Saturday, 21 June 2025
POLITICS NEWS

คนกรุงโล่งใจ นายก สั่ง รมว.เฮ้ง เปิดจุดตรวจโควิดเพิ่มที่สนามไทย - ญี่ปุ่น ดินแดง เร็ว ๆ นี้

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นนั้น
ท่านนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั่วไปจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้มีข้อสั่งการให้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม
บูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 
เพื่อดำเนินการเปิดจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 ขึ้น  แก่พี่น้องผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และประชาชนทั่วไป ให้สามารถมาตรวจคัดกรองโควิด-19 ได้ ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย - ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ในเร็วๆ นี้

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า การเปิดจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 เพิ่มในครั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตน แรงงานนอกระบบ และพี่น้องประชาชนทั่วไป
ที่เดือดร้อนจากการตรวจโควิด-19 ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีอีกทางหนึ่งด้วย กรณีตรวจพบเชื้อและมีอาการจะถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม ส่วนผู้ที่ตรวจพบเชื้อแล้วไม่มีอาการหรืออยู่ในระดับสีเหลืองตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด จะถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ Hospitel ของประกันสังคม ซึ่งจะมีทีมแพทย์และพยาบาลดูแล

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม จะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดรายละเอียดขั้นตอนในการให้บริการตรวจคัดกรองโควิด-19 โดยเร็ว จากนั้นจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทราบในทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจคัดครองเชื้อโควิดได้ และหากพบว่าติดเชื้อจะได้เข้าสู่การรักษาได้อย่างทันท่วงทีต่อไป

“บิ๊กตู่” รับโควิดแพร่ระบาดรุนแรง “ลั่น” จำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มงวด “วอน” ทุกฝ่ายร่วมมือป้องกันตัวเองและใช้สติในการรับข้อมูล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ขณะนี้ ทุกคนทราบดีว่าการแพร่ระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น จากการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดที่แพร่ระบาดได้ง่ายยิ่งขึ้น มาตรการทุกอย่างที่รัฐบาลจะออกมา จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรัดกุม โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และธุรกิจต่าง ๆ 

“ผมได้ติดตามสถานการณ์การระบาดอย่างต่อเนื่องด้วยความไม่สบายใจ และรับรายงานจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์และความจำเป็นในการใช้แผนเผชิญเหตุ เพื่อกำหนดมาตรการการควบคุมโรคที่จะต้องเกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก แต่หากไม่ดำเนินการ อาจจะส่งผลกระทบให้เกิดความรุนแรงมากกว่านี้ ซึ่งเราอาจมีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเข้มงวดมากยิ่งขึ้นในการจำกัดการเคลื่อนย้าย การป้องกันมิให้มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรม การปิดสถานที่เพิ่มเติม และมาตรการอื่นๆที่จำเป็น โดยในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ผมได้เรียกประชุม ศบค. ชุดใหญ่ในเช้าวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) เพื่อพิจารณามาตรการที่ฝ่ายต่าง ๆ ได้เสนอเข้ามา และจะแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบโดยทันที”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคน ช่วยกันดูแล ป้องกันตัวเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติไปด้วยกัน ไม่มีใครหรือประเทศใด ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาโควิดได้สำเร็จโดยคนเพียงคนเดียว หรือหน่วยงานเดียว ในยามที่เปรียบเสมือนการทำสงครามกับเชื้อไวรัสในครั้งนี้ สิ่งที่จะทำให้เราชนะได้ คือความสามัคคีของคนในชาติ ความมีวินัย ความอดทน การร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือกันของคนในชาติ และอีกสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ความมีสติในการรับข่าวสารในยามวิกฤต ที่มีผู้ไม่หวังดีสร้างข้อมูลเท็จที่มุ่งร้ายให้เกิดเข้าใจผิดและสับสนวุ่นวายในสังคมอย่างมากมาย ซึ่งต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมถึงผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการของรัฐที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้อื่นด้วย 

“ผมขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด่านหน้าทุกคนที่ทำงานอย่างเสียสละ และขอสัญญาว่าจะดูแลทุกคนอย่างดีที่สุด ผมและรัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

รองโฆษกรัฐบาล ยัน รัฐดูแลประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ชี้วัคซีน mRNAอยู่ในแผนวัคซีนหลัก รอแค่ส่งมอบ ยก องค์การอนามัยโลก รับรองซิโนแวก-แอสตราฯ-ซิโนฟาร์ม มีประสิทธิภาพ

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่มีการ เตรียมฟ้องรัฐบาล หลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติให้จัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม โดยอ้างว่าการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดได้ ว่าองค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย เผยแพร่ข้อมูลว่าวัคซีนที่ได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งไทยมีวัคซีน 3 ชนิดที่ให้บริการไปแล้ว ได้แก่ แอสตราเซเนกา ซิโนฟาร์ม และ ซิโนแวค ขณะที่แผนจัดหาวัคซีน มีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ มีงานวิชาการรองรับ เป็นไปตามกฎหมายทุกขั้นตอน สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ และทำตามหลักภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ขององค์การอนามัยโลก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนความกังวลว่าวัคซีนซิโนแวคที่สั่งซื้อมาต่อเนื่องอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อที่กำลังแพร่ระบาด ในปัจจุบันข้อมูลทางการแพทย์ พบว่ายังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้แต่ชนิด mRNA แต่ทุกชนิดรวมทั้งเทคโนโลยีเชื้อตาย สามารถลดการป่วยหนักและการเสียชีวิตได้  

ดังนั้น ในระหว่างรอส่งมอบวัคซีน mRNA อาทิ วัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ตามแผนวัคซีนหลัก ในช่วงไตรมาสที่ 4 และโมเดอร์นาซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือก รัฐบาลจึงเร่งจัดหาและฉีดวัคซีนให้ประชาชนในวงกว้างให้มากที่สุดเพื่อลดการป่วยหนักและการเสียชีวิต ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ซึ่งแผนการดังกล่าวภาครัฐได้ดำเนินการและสื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพิ่งอนุมัติจัดหาในการประชุม ครม.ที่ผ่านมา 

วัชระขีดเส้น 30 วันให้โตโยต้าตอบให้ชัดจ่ายสินบนจนท.ไทยนับพันล้านจริงหรือไม่

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ แถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา กรณีที่ได้ส่งหนังสือไปเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมาถึงนายนินนาท ไชยธีรภิญโญ  ประธานคณะกรรมการ นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายประมนต์ สุธีวงศ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีข่าวให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐไทยเพื่อให้ชนะคดีหรือกลับคำตัดสินกรณีภาษีประมาณ 350 ล้านดอลลาร์ ที่ทางการไทยเรียกเก็บจากการนำเข้ารถโตโยต้าพรีอุส และอ้างว่าเกี่ยวกับผู้พิพากษาอาวุโส 3 ท่านในศาลยุติธรรม สร้างความเสื่อมเสียให้กับกระบวนการยุติธรรมไทยเป็นอย่างมาก 

นายวัชระ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าเป็นความจริง อาจเป็นการแอบอ้างหรือเป็นการดิสเครดิตศาลยุติธรรม รู้สึกเสียใจที่ปรากฏเรื่องในทางลบเป็นอย่างยิ่งกับศาลยุติธรรม ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่จะมาลงทุนในประเทศไทยในอนาคต และมีผลกระทบต่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเพื่อให้ความจริงปรากฏ จึงขอให้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยรายละเอียดในเรื่องที่ลูกค้าและประชาชนสงสัยในธรรมาภิบาลของบริษัทโดยด่วนที่สุด 

ล่าสุดทางบริษัท โตโยต้า มีหนังสือตอบกลับมายังนายวัชระว่า บริษัทยึดมั่นที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งในไทยและประเทศอื่น ๆ ให้ความสำคัญต่อข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทำความผิดอย่างจริงจัง และกำลังให้ความร่วมมือกับการสอบสวนที่ยังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงยังไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ เนื่องจากการสอบสวนยังคงดำเนินการไม่เสร็จ และตามที่บริษัทได้เคยแจ้งต่อสาธารณะไปก่อนหน้านี้ว่า ขอบเขต ระยะเวลา และผลสรุปของกรณีดังกล่าวยังไม่เป็นที่ยุติ ดังนั้น จึงอาจเป็นการด่วนสรุปเกินไปที่จะคาดเดาผลของการสอบสวนที่ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่นั้น

จากการชี้แจงของบริษัทโตโยต้านี้ นายวัชระ ได้ถามกลับบริษัท โตโยต้า ว่า การที่อ้างว่าเรื่องอยู่ระหว่างการสอบสวน ใครเป็นผู้สอบสวน เป็นภาครัฐหรือเอกชน มีใครเป็นกรรมการสอบสวนบ้าง และเมื่อผลการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ จะเสร็จเมื่อใด มีการกำหนดระยะเวลาได้หรือไม่ และสิ่งสำคัญที่สุดที่บริษัทสามารถตอบได้ทันทีในขณะนี้ก็คือ มีการจ่ายเงินนับพันล้านบาทให้ใครจริงหรือไม่ ซึ่งบริษัทย่อมต้องมีข้อมูลในฝ่ายบัญชีอยู่แล้ว หากมีการจ่ายจริงก็ต้องบอกว่าจ่ายให้ใคร เป็นจำนวนเท่าใด หรือหากไม่ได้จ่ายก็ต้องบอกให้สาธารณชนได้ทราบ ทั้งนี้ หากยังไม่ได้คำตอบใดๆ ก็จะไปยื่นหนังสือทวงถามอีกครั้งหนึ่งภายใน 30 วัน

“เพื่อไทย” ขู่ รมต.ไม่มาตอบกระทู้ เจอยื่นสอบขัด รธน.จี้หากไม่มาตอบให้ส่งมติ ครม.มาด้วย 

ที่รัฐสภาในการประชุมสภาผู้แทนผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ  รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์พรรคพเพื่อไทย ถามกระทู้สดเรื่องที่ทิ้งขยะ ถามรมว.มหาดไทย ทั้งนี้นายสุชาติ ได้แจ้งว่า รมว.มหาดไทยติดภารกิจขอเลื่อนการตอบกระทู้ออกไป หากนายพรเทพ ต้องการถามรัฐมนตรีต้องยื่นในสัปดาห์ถัดไป หรือจะฝากนายนิพนธ์บุญญามณี รมช.มหาดไทยไป

นายพรเทพจึงฝากรมช.มหาดไทยไว้ก่อน เพราะเป็นปัญหาเร่งด่วนของจังหวัด เนื่องจากวันนี้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่มีที่ทิ้งขยะแล้ว เพราะที่ทิ้งเดิมเป็นพื้นที่ของกองทัพบกไม่ให้ทิ้งแล้ว เพราะหมดสัญญา ขณะที่พื้นที่จ.ประจวบฯ โดยเทศบาลหัวหินเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ดังนั้นเพียงวันเดียวมีขยะกองเต็มหน้าบ้านชาวบ้าน ทางเทศบาลก็ไม่สามารถหาที่ทิ้งได้ ตอนนี้ลามไปถึงจ.เพชรบุรีแล้ว เมื่อรู้ว่าประจวบฯ หาพื้นที่ทิ้งขยะ และมีการออกกฎหมายห้ามทิ้งขยะข้ามจังหวัดซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ จึงขอให้รมว.มหาดไทย ในฐานะที่เป็นทหารโทรไปบอกน้องๆที่กรมการทหารราบว่า ขอใช้พื้นที่ชั่วคราวก่อน 2 ปีได้หรือไม่ เพื่อให้เทศบาลตำบลเขาน้อย ที่กำลังตั้งศูนย์กำจัดขยะ แต่ติดขั้นตอนทางกฎหมาย10 ขั้นตอน ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อน

ซึ่งนายนิพนธ์ รับทราบปัญหาและจะนำปัญหาไปเรียนให้รมว.มหาดไทยรับทราบเพื่อให้มีข้อสั่งการลงไป

ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นปรึกษา ว่า เมื่อสักครู่ไม่ใช่กระทู้ แต่เป็นการฝากปัญหา เพราะไม่ครบถ้วนกระบวนความในการพิจารณากระทู้ เพราะรัฐมนตรีบอกว่าติดภารกิจ และขอเลื่อนโดยไม่ได้มอบหมายใคร ซึ่งทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของสภาฯเสื่อมเสีย ทั้งนี้การไม่มาตอบกระทู้ ในรัฐธรรมนูญมาตรา 150 ระบุชัดเจนว่าไม่มาตอบได้ เมื่อครม. เห็นว่าเป็นความจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ แต่นี่ไม่มาตอบโดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม ครั้งหน้าถ้าเป็นแบบนี้ขอให้ทางครม.ส่งมติครม.มาด้วย ว่ามีความจำเป็นอย่างไรจึงไม่ตอบ ถ้าไม่เช่นนั้นครั้งหน้าเราคงต้องยื่นเรื่องว่าท่านจงใจกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญ สัปดาห์หน้าเราจะดูความเปลี่ยนแปลง ถ้าครม.ไม่มาตอบอีกคงต้องดำเนินการจริงๆ 

ศบค. ย้ำ ใครเดินทางจากพื้นที่สีแดง-สีแดงเข้ม ไปจว.ปลายทางต้อง แยกกัก 14 วัน 100% วอน ทุกคนอดทนในวันนี้แล้วเราจะชนะไปด้วยกัน

ที่ศบค.ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)ตอบข้อซักถามถึงกรณี ที่มีกระแสข่าวว่าทางกระทรวงสาธารณสุขเสนอให้ล็อกดาวน์ 14 วันเริ่มศุกร์ 9 ก.ค.นี้ จริงหรือไม่ ว่า ในที่ประชุมไม่มีคำว่าล็อกดาวน์ สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอในวันเดียวกันนี้ต่อที่ประชุมคือการปรับมาตรการโดยมีรายละเอียดว่ากิจการกิจกรรมใดมีการปรับระยะเวลาเปิดปิดอย่างไร พื้นที่ไหนจังหวัดใด แต่ยังไม่มีการสรุปออกมาเป็นข้อสรุปเพราะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาและอนุมัติในวันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคมนี้ก่อน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการเดินทางข้ามจังหวัดยังทำได้หรือไม่ หากมีความจำเป็นต้องเดินทางจริงๆต้องปฏิบัติอย่างไร พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ศบค. เน้นย้ำเสมอว่าขอพี่น้องประชาชนงดเว้นการเดินทาง ไม่แนะนำให้เดินทางยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็นจริงๆ และขณะนี้มีการรายงานข่าวว่ามีบุคคลที่กำลังรอผลตรวจว่าติดเชื้อ โควิด-19 หรือไม่ได้เดินทาง จึงขอให้ทางโรงพยาบาลที่ตรวจเชื้อเน้นย้ำด้วยว่าขณะรอผลตรวจนั้นไม่ควรเดินทาง รวมไปถึงอีกกรณีหนึ่งคือเมื่อรู้ผลว่าติดเชื้อโควิด-19 แล้ว มีความพยายามเดินทางกลับจังหวัดภูมิลำเนาเพื่อไปรับการรักษา อันนี้ก็ไม่แนะนำเช่นกันเพราะเมื่อติดเชื้อเป็นผู้ป่วยแล้วทางสาธารณสุขเห็นว่าจะต้องได้รับการพักผ่อน พักปอด แต่ขณะเดินทางจะทำให้เกิดความเหนื่อยล้า อาจจะทำให้อาการปอดอักเสบทรุดลงอย่างรวดเร็ว และยังมีความเป็นห่วงของเรื่องการแพร่กระจายเชื้อ ไปยังผู้อื่นขณะเดินทางด้วย

แต่ในกรณีที่มีความจำเป็นจริงๆ สาธารณสุขแนะนำว่าก่อนเดินทางขอให้ติดต่อไปยังศูนย์ประสานงานรับคนกลับบ้าน ของจังหวัดปลายทางด้วย ซึ่งอาจจะเป็นโรงพยาบาลหรือสาธารณสุขจังหวัด หรือบุคลากรสาธารณสุข ขออย่าได้ไปโดยที่ถือผลว่าติดเชื้อไปเฉยๆ เพราะโรงพยาบาลปลายทางจะเตรียมรับมือ เตรียมเตียงให้ไม่ทัน และมีข้อแนะนำว่าระหว่างเดินทางนั้นจะต้องไปโดยรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีการลดกระจกลงเพื่อระบายอากาศ ไม่เช่นนั้นอาการจะทรุดลงได้ เตรียมหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ให้เพียงพอ เตรียมยารักษาโรคประจำตัวไปด้วย รวมถึงเตรียมอาหารและน้ำ ไปให้เพียงพอ ไม่ควรแวะพัก ที่ปั๊มน้ำมันใดๆ เพราะอาจจะมีความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ 

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือบุคลากรสาธารณสุขของจังหวัดปลายทางจะต้องรู้ ครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติมิตร จะต้องรู้ และต้องเข้าใจว่าเมื่อเดินทางกลับไปถึงจังหวัดปลายทางแล้วจะต้องแยกกัก ถึงแม้ว่ายังไม่มีผลยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อ แต่ถือว่าท่านเดินทางจากพื้นที่เสี่ยงสีแดง สีแดงเข้ม เพราะฉะนั้นการกักตัวเป็นสิ่งที่ต้องขอให้ทุกคนทำ 100 เปอร์เซ็นต์ 

ช่วงท้ายนี้ขอฝากว่า มาตรการที่จะเสนอที่จะเข้าที่ประชุมศบค.ใหญ่ ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้อาจจะมีข้อจำกัด ความติดขัดที่อาจจะทำให้ประชาชนหลายส่วนเกิดความไม่สะดวก คงต้องขออภัยมาในโอกาสนี้ด้วย ในยามนี้การปรับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น อาจมีความจำเป็น และต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งสถานประกอบการ และประชาชน ขอย้ำว่าเรามีความอดทนในวันนี้ แล้วที่สุดเราจะชนะไปด้วยกัน

‘บิ๊กตู่’ เรียกประชุม ศบค.ด่วนพรุ่งนี้ 10 โมงเช้า ลือหึ่ง ขอความร่วมมือปิดห้าง พิจารณาเรื่องการล็อกดาวน์ หากตัวเลขผู้ติดเชื้อทะยานถึงหลักหมื่น

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แจ้งว่าจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากทุกวัน ส่งผลให้มีกระแสข่าว แพร่สะพัดเรื่องการประกาศล็อกดาวน์ประเทศ รวมถึงการประกาศเคอร์ฟิวส์มาใช้อีกครั้ง ทำให้พ่อค้า แม่ค้าตื่นตระหนก ว่าสถานการณ์จะต้องกลับไปเหมือนเดิมอีกครั้ง คือต้องหยุดกิจการ ร้านค้าอีก ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวเตรียมความพร้อมในการปรับวิถีชีวิต รวมกันทั้งเริ่มมีการตุนเสบียงอาหารสดกัน

ล่าสุดมีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เรียกประชุมด่วนศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ผ่านระบบ Video Conference เพื่อประเมินสถานการณ์ และคาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องล็อกดาวน์ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันอังคารที่ 13 ก.ค ทันที โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่าจะมีการพิจารณาในส่วนของห้างสรรพสินค้าที่อาจจะขอความร่วมมือให้ปิดบริการระยะหนึ่ง

ส่วนบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบตามปกติ เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ยังคงเดินทางมาเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ที่ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล พร้อมกันไป


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กป้อม”โยน รอฟังศบค.เคาะ “ล็อก? ไม่ล็อกดาวน์”

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอให้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ เนื่องจากเวลานี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และเสียชีวิตสูงต่อเนื่อง ว่า"รอประชุมๆ" เมื่อถามว่าจะมีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. ในวันที่ 9 ก.ค.นี้เลยหรือไม่ พล.อ.กล่าวว่า "ก็ไม่รู้"  ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีแนวโน้มจะล็อกดาวน์ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ส่ายศีรษะก่อนจะเหลียวมามองผู้สื่อข่าว และกล่าวว่า "ก็ไม่รู้" 

“บิ๊กตู่”เรียกประชุม ศบค.ด่วนพรุ่งนี้ 10 โมงเช้า “ลือหึ่ง” ขอความร่วมมือปิดห้าง พิจารณาเรื่องการล็อกดาวน์ หากตัวเลขผู้ติดเชื้อทะยานถึงหลักหมื่น

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด 19 หรือ ศบค.แจ้งว่าจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากทุกวัน ส่งผลให้มีกระแสข่าว แพร่สะพัดเรื่องการประกาศล็อคดาวน์ประเทศ รวมถึงการประกาศเคอร์ฟิวส์ มาใช้อีกครั้ง ทำให้พ่อค้า แม่ค้าตื่นตระหนก ว่าสถานการณ์จะต้องกลับไปเหมือนเดิมอีกครั้ง คือต้องหยุดกิจการ ร้านค้าอีก ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวเตรียมความพร้อมในการปรับวิถีชีวิต รวมกันทั้งเริ่มมีการตุนเสบียงอาหารสดกัน 

ล่าสุดมีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เรียกประชุมด่วนศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) 
ผ่านระบบ Video Conference เพื่อประเมินสถานการณ์ และคาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องล็อคดาวน์ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันอังคารที่ 13 ก.ค ทันที โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่าจะมีการพิจารณาในส่วนของห้างสรรพสินค้าที่อาจจะขอความร่วมมือให้ปิดบริการระยะหนึ่ง

ส่วนบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  เดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบตามปกติ เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ยังคงเดินทางมาเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล  พร้อมกัน 

“สนธิญา” ร้อง กกต.ยุบเพื่อไทย กรณีให้ข้อมูลเท็จ  สร้างความเข้าใจเรื่องวัคซีนโควิดไม่ถูกต้อง ผิด ม.45 กม.พรรคการเมือง  

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสนธิญา  สวัสดี เดินทางมายื่นหนังสือต่อกกต. เพื่อขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย จากการกระทำการที่ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560  มาตรา 45  ของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย 3 คน ที่กระทำผิดมาตรา 45  และเป็นไปตามบทกำหนดโทษ ในมาตรา 92  (3) และ(4)  โดยขอให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิทางด้านการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยทั้งหมด  

นายสนธิญา กล่าวว่า การแถลงข่าวของ 3 คน  ประกอบด้วยการแถลงข่าวของ  น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย  ที่ระบุถึงวัคซีนแอสต้าเซเนก้าว่าขยะเขาคือสมบัติของเราในการแถลงข่าว ว่าวัคซีนแอสต้าเซนเนก้า ต่างประเทศเขาไม่ใช้แล้ว เป็นขยะที่เขาไม่รับ  แต่ทั้งที่วัคซีนแอสต้าเซนเนก้ายังเป็นวัคซีนหลักของประเทศเรา ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนไปแจ้ง ปอท.แล้ว  ซึ่งในเรื่องนี้ทางกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ระบุว่าวัคซีนแอสต้าเซเนก้า  มีคนจองมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมากว่า 3 พัน 9 ล้านโดส   การที่โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลง ถือเป็นการใช้ความเท็จ ขัดต่อ  พ.ร.บ.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อร้ายแรง  ทำให้ประชาชนเกิดความกลัวในการที่จะไปฉีดวัคซีน

การแถลงของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานะหนี้ของประเทศ 9 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนร้อยละ 60  แต่จาการแถลงของกระทรวงการคลังระบุว่าหนีสาธารณะของประเทศไทยอยู่ที่ 8.8 ล้านล้านบาท และหนี้ครัวเรือนร้อยละ 8.1 การที่นายพิชัยพูด ที่พบว่าหนี้อีกกว่า 1 ล้านล้านบาท  เอามาจากไหน  เพราะอย่าลืมว่า 1 ล้านล้านบาทเท่ากับ ร้อยละ 40 ของรายจ่ายประเทศไทยทั้งประเทศ 1 ปี  การแถลงไม่ตรงกับความเป็นจริง ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้จึงถือว่าเป็นการก่อกวน ทำให้เกิดความไม่เรียบร้อยในประเทศ  

และการที่นายอนุสรณ์  เอี่ยมสะอาด  แถลงว่ารัฐบาลชุดนี้จะปราบโกง  แต่พบพวกตัวเองโกงมากกว่าอีก  จึงขอถามกลับไปที่นายอนุสรณ์ว่าที่เคยแถลงมาเคยไปฟ้อง ไปร้อง ป.ป.ช หรือหน่วยงานไหนหรือไม่   หากพบทุจริตจะต้องไปร้องกับหน่วยงานต่างๆ ทุกแห่งอย่างที่ตนทำ  ไปร้องจนนายกฯอยู่ประเทศไทยไม่ได้เหมือนนายกฯทักษิณ และ นายกฯยิ่งลักษณ์  แต่เรื่องที่แถลงไม่เคยเห็นนำไปสู่การแจ้งความหรือดำเนินคดี  รวมทั้งข้อมูลการอภิปรายในสภาฯ ก็ไม่สามารถนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลได้ 
เพราะฉะนั้นการแถลงไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ซึ่งการแถลงของทั้ง 3 คน ที่แถลงในนามนักการเมืองและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา  45   และบทลงโทษตาม มาตรา 92  กกต.พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค   และในเรื่องลักษณะเช่นนี้จะใช้ตรวจสอบพรรคก้าวไกลต่อไปที่ให้ข้อมูลเท็จ   

นายสนธิญา  ยังเรียกร้องทุกพรรค ทุกฝ่ายมาร่วมกันแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.โรคติดต่อ การจะให้ข้อมูลไปสู่ประชาชนน่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์  และเมื่อ 2 วันที่แล้วตนยังไปฉีดแอสต้าเซนเนก้า สิ่งเล่านี้อยากให้การแถลงข่าวเป็นประโยชน์ประชาชน อย่าก่อกวน แต่อ้างรัฐธรรมนูญให้สิทธิ 

“วันนี้การกระทำนั้นเป็นการก่อกวน แล้วทำให้ประชาชนคนไทย ไม่สงบเรียบร้อย และบางส่วนจึงเป็นที่มาของการไม่เข้าไปฉีดวัคซีน และเรียกร้องวัคซีนใหม่ แต่วัคซีนทุกๆตัวก็ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และผ่าน อย. และกรมการแพทย์ เพื่อให้เป็นวัคซีนที่เป็นประโยชน์กับประชาชน  ซึ่งผมก็ฉีดมาแล้ว ไม่มีผลกระทบ หรือฟี๊ดแบ๊คใดๆ”  นายสนธิญา กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top