Wednesday, 25 June 2025
NEWS FEED

‘NRPT’ บริษัทร่วมทุนของ NRF และ Innobic จับมือ ‘OR’ร่วมพัฒนาธุรกิจ Plant-based ผ่านธุรกิจค้าปลีกและสถานีบริการน้ำมัน เพื่อดันอาหารแห่งอนาคต เติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค

(28 กันยายน 2565) บริษัท เอ็นอาร์พีที จำกัด (NRPT) และ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาธุรกิจโปรตีนจากพืช (Plant-based) และอาหารแห่งอนาคต โดยมุ่งพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์และธุรกิจร้านค้าปลีกอาหารโปรตีนจากพืชที่เหมาะสมกับร้านค้าปลีกและสถานีบริการน้ำมันของโออาร์ เติมเต็มทุกความต้องการของผู้บริโภค ทำให้คนไทยสะดวกและมีทางเลือกในการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) (NRF) และกรรมการบริษัท เอ็นอาร์พีที จำกัด กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นในการใช้อาหารต่อสู้กับโลกร้อน อาหารโปรตีนทางเลือกจากพืช นับเป็นกลยุทธ์หลัก ด้วยกรรมวิธี และกระบวนการการผลิตที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอน 1 ใน 10 ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการทำปศุสัตว์ ทั้งยังส่งผลที่ดีต่อสุขภาพ สอดรับเทรนด์ผู้บริโภคที่เริ่มสรรหาและคัดสรรอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและร่างกาย อีกทั้งอาหารที่จะรับประทานยังต้องส่งผลดีต่อโลกด้วย

นอกจากนี้เป้าหมาย คือการเดินหน้าพัฒนาและต่อยอดอาหารทางเลือกให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันมี alt.Eatery สาขาต้นแบบอยู่ย่านสุขุมวิท 51 ซึ่งแผนการขยายสาขานั้น เรามีพันธมิตรที่เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก ซึ่งมีความมั่นใจในความเชี่ยวชาญที่จะผนวกรวมกันเพื่อผลักดันให้อาหารโปรตีนจากพืช ที่มีรสชาติและสัมผัสที่คล้ายคลึงกับเนื้อสัตว์ และในอนาคต Plant-Based อาจมิใช่เพียงอาหารทางเลือก แต่จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพและโลกที่ยั่งยืน 

ความร่วมมือกันพัฒนารูปแบบธุรกิจของร้านค้าปลีกและเมนูอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) ในครั้งนี้ จะมีการพัฒนาเมนูพิเศษ “ขนมปังไส้หมูแดงแพลนเบส” ที่จะวางขายกับ คาเฟ่ อเมซอน ในปีนี้ และเปิดร้านค้า Flagship นำร่องในสถานีบริการน้ำมันของ “โออาร์” ที่สาขาวิภาวดีรังสิต ในปี 2566

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า โออาร์ ดำเนินธุรกิจ ภายใต้วิสัยทัศน์ “Empowering All Toward Inclusive Growth” หรือ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” โดยมุ่งเน้นในการแสวงหาโอกาสใหม่ในการดำเนินธุรกิจ คิดค้น และพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ พร้อมทั้งส่งเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยหนึ่งในพันธกิจของ โออาร์ คือการสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตแบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ (All Lifestyles) และเติมเต็มทุกความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งในปัจจุบันอาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทั้งจากการที่มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่หันมาให้ความสำคัญกับการรับประทานที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ รวมไปถึงกลุ่มคนที่ทานมังสวิรัติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ความร่วมมือกับอินโนบิกและเอ็นอาร์พีทีในการพัฒนารูปแบบของร้าน alt.Eatery ให้เหมาะสมสำหรับการขยายธุรกิจใน พีทีที สเตชั่น รวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์ของ โออาร์ จึงจะช่วยเพิ่มทางเลือกในการรับประทานอาหารใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงอาหาร Plant-based ได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ ให้เข้ามาใช้บริการใน พีทีที สเตชั่น หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ของ โออาร์ มากขึ้นอีกด้วย โดยจะเริ่มจากพื้นที่บริเวณ Flagship ในย่านชุมชนคนรุ่นใหม่ และขยายสู่พื้นที่อื่นๆ ต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาเมนูอาหาร Plant-based หรือโปรตีนจากพืชสำหรับร้านอาหารในเครือของ โออาร์ ตลอดจนโอกาสในการดำเนินธุรกิจร่วมกันในรูปแบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Plant-based ต่อไป 

ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด กล่าวว่า อินโนบิก (เอเชีย) ได้เดินหน้าต่อยอดธุรกิจโภชนาการและอาหารโปรตีนจากพืชแบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ให้กับอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต ผ่านทางบริษัท“เอ็นอาร์พีที” (Nutra Regenerative Protein Co. Ltd : NRPT) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกกึ่งร้านอาหาร

'รัฐบาล' หนุนทุนวิจัย ผลิต 'เท้าเทียมไดนามิกส์' เตรียมดันให้ผู้พิการใช้ฟรีตามสิทธิรักษาพยาบาล

เมื่อวันที่ (28 ก.ย. 65) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเห็นความสำคัญในการสร้างโอกาสให้กับผู้พิการ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ต้องการให้ผู้พิการทุกคนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ ตลอดจนใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมั่นใจ สามารถนำศักยภาพมาเป็นกำลังสำคัญในการร่วมพัฒนาประเทศ รัฐบาลโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้สนับสนุนทุนวิจัย ได้ให้ทุนสนับสนุนแก่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ตั้งพรประเสริฐ และทีมวิจัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในโครงการ 'ก้าวใหม่ด้วยวิจัยและนวัตกรรม' ภายใต้โครงการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยผลิตเท้าเทียมไดนามิกส์นำไปมอบให้กับผู้พิการขาขาดตามโรงพยาบาลกว่า 13 แห่ง จำนวน 67 ขา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการขาขาดให้ดีขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนในการนำเข้าเท้าเทียมจากต่างประเทศที่มีราคาสูง

'นารา เครปกะเทย' ร่ำไห้แรง คดีอาหารเสริมฯ พ้อหนัก!! ชีวิตพังเพราะคดี "ไม่เหลืออะไรแล้วชีวิตนี้"

‘นารา เครปกะเทย’ ร้องไห้ ชีวิตพัง เพราะคดี "อาหารเสริม ผสมสารอันตราย" บอกไม่รู้ไม่เห็น แต่โดนคนเดียว เสียหายทั้งชื่อเสียง เงินทอง "ถ้ารู้โรงงานใส่สารนี้ หนูจะตบ หนูจะหลอกลวงผู้บริโภคทำไม" ขอความรับผิดชอบจากแบรนด์

ร้องไห้กลางไลฟ์สดแบบชุดใหญ่ สำหรับ ‘นารา เครปกะเทย’ หลัง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมเครือข่ายผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ "เสริมอาหาร" ผสมวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลโพโรลิดีน) โดย จับกุม นายอนิวัต ประทุมถิ่น อายุ 23 ปี หรือ ‘นารา เครปกะเทย’ เน็ตไอดอลชื่อดัง ในข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลโพโรลิดีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำทางการค้า"

โดยหลังจากที่มีข่าวออกไปนั้น ‘นารา เครปกะเทย’ ออกมานั่งไลฟ์สด ร้องไห้ ตัดพ้อ ถึงคดี ที่ทำชีวิตพัง ว่า "คนที่ถามว่าขาวขึ้นจริงไหม หนูบอกแล้ว ว่าขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคนตลอด ในคลิปไลฟ์สดต่าง ๆ หาดูได้ ถ้าใครไม่อยู่จุดนี้ เจอคอมเมนต์มาก ๆ จะไม่เข้าใจ พอมีข่าวสารเสพติดแบบนี้ คนที่โดนคือหนูคนเดียว ทั้งที่เราไม่รู้เรื่องไม่เห็น เราทำแค่หน้าที่ สุดท้ายคนที่โดน คือหนูคนเดียว เสียหายทั้งชื่อเสียง เสียหายทั้งงาน ขอความรับผิดชอบจากแบรนด์

ครม.อนุมัติ 3.85 พันล้าน พัฒนา ‘สถานีศิริราช’ เป็นทั้งอาคารรักษาพยาบาลและสถานีรถไฟฟ้า

คณะรัฐมนตรี อนุมัติ 3.85 พันล้าน พัฒนาสถานีศิริราชเป็นอาคารรักษาพยาบาลและสถานีรถไฟฟ้าแห่งแรกของประเทศ เชื่อมรถไฟสายสีแดงอ่อน-รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วยประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็ว

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 ว่า ครม.อนุมัติการดำเนินโครงการอาคารรักษาพยาบาลและสถานีศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล งบประมาณรวมทั้งสิ้น 3,851.27 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนค่าก่อสร้าง 2,338.27 ล้านบาท ครุภัณฑ์การแพทย์ 1,400 ล้านบาท และงบบุคลากร (หมวดเงินเดือน) 113.01 ล้านบาท โดยขออนุมัติงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ 2566 - 2569 จำนวน 2,552.50 ล้านบาท และเงินสมทบจากเงินนอกงบประมาณ จำนวน 1,298.77 ล้านบาท ในลักษณะเป็นเงินอุดหนุน

โครงการนี้เกิดขึ้นโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารรักษาพยาบาลและสถานีศิริราช เพื่อให้เป็นสถานีขนส่งมวลชนเพื่อสุขภาพและสาธารณสุขแห่งแรกของประเทศไทย โดยพัฒนาจุดเชื่อมโยงการเดินทางโดยรถไฟฟ้าบริเวณโรงพยาบาลศิริราช จำนวน 2 สถานี คือ สถานีศิริราช รถไฟฟ้าสายสีส้มของ รฟม. และสถานีธนบุรี - ศิริราช รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนของ รฟท. และเพิ่มประโยชน์การใช้งานนอกเหนือจากสถานีรถไฟฟ้าด้วยการบริการรักษาพยาบาล เช่น งานบริการผู้ป่วยนอก งานบริการผู้ป่วยใน งานบริการตรวจผู้ป่วยที่ไม่จำเป็นต้องพักค้าง เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาการเดินทางและลดความแออัดของผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลศิริราชด้วยการเป็น One Stop Service และ Best Integrated Care

นางสาวรัชดา กล่าวว่า โครงการนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ รฟท. ซึ่งต่อเนื่องกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล บริเวณสถานีรถไฟธนบุรี - ศิริราช ช่วงเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน เลียบคลองบางกอกน้อย โดยเป็นการเช่าที่ดินของ รฟท. บนพื้นที่ 4.67 ไร่ (7,456 ตารางเมตร) ระยะเวลาเช่า 30 ปี สำหรับลักษณะของโครงการ เป็นการก่อสร้างอาคารสูง 15 ชั้น ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น รวมความสูงของอาคารเท่ากับ 81 เมตร มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 51,853 ตารางเมตร แบ่งเป็น 1. พื้นที่โรงพยาบาล 47,537 ตารางเมตร 2. พื้นที่รถไฟสายสีแดงอ่อน 3,410 ตารางเมตร และ3. พื้นที่รถไฟฟ้าสายสีส้ม 906 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่จอดรถ 79 คัน ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 32 เดือน รวมระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 ปี

'ผบช.ภ.7' จัดกองเกียรติยศ ให้ ผบ.ปั๊ด อำลาหน่วยอย่างยิ่งใหญ่ ลั่นจะยึดถือเป็นต้นแบบในการปฏิบัติงานในฐานะผู้นำองค์กร

เมื่อวันอังคารที่ 27 ก.ย. 2565 (เวลาประมาณ 10.00 น.) ที่ กองบัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 7 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ได้ให้การต้อนรับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เนื่องในโอกาสที่ ผบ.ตร.เดินทางมาเยี่ยมอำลาหน่วยตำรวจภูธรภาค 7 ในโอกาสที่เกษียณอายุราชการ

พร้อมด้วยพล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.ต.ท.รักษ์จิต  หม้อมงคล ผทค.พิเศษ ตร. รรท.รอง ผบช.ภ.7,พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7,พล.ต.ต.อาทิชา  เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7, ผบก., ผกก. และ ข้าราชตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 เข้าร่วม ต้อนรับ

โดย ผบ.ตร.ได้ขึ้นรับการแสดงความเคารพจากกองเกียรติยศ พร้อมด้วยข้าราชการในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ระดับผบก.ขึ้นไป และลงนามในสมุดตรวจเยี่ยมหน่วย

ผบ.ตร.สอน นักเรียนนายสิบตำรวจทั่วประเทศ รับราชการอย่างมีความสุข มีคุณค่า ต้องมีความยุติธรรม เอื้อเฟื้อ เป็นที่พึ่งของประชาชน 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ บรรยายพิเศษ นสต. ทั่วประเทศ 'แนวทางการรับราชการ อย่างมีความสุข และมีคุณค่า' สอนวิชาชีวิต ครองตน ครองคน ครองงาน ต้องเลือกคบเพื่อนดี มีต้นแบบผู้บังคับบัญชาดี เปรียบงานตำรวจสร้างพีระมิด ต้องสามัคคี ย้ำสีกากีต้องทำหน้าที่ รักษาความยุติธรรม ค้ำยันสังคม เป็นที่พึ่งของทุกคน 

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 กันยายน 2565 ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 1 (ศฝร.ภ.1) อ.เมือง จว.สระบุรี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) บรรยายพิเศษ ในหัวข้อ 'แนวทางการรับราชการ อย่างมีความสุข และมีคุณค่า' โดยมี พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1, ศฝร.ภ.1 และนักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต.) ทั่วประเทศ รับฟังผ่านระบบออนไลน์

พล.ต.อ.สุวัฒน์ บรรยายแนวทางการดำเนินชีวิต ครองงาน ครองคน ครองชีวิต อย่างมีคุณค่า และมีความสุข โดยบางช่วงบางตอน ผบ.ตร. ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การทำงาน การตัดสินใจ ในช่วงของการดำรงตำแหน่งต่างๆ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังปรับหลักสูตรนายสิบตำรวจ ให้เรียนภาคปฏิบัติเพิ่มขึ้น เรียนด้านวิชาการน้อยลง เน้นสอนขั้นตอนการทำงาน เช่น ขั้นตอน มาตรฐานการเข้าระงับเหตุ แล้วอธิบายด้วยกฎหมาย ต่างจากปัจจุบันที่สอนกฎหมาย แล้วให้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อให้การปฏิบัติงานตำรวจ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และมีนโยบายให้นักเรียนนายสิบตำรวจที่จบใหม่ ปฏิบัติหน้าที่ในงานด้านอารักขา และควบคุมฝูงชนก่อน เพื่อให้มีความชำนาญด้านยุทธวิธี จากนั้นจะย้ายไปปฏิบัติงานในสถานีตำรวจต่อไป

“ยอมรับว่าตำรวจยุคใหม่ มีพื้นฐานความคิดไม่เหมือนรุ่นเก่าๆ สิ่งที่ต้องฝากเมื่อนักเรียนนายสิบจบออกไป เจออะไรแปลกใหม่ ต้องเรียนรู้ รุ่นพี่บางคนชักจูงเราไปในทางไม่ปลอดภัยในชีวิตราชการ อย่างนี้ต้องระวัง จำไว้ว่าของสองอย่างอยู่ด้วยกันมักดึงดูดกัน จะเลือกเป็นตามสิ่งดี หรือถูกดึงดูดไปทางไม่ดี ต้องเลือกเอง โดยยึดความถูกต้อง ชอบธรรม การคบเพื่อนร่วมงาน ควรหาให้เจอว่าควรคบใครดี หาเจ้านายที่เป็นตัวแบบ มีเพื่อนร่วมงานที่จะพาเรารอดไปทั้งชีวิต หาตัวแบบผู้บังคับบัญชาที่ดี เราอยู่คนเดียวไม่ได้” ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ สอนเรื่องการดำรงชีวิต วางแผนการใช้เงิน ไม่สร้างหนี้ รวมถึงการสร้างครอบครัว ต้องเลือกคู่ชีวิตให้ดี โดยต้องวางแผนการเงินให้ดี หากวางแผนไม่ได้ อย่าก่อหนี้ เช่น เริ่มทำงานก็กู้ทันที ซื้อมอเตอร์ไซค์ ผ่อนบ้าน ใช้หนี้คนอื่น กู้ให้พ่อแม่ ต้องคิดดีๆ การก่อหนี้หากจำเป็นต้องทำอย่างรอบคอบ ต้องรู้จักการบริหารเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พยายามลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ แต่ไม่สนับสนุนให้กู้ เรื่องการสร้างครอบครัว การมีคู่ชีวิตภรรยาดี เป็นกัลยาณมิตรในชีวิต ก็เป็นทรัพย์สินทางปัญญา ทรัพย์สินชีวิต หาคู่ชีวิตที่ช่วยกันส่งเสริมชีวิต  

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ความสำเร็จของชีวิต อยู่ในที่ลำบาก มนุษย์เราชอบอยู่ในคอมฟอร์ตโซน แต่หากอยากทำอะไรสำเร็จต้องออกไปข้างนอก ต้องเรียนรู้พัฒนาตนเอง สร้างยี่ห้อให้ตัวเอง พัฒนา ปรับตัว หาวิธีการทำงาน โลกมีไดนามิกต้องเอาตัวให้รอด ทำงานในหน้าที่ ทำตัวให้มีคุณค่าที่ใครก็อยากใช้งาน และตำรวจยุคใหม่ต้องเท่าทันเทคโนโลยี นำเทคโนโลยีมาใช้ให้งานมีประสิทธิภาพ ใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติ ยับยั้งชั่งใจ

ผบ.ตร. กล่าวว่า ตำรวจต้องเคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ ต้องทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ตั้งแต่วันแรก จนวันที่พ้นจากหน้าที่ราชการ อย่าเอาตัวไปเกลือก ไปเสี่ยง ดำรงตนด้วยความยุติธรรม กระทำการด้วยปัญญา รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต ต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ให้มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ มีความพร้อมยุทธวิธี ต้องมีความมั่นคงในความคิด ไม่ยอมให้ตนเองถูกชักจูงออกนอกเส้นทาง โดยพึงจำว่า ประสบการณ์ชีวิตเป็นบทเรียนที่มีค่ามากที่สุด

ร้อง 'ปอท.' ฟัน 4 นักร้องดังนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมฯ เชื่อ!! ลงเอยด้วยการขอโทษ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์

(27 ก.ย. 65) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน กทม. นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา ประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายยุติธรรม และ สิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ปรัญญา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. ร้องขอให้ตรวจสอบดำเนินการหาข้อเท็จจริงและคดีตามกระบวนการกฎหมาย การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตรา 114 และ 115 ของนักร้องจำนวน 4 คน ที่ได้ร่วมกันแสดงคอนเสิร์ต 'สี่แยกปากหวาน ตอน Will survive #สู้ตายเราต้องรอด' เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีค่าเข้าชม บัตรการแสดงราคาสูงสุด ใบละ 4,000 บาท

โดยนักร้องทั้ง 4 ท่าน ได้แต่งเพลงพิเศษจำนวน 2 เพลงในการแสดงสดวันนั้น และ นำลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ TikTok และ ระบบคอมพิวเตอร์ในยูทูป และนำมาลงในเฟซบุ๊กบางส่วน ที่เป็นระบบสาธารณะมีประชาชนเข้าถึงได้แบบไม่จำกัด ซึ่งประเทศไทยมีผู้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์กว่า 120 ล้านรายชื่อ และ สามารถรับชมได้ทั่วโลก 

ทั้งนี้ ในรายละเอียดของเนื้อเพลงที่แต่งขึ้นมาเป็นพิเศษจำนวน 2 เพลงนั้น มีข้อความ แซะ ด่าทอ ใส่ร้ายด้วยความเท็จ ต่อรัฐบาล และ ผู้บริหารประเทศ เป็นลำดับ ตลอดเวลา ที่ไม่จริง และ นำความจริงมาไม่หมด บิดเบือน สร้างความเสียหายวุ่นวายให้เกิดขึ้นได้ จากข้อมูลที่มีการแสดง แล้วนำมาลงในระบบคอมพิวเตอร์ เช่น...

1.) เนื้อเพลงที่ระบุว่า "ประเทศเรากำลังจะพัง" แต่ลูกค้าการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องทั้ง 4 ท่านนี้ บัตรเต็ม มีผู้เข้าชมเต็ม และบัตรการแสดงราคาสูงสุดของบัตรคือ 4,000 บาท 

2.) พวกนี้รวย เป็นที่สนใจในยุคประยุทธ์ ทั้งนั้น

3.) รัฐบาลเผด็จการ ทั้งๆ ที่ปัจจุบันประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 

4.) สร้างหนี้ก่อนโต 

5.) งานไม่ทำ หมายถึงรัฐบาลไม่ทำงาน หากรัฐบาลไม่ทำงานแล้วพวกนักร้องจะมาแสดงคอนเสิร์ตเก็บบัตรราคา 4,000 บาท 

6.) นาฬิกายังไม่คืน 

7.) ผู้นำไม่ตื่น 

8.) เวลา 8 ปีไม่มีความหมาย 

9.) ชอบแจกเงิน เหมือนกูเป็นขอทาน

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า การแสดงนักร้อง ทั้ง 4 ท่านนั้น มีประชาชนเข้าไปชมการแสดง มีการนำการแสดงเหล่านี้มาลงในระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่า TikTok ยูทูป เฟซบุ๊ก และอื่นๆ ในระบบสาธารณะที่สามารถเข้าถึงได้แบบไม่มีขอบเขตจำกัด และ ข้อความที่นำไปลงนั้น ก็บิดเบือน นำไปลงไม่หมด เป็นความเท็จ ใส่ร้าย ด้วยความสนุกสนานไม่รับผิดชอบ ทั้งๆ ที่สามารถนำเรื่องอื่นๆ ไปทำการแสดงได้โดยไม่ผิดกฎหมาย และทำให้ใครหรือประเทศผู้บริหารประเทศเสีย อันจะนำมาสู่ความวุ่นวาย

'บิ๊กตู่' ยัน!! ทหารทุกเหล่าทัพ หนุนรัฐบาล รับมือ 'พายุโนรู' ย้ำ!! ต้องอยู่ช่วยประชาชนในพื้นที่จนกว่าน้ำจะลด

โฆษก กห. เปิดเผยว่า กห. โดยทุกเหล่าทัพ ที่มีหน่วยทหารในพื้นที่ 25 จว.ที่ประสบอุทกภัย ยังคงกำลังพล เครื่องมือช่าง ทำงานร่วมกับจิตอาสาและหน่วยงานในพื้นที่ ให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่องมา โดยเฉพาะ การเร่งช่วยกันบรรจุกระสอบทรายจัดทำคันกั้นน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชน การเบี่ยงทางน้ำและการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมทั้งการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ การอำนวยความสะดวกการสัญจรและการแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ยังอยู่ในพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กห. ได้ย้ำสั่งการให้ทุกเหล่าทัพ เตรียมกำลังและเครื่องมือช่าง พร้อมหนุนเสริมให้การช่วยเหลือทุกจังหวัด รับมือกับ “พายุโนรู” โดยให้ติดตามสถานการณ์ แจ้งเตือนประชาชนให้ทันเหตุการณ์และเข้าไปช่วยเหลือให้ทั่วถึงไม่ซ้ำซ้อน  พร้อมย้ำให้อยู่กับประชาชนในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

สำหรับในพื้นที่ กทม.และ จว.ปริมณฑล หน่วยทหารจากทุกเหล่าทัพ ยังคงสนับสนุน กทม.และจว.ปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเตรียมรับมือจากมวลน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่เอ่อล้นมากขึ้น จากปรับการระบายน้ำ โดยอยู่ระหว่างเร่งกรอกกระสอบทรายเสริมความแกร่งคันกั้นน้ำริมเจ้าพระยา การเร่งดูดและผลักดันน้ำออกจากพื้นที่เก็บกักน้ำและคูคลอง รวมทั้งการกำจัดขยะวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำจำนวนมากในลำน้ำสายหลักและรอง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของการระบายน้ำ

อินเตอร์ลิ้งค์ฯ คว้ารางวัลเกียรติคุณ องค์กรดีเด่น โครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน

คุณวริษา อนันตรัมพร ผู้จัดการทั่วไป เข้ารับรางวัลเกียรติคุณ องค์กรดีเด่น โครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน ประจำปี 2565 จากคุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) นับเป็นการยกย่อง เป็นกำลังใจให้กับนักธุรกิจสตรี และนักวิชาชีพสตรีที่ประสบความสำเร็จ ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม เพื่อเป็นแรงบันดาลใจจุดประกายให้สตรีนักธุรกิจ และวิชาชีพในรุ่นต่อไปมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง และธุรกิจอย่างมีจริยธรรม จรรยาบรรณ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคม และใส่ใจสิ่งแวดล้อมต่อไป

'ดร.ธรณ์' ชี้ น้ำยิ่งร้อน 'ไต้ฝุ่นโนรู' ยิ่งแรง แนะ!! ลิสต์ worst-case เตรียมทางหนีทีไล่

(27 ก.ย. 65) ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ว่า ดูภาพดาวเทียมล่าสุดของไต้ฝุ่นโนรูแล้วเริ่มหนักใจ พายุทวีกำลังมากขึ้นในทะเลก่อนเข้าสู่ชายฝั่งเวียดนาม

เหตุผลสำคัญคือน้ำทะเลในทะเลจีนใต้ร้อน ผมดูจากข้อมูลทุ่นกระแสสมุทรและจากที่อื่น ๆ ช่วงนี้อยู่ที่ 29-30 องศา น้ำร้อนมีผลโดยตรงกับไต้ฝุ่น น้ำยิ่งร้อนยิ่งส่งพลังงานให้พายุแรงขึ้น

น้ำร้อนยังทำให้ไอน้ำมากขึ้น ฝนย่อมมีมากขึ้นเป็นธรรมดา

เวียดนามเพื่อนบ้านเราเตรียมตัวแล้ว ของเขาเจอเต็ม ๆ ต้องอพยพกันยกใหญ่

แต่เราก็ประมาทไม่ได้เพราะคงเจอฝนหนักในบริเวณกว้าง จะอพยพล่วงหน้านาน ๆ ก็ยากหน่อยเพราะเดาไม่ถูกว่าตกกระหน่ำตรงไหนบ้าง ต้องใช้การเฝ้าระวังและเตือนภัยในช่วงสั้น ๆ

เพราะฉะนั้น จึงอยากให้เพื่อนธรณ์เตรียมตัวไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่คาดว่าฝนหนัก เช่น ภาคอีสาน ภาคเหนือตอนล่าง ฯลฯ ที่คงตามข่าวจากหลายช่องทางได้

ใครอยู่ในที่เสี่ยง เช่น ใกล้แม่น้ำลำคลอง ใกล้ทางน้ำที่ลงมาจากเขา ต้องเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้า น้ำป่ามาเร็วครับ

ดินถล่มยังเป็นอีกภัยต้องระวัง ใครอยู่ริมทางชัน ร่องเขา เตรียมตัวให้พร้อม

การเตรียมตัวให้มากที่สุดเป็นเรื่องสมควร ต่อให้ไม่เกิดอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิด เรารอดได้เพราะการเตรียมตัวนี่แหละครับ

หลักการง่าย ๆ ของการบริหารความเสี่ยงคือ Worst-case scenario คิดในทางเลวร้ายที่สุดเข้าไว้

น้ำทะลักเข้าบ้าน รถเราจะจมไหม ไฟฟ้าดูดไหม เด็กเล็กคนแก่ไปอยู่ไหน เรามีน้ำกินข้าวกินหลายวันหรือไม่ ไฟดับทำไง มือถือชาร์จเต็มไหม ทางขาดต้องติดอยู่หลายวันเอาไงดี ฯลฯ

ยังรวมถึงการบอกคนอื่นว่าเราอยู่ไหน เกิดอะไรจะติดต่อกันได้ ช่วยกันทัน โดยเฉพาะคนที่ไม่อยู่บ้าน ไปเที่ยวเข้าป่า ฯลฯ ต้องบอกให้คนอื่นทราบ

ยังมีอีกหลายเรื่องที่ทำได้ โดยเริ่มจากนั่งนิ่งๆ แล้วค่อยๆ คิด worst-case ที่อาจเกิดกับเรา ลองลิสต์ไว้เป็นข้อ ๆ ก็ได้ครับ แล้วค่อยให้น้ำหนักว่าอะไรสำคัญกว่ากัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top