Monday, 30 June 2025
NEWS FEED

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พร้อมกรมประมงบินประสานมาเลเซียขอเรือประมง IUU ที่หลบหนีกลับมาดำเนินคดีที่ไทย

จากกรณีที่เมื่อเดือน ธ.ค.๖๔ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการประมง ร่วมกับ ศรชล จับกุมเรือประมงปลอมแปลงสัญชาติซึ่งลักลอบเข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมาย จำนวน ๕ ลำ พร้อมดำเนินคดีเจ้าของเรือและลูกเรือรวมจำนวน ๒๒ ราย ซึ่งร่วมกันกระทำความผิดกรณีลักลอบเข้ามาในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ และมีการปิดบังและเปลี่ยนแปลงชื่อเรือและสัญชาติจากมาเลเซียเป็นสัญชาติอินโดนีเซีย ตามที่ทราบแล้ว นั้น

ความคืบหน้าในส่วนของคดีนั้น ศาลได้มีการพิจารณาคดีเกี่ยวกับเรือประมงดังกล่าวไปแล้วจำนวน ๓ ลำ เนื่องจากผู้ต้องหารับสารภาพ โดยสั่งริบเรือประมง และปรับเงินจำนวนกว่า  ๑๙ ล้านบาท ส่วนอีก ๒ ลำ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี ต่อมาในช่วงเดือน มี.ค.๖๕ ระหว่างที่มีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องนั้น ในส่วนของเรือประมงที่ยึดไว้ทั้ง ๕ ลำ ซึ่งเก็บรักษาไว้ ณ กรมศุลกากรจังหวัดสงขลา ได้เข้าสู่กระบวนการประมูลเรือขายทอดตลาดของกรมศุลกากร แต่ปรากฏว่า หลังจากที่เรือประมงทั้ง ๕ ลำ ถูกประมูลไปแล้วนั้น กลับฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของเจ้าหน้าที่ ลักลอบเดินทางออกไปยังน่านน้ำประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการประสานงานกับทางการมาเลเซียเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมเรือประมงทั้ง ๕ ลำดังกล่าว ซึ่งต่อมาในช่วงเดือน พ.ค.๖๕ ทางการมาเลเซียได้แจ้งว่า สามารถติดตามจับกุมเรือประมงทั้ง ๕ ลำไว้ได้ครบถ้วนแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมายของทางการมาเลเซีย

ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. ให้ดำเนินการประสานงานกับทางการมาเลเซีย เพื่อขอความร่วมมือในการขอรับเรือประมงทั้ง ๕ ลำ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงได้บูรณาการร่วมกับ นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เพื่อดำเนินการประสานงานกับทางการมาเลเซียต่อไป

ในวันนี้ (๒๐ ก.ค.๖๕) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.๑, พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท., นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง และนายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง ได้เดินทางไปพบกับ ดาโต๊ะ สรี ซัมรี บิน ยะฮ์ยา ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ประเทศมาเลเซีย เพื่อประสานความร่วมมือในการนำเรือประมง ๕ ลำดังกล่าวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ณ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยได้มีการพบปะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งการแสวงหาความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งกรณีเรือประมงทั้ง ๕ ลำดังกล่าว จะถูกนำกลับมาดำเนินคดีในความผิดฐาน ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกราชณาจักร และลักลอบออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการของกรมเจ้าท่า และตรวจคนเข้าเมือง

ฉะเชิงเทรา-ปปช.ลงพื้นที่ตรวจสอบน้ำบาดาลอ.สนามชัยเขต

(19 ก.ค.65) นายสมชาย ยิ้มแฉล้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมกลุ่มงานป้องกันการทุจริต ได้ลงพื้นที่ โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบประมาณ 14,109,300 บาท อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล (ยังไม่ได้ส่งมอบให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ใด ) โดยลงพื้นที่ ณ บ้านทุ่งเหียง ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ร่วมกับผู้แทนสำนักงานทรัพยากรน้ำเขต 9  และผู้อำนวยการกองช่าง องค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระดาน  

จากการลงพื้นที่ พบว่าโครงการดังกล่าวมีการขุดเจาะน้ำบาดาล  ทำเสร็จเมื่อปี2564 จำนวน 4 บ่อ ซึ่งเมื่อตรวจสอบจากเลขมิเตอร์และสอบถามชาวบ้านบริเวณดังกล่าวพบว่าได้มีการจ่ายน้ำให้กับชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น จนกระทั่งเกิดเหตุมีช้างที่อยู่บริเวณใกล้เคียงหลุดมาจาก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงโครงการฯมาเหยียบทำให้เกิดความเสียหาย 1 บ่อ และอุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายจากช้างป่าทำลาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างซ่อมแซมจากผู้รับจ้าง 

ขณะที่ท่อส่งน้ำหลักเชื่อมทั้ง 4 บ่อเกิดความเสียหายทำให้ท่อน้ำรั่ว จำนวน 3 จุด ชาวบ้านผู้ควบคุมการเปิด-ปิดน้ำบาดาลจึงได้ทำการปิดท่อส่งน้ำชั่วคราวไปก่อน โดยโครงการนี้มีประชาชนที่ได้รับประโยชน์จำนวน 30 ครัวเรือน

ทั้งนี้ ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 9 และผู้รับจ้าง ได้นำอุปกรณ์สำหรับซ่อมแซมท่อส่งน้ำมาเตรียมการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะซ่อมแซมแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2565 

สำหรับโครงการดังกล่าวยังอยู่ในระยะเวลาประกัน 2 ปี ทั้งสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดฉะเชิงเทราได้ขอเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับที่มาของโครงการฯ และขั้นตอนการดำเนินโครงการจากสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 9 เพื่อตรวจสอบรายละเอียด 

'กระทรวงเกษตรฯ' หารือ 'หอการค้า' ขยายความร่วมมือภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ 'เฉลิมชัย'

'อลงกรณ์' จับมือ 'สนั่น' ขับเคลื่อนเกษตรมูลค่าสูงยกระดับรายได้เกษตรกรเพิ่มมูลค่าการค้าส่งออกสู่เป้าหมายประเทศมหาอำนาจอาหารภายในปี 2030

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่า ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปภาคเกษตรของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มุ่งขยายความร่วมมือกับทุกภาคีภาคส่วน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีกำหนดประชุมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเพื่อหารือแนวทางและโครงการขยายความร่วมมือในทุกมิติตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำในการยกระดับภาคเกษตรกรรมสู่เกษตรมูลค่าสูงเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรเพิ่มรายได้เกษตรกรและเพิ่มมูลค่าการค้าการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารสู่เป้าหมายประเทศผู้ส่งออกอาหารท็อปเทนของโลกและมหาอำนาจอาหารภายในปี 2030 โดยตนจะนำคณะหารือกับนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและคณะในวันพรุ่งนี้ที่สำนักงานใหญ่หอการค้าไทย โดยจะมีประเด็นการหารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือในโครงการที่ผ่านมาเช่นโครงการ 1 ไร่ 1 แสนและแนวทางความร่วมมือใหม่ๆ เช่น...

การส่งเสริมระบบการค้าสินค้าเกษตรที่เสรีและเป็นธรรม การพัฒนาธุรกิจเกษตรครอบคลุมถึงระบบตลาดสินค้าเกษตรแบบออนไลน์และออฟไลน์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการสร้างแบรนด์ การพัฒนาระบบประมูลสินค้าเกษตร ระบบโลจิสติกส์สินค้าเกษตรทั้งในและต่างประเทศ การส่งเสริมเกษตรพันธสัญญา และระบบประกันภัยพืชผล รวมทั้งความร่วมมือด้านการพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตร การปฏิรูประบบอำนวยความสะดวกทางการค้าการส่งเสริมระบบเกษตรกรรมยั่งยืน 

พก.จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “แนวทางการพัฒนาสถานะบุคคลและสัญชาติให้กับผู้ใช้บริการในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ”

วันนี้ (20 ก.ค. 65) เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมแบงค็อก มิดทาวน์ กรุงเทพฯ "นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ" อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “แนวทางการพัฒนาสถานะบุคคลและสัญชาติให้กับผู้ใช้บริการในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ” โดยนางสาวอมรศรี รัศมิทัต ผู้อำนวยการกองคุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาคนพิการ (กคพ.) เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลให้กับผู้ใช้บริการในสถานคุ้มครองฯ เนื่องจากคนพิการที่อยู่ในความดูแลภายใต้สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ 11 แห่ง ยังมีผู้ใช้บริการกลุ่มบุคคลไร้รากเหง้าประสบปัญหาสถานะบุคคลและสัญชาติในปัจจุบันมีร้อยละ 10 ของผู้ใช้บริการทั้งหมดที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิและบริการต่างๆ จากภาครัฐได้ ซึ่งในปีงบประมาณที่ผ่านมากองคุ้มครองฯ ได้ดำเนินการทบทวนความรู้ตามข้อกฎหมาย และให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจัดทำข้อมูลยื่นคำร้องเพื่อพัฒนาสถานะทางทะเบียนราษฎรและสัญชาติ 

อบต.เกษตรสุวรรณ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เสริมสร้างความรู้สิทธิคนพิการ ตามกฎหมาย

อบต.เกษตรสุวรรณ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เสริมสร้างความรู้สิทธิคนพิการ ตามกฎหมาย

20 ก.ค. 65 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลเกษตรสุวรรณ หมู่ที่ 4 ตำบลเกษตรสุวรรณ อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี จัด "โครงการอบรมให้ความรู้สิทธิที่ควรได้รับสำหรับคนพิการ" จัดโดยสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลเกษตรสุวรรณ  และได้รับเกียรติจาก "นางอมรรัตน์" กตัญชลีกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกษตรสุวรรณ เป็นประธานเปิดโครงการฯ พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาทกับกลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับการอบรม คนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ ครอบครัวคนพิการ กว่า 40 คน เพื่อแสดงถึงความความห่วงใยการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ครอบครัวคนพิการ ที่อาศัยอยู่ในความรับผิดชอบ และจะมุ่งมั่นสร้างความรัก ความสามัคคี ความมั่นคงในการดำรงชีวิตของประชาชน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามนโยบายของภาครัฐ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนประชาสัมพันธ์ถึงการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการประชุม APEC 2022

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนประชาสัมพันธ์ถึงการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการประชุม APEC 2022

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนประชาสัมพันธ์ถึงการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการประชุม APEC 2022  ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

แม่บ้านตำรวจนครบาล นำทีมลงพื้นที่ เยี่ยมกำลังพลและครอบครัว ตามโครงการ "ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน"

(20 ก.ค. 65) ชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล นำโดย คุณศิริเพ็ญ ตั้งทวีสุโข นวลมา ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล และคุณลภัทธิตา จินตกานนท์ รองประธานชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล นำคณะชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2, ผู้แทน สน.สุทธิสาร, ผู้แทนสน.วังทองหลาง, ผู้แทน กก.ต่อต้านการก่อการร้าย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมการให้ความช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อเป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล 
โดยได้เดินทางไปเยี่ยมและมอบสิ่งของเครื่องใช้ให้แก่...

1. ตรวจเยี่ยม ร.ต.ท.ประสิทธิ คำปาปัว รอง สว.จร.สน.สุทธิสาร และ นายกฤษฏิ์สรัช คำปาปัว(บุตร) ณ แฟลต สน.วิภาวดี 

2.ตรวจเยี่ยม ร.ต.ท.จักรวาล วงศ์ชัย รอง สว.จร.สน.วังทองหลาง และ ด.ญ.ธนิดาพร วงศ์ชัย (บุตร) ณ แฟลต สน.วังทองหลาง 

3. ตรวจเยี่ยม ส.ต.ท.กฤษดา การุณ ผู้บังคับหมู่ ปฏิบัติงานสังกัดกองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ ผู้ก่อเกตุยิงประชาชนและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่บริเวณห้างสรรพสินค้า เทอมินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.63 และขณะนี้อยู่ระหว่างพักฟื้นรักษาตัว 

รัฐบาล แจง ผลสำรวจประเทศยิ้มไม่มีจริง หลังสื่อตีข่าวไทยยิ้มให้ผู้คนอยู่อันดับ 9 ในอาเซียน

รัฐบาล เผยผลสำรวจ Gallup Global Emotions 2022 ไม่มีเนื้อหาการจัดอันดับประเทศไทยยิ้มให้ผู้คนเป็นอันดับ 9 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ได้มีการรายงานข่าวผ่านสื่อหลายช่องทาง เกี่ยวกับผลสำรวจ Gallup Global Emotions Report 2022 ในหัวข้อ  A Southeast Asian Country That Treats People With a smile (ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยิ้มแย้มให้ผู้คนมากที่สุด) โดยอ้างอิงข้อมูลจากเพจ Southeast Asia Stats และในรายงานดังกล่าวระบุว่า ประเทศไทยได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับ 9 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น  จากการตรวจสอบต้นฉบับรายงาน Gallup Global Emotions 2022  ซึ่งมีการอ้างอิงตามรายงานข่าวแล้ว ไม่พบเนื้อหารายงานหรือการสำรวจในหัวข้อ A Southeast Asian Country That Treats People With a smile แต่อย่างใด  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ประเด็นหลักของการสำรวจและการจัดทำรายงาน Gallup Global Emotions 2022  เป็นการระบุถึงดัชนีของอารมณ์เชิงบวก เชิงลบ ความเครียด ตลอดจนความกังวลของผู้คนทั่วโลก โดย Gallup ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการสำรวจได้เก็บข้อมูลและสัมภาษณ์ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ใน 122 ประเทศ เกือบ 127,000 คนในปี 2564 และต้นปี 2565 ที่ผ่านมา โดยพบว่าในภาพรวมดัชนีประสบการณ์เชิงลบของคนทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีความกังวล ความเครียดมากยิ่งขึ้นในช่วงที่โลกได้เผชิญกับภาวะสงคราม เงินเฟ้อ และการระบาดใหญ่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ประสบการณ์เชิงบวกในภาพรวมปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ตามรายงานระบุถึงประเทศที่ผู้คนได้รับมีประสบการณ์เชิงบวกมากที่สุด(Highest Positive Experiences)  5 ประเทศได้แก่ ปานามา(85) อินโดนีเซีย(84)  ปารากวัย(84) เอลซัลวาดอร์(82) และฮอนดูรัส(82) ส่วนประเทศที่มีประสบการณ์เชิงบวกน้อย (Lowest Positive Experiences)  5 ประเทศ ได้แก่ อัฟกานิสถาน(32) เลบานอน(37) ตุรเคีย(42) อียิปต์(52) และเนปาล(53)   

'หมอชลน่าน' ชม ฝ่ายค้านทำผลงานได้ดี ฉะ!! รมต. ตอบคำถามแทบไม่ได้เลย

“เมื่อวานนายศักดิ์สยาม ไม่ตอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรกๆ ไม่ใช้โอกาสทองในการตอบ ภาพจำขึ้นทุกแพลตฟอร์ม เป็นภาพจำที่ซุกหุ้น ทำนิติกรรมอำพราง ผมว่ารอฟังในศาลได้เลย” 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว 
ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) 
กล่าวเมื่อ 20 ก.ค. 65

(20 ก.ค. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรก ว่าพวกเราฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ดีมาก โดยเฉพาะการจัดอันดับการอภิปรายเมื่อวาน เราเห็นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายและตามยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน นั่นไม่ใช้มวย 5 ยก แต่เป็นไทยไฟต์ชก 3 ยก ดังนั้นยกแรกเราจึงจัดเต็ม ซึ่งรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเมื่อวานนี้เป็นของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถือเป็นนั่งร้านที่สำคัญ และเป็นการเรียงลำดับอภิปรายของฝ่ายค้านสอดประสานกัน เหมือนเป็นซีรีส์โดยเฉพาะเรื่องกัญชา หากติดตาม พรรค พท. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรคประชาชาติ เห็นว่าทำงานแบบสอดประสานกัน โดยนำแต่ละประเด็น และจุดเด่นของแต่ละคนมานำเสนอได้อย่างดียิ่ง

'โฟร์โมสต์' เลิกผลิต-ขายนมพาสเจอไรซ์ในไทย เบนเข็มผลิตสินค้าที่เก็บรักษาได้ยาวนานขึ้น

นมพาสเจอไรซ์ยี่ห้อ 'โฟร์โมสต์' โดยบริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายนมยี่ห้องดังกล่าว ได้แจ้งขอยุติการจัดส่งสินค้านมพาสเจอไรซ์

อย่างไรก็ตามล่าสุดบนเฟชบุ๊กเพจ 'Foremost Thailand' มีผู้บริโภคหลายคนเข้าไปสอบถามว่าหาซื้อนมโฟร์โมสต์ พาสเจอไรซ์ ในซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ได้เลย โดยแอดมินเพจได้ออกมาตอบคำถามเบื้องต้นว่า... 

“บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จะยุติการผลิตและจัดจำหน่ายนมพาสเจอไรซ์ในประเทศไทย ทั้งนี้ ยังคงสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีหลากหลาย ได้ที่ร้านค้าโฟร์โมสต์และห้างสรรพสินค้า”

ขณะที่เฟซบุ๊กแฟนเพจโฟร์โมสต์ ตอบข้อความแฟนคลับที่เข้าไปสอบถามถึงนมยี่ห้อดังกล่าว ว่าหาซื้อได้ยากในช่วงเวลานี้ ว่า “บริษัทฯ จะยุติการผลิตและการจัดจำหน่ายนมพาสเจอร์ไรซ์ในประเทศไทย ทั้งนี้ ยังคงสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายอื่น ๆ ของโฟร์โมสต์ที่ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าทั่วไปได้ตามปกติ”

นอกจากนี้ได้มีการชี้แจงเพิ่มเติมว่า เป็นการพิจารณาอย่างรอบคอบตามแนวทางการดำเนินธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของบริษัทฯ โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและเก็บรักษาได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร คงต้องรอฝ่ายผู้บริหาร 'โฟร์โมสต์' ออกมาชี้แจงต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top