Sunday, 29 June 2025
POLITICS NEWS

'นายกฯ' เตรียมลงพื้นที่ ติดตามโครงการรถไฟ-ระบบระบายน้ำ ตรวจเยี่ยมเศรษฐกิจ ยกระดับรายได้ชาวสมุทรสงคราม

(2 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดสมุทรสงคราม ในวันที่ 3 ก.พ. 66 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และพบปะประชาชน

โดยเวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปสนามกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม และเดินทางไปสถานีรถไฟลาดใหญ่ ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ด้วยรถไฟขบวนที่ 4383 (สถานีรถไฟลาดใหญ่ - สถานีรถไฟแม่กลอง) ไปยังสถานีรถไฟแม่กลอง เพื่อตรวจติดตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

'เปลว สีเงิน' เผยมรดกลุงตู่ เปิดบ้านเช่าเก็บเดือนละ 250 บาท ทรัพย์สินที่ได้จากพ่อผู้ล่วงลับ ที่กำชับห้ามคิดใครแพงเกินกว่านี้

เมื่อวานนี้ (1 ก.พ. 66) 'เปลว สีเงิน' ได้นำเสนอบทความ ในหัวข้อ 'ลุงตู่ รวยแล้วไม่โกง' โดยระบุว่า…

"ลุงตู่" กับ "บิ๊กป้อม" นี่ จาก "ทหารครึ่งตัว-การเมืองครึ่งตัว" โจนลงสนามเลือกตั้งเป็นนักการเมือง "ระบบเลือกตั้่ง" เต็มตัว คึกยังกะม้าโดปยา เตะคอกเปรี้ยงปร้าง!

ยิ่ง "บิ๊กป้อม" ด้วยแล้ว .... "ถั่งเช่า" หรือจะสู้ "ใจบันดาลแรง" จาก "ป้อมไม่รู้" ตอนนี้เป็น "ป้อมกูเกิล" ถามอะไร ตอบได้หมด!

ทั้งพี่-ทั้งน้อง ตอนนี้ดูจะหลงเสน่ห์การลงพื้นที่ได้คลุกคลีกับชาวบ้านแต่ละจังหวัด ต่างคน-ต่างฟิต พี่ไปจังหวัดโน้น น้องไปจังหวัดนี้ บางที่ดอด "ตีท้ายครัว" กันเองก็ยังมี!

ก็สนุกดี ประชาธิปไตยเนื้อแท้นั้น ถ้าเข้าใจมันว่า การแข่งขันหาเสียงสู่สภา ปรัชญาของมัน ไม่ใช่ "นักเลือกตั้ง" เป็นผู้ได้

หากแต่ประชาชน คือชาวบ้านตะหาก ต้องเป็น "ผู้ได้" มันก็จะสนุกสนาน-สบายใจ ทั้งชาวบ้าน "ผู้ได้" และคนการเมืองที่เป็น "ผู้ทำ" ให้เขาได้

ไม่ใช่ได้เงินซื้อเสียง....

หมายถึง ได้ประโยชน์สุขจากนโยบายที่แต่ละพรรคหาเสียง เมื่อได้เข้าสภาแล้ว ก็ผลักดันนโยบายนั้นให้เป็นผล

พูดถึงนโยบายแต่ละพรรคที่ใช้หาเสียงกันตอนนี้ เห็นแล้วหนักใจ! แต่ละพรรค ฟังดูไม่ต่างสลากสรรพคุณยา ประเภท ทาปุ๊บหายปั๊บ-กินปั๊บหายปุ๊บ, ทาผัวหอมถึงเมีย อะไรประมาณนั้น ซึ่งมันไม่ต่าง "ยาผีบอก"

ที่สำคัญคือ "ทุกนโยบาย-ทุกพรรค" เอาเงิน "งบประมาณแผ่นดิน" เป็นสัญญาว่า "จะแจก-จะให้" ทั้งนั้น ชาวบ้านตอนนี้ เลยเป็นแมวหลงกลิ่นปลาย่างทาจมูก!

การเอาเงินแผ่นดินไปตกเบ็ดชาวบ้าน เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้ว รู้ใช่มั้ย....ว่าภาษีที่เก็บจากชาวบ้านได้ปีละเท่าไหร่? แล้วมันพอกันมั้ย? ที่จะเอาไปทำสวัสดิการทำนองลดแลกแจกแถมชาวบ้านคนละ 3 พัน 4 พัน แถมนั่นฟรี-นี่ฟรี

น้ำมัน-แก๊ส ก็ต้องถูก ค่าไฟฟ้า ค่ารถโดยสาร ก็ต้องถูก ค่ารักษาพยาบาลก็ต้องฟรี เฒ่าชแร-แก่ชรา ก็ต้องมีค่าขนม

ไทยใกล้เป็น "รัฐสวัสดิการ" เข้าไปเต็มตัวแล้ว!

ในขณะที่คนกลุ่มหนึ่งตะโกนว่า "ภาษีกู...ภาษีกู" ก็ไม่อยากถามว่า "คุณครับ...คุณเสียปีละเท่าไหร่?" ขอถามแบบให้เกียรติกันก็พอว่า....

"แล้วพวกคุณเคยเสียภาษีกันบ้างมั้ย" จะตรงประเด็นกว่า

คนไทย 65 ล้าน... อยู่ในระบบภาษีกันไม่ถึง 5 ล้าน แต่อีก 60 ล้าน อยู่นอกระบบ คือไม่ได้เสียภาษีรายได้ในแต่ละปีกันแทบทั้งนั้น แต่ทุกคนได้รับการดูแลจากรัฐตั้งแต่เกิดยันตาย จะว่าไปแล้ว ได้สิทธิประโยชน์มากกว่า "คนเสียภาษี" ด้วยซ้ำ

แล้วนี่ แต่ละพรรค ต่างออกนโยบาย "สัญญาจะให้" เห็นแล้วหนักใจ (แทนประเทศ) เมื่อเข้าไปเป็นรัฐบาลแล้ว ..... จะเอาเงินที่ไหนไป "ปรนเปรอ-แจกจ่าย" ตามสัญญา?

เลิกพูดไปเลย เรื่อง "พัฒนาประเทศ" น่ะ แค่เงินเดือนข้าราชการกับค่ารายจ่ายประจำ งบประมาณแต่ละปี ก็แทบไม่เหลืออยู่แล้ว แล้วนี่ แข่งกัน "ปล้นเอาเงินอนาคตประเทศ" ไปตกเบ็ดหาเสียงอีก ถามตรง ๆ ...... จะเข้าไปบริหารประเทศให้มันเจริญ หรือจะเข้าไปผลาญให้มันฉิบหาย-ขายประเทศ?

ฉะนั้น อยากให้แต่ละพรรคออกนโยบายหาเสียงแบบ "มีจิตสำนึก" และ "ความรับผิดชอบ" กันบ้าง ในฐานะคนเสียภาษี ทั้งภาษีส่วนตัวและภาษีบริษัท มาเกือบค่อนชีวิต อยากพูดบ้างซักคำว่า

"กูเหนื่อยนะโว้ย"....

กับการเป็นพลเมืองดี แม้ตอนเจ๊ง ก็ไม่เคยหนี หาเงินมาจ่ายภาษีจากเงินได้ทุกก้อน ไม่เคยขาด! ที่จริง นโยบายหาเสียงน่ะ ไม่ต้องจ้างบริษัทโฆษณาสรรหาคำหรู ๆ ไปตดทางปากให้หมาดมหรอก หัวใจนโยบายน่ะ........

ผู้นำที่ "เข้าถึง-จริงใจ" ในปรัชญาของมัน เขาจะไม่พล่ามพูด แต่งานที่เขาทำ มันจะพูดเอง นโยบายจริง ๆ มันต้องแบบบอระเพ็ด เข็ดขม จึงจะใช้รักษาไข้ให้หายได้ คือ

"ไม่เอาใจประชาชน แต่ทำที่ประชาชนอยากได้ในผลประโยชน์รวม ให้ประจักษ์"

บ้านเมืองต้องได้ สังคมต้องได้ ประชาชนต้องได้ และอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่เหยียบหัวแม่ตีนกัน นี่คือ เผด็จการ "ประชาธิปไตย"

ส่วน ครอบครัวกูต้องได้ หัวหน้าคอกกูต้องรวย หมาในคอกกูต้องท้องเต่ง และใครไม่ใช่พวกกู ต้องเอามันให้ตาย นี่คือ ประชาธิปไตย "ครอบครัว"

เมื่อวาน (1 ก.พ. 66) บิ๊กป้อม ประมุขพลังประชารัฐ "ตลบหลัง" ลุงตู่ ไปตามงานเรื่องน้ำที่นครปฐม ราชบุรี ก็ไม่มีอะไรหรอก เพียงจะบอกว่า ผมเชื่อแล้วเรื่อง "ใจบันดาลแรง!" ร่วม 8 ปี ที่ร่วมบริหารบ้านเมืองกับลุงตู่ "น้องรัก" ทุกคนก็เห็นบิ๊กป้อมใกล้เป็นตุ๊กตาล้มลุก ไหว..ไม่ไหว จะอยู่ จะไป ก็ต้องลุ้นว่าจะครบพรรษารัฐบาล คสช.มั้ยน้อ?

แต่พอ "แยกพรรค" แต่ไม่ "แยกพี่-แยกน้อง" เท่านั้่นแหละ บิ๊กป้อมแอบไปกินโมเลกุล "มณีแดง" ยาอายุวัฒนะที่จุฬาฯ กำลังวิจัย ทำให้คนอายุ 75 หวือหวาคืนวัยคนอายุ 25 มาหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะฟิตเหลือเกิน ..... ออกเดินสายหาเสียงแทบทุกวัน แถมแต่งวัยสะรุ่น นุ่งยีนส์ แจ็กเกตหนัง วันก่อนไปตลาด อ.ต.ก. เล่นเอาแฟน ๆ กรี๊ดสลบ

เป็น "ว่าที่นายกฯ คนที่ 30" ยังขนาดนี้ ถ้าเลือกตั้งแล้ว ได้ขึ้นนั่งทับก้นน้องตู่บนเก้าอี้นายกฯ จะขนาดไหน?

ยังไงก็ มีดีแล้วแบ่งปันผมมั่งซักเม็ด-สองเม็ด นะท่าน...มณีแดงน่ะ กระชากวัยคนเดียว เกิดเหี่ยวปลาย ไม่มีพวกแล้วจะเหงา ขอบอก!

ถ้าพลาดเก้าอี้นายกฯ ผมเชียร์ให้บิ๊กป้อม เปิดร้านขายอาหารแข่งเจ๊ไฝ-ประตูผี ไปเลย แค่ขึ้นป้าย "เชฟป้อม" ผัดซีอิ๊ว ก็ร้านแตกแล้ว!

'นายกฯ' เคาะประกันรายได้เกษตรกร เฟส 4 วงเงิน 7.6 พันล้าน คาดเริ่มจ่ายงวดแรก ก.พ.นี้

(1 ก.พ. 66) นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางแห่งชาติ (กนย.) วันนี้ (1 ก.พ. 66) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบเดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 4 วงเงินรวมกว่า 7.6 พันล้านบาท โดยขั้นตอนต่อจากนี้ จะเร่งเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ และคาดว่าจะเริ่มจ่ายเงินงวดแรกได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 4 ล่าสุดมีเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่กับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 จำนวนทั้งสิ้น 1,604,379 ราย (เจ้าของสวน ผู้เช่า ผู้ทำ 1,372,865 ราย และคนกรีดยาง 231,514 ราย) คิดเป็นพื้นที่ปลูกยาง รวม 18,183,764.59 ไร่ ซึ่งเป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว

'ชาวราชบุรี' ต้อนรับ 'ลุงป้อม' ลงพื้นที่ตรวจโครงการน้ำ สั่งเร่งผลิตน้ำประปาคุณภาพ ให้ปชช. มีใช้ตลอดปี .

(1 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. /ผอ.กอนช. พร้อม รมช.คลัง และคณะ ได้ลงพื้นที่ต่อเนื่องจากช่วงเช้า เพื่อตรวจติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญ ในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลอง จังหวัดราชบุรี

เมื่อ พล.อ.ประวิตร และคณะ เดินทางถึงสถานีผลิตน้ำโพธาราม การประปาส่วนภูมิภาค สาขาสมุทรสาคร อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ได้เข้าร่วมประชุมหารือกับนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย เลขาฯ สทนช. ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดราชบุรี, นครปฐม, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานของการพัฒนาระบบประปาในพื้นที่ ซึ่งทราบว่ายังมีความต้องการการพัฒนา แผนงาน-โครงการด้านน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมอยู่อีกมาก โดยเฉพาะการผลิตน้ำประปาให้เพียงพอ รองรับการขยายตัวของชุมชนเมือง และการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดราชบุรี รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนการพัฒนาแหล่งน้ำ ให้มีปริมาณน้ำเพียงพอ สอดคล้องแผนแม่บททรัพยากรน้ำ 20 ปี  มีการจัดสรรน้ำในแม่น้ำแม่กลองสำหรับการผลิตน้ำประปา ให้เพียงพอทั้ง 4 จังหวัด รวมทั้งการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย ในเขตพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ราชบุรี สมุทรสงคราม และเพชรบุรี ซึ่งจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย อย่างจริงจัง

'ภูมิใจไทย' ยื่นเพิกถอน 'พิธา-ทวี' พ้น ส.ส. ปมก้าวก่าย สธ. ย้ายหมอเอ็นจีโอ

ส.ส. ภูมิใจไทย เข้าชื่อยื่น 'ประธานสภาฯ' ขอให้พิจารณาส่งเรื่องไปศาลรธน. วินิจฉัย 'พิธา - ทวี' สิ้นสุดสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. หลัง ออกแถลงการณ์ปมโยกย้าย 'หมอสุภัทร'

(1 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงว่าสืบเนื่องจากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ออกแถลงการณ์กรณีคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข โยกย้ายข้าราชการ คือ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ จังหวัดสงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท ไปดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

แถลงการณ์ดังกล่าว พรรคภูมิใจไทยเห็นว่าเป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่ง ส.ส. กระทำการก้าวก่าย แทรกแซงเพื่อประโยชน์ตนเอง ผู้อื่น และพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องการบรรจุแต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนเงินเดือน หรือการให้พ้นจากตำแหน่งของข้าราชการฯ ตามรัฐธรรมนูญ 185(3) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส.ของนายพิธา และ พ.ต.อ.ทวี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 101 (7) ซึ่ง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย 50 คน ได้ลงนามเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง ว่าสมาชิกภาพของนายพิธา และ พ.ต.อ.ทวี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 101 (7) ประกอบมาตรา 185 (3)

'ชญาภา' สับ 'ประยุทธ์' ยิ่งอยู่นานทุจริตยิ่งบาน จวกคะแนนดัชนีคอร์รัปชันไทยยังต่ำลงเรื่อยๆ

(1 ก.พ. 66) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพท.กล่าวกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ดัชนีการรับรู้การทุจริตประจำปี 2565 (Corruption Perception Index ปี 2022 : CPI) ของประเทศไทยว่า แม้อันดับการรับรู้การทุจริตของไทย จะขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 110 ในปี 2564 จาก 180 ประเทศ ได้คะแนน 36 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้วเพียง 1 คะแนนเท่านั้น แทบไม่มีนัยสำคัญ หากดูตัวเลขในปี 2557 ไทยได้คะแนนอยู่ที่ 38 คะแนน อยู่ลำดับที่ 85 ซึ่งมากกว่าและดีกว่า แสดงให้เห็นว่าหลังยึดอำนาจ 8 ปีผ่านไปไม่มีอะไรดีขึ้น คะแนนและลำดับลดลงตกต่ำลงเรื่อยๆ หากเป็นการสอบของนักเรียน ถือว่าปีนี้ยังคงสอบตกจากคะแนนเต็มร้อยอยู่ 

ทั้งนี้ คาดว่าการจัดลำดับนี้น่าจะยังไม่รวมกับปัญหาทุนจีนสีเทา ตู้ห่าว การคอร์รัปชันของตำรวจที่เป็นข่าวรายวัน หรือข้อกล่าวหาการส่งส่วยในกรมอุทยาน ซึ่งอาจจะไม่สะท้อนลำดับที่แท้จริงตามสถานการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ การคอร์รัปชันยังมีมากกว่าที่เห็นใน CPI ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญและรุนแรงเกาะกินประเทศไทยอยู่

'โบว์-ณัฏฐา' ชี้!! 'สมศักดิ์' หลั่งน้ำตาหลังเห็นสภาพ 'ตะวัน-แบม' ตัวอย่างของคนแยกแยะได้ แม้ไม่เห็นด้วย แต่เห็นใจ

(1 ก.พ. 66) 'คุณโบว์-ณัฏฐา มหัทธนา' นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม หลั่งน้ำตาหลังเห็นสภาพ 'ตะวัน-แบม' โดย มีข้อความระบุว่า...

ตัวอย่างของคำว่า ไม่เห็นด้วย แต่เห็นใจ 

โบว์ดูคลิปแล้ว ใครที่คิดว่าคุณสมศักดิ์แกล้งร้องไห้ เขาไม่มีเหตุผลอะไรต้องแกล้งเลยค่ะ คนเหล่านี้และผู้สนับสนุนไม่ใช่ฐานเสียงเขาสักคน รมต.ไม่มีอำนาจต่อศาลด้วย คุมได้แค่ราชทัณฑ์ ซึ่งอนุญาตให้มาอยู่ รพ.มธ. 

‘หมอชลน่าน’ เสนอญัตติด่วน ช่วย ‘แบม-ตะวัน’ โยงแผนร้าย ใช้ชีวิตเด็กแลกการไม่มีเลือกตั้ง

ฝ่ายค้าน เสนอญัตติด่วน ‘ตะวัน-แบม ม.112’ อดอาหาร ‘ชลน่าน’ ขอศาลเมตตาวางเงื่อนไขประกันตัวเหมาะสม ชี้ติดกำไลอีเอ็มควบคุมพื้นที่ 24 ชม. เกินขอบเขต ลั่นคนไม่ใช่สัตว์ โยงแผนอำมหิต เอาชีวิตเด็กแลกกับการสืบทอดอำนาจเพื่อไม่มีเลือกตั้ง ‘รมว.ยุติธรรม’ พร้อมทบทวนระเบียบคุมขังที่บ้านได้

(1 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา เวลา 10.49 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากสมาชิกหารือปัญหาเรื่องต่าง ๆ แล้ว นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า กรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงศ์ หรือแบม ผู้ต้องคดีมาตรา 112 ที่อดอาหารประท้วงนั้น หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้จะเกิดอันตราย และส่งผลต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ฝ่ายค้านจึงมีความเห็นร่วมกัน อาศัยข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อที่ 54 (5) ให้นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องสิทธิประกันตัว และการใช้กฎหมายล้มเกินแก่ผู้แสดงออกและแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อให้ที่ประชุมได้พิจารณาเสนอเป็นเรื่องด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากญัตติด่วนดังกล่าวเป็นการแทรกการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ที่รออยู่ ทำให้ส.ส.พรรคภูมิใจไทย คัดค้าน และขอให้เลื่อนเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องนี้เป็นวันที่ 2 ก.พ. แทน แต่ส.ส.ฝ่ายค้านยืนยันจะต้องเสนอวันนี้ เพราะเป็นความปลอดภัยของเยาวชน กระทั่งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคไม่ติดใจแล้ว แต่ขอให้ฝ่ายค้านอยู่เป็นองค์ประชุมในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ด้วย โดยขอให้ถือเป็นสัจจะลูกผู้ชาย ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้าน รับปากจะอยู่เป็นองค์ประชุมให้ถึงช่วงเย็นวันนี้

จากนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาว่า ขอให้ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังทางการเมือง น.ส.ทานตะวัน และน.ส.อรวรรณ ที่กำลังอดอาหารประท้วง เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 และการปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคน แม้เด็ก 2 คนได้สิทธิประกัน แต่ภายใต้เงื่อนไขที่จำกัดสิทธิเสรีภาพาเกินขอบเขต เช่น ติดกำไลอีเอ็ม ควบคุมพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเรื่องรับไม่ได้ นี่คือคนไม่ใช่สัตว์ เป็นการจำกัดสิทธิเกินเหตุ ขอให้ผู้มีอำนาจทั้งคณะผู้พิพากษา ศาลใช้ดุลยพินิจพิจารณาให้ดี การให้ประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมืองต้องมีเงื่อนไขเหมาะสม มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ และขอให้พรรคการเมืองประกาศนโยบายคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน โดยเฉพาะคดีการเมือง การยกเลิกมาตรา 112 ทุกพรรคควรพิจารณาจะตอบสนองข้อเรียกร้องได้อย่างไร หลายมาตราเป็นเครื่องมือกำจัดผู้เห็นต่างทางการเมือง เช่น แค่มีขันแดงในมือก็เป็นภัยความมั่นคง บางคนอาศัยกฎหมายเหล่านี้เป็นเครื่องมือทำลายคู่แข่งทางการเมือง มาตรา 112 เป็นกฎหมายอาญา แต่ถือเป็นกฎหมายความมั่นคง ถ้าเอามาใช้ไม่ถูกทาง ปัจจุบันนำมาใช้ล้นเกิน ขาดหลักนิติธรรม จนเกิดผลกระทบต่อประชาชนและสถาบัน ปากบอกจงรักภักดี แต่การกระทำไม่ใช่ ขอให้สภาช่วยหามาตรการแก้ไขด้วย

'บิ๊กตู่' ยัน!! ตั้งใจทำงานเพื่อความสุขคนไทย ไม่ใช่แค่ปีเลือกตั้ง แต่คิดและทำอยู่ทุกวัน

(1 ก.พ. 66) ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ ในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปี ของสำนักข่าว TOP NEWS โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้โผล่เซอร์ไพรส์กลางรายการถ่ายทอดสด พร้อมกล่าวช่วงหนึ่งว่า การนำเสนอข่าว วิเคราะห์ข่าวทำอย่างไรไม่ให้สร้างความขัดแย้งกันมากมาย ขอให้พูดกันด้วยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว และต้องให้ประชาชนเรียนรู้การให้ความรู้และสร้างหลักคิดสร้างกระบวนการคิด ซึ่งวันนี้เรายังขาดเรื่องนี้อยู่เยอะ จึงขอฝากสื่อมวลชนในเรื่องนี้ไว้ด้วย ช่วยให้ประชาชนมีหลักคิดที่ถูกต้องมีกรอบความคิดที่ถูกต้อง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไปจำกัดกรอบความคิด แต่ต้องคิดว่าอะไรดีหรือไม่ดี อะไรถูกและผิด ไม่เช่นนั้นก็มีปัญหาหมดประเทศก็เป็นอยู่แบบนี้

‘บิ๊กป้อม’ ลุย ‘นครปฐม-ราชบุรี’ ติดตามแก้ปัญหาน้ำ ชาวบ้านแห่ต้อนรับ-ขอบคุณ เชียร์ให้เป็นนายกฯ

(1 ก.พ. 66) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กอนช. พร้อม รมช.คลัง และคณะ ได้เดินทางปฏิบัติราชการ ลงพื้นที่ จ.นครปฐม และจ.ราชบุรี เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาน้ำ ในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด

เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร และคณะ เดินทางถึง ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการฯ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภาคกลางเขต 3 ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มี นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผวจ.นครปฐม ให้การต้อนรับ โดยรับฟังการบรรยายสรุป ภาพรวมสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหาน้ำในพื้นที่ จาก จังหวัด สทนช. กรมชลประทาน กรมโยธาธิการฯ และ ปภ. 

ทั้งนี้ จ.นครปฐม มีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตลุ่มน้ำท่าจีน ปัญหาน้ำท่วมยังเป็นปัญหาหลัก เนื่องจากมีระบบระบายน้ำในชุมชน ไม่เพียงพอ รวมทั้งมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ การบุกรุกลำน้ำ ในพื้นที่หลายอำเภอ ซึ่งรัฐบาลได้มีการสนับสนุนงบประมาณโครงการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาตั้งแต่ปี 61-65 โดยมีพื้นที่ได้รับการป้องกัน 14,732 ไร่ พื้นที่ได้รับประโยชน์ 29,679 ไร่ (80,192 ครอบครัว) และแผนงานโครงการสำคัญ ซึ่งจะได้รับประโยชน์อีก 922,206 ไร่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top