วิษณุ -พิพัฒน์ เปิดงาน 'มหัศจรรย์แห่งวิถีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา สู่การเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน' ประกาศพื้นที่พิเศษฯ เป้า 5 ปี ยกระดับ 142 ท้องถิ่นพัฒนากิจกรรมท่องเที่ยว สู่การกระจายและเพิ่มรายได้ให้แก่ท้องถิ่น
ช่วงเย็นวันนี้ ( 17 มี.ค.66 ) ที่บริเวณท่าเรือ บริษัท เซ้าท์เธิร์นโลจิสติกส์ (2009) จำกัด อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน “มหัศจรรย์แห่งวิถีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา สู่การเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) พร้อมด้วยผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ ชุมชนและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วม
สำหรับงานมหัศจรรย์แห่งวิถีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา สู่การเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 - 19 มีนาคม 2566 ณ พื้นที่ย่านเมืองเก่าสงขลา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่ากิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน โดยใช้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นกลไกในการขับเคลื่อนและนำไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ร่วมกัน โดยพื้นที่พิเศษฯ ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ที่ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่พิเศษ ครอบคลุมพื้นที่ใน 15 อำเภอ ของ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสงขลา รวม 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา ระโนด สทิงพระ กระแสสินธุ์ สิงหนคร หาดใหญ่ ควนเนียง บางกล่ำ จังหวัดพัทลุง รวม 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง ปากพะยูน บางแก้ว เขาชัยสน ควนขนุน รวมทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด และหัวไทร ทั้งนี้มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่รวม 142 แห่ง และจะได้รับการพัฒนาและจะมีกิจกรรมการ ท่องเที่ยวโดยชุมชน อย่างน้อยท้องถิ่นละ 1 กิจกรรม หรือ 1 เส้นทาง ภายในระยะ 5 ปี ของแผนยุทธศาสตร์ฯ รวมถึงการผลักดันพื้นที่เมืองเก่าสงขลา เพื่อเสนอต่อยูเนสโกประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก
