Sunday, 29 June 2025
POLITICS NEWS

เปลวสีเงิน แนะ ‘หมอฮา’ ลงพรรค ‘ก้าวไกล’ ได้นั่ง ‘รมว.สธ.’ เมื่อไร ย้ายได้ทุกตำแหน่ง

(30 ม.ค. 66) เปลวสีเงินในนำเสนอบทความ ในหัวข้อ ในคราบ 'แพทย์ชนบท' ความว่า…

‘นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ’ คุณอยู่แก๊ง ‘แพทย์ชนบท’ ตอนนี้เป็น ‘ประธานแก๊ง’ ก็ต้องบอกว่า…

‘ดี-เด่น-ดัง’ ใน ‘คราบหมอ’ อย่างที่คุณเป็น มันก็สุด ๆ ตามประสาที่คุณเป็นอยู่แล้ว อย่าทระนงตนถึงขั้น ‘หมอเทวดา’ อยู่เหนืออำนาจบริหารกระทรวงสาธารณสุข จนใคร ‘แตะต้อง-สั่งย้าย’ ไม่ได้แบบนั้้นเลย เห็นบอก อยู่โรงพยาบาลจะนะ พัฒนาจนโรงพยาบาลจะนะก้าวหน้า มีความพร้อมทุกอย่าง ก็ดีนี่ อนุโมทนาด้วย

ในเมื่อสถิตอยู่จะนะจนรากงอกใกล้จะหุ้มโรงพยาบาลมิดเหมือน ‘ปราสาทตาพรหม’ ที่เขมรอยู่แล้ว เขาอยากให้หมอสุภัทรหรือที่เรียกกันในขบวนการเอ็นจีโอ, ในขบวนการสามนิ้วล่มชาติด้วยกัน ว่า ‘หมอฮา’ นั่นไม่ใช่ย้ายด้วยกลั่นแกล้ง หรือย้ายด้วยการเมือง

เป็นการย้ายด้วยยกย่อง ให้เกียรติหมอฮา ตรงตามปรัชญา ‘แพทย์ชนบท’ โดยตรง ที่มุ่งอุทิศตนเพื่อชาวบ้านตามชนบทที่ห่างไกล อยู่สร้างความเจริญ ความก้าวหน้า ให้โรงพยาบาลจะนะและนำชุมนุมต่อต้านโครงการต่าง ๆ จนเป็นเอ็นจีโอแถวหน้าระดับ ๕ ดาวแล้ว เขาให้ไปใช้ศักยภาพ ๕ ดาว พัฒนา ‘โรงพยาบาลสะบ้าย้อย’ ให้เจริญ ด้วยพัฒนาให้เหมือน ‘โรงพยาบาลจะนะ’ บ้าง

แล้วมันไม่ดี ผิดหลักการ ‘แพทย์ชนบท’ ตรงไหน?
เป็นการย้ายผิดปกติ เป็นเรื่องการเมือง ตรงไหน?
หรือหมอฮามีอะไร ‘นั่งทับ’ ไว้ที่จะนะ จึงไม่อยากลุก?

อย่าทำตัวเป็น ‘หมอเทวดา’ เลย หมอฮา! เห็นมาหลายต่อหลายหมอแล้วในแก๊งชนบทที่เป็นแบบนี้ สุดท้าย ‘ลายหมอลอก’ ก็ไปไหนไม่รอด ต้องเป็น ‘เหลือบอีแอบ’ อยู่ในคราบ ‘หมอคนดี’ เกาะสังคมกินแบบทุเรศไปจนแก่ตาย!

ถามจริงๆ เถอะ หมอฮา...
คุณคิดว่า ทุกวันนี้ คนไทยทั้งประเทศโง่เป็นควาย จนไม่รู้ว่า ฉากหลัง ‘นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ’ ทำอะไรอยู่กับแก๊งเอ็นจีโอ แก๊งสามนิ้ว และพรรค ‘ก้าวไกล’ เลย อย่างนั้นใช่มั้ย?

ขอถามอีกคำ...
ระหว่างที่จะนะกับที่กรุงเทพฯ เดือน ๆ ตัวคุณอยู่ที่ไหนมากกว่ากัน? ยิ่งตอนแก๊งสามนิ้ว ‘จลาจลกรุง’ ในปฏิบัติการ ‘ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์’ เชี่ยวจัด ตอนปักหมุดคณะราษฎรที่ท้องสนามหลวง เมื่อกรกฎา.๖๓ ธนาธรฮึกเหิม ถึงขั้นประกาศ ‘ประตูบานแรกเปิดแล้ว’! นั่นน่ะ ช่วงบู๊ล้างผลาญ-ละเลงเมือง ที่เรียกว่า ‘จุดติด’

ผมเห็นหน้าหมอฮาผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่กับแก๊งแดงส้ม ‘สามนิ้ว’ ล่มชาติ-ล้มสถาบัน แทบไม่เว้นแต่ละสัปดาห์
นั่นคือการ ‘ลา-มาราชการ’ หรือบังหน้ามาร่วมขบวนการ หรือกลั้นปัสสาวะจากจะนะ...นั่งเรือบินมาปัสสาวะที่กรุงเทพฯ แล้วบังเอิญเดินผ่านหน้ากล้องของพวกช่างภาพหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จึงมีเงาหมอฮาติดประจำ?

ที่ผมคุยมาทั้งหมด ไม่ต้องไปสน เพราะเป็นเพียง ‘ภาพจำ’ ของผมเกี่ยวกับหมอคนนี้ ‘เท่าที่เห็น’ เท่านั้น แต่นี่...กับ ‘หมอด้วยกัน’ น่าสนใจกว่า…

เมื่อ ๒๘ มกรา ‘นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ’ ที่ปรึกษากมธ.สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซทีเดียว ๒ โพสต์รวด ผมว่า หมอฮา น่าจะอ่านนะ

หมอเอก Ekkapob Pianpises
คนบาปในคราบนักบุญ !!!
ตอนที่องค์การเภสัชกรรมจัดซื้อ ATK เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน ซึ่งสุดท้ายการจัดซื้อในครั้งนั้น ได้กระจายการเข้าถึงชุดตรวจ ATK สำหรับประชาชน และได้กดดันให้ตลาดลดราคา ATK จาก 200-300 บาทต่อชุด มาเหลือเพียง 30-40 บาทในปัจจุบัน

จากข้อมูลที่องค์การเภสัชกรรมนำเสนอต่อกรรมาธิการการสาธารณสุขน่าสนใจมากๆ...

มีผู้สังเกตการณ์จาก สปสช. (แพทย์ชนบท 2 ท่าน) ได้ให้ข้อมูลที่ดูเหมือนตั้งใจจะเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทบางบริษัท ที่ต้องการขายในราคา 120 บาทต่อชุด มีความพยายามที่จะปรับรายละเอียด TOR เพื่อล็อกสเปกให้กับบริษัทนี้ แต่สุดท้ายไม่สำเร็จ เพราะองค์การเภสัชฯ และกระทรวงสาธารณสุขไม่เล่นด้วย

จุดที่น่าสงสัยต่อไป ซึ่งกรรมาธิการการสาธารณสุขขอให้ ผอ.โรงพยาบาลจะนะส่งรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างชุดตรวจ ATK ของโรงพยาบาลมาให้ตรวจสอบ แต่ทาง ผอ.ปฏิเสธที่จะส่งมาให้ตรวจสอบ เท่ากับว่า ยอมรับข้อกล่าวหา โดยไม่โต้แย้ง ว่ามีการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ด้วยอำนาจของ ผอ.แบบพิเศษ ในราคาและยี่ห้อที่น่าจะเป็นยี่ห้อเดียวกับทางกลุ่มเครือข่ายนั้นได้พยายามผลักดัน และการจัดซื้อนั้น ถูกนำมาใช้ในการคัดกรองในกรุงเทพฯ เพื่อให้ได้มีจำนวนการจัดซื้อที่มาก

‘ชาวจะนะ’ จึงควรตั้งคำถามกับการใช้งบประมาณในตอนนั้นว่า ทั้งการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ที่มาตรวจในกรุงเทพฯ แทนที่จะใช้กับคนในพื้นที่ และการใช้เวลาราชการ ‘ทิ้งพื้นที่’ ซึ่งกำลังประสบปัญหาการระบาดของโควิด นั้น สมควรแล้วหรือไม่?

เครือข่ายกลุ่มผลประโยชน์ที่เกาะกินฝังรากลึก ในกระทรวงสาธารณสุข จะต้องถูกกำจัด เพื่อให้งบประมาณของสาธารณสุขเกิดประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด

‘เพื่อไทย’ ซัด ‘บิ๊กตู่’ ใช้อำนาจเล่นงานเยาวชน แต่กลับไม่ตรวจสอบ ‘ทุนจีนสีเทา’ บ่อนทำลายชาติ

(30 ม.ค. 66) นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่านายทุนจีนสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย สร้างความเสียหายทั้งสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง แต่น่าประหลาดใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กลับไม่ให้ความสำคัญ ไม่เคยสั่งการให้ดำเนินการกับกลุ่มทุนผิดกฎหมายอย่างจริงใจ ทั้ง ๆ ที่กลุ่มทุนนอกกฎหมายกลุ่มนี้ทำลายเศรษฐกิจ ทำลายประเทศชาติ ทำลายเกียรติภูมิประเทศชาติมาก เพราะกลุ่มทุนนี้ขนเงินผิดกฎหมายมาฟอกขาวในประเทศไทย ผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซื้อร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว รถทัวร์ 

นอกจากนี้ที่น่าเป็นห่วงคือมีเว็บไซต์ในประเทศจีน ลงเกี่ยวกับการเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย หากต้องการความสะดวก ได้สิทธิพิเศษ ต้องติดต่อผ่านช่องทางไหน แต่พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าส่วนราชการ สามารถที่จะหยุดยั้งความเสียหายได้ แต่เลือกที่จะเพิกเฉยกับกรณีดังกล่าว

‘เพื่อไทย’ อัด ‘ประยุทธ์’ ทำลาย ศก.ไทยพังยับ ชี้!! ที่ผ่านมาเอื้อแต่นายทุน - ไม่ช่วยเกษตรกร

(30 ม.ค. 66) นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ได้รับเสียงสะท้อนถามกลับมาว่าเมื่อไหร่จะเลือกตั้ง อยากเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว เพราะหากยังเป็นรัฐบาลนี้ประชาชนคงอดตายแน่ ๆ ทั้งนี้ ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำมาก โดยเฉพาะราคาข้าวเปลือก ขายข้าวเปลือก 1 กิโลกรัม ซื้อมาม่ากินไม่ได้ ราคาข้าวเปลือกที่โรงสี รับซื้ออยู่ที่ 6,500-7,000 บาทต่อตัน ขณะที่ต้นทุนการเพาะปลูกพุ่งเกิน 6,500 บาทต่อไร่ ส่งผลให้เกษตรกรขาดทุนตั้งแต่ขาย ปัจจัยสำคัญมาจากการที่รัฐบาลปล่อยให้ต้นทุนสินค้าจำเป็นในการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวปรับขึ้นไปหลายเท่าตัว โดยเฉพาะราคาปุ๋ยจาก 600 บาทต่อกระสอบปรับราคาขึ้นไป 3 เท่าตัวไปอยู่ที่ราคา 1,800 บาทต่อกระสอบ ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีปีไหนเลยที่เกษตรกรมีความสุข  เพราะรัฐล้มเหลวในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร 

นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล บริหารแบบข้าเก่งที่สุด ไม่ฟังใคร ผลที่ออกมาคือเศรษฐกิจพังพินาศ นโยบายของรัฐบาลไม่สามารถยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้เลย เอสเอ็มอีปิดกิจการนับหมื่นราย หลายพื้นที่ถูกขายให้ต่างชาติ จนไม่เหลือผู้ประกอบการ ความเหลื่อมล้ำเพิ่มสูงขึ้น เพราะนายทุนตักตวงผลประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลที่ประกาศออกมา ระบบการเงินหมุนเพียงรอบเดียว ส่งผลให้กระแสเงินสดในประเทศไหลเข้าสู่นายทุนเจ้าสัว ไม่หมุนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งผิดหลักการเศรษฐศาสตร์มาก ยิ่งหมุนน้อยค่าของเงินก็ลดลง

‘ลุงหนู’ จ่อชง ครม. แก้กฎกระทรวงเพิ่มโทษยาบ้า หวังแก้ปัญหายาเสพติดเกลื่อนเมือง

‘ลุงหนู’ จ่อชง ครม. แก้กฎกระทรวงเพิ่มโทษยาบ้า หวังแก้ปัญหายาเสพติดเกลื่อนเมือง 

‘อนุทิน’ จ่อชงครม.แก้กฎกระทรวง ครอบครองยาบ้า 1 เม็ด เป็นผู้เสพ 2 เม็ด เป็นผู้ค้า หวังแก้ปัญหาผู้ค้าเลี่ยงกม. ลั่น ต้องมีมาตรการ จัดการเด็ดขาด

(30 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.20 น. ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์กำหนดการครอบครองยาบ้าเกิน 1 เม็ดเป็นผู้ค้าว่า ตนได้รับรายงานจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่ากำลังจัดเตรียมประกาศอยู่ ซึ่งเป็นผลมาจากคณะกรรมการการบำบัดรักษา ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และจะมีการนำเสนอให้ตนได้ลงนาม ขณะนี้กำลังเตรียมเอกสารอยู่ ซึ่งมาตรการนี้เป็นร่างของกฎกระทรวง ซึ่งจะต้องนำเสนอให้ครม.เห็นชอบด้วยก่อนประกาศในราชกิจานุเบกษาฯ

‘ตรีชฎา’ อัด ‘บิ๊กตู่’ ปราศรัยชุมพรมัดคอตัวเอง แซะ!! ‘พลิกคว่ำประเทศ’ มากกว่า ‘พลิกโฉม’

(30 ม.ค. 66) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การปราศรัยครั้งแรกของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ที่ จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้ต่างไปจากการปราศรัยที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่พูดไปแล้วสร้างปัญหา ขาดตรรกะ เหตุผล เช่น “พูดว่าทำไปหลายอย่างมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาหลายพรรคหลายปีและหลายเท่าด้วยซ้ำ” ซึ่งหลายรัฐบาลที่ พล.อ.ประยุทธ์อ้างถึง รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์พรรคร่วมรัฐบาลที่เคยยกมือโหวตพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ พรรคพลังประชารัฐที่อาศัยใต้ร่มในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือหลงลืมอดีต เข้าตำราขว้างงูไม่พ้นคอ เพราะเมื่อพูดออกไปจะโดนสวนกลับให้ได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย การย้ายสังกัดพรรคขณะที่ยังเอาขาเกี่ยวอยู่อีกพรรคการเมืองหนึ่ง ทำลายหลักการประชาธิปไตย ขีดความรับผิดชอบของพรรคการเมืองและการเป็นนายกฯ หมดสิ้น

‘รศ.หริรักษ์’ ชำแหละ เจ้าของพรรคแลนด์ไลด์ ตั้งลูกสาวนั่ง ‘หัวหน้าครอบครัว’ หวังกรุยทางกลับบ้าน

(30 ม.ค. 66) รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ปีนี้ เราน่าจะได้เห็นการยุบสภาก่อนครบวาระในเดือนมีนาคม การเลือกตั้งครั้งต่อไปมีการคาดคะเนกันว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่จะมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดที่สุดระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ และจะมีการใช้เงินกันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ด้วยระบบการเมืองและนักการเเมืองที่มีอยู่เป็นอยู่ในขณะนี้ พรรคการเมืองที่ได้เปรียบย่อมเป็นพรรคที่มีเงินทุนมาก ดังนั้น พรรคที่ประกาศว่าจะชนะเลือกตั้งแบบ landslide คงต้องทุ่มทุกอย่างจนสุดตัว ใช้ทุกวิธี เพื่อที่จะให้ชนะเลือกตั้งแบบ landslide ให้ได้

พรรคการเมืองพรรคนี้ ใครที่เป็นหัวหน้าพรรคเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด เพราะแทบจะไม่มีอำนาจตัดสินใจในระดับนโยบายเลย ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งยังมีการสร้างตำแหน่งขึ้นใหม่ในพรรค เป็นตำแหน่งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย นั่นคือตำแหน่ง 'หัวหน้าครอบครัว' เพื่อให้ลูกสาวเจ้าของพรรคเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ และจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อไป หัวหน้าพรรคต้องคอยเดินตามหลัง ค้อมคำนับให้หัวหน้าครอบครัวที่มีอายุคราวลูก ยืนอยู่ข้างหลังเวลาหัวหน้าครอบครัวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และจะต้องทำหน้ายิ้มแย้มด้วยความชื่นชม ยากเหลือเกินสำหรับการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคของพรรคการเมืองพรรคนี้

หัวหน้าครอบครัวประกาศว่า จะต้องได้ชัยชนะแบบ landslide และจะนำพ่อกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน พูดเช่นนี้คอการเมืองก็เข้าใจทันทีว่า ที่ต้องการชนะแบบ landslide เพราะต้องการเป็นรัฐบาลที่สามารถคุมเสียงในสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมให้พ่อได้กลับบ้านโดยไม่ต้องเดินเข้าคุกนั่นเอง เพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่จะให้พ่อกลับบ้านแบบเท่ ๆ ได้

ทั้งเจ้าของพรรคและหัวหน้าครอบครัวดูจะมีความมั่นใจมากว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเชียร์ตัวเองแบบไม่ลืมหูลืมตา จีงกล้าประกาศเช่นนั้น แต่มาวันนี้น่าจะเห็นแล้วว่า คนไทยไม่ได้เชียร์พ่อตัวเองอย่างไม่ลืมหัวลืมตาแล้ว แน่นอนคนแบบนั้นยังมีอยู่จำนวนหนึ่ง แต่คนอื่นๆ ที่เคยเลือกพรรคนี้เป็นจำนวนมากเริ่มไม่สบายใจที่จะเลือกพรรคนี้เพื่อให้ไปออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อคนเพียงคนเดียว หากเลือกพรรคนี้ก็จะมีความวุ่นวายในบ้านเมืองตามมาแน่ ๆ และอาจจะมีความรุนแรงกว่าเมื่อครั้งออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยเสียอีก

ล่าสุดเจ้าของพรรคซึ่งประกาศว่าตัวเองจะกลับบ้านมาทุกปีเป็นเวลาหลายปีแล้ว ยังคงกลับไม่ได้ จึงออกมาพูดนำทางแก้เกี้ยวว่ายังกลับบ้านไม่ได้เพราะครอบครัวกลัวจะไม่ปลอดภัย (ว่าเข้าไปนั่น) แต่เมื่อจะกลับ จะไม่ต้องออกฎหมาย ไม่ต้องเกี้ยเซี๊ยกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ต้องใช้พรรคเพื่อไทย หลังจากนั้นหัวหน้าครอบครัวผู้เป็นลูกสาวก็ให้สัมภาษน์นักข่าวว่า จะมุ่งทำงานให้ประชาชน เรื่องนำพ่อกลับบ้านยังไม่คิด กลับลำซะงั้น เสมือนไม่เคยพูดว่าต้องการชนะแบบ landslide เพื่อพาพ่อกลับบ้านมาก่อนเลย

‘พิธา’ ยัน!! ‘ก้าวไกล’ ไม่เคยเสนอลดบำนาญ ขรก. ย้ำ!! มีแต่แนะรัฐเพิ่มรายได้ - ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น

(30 ม.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีข่าวปลอมกลับมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์อีกครั้ง บิดเบือนว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายลดเงินเดือนหรือบำนาญของข้าราชการ

โดยนายพิธากล่าวว่า พรรคก้าวไกลขอยืนยันอีกครั้ง ว่าเราไม่มีและไม่เคยมีนโยบายลดเงินเดือนหรือบำนาญของข้าราชการ สิ่งที่เราเสนอคือให้ลดงบประจำ ที่ไม่ใช่เงินเดือนของข้าราชการ เช่นการไปดูงานเมืองนอก โครงการอบรมสัมมนา โครงการที่ซ้ำซ้อน รวมถึงลดงบกลางที่เป็นเงินสำรองที่เปิดโอกาสให้รัฐบาลเอาไปใช้ได้ตามใจชอบ โดยไม่เกิดประโยชน์ พรรคก้าวไกลเสนอว่าควรโยกเงินเหล่านี้มาจัดสวัสดิการที่ดี ให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้มีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น เราเชื่อมั่นว่าประเทศไทยดีกว่านี้ได้

'บิ๊กตู่' เตรียมลงพื้นที่ 'จ.นครสวรรค์ - จ.พิจิตร' ตรวจความคืบหน้าหลายโครงการ - รับฟังปัญหา ปชช.

(29 ม.ค.66) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดพิจิตร ในวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2566 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการ และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล โดยมีกำหนดการ ดังนี้

โดยช่วงเช้านายกรัฐมนตรีมีกำหนดตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำเพื่อความยั่งยืนและเพื่อการเกษตรสมัยใหม่ ณ สันฝายเก่าบึงบอระเพ็ด ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองนครสวรรค์ 

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะไปติดตามการขับเคลื่อนระบบการบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้าในระดับพื้นที่ ณ วัดดงแม่ศรีเมือง ตำบลตาสัง อำเภอบรรพตพิสัย และตรวจติดตามการพัฒนาความมั่นคงด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ณ โรงพยาบาลบรรพตพิสัย ตำบลเจริญผล อำเภอบรรพตพิสัย  

'ก้าวไกล' ลงพื้นที่ กทม.เปลี่ยนแผงหวยเป็นแผงขายนโยบาย ชี้!! กาก้าวไกล ปากท้องดี มีอนาคต เหมือนถูกรางวัลที่ 1

‘ก้าวไกล’ ลุยประตูน้ำ-ตลาดจตุจักร งัดลูกเล่นใหม่ เปลี่ยนแผงหวยเป็นแผงขายนโยบาย ประชาชนตอบรับคึกคัก ด้านพิธาย้ำ ‘กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต’ พร้อมเป็นนายกฯ แกนนำปิดสวิตซ์ 3 ป.

(29 ม.ค.66) พรรคก้าวไกลลงพื้นที่พบปะประชาชนและแนะนำนโยบายหลักของพรรค 'กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต'

โดยช่วงเช้าไปที่ศูนย์การค้าแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ เอกกวิน โชคประสพรวย ส.ก.เขตราชเทวี พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตใกล้เคียง 

พิธากล่าวว่า หลังการประชุมสามัญ วันนี้พรรคก้าวไกลต้องการเดินหน้าต่อเนื่อง นำนโยบายที่ได้ประกาศมาเสนอต่อประชาชน โดยเฉพาะนโยบายปากท้องดี เนื่องจากศูนย์การค้าแพลทินัมเป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางเศรษฐกิจ เราคาดหวังว่าการลงพื้นที่วันนี้ จะอธิบายให้ประชาชนเห็นภาพมากขึ้นว่านโยบายของพรรคก้าวไกลจะทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมอย่างไร โดยเฉพาะนโยบายหวย SME ซื้อของรายย่อยได้ลุ้นเงินล้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มแต้มต่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยในการแข่งขันกับทุนใหญ่

‘นพดล’ ลั่น ไม่มีจับมือพรรคใดพา ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน เย้ย!! ไอโอกุเรื่องบิดเบือน ไม่กระทบแลนด์สไลด์

เพื่อไทยเชื่อมั่น ประชาชนต้องการรัฐบาลใหม่มาแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ปฎิบัติการไอโอจับคู่เพื่อไทยกับพรรคอื่นหรือบิดเบือนแลนด์สไลด์เพื่อนำอดีตนายกฯ กลับบ้านไม่กระทบแลนด์สไลด์

(29 ม.ค.66) นายนพดล ปัทมะ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทุกพรรคเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ปี่กลองการเมืองดังขึ้น การปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารเริ่มทำงาน ยิ่งกระแสพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์แรงขึ้น ก็เป็นปกติที่ต้องเผชิญแรงเสียดทานทางการเมืองมากขึ้น เพราะที่นั่ง ส.ส.มี 500 ที่นั่ง เมื่อมีคนได้ที่นั่ง ก็จะมีคนเสียที่นั่ง

อย่างไรก็ตาม ก็มีผู้วิเคราะห์กันไม่หยุดว่าเพื่อไทยจะจับมือกับพรรครัฐบาลปัจุบันตั้งรัฐบาล และพรรคเดินหน้าแลนด์สไลด์เพื่อเอาอดีตนายกฯ ทักษิณกลับบ้าน ซึ่งในประเด็นนี้ พรรคเพื่อไทยก็มีแถลงการณ์ยืนยันชัดเจนว่าไม่จับมือกับพรรคการเมืองใดโดยมุ่งเดินหน้าแลนด์สไลด์ เพื่อขอโอกาสตั้งรัฐบาลที่เข้มแข็งแก้ปัญหาให้ประชาชน และการเดินหน้าแลนด์สไลด์ก็เพื่อมีเสียง ส.ส.มากพอที่จะเอาชนะเสียง ส.ว.ตอนโหวตตัวนายกฯ ในรัฐสภาและผลักดันนโยบายพรรคได้เต็มที่โดยไม่ต้องพะวงการเจรจาต่อรองนโยบายรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ไม่ใช่แลนด์สไลด์เพื่อเอาอดีตนายกฯ กลับบ้านตามที่มีคนพยายามด้อยค่าความตั้งใจดีของพรรคอย่างต่อเนื่อง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top