Friday, 20 June 2025
NEWS FEED

ก.แรงงาน จัดกิจกรรม 'จิตอาสาร่วมบริจาคโลหิต 1 คนให้ หลายคนรับ รู้รักสามัคคี พัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน' เทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9

วันที่ 9 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะนายกสมาคมแม่บ้านกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้บริจาคโลหิต โดยกระทรวงแรงงานร่วมกับสมาคมแม่บ้านกระทรวงแรงงาน และศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ร่วมจัดกิจกรรมบริจาคโลหิต 

คณะพยาบาลศาสตร์ มช. ขอเชิญร่วมการอบรมหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ 285 ชั่วโมง (เรียนฟรี)

ผศ.ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า คณะฯ ได้รับทุนอุดหนุนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในการดำเนินการโครงการพัฒนาอาชีพการดูแลผู้สูงอายุของเยาวชนและแรงงานนอกระบบ เป้าหมายเพื่อส่งเสริมสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเยาวชนนอกระบบการศึกษารวมทั้งแรงงานนอกระบบให้ได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้มีศักยภาพที่จะพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิตได้ การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุให้กับเยาวชนนอกระบบการศึกษาและแรงงานนอกระบบเป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ใหม่ที่เพิ่มโอกาสทางการศึกษารวมทั้งการพัฒนาทักษะอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน ตลอดจนช่วยพัฒนาทักษะชีวิต นอกจากทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีอาชีพที่ได้รับเงินเป็นการตอบแทนในอนาคตจากครอบครัวผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงที่มีกำลังทรัพย์ในการจ้างดูแลเป็นการเฉพาะรายหรือในการเป็นผู้ดูแลของศูนย์ผู้สูงอายุ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้และทักษะไปใช้ในชีวิตประจำวันทั้งแก่ตนเองและครอบครัวได้อีกด้วย

หลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ 285 ชั่วโมง ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดการอบรมระหว่างวันที่ 16 มกราคม - 24 มีนาคม 2566

คุณสมบัติของผู้สมัคร กลุ่มเยาวชนอายุ 18 - 24 ปี ,กลุ่มวัยทำงาน หรือ แรงงานนอกระบบ อายุ 25-50 ปี (ที่ยังไม่มีงานทำหรือรายได้น้อยหรือต้องการเปลี่ยนสายอาชีพ) การศึกษาภาคบังคับขึ้นไป (ม.3) เป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการอบรมและการปฏิบัติงาน สามารถเข้าร่วมการอบรมได้เต็มเวลาตามเกณฑ์ที่กำหนด มีจิตบริการและทัศนคติที่ดีต่อผู้สูงอายุ รับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 ธันวาคม 2565

ไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ ประชันไอเดีย นวัตกรรมการออกแบบอาคารเพื่อร่วมแก้ปัญหา มลภาวะเป็นพิษ PM2.5 ในงาน 'HYFIVE DESIGN AWARD 2022'

ไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จัดงาน HYFIVE DESIGN AWARD 2022 ขึ้นระหว่างวันที่ 8-14 ธันวาคม 2565 ณ โกดังราชวงศ์ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นกิจกรรม CSR โครงการแรกของบริษัทฯ ที่มุ่งหวังการ มีส่วนร่วมกับชุมชนเพื่อปรับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเชียงใหม่จากมลภาวะเป็นพิษ PM 2.5 ภายในงานมีพิธีมอบรางวัลผู้ชนะการออกแบบอาคารและการจัดแสดงผลงานของผู้ชนะการประกวด 'นวัตกรรมการออกแบบอาคารเพื่อร่วมแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในจังหวัดเชียงใหม่อย่างยั่งยืน ' ที่สะท้อนการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมทั้งสิ้น 6 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 70,000 บาท

นางสาวพีรญา วงศรานุชิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ “เนื่องจากบริษัทฯ ตระหนักในปัญหามลภาวะ เป็นพิษ PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนเชียงใหม่ ไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งใจให้งานนี้เป็นการเปิด โอกาสให้กับนักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจและมีความถนัดด้านการออกแบบได้ประชันฝีมือ เป็นที่มา ของงาน HYFIVE DESIGN AWARD 2022 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมเข้าแข่งขันส่งผลงานเข้า มากว่า 37 ผลงานจากทั่วประเทศ”

“ในการจัดงานดังกล่าว เรามุ่งหวังการมีส่วนร่วมของคนในสังคมได้ร่วมคิดค้นนวัตกรรมการ ออกแบบอาคารเพื่อร่วมแก้ไขปัญหา PM2.5 ว่ามีแนวคิดและการออกแบบอย่างไร อาทิ โปรเจกต์ Ozone Square การจัด Façade และ Column เพื่อปิดล้อมลม สําหรับช่องว่างตรงกลางอาคาร รอบๆ จะป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในอาคาร และต้นไม้ที่อยู่ตรงกลางจะทําหน้าที่กรองฝุ่นที่หลงเหลืออีกครั้ง ,โปรเจกต์ Biosphere จากการนําสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) เช่น ควร ใช้ air filtration ซึ่งเป็นการนํากระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงธรรมชาติท่ีอยู่ล้อมรอบอาคารเป็น buffer ฟอกอากาศ ก่อนเข้าอาคารรวมถึงอาคารภายใน เป็นแนวคิดที่นําธรรมชาติเข้ามามีส่วน ร่วมกับผู้คนที่ช่วยฟื้นฟู และส่งเสริมทั้งภายในอาคารและพื้นที่โดยรอบ ในการรับมือปัญหามลพิษใน จังหวัดเชียงใหม่อย่างยั่งยืน” 

มูลนิธิบุณยะจินดา เพื่อข้าราชการตำรวจและครอบครัว มอบทุนข้าราชการตำรวจดีเด่นต้นแบบและพลเมืองดี

มูลนิธิบุณยะจินดา เพื่อข้าราชการตำรวจและครอบครัว มอบทุนข้าราชการตำรวจดีเด่นต้นแบบและพลเมืองดี ทุนสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2565 จำนวน 2,041,000 บาท

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2565 เวลา 14.00 นาฬิกา ที่ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ประธานในพิธี พร้อมด้วยคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ประธานกรรมการมูลนิธิบุณยะจินดา เพื่อข้าราชการตำรวจและครอบครัว ประธานจัดงาน ในพิธีมอบถ้วยรางวัลและประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการตำรวจดีเด่นต้นแบบและพลเมืองดี และมอบทุนสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือครอบครัวข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่หรือเพราะได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษาแก่บุตร-ธิดา ข้าราชการตำรวจ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2565 โดยมี พล.ต.อ.สมชาย วาณิชเสนี, พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ, พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ, พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตร, พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา, พล.ต.อ.สุพร พันธุ์เสือ, พล.ต.ท.กิตติโชติ แสงนิล, พล.ต.ท.วรเทพ เมธาวัธน์, พล.ต.ท.หญิง ศิริจันทร์ จันทร์แสงสว่าง, พล.ต.ต.ปราโมทย์ อ่อนปาน, คุณกิ่งดาว พจน์โพธิ์ศรี, คุณพอฤทัย ณรงค์เดช กรรมการมูลนิธิฯ เข้าร่วมในพิธีฯ

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลและทุนประเภทต่าง ๆ มีรายละเอียด ดังนี้...

1. ข้าราชการตำรวจดีเด่นต้นแบบ จำนวน 3 กลุ่ม คือ

   1.1 กลุ่มสัญญาบัตร ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศและเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท คือ พ.ต.ท.นิยม สุวรรณคง รอง ผกก.ชถ.1 บก.สส.จตช./รอง หน.งานสืบสวนคดีความมั่นคงและคดีพิเศษ ศปก.ตร. สน.ภ.9

   1.2 กลุ่มชั้นประทวน ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศและเงินรางวัล รายละ 40,000 บาท จำนวน 3 ราย คือ

        (1) จ.ส.ต.ศุภศักดิ์ เหมือนพะวงศ์ ผบ.หมู่ กก.ซถ.1 บก.สส.จชต./ ผบ.หมู่ งานสืบสวนคดีความมั่นคงและคดีพิเศษ ศปก.ตร.สน. ภ.9

        (2) จ.ส.ต.ยุทธนา มังคงตา ผบ.หมู่ งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กก.6 บก.จร. บช.น.

        (3) ส.ต.ท.หญิง นิติกร ไชยวิชิต ครู ปท.1 กก.ตชด.ภ.4 บช.ตชด.

   1.3 ประกาศเกียรติคุณ ได้รับเงินรางวัลรายละ 10,000 บาท จำนวน 18 ราย คือ

 ด้านป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมดีเด่น

 (1) พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป. สน.บางซื่อ บก.น.2 บช.น.

 (2) พ.ต.ท.ชนาวิน รัตนาวิน สวป.สภ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ภ.9

 ด้านป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

 (3) พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาน รอง ผกก.สส.สภ.แม่สาย ภ.จว.เชียงราย ภ.5

 (4) พ.ต.ท.หญิง โสพิศ พิศพรรณ รอง ผกก.สส. สภ.บ้านตาขุน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ภ.8

 (5) พ.ต.ท.สิทธิพงษ์ ศรีกุลบุตร ผบ.ร้อย ตชด.227 กก.22 บช.ตชด.

 (6) พ.ต.ท.ถาวร แก้วมาเรือน สวป.สภ.เมืองปราจีนบุรี ภ.จว.ปราจีนบุรี ภ.2

 (7) ร.ต.อ.พีระวัฒน์ บุญแต้ม รอง สว.กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส.

 ด้านสืบสวนดีเด่น

 (8) พ.ต.ท.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง บก.น.1 บช.น.

 (9) พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส. บก.สส. ภ.1

 (10) พ.ต.ท.แผน สวาสดิ์นา รอง ผกก.สส.2 บก.สส. ภ.3

 (11) พ.ต.ท.ภูวสิษฐ์ เจริญธนะฐิติโชค สว.กก.4 บก.สอท.3 บช.สอท.

 (12) พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว สว.ตม.จว.เชียงราย บก.ตม.5 บช.สตม.

 (13) พ.ต.ท.วศิน พันปี สว.กก.1 บก.ปคม. บช.ก.

 (14) ร.ต.อ.ธนพันธ์ หันประดิษฐ์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส. ภ.4 ด้านสอบสวนดีเด่น

  (15) ร.ต.ท.หญิง ศิราณี บัวพันธ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองพิจิตร ภ.จว.พิจิตร ภ.6

 (16) ร.ต.ท.พรศักดิ์ ดีดอม รอง สว.(สอบสวน)สภ.โพธิ์แก้ว ภ.จว.นครปฐม ภ.7 ด้านฝ่ายอำนวยการดีเด่น

 (17) พ.ต.อ.อัคราวัส สีห์ธนบุญอุบล ผกก.ฝอ.บก.สสน.บช.ตชด.

 (18) พ.ต.ท.หญิง อรอนงค์ อุทัย นักกายภาพบำบัด (สบ.3) กลุ่มงานเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.ตร.

2. รางวัลพลเมืองดีจำนวน 2 รางวัล ได้รับเงินรางวัล รายละ 10,000 บาท คือ

     2.1 นายภูมิภัทร ชัยชนะ     

วีรกรรม : เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 นายภูมิภัทร ชัยชนะ ซึ่งทำงานเป็นคนขับรถส่งน้ำอยู่ใน จ.ชลบุรี ขณะขับรถจะกลับเข้าที่ทำงาน พบเด็กหญิงชาวต่างชาติ ชื่อ ด.ญ.เชียร่า อายุ 10 ขวบ เดินอยู่ริมถนนมุ่งหน้า

เข้ามอเตอร์เวย์เพื่อที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ ด้วยความเป็นห่วงจึงพยายามพูดภาษาอังกฤษเพื่อบอกให้เด็กหญิงหยุด และเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเพื่อดูแลความปลอดภัยของน้อง และได้ติดต่อนายจ้างและภรรยานายจ้างที่เป็นนายจ้างซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ พูดเกลี้ยกล่อมและนำส่งให้กับตำรวจท่องเที่ยว    

     2.2 นายสุขุม ผาติเสนะ 

   วีรกรรม : วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15.00 นาฬิกา นายสุขุม ผาติเสนะ อายุ 25 ปี ขณะขับรถ จักรยานยนต์ผ่านมา ประสบเหตุเด็กหญิงวัย 13 ปี ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ มีชายสูงวัยอายุราว 50 ปีเป็นผู้ขับขี่ เด็กหญิงได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ "ช่วยด้วย ช่วยด้วย" บริเวณถนนชุมชนยายร้า อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จึงได้โทรศัพท์แจ้งเหตุ 191 พร้อมกับขับขี่รถไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จากนั้นได้มี ส.ต.ต.พีรพัฒน์ เอี่ยวศิริ และ ส.ต.ต.สุรศักดิ์ ชัยชุมพร ผบ.หมู่ (ป.) สภ.นาจอมเทียน สายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.นาจอมเทียน จ.ชลบุรี เข้าระงับเหตุ ติดตามสกัดจับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และขับขี่ประกบจับคนร้ายได้ รวมระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร โดยขณะคนร้ายลดความเร็วเพื่อกลับรถหลบหนี เด็กหญิงจึงใช้จังหวะดังกล่าวกระโดดลงจากรถจักรยานยนต์ แล้ววิ่งหลบไปพักอยู่ในรถกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย 

3. รางวัลเกียรติยศสดุดีวีรกรรม จำนวน 1รางวัล ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท ผู้ได้รับรางวัลคือ 

ด.ต.บาห์รี บากา ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ไม้แก่น จว.ปัตตานี ภ.9

          วีรกรรม : วันที่ 20 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 19.40 นาฬิกา ชุดปฏิบัติการรสืบสวนหาข่าว จำนวน 4 นาย

คือ ร.ต.ท.เสถียร เชื้อประสาท รอง สว.(ป.) สภ.ไม้แก่น, ด.ต.บาห์รี บากา ผบ.หมู่(ป.) สภ.ไม้แก่น จว.ปัตตานี, ส.ต.อ.อาริส ดารากัย ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ไม้แก่น และ ส.ต.อ.ฮาหมัด หะยีตาแยะ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ไม้แก่น ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาออกสืบสวนหาข่าว โดยได้ขับรถจักรยานยนต์มาบริเวณริมถนนหน้าโรงพยาบาลไม้แก่น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ทางด้านหลังรถยนต์สายตรวจ หมายเลขทะเบียน 6 กง 6359 กทม. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด เป็นเหตุให้ ด.ต.บาห์รี บากา พร้อมพวกรวม 4 นาย ได้รับบาดเจ็บ แต่ ด.ต.บาห์รี บากา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

4. ทุนการศึกษาแก่บุตร-ธิดา ข้าราชการตำรวจ จำนวน 127 ทุน เป็นเงิน 1,059,000.- บาท จำแนกเป็น

      4.1 ระดับประถมศึกษา 63 ทุนๆ ละ 3,000 บาท เป็นเงิน 189,000 บาท

      4.2 ระดับมัธยมศึกษา 52 ทุนๆ ละ 5,000 บาท เป็นเงิน 260,000 บาท

      4.3 ระดับอุดมศึกษา/นรต. 11 ทุนๆ ละ 10,000 บาท เป็นเงิน 110,000 บาท

      4.4 ระดับปริญญาโทต่างประเทศ 1 ทุนๆ ละ 500,000 บาท เป็นเงิน 500,000 บาท

            ทุนระดับปริญญาโทต่างประเทศเป็นทุนการศึกษาแบบต่อเนื่อง สำหรับนักเรียนนายร้อยตำรวจที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในต่างประเทศ โดยได้ทำการคัดเลือกจาก

ผู้มีผลการเรียนดีเด่นเรียนไม่ต่ำกว่า 3.50 และสอบได้อันดับที่ 1-10 โดยมอบให้ทุนละ 500,000 บาทต่อปี ในวงเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท ผู้ที่ได้รับทุนคือ ว่าที่ ร.ต.ต.ตระการศักดิ์ ชูแก้ว รอง สว.ประจำ รร.นรต. 

5. ทุนสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 114 ราย เป็นเงิน 512,000.- บาท ดังนี้

     5.1 บาดเจ็บ 71 รายๆ ละ 2,000 บาท เป็นเงิน 142,000 บาท

     5.2 บาดเจ็บสาหัส 32 รายๆ ละ 5,000 บาท เป็นเงิน 160,000 บาท

     5.3 ทุพพลภาพ 1 รายๆ ละ 10,000 บาท เป็นเงิน 10,000 บาท

     5.4 เสียชีวิต 10 รายๆ ละ 20,000 บาท เป็นเงิน 200,000 บาท

'ครอบครัวรัตนพันธ์' ร้องนายกฯ สั่ง 'กลต.-ปปง.' สอบ 'เอสซี แอสเสท' พร้อมเร่งช่วยสู้คดียืดเยื้อ 6 ปี

(8 ธ.ค. 65) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ภายใน สนง.กพ. ได้มีครอบครัวรัตนพันธ์ จำนวน 5 คน นำโดย ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบความสุจริตและโปร่งใสในพฤติการณ์การดำเนินธุรกิจของ บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

เนื่องจากบริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเรียกว่าบริษัทเอสซีฯ เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัท(มหาชน) จำกัด อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จดทะเบียน ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ชื่อบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีกรรมการผู้มีอำนาจประกอบด้วย นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์, นายณัฏฐ์พัฒน์ เอื้อใจ, นายอรรถพล สฤษฏิพันธวาทย์ กรรมการสองในสามคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญ สามารถกระทำการแทนและมีผลผูกพันบริษัท มีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยพัฒนาที่ดินและขออนุญาตจัดสรรเป็นหมู่บ้านจัดสรรเพื่อการอยู่อาศัยเพื่อจำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่บุคคลทั่วไป และมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองและพรรคการเมือง ได้บริหารและดำเนินกิจการจนทำให้ครอบครัวรัตนพันธ์ ได้รับความเสียหายมายาวนานกว่า 6 ปี สูญเสียบ้านและที่ดินมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทเศษ

จึงขอให้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าตรวจสอบการกระทำของบริษัทเอสซีฯ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในวงกว้าง และขอให้กำชับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในประเทศไทย เนื่องจากพฤติกรรมการที่บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่มีมาตรฐานข้อบังคับในการนำเงินออกจากบริษัทอย่างชัดเจนและเคร่งครัด อาจจะนำไปสู่การเป็นเส้นทางการหลบเลี่ยงเส้นทางการเงิน หรือการนำเงินเข้าหรือออกนอกระบบได้อย่างง่ายดาย

ผอ.ศรชล.ภาค 1 ปฐมนิเทศกำลังพล ให้เข้าใจในบทบาทและหน้าที่ เน้นความซื่อสัตย์สุจริต

วันที่ (8 ธ.ค. 65) พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผอ.ศรชล.ภาค 1/ผบ.ทรภ.1 เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมปฐมนิเทศกำลังพล ศรชล.ภาค 1 ประจำปี งป.2566 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้กำลังพลที่ปฏิบัติราชการใน ศรชล.ภาค 1 มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาท หน้าที่ โครงสร้างของกฎหมาย พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องและประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ให้สามารถนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติงานได้ทันที โดยผ่านการบรรยายถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ จากข้าราชการในฝ่ายอำนวยการ ศรชล.จังหวัด ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัด ตลอดจนวิทยากรจากหน่วยงานของรัฐ เพื่อเสริมสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ให้กับกำลังพลของ ศรชล.ภาค 1 โดย ผอ.ศรชล.ภาค 1 ได้เน้นย้ำให้การปฏิบัติงานของกำลังพบ ต้องเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยมีผู้เข้ารับการอบรมเป็นกำลังพลสังกัด ศรชล.ภาค 1 ที่ได้รับคำสั่งให้มาปฏิบัติราชการกับ ศรชล.ภาค 1 ในวาระ ตุลาคม 2565 รวมทั้งสิ้น 47 นาย ใช้ระยะเวลาในอบรม 2 วัน ระหว่างวันที่ 8 - 9 ธ.ค.65 ณ โรงแรม เดอะ ไซมิส พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

'เชียงราย' จัดยิ่งใหญ่ งานมหัศจรรย์10ชาติพันธุ์แม่สายครั้งที่ 8 ประจำปี 2565

เมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมานาย พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีได้ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานมหัศจรรย์10ชาติพันธุ์แม่สายครั้งที่8ประจำปี2565เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมของชนเผ่าทั้ง10ชาติพันธุ์โดยมีนาง สุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นาย ณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย นาย ชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีตำบลแม่สายพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาชนให้การต้อนรับภายในงานในครั้งนี้อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่ที่มีประชากรอยู่ร่วมกัน

อย่างหลากหลายชาติพันธุ์นอกจากคนพื้นเมืองล้านนาแล้วยังมีกลุ่มชาติพันธุ์ไท ไทลือ ไทเขิน ไทยวน ไตหย่า จีนยูนนาน อาข่า ลาหู่ ดาราอ้าง และชาติพันธุ์ลัวะ ซึ่งความหลากหลายชาติพันธุ์เช่นนี้ถือว่าเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าทางการท่องเที่ยวเป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ไปเยือนแม่สายตลอดทั้งปีแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ก็มีความหลากหลายทางวัฒธรรมมีภาษามีอัตลักษณ์มีประเพณีและวิธีชีวิตที่แตกต่างกันไปผู้ที่มาร่วมงานจะได้ชมการจำลองวิธีชีวิตความเป็นอยู่และการละเล่นการแสดงต่างๆของ

ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา ขอประชาสัมพันธ์กิจกรรม 'เติมบุญ.. สุขใจ สถานีต่อไปชุมทางฉะเชิงเทรา'

ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา ภายใต้โครงการจุดหมายสายศรัทธา ปักหมุดมา 365 วัน@ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา ขอประชาสัมพันธ์กิจกรรม 'เติมบุญ.. สุขใจ สถานีต่อไปชุมทางฉะเชิงเทรา' ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทราด้วยขบวนรถพิเศษ 901/902 (รถจักรไอน้ำ) เส้นทางกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ วันที่ 5 ธันวาคม 2565  

​นายจิรศักดิ์ อ่วมอุไร ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา กล่าวว่า กิจกรรม 'เติมบุญ.. สุขใจ สถานีต่อไปชุมทางฉะเชิงเทรา' จัดขึ้นภายใต้โครงการจุดหมายสายศรัทธา ปักหมุดมา 365 วัน@ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ ได้ร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แก่ หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา สมาคมการค้าธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา มีวัตถุประสงค์ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยขบวนรถพิเศษ 901/902 (รถจักรไอน้ำ) เส้นทางกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ วันที่ 5 ธันวาคม 2565 'วันพ่อแห่งชาติ' เพื่อนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว (เส้นทางนำร่อง) ให้กับนักท่องเที่ยว เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา แหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ผนวกกับการเดินทางโดยรถไฟรุ่นคลาสสิกที่ให้ประสบการณ์ความรู้สึกย้อนวันวาน เพื่อมากราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยคาดหวังว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะเป็นเส้นทางนำร่องที่สามารถต่อยอดเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกับพันธมิตร และจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้โครงการจุดหมายสายศรัทธา ปักหมุดมา ๓๖๕ วัน@ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการได้ต่อไปในอนาคต รวมทั้งจะช่วยกระตุ้นความถี่ในการเดินทาง ของนักท่องเที่ยว เกิดการกระจายรายได้สู่จังหวัดฉะเชิงเทราเพิ่มมากขึ้นด้วย

'กสทช.' เรียกเงินคืนจาก 'กกท.' 600 ล้าน ผิดกฎ Must Carry ทำบอลโลกจอดำ

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ บอร์ด กสทช. ได้ประชุม นัดพิเศษ เรื่อง การพิจารณาการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย

โดยที่ประชุมบอร์ด กสทช.จำนวน 6 คน มีมติเอกฉันท์ ให้การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. คืนเงิน 600 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 (รอบสุดท้าย) หลังจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ไม่สามารถดำเนินการตามกฎ “มัสต์แครี” จนทำให้เกิดปัญหาโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก หรือ IPTV จอดำ ไม่สามารถรับชมการแข่งขันเวิลด์ คัพ ครั้งนี้ได้

พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกสทช. ระบุว่า จากการประชุมล่าสุดของบอร์ดกสทช. มีมติ 6:0 ให้ส่งหนังสือทางปกครองเรียกเงินคืน 600 ล้านบาท จากทาง กกท. และให้คืนเงินภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งเป็นหนังสือ พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี (หากมี)

ก่อนหน้านี้ กสทช. ได้ส่งหนังสือถึง กกท. ขอคืนค่าสนับสนุน 600 ล้านบาท หลังจากระบบบอกรับสมาชิก IPTV จอดำ มีสาระสำคัญดังนี้ ทั้งนี้มีการเปิดเผยว่าในบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่าง กสทช. กับ กกท. เรื่องการสนับสนุนค่าใช้จ่ายซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดครั้งนี้ ระบุว่า

สหภาพแรงงานโตโยต้าหนุนนโยบายค่าแรง 600 บ. ชี้!! เพียงพอค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

(8 ธ.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายปิยรัชต์ สมาทา ประธานสหภาพแรงงานโตโยต้า พร้อมด้วยสมาชิกผู้ใช้แรงงาน เดินทางให้กำลังใจพรรคพท.ซึ่งได้ประกาศวิสัยทัศน์ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 25,000 บาท ภายในปี 2570 โดยมีนายสุธรรม แสงประทุม ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบายของพรรคพท. และ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ รองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบายของพรรคพท. พร้อมทั้ง นายอรรถชัย อนันเมฆ คณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบายของพรรค ให้การต้อนรับ 

นายปิยรัชต์ กล่าวว่า ผู้ใช้แรงงานถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศหมุนเวียนได้ หลังจากที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคพท.ได้ประกาศวิสัยทัศน์ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 600 บาท และเงินเดือนผู้จบการปริญญาตรีจบใหม่ที่ 25,000 บาทภายในปี 2570 ตนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่น้องแรงงานไทยในหลากหลายองค์กร พบว่าพี่น้องแรงงานไทยต้องการให้ปรับค่าแรงให้มีความสมดุลกับค่าครองชีพ เพื่อให้เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตได้โดยปกติ สามารถดูแลครอบครัวได้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทไม่ได้เกินกำลังของนายจ้างหรือผู้ประกอบการ เราเข้าใจเป็นอย่างดีว่าธุรกิจต้องมีกำไรจึงจะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ ภาครัฐซึ่งเป็นส่วนกลางในการนำเสนอนโยบายที่ดี ก็จะมีมาตรการรองรับด้วย จึงขอให้กำลังใจคณะทำงานด้านนโยบายของพรรคพท.ในการผลักดันนโยบายนี้เมื่อสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top