Saturday, 28 June 2025
NEWS FEED

อินเดีย ไล่ออกทหาร 3 นาย หลังเผอเรอยิงขีปนาวุธใส่ปากีสถาน

หวิดเป็นเรื่อง! อินเดีย ไล่ออกทหาร 3 นาย หลังมือลั่นเผอเรอยิงขีปนาวุธใส่ปากีสถาน เคราะห์ดีไม่ก่อความสูญเสีย

เมื่อวันอังคาร (23 ส.ค.) กองทัพอากาศอินเดีย เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ไล่ออกเจ้าหน้าที่ 3 ราย ฐานเผอเรอยิงขีปนาวุธใส่ปากีสถานโดยไม่ตั้งใจเมื่อเดือนมีนาคม เคราะห์ดีที่ในเหตุการณ์นี้ 2 ชาติคู่อริที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองทั้งคู่ จัดการกับสถานการณ์ได้อย่างสันติ ในขณะที่มันไม่ก่อความสูญเสียใด ๆ

ในอดีตพวกผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเคยเตือนถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับอุบัติเหตุ หรือการคำนวณผิดพลาดใด ๆ ระหว่างสอง 2 ชาติคู่ปรับ ซึ่งสู้รบกันมา 3 สงคราม และเกิดเหตุปะทะทางทหารเล็ก ๆ น้อย ๆ หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับดินแดนพิพาทแคชเมียร์

BrahMos ขีปนาวุธร่อนโจมตีภาคพื้นศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ ที่ร่วมพัฒนาโดยรัสเซียและอินเดีย ถูกยิงออกมาเมื่อวันที่ 9 มีนาคม กระตุ้นให้ปากีสถานเรียกร้องขอคำตอบจากนิวเดลี ในด้านการใช้กลไกความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขีปนาวุธถูกยิงออกมาโดยไม่ตั้งใจ

กองทัพอากาศอินเดียระบุในถ้อยแถลงเมื่อวันอังคาร (23 ส.ค.) "จากการไต่สวนของศาล ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อสรุปข้อเท็จจริงในกรณีนี้ ในนั้นรวมถึงความรับผิดชอบสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าความคลาดเคลื่อนในขั้นตอนปฏิบัติตามมาตรฐานโดยเจ้าหน้าที่ 3 นาย นำไปสู่การยิงขีปนาวุธออกมาโดยบังเอิญ"

ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) จับมือกระทรวงวัฒนธรรม และภาคีเครือข่ายเดินหน้าขับเคลื่อนคุณธรรม “พลิกวิกฤตเป็นโอกาส อยู่รอด อยู่ร่วมสังคมไทย เป็นสุขยั่งยั่งยืน” ในงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๒

วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ร่วมกับ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานภาคีเครือข่ายทางสังคม ๖ ภาคส่วนทั่วประเทศ ผนึกกำลังจัดงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๒ ภายใต้แนวคิด “Sustainability with Moral: อยู่รอด อยู่ร่วม สังคมไทยเป็นสุขอย่างยั่งยืน” ในรูปแบบไฮบริดออนไลน์ พร้อมเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงานในสถานที่จริงและเข้าร่วมงานผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ ๒๔- ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕

นายอิทธิพล  คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรรม (รมว.วธ.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางใหม่ สังคมไทยพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้อย่างไร” และเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๒” ภายใต้แนวคิด “Sustainability with Moral: อยู่รอด อยู่ร่วม สังคมไทยเป็นสุขอย่างยั่งยืน” ในรูปแบบไฮบริดออนไลน์ โดยมี รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ผู้บริหาร และผู้แทนภาคีเครือข่ายสมัชชาคุณธรรม เข้าร่วม ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

ด้านรองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้สถาณการณ์ Covid-19 เริ่มคลี่คลาย จึงสามารถจัดงานในรูปแบบไฮบริดออนไลน์ ภายในงานมีกิจกรรมสำคัญแบ่งเป็น ๒ ส่วนหลัก ประกอบด้วย เวทีวิชาการ อาทิ การปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางใหม่ สังคมไทยพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้อย่างไร” การเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เชื่อมโยงประเด็นหลักการจัดงาน “Sustainability with Moral: อยู่รอด อยู่ร่วม สังคมไทยเป็นสุขอย่างยั่งยืน” ของ ๖ กลุ่มเครือข่ายทางสังคม ได้แก่ เครือข่ายองค์กร ภาครัฐ เครือข่ายภาคธุรกิจเอกชน เครือข่ายองค์กรศาสนา เครือข่ายองค์กรสื่อมวลชน เครือข่ายองค์กรการศึกษา เด็กและเยาวชน และเครือข่ายภาคประชาสังคม ชุมชน ครอบครัว และงานแสดงผลสำเร็จการขับเคลื่อนคุณธรรม “ตลาดนัดคุณธรรม” ขององค์กรเครือข่ายทางสังคม ๖ เครือข่ายกว่า ๕๐ บูธ  

การพูดคุยสร้างแรงบันดาลใจในการทำความดี Moral Talk ของบุคคลและศิลปิน นักแสดง โดย คุณไดอาน่า จงจินตนาการ ผู้ก่อตั้งเพจ “เราต้องรอด” เพจอาสาช่วยเหลือผู้ป่วยในวิกฤตการณ์ Covid-19 ทีมนักกีฬาทีมชาติไทยอาทิ นางสาววิลาวรรณ อภิญญาพงศ์  นางสาวอัจฉราพร คงยศ  นางสาวทัดดาว นึกแจ้ง และนางสาวปลื้มจิตร์ ถินขาว พูดคุยสร้างแรงบันดาลใจกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ การส่งมอบมติสมัชชาคุณธรรมและข้อเสนอเชิงนโยบายด้านคุณธรรมของภาคีเครือข่ายต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะรองประธานคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ นอกจากนี้ ยังมีพิธีมอบรางวัลคุณธรรมอวอร์ด ปี ๒๕๖๔ ประเภทสื่อมวลชน บุคคล ชุมชน และองค์กร จากทั่วประเทศ และนิทรรศการ Hall of fame สื่อ บุคคล องค์กรและชุมชนต้นแบบที่ได้รับรางวัลกว่า ๒๐๐ บุคคล/ผลงาน

การจัดงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายอิทธิพล คุณปลิ้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรรม (รมว.วธ.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางใหม่ สังคมไทยพลิกวิกฤตเป็นโอกาส”และเป็นประธานในพิธีเปิดงานฯ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการศูนย์คุณธรรม  ผู้แทนภาคีเครือข่ายเข้าร่วมแลกเปลี่ยนบนเวทีกลาง ประกอบด้วย Moral Talk จากบุคคลผู้สร้างแรงบันดาลใจ คุณไดอาน่า จงจินตนาการ ดาราต้นแบบด้านจิตอาสาและเป็นผู้ก่อตั้งเพจ “เราต้องรอด” เพจอาสาช่วยเหลือผู้ป่วยในวิกฤตการณ์ Covid-19 , นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย : นางสาววิลาวรรณ อภิญญาพงศ์  (กัปตันกิ๊ฟ) นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย  นางสาวทัดดาว นึกแจ้ง (แนน) นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย และนางสาวอัจฉราพร คงยศ (เพียว) นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย , การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านการส่งเสริมคุณธรรม นำเสนอผลสำเร็จการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๕๙-๒๕๖๕)

สอท. เปิดศูนย์ประสานงานเขตสะพานสูง เน้นช่วยผู้ประกอบการรายย่อยด้วย “กองทุนสร้างอนาคตไทย”

วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2565 ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานภาคกรุงเทพฯ ได้เปิดศูนย์ประสานงานพรรค เขตสะพานสูง ซึ่งมีนางสาววรัญญา แอนดาริส เป็นผู้ประสานงานพรรคในพื้นที่ หลังจากได้ร่วมรับฟังความคิดเห็นและปัญหาของประชาชนในพื้นที่แล้ว

ดร.อุตตม กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทยมีนโยบายที่จะช่วยพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยและผู้ประกอบการรายย่อยด้วย “กองทุนสร้างอนาคตไทย” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาปากท้อง และการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

'ว่าที่ผู้นำอังกฤษ' ลั่น!! พร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากมีความจำเป็น แม้จะเป็นการทำลายโลกก็ตาม

ลิซ ทรัสส์ ตัวเต็งที่จะก้าวมาเป็นผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ซึ่งจะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรคนใหม่ ประกาศกร้าวระหว่างศึกดีเบตเมื่อวันอังคาร (23 ส.ค.) ว่าเธอพร้อมยิงอาวุธนิวเคลียร์ไทรเดนต์ (Trident) ทำลายล้างถ้ามีความจำเป็น โดยเชื่อว่าการตัดสินใจดังกล่าวเป็นหน้าที่อันสำคัญของคนเป็นนายกรัฐมนตรี

ทรัสส์ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าจะก้าวขึ้นมาสืบทอดตำแหน่งของบอริส จอห์นสัน กล่าวว่า เธอพร้อมกดปุ่มนิวเคลียร์ถ้ามีความจำเป็น แม้คิดว่ามันอาจหมายถึงการทำลายโลกก็ตาม

รัฐมนตรีต่างประเทศหญิงรายนี้ไม่ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าประเทศไหนที่สหราชอาณาจักรอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์จัดการ แต่ระหว่างการรณรงค์หาเสียงที่ผ่านมา ๆ เธอมักใช้คำพูดสายแข็งกร้าวต่าง ๆ มากมาย โดยมีเป้าหมายหลักคือรัสเซีย ท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน

ทรัสส์ ยังสัญญาว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหาร 3% ของจีดีพีในช่วงปลายทศวรรษนี้

ทั้ง ทรัสส์ และริชี ซูนัค อดีตรัฐมนตรีคลัง ผู้สมัครที่เหลือรอด 2 คนสุดท้าย สำหรับชิงเก้าอี้ผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ต่างกล่าวโทษประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย สำหรับภาวะทางเศรษฐกิจอันน่าหดหู่ของสหราชอาณาจักร ที่ถูกรุมเร้าด้วยเงินเฟ้อระดับสูง ราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น และค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่สามารถจ่ายได้ แม้หลายฝ่ายมองว่ามันเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่ลอนดอนและพันธมิตรกำหนดเล่นงานรัสเซีย

ทรัสส์ และซูนัค ยังได้พูดประเด็นที่ ปูติน มีแผนเข้าร่วมการประชุมซัมมิตจี 20 ในอินโดนีเซียที่กำลังมาถึง โดย ซูนัค บอกว่าอยากเห็นที่ประชุมห้าม ปูติน เข้าร่วมโดยสิ้นเชิง แต่ทาง ทรัสส์ กล่าวว่า เธออยากเผชิญหน้าเป็นการส่วนตัวกับ ปูติน ในที่ประชุมดังกล่าว

ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดฝึกอบรมให้ความรู้การสืบสวนทางเทคโนโลยี ในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ให้กับเจ้าหน้าที่ TICAC

วันนี้ (24 ส.ค.65) เวลา 08.30 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดการฝึกอบรมในโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการสืบสวนเชิงนิติวิทยาศาสตร์ทางคอมพิวเตอร์ของชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต สำนักงานตำรวแห่งชาติ (TICAC) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 – 26 ส.ค.65 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในชุดปฏิบัติการ พนักงานสอบสวน รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นๆ ที่ทำหน้าที่ในทีมสหวิชาชีพ ร่วมเข้ารับการฝึกอบรมในโครงการดังกล่าว

โดยจุดประสงค์ของการจัดการฝึกอบรมในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจในการสืบสวนทางเทคโนโลยีที่มีความจำเป็นในการปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและเยาวชนทางอินเตอร์เน็ต  ซึ่งในปัจจุบันอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในหลายพื้นที่และทวีความรุนแรงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ ปัญหาดังกล่าวส่วนหนึ่งเกิดจากความซับซ้อนภายใต้การพัฒนาที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยีสารสนเทศ เนื่องจากสังคมยุคใหม่ได้ก้าวไปสู่ยุคข้อมูลดิจิทัลเต็มตัว จึงส่งผลให้คนร้ายพัฒนารูปแบบและวิธีการก่อเหตุโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นเครื่องมือก่ออาชญากรรมที่เป็นการล่อลวงและประทุษร้ายทางเพศต่อเด็กและเยาวชน

สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทสำคัญกับการใช้ชีวิตประจำวันของคนในสังคมมากขึ้นและการเข้าถึงอย่างง่ายดายบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทั้งทางโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ปัจจุบันคนร้ายมักเลือกใช้สื่อสังคมออนไลน์ ทั้งแอพพลิเคชั่น Line Facebook และ Twitter ในการกระทำความผิดต่อเด็กและเยาวชนในหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการคุกคามทางเพศ การเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร การข่มขู่หลอกลวงต่างๆ ซึ่งการกระทำผิดผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตนั้น การนำตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษเป็นเรื่องที่ยากลำบากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการสืบค้นหาตัวผู้กระทำผิดมีความสลับซับซ้อน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการเพิ่มพูนความรู้และทักษะด้านการสืบสวนเชิงนิติวิทยาศาสตร์ทางคอมพิวเตอร์ (Computer Forensic Investigation) เพื่อนำมาประยุกต์ร่วมกับเทคนิคการสืบสวนพื้นฐาน ซึ่งจะก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อการควบคุมปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งสามารถรักษาความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานที่นำไปพิสูจน์การกระทำความผิดในชั้นศาลได้

สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ จัดงาน Thailand Gems & Jewelry Fair 2022 หวังดันไทยเป็นตัวเลือกแรกสำหรับคู่ค้าทั่วโลก

23 สิงหาคม 2565 สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ จัดงานแถลงข่าวกำหนดการจัดงาน “Thailand Gems & Jewelry Fair 2022” ณ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ระหว่างวันที่ 1 – 4 กันยายน 2565 โดยมี รศ.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานในพิธีเปิดงานแถลงข่าวฯ นางสาวพรทิวา นิพาริน สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ประธานจัดงานฯ ร่วมด้วย คุณยรรยง พวงราช, คุณสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานสมาพันธ์อัญมณีเครื่องประดับและโลหะมีค่าประเทศไทย , คุณชุมพล พรจินดารักษ์อุปนายกสมาคมอัญมณีไทยและเครื่องประดับ คนที่ 1 , คุณชุมพล พิทยานนท์ เลขาธิการสมาคมฯ , คุณณัฐวุฒิ พูนผล รองเลขาธิการฯ คนที่ 1 และนายกสมาคมอัญมณีเครื่องประดับโอทอปพร้อมสมาคมต่างๆ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดงานฯ ณ โรงภาพยนตร์ 1 VIP ICONSIAM ชั้น 6 

ถือเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับงานแรกของปี 2022 เพื่อสนับสนุนและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสร้างให้ไทยมีอนาคตที่แข็งแกร่งจากการมีอาชีพที่คนไทยเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง หวังดันประเทศไทยเป็นตัวเลือกแรกสำหรับคู่ค้าทั่วโลก หรือ Sourcing Destination ด้วยศักยภาพที่มีของคนไทยและการพัฒนาต่างๆ ที่สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับจะผลักดันให้เกิดขึ้น

นางสาวพรทิวา นิพาริน นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เปิดเผยว่า “สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับเป็นสมาคมที่มีสมาชิกกว่า 2,000 บริษัท เป็นสมาคมอัญมณีที่แข็งแกร่งที่สุดและมีสมาชิกนิติบุคคลมากที่สุดในอาเซียน ซึ่งเกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของผู้ประกอบการไปจนถึงช่างฝีมือและแรงงานทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกว่าล้านคน ที่ร่วมกันสร้างและขยายธุรกิจอัญมณีจนเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา โดยสมาคมฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวในเรื่องของกลยุทธ์และเทคโนโลยี จึงได้วางเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็น Sourcing Destination ของโลกในธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อให้ทั่วโลกนึกถึงไทยเป็นอันดับแรก ทั้งในแง่ของแหล่งลงทุน แหล่งการผลิต ตลอดจนเป็นแหล่งซื้อขาย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับนานาชาติ รวมถึงสินค้าที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการ อาทิ พลอยสี เพชร เครื่องประดับทอง เครื่องประดับเงิน ที่ใช้สำหรับแต่งงาน ใส่ประจำวัน หรือสำหรับการลงทุน รวมถึงสินค้ากลุ่มเครื่องจักร เครื่องมือ และแพคเกจจิ้ง เพื่อการผลิตและการขายแบบครบวงจร โดยผู้ผลิตทุกรายที่จัดแสดงสินค้าได้รับการรับรองจากสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพได้อย่างมั่นใจ”

โดยงาน Thailand Gems & Jewelry Fair 2022 ได้จัดขึ้นครั้งแรกและเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีงานแรกของปี โดยจัดในรูปแบบ Hybrid Show ที่ใช้เทคโนโลยีร่วมกับ Traditional Trade เนื่องจากอัญมณีและเครื่องประดับจำเป็นต้องใช้การประเมินสินค้าจริงในการทำธุรกิจ ซึ่งได้นำประโยชน์จากเทคโนโลยีมาเป็นสะพานเชื่อมคู่ค้าเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้าง Omni Channel เพื่อการพัฒนาไปสู่ Sourcing Destination ซึ่งแนวคิดนี้มาจากความตั้งใจของสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับที่อยากสร้างให้ไทยมีอนาคตที่แข็งแกร่งจากการที่มีอาชีพที่คนไทยเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง โดยพิจารณาจากศักยภาพที่มีอยู่แล้วของไทย และการพัฒนาต่างๆ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักของงานสองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม B2B และ B2C นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนทั้งจากทางรัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นสมาพันธ์อัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่าแห่งประเทศไทย (GJPCT) กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กรมตำรวจและกรุงเทพมหานคร

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงถึงความคืบหน้าเพิ่มเติม กรณีคดีตำรวจสันติบาลหญิงทำร้ายร่างกายทหารหญิงได้รับบาดเจ็บ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเปิดเผยถึงความคืบหน้าเพิ่มเติมกรณีตำรวจสันติบาลหญิงทำร้ายร่างกายทหารหญิงได้รับบาดเจ็บ 

โดยเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวผู้เสียหายเข้าพบแพทย์ศัลกรรมตรวจร่างกายเพิ่มเติมและสอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจร่างกายผู้เสียหายที่โรงพยาบาลราชบุรี ส่งของกลางตรวจพิสูจน์ นำตัวผู้ต้องหาส่งตรวจสุขภาพจิตที่โรงพยาบาลราชบุรี และได้สอบสวนปากคำแพทย์ผู้รักษาสุขภาพจิตของผู้ต้องหาที่โรงพยาบาลยันฮี ประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

และในวันเดียวกัน (23 ส.ค. 65) ผู้เสียหายพร้อมทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ จว.เพชรบุรี ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาพร้อมพวก รวม 2 คน ในฐานความผิด “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส” สถานที่เกิดเหตุเป็นคอนโดแห่งหนึ่งย่านอำเภอชะอำ จว.เพชรบุรี ในระหว่างวันที่ 4 สิงหาคม 2565ถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2565 และพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว จากนั้นได้ทำการสอบสวนปากคำผู้เสียหาย พาผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุและนำตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลชะอำ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโดที่เกิดเหตุ และจะได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจท่องเที่ยวร่วมมือกงสุลพร้อมรับนักท่องเที่ยว

วันนี้ (24 ส.ค.2565) เวลา 9.30 น. ณ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ท.สคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แจ้งต่อสื่อมวลชนถึงผลสรุปของการประชุมเชิงปฏิบัติการเตรียมรับนักท่องเที่ยวในช่วง high season ระหว่างตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่กงสุลมากกว่า 40 คนจากสถานทูต 18 ประเทศอันได้แก่ ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐเชค เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮังการี ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบอร์กโมร็อกโก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สโลวาเกีย และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้จัดให้มีขึ้นในวันเดียวกันช่วงเวลา 9.00-13.00 น. ว่า ผลการประชุมบรรลุเป้าหมายและเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอย่างดี กล่าวคือ

1. การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสร้างความเข้าใจการทำงานและแก้ไขอุปสรรคปัญหาของกันและกันเป็นอย่างดีระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่กงสุลมีความเข้าใจในการทำงานตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมากขึ้น โดยจะนำไปแจ้งให้รัฐบาลของตัวเองประชาสัมพันธ์ให้คนของประเทศตัวเองทราบต่อไป

2. เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานและเป็นการทำงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างดียิ่ง อันจะส่งผลดีต่อนักท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ที่ดีการท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

3. เป็นการส่งสัญญาณให้นานาประเทศทราบว่า ประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะรับและดูแลนักท่องเที่ยวในช่วง high season (ต.ค.๖๕ - ก.พ.๖๖) ให้ดีที่สุด 

4. เป็นการส่งสัญญาณให้องค์การการท่องเที่ยวโลก และนานาประเทศทราบว่า ประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะปรับมาตรการที่มีอยู่ให้สอดคล้องต่อมาตรฐานสากลว่าการคุ้มครองนักท่องเที่ยว หรือ International Code for The Protection of Tourists (ICPT) ซึ่งได้รับการรับรองแล้วจากองค์การการท่องเที่ยวโลกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้มาตรฐานการท่องเที่ยวไทยสอดคล้องต่อมาตรฐานของโลกมากยิ่งขึ้น

พล.ต.ต. อภิชาติฯ ยังกล่าวอีกด้วยว่า การประสานกับหน่วยงานระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นในการประชุมเชิงปฏิบัติการเมื่อวาน (๒๓ ส.ค. ๖๕) เป็นเพียงมาตรการหนึ่งเท่านั้น การดูแลนักท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวในภาพรวมทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องต่อ ICPT ยังต้องทำอย่างต่อเนื่องต่อไปเพื่อให้การท่องเที่ยวไทยมีมาตรฐานสูงยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปกรอบนโยบายของรัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มุ่งเน้นให้การท่องเที่ยวของไทยเป็น Top of Mind ของโลกอย่างต่อเนื่องต่อไป 

นอกจากนี้ โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า ผู้แทนจากสถานทูตที่เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการทุกท่านชื่นชมแนวคิดและการประชุมของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวเป็นอย่างมากที่ได้สร้างความเข้าใจมากขึ้นสำหรับการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เป็นการหารือกันอย่างใกล้ชิดแบบตรงไปตรงมาระหว่างตำรวจสองหน่วยงานกับเจ้าหน้าที่กงสุลจากสถานทูตของต่างประเทศ 

ในนามของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ท. สุคุณ พรหมายน จึงขอถือโอกาสนี้ขอบคุณผู้แทนจากสถานทูตทุกท่าน สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้

'สนธิ-จักรทิพย์' ซึ้งใจ!! มอบเงินแสนหนุนสุดยอดแท็กซี่ใจบุญ ช่วยพาครอบครัวทุกข์ยากกลับอุดรฯ โดยไม่คิดเงินสักบาท

(23 ส.ค. 65) 'คุณตุ้ม' อนุรักษ์ นาคแกมทอง คนขับแท็กซี่ใจบุญได้รับคำเชิญให้มาเยือนบ้านพระอาทิตย์ เนื่องจากคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้รับทราบข่าวที่คุณอนุรักษ์ ตัดสินใจขับรถข้ามจังหวัด ตีรถจากกรุงเทพฯ หลายร้อยกิโลเมตร เป็นเวลากว่า 7 ชั่วโมง ไปส่ง พ่อ-แม่-ลูก ซึ่งถูกไล่ออกจากห้องเช่ากลับบ้านญาติที่ จ.อุดรธานี โดยไม่คิดค่าโดยสารแม้แต่บาทเดียว แม้ว่าตอนนั้นในกระเป๋าของคุณอนุรักษ์จะมีเงินอยู่เพียงพันกว่าบาท หรือ พอแค่เติมแก๊สไป-กลับได้เท่านั้น

คุณอนุรักษ์ เล่าว่า วันนั้นอยู่ในช่วงเทศกาลวันแม่รถก็ติดมาก หลังขับรถออกมารับผู้โดยสารตามปกติตั้งแต่เวลา 15.00 น. กระทั่งช่วงประมาณ 00.00 น. ขับมาถึงบริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต จึงตัดสินใจเข้าไปหาผู้โดยสารในสถานีรถไฟหลักสี่ และพบผู้ชายคนหนึ่งนั่งหน้าเศร้าอยู่กับผู้หญิงอีกคนที่ในมือกำลังอุ้มลูกอยู่ มองออกไปเห็นผู้ชายคนนั้นลุกขึ้นไปเรียกแท็กซี่คันข้างหน้าและพูดคุยกันอยู่นาน สุดท้ายก็ไม่ได้ขึ้นรถคันนั้นไป เมื่อถึงจังหวะจึงได้เรียกทั้งครอบครัวขึ้นมาพูดคุยกันบนรถ

เมื่อเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ เสียงร้องไห้ของผู้หญิงก็ดังขึ้น สลับกับเสียงงอแงของลูกน้อย พร้อมกับคำบอกเล่าของผู้เป็นพ่อที่น้ำตาซึม บอกว่า ถูกไล่ออกมาจากห้องเช่า ไม่มีเงิน ไม่มีงาน เพราะปกติรับจ้างรายวันมีรายได้แค่พอเลี้ยงชีพเท่านั้น ตอนนี้ต้องการกลับบ้านที่ จ.อุดรธานี เพราะอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อไปไม่ไหว คุณอนุรักษ์ เห็นหน้าเด็กเล็กในอ้อมกอดของแม่ดูคล้ายกับไม่สบายจึงรู้สึกสงสาร และตัดสินใจว่าจะขับรถไปส่งทั้ง 3 คนให้ถึงบ้าน

"ตอนนั้นดึกแล้ว ตอนแรกผมก็ลังเลว่าจะหาใครช่วยอีกได้ไหม แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจช่วยเอง เพราะถ้าปัดให้คนอื่นช่วยก็เหมือนไปรบกวนเขาอีก" คุณอนุรักษ์บอก

หน่วยข่าวกรองรัสเซียฟันธง ยูเครนอยู่เบื้องหลัง เหตุลอบสังหารลูกสาว ‘มันสมอง’ ของปูติน

หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงของรัสเซีย (FSB) ยืนยัน สายลับยูเครนอยู่เบี้องหลังแผนลอบสังหาร ‘ดาร์ยา ดูกินา’ บุตรสาวของ ‘อเล็กซานเดอร์ ดูกิน’ นักการเมืองผู้เป็น ‘มันสมอง’ ของ ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย อย่างแน่นอน 

ดาร์ยา ดูกินา ในวัย 29 ปี ประกอบอาชีพเป็นผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่อง Tsargrad ที่เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาลมอสโคว และเป็นบุตรสาวของ อเล็กซานเดอร์ ดูกิน ที่เป็นหนึ่งในผู้นำแนวคิดอุดมการณ์รักชาติของรัสเซีย และยังได้ชื่อว่าเป็นมันสมองของปูติน ได้เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ หลังจากกลับจากงานเทศกาลวัฒนธรรมเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา 

โดยระเบิดได้ถูกติดตั้งไว้ในรถยนต์ SUV Toyota Land Cruiser ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่าเป็นของอเล็กซานเดอร์ ดูกิน พ่อของเธอ แต่เกิดเปลี่ยนใจขับรถคันอื่นแทน ผู้รับเคราะห์จึงเป็น ดาร์ยา ดูกินา ที่เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top