Thursday, 26 June 2025
NEWS FEED

‘บิ๊กป้อม’ ลุยจัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ป่าไม้ถาวร

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เห็นชอบการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ป่าไม้ถาวร และให้กรมป่าไม้ดำเนินการกำหนดพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ถาวร โดยพิจารณาถึงพื้นที่ป่าไม้ถาวรที่ได้จำแนกไปแล้ว และที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 ของกรมพัฒนาที่ดิน 

รวมทั้งเห็นชอบการเสนอเรื่องขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 เรื่อง มาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ป่าไม้ในภาพรวมทั้งประเทศ โดยเรื่องที่ราษฎรร้องเรียนให้เพิกถอนเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดหรือสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดได้รับเรื่องไว้แล้ว 

รวมถึงเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 ที่เกี่ยวข้อง ให้กรมพัฒนาที่ดินดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จ จนกว่าคณะรัฐมนตรีจะมีมติยกเลิกหรือมีข้อสั่งการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและจัดทำกระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ถาวรเสนอคณะอนุกรรมการจัดที่ดินเพื่อพิจารณาต่อไป

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในชุมชน 6 เขตกรุงเทพมหานคร รุดจัดทีมลงพื้นที่ลุยแจกจ่ายถุงยังชีพต่อเนื่อง ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่น้ำท่วม

ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่น้ำท่วมขัง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำรงชีพ

ระหว่างวันที่ 17-22 กันยายน 2565  มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ได้มอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จัดทีมเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร ปลากระป๋อง  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนม ชุดยาสามัญ น้ำดื่ม ฯลฯ ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อาศัยอยู่ในชุมชนในพื้นที่เขตลาดกระบัง บางคอแหลม บางเขน มีนบุรี หนองจอก และจตุจักร รวม 6 เขต รวมชุดเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 1,175 ชุด รวมงบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 352,500 บาท (สามแสนห้าหมื่นสองพันห้าร้อยบาทถ้วน) โดยมีการประสานงานกับสำนักงานเขตต่างๆ ในการลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในพื้นที่และใกล้เคียง รวมทั้งอาสาสมัครศิลปิน ร่วมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ

โดยในวันนี้ (วันที่ 22 กันยายน 2565) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ รักษาการหัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครมูลนิธิฯ ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่เขตจตุจักร โดยมีอาสาสมัครในพื้นที่ร่วมให้ความช่วยเหลือ

กองทัพเรือจัดงานวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบรอบ 169 ปี

วันที่ (20 กันยายน 2565) เวลา 10.00 น. พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการจัดงานวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบรอบ 169 ปี ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ป้อมพระจุลจอมเกล้า ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยภายในงานได้มีพิธีบวงสรวงและถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พิธียิงปืนเสือหมอบ และพิธีสงฆ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” ซึ่งมีความหมายว่า “พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน” พระองค์เสด็จสวรรคต เมื่อที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 สิริพระชนมายุ 58 พรรษา ทรงครองสิริราชสมบัติ 42 ปี

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น กองทัพเรือจึงได้จัดงานเนื่องในวันคล้าย
วันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบรอบ 169 ปี เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทย พระองค์ทรงประกาศเลิกทาสโดยไม่สูญเสียเลือดเนื้อของประชาชน ทรงปฏิรูประเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ทรงโปรดให้สร้างถนน สะพานและทางรถไฟ ทรงริเริ่มกิจการไปรษณีย์โทรเลข โทรศัพท์ ไฟฟ้า การประปา การสุขาภิบาล อีกทั้งยังทรงระงับข้อพิพาท
กับต่างประเทศ ทำให้ประเทศชาติรอดพ้นภัยมาได้

ในปี พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชปรารภว่า ป้อมคูประตูหอรบที่เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเคยทำหน้าที่ป้องกันอริราชศัตรูและเคยเป็นสง่าสำหรับพระนครมาแต่ก่อนนั้น ล้วนแต่ชำรุดทรุดโทรมและรกร้าง ไม่มีทหารอยู่ประจำรักษาการมาช้านานแล้ว สมควรจะซ่อมแซมก็ยังไม่ลุล่วง เนื่องจากเงินรายได้ของแผ่นดินมีจำกัด ในช่วงเวลานั้น ฝรั่งเศสกำลังหาเมืองขึ้นในเอเชียอาคเนย์อยู่ ภายหลังที่ฝรั่งเศสยึดญวนเขมร และลาวได้แล้ว ฝรั่งเศสก็คิดจะยึดพื้นที่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง (พระตะบอง เสียมราฐศรีโสภณ) อันเป็นของไทยมาตั้งแต่เดิม

ในขณะที่มีเหตุการณ์อันอันไม่น่าไว้วางใจเกิดขึ้นเช่นนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ โดยเรือพระที่นั่งมหาจักรีไปทอดพระเนตรภูมิฐาน ตลอดจนทดลองยิงปืน ที่ป้อมแหลมฟ้าผ่า จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ร.ศ.112 ทรงพระราชดำริว่าป้อมนี้อยู่ในทำเลที่ตั้งมั่นคง สามารถใช้ป้องกันประเทศได้แห่งหนึ่ง ครั้งนั้นได้มีพระราชหัตถเลขาซึ่งสะท้อนแนวพระราชดำริไว้ว่า “ฉันรู้ตัวชัดอยู่ว่า ถ้าความเปนเอกราชของกรุงสยามได้สิ้นสุดไปเมื่อใด ชีวิตรฉันก็คงสิ้นสุดไปเมื่อนั้น มิได้อยู่ปกครองทรัพย์สมบัตินี้เลย ซึ่งจะทนอยู่อย่างที่ขอไม่ได้เลยเปนอันขาด”

จึงโปรดให้ปรับปรุงป้อมดังกล่าวอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งจัดหาอาวุธที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมาติดตั้งประจำไว้ให้ครบถ้วน โดยได้พระราชทานเงินพระคลังข้างที่ (เงินส่วนพระองค์) มาเพิ่มเติมอีกจำนวน 10,000 ชั่ง (ประมาณ 800,000 บาท) เพื่อสมทบการก่อสร้าง ป้อมพระจุลจอมเกล้า โดยเริ่มการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2435 จนแล้วเสร็จในต้นปี พ.ศ.2436 ซึ่งตรงกับเหตุการณ์ ร.ศ.112 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อป้อมปืนแห่งนี้ว่า “ป้อมพระจุลจอมเกล้า” ต่อมาเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2436 พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินด้วยเรือพระที่นั่งมหาจักรี ไปทอดพระเนตรป้อมฯ ทรงทดลองยิงปืนเสือหมอบด้วยพระองค์เอง โดยปืนเสือหมอบนั้นเป็นปืนใหญ่ขนาด 6 นิ้วบรรจุท้าย และเป็นรุ่นแรกที่มีใช้ในกองทัพเรือ ซึ่งสั่งมาจาก บริษัท เซอร์ ดับบลิว จี อาร์มสตรอง จำกัด ประเทศอังกฤษ โดยปืนชนิดนี้ถูกติดตั้งอยู่ภายในหลุมที่ขุดลึกลงไปในดิน จำนวน 7 หลุม หลุมละ 1 กระบอก ซึ่งภายในหลุมได้ก่อเป็นกำแพงกว้างพอที่พลประจำปืน จำนวน 10 นาย จะปฏิบัติงานได้ ปืนนี้เวลายิงจะโผล่กระบอกปืนขึ้นมาจากหลุมด้วยแรงไฮดรอลิคส์ และเมื่อทำการยิงแล้วปืนจะถอยลงมา อยู่ในหลุมตามเดิม อันเป็นที่มาของชื่อปืนเสือหมอบ

‘ดร.ตั้น’รุดตรวจรง.สารเคมีรั่ว ย้ำรง.ต้องรับผิดชอบปชช. ที่ได้รับผลกระทบ แม้พบว่า สารเคมีที่รั่วมีความเป็นพิษต่ำ

ดร.กฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรางอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบการการรั่วไหลของสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดนครปฐม โดยระบุว่า สารเคมีที่รั่วออกมานั้น เป็นโรงงานย่านพุทธมณฑลสาย 7 จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญ พบว่า สารเคมีที่รั่วไหลนั้นมีชื่อว่า สารไดฟีนีลออกไซด์ (Diphenyl Oxide) 73% และสารไบฟีนีล (Biphenyl) 27% ซึ่งเป็นสารที่ไม่ได้เกิดจากกระบวนการผลิตโดยตรง แต่เป็นสารที่เกิดจาก Hot Oil หรือน้ำมันถ่ายเทร้อนเกิดการรั่วไหล ทำให้เกิดกลิ่นฉุน และเหม็นเปรี้ยวกระจายไปยังพื้นที่รอบๆ ในรัศมีประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ได้ปิดวาล์วเพื่อควบคุมการรั่วไหล และหยุดสายพานการผลิตเรียบร้อยแล้ว

ดร.กฤชนนท์ ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากการผุกร่อนของท่อส่งสารเคมี และสารเคมีที่รั่วออกมานั้นปริมาณอยู่ที่ราว 30 ลิตร และเนื่องจากเป็นสารที่มีน้ำหนักเบา ทำให้ลอยไปในอากาศได้ไกล แต่จากสารดังกล่าวเป็นสารที่ระเหยได้เร็ว ในช่วงแรกที่เกิดการรั่วไหลจะมีกลิ่นรุนแรง แต่ก็จะระเหยไปอย่างรวดเร็วเมื่อลอยขึ้นสู่อากาศ จัดอยู่ในกลุ่มพี่มีพิษต่ำ อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองที่คอ ตา และแสบจมูกบ้างหากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก

ผู้ว่าฯปทุมธานี เปิดจวน ต้อนรับผู้ว่าฯชัชชาติ เพื่อหารือการทำงานแบบไร้รอยต่อ

เมื่อวันที่ (20 ก.ย. 65) เวลา 16.00 น. ที่ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้ต้อนรับคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นำโดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าหารือแนวทางแก้ไขปัญหา เรื่องการระบายน้ำ ปัญหาฝุ่นละออง ปัญหาการจราจร และการวางผังเมืองที่จะเกิดขึ้นกับจังหวัดรอบ ๆกรุงเทพมหานคร เป็นการประสานความร่วมมือแบบไร้รอยต่อระหว่างกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง เช่น ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม ฉะเชิงเทรา สมุทรปาการ  

จากการพูดคุย เรื่องปัญหาน้ำท่วม ซึ่งทางทั้ง 2 จังหวัดได้พูดคุยเรื่องการพร่องน้ำในคลองต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงระหว่างกรุงเทพฯกับปทุมธานี เช่นคลองหกวาสายล่างเชื่อมลงมาทางคลองรังสิตประยูรศักดิ์ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนกรุงเทพมหานครจะมีคลองเปรมประชากรเชื่อมต่อกับคลองบ้านใหม่ ซึ่งจะมีการสูบน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา และจุดอนุสรณ์สถานก็วางแผนร่วมกันแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมขัง

ในการหารือครั้งนี้ ทางผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่าในอนาคตจะมีโครงการที่ผันน้ำด้านทิศตะวันออกเพื่อลงสู่อ่าวไทยโดยเร็วโดยจะขุดอุโมงค์ลอดจากเขตลาดกระบังผ่านด้านทิศตะวันออกของสนามบินสุวรรณภูมิ ลงมาที่คลองร้อยคิว และจะทะลุผ่านอำเภอคลองด่านจังหวัดสมุทรปาการลงสู่อ่าวไทยต่อไป

กองทัพอากาศ ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อพัฒนาการศึกษาเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จัดพิธีมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศการประกวดโครงการ Out of the Box และโครงการ Clip You Life Click Your Future

เมื่อวันพุธที่ (21 กันยายน 2565) เวลา 09.00 น. กองทัพอากาศ โดย พลอากาศโท ฐานัตถ์ จันทร์อําไพ รองเสนาธิการทหารอากาศ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อพัฒนาการศึกษาเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จัดพิธีมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศการประกวดโครงการ Out of the Box และโครงการ Clip You Life Click Your Future ณ ห้องรับรองกองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพอากาศ

กิจกรรมการประกวดทั้ง 2 โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมด้านกำลังความคิดในการผลิตสื่อที่ทันสมัย เป็นต้นแบบนักสื่อสารที่ดี ปลูกจิตสำนึกด้านผลิตสื่อที่ปลอดภัย รู้เท่าทันสื่อ เลือกบริโภคสื่ออย่างถูกต้อง พัฒนาคุณภาพการศึกษาสำหรับเป็นแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ให้แก่นักเรียนของโรงเรียนเอกชน และสร้างเครือข่ายเยาวชนในการผลิตสื่อสร้างสรรค์ด้านความมั่นคง และภารกิจของกองทัพอากาศในอนาคต  

ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายที่สำคัญนอกจากประกาศเกียรติคุณให้กับนักเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ยังเป็นการส่งเสริมขวัญและกำลังใจ เผยแพร่เกียรติประวัติเกียรติคุณ ส่งเสริมความรู้ความสามารถของนักเรียนที่ได้รับการยกย่องให้สังคมโดยทั่วไปได้รู้จัก และมุ่งประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งดีงามอันจะส่งผลให้โรงเรียน ชุมชน ประเทศชาติ เป็นสังคมที่มีคุณภาพต่อไป

'สุชาติ' รมว.แรงงาน มอบ เลขาธิการ สปส. 'บุญสงค์' ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ติดตามคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วย นางสาวพรรณิกา เหลืองสุรีย์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางสาวมุทิตา ชูประดิษฐ์ ประกันสังคมจังหวัดอุดรธานี นางอาภรณ์ แว่วสอน ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 4 จังหวัดขอนแก่น นางสาวหัฎฐริภิม ณมงคลบุญวงษ์ ผู้อำนวยการกองฝึกอบรม และเจ้าหน้าที่ ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามคุณภาพชีวิตพร้อมให้กำลังใจผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพในจังหวัดอุดรธานี จำนวน 3 ราย

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยและทุพพลภาพ โดยวันนี้ได้มอบหมายให้ ผมและคณะลงพื้นที่ มอบของเยี่ยมให้กับผู้ประกันตนทุพพลภาพถึงบ้านพัก ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดอุดรธานี จำนวน 3 ราย ได้แก่ นางเสาวณี จันทร์แจ้ง ผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพ จากสาเหตุเจ็บป่วยด้วยโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคไต เส้นเลือดสมองตีบ และต่อมาเป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปากข้างซ้ายเบี้ยว ตาข้างซ้ายหลับไม่สนิท เดินไม่ได้ ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 3,625.50 บาท ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอุดรธานี ได้จ่ายสิทธิประโยชน์ไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 329,920.50 บาท

'บิ๊กป้อม' ห่วง!! สารเคมีรั่วไหลจากโรงงานในนครปฐม สั่ง ส.ส.พปชร.รุดพื้นที่ติดตาม-ช่วยเหลือประชาชนใกล้ชิด

'พล.อ.ประวิตร' ห่วงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสารเคมีรั่วไหล เร่งประสานส.ส.-อดีตผู้สมัครติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือประชาชน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนากยกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากกรณีเกิดเหตุ สารเคมีรั่วไหล ภายในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ในจ.นครปฐม และมีประชาชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร รอบนอก และ จ.นนทบุรี ที่เป็นพื้นที่รอบต่อ จึงประสานงานให้ส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในการประสานงานรับเรื่องราวร้องทุกข์และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างทันท่วงที

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในเบื้องต้นขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลีกเลี่ยงออกมาภายนอกอาคาร  เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นดังกล่าวเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ประเมินการหายใจของตนเองหากพบสิ่งผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์

‘คุณชายอดัม’ เผยเรตรายได้ ค่าตัวดาราไทย คิดยังไงก็ไม่น่าถอยซุปเปอร์คาร์ได้ 2-3 คัน

คุณชายอดัม เปิดรายได้ดารานักแสดงในวงการบันเทิงไทย ชี้ยังไงก็ไม่มีทางที่ถอยซุปเปอร์คาร์ 2-3 คัน หรือ สร้างบ้านหลายหลัง เที่ยวต่างประเทศแบบชิล ๆ ได้แน่นอน

เมื่อวันที่ (21 ก.ย. 65) หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ คุณชายอดัม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘เฉลิมชาตรี ยุคล’ ในประเด็นเรื่องรายได้ของดารานักแสดงในวงการบันเทิงไทย โดยระบุว่า…

ถ้าดาราเป็นดาราเลยเพียงอย่างเดียว รายได้จะไม่มีทางถอย Supercar 2-3 คันใน 1 ปีได้เลย ยกเว้นแต่จะดาวน์และผ่อนเอา ซึ่งก็หนักหนาอยู่ดีครับ ถ้านักแสดง 1 คนสร้างบ้าน 4-5 หลัง รถสปอร์ต 4-5 คัน เที่ยวต่างประเทศไตรมาสละ 2-3 ครั้ง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับงานแสดงหนัง+ละครแล้วจะมีเงินจ่ายขนาดนี้ครับ

สมมติว่าเล่นภาพยนตร์ หนังไทยเรื่องนึงงบอยู่ที่ 10-30 ล้านบาท ถ้านักแสดงหนึ่งคนรับ 5 เรื่อง ก็คือใช้เวลาเล่นหนัง 75 วัน แล้วโดยประมาณถ้าคิด 5 ล้านบาทต่อเรื่อง (ซึ่งคงเป็นไปได้ยากมากที่จะมีนักแสดงที่ได้เงินขนาดนี้ต่อภาพยนตร์ 1 เรื่องแน่ๆ) ก็ 25 ล้านบาท ก็อาจจะได้ Super Car หนึ่งคัน

ถ้าเล่นละคร ตอนนึงราคาสูงสุดก็เอาไปเลย 2 แสนบาทต่อตอน (นักแสดงเบอร์ใหญ่สุดๆ ของเมืองไทยแบบ Top 5 ของประเทศละครับ) ดังนั้นก็จะได้เรื่องนึงประมาณ 3 ล้านบาท แบบเยอะเหลือเชื่อแล้วนะครับ ถ้าละคร อีก 5 เรื่องก็ คือระยะเวลาถ่ายทำประมาณ 40 วันต่อเรื่อง (ซัก 16 ตอนต่อเรื่องนะครับ กะๆ เอา) ก็จะใช้อีก 200 วัน ก็รวมๆ 15 ล้านบาท

รวมสองอันก็ 275 วันแล้ว ได้ 40 ล้านบาท ได้ Aventador คันนึงละครับ

แปลว่าถ้าจะเอาบ้านอีกซักหลังที่ 10-20 ล้านก็ต้องทำงานเหนื่อยหน่อยนะครับ แล้วถ้าไปเมืองนอก 5 วัน 3 ครั้งทุกไตรมาส ก็จะเป็น 45 วันที่ไปเที่ยวต่างประเทศต่อปี ไม่นับรวมปาร์ตี้ EDM ดัง ๆ 5-10 ครั้งต่อปี ก็ 55 วัน ตอนนี้ก็ 330 วันละครับ เหลืออีก 35 วัน

ตรงนี้ก็อยู่ที่ว่าถ้าอยากได้เงินไว้ใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วย ก็ต้องทำอย่างอื่นควบคู่ไปครับ เช่นออกอีเวนต์ ซึ่งจะได้ประมาณ 3 แสนต่อวัน (ซักวันละ 3 งาน งานละ 1 แสน รอบละ 3 ชั่วโมง ก็จะใช้เวลา 9 ชั่วโมงต่อวันไม่รวมเดินทาง ซึ่งเดินทาง 1 ชั่วโมง ก็ 12 ชั่วโมงต่อวันละ) ก็จะได้อีก 9 ล้านบาท สำหรับ 30 วัน ส่วน 5 วันที่เหลือไว้ไปงานวันเกิดเพื่อน ไปไหว้คุณพ่อคุณแม่และดูแลครอบครัว

สอท. ขอโอกาสคนรุ่นใหม่ไฟแรง ฮาซัน วันนุ รับใช้ชาวหนองจอก

วันที่ 22 กันยายน 2565 นายสมัย เจริญช่าง ที่ปรึกษาพรรคสร้างอนาคตไทย, นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค, นายอิธวัฒน์ พิทักษ์คุมพล กรรมการบริหารพรรค, นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ผู้ประสานงานเขตคลองสามวา และทีมงานพรรคสร้างอนาคตไทย ได้ร่วมกันเปิดศูนย์ประสานงานเขตหนองจอก โดยมีนายฮาซัน วันนุ เป็นผู้ประสานงานในพื้นที่ 

นายสุรนันทน์ กล่าวว่า นายฮาซัน ได้ทำงานจิตอาสาลงพื้นที่ดูแลประชาชนมากว่า 2 ปี โดยไม่สังกัดพรรคการเมืองใดๆ  เป็นคนหนุ่มไฟแรงและได้รับการยอมรับจากคนทุกรุ่น และวันนี้ก็มีโต๊ะอิหม่าม จากกว่า 40 มัสยิด และผู้นำชุมชนในพื้นที่มาร่วมสนับสนุนการทำงานในครั้งนี้ พรรคจึงมั่นใจว่าเราได้เลือกผู้ประสานงานที่ดีที่สุดและทำงานเพื่อประชาชนอย่างต่อเนื่องมารับใช้พี่น้องในครั้งนี้

นายสุรนันทน์ ยังกล่าวอีกว่า การเปิดศูนย์ประสานงานไม่ใช่การเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคมีความตั้งใจที่จะเปิดศูนย์เพื่อให้มีความใกล้ชิดประชาชน รับฟังปัญหาและความทุกข์ร้อน ผู้ประสานงานของเราจะช่วยผลักดันและแก้ไข และจะเป็นตัวกลางในการประสานงานระดับท้องถิ่นและระดับชาติ พรรคสร้างอนาคตไทยพร้อมที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้อง และลดความขัดแย้งทางการเมืองที่ได้ส่งผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยจะร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top