Tuesday, 22 April 2025
TODAY SPECIAL

วันนี้ถือเป็นวันพิเศษอีกหนึ่งวัน หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 68 ปีก่อน เป็นวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ.1926 เมื่อครั้งทรงพระเยาว์พระองค์ประทับ ณ กรุงลอนดอน บริเวณพิคคาเดลลี ไวท์ลอดจ์ ริชมอนด์ พาร์ค พระองค์ทรงได้รับการศึกษาชั้นต้น ณ ที่ประทับ และเมื่อพระบิดาได้เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์จึงต้องทรงศึกษาทางด้านประวัติศาสตร์ และกฎหมาย เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเป็นกษัตริย์ในอนาคต นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงศึกษาทางด้านศิลปะ ดนตรี และเรียนการขี่ม้า

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเริ่มต้นปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงพระราชดำรัสออกอากาศ ในรายการสำหรับเด็กทางสถานีโทรทัศน์บีบีซี ตั้งแต่พระชนมายุได้ 16 พรรษา กระทั่งเมื่อมีพระชนมายุ 18 พรรษา ทรงได้รับการประดับยศเป็นทหารชั้นพันเอกแห่งกองทหารราบรักษาพระองค์ โดยทรงตรวจพลสวนสนาม และยังทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเด็ก และเยาวชนอีกมากมาย

พระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1952 หลังจากที่พระราชบิดาเสด็จสวรรคต ขณะที่พระองค์กำลังประทับอยู่ที่ประเทศเคนยา ซึ่งเป็นประเทศแรกตามหมายกำหนดการเยือนประเทศในเครือจักรภพของพระองค์

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกถูกจัดขึ้นที่มหาวิหารเวสมินสเตอร์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ.1953 แม้เป็นช่วงที่อังกฤษกำลังอยู่ในภาวะรัดเข็มขัดทางงบประมาณในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่พระราชพิธีบรมราชาภิเษกก็เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติ และมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์บีบีซี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษที่มีการถ่ายทอดสดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกผ่านทางโทรทัศน์

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นพระประมุขของ 16 ประเทศ จาก 53 รัฐ สมาชิกในเครือจักรภพแห่งชาติ โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ.2015 พระองค์ทรงได้รับการยกย่องว่า เป็นประมุขแห่งรัฐบริเตนที่ทรงราชย์นานที่สุด และเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระชนมายุมากที่สุดของบริเตน มีพระชันษา 95 พรรษา

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่_2_แห่งสหราชอาณาจักร


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 32 ปีก่อน ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง ที่มีชื่อว่า ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ ได้เปิดทำการครั้งแรกในเมืองไทย โดยมีสาขาแรกคือ สาขาถนนพัฒน์พงศ์

ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2532 โดยสาขาแรกตั้งอยู่ที่ย่านพัฒน์พงศ์ ถนนสีลม ผู้ได้รับสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าคือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับสิทธิในการใช้แบรนด์ 7-11 สำหรับธุรกิจค้าปลีกประเภทร้านค้าสะดวกซื้อ

กล่าวถึง เซเว่น อีเลฟเว่น เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก เมื่อปี ค.ศ.1927 โดย บริษัท เซาท์แลนด์ ไอซ์ จำกัด (เซาท์แลนด์ คอร์ปอเรชั่น) ได้เริ่มต้นกิจการจัดจำหน่ายน้ำแข็ง ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาในปีเดียวกัน ทางบริษัทได้เริ่มนำสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ มาจำหน่าย จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Tote'm Store 

กระทั่งในปี ค.ศ.1946 ได้ทำการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น เซเว่น-อีเลฟเว่น (7-Eleven) เพื่อรองรับการขยายกิจการที่เติบโตขึ้น โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00-23.00 น. หรือ 07:00 AM.-11:00 PM. ของทุกวัน เป็นที่มาของชื่อ ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ นั่นเอง

ปัจจุบัน เซเว่น อีเลฟเว่น อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ มีสาขาทั่วโลกมากกว่า 71,100 สาขา โดยเป็นประเทศญี่ปุ่น ที่มีสาขาของเซเว่น อีเลฟเว่น มากที่สุด จำนวนราว 21,096 สาขา ส่วนประเทศไทยตามมาในลำดับที่สอง มีสาขารวมกันอยู่ที่จำนวน 12,225 สาขา (ตัวเลขจนถึงเดือน พ.ย. 2563) ในแต่ละวันมีลูกค้าเข้าร้าน จำนวนเฉลี่ยอยู่ที่วันละราว ๆ 11.8 ล้านคน

 

ที่มา: https://www.cpall.co.th/, http://www.thaismescenter.com

https://th.wikipedia.org/wiki/เซเว่น_อีเลฟเว่น


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

วันนี้ถูกบันทึกไว้ว่า เป็นวันที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี อัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จทิวงคต จากอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล่ม

หลายคนคงคุ้นเคยกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ‘พระนางเรือล่ม’ ซึ่งวันนี้เมื่อกว่า 141 ปีก่อน เป็นวันที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี อัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จทิวงคต จากเหตุการณ์อุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล่ม จนเป็นที่มาของเรื่องราว ‘พระนางเรือล่ม’ ที่ถูกเล่าสืบต่อกันมา

สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา โดยเป็นพระอัครมเหสีพระองค์แรกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระองค์เจ้าสุนันทาฯ ทรงมีพระสติปัญญาเลิศล้ำ และทรงมีพระอัธยาศัยจริงจังเด็ดขาด ปฏิบัติข้อราชการและรับสั่งด้วยความเฉียบคมชัดเจน จึงทำให้ได้ติดตามเสด็จฯ และถวายงานรับใช้ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังเป็นที่เล่าขานกันว่า ด้วยพระอุปนิสัยรับสั่งเฉียบคม ทำให้พระองค์เป็นที่นับถือในพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารยิ่งนัก

กระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2423 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการให้แต่งเรือพระที่นั่ง เพื่อเสด็จประพาสพระราชวังบางปะอิน พร้อมด้วยมเหสีทุกพระองค์ แต่แล้วกลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อเรือพระที่นั่งของพระองค์เจ้าสุนันทาฯ เกิดอุบัติเหตุและล่มลง ณ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

เป็นเหตุให้พระองค์เจ้าสุนันทาฯ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์ โสภางคทัศนิยลักษณ์ อรรควรราชกุมารี ซึ่งเป็นพระราชธิดา พร้อมทั้งพระราชบุตรในพระครรภ์ สิ้นพระชนม์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าทรงทราบเรื่อง จึงรู้สึกเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่ง

ต่อมาได้มีพิธีถวายพระเพลิงศพ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2423 ภายในงานนี้มีการแจกหนังสือสวดมนต์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้พิมพ์แจกเพื่อเป็นพระราชกุศล จำนวน 10,000 เล่ม นับเป็นหนังสืองานศพเล่มแรกของไทย 

นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธยเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พร้อมทั้งยังโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ  ขึ้นอีกหลายแห่ง อาทิ ที่พระราชวังบางปะอิน หรือที่สวนสราญรมย์ 

ต่อมายังมีการสร้างศาลสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดกู้ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยสร้างขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่นำเรือพระที่นั่งขึ้นมาจากน้ำ ภายหลังเรียกกันว่า ‘ศาลพระนางเรือล่ม’ 

ทั้งนี้เป็นสถานที่สักการะของประชาชน โดยภายในมีข้อมูลอื่น ๆ อาทิ พระราชประวัติของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ รวมถึงบทกลอนที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ได้บรรยายถึงความรักที่มีต่อพระองค์ บรรจุเอาไว้อีกด้วย

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์_พระบรมราชเทวี


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

วันนี้เป็นวันสำคัญที่ต้องถูกบันทักไว้ในประวัติศาสตร์ โดยเป็นคล้ายวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งสยาม รัชกาลที่ 7 ในราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2436 เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงขึ้นเสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2468 โดยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจสำคัญหลายด้าน อาทิ โปรดให้ตั้งสภากรรมการองคมนตรี ทรงตรากฎหมายเพื่อควบคุมการค้าขายที่เป็นสาธารณูปโภคและการเงิน ทรงโปรดให้สร้างหอพระสมุด และทรงตั้งราชบัณฑิตยสภา รวมทั้งยังทรงปฏิรูปการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ปรับปรุงการศึกษาจนยกระดับมาตรฐานถึงระดับปริญญาตรี 

ด้านชีวิตส่วนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี (หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์) ไม่มีพระราชโอรสและพระราชธิดา แต่มีพระราชโอรสบุญธรรม คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต

ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 ในเวลาต่อมา ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประทับยังประเทศอังกฤษ ก่อนจะทรงสละราชสมบัติเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2478 รวมเวลาครองราชย์ 9 ปี

ขณะประทับอยู่ประเทศอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระประชวรอยู่เนือง ๆ แต่แพทย์ได้ถวายการรักษาจนมีพระอาการทุเลาขึ้นเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2484 พระองค์เสด็จสวรรคตด้วยพระหทัยวาย ขณะที่มีพระชนมพรรษา 48 พรรษา

ต่อมา เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2545 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ กำหนดให้วันที่ 30 พฤษภาคมของทุกปี เป็น ‘วันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว’ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทำนุบำรุงบ้านเมืองตลอดรัชสมัยของพระองค์

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 

https://www.facebook.com/kpi.ac.th/posts/2097253763845252


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

‘ยอดเขาเอเวอเรสต์’ ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เคยมีผู้พิชิตความสูงนั้นมาแล้วหลายคน แต่วันนี้เมื่อ 68 ปีก่อน เซอร์เอดมันด์ ฮิลลารี และ เทนซิง นอร์เก เป็นสองนักปีนเขาคู่แรกของโลก ที่พิชิตยอดเขานี้ได้สำเร็จ

เอดมันด์ ฮิลลารี เป็นนักสำรวจและนักปีนเขาชาวนิวซีแลนด์ ส่วน เทนซิง นอร์เก เป็นชาวเชอร์ปา ประเทศเนปาล โดยทั้งคู่นั้น เป็นคู่บัดดี้ ร่วมทีมปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ ในนามของคณะปีนเขาจากประเทศอังกฤษ

ฮิลลารี และ เทนซิง ต้องใช้ความพยายาม และความทรหดอดทนอย่างมาก ในการปีนขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ กระทั่งสามารถปีนขึ้นไปที่ความสูงกว่า 8,850 เมตร บนยอดเขาได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ.1953

ในเวลาต่อมา ชื่อของเอดมันด์ ฮิลลารี ยังได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อหน้าผาสูง 40 ฟุต ทางสันเขาด้านตะวันออกเฉียงใต้ของยอดเขาเอเวอเรสต์ โดยเรียกกันว่า ฮิลลารีสเตป (Hillary step) ซึ่งถือเป็นจุดที่ยากที่สุดของการปีนเขาช่วงสุดท้าย ก่อนจะขึ้นไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์นั่นเอง

กล่าวถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย ประเทศเนปาล มีความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ราว 8,850 เมตร มีนักปีนเขามากมายที่ใฝ่ฝันอยากจะพิชิตยอดเขาแห่งนี้ แต่ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น ลมแรง และความเบาบางของอากาศ จึงทำให้ระดับออกซิเจนมีปริมาณน้อย เพียงแค่ 1 ใน 3 ของออกซิเจนในบรรยากาศปกติเท่านั้น จึงเป็นเหตุให้มีผู้ที่ต้องจบชีวิตจากการปีนขึ้นไปบนยอดเขาแห่งนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/ยอดเขาเอเวอเรสต์

https://th.wikipedia.org/wiki/เอดมันด์_ฮิลลารี

https://th.wikipedia.org/wiki/เทนซิง_นอร์เก


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ย้อนกลับไปยังยุค 80-90 มีสวนสนุกเมืองไทยแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นคือ ‘แดนเนรมิต’ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สวนสนุกแห่งนี้ได้หยุดกิจการลง วันนี้ถือเป็นวันครบรอบ 21 ปี ที่แดนเนรมิตรทำการปิดตัว

ย้อนกลับไป 45 ปีก่อน เมืองไทยมีสวนสนุกที่เปิดตัวขึ้นใจกลางเมือง มีชื่อว่า ‘แดนเนรมิต’ เป็นสวนสนุกกลางแจ้ง บนเนื้อที่กว่า 33 ไร่ ตั้งเยื้องกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ริมถนนพหลโยธิน 

แดนเนรมิต เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2519 ใช้เงินลงทุนไปไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท โดยเนรมิตเครื่องเล่นกว่า 30 ชนิดมาไว้ในสวนสนุก และมีแลนด์มาร์กที่เด็ก ๆ จำได้ดี นั่นคือ ปราสาทเทพนิยาย ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า อยู่หน้าทางเข้า 

ส่วนเครื่องเล่นสุดคลาสสิก ที่เด็ก ๆ ยุคก่อนต้องเคยลองเล่นสักครั้ง ไม่งั้นจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง นั่นก็คือ รถไฟเหาะตีลังหา เรือไวกิ้งส์ และเฮอร์ริเคน นอกจากนี้ยังเคยมีการจัดแสดงสัตว์โลกล้านปี และพาเหรดแฟนตาซี ที่เด็ก ๆ ยุคนั้น ฟินไปตาม ๆ กัน

แดนเนรมิต ผ่านกาลเวลามาหลายสิบปี จนเมื่อครบกำหนดสัญญาการเช่าพื้นที่ 25 ปี ทางเจ้าของกิจการไม่สามารถต่อสัญญาเช่าออกไปอีกได้ รวมทั้งพื้นที่ของสวนสนุกก็เล็กเกินไป เมื่อเทียบกับสวนสนุกอื่น ๆ ที่กว้างขวาง เนื่องจากตั้งอยู่นอกเมือง ทั้งหมดทั้งมวล จึงเป็นสาเหตุให้ ในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2543 แดนเนรมิตได้ตัดสินใจปิดตัวลง

ปัจจุบัน พื้นที่ของสวนสนุกเดิม กลายเป็นลานจัดการแสดง อีเว้นต์ และให้เช่าเป็นสนามแข่งรถ มอเตอร์ สปอร์ต แลนด์ โกคาร์ต แต่ตัวปราสาทที่เป็นสัญลักษณ์ของแดนเนรมิตเดิม ก็ยังคงตั้งอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง เสมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำของเด็ก ๆ ในยุค 80-90 ที่ครั้งหนึ่งได้เคยมาสนุก ณ สถานที่แห่งนี้

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/แดนเนรมิต


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

หากพูดถึง ‘คนดังหัวใจจิตอาสา’ หลายคนต้องนึกถึงคู่พี่น้องฝาแฝด ‘บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์’ และในวันนี้ก็เป็นวันพิเศษของพวกเขา เนื่องจากเป็นวันครบรอบวันเกิดอายุ 59 ปี

บิณฑ์ และ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เกิดเมื่อ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2505 ที่จังหวัดสระแก้ว ทั้งสองเป็นพี่น้องฝาแฝดที่เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงในเวลาไล่เรี่ยกัน โดยเริ่มต้นจากการเป็นนายแบบและนักแสดงตัวประกอบ ก่อนที่บิณฑ์จะได้เป็นพระเอกหนังเรื่องแรกในชื่อเรื่อง ‘ตำรวจเหล็ก’ 

และมาโด่งดังจากละครเรื่อง แผลเก่า โดยรับบทเป็น ไอ้ขวัญ ทางช่อง 7 กับอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนจดจำได้ดี นั่นคือ เหตุเกิดที่สน. ด้านเอกพันธ์ก็ข้ามฟากไปโด่งดังกับอีกช่อง โดยก้าวไปเป็นพระเอกละครเรื่อง แม่นากพระโขนง ทางช่อง 3 เมื่อปี พ.ศ.2532 ซึ่งเป็นละครที่ดังมาก ๆ ในเวลานั้น

นอกจากงานแสดง ทั้งสองยังเป็นที่รู้จักจากการเป็นอาสาสมัครในมูลนิธิร่วมกตัญญู มากว่า 30 ปี โดยมีสัญลักษณ์เรียกประจำตัวว่า ดารา 1 และ ดารา 2 ภาพที่หลายคนจดจำพวกเขาได้เป็นอย่างดี คือเมื่อครั้งที่โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่ม ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อกว่า 30 ปีก่อน ทั้งบิณฑ์และเอกพันธ์ ได้ร่วมเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ ออกค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากตึกถล่มชนิดข้ามวันข้ามคืน

ล่าสุดกับเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อสองปีก่อน ทั้งสองได้ลงพื้นที่ พร้อมกับเปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย จนมียอดบริจาคเข้ามากว่า 400 กว่าล้านบาท 

ปัจจุบัน ทั้งบิณฑ์ และเอกพันธ์ มีโครงการช่วยเหลือผู้คน สัตว์ต่าง ๆ และมีรายการโฮปประกายแสงแห่งความหวัง รวมไปถึงโครงการพิเศษที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ไม่ปกติ อาทิ การเปิดโรงครัวสนามแจกข้าวให้ผู้คนในสถานการณ์โควิดระบาด หรือมีไลฟ์สดลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้คนตามชุมชนต่าง ๆ อีกด้วย

วันนี้เป็นวันเกิด ครบรอบอายุ 59 ปี ของคู่พี่น้องจิตสาธารณะ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง สร้างความสุข ความหวัง และเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ตลอดไป



ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/บิณฑ์_บรรลือฤทธิ์

https://th.wikipedia.org/wiki/เอกพันธ์_บรรลือฤทธิ์


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของชาติ โดยเป็นวันถึงแก่อสัญกรรมของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษ ประธานองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย

พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2463 สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ก่อนจะมาศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7-8 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จากนั้นจึงเข้าศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 5 สังกัดเหล่าทหารม้าต่อ ในปี พ.ศ.2479

พลเอก เปรม เริ่มต้นรับราชการทหารที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อนจะได้รับทุนไปศึกษาต่อที่โรงเรียนยานเกราะของกองทัพบกสหรัฐ แล้วจึงกลับมารับตำแหน่งรองผู้บัญชาการโรงเรียนยานเกราะ ต่อมาในปี พ.ศ.2516 ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 และก้าวสู่การเป็นผู้บัญชาการทหารบก ในปี พ.ศ.2521

พลเอก เปรม เข้าสู่เส้นทางการเมือง โดยรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี พ.ศ.2520 และหลังจากที่พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น ลาออกจากตำแหน่ง สภาผู้แทนราษฎรได้ทำการหยั่งเสียงเพื่อหาผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ปรากฎว่าเสียงส่วนใหญ่ได้เลือก พลเอก เปรม เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาจึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2523 โดยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของประเทศไทย

พลเอก เปรม ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 8 ปี (พ.ศ.2523-2531) ถือเป็นนายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานเป็นอันดับที่ 3 โดยมีผลงานสำคัญมากมาย อาทิ การปรับปรุงประมวลกฎหมายรัษฎากรและกฎหมายสรรพสินค้า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม หรือการนำนโยบาย ‘การเมืองนำการทหาร’ มาใช้จนเป็นผลให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อ่อนกำลังลงและสลายตัวไปในที่สุด

หลังก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรมได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี และเป็นประธานองคมนตรีในเวลาต่อมา รวมทั้งได้รับการโปรดเกล้าฯ ยกย่องให้เป็น รัฐบุรุษ อีกด้วยเช่นกัน 

พลเอก เปรม มีอาการป่วยด้วยระบบหัวใจล้มเหลว และถูกนำส่งโรงพยาบาล ก่อนจะถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2562 สิริอายุ 98 ปี 

วันนี้ถือเป็นวันครบรอบ 2 ปีของการถึงแก่อสัญกรรม ประชาชนชาวไทยยังคงระลึกถึงผลงานและความสามารถของอดีตนายกรัฐมนตรีอยู่เสมอ

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/เปรม_ติณสูลานนท์


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

พูดชื่อ ‘คลองดำเนินสะดวก’ สำหรับคนไทยถือเป็นสถานที่อันคุ้นเคย และเคยเดินทางไปเยี่ยมชมกันมากมาย โดยวันนี้เมื่อ 153 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทำพิธีเปิดใช้ ‘คลองดำเนินสะดวก’ เป็นครั้งแรก

คลองดำเนินสะดวก เป็นคลองที่เชื่อมระหว่าง แม่น้ำท่าจีน และ แม่น้ำแม่กลอง เข้าด้วยกัน จุดเริ่มต้นของคลองแห่งนี้ เริ่มขึ้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริเห็นว่า การคมนาคมที่ไปมาระหว่างพระนครกับสมุทรสาคร ที่มีคลองภาษีเจริญเป็นเส้นทางการสัญจรนั้นมีความสะดวก แต่ถ้ามีคลองระหว่างพระนคร สมุทรสงคราม และราชบุรี เชื่อมถึงกัน จะทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น

ต่อมา จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) พระสมุหกลาโหม ณ ขณะนั้น เป็นผู้อำนวยการขุดคลอง โดยขุดเชื่อมจากแม่น้ำท่าจีน เริ่มจากปากคลองบางยาง ตำบลบางยาง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ไปจนถึงแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

การดำเนินงานครั้งนี้ ใช้งบประมาณราว 1,400 ชั่ง หรือคิดเป็นเงิน 112,000 บาท จนเมื่อขุดคลองสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเห็นว่าเป็นคลองที่มีเส้นตรง ได้รับความสะดวกในการสัญจร จึงพระราชทานนามคลองที่ขุดใหม่นี้ว่า ‘คลองดำเนินสะดวก’ และได้ทำพิธีเปิดใช้คลองนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2411

กาลเวลาผ่านมา คลองดำเนินสะดวก กลายเป็นเส้นทางหลักที่สำคัญของชาวบ้าน โดยมีคลองซอยแยกย่อยออกไปมากกว่า 200 สาย มากไปกว่านั้น ยังเกิดตลาดน้ำดำเนินสะดวก แหล่งทำมาค้าขายของผู้คนในละแวกดังกล่าว จนต่อมากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่มีผู้มาเยือนมากมาย นอกจากนี้ ตลอดเส้นทางคลองดำเนินสะดวก ยังเต็มไปด้วยวิถีชุมชนเก่าแก่ วัดวาอาราม และโบราณสถานที่ควรค่าแก่การศึกษา จึงถือได้ว่า คลองดำเนินสะดวก เป็นคลองอีกหนึ่งแห่งที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตคนไทยมาอย่างยาวนาน

 

ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/คลองดำเนินสะดวก

ที่สุดของเวทีการประกวดนางงาม คงต้องยกให้ ‘การประกวดนางงามจักรวาล’ และวันนี้เมื่อ 33 ปีก่อน สาวไทยคนหนึ่งสามารถคว้าตำแหน่ง ‘นางงามจักรวาล’ มาครองได้สำเร็จ เธอคนนั้นมีชื่อว่า ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก

ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก หรือ ปุ๋ย เริ่มต้นเข้าประกวดในเวทีนางสาวไทยเมื่อปี พ.ศ.2531 ก่อนจะคว้าตำแหน่ง สาวไทยที่สวยที่สุดในปีนั้นมาครอง หลังจากนั้น เธอจึงได้เป็นตัวแทนสาวไทย เดินทางไปประกวดในเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 1988 ที่จัดขึ้น ณ เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน

ในการประกวดครั้งนั้น มีสาวงามเข้าประกวดกว่า 66 ชาติ โดยปุ๋ยสามารถทำคะแนนในรอบประกวดชุดว่ายน้ำได้ในลำดับที่ 11 เมื่อรวมกับคะแนนในชุดราตรี และการสัมภาษณ์ ทำให้เธอผ่านเข้าสู่รอบ 10 คนสุดท้ายได้สำเร็จ ปุ๋ยยังสร้างความประทับใจต่อกรรมการในรอบถัดไป จนสุดท้าย เธอก็คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 1988 มาครอง ก้าวสู่การเป็นนางงามจักรวาลคนที่ 37 ในประวัติศาสตร์ได้ในที่สุด

ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ถือเป็นสาวไทยคนที่สองที่ได้สวมมงกฎนางงามจักรวาล ต่อจาก อาภัสรา หงสกุล ที่เคยได้ตำแหน่งเป็นคนแรกของประเทศเมื่อปี ค.ศ.1965 ภายหลังเมื่อการประกวดเสร็จสิ้นลง ปุ๋ยได้เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2531 โดยมีการจัดงานต้อนรับ พร้อมจัดขบวนรถแห่ สร้างความตื่นเต้นให้กับประชาชนชาวไทยในเวลานั้นเป็นอย่างมาก

ปัจจุบัน ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ มีอายุ 53 ปี แต่งงานกับนักธุรกิจชาวอเมริกัน ชื่อ เฮิร์บ ไซมอน โดยมีบุตรด้วยกันสองคน คือ ฌอน ไซมอน และ โซฟี ไซมอน เธอและครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเป็นหลัก แต่ยังคงเดินทางกลับมาประเทศไทย เพื่อช่วยเหลืองานด้านการกุศลอยู่เป็นประจำ

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/ภรณ์ทิพย์_นาคหิรัญกนก


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top