืองหลักที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก จึงต้องมีการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนส่วนใหญ่ก่อน

“จากนี้อีก 4 เดือนข้างหน้า คือ มิ.ย. – ก.ย. รัฐบาลจะนำเข้าวัคซีนมาเพิ่มอีก 36 ล้านโดส กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะหารือกับสาธารณสุข และศบค. ขอกันวัคซีนต้านโควิดมาฉีดให้กับคนในกรุงเทพฯ ก่อน ซึ่งถือเป็นเป้าหมายต่อไปในการดำเนินการ เพราะในช่วงสิ้นเดือนก.ย.64 ถ้าสามารถฉีดวัคซีนต้านไวรัสให้กับคนในกรุงเทพฯ ได้กว่า 60% แล้ว ทำให้เมื่อเข้าไตรมาส 4 หรือเดือนตุลาคม ซึ่งกำหนดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยแบบไม่ต้องกักตัว จะสามารถเพิ่มพื้นที่รองรับในส่วนของกรุงเทพฯ เข้าไปเป็น 7 จังหวัดนำร่องด้วย”

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังเตรียมเสนอให้มีการผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังจ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป อาจเดินทางไปยังจังหวัดนำร่องอื่น ๆ ได้ เช่น เดินทางไปเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้หรือไม่ในช่วงที่ยังกักตัวอยู่ในพื้นที่ภูเก็ต 7 วัน เพราะช่วงเวลานั้นเป็นช่วงมรสุมฝั่งอันดามัน โดยอาจมีการสนับสนุนค่าเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะนั้น ๆ ในระยะสั้น เช่น ลดราคาค่าเครื่องบิน หรือร่วมกับโรงแรมจัดโปรโมชั่น หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนค่าใช้จ่าย แต่ทั้งหมดต้องไปหารือกันให้ได้ข้อสรุปก่อน

‘อานนท์ แสนน่าน’ เตือนอดีตหมู่บ้านเสื้อแดงอย่าหลงเชื่อออกมาล้ม ‘รัฐบาลบิ๊กตู่’ ที่มาจากการเลือกตั้ง ระบุใครพาพวกเราไปติดคุกและตาย สุดท้ายคนที่สบายคือแกนนำ ‘ติดคุกวันละนิดได้เงินวันละหน่อยวันละล้านสองล้าน’ แล้วออกมาแบบสบาย ๆ

นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ตนออกมาส่งสัญญาณถึงอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงทุกหมู่บ้านของประเทศไทย ที่มีอยู่กว่า 28,580 หมู่บ้าน ว่า อย่าไปหลงเชื่อคำเชิญชวนของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่จะเรียกร้องให้ประชาชนออกไปขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง เพราะมักจะใช้วลีเดิม ๆ ที่ว่าขับไล่รัฐบาลเผด็จการ

แต่วันนี้ พล.ประยุทธ์ ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งตามที่พวกเราเรียกร้องขอและการเลือกตั้งผ่านมาทางพรรคพลังประชารัฐ ชนะการเลือกตั้งแล้วเลือก พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อประเทศไทยได้เกิดวิกฤติโควิด-19 ระบาดอย่างหนักทางรัฐบาลก็ได้จัดสรรงบประมาณออกมาเยี่ยวยาช่วยเหลือประชาชน ถ้าวันนี้ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เราเชื่อได้ว่าประชาชนต้องป่วยและล้มตายจากไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างแน่นอน

และที่สำคัญประชาชนจะอดตาย เพราะไม่มีรายได้ แต่ทางรัฐบาลเองก็ออกมาช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจนภาคธุรกิจ ภาคเกษตรกรรม และ ประชาชนลืมตาอ้าปากได้อีกครั้งหนึ่ง

อดีตที่ผ่านพวกเรา “อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง” ออกมาต่อสู้ ติดคุก บ้านแตกสาแหรกขาด และ ล้มตาย แล้วกลุ่มแกนนำคนเหล่านี้!พวกเขาหนีหายไปไหนกัน? เคยได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของพวกเรากันบ้างหรือไม่ หากแต่ว่าวันนี้กลับเสนอหน้าออกมาร้องขอกำลังคนเข้าร่วมเพิ่มพูนศักยภาพให้กับพรรคพวก เสียงเรียกร้องของพวกเรามันคงเป็นเพียงเสียงกระซิบ ที่ผู้หลักผู้ใหญ่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทำเหมือนหูทวนลมไม่ต้องการรับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น หากแต่ว่าวันนี้กลับถามหาอุดมการณ์จากพวกเรา มันช่างดูน่าตลกขบขันเสียกระไร และสุดท้ายคนที่สบายคือแกนนำ “ติดคุกวันละนิดได้เงินวันละหน่อย...วันละล้านสองล้าน” ติดคุกไม่กี่เดือนแล้วออกมาเดินข้างนอกแบบสบาย ๆ

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า จากการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ย้อนกลับมาสู่โลกความเป็นจริง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประโยคเหล่านี้เราได้ยินกันมาตั้งแต่เราจำความได้ อย่าพยายามเติมเชื้อเพลิงให้คนไทยต้องแตกแยกทางความคิดไม่ว่าคุณจะพยายามมากแค่ไหน ก็ไม่มีวันสำเร็จ แผ่นดินที่เราเกิดและเป็นไทยได้ทุกวันนี้ก็เพราะพระมหากษัตริย์ที่ท่านได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย

“สิ่งที่เราควรตระหนักคือความจงรักภักดีต่อสถาบัน คนรุ่นหลังอย่างผมไม่จำเป็นต้องถูกซื้อตัวความจงรักภักดีมันอยู่ในสายเลือดไม่จำเป็นต้องป้อนกล้วยแล้วถึงจะขยับ โปรดอย่าเอาตัวตนของคุณมาชี้วัดคุณค่าของความเป็นคนของใคร”

นายอานนท์ กล่าวด้วยว่า จากสถานการณ์ตอนนี้ ใครจะเชื่อ หรือไม่เชื่อไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะตนมองว่ามวลชนที่อยู่กับตน ต้องมีชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องเสียน้ำตาให้กับอดีตที่ผ่านมา เราทุกคนเหน็ดเหนื่อยและรู้สึกอ่อนล้าเมื่อต้องพูดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา บางชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็นบางคนติดคุกบางคนลี้ภัย บางคนหลบหนีคดี ครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน

"ผมเป็นคนหนึ่งที่ถูกกระทำ แต่ก็ไม่เคยปริปากบอกใคร เพราะรู้ดีว่าเส้นทางสายนี้ตัวเรากำหนดเอง ที่ผ่านมาถือว่าเป็นเพียงฝันร้าย เมื่อลืมตาตื่นชีวิตก็ต้องก้าวเดินไปต่อ เมื่อลมเปลี่ยนทิศ ทุกชีวิตที่เคยร่วมต่อสู้ก็ยังคงอยู่เพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกัน ผมรู้สึกโชคดีที่มีเพื่อนพ้องน้องพี่ไม่เคยทอดทิ้งให้ผมต้องต่อสู้อยู่เพียงลำพัง เราปฏิเสธไม่ได้ที่จะเลือกข้างและยืนอยู่ข้างใครอุดมการณ์มีกันทุกคนไม่มีใครดีเกินใคร ขออย่าประณามกัน คุณมีเหตุผลของคุณเรามีเหตุผลของเรา อย่าเหมารวมว่าคุณเป็นคนดีและคนคิดต่างต้องกลายเป็นคนเลว และสำคัญวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านมาจากการเลือกตั้ง ถ้าใครจะว่าอะไรก็ไปว่ากันในสภาผู้แทนราษฎร อย่ามาเป็นคนไม่รู้กาละเทศะลงถนนมาด่ากันจนประเทศไทยจะฉิบหายกันไปมากกว่านี้แล้ว” นายอานนท์ ระบุ

.

ที่มา : https://www.thansettakij.com/content/politics/474285


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

“จุรินทร์” รุกแก้ รธน. เผยยกร่างเสร็จแล้ว เตรียมขอเสียงพรรคร่วมช่วงเปิดประชุมวิสามัญ พร้อมหนุน พรบ. ประชามติวาระ 3

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญว่า ตนได้สั่งการให้ทีมกฎหมายของพรรคได้ยกร่าง และขณะนี้ได้ดำเนินการยกร่างเสร็จแล้ว ทั้งในประเด็นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 รวมไปถึงในเรื่องอำนาจการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของวุฒิสมาชิก และประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ถัดจากนี้ในช่วงเปิดสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 7-8 เมษายน ที่จะถึงนี้ จะได้นำไปขอเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลในเบื้องต้นต่อไป ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ ส.ส. ทุกคนได้มาร่วมกันลงชื่อ เพื่อจะนำไปเสนอต่อประธานรัฐสภา ในการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระต่อไป 


“ผมยืนยันอีกรอบนึงว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องจำเป็นที่ประเทศจะต้องเดินหน้าไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น เราจะทำควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน นั่งคือขณะที่เรากำลังแก้ปัญหาการเมือง ก็จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย เพราะทั้ง 2 อย่างนี้เอื้อ และมีผลต่อกัน ถ้าการเมืองไม่นิ่ง มีคนชุมนุมอยู่เต็มถนน การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็ยากที่จะดำเนินการไปได้ด้วยความราบรื่นและประสบความสำเร็จได้โดยง่าย เพราะฉะนั้นทั้ง 2 เรื่องนี้ต้องทำควบคู่กันไป ซึ่งเป็นแนวทางของประชาธิปัตย์ที่มีความชัดเจน” นายจุรินทร์กล่าว 

ส่วนเรื่องแผนงานที่พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าทางการเมืองในภาคใต้ หัวหน้าพรรคกล่าวว่า ที่ผ่านมามี ส.ส. ทั้งหมด 50 ที่นั่งในภาคใต้ ซึ่งประชาธิปัตย์ได้มา 22 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วก่อนที่ตนมาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ถัดจากนี้ก็มีแผนงานที่จะเดินหน้าเพื่อเพิ่มที่นั่งในพื้นที่ภาคใต้ โดยพรรคจะเปิดโอกาส และเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ หรือคนใหม่ ๆ เปิดโอกาสให้เลือดใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมงานทางการเมืองกับประชาธิปัตย์มากขึ้นโดยไม่มีข้อจำกัด 


“วันนี้ได้มีการเปิดตัวคิวอาร์โค้ด ที่ทุกท่านสามารถสแกนเข้าไป แล้วเข้าไปกรอกข้อความเพื่อมาร่วมทีมกับพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ได้ ไม่ว่าจะในรูปแบบที่ท่านสนใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในอนาคต หรือต้องการเป็นผู้สมัครการเมืองท้องถิ่นในอนาคต หรือต้องการมาเป็นคณะทำงานคณะใดคณะหนึ่งของพรรค หรือมาเป็นคลังสมองในด้านต่าง ๆ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และด้านอื่น ๆ ให้กับพรรค หรือประสงค์จะเข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่ที่ท่านถนัด หรือในอำเภอ จังหวัดที่ท่านสนใจ ก็สามารถดำเนินการได้ทั้งหมด ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดแล้วกรอกรายละเอียด หรือเข้าเวปไซต์ www.democrat.or.th ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นการเปิดพื้นที่พรรคประชาธิปัตย์ให้กับเลือดใหม่ในภาคใต้ที่สนใจเข้ามาร่วมงานการเมืองกับพรรค ภาพใหญ่ที่สุดก็คือถัดจากนี้หากท่านสนใจสมัครเป็นผู้แทนของพรรค พรรคก็จะรับไว้พิจารณาเพื่อส่งเป็นผู้สมัครในพื้นที่ต่อไปในอนาคตได้ด้วย”  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว


 

พปชร. ชงแก้ ยื่นแก้ไขรธน. 5 ประเด็น 13 มาตรา ไม่แตะปม อำนาจส.ว. ยัน ฉบับพปชร.ไม่ต้องทำประชามติ-ใช้ระบบเลือกตั้ง2 ใบ - เพิ่มสิทธิปชช. ด้าน "ไพบูลย์" มั่นใจ ส.ว.ร่วมด้วย เชื่อผ่านวาระ 3 ปลายเดือน ก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ฝ่ายกฏหมาย กล่าวถึงเนื้อหาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่จะยื่นเรื่องแก้ไข ต่อรัฐสภาในวันที่ 7 เมษายน 2564 ว่า ร่างฯที่จะแก้ไขเป็นของ พปชร. พรรคเดียว โดยใช้เสียงส.ส.ร้อยคนขึ้นไปยื่นแก้ไข  ทั้งหมด 5 ประเด็น 13 มาตรา  ซึ่งเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายเห็นพ้อง เพื่อให้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นผลสำเร็จ และคาดว่ารัฐสภา จะพิจารณาแก้ไข และเห็นชอบในวาระ 3 ในช่วงปลายเดือน ก.ค. นี้ โดยไม่ต้องทำประชามติ  

นายไพบูลย์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่แก้ไข เช่น

ข้อ 1.) ระบบเลือกตั้งจากบัตรใบเดียว จะแก้ไขเป็นบัตร 2 ใบ ประกอบ ด้วย ส.ส.เขต 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน

ข้อ 2.) มาตรา 29 เพิ่มสิทธิเสรีภาพในกระบวนการยุติธรรมให้แก่ประชาชน และสิทธิชุมชนจะให้รัฐจัดให้มีทนายความในการต่อสู้คดีกับภาครัฐ

ข้อ 3.) มาตรา 144 จะปรับปรุงเกี่ยวกับการเข้าไปใช้งบประมาณของประเทศให้มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญ 2550

ข้อ 4.) มาตรา 185 จะผ่อนคลายให้ ส.ส.สามารถเข้าไปติดตามข้าราชการ และช่วยเหลือความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเพิ่มขึ้น

ข้อ 5.) มาตรา270 ในบทเฉพาะกาล จะแก้ไขให้ รัฐสภา โดย ส.ส. ส.ว.เข้าไป ติดตาม เสนอแนะ เร่งรัดการปฏิรูปประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติ จากเดิมที่ให้ ส.ว. ดำเนินการเพียงลำพัง 

“เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค พปชร.จะตอบโจทย์ของปัญหาของประเทศร่วมกัน และสามารถแก้ไขให้ประชาชนได้จริง ใช้เวลาสั้น ไม่ต้องเสียงบประมาณทำประชามติ ส่วนประเด็นเรื่องการตัดอำนาจ ส.ว. อาทิ ยกเลิก ส.ว. สรรหา หรือ อำนาจการเลือกนายกฯ พรรค พปชร.ยังไม่แก้ไข เพราะหากไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ทำให้เกิดความขัดแย้ง และไม่สามารถแก้ไขได้สำเร็จ” รองหัวหน้าพรรคพปชร. กล่าว 

ACT ออก จม.เปิดผนึกถึง “ศักดิ์สยาม” ค้านการเร่งก่อสร้างเทอร์มินัล 2 สุวรรณภูมิ แนะต้องความเคารพในกติกาสังคม หวั่นซ้ำรอยกรณีจำนำข้าว

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่อง ขอให้ดำเนินการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิตามข้อศึกษาของ ป.ป.ช. และมติเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีด้วยความเคารพในกติกาสังคม โดยเนื้อหาในจดหมายระบุว่า

ตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้แสดงท่าทียืนยันจะดำเนินการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือต่อไป แม้ว่าทาง ป.ป.ช. ได้จัดทำรายงานผลการศึกษาและข้อเสนอแนะคัดค้านการเร่งก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ หรือหากจำเป็นก็ให้ลงทุนก่อสร้างเป็นลำดับสุดท้าย ซึ่งที่ประชุม ครม. ได้มีมติเห็นชอบกับข้อเสนอแนะนี้แล้ว เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นว่า ข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. ครั้งนี้เป็นผลจากการศึกษาข้อมูลของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ องค์กรวิชาชีพด้านวิศวกร สถาปนิก และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างกว้างขวางแล้ว ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสมควรต้องเคารพต่อข้อมูลและข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรหลักที่ดูแลเรื่องทุจริตคอร์รัปชันของชาติ

บทเรียนจากกรณีทุจริตจำนำข้าวที่อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงหลายรายต้องถูกดำเนินคดีและชดใช้ความเสียที่เกิดขึ้นกับแผ่นดิน เกิดจากการดำเนินการโดยไม่คำนึงผลเสียที่เกิดขึ้นต่อประชาชน สังคมและประเทศชาติ สร้างความเสียหายและเสื่อมเสียต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง              

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ มีความห่วงใยต่อสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับการดำเนินการที่ไม่เคารพต่อหลักการผลการศึกษา จึงขอความกรุณาท่านรัฐมนตรีได้โปรดทบทวนท่าทีต่อการตัดสินใจเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่องบประมาณแผ่นดินและคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วยอย่างแน่นอน

“อนุชา”  จับตาพระสงฆ์-ลัทธินอกรีต หาช่องเอาผิด หากหลอกลวงปชช.

วันที่ 1 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงการกวดขันการเผยแพร่ของลัทธิต่าง ๆ ในทางไม่ถูกต้อง ว่า เราพยายามดูว่าเกี่ยวข้องกับศาสนาและทำให้ศาสนาของเราเสื่อมเสียอย่างไร ตอนนี้ยังคงเป็นเพียงแค่ลัทธิที่นำมาอวดอ้างตัวเอง จึงต้องดูกฎหมายอื่นเข้ามาประกอบด้วย เช่น มีการหลอกลวงประชาชน และทำผิดกฎหมายอื่นๆด้วยหรือไม่ อย่างไร และเท่าที่ติดตามในขณะนี้ถ้าเป็นพระแล้วมีคำสอนแปลก ๆ ก็เข้าไปดำเนินการแล้ว อย่างที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยให้ทำการจับสึก แต่ถ้าไม่ใช่พระก็ต้องเข้าไปดูเพื่อหาช่องทางดำเนินการ แต่ในตอนนี้การนุ่งขาวห่มขาวถือว่าไม่ได้มีความผิดอะไร แต่ก็ต้องติดตามดูต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเข้าไปติดตามตรวจสอบพบว่ามี ผู้อวดอ้างเรื่องลัทธิ เช่น กรณีพระกรันยา สํานักสงฆ์วัดป่าเนื้อนาบุญ จังหวัดศรีษะเกษ เยอะหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า คิดว่ายังมีแอบแฝงอยู่ แต่บางทีอาจไม่เป็นข่าวหรือรู้กันในวงแคบ เพราะบางครั้งเป็นเรื่องความเชื่อของประชาชนที่ยังมีอยู่ในสังคม ยืนยันว่าถ้าเป็นพระจะดำเนินการแน่นอน อย่างไรก็ตามทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็เข้าไปติดตามและตรวจสอบตลอดเวลานี้มี 2 - 3 ราย ส่วนใหญ่ที่เห็นก็มีกรณีที่รุนแรง นอกนั้นยังไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา

“อนุทิน” ลุยแม่สะเรียง พรุ่งนี้ หอบวัคซีนโควิด-19 ฉีด จนท.ด่านหน้า

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์จังหวัดชายแดนของประเทศไทยที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมความพร้อมทั้งโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 เข้ามายังประเทศไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ระบบสาธารณสุขของเราในปัจจุบัน สามารถจัดตั้งโรงพยาบาลสนามได้อย่างรวดเร็วและมีมาตรฐาน เพียงพอต่อการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่จะเกิดขึ้น

นายอนุทิน กล่าวว่า ตนได้หารือร่วมกับฝ่ายที่ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่แล้ว ซึ่งท่านมีความมั่นใจว่าสามารถตรึงสถานการณ์แนวชายแดนได้เป็นอย่างดี ซึ่งในวันที่ 2 เมษายน 2564 ตนจะลงพื้นที่แนวชายแดน .แม่สะเรียง .สบเมย .แม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งนำวัคซีนซิโนแวค ไปฉีดให้กับเจ้าหน้าที่ด่านหน้าทำงานต่อสู้กับโควิด-19

"ความปลอดภัยของคนในประเทศจะต้องมาเป็นอันดับแรก โดยเราปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม การมีศูนย์อพยพก็เพื่อไม่ให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บข้ามเข้ามาในประเทศไทย เราก็จะดูแลตามความฉุกเฉิน คงก็ไม่ถึงขั้นว่าจะผลักดันเขากลับไปรับอันตราย แต่ขอยืนยันว่าคนไทย จะไม่ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมครั้งนี้" นายอนุทินกล่าว

“บิ๊กตู่” สั่งเหล่าทัพเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ “เมียนมา” ด้านทอ.เตรียม C-130 พร้อมเจ้าหน้าที่จ่อบิน รอรบ.-กต. ประสานมา

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 แหล่งข่าวความมั่นคง เปิดเผยถึงการประเมินสถานการณ์ประเทศเมียนมาในขณะนี้ว่า จากที่ติดตามและพิจารณารายวันจะพบว่าสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นน่าวิตกกังวลใด ๆ เนื่องจากเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นบางพื้นที่ประเทศเมียนมาเท่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นทั่วทั้งประเทศและยังไม่ก่อเป็นสงคราม ส่วนใหญ่จะเป็นจุดพื้นที่ที่ชนกลุ่มน้อยอยู่และมีการต่อสู้กับทางทหารเมียนมา ขณะที่คนไทยในเมียนมาส่วนใหญ่ไม่ได้อาศัยอยู่บริเวณชายแดน และตอนนี้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งยังไม่มีคนไทยคนใดประสานขอความช่วยเหลือจากทางการ หรือประสานขอกลับประเทศ 

แหล่งข่าวความมั่นคง กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา โดยในส่วนของภาคพื้นดินแนวชายแดนระหว่างไทยกับเมียนมาได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 3 กองทัพบกทำหน้าที่รับผิดชอบหลักในการดูแลให้ความช่วยเหลือชาวเมียนมา ซึ่งมีการจัดพื้นที่แรก  พื้นที่พักรอ และจุดรองรับผู้อพยพในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน จ.ตาก จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ขณะที่พื้นที่ทางน้ำระหว่างแม่น้ำหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพเรือ ป้องกันชายแดนตามลำแม่น้ำโขงเขต จ.เชียงราย ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลเรือที่สัญจรผ่านไปมาระหว่างแม่น้ำสองประเทศ 

ส่วนกองทัพอากาศนั้นได้เตรียมความพร้อมเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 หรือ C-130 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารอากาศไว้ หากรัฐบาลประสานขอให้กองทัพอากาศนำเครื่องบินไปรับคนไทยเพื่ออพยพกลับประเทศ แต่ทุกขั้นตอนนั้นจะต้องดำเนินการผ่านกระทรวงการต่างประเทศที่ทำหน้าที่เป็นแม่งานเพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้น เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ทั้งนี้คาดว่าหากมีการแจ้งประสานมาทางรัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศจะพิจารณาใช้เครื่องบินพาณิชย์ไปรับก่อน เพราะสนามบินในเมียนมายังคงใช้งานได้ตามปกติ 

แต่หากเกิดเหตุที่เป็นพื้นที่ที่เครื่องบินพาณิชย์ไม่สามารถบินเข้าไปได้ ก็จะประสานกองทัพอากาศ เพื่อนำเครื่องบินทหารไปรับกลับมาโดยใช้กลไกของสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ซึ่งขณะนี้รัฐบาลของทั้งสองประเทศยังสามารถพูดคุยประสานงานกันได้อยู่ อย่างไรก็ตามแผนการอพยพคนไทยก็จะเหมือนกับทุกสถานทูตประเทศนั้น ๆ จะพิจารณาถึงความจำเป็น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top