Sunday, 18 May 2025
NEWS

เพชรบูรณ์ ทีมดารา “เป็นต่อ”จัดทอดผ้าป่าซื้อที่ดินให้กับโรงเรียนที่เพชรบูรณ์ได้เงินกว่า 2.5 ล้านบาท

ดารานักแสดงละครซิตคอมยอดฮิต “เป็นต่อ” นำโดย กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์, เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ,อู๊ด เป็นต่อ ,ธงธง มกจ๊ก ,เกลือ กิตติ เชี่ยววงศ์กุล พร้อมทีมงาน จัดทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนซื้อที่ดินให้กับโรงเรียนอนุบาลวังโป่ง หมู่1 ต.วังโป่ง  อ.วังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อนำไปสร้างสนามฟุตบอลและสนามเด็กเล่น เป็นที่ออกกำลังกายให้กับน้อง ๆ นักเรียนรวมทั้งเยาวชนประชาชนในพื้นที่ โดยมีคณะนายอำเภอวังโป่ง นายกเทศมนตรีตำบลวังโป่ง คณะครู นักเรียน ชาวบ้านร่วมสมทบทุนทอดผ้าป่าและให้การต้อนรับคณะดารานักแสดงอย่างอบอุ่น พร้อมกันนี้คณะทีมนักแสดงยังได้มอบอุปกรณ์การศึกษาให้แก่น้อง ๆ นักเรียน รวมทั้งสร้างความสนุกสนานบนเวทีอีกด้วย

กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ เปิดเผยยว่า “ทีมงานเป็นต่อ” ได้รับการบอกบุญจากพระอาจารย์สมทบ ปรักฺกโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกลางบางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี  ในการจัดตั้งกองบุญผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนซื้อที่ดินให้กับ โรงเรียนอนุบาลวังโป่ง เนื่องในโอกาสครบรอบ 101 ปี จึงได้บอกบุญกับเพื่อน ๆ ดารานักแสดง สายบุญ ญาติธรรม ในการร่วมบุญดังกล่าว ซึ่งก็ได้มีผู้ร่วมสมทบอย่างมากมายโดยเฉพาะเจ้าภาพใหญ่คุณอุ๋ย อรอุมา มาลีนนท์ ลูกสาวของนายประวิทย์ มาลีนนท์ ผู้บริหารใหญ่สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และกรรมการบริหาร บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด ที่ร่วมทำบุญถึง 3 แสนบาท รวมทั้งน้องเบลล่า ราณี แคมเปญ ร่วมสมทบอีก 1 แสนบาท

เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว

ด้วยรักและศรัทธา ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี เสด็จเตี่ย

วันที่ 19 พ.ค.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ มอบหมายให้ พลเรือโท ชัยณรงค์ บุณยรัตกลิน รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีเทิดพระเกียรติ ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาทหารเรือไทย พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาใน กองบัญชาการกองเรือยุทธการ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ กำลังพลกองเรือยุทธการ ชมรมภริยากองเรือยุทธการ สมาคมประมงแสมสาร องค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร และชมรมเรือสปรีดโบ๊ท จัดกิจกรรมครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาทหารเรือไทย ณ บริเวณพระอนุสาวรีย์ฯ หน้ากองบัญชาการกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  

โดยกิจกรรมประกอบด้วย การจัดกำลังพลแปรอักษร “จะทำสิ่งไร ควรทำจริง” การจัดขบวนเรือประมง จำนวน 19 ลำ และร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์ในทะเล บริเวณหน้าอ่าวกองเรือยุทธการ การฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวสดุดีเทิดพระเกียรติฯ ผู้เข้าร่วมพิธีร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์ของเสด็จเตี่ย ประกอบด้วยเพลง ดาบของชาติ เพลงเดินหน้า และเพลงดอกประดู่

โดยกองเรือยุทธการ ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ เพื่อให้ข้าราชการทหารเรือ ประชาชน ตลอดจนครอบครัวข้าราชการ ได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ได้ทรงวางรากฐานและทรงพัฒนากิจการของทหารเรือ ให้มีความก้าวหน้าและมั่นคง ให้ผู้เข้าร่วมพิธีได้รำลึกถึงคำสอนของพระองค์ว่า “กยิรา เจ กยิรา เถนัง ถ้าคิดจะทำสิ่งใดแล้ว ควรทำจริง” ตลอดจนเพลงพระนิพนธ์ของพระองค์ ที่ปลูกฝังจิตสำนึกในการรักชาติให้กับข้าราชการทหารเรือ และลูกหลานมาจวบจนถึงปัจจุบัน

“อลงกรณ์” เจรจาขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเกษตรไทย-จีน

เช้าวันนี้ 21 พ.ค. 66 เวลา 9.30 น.นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ร่วมกับนายหม่า ฮุย เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองซีชาง มณฑลเสฉวน ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ  คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีพาณิชย์กล่าวเปิดงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างจีน(จังหวัดเหลียงซาน มณฑลเสฉวน) กับไทย

โดยมีคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนของ2ฝ่ายร่วมในการประชุมครั้งนี้ที่โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ.
โดยก่อนการประชุมได้พบหารือกับนายหม่า ฮุย เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองซีชางและนายหลิว เว่ย นายกสมาคมการค้าและอุตสาหกรรมจีน-ไทยเรื่องการขยายความร่วมมือด้านการค้า โลจิสติกส์(รถไฟจีน-ลาว)และการเกษตร

นายอลงกรณ์เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือว่า จีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ1ของไทย การขยายความร่วมมือกับมณฑลเสฉวนซึ่งเป็นมณฑลใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกของจีนจะช่วยเพิ่มโอกาสด้านการค้าและการลงทุนของ2ประเทศโดยเฉพาะความร่วมมือด้านการขนส่งบนเส้นทางไทย-ลาว-จีนจะทำให้การส่งออกสินค้าเกษตรและผลไม้ไทยไปภาคตะวันตกของจีนและส่งต่อไปยุโรป เอเซียกลาง เอเซียตะวันตกสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งขอให้ฝ่ายจีนช่วยลดค่าระวางค่าขนส่งของขบวนรถสินค้าจีน-ลาวเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ในการค้าระหว่างประเทศรวมทั้งความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกษตรซึ่งจังหวัดเหลียงซานเป็นจังหวัดหนึ่งของจีนที่มีชื่อเสียงด้านสมุนไพร ชา เห็ดและผลไม้เช่นแอปเปิ้ล องุ่น และทับทิม โดยจะมีการเยือนแลกเปลี่ยนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนต่อไป

ตำรวจไซเบอร์จับดีลเลอร์ซิมค่ายดัง ลอบขายซิมผีผ่านลาซาด้า คว้ากำไรงาม

สืบเนื่องจาก พฤติกรรมการกระทำความผิดตามสื่อสังคมออนไลน์ ตรวจพบ ร้าน “APPSAVE” มีการลงขายซิมการ์ดโทรศัพท์แบบลงทะเบียนในนามบุคคลอื่นพร้อมใช้ ในราคา 38-40 บาท ลงบนเว็ปไซต์ lazada จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.2 จึงได้สั่งซื้อ จำนวน 1 ซิม โดยถูกส่งมาในรูปของพัสดุ ภายในบรรจุซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ถูกลงทะเบียนพร้อมใช้งาน โดยพัสดุถูกจัดส่งจาก APPSAVE ในหมู่บ้าน Villaggio 2 ศรีนครินทร์-บางนา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

ต่อมาจึงทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และนำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว ในวันที่ 20 พ.ค.66 พบ นายดิเรก ลิมปนาภรณ์ แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านและนำตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบ ซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ถูกลงทะเบียนแล้ว จำนวน 340 ซิม, โทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น 11 Pro สีทอง 1 เครื่อง, ซองสำหรับบรรจุซิมการ์ด 200 ซอง และพัสดุพร้อมส่งลูกค้า

เบื้องต้น นายดิเรก ลิมปนาภรณ์ ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเองได้ประกอบกิจการ ในรูปแบบบริษัท มีวัตถุประสงค์จำหน่ายอุปกรณ์มือถือ และยังเป็นดีลเลอร์จำหน่ายซิมการ์ดใหม่ ของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือชื่อดังรายหนึ่ง และเมื่อได้รับซิมการ์ดมาแล้ว จะทำการลงทะเบียนซิม เพื่อนำออกจำหน่ายให้ ร้านค้าออนไลน์ ลาซาด้า และอีกส่วนหนึ่ง จะซื้อซิมมือสอง จากกลุ่มค้าขายซิมผี ซิมจดทะเบียนแล้ว จากกลุ่มใน Facebook กลุ่มไลน์ แล้วนำมาจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์ ในลาซาด้า ด้วยโดยเห็นว่า การจำหน่ายซิมที่จดทะเบียนแล้ว ได้กำไรดีกว่า และลูกค้าชอบซื้อซิมที่จดทะเบียนแล้ว จึงได้ลักลอบจำหน่ายซิมจดทะเบียนดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุม นายดิเรก ลิมปนาภรณ์ อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า กระทำผิดฐาน "เป็นธุระจัดหา โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ หรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่  ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนาม ของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้"

ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา  ผบช.สอท.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ณัฐกรณ์ ประภายนต์ ผบก.สอท.2 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจพร้อมคณะนำข้าราชการตำรวจภูธรภาค 9  สร้างจิตสำนึกตามโครงการ "จิตอาสารักษ์หาดชลาทัศน์เฉลิมพระเกียรติ"

วันศุกร์ ที่ 19 พ.ค. 66 เวลา 15.00 น. คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมกับจังหวัดสงขลา  และตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นำประชาชนชาวสงขลา เข้าร่วมในโครงการ ""จิตอาสารักษ์หาดชลาทัศน์เฉลิมพระเกียรติ"   โดยภายในงานมี ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่ายเอกชน ข้าราชการ นักเรียนนักศึกษา ตลอดจนประชาชนจิตอาสา รวมกันกว่า 1,000 คน เข้าร่วมโครงการอย่างพร้อมเพรียง ณ ลานวัฒนธรรมหาดชลาทัศน์ ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา

คุณสุมนาฯ กล่าวว่า กิจกรรมจิตอาสาในครั้งนี้ ทางสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ จัดโครงการดังกล่าวเพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ ระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ซึ่งทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษาและต่อยอดพระราชกรณียกิจของพระราชบิดา อีกทั้งเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2566

โดยกิจกรรมภายในงานจะประกอบไปด้วยกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ประกอบด้วย ปูม้า 30 ล้านตัว , กุ้งกุลาดำ 40,000 ตัว , ปลาตะกรับและปลากระบอก 15,000 ตัว และ เต่าตะนุ 19 ตัว  และกิจกรรมเก็บขยะตลอดแนวชายหาดชลาทัศน์ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติ และสร้างจิตสำนึกในการเสียสละเพื่อส่วนรวม อันจะนำมาซึ่งความสามัคคีของคนในชาติ

ตำรวจไซเบอร์ ร่วม ศพดส.ภ.5 จับแอดมินกลุ่มลับชี้ลายแทงซื้อประเวณีเด็ก อัดคลิปเผยแพร่เรียกเก็บเงินเข้ากลุ่ม

สืบเนื่องจากกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้รับแจ้งจาก

มูลนิธิอิมมานูเอล และ มูลนิธิเดสทินี่ เรสคิว ประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนนานาชาติ ดำเนินการในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนผู้บังคับใช้กฎหมายของไทยในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก แจ้งว่าพบการกระทำผิดเกี่ยวกับการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยพบข้อความโพสต์ผ่านช่องทางทวิตเตอร์บัญชี “Review  cnx” @review_cnx1 ผู้ติดตาม 5,755 มีการโพสต์ภาพอนาจารโป๊เปลือย และชักชวนเข้าในกลุ่ม Line ลับราคา 199 บาท โดยระบุข้อความ “ชายเดี่ยวเน้นนาบ รีวิวส่งการบ้านและลายแทงชอบ ญ แท้ ไลน์กลุ่มทัก dm สอบถาม ได้ครับ 

(ไม่ฟรี) ค่าเข้ากลุ่ม 199 นะครับ เป็นกลุ่มพูดคุยดูแลกันแบบพี่น้อง dm มาครับ” มีการรีทวิตสื่อถึงการค้าบริการทางเพศพบมีการโพสต์ภาพโป๊เปลื่อย และมีการร่วมเพศ ของบุคคลคาดว่าจะเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี  หญิง จากการสังเกตรูปพรรณสันฐาน จึงได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์และแอดมินกลุ่มไลน์ลับดังกล่าว คือ นายธวัชชัย แสงบุญ อายุ 36 ปี พักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 2 ตำบลชมภู 
อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่

ต่อมาวันที่ 19 พ.ค. 2566 เวลา 06.00 น. จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธร ภาค 5 (ศพดส.ภ.5) นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบนายธวัชชัยฯ และโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานบัญชีทวิตเตอร์ “Review cnx” @review_cnx1  และเป็นแอดมินกลุ่มไลน์ลับชื่อว่า “ชาวไวกิ้ง” มีสมาชิกในกลุ่ม 429 บัญชีผู้ใช้ไลน์ 

ในกลุ่มมีการโน๊ต ข้อมูลไว้ในโน๊ต ระบุลายแทง หรือ ข้อมูลของหญิงขายบริการทางเพศ และการถ่ายภาพและแอบถ่ายภาพโป๊เปลือย วีดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อให้สมาชิกที่จ่ายเงินเข้ากลุ่มลับได้เข้าดู และสื่อลามกอนาจารเด็กในโทรศัพท์มือถือของกลางจำนวนมาก

จากการตรวจสอบเบื้องต้นสามารถยืนยันตัวตนบุคคลที่ปรากฏในคลิปวีดีโอเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 คน ได้จำนวน 2 คน จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธร ภาค 5 (ศพดส.ภ.5) และทีมงานสหวิชาชีพเชิญมาตัวคัดแยกและคุ้มครองตามกฎหมาย  แล้วจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำการค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก, ครอบครองและส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก,  เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” จึงจับกุมตัวนายธวัชชัยฯ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือและสมุดบัญชีธนาคาร นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. ยังกล่าวอีกว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองอยู่ในกลุ่มไลน์ที่มีการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารหญิงสาวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่อมาได้มีคนแนะนำให้เปิดกลุ่มไลน์เป็นแอดมินเองเพื่อหารายได้ จึงเปิดกลุ่มลับในไลน์ชื่อ “ชาวไวกิ้ง” เรียกเก็บเงินจากค่าสมาชิกเข้ากลุ่มจำนวน 199 บาท ส่วนสื่อลามกที่มีการนำมาลงในกลุ่มนั้นได้มาจากการดาวน์โหลดในเน็ต และบางครั้งตนเองก็ซื้อบริการทางเพศโดยไม่ทราบว่าเป็นบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี และได้ขออนุญาตถ่ายภาพและคลิปวีดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงประมาณ 10 คน และบางครั้งมีการสวิงกิ้ง (เซ็กส์หมู่) แล้วนำไปเผยแพร่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าว นอกจากนั้นยังนำสื่อลามกอนาจารไปเผยแพร่ในทวิตเตอร์ส่วนตัวเพื่อโฆษณาชักชวนให้คนที่ชื่นชอบติดต่อขอเข้ากลุ่มไลน์ ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 429 คน”

ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท.,พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รอง ผบก.ตอท. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. พร้อม พ.ต.ท.วิเชียร คำชุมภูสว.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

ตำรวจไซเบอร์จับกุมขบวนการโรแมนซ์สแกม "Romance Scam" ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 36 ล้านบาท

ตามที่ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ดำเนินการรกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและและอาชญากรรมทั่วไป นั้น 

สืบเนื่องจาก มีคนร้ายใช้เฟสบุ๊ก ชื่อ“Helen” ส่งข้อความมาหาผู้เสียหาย โดยสร้างเรื่องหลอกลวงผู้เสียหายว่าเป็นทหาร ถูกกักตัวอยู่ในค่ายทหารที่ประเทศซีเรีย มีความต้องการที่จะหนีมาอยู่ด้วยที่ไทย แต่ขอให้ผู้เสียหายรับพัสดุที่ตนจะส่งมายังประเทศไทยไว้ก่อน จากนั้นมีผู้ใช้ไลน์ “Fast Move Cargo” หลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร แจ้งว่าถ้ารับพัสดุจะต้องมีใช้จ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินหลายครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 36 ล้านบาท ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงเดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กระทั้งศาลออกหมายจับ 1 ในผู้ร่วมขบวนการ คือ น.ส.ศิรินทร์ทิพย์ พินผ่อง ตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ จ.344/2565 ลง 27 ก.ค.2565

ต่อมา วันที่(18 พ.ค.66) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.3 บก.สอท.1 นำโดย พ.ต.ท.รัฐกิตติ์ บุญสันต์สุขศรี, ร่วมกับ สน.มีนบุรี, กก.ดส.บช.น. ได้จับกุมตัว น.ส.ศิรินทร์ทิพย์ พินผ่อง อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดอุทัยธานี 

โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" ได้บริเวณถนนสาธารณะภายในหมู่บ้านหนองไผ่แบน หมู่ 1 ต.หนองไผ่แบน อ.เมือง จว.อุทัยธานี จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดี

ผลงานภายใต้อำนวยการ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด, พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ, พ.ต.อ.ณัฐภณ จินตะนานุช รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.วีระวิทธ์ ผลประสิทธ์ ผกก.3 บก.สอท.1, พ.ต.ท.ธธีร์ธร เพชรสิราสิงห์, พ.ต.ท.วิศรุตม์ จันทร์สุวรรณ รอง ผกก.3 บก.สอท.1, พ.ต.ท.รัฐกิตติ์ บุญสันต์สุขศรี สว.กก.3 บก.สอท.1

ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับ กสทช. และสรรพสามิต ลุยทลายโกดังวิทยุสื่อสารเถื่อนกลางกรุง

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และ กรมสรรพสามิต ตรวจค้นแหล่งซุกซ่อนและจำหน่ายวิทยุสื่อสารเถื่อนกลางกรุง ยึดของกลางกว่า 260 เครื่อง มูลค่ากว่า 400,000 บาท

ตามที่ปัจจุบันได้มีการลักลอบนำเข้าเครื่องวิทยุโทรคมนาคมและอุปกรณ์โดยผิดกฎหมาย และลักลอบจำหน่ายให้แก่บุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมที่กำหนดไว้ อีกทั้งยังสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงได้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวนปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง โดยประสานข้อมูลกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และ กรมสรรพสามิต 

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้ทำการสืบสวนทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายวิทยุสื่อสาร ผ่านทางช่องทางออนไลน์ Facebook โดยมีผู้ติดตามกว่า 5,000 คน จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ทราบ และวันนี้ 19 พฤษภาคม 2566 ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.พรชัย บัวด้วง รองผู้กำกับการ 4 ร่วมกับ เจ้าพนักงาน กสทช. และ กรมสรรพสามิต นำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นตึกแถวแห่งหนึ่ง บริเวณถนนจารุเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยพบ นายพัด (นามสมมติ) แสดงตัวเป็นเจ้าของและเป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ เครื่องวิทยุคมนาคม ประเภทวิทยุสื่อสาร ตราอักษร BAOFENG รุ่น BF-888s จำนวน 269 เครื่อง มูลค่ารวมกว่า 403,500 บาท สอบถามนายพัด ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้จัดจำหน่ายวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “มีและค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต” จับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จึงฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ในการใช้วิทยุโทรคมนาคมขอให้ศึกษาและปฏิบัติตามระเบียบ ที่ทางราชการได้กำหนดไว้ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ สำนักงาน กสทช. Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1200

เลขาฯ ศอ.บต. แสดงความยินดีกับ ปชช. ชาวอ.แว้ง จ.นราธิวาส หลังได้รับมอบโฉนดที่ดิน 120 แปลง เผย!! การครอบครองที่ดินของตนเองถือเป็นทรัพย์ที่มีค่าสูงสุดในชีวิต 

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานมอบโฉนดที่ดินตามโครงการ “มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน” ณ หอประชุมอำเภอแว้ง ที่ว่าการอำเภอแว้ง ตำบลแว้ง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส โดยมีนายศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส  ผู้แทนส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก 

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนชาวอ.แว้งที่วันนี้ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ที่พี่น้องทุกคนรอคอยมาทั้งชีวิต  ทรัพย์สมบัติที่มีค่าหรือมีความหมายคือที่ดินที่ไม่ว่าจะเกิดแก่เจ็บตายทุกคนก็ล้วนแต่ใช้ชีวิตในที่ดินของตัวเอง เพราะฉะนั้นการได้มาซึ่งที่ดินให้เป็นของตนเองคือทรัพย์ที่มีค่าสูงสุดของชีวิตคนๆ หนึ่ง ที่มีหลักฐานตามโฉนดที่ดินที่ถือเป็นหลักประกันขั้นสูงสุดของประเทศไทย 

สำหรับการมอบโฉนดที่ดินให้แก่พี่น้องประชาชนได้ดำเนินการแล้วในพื้นที่ตำบลแว้ง ตำบลแม่ดง   ตำบลฆอเลาะ และตำบลกายูคละ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส จำนวน 120 แปลง ตามเป้าหมายได้ที่กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ด้วยการพัฒนาการรังวัด  และทำแผนที่ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยการนำเทคโนโลยีการรังวัดระบบโครงข่ายการรังวัด ด้วยดาวเทียมแบบจลน์ (RTK GNSS Network) สำรวจรังวัดในทุกพื้นที่ที่มีสถานีรับสัญญาณดาวเทียมให้ครอบคลุมทั่วประเทศด้วยวิธีการแผนที่ที่ทันสมัยมีความถูกต้อง แม่นยำสูงและมีความชัดเจนในเรื่องแนวเขตที่ดิน เป็นการลดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ลดข้อโต้แย้งพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดิน ระหว่างเอกชนกับรัฐและเอกชนกับเอกชน ตลอดจนลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในการรังวัดที่ดิน โดยให้ศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดนราธิวาส ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน และรังวัดรูปแปลงโฉนดที่ดิน ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จำนวน 10 สายสำรวจเป้าหมาย 4,080 แปลงต่อปี

ด้วยรักและศรัทธา ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี เสด็จเตี่ย

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ มอบหมายให้ พลเรือโท ชัยณรงค์ บุณยรัตกลิน รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีเทิดพระเกียรติ ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาทหารเรือไทย พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาใน กองบัญชาการกองเรือยุทธการ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ กำลังพลกองเรือยุทธการ ชมรมภริยากองเรือยุทธการ สมาคมประมงแสมสาร องค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร และชมรมเรือสปรีดโบ๊ท จัดกิจกรรมครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาทหารเรือไทย ณ บริเวณพระอนุสาวรีย์ฯ หน้ากองบัญชาการกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  

โดยกิจกรรมประกอบด้วย การจัดกำลังพลแปรอักษร “จะทำสิ่งไร ควรทำจริง” การจัดขบวนเรือประมง จำนวน 19 ลำ และร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์ในทะเล บริเวณหน้าอ่าวกองเรือยุทธการ การฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวสดุดีเทิดพระเกียรติฯ ผู้เข้าร่วมพิธีร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์ของเสด็จเตี่ย ประกอบด้วยเพลง ดาบของชาติ เพลงเดินหน้า และเพลงดอกประดู่

โดยกองเรือยุทธการ ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ เพื่อให้ข้าราชการทหารเรือ ประชาชน ตลอดจนครอบครัวข้าราชการ ได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ได้ทรงวางรากฐานและทรงพัฒนากิจการของทหารเรือ ให้มีความก้าวหน้าและมั่นคง ให้ผู้เข้าร่วมพิธีได้รำลึกถึงคำสอนของพระองค์ว่า “กยิรา เจ กยิรา เถนัง ถ้าคิดจะทำสิ่งใดแล้ว ควรทำจริง” ตลอดจนเพลงพระนิพนธ์ของพระองค์ ที่ปลูกฝังจิตสำนึกในการรักชาติให้กับข้าราชการทหารเรือ และลูกหลานมาจวบจนถึงปัจจุบัน

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีแล้ว รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ประธานในพิธี ได้มอบของที่ระลึกให้กับนายกสมาคมประมงแสมสาร นายก องค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร ชมรมเรือสปรีดโบ๊ท และคณะที่สนับสนุนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

‘แทค ภรัณยู’ เดือดปุด สุดจะทน  คอมเมนต์ท้าชน ‘พี่ศรี’ ขอเจอที่เวทีมวย

จากกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้โพสต์ภาพข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “สงสัย เอก-ป๊อก-ช่อ ไปร่วมวงสนทนาการตั้งรัฐบาลในนามพรรคอะไร? ในเมื่อตนไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองใด และหมดสถานะผู้ช่วยหาเสียงแล้ว”

พร้อมระบุด้วยว่า “เรื่องนี้ต้องถึง กกต.” อาจเข้าข่ายไปครอบงำ ชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมือง หรือพรรคการเมืองปล่อยให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคมาครอบงำ ชี้นำได้ อันอาจเป็นการฝ่าฝืน ม.28 ม.29 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 เป็นเหตุให้ กกต.สามารถเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรคที่ร่วมหารือกันตั้งรัฐบาลได้ ตาม ม.92(3) ของกฎหมายข้างต้น

ล่าสุดทำเอา นักแสดงหนุ่มอย่าง “แทค ภรัณยู” สุดจะทน ได้เข้าไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าวว่า “พี่ศรี ว่างมาเรียนเชิญ มาถ่ายรายการผมสักยกไหม เดี๋ยวจัดให้อย่างงามเลย พูดคุยเฉยๆ ข้างหลังเป็น เวทีมวย สนใจทักมานะพี่ศรี”

นอกจากนี้ยังได้แคปข้อความภาพของศรีสุวรรณ ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุข้อความอีกว่า “กูอยากนั่งถ่ายรายการกับพี่ศรีจริงๆ อยากจะลองสักยก มาเป็นไง ชีวิตเป็นแบบไหน โตมายังไง ตะบี้ตะบัน ฟ้องไปทั่ว” และ “มาพี่ อยากสุดมานี้ ทักไปละนะ แชร์ไปทุกคนอยากคุยด้วย”

'หมอดังในทวิตเตอร์' ชี้ ตุ่ม-ผด  ที่ร่างกาย 'หยก' เป็นสิวที่เกิดจากการใช้ยา!!

หลังมีประเด็นดรา“หยก” เด็กนักเรีนหญิงอายุ 15 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวตามหมายจับในคดี ม.112 ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. 2566 หลังเข้าร่วมชุมนุมที่บริเวณเสาชิงเช้า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2565 โดยต่อมาถูกส่งตัวมาควบคุมที่บ้านปรานี จ.นครปฐม เผยภาพหลังออกจากบ้านปรานี มีผด ตุ่มแดงขึ้นเต็มตัว คาดติดเชื้อหลังน้ำในสถานแรกรับเด็กและเยาวชนไม่สะอาด
ด้าน แบม อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระ ก็ออกมาแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการของ น้องหยก ซึ่งจากภาพที่ลงได้เผยให้เห็น แผ่นหลังของเด็กนร.ชั้นม.3 เต็มไปด้วย ตุ่มและผดแดง ขึ้นตามบริเวณแผ่นหลังเป็นจำนวนมาก พร้อมกับเขียนข้อความว่า “ใครจะรับผิดชอบ”

นอกจากนี้ ตะวัน ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวอิสระออกมาเคลื่อนไหวผ่านบัญชีโซเชียล อธิบายผดดังกล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุ “ผดแดง” ที่ขึ้นเต็มหลังของหยกว่า “ผดที่ขึ้นบนหลังหยกค่ะ (เกิดจากการติดเชื้อเพราะน้ำในบ้านปรานีไม่สะอาด +อากาศร้อน+ยุงกัด) จริงๆบริเวณรอบร่างกายมีเยอะกว่านี้นะคะ หลังจากนี้จะพาน้องไปรักษาค่ะ 

ต่อมา ทวิตเตอร์ดังอย่าง พี่หมอแนะ-น้องสอบ ได้พูดถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่ได้อยากจะลดทอนข้อเรียกร้อง รวมถึงชื่นชมน้องที่ออกมาทำเพื่ออนาคตของเราครับ แต่ขอพูดตามความจริงทางการแพทย์ว่า lesion แบบนี้ไม่ได้เกิดจากน้ำไม่สะอาดครับ อันนี้เรียกว่า Aceniformeruption เป็นสิวที่เกิดจากการใช้ยาครับ

ต่างชาติประทับใจ ตม.ภูเก็ต รุกให้บริการต่อวีซ่าถึงโรงพยาบาล

จากกรณีเหตุเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยว เกิดอุบัติเหตุชนเสาสัญญาณไฟกลางทะเล เหตุเกิดใกล้กับท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต  เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66  ส่งผลให้มีผู้ประสบภัย จำนวน 37 ราย (เป็นชาวต่างชาติ 33 ราย และเป็นคนไทย 4 ราย)  โดยเข้ารับการรักษาอยู่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต , โรงพยาบาลฉลอง , โรงพยาบาลดีบุก , โรงพยาบาลสิริโรจน์ , โรงพยาบาลกรุงเทพ , โรงพยาบาลมิชชั่น และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 

วันนี้ (19​ พ.ค.66) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6  โดย พ.ต.อ.ธเนศ​ สุขชัย​ ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต ​ได้มอบหมาย​ให้​ พ.ต.ต.หญิง​ ธนันณัฏฐ์​ ศรีสุวรรณ​ สว.ฯ​ ปฏิบัติ​ราชการ​ ตม.จว.ภูเก็ต​  เข้าเยี่ยมติดตามอาการชาวต่างชาติที่ประสบอุบัติเหตุ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการขออยู่ต่อในอาณาจักรกรณีที่ต้องรักษาตัวต่อเนื่อง  และได้แจ้งกับทุกโรงพยาบาลให้ทราบว่า หากมีต่างชาติท่านใดที่แพทย์ลงความเห็นแล้วว่าจะต้องรักษาตัวต่อเนื่อง และมีความประสงค์ที่จะขออยู่ต่อในราชอาณาจักร​ ให้ทางโรงพยาบาล ประสานมายัง​ ตม.จว.ภูเก็ต จากกรณีเหตุเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยว เกิดอุบัติเหตุชนตอหม้อเสาสัญญาณไฟกลางทะเล ใกล้กับท่าเที่ยบเรืออ่าวฉลอง  เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66  ทำให้มีผู้ประสบภัย จำนวน 37 ราย (เป็นชาวต่างชาติ 33 ราย และเป็นคนไทย 4 ราย)  โดยเข้ารับการรักษาอยู่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต , โรงพยาบาลฉลอง , โรงพยาบาลดีบุก , โรงพยาบาลสิริโรจน์ , โรงพยาบาลกรุงเทพ , โรงพยาบาลมิชชั่น และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 

จันทบุรี เป็นเจ้าภาพจัดประชุมร่วมคณะกรรมการชายแดน ส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 25 CBC – 25 เสริมสร้างความมั่นคง กระชับสัมพันธไมตรี

วันนี้ ( 19 พ.ค.66 ) ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมนิวส์แทรเวิลลอร์ดจังหวัดจันทบุรี พลเรือโท เผดิมชัย สุคนธมัต ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด อาทิ นายสันติ รังษิรุจิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี, นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 จังหวัดร่วมประชุมหารือกับผู้แทนจากราชอาณาจักรกัมพูชาที่มี พลเอก เยือน โซะคน รองผู้บัญชาการกองทัพบก และ ผู้บัญชาการภูมิภาคที่ 3 ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมด้วย คุณหญิง มิถุนา ภูทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง นำหัวหน้าส่วนราชการจากจังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชาร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดน ส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา  ครั้งที่ 25 หรือ CBC – 25 โดยครั้งนี้เป็นการกระชับสัมพันธไมตรี ความร่วมมือชายแดน การค้า เศรษฐกิจ  ความมั่นคงชายแดน รวมทั้งประเพณีสังคมที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน โดยครั้งที่ประชุมเลขานุการคณะกรรมการฯ ฝ่ายไทย และเลขานุการคณะกรรมการฯ ฝ่ายกัมพูชาได้อ่านทบทวน ผลการประชุมร่วมคณะทำงาน กองเลขานุการฯ  ประธานคณะกรรมการฯ ทั้ง 2 ฝ่ายรับทราบบันทึกการประชุมร่วมกองเลขานุการฯ และอนุญาตให้เลขานุการทั้ง 2 ฝ่าย จัดทำเอกสารเป็นทางการเพื่อลงนามต่อไป ซึ่งผลการประชุมของคณะกรรมการชายแดน ส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา  ครั้งที่ 25 จะเป็นข้อมูลในการประชุมคณะกรรมการทั่วไป ระดับประเทศของทั้ง 2 ประเทศในโอกาสต่อไป 

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก

"เชียงราย"ฉก.ทัพเจ้าตาก จัดกิจกรรมโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน ไทย - เมียนมา"

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.00 นาฬิกา พลตรี ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย พันเอก ณฑี ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก, นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่อำเภอแม่สาย เข้าร่วมกิจกรรมโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน ไทย - เมียนมา ซึ่งจัดโดย หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ร่วมกับอำเภอแม่สาย และหน่วยงานในพื้นที่

โดยโครงการฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ และราษฎรของทั้งสองประเทศ ร่วมกันแก้ปัญหาภัยคุกคามความมั่นคงในเรื่องยาเสพติด การค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ แรงงานผิดกฎหมาย สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง มีความเชื่อมโยงทางด้านชาติพันธุ์ ชนเผ่า และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ระหว่างกัน อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้ดีขึ้นอีกด้วย

โดยวันนี้ได้จัดกิจกรรม ในคู่หมู่บ้านระหว่าง บ้านป่าแดง ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กับ บ้านดินดำ เมืองพง จังหวัดท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ จุดผ่อนปรนการค้า ท่าดินดำ บ้านป่าแดงฯ

กิจกรรมที่จัดขึ้น ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการของส่วนราชการ, กิจกรรมตลาดวิถีชุมชนภูมิปัญญาท้องถิ่น, การแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน, กิจกรรมปล่อยปลา, การแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ และการให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โดยบรรยากาศของกิจกรรม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมของทั้ง 2 ประเทศ มีความสุขสนุกสนาน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พร้อมจะให้ความร่วมมือกันในทุก ๆ ด้าน

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top