Wednesday, 9 July 2025
POLITICS NEWS

‘บิ๊กป้อม’ ชักธงรบลุยพื้นที่ภาคอีสาน เตรียมเยือน ‘หนองบัวลำภู’ 17 ก.ย.นี้

‘พลเอกประวิตร’ ชักธงรบ ‘หนองบัวลำภู’  ไปต่อไม่รอแล้วนะ  ชี้ชาวอีสานต้อง ‘อยู่ดีมีแฮง’  ย้ำ 17 กันยานี้พ่อกันเด้อ 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ในฐานะทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากการที่พรรคพลังประชารัฐจัดกิจกรรมลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในหลายจังหวัดที่ผ่านมา มีเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนอย่างล้นหลาม ล่าสุดพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีกำหนดการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนที่ จ.หนองบัวลำภู ในวันที่ 17 กันยายน 2565 ภายใต้ชื่องาน ‘พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน’ ที่ร้านดงตาลคาเฟ่ & นัวเว่อร์ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พลังประชารัฐ มุ่งเดินหน้าไปต่อ โชว์ผลงาน โชว์ความพร้อม ที่จะดูแลทุกคนในประเทศไทย โดยภายในงานจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสาน  ทั้งมีการจัดแสดงผลงานของรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ ‘บัตรแก้จน’ ที่มีประชาชนกว่า 20 ล้าน ได้รับ และสามารถช่วยให้มีกินมีใช้ของจำเป็น ทั้งใช้ง่าย สะดวกรวดเร็วและเข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่ 

การลงโรดโชว์ครั้งนี้ จะแสดงถึงโครงการรักษาป่าต้นน้ำ ที่เพิ่มผืนป่ามากถึง 10 ล้านไร่ สร้างป่าเพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 สร้างวิถีชุมชนกับป่าอยู่ร่วมกันได้ และโครงการพัฒนาน้ำบาดาล ที่ทำให้ไม่มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ง ที่สามารถกักเก็บน้ำ พัฒนาต่อยอดเกษตรกรไทย พลิกชีวิตเกษตรกรไทยให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวหนองบัวลำภูชื่นชอบ ที่สามารถทำมาหากินได้ ส่วนเวทีเสวนาจะจัดแบบใกล้ชิด แบบอบอุ่น เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้สมัคร ส.ส. กับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อสรุปเป็นแนวนโยบายเสนอต่อท่าน พล.อ.ประวิตร เพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ไขและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนต่อไป 

“บรรยากาศในงานจะเป็นไปด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเองอย่างที่เคยจัดกิจกรรมในหลายพื้นที่ ให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้ถึงผลงานของรัฐบาล ที่รัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐได้ผลักดัน จนเกิดเป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม สะท้อนการพูดจริง ทำจริง และเกิดผลสำเร็จจริงแบบยั่งยืนให้พี่น้องประชาชนชาวอีสานอยู่ดี กินดี หรือ ภาษาอีสาน บอกว่า อยู่ดี มีแฮง จึงเชื่อมั่นว่าจะมัดใจพี่น้องประชาชนและให้สนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งหน้า” น.ส.ทิพานัน กล่าว

‘นันทิวัฒน์’ เชื่อ!! สนุกแน่ หาก ‘ลุงตู่’ หลวมตัวยุบสภา

(16 ก.ย. 65) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า…

ยุบเลย ๆ 

ตกใจเสียงเรียกร้องจากนักการเมืองให้ยุบสภา 

จะให้ยุบสภาจริง ๆ หรือเปล่า หรือพูดเอาเท่ จะให้ยุบสภาจากสาเหตุน้ำท่วมอย่างนั้นหรือ น้ำท่วมปีนี้ มันไม่ได้รุนแรงอะไร มันเทียบไม่ได้กับเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 ที่บอกว่า เอาอยู่ ๆ น้ำท่วมคราวนั้น ความเสียหายระดับแสนล้าน น้ำท่วมโรงงานที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเสียหาย คนรับผืดชอบต้องร้องไห้น้ำตาตก

ดอนแปลว่าที่สูง ทุ่งแปลว่าที่น้ำท่วมถึง ภาษาไทยบอกสภาพทางกายภาพของแผ่นดินชัดเจน แต่ปี 2554 น้ำท่วมมิดสนามบินดอนเมือง ขนาดที่ดอนยังท่วมเลย น้ำฝนมันเยอะมากหรือปัญหาการบริหารจัดการ แต่ที่อยากชวนคิดคือ การยุบสภา ใครมีอำนาจยุบสภา นายกรักษาการมีอำนาจยุบสภามั้ย หรือต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินชะตาประเทศก่อน 

'ภณณัฏฐ์' อัดรัฐบาลทอดทิ้งประชาชนป้องกันน้ำท่วมเองไร้เหลียวแล ชาวนนท์ไม่ทน เร่งสร้างแนวป้องน้ำกันเอง หวังลดความเสียหายดีกว่ารอเงินชดเชยจากรัฐ

นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พบว่าประชาชนกังวลกับสถานการณ์น้ำท่วมเป็นอย่างมาก ทั้งนี้พบว่าปีนี้ น้ำมาเร็วและมาแรงอย่างมาก รวมทั้งปริมาณน้ำมากกว่าปี 2564 หวั่นพนังกั้นน้ำที่องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นทำไว้จะกันน้ำไม่อยู่

ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร องค์กรส่วนท้องถิ่น รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการหารือ เพื่อวางมาตรการป้องกันน้ำท่วมอย่างเต็มที่ทั้งการพร่องน้ำ ขุดลอกคูคลอง และสร้างพนังกั้นน้ำตามริมน้ำ โดยทำกันเองไม่รอการช่วยเหลือจากรัฐ การดำเนินการทั้งหมดแม้อาจจะไม่สามารถป้องกันน้ำล้นตลิ่งน้ำท่วมได้ทั้งหมด แต่สามารถลดความเสียหายที่จะกระทบกับพี่น้องประชาชนได้ในระดับหนึ่ง

‘ศุภชัย’ เสียดายร่างพ.ร.บ.กัญชาฯโดนตีตก ข้องใจบางพรรคจับมือคว่ำ ทั้งที่มีตัวแทนร่วมร่าง

‘ศุภชัย’ เสียดายร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชงโดนตีตก ชี้ฝ่ายการเมืองจับมือคว่ำ ทั้งที่มีตัวแทนร่วมร่าง เห็นทุกขั้นตอน มีช่องหารือ แต่กลับเลือกใช้สภาฯล่มกฎหมาย ทำร้ายน้ำใจคนทำงาน 

เมื่อวันที่ (16 ก.ย. 65) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ...  กล่าวกรณีที่ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ว่า การถอนร่างที่เกิดขึ้นปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากแรงกดดันทางการเมือง โดยอ้างความเป็นห่วงต่อสังคมที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกัญทางการแพทย์ ปัญหาคือถ้าเป็นห่วงควรจะให้ร่างกฎหมายผ่าน เพราะกฎหมายฉบันนี้ควบคุมการใช้ ให้เป็นไปในทางที่ถูกต้อง กมธ. ในฐานะผู้ร่างฯ นำทุกความเห็น ทุกข้อเสนอแนะ ทุกความห่วงใย มาทำเป็นกฎหมาย เพื่อให้การใช้เกิดประโยชน์สูงสุด และเกิดโทษน้อยที่สุด แต่บางพรรคการเมืองกลับตีตก กดดันให้มีการนำกลับไปพิจารณาใหม่ ย้อนแย้งกับที่บอกว่าเป็นห่วงเยาวชน เป็นห่วงสังคม เพราะถ้าเป็นห่วงกันจริง ๆ มีกฎหมายดูแลการใช้ที่ดีมากขนาดนี้ มาอยู่ตรงหน้า ท่านต้องเร่งให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาค้านกันแบบนี้ 

“แล้วกฎหมายฉบับนี้ เราตั้งใจร่างกันอย่างมาก มีคนไปปั่นข่าวว่า ไม่มีพ.ร.บ. ออกมาคือเรื่องดี เพราะนี่คือพ.ร.บ.ปลดล็อก ออกมาแล้ว จะใช้สายนันทนาการได้ ขอบอกว่า มั่วกันไปใหญ่แล้ว นี่คือกฎหมายที่เข้ามาดูแลการใช้ ให้มันถูกต้องเหมาะสม กฎหมายคุมเข้มกว่าเดิม เข้าใจง่ายกว่าเดิม ยกตัวอย่าง วันนี้บนถนนข้าวสาร มีร้านขายช่อดดอก ด้านหลังมีห้องสูบ แต่ในกฎหมายตาม พ.ร.บ. นี่ห้ามเลย คุณต้องขออนุญาต แล้วมันจะไม่มีห้องสูบเลย เพราะเขาไม่อนุญาต แล้วในกฎหมายมันคุมเข้มมาก ตามกฎหมายที่ถูกคว่ำ จะมาขายใกล้วัด ใกล้โรงเรียนไม่ได้เลย” นายศุภชัย

นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ประหลาดใจคือในกมธ.ที่ร่างกฎหมายก็มีส.ส.ของพรรคนั้น ๆ เข้าไปร่วมร่างอย่างครบถ้วน สะท้อนว่าคณะผู้ร่างให้เกียรติทุกพรรคอย่างยิ่ง แล้วท่านที่เป็นตัวแทนของพรรคการเมืองต้องเห็นทุกขั้นตอนอยู่แล้ว ว่ากมธ.จะเขียนกฎหมายอย่างไร มีเจตนาอย่างไร เท่ากับสามารถนำสิ่งที่ที่ท่านทราบในที่ประชุม ไปหารือกันในพรรคได้ แล้วถ้ามีข้อข้องใจก็นำกลับมาแก้ไขกันใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องรอคว่ำร่างเลย ทำแบบนี้มันคิดได้แต่เป็นเรื่องการเมือง ล้มกฎหมายโชว์กันซึ่ง ๆ หน้า ไม่ฟังเหตุผล ไม่สนใจคนทำงาน และเชื่อว่าผู้ร่างกฎหมาย ที่เป็นตัวแทนจากพรรคการเมือง ได้คุยกันในพรรคแน่นอน เพราะท่านก็เหนื่อย ก็ตั้งใจ แต่เมื่อทางพรรคมีธงไว้อยู่แล้ว ความพยายามของท่านจึงไม่มีเหตุผลอันใด ส่วนตัวไม่ได้ตำหนิ ตัวแทนของพรรคที่มาเหน็ดเหนื่อยกับกมธ. เพราะเชื่อว่า ท่านเองไม่ต้องการเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เนื่องจากตลอดระยะเวลาการทำหน้าที่ ทุกท่านแสดงออกถึงความทุ่มเทในการทำงาน แต่ปัญหาคือ เมื่อพรรคท่านมีเป้าหมายไว้แล้วว่าจะคว่ำกฎหมายฉบับนี้ และคงไม่ฟังความเห็นของตัวแทนที่เข้าไปร่วมร่าง พ.ร.บ.กัญชา 

“มันตลกมาก เมื่อนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคภูมิใจไทย บอกว่าการที่กมธ.ปรับจากกฎหมายเดิมเยอะขึ้น แล้วท่านเกรงว่าไม่มีความรอบคอบ ทั้งที่การปรับเยอะขึ้น คือการที่เราเห็นจุดบกพร่อง แล้วเรานำมาแก้ไข มีเจตนา เพื่อให้การใช้กัญชาเป็นไปอย่างเข้มงวด ที่เราทำให้กฎหมายมันเข้มข้น ก็เพราะตอนนั้น มีความห่วงกังวลกันมา เราก็แก้ไขตาม ไม่ได้แปลว่า จะไม่รอบคอบ และถ้าท่านกลัว ท่านก็ให้พิจารณาต่อ แล้วมาแก้กันทีละข้อสิ แต่ท่านก็ไม่ทำ ขอถามกลับ สมมติ ถ้าเราปรับแก้น้อย ท่านจะบอกว่าเราทำดีกระนั้นหรือ กลับกันผมสงสัยว่า ถึงจะปรับน้อย ท่านจะบอกว่าเราไม่รอบคอบอยู่ดี เพราะท่านมีธงในใจแล้ว” นายศุภชัย กล่าว 

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การถอนร่างออกไป ไม่ได้แปลว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยล้มเหลว เพราะกัญชาได้ออกจากความเป็นยาเสพติดแล้ว เป็นไปตามการทำงานในสภาที่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติด เมื่อช่วงเดือนมิ.ย. 2564 ซึ่งตอนนั้น เดินหน้าได้อย่างราบรื่น ส.ส., ส.ว. เห็นด้วย ต่อมาจึงเป็นขั้นตอนของ คณะกรรมการป.ป.ส. ซึ่งก็เห็นชอบปลดกัญชาออกจากยาเสพติด แล้วให้รัฐมนตรีสาธารณสุขรับรองลงนาม ทำให้กัญชา ไม่เป็นยาเสพติด ยกเว้นสารสกัดที่มีค่า THC สูงกว่า 0.2% กฎหมายบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ (9 มิ.ย. 2565) หลังจากนั้น มีประกาศมากมายออกมาควบคุมการใช้ เท่ากับว่า นโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ทำสำเร็จแล้ว แต่ที่เราเสียดายคือพ.ร.บ.ที่พรรคการเมืองเพิ่งตีตกไป มันจะทำให้การใช้กัญชานั้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก เพราะเราเอาทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้องมารวมกันเลย คนที่ใช้ทางการแพทย์ จะมีหลักยึด ผู้ที่ใช้ในฐานะพืชเศรษฐกิจก็เช่นกัน ส่วนคนที่ใช้ ในทางนันทนาการ จะมีกฎหมายควบคุมเข้มงวดขึ้น แต่ถามว่า เราท้อแท้ไหม จะปล่อยให้กฎหมายถูกตีตกไปดื้อๆไหม ขอตอบว่า ไม่ ทางพรรคภูมิใจไทย จะกลับมาทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ เช่นกันกมธ. เท่าที่คุยกันมา ไม่มีใครท้อ ตัวแทนจากพรรคที่โหวตต้านกฎหมายก็ไม่ท้อ และรู้สึกเสียดายเช่นเดียวกับกระผม เราจะทำทุกทางเพื่อให้ พ.ร.บ. กัญชาผ่านมติในสภา และเป็นกฎหมายสำคัญ ที่จะทำให้กัญชา กลายเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

'สมคิด' เจอมวยเด็กค่ายพระแม่ธรณีสวนปลายคางน็อกคา 'โพเดียม' เมื่อ 'ประกันรายได้' ไม่เคยสร้างปัญหาเท่านโยบายเฮียก(ล)วง

#นายหัวไทร

คงจะเป็นประเด็นร้อนไปอีกสักพัก สำหรับวาทกรรมทางการเมืองของ 'สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' ประธานยุทธศาสตร์พรรคสร้างอนาคตไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคสร้างอนาคตไทย กับการพูดบนเวทีสัมมนา 'อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง' ที่ จ.ภูเก็ต โจมตีการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยระบุว่า "ภาคใต้มี ส.ส.มาตลอด ส.ส.ทำอะไร ผมนั่งอยู่ใน ครม.ไม่ได้ยินสักแอะเลย หรือเป็นเสาไฟฟ้า มีแต่ประกันรายได้ ประกันทั้งปีเลย ของหมูๆ อย่างนั้นใคร ๆ ก็ทำได้ ว่าจะไม่ว่าแล้วเชียว"

แน่นอนว่าในทางการเมืองก็ต้องชกเสยคางแชมป์อย่างประชาธิปัตย์ ภูเก็ตเป็นถิ่นเดิมของประชาธิปัตย์ แต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ถูกพรรคพลังประชารัฐยึดไปทั้งสองเขตเลือกตั้ง ภูเก็ตจึงกลายเป็นสนามเลือกตั้งที่หลายพรรคหวังเข้าไปแย่งชิง ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และได้ข่าวว่าพรรคชาติพัฒนาของ 'สุวัจน์ ลิปตพัลลพ ก็ซุ่มเงียบเก็บตัวฟิตซ้อมอยู่เหมือนกัน เตรียมประกาศท้าชกในไม่นานนี้ หลังจากเสี่ยสุวัจน์ไปซุ่มลงทุนทำธุรกิจอยู่ในภูเก็ตเหมือนกัน

คำพูดของ 'สมคิด' มันทิ่มแทงยอดอกของประชาธิปัตย์ตรง ๆ เสือปืนไวอย่าง 'แจ็ค-วัชระ เพชรทอง' อดีต สส.ประชาธิปัตย์ ออกโรงตอบโต้สมคิดแต่เช้า "สมคิดไปนอนห้าวอยู่ที่ไหน จึงไม่ได้ยิน สส.ใต้พูด และเป็นการปรามาท สส.ใต้ว่าเป็นวัตถุเสาไฟฟ้า ไม่มีชีวิตจิตใจ วัชระออกโรงไล่สมคิดให้กลับไปเลี้ยงลูกคนเล็กดีกว่า"

สัมทับด้วย 'แทน' ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ว่า นายสมคิด คงไม่ทราบว่า นโยบายประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ผลตรงตามที่ทางพรรคฯ ตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยมีขั้นตอนน้อยที่สุด และรบกวนงบประมาณน้อยที่สุด ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ไม่มีปัญหาให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ในภายหลัง ไม่เหมือนกับนโยบายที่นายสมคิด คิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ต่างมีปัญหาวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเป็นอย่างมาก เช่น พักหนี้เกษตรกรรายย่อย 3 ปี วงเงินไม่เกิน 1 แสนบาทนั้น ปรากฏว่า เป็นเพียงการไม่จ่ายหนี้ แต่ดอกเบี้ยกลับสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ และเกษตรกรผู้เข้าโครงการต้องกลายเป็นเหยื่อของหนี้นอกระบบ นโยบายกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยได้ ก็ถูกวิจารณ์ถึงการกู้ยืมเงินเพื่อไปซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยมาบำเรอความสุขของตัวเอง โดยเงินจำนวนดังกล่าวหมุนกลับไปยังกลุ่มทุนที่สนับสนุนรัฐบาลในเวลานั้น รวมถึง นโยบายที่มีการดำเนินการในปัจจุบัน เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะต้องมีการปรับหลักเกณฑ์ผู้ที่ได้รับสิทธิใหม่ เพราะมีหลายรายที่ควรจะได้สิทธิ์ แต่ก็ไม่ได้สิทธิ์ หลายรายที่จนไม่จริง แต่กลับได้ใช้สิทธิจริง

‘บิ๊กป้อม’ ประชุม คกก. ‘บริหารทรัพยากรน้ำ’ หาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพ รองรับปัญหาน้ำทุกมิติ

พล.อ.ประวิตร ประชุม คกก. ‘บริหารทรัพยากรน้ำ’ ผ่านงานวิจัย สอวช. ร่วมกับ TDRI เน้นเพิ่มประสิทธิภาพ ปิดช่องว่าง/ลดซ้ำซ้อน รองรับปัญหาน้ำทุกมิติ รวดเร็ว เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน

(16 ก.ย. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการกำหนดนโยบายขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ของประเทศ ครั้งที่ 3/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา เห็นชอบผลการศึกษา โครงการวิจัยการศึกษานวัตกรรม เชิงระบบ โครงสร้างและกลไกการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ของประเทศ ทั้งนี้ สำนักงาน สภานโยบาย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ได้จัดทำ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) โดยดำเนินการศึกษาตามกรอบ เพื่อรองรับระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยมีข้อสรุปซึ่งเป็นแนวทางการเสริมสร้างความเข้มแข็งของ สทนช.ได้แก่ 

1.) เสริมสร้างความเข้มแข็งในระดับลุ่มน้ำ โดยการจัดตั้งสำนักบริหารจัดการลุ่มน้ำ 1-22 
และ 2.) เพิ่มการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการลุ่มน้ำ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรผู้ใช้น้ำ โดยการจัดตั้งกองส่งเสริมองค์ความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร (กอส.) 

'เท่าพิภพ' เฮ!! ฉลุยร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าวาระแรก หวังวาระต่อไปทุกคนช่วยโหวตผ่าน

เท่าพิภพ ขอบคุณทุกฝ่าย ปิดฉากสมัยประชุม พร้อมกับร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับเสร็จสมบูรณ์ หวังวาระต่อไปทุกคนโหวตผ่านฉลุย

เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสรรพสามิต หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พร้อมด้วย คริส โปตระนันทน์ โฆษกกรรมาธิการ ได้เเถลงข่าวเนื่องในโอกาสที่ร่างพ.ร.บ. ได้พิจารณาเสร็จสิ้นว่า "ผมยอมรับว่ามันเป็นสามเดือนที่เหนื่อยมาก เเละเป็นวันที่เหลือเชื่ออย่างยิ่งที่ร่างพรบ.ผ่านมาได้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ก้าวใกล้ความฝันได้อีกก้าวหนึ่ง และผลงานของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นผลงานของทุกพรรคการเมืองเเละสภาเเห่งนี้ที่ช่วยผลักดันในชั้นกรรมาธิการให้ร่างกฎหมายออกมามีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นเเละคิดว่ารอบโจทย์ข้อกังวลในหลายๆเรื่องของสมาชิกสภาที่ได้อภิปรายไว้ในวาระที่ 1" เท่าพิภพกล่าว

"ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ช่วยส่งเสียงรณรงค์เเละสนับสนุน ประธานกรรมาธิการ กรรมาธิการทุกท่าน ที่เเม้จะมีข้อถกเถียงกันในหลายประเด็นเเต่สุดท้ายก็พิสูจน์ให้เห็นกระบวนการกรรมาธิการของสภาคือที่ที่เปิดกว้างให้ได้ถกเถียงเเต่สุดท้ายก็หาจุดร่วมกันได้" 

ก่อนเท่าพิภพจะกล่าวต่อไปว่าในอนาคตตนมั่นใจและไม่ห่วง และมั่นใจมากกว่าวาระแรก "โดยพรบ.จะเข้าพิจารณาในวาระที่ 2 และวาระ 3ในอนาคต ผมเองไม่ได้ห่วง เเต่กลับมั่นใจมากขึ้นกว่าตอนวาระที่ 1 เพราะเชื่อว่ากรรมาธิการจากทุกพรรคจะไปอธิบายถึงเนื้อที่ได้พิจารณามาอย่างรอบคอบเเละเป็นประโยชน์ที่สุดกับประชาชนคนตัวเล็ก ที่พวกเขาจะได้รับโอกาสทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากการปลดล็อคสุราก้าวหน้าครั้งนี้ แต่ก็ยังต้องจับดูหากผ่านสภาผู้แทนฯ ไปเเล้ว ขั้นตอนต่อไป วุฒิสภาจะต้องลงมติเห็นชอบต่อไป ซึ่งผมขอวิงวอนให้ประชาชนจับตาว่าฝั่งจะมีสมาชิกวุฒิสภาหรือผู้ใดจะล้มร่างกฎหมายของประชาชนหรือไม่" เท่าพิภพกล่าวถึงความสำคัญของก้าวต่อไปของกฎหมายฉบับดังกล่าว

‘บิ๊กตู่’ เยือนระยอง ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่

เมื่อวันที่ (16 ก.ย. 65) พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน.และนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในนามรัฐบาลได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ระยอง ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนและตรวจเยี่ยมการสนับสนุนของกองทัพ เข้าช่วยเหลือวิกฤติน้ำท่วมจากฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลการระบายน้ำลงลุ่มน้ำประแสร์ช้าลง เกิดน้ำท่วมขังสูงใน 6 อำเภอ มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 25,000 ครัวเรือน

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางไปรับฟังการบริหารจัดการน้ำและการช่วยเหลือประชาชน ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เทศบาลตำบลทับมา พร้อมย้ำ ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมทั้งครอบครัวและจิตอาสา ในการปฏิบัติงานร่วมกัน โดยขอให้หน่วยทหารในพื้นที่ ยังคงสนับสนุน จ.ระยอง เสริมกำลังและเครื่องมือช่างเข้าช่วยหากจำเป็น โดยเน้นเตรียมแผนเผชิญเหตุสนับสนุนรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นร่วมกัน โดยพิจารณาความอ่อนตัว ทั้งการกั้นน้ำ เปิดทางน้ำและระบายน้ำ เพื่อป้องกันพื้นที่ชุมชนและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น ที่สำคัญที่คือ ต้องช่วยป้องพื้นที่เขตเมืองและชุมชน ช่วยอำนวยความสะดวกการสัญจรประชาชน ดูแลการติดต่อสื่อสารอย่าให้ตัดขาด และให้ระวังโรคระบาด โดยเฉพาะฉี่หนูหากน้ำขังท่วมนาน ย้ำดูแลความปลอดภัยตัวเองและให้สนับสนุนนโยบายรัฐบาลแก้ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะปกติ

จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยในพื้นที่หมู่บ้านแดนใหม่ตำบล / มาแล้วเดินทางเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงให้กำลังใจและมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ในพื้นที่และเดินทางต่อไปยังศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยโรงเรียนเทศบาล ทับมา และเยี่ยมให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมพบปะประชาชนมอบสิ่งของให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่

พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่  กองทัพเรือ และ กองทัพบก โดย ทัพเรือภาคที่ 1 และ พล.ร.2 รอ. ได้จัดกำลังพลกว่า 1,200 นาย รถบรรทุกขนาดต่างๆกว่า 30 คัน เรือผลักดันน้ำ 20 ลำ เรือท้องแบน 22 ลำ รวมทั้งรถครัวสนาม รถพยาบาล ชุดค้นหาและกู้ภัย ลงทำงานสนับสนุนหน่วยงานในพื้นที่ ให้การช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่องที่ผ่านมา ทั้งการแจ้งเตือนและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ การขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง การแจกจ่ายถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค ยาและเวชภัณฑ์ การจัดทำแนวกั้นน้ำ รวมทั้งการเปิดทางน้ำและการระบายน้ำจากพื้นที่ท่วมขังลงลำน้ำสายหลัก เพื่อลดความเดือดร้อนและผลกระทบกับประชาชน

'วัชระ' สวนเจ็บ 'วัชระ-ชัยชนะ' ช่วยส่องผลงานรมต.ในโควต้าปชป.หน่อย บอกเห็นใจ ต้องออกมาโต้แม้ฝืนความรู้สึก แต่ต้องยอมรับ เพราะความจริงมันเจ็บปวด ฝากไว้อย่ากลัว

'สมคิด' ไม่ใช่นักการตลาดลวงโลก แต่เป็น แคนดิเดตนายกฯ ที่ตรงสเปค เหมือนดาวฤกษ์การเมืองดวงใหญ่ที่สุด 

นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ และนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้ประเด็นปาฐกถาพิเศษของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ตนเข้าใจและเห็นใจทั้ง 2 คน ในฐานะลูกพรรคประชาธิปัตย์ ที่จำเป็นต้องออกมาปกป้องพรรคของตน แม้ว่าจะต้องฝืนความรู้สึกและความจริงก็ตาม เพราะนี่คือสไตล์ของคนพรรคนี้ที่ทำมาโดยตลอด

“ผมเข้าใจและเห็นใจ ส.ส ชัยชนะ และนายวัชระ เป็นอย่างมาก เพราะความเป็นจริงมันเจ็บปวดเสมอ มันก็มีแค่ 2 ทางเลือกเท่านั้น คือยอมรับความเป็นจริงแล้วแก้ไข หรือจะดันทุรังต่อไป ผมอยากจะบอกความจริงง่ายๆ แบบนี้ครับ ถ้าคนของพรรคประชาธิปัตย์ดีจริง วันนี้ ส.ส.กรุงเทพ ของพรรคคงไม่สูญพันธุ์ และจำนวน ส.ส. ภาคใต้คงไม่หายไปกว่าครึ่ง และอีกหนึ่งคำถามที่ผมอยากจะถามนายวัชระ ก็คือ เกือบ 4 ปี ที่ประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลชุดนี้ นายวัชระช่วยไปส่องหาผลงานสำคัญของรัฐมนตรีในโควต้าของพรรค ว่ามีอะไรที่เป็นเนื้อเป็นหนังบ้าง ซึ่งไม่น่าจะมีมากพอจนนายวัชระต้องไปอ้างผลงานของนายชวน หลีกภัย ซึ่งไม่ใช่รัฐมนตรีเอามาหากิน ถ้ามีผมจะได้ช่วยพูดให้อีกทางหนึ่ง” นายวัชระกล่าว

'เพื่อไทย' รับฟังชาติพันธุ์ม้งถูกไล่รื้อที่ ย้ำ!! นโยบายตระหนักสิทธิ์ทำกิน ส่งเสริมคนอยู่กับป่า สิทธิต้องถูกพิสูจน์ กฎหมายต้องเป็นธรรม

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และ ดร.ประเสริฐ พัฒนผลไพบูลย์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย รับฟังเรื่องร้องทุกข์จากตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นนายทุน ไล่รื้อที่ทำกิน ดำเนินคดีโดยไม่เปิดโอกาสให้พิสูจน์สิทธิ์ที่มีกฎหมายคุ้มครองอยู่

ดร.จำเนียร โฉมงาม ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการปกครองสภาผู้แทนราษฎรและที่ปรึกษากฎหมายกลุ่มชาวเขาม้งภูกล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนมากกว่า 10 ล้านคน กำลังถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมจากที่ดินทำกินที่ชาวบ้านได้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์มาตลอด และอยู่มาก่อนการเป็นที่ดินของรัฐ กลุ่มชาวเขาได้ต่อสู้มาอย่างยาวนาน แต่กลับถูกเลือกปฏิบัติ และละเมิดความชอบธรรมอันพึงมีพึงได้ ยืนยันว่ากลุ่มชาติพันธุ์ที่มาวันนี้ เป็นคนที่อยู่ ก่อนประกาศเป็นเขตป่า แต่กลับถูกตีความว่าบุกรุกป่า  

พ่อหลวงสุรินทร์ นทีไพรวัลย์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหอย ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเสริมว่า การมาหาพรรคเพื่อไทยวันนี้เพราะเชื่อในการพูดจริงและทำสำเร็จได้จริง พรรคเพื่อไทยจึงเป็นความหวังและทางรอดของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ประสบปัญหาถูกไร่รื้อที่ดินทำกินมายาวนานเกือบ 10 ปี เราไม่อยากได้นโยบายแจกเงิน แต่เราอยากได้นโยบายที่เป็นประโยชน์ ส่งเสริมการทำมาหากิน ให้พวกเรากลุ่มชาติพันธุ์ดำรงชีวิตเลี้ยงดูช่วยเหลือตัวเองได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top