Tuesday, 10 June 2025
TODAY SPECIAL

วันนี้เมื่อ 21 ปีก่อน เกิดอุบัติเหตุทางอากาศครั้งใหญ่ สร้างความตกใจให้กับผู้คนทั่วโลก เมื่อเครื่องบินคองคอร์ด สายการบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบิน 4590 เกิดอุบัติเหตุตก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 113 คน

ย้อนเวลากลับไปกว่า 21 ปี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 สายการบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบินที่ 4590 บรรทุกผู้โดยสารกว่า 100 คน และลูกเรืออีก 9 คน เตรียมเดินทางออกจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อไปยังมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้เครื่องบินคองคอร์ดเป็นพาหนะในการเดินทางครั้งนี้

หลังจากที่เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เจ้าหน้าที่หอบังคับการบินได้แจ้งว่า เห็นเพลิงไหม้ที่ด้านท้ายเครื่อง ต่อมานักบินได้ตรวจสอบแล้วแจ้งว่า เกิดปัญหากับเครื่องยนต์หมายเลข 1 และ 2

สัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้น นักบินพยายามนำเครื่องร่อนลงที่สนามบินใกล้เคียง แต่แล้วเครื่องบินก็สูญเสียการควบคุมความเร็ว ดิ่งหัวลงสู่โรงแรมที่อยู่บริเวณด้านล่างอย่างรวดเร็ว เกิดระเบิดและไฟไหม้อย่างรุนแรง เป็นผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 113 คน เป็นผู้โดยสาร 100 คน ลูกเรือ 9 คน และผู้ที่อยู่ในโรงแรมที่เครื่องบินตกใส่อีก 4 คน

ภายหลังมีการตรวจสอบ พบสาเหตุที่น่าเหลือเชื่อว่า มีชิ้นส่วนโลหะที่หลุดออกมาจากเครื่องบินดีซี-10 ของคอนติเนนตัลแอร์ไลน์ ซึ่งบินขึ้นก่อนหน้านั้น 4 นาที ลอยมากระแทกกับยางล้อด้านข้างซ้ายของคองคอร์ดลำดังกล่าว ขณะกำลังเร่งเครื่องเพื่อเทคออฟ เป็นผลทำให้ยางล้อเกิดระเบิด และมีชิ้นส่วนของยางกระเด็นไปกระแทกกับถังน้ำมัน และสายไฟ จนเกิดการลุกไหม้ และนำมาซึ่งการตกในที่สุด

หลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ หน่วยงานความปลอดภัยทางการบิน ได้สั่งระงับการใช้เครื่องบินคองคอร์ดทุกเที่ยวบิน เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนจะนำกลับมาใช้งานอีกครั้งในปีถัดไป

แต่ด้วยความที่มีผู้ใช้บริการน้อยลง และมีต้นทุนค่อนข้างสูง ต่อมาทางสายการบินแอร์ฟรานซ์และบริติชแอร์เวย์ จึงประกาศยกเลิกการใช้งานเครื่องบินคองคอร์ดลงทั้งหมดในปี พ.ศ.2546 ปิดตำนานเครื่องบินโดยสารที่มีความเร็วเหนือเสียง และมีอายุการใช้งานกว่า 27 ปี ลงในที่สุด


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/คองคอร์ด


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 56 ปีก่อน มีข่าวอันน่ายินดีเกิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อ อาภัสรา หงสกุล นางสาวไทยที่เป็นตัวแทนไปประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์ส สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศ กลายเป็นนางงามจักรวาลคนแรกของประเทศไทย

อาภัสรา หงสกุล เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2490 มีชื่อเล่นว่า ปุ๊ก เธอจบการศึกษาระดับมัธยมจากรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย กระทั่งต่อมา ได้มีโอกาสเข้าประกวดในเวทีการประกวดนางสาวไทย และได้รับตำแหน่งนางสาวไทย ในปี พ.ศ.2507

อาภัสราถือเป็นนางสาวไทยคนที่ 3 ที่เป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวดในเวทีนางงามจักรวาล ต่อจาก อมรา อัศวนนท์ ที่เข้าประกวดในปี ค.ศ.1956 และ สดใส วานิชวัฒนา เข้าประกวดในปี ค.ศ.1959 

โดยอาภัสราเข้าประกวดในปี ค.ศ.1965 ซึ่งครั้งนั้นการประกวดจัดขึ้นไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา และผลปรากฎออกมา เธอสามารถคว้าตำแหน่งสูงสุดในการประกวด นั่นคือ มิสยูนิเวิร์ส ประจำปี 1965 ได้เป็นผลสำเร็จ โดยมีนางงามจากประเทศฟินแลนด์ สหรัฐฯ สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ เป็นรองนางงามจักรวาล

อาภัสรา หงสกุล ถือเป็นนางงามจักรวาลคนที่ 14 ของเวทีการประกวด และเป็นคนที่ 2 ของทวีปเอเชีย และแน่นอนว่า เป็นคนแรกของประเทศไทย แม้ว่าในเวลาต่อมา ประเทศไทยจะมีนางงามจักรวาลคนที่สอง นั่นคือ ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ที่คว้าตำแหน่งมาได้อีกครั้งในปี ค.ศ.1988 

แต่ถึงอย่างนั้น ชื่อเสียงของเธอก็ยังถูกกล่าวถึง ในฐานะสาวไทยคนแรกที่ไปสร้างชื่อเสียงบนเวทีความงามระดับโลกมาโดยตลอด


ที่มา : https://th.wikipedia.org/อาภัสรา_หงสกุล


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 76 ปีก่อน เป็นวันสิ้นพระชนม์ของพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ปราชญ์คนสำคัญของประเทศไทย พระองค์มีผลงานด้านการนิพนธ์หนังสือเอาไว้มากมาย รวมถึงยังเป็นบิดาแห่งการสหกรณ์ไทยอีกด้วย

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ มีพระนามเดิมว่า พระบวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส เป็นพระราชโอรสในกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว) กับจอมมารดาเลี่ยมเล็ก ประสูติเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2420 

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เริ่มเข้ารับราชการตั้งแต่มีพระชันษา 16 ปี ก่อนที่จะมีโอกาสติดตามพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรป ช่วงปี พ.ศ. 2440 และมีโอกาสศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ

กระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งป็นองคมนตรี ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาให้เป็นพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิมยาลงกรณ์ เป็นผู้ทรงดำริให้จัดสร้าง ‘สหกรณ์วัดจันทร์’ ซึ่งถือเป็นสหกรณ์แห่งแรกของไทย จนได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘บิดาแห่งการสหกรณ์ไทย’ นอกจากนี้ ยังทรงเป็นกวีเอก ที่มีนามปากกาที่ผู้คนรู้จักกันในนาม น.ม.ส. 

พระองค์มีผลงานด้านการนิพนธ์ทั้งร้อยแก้ว และร้อยกรอง ผลงานที่ยังถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ ได้แก่ หนังสือนิทานเวตาล, กนกนคร และประมวลนิทาน น.ม.ส. รวมทั้งยังนิพนธ์บทร้อง ‘อโหกุมาร’ ประทานให้เป็นบทร้องประจำโรงเรียนเทพศิรินทร์ ใช้มาจนถึงปัจจุบัน

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิมยาลงกรณ์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 ด้วยพระโรคหลอดเลือดในสมองตัน สิริพระชันษา 68 ปี มีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2491 ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส 

ผ่านมาถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 76 ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ แต่ชื่อเสียงและผลงานของปราชญ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ท่านนี้ ยังคงถูกนำมาถ่ายทอดแก่คนรุ่นหลังได้รู้จักอยู่ต่อไป


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/พระราชวรวงศ์เธอ_กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อกว่า 104 ปีมาแล้ว เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงตัดสินพระราชหฤทัย นำประเทศไทยเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1

สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2457-2461 โดยเป็นความขัดแย้งระหว่าง ฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งมีประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย เป็นผู้นำ กับฝ่ายมหาอำนาจกลาง ซึ่งมีเยอรมนี และออสเตรีย-ฮังการี เป็นผู้นำ ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ประเทศสยาม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ดำเนินนโยบายรักษาความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด

กระทั่งในปี พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าฝ่ายมหาอำนาจกลางได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และปราศจากมนุษยธรรม ส่งผลให้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 พระองค์ทรงตัดสินพระราชหฤทัยประกาศสงครามต่อฝ่ายมหาอำนาจกลาง และเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร พร้อมทั้งส่งกองทหารอาสาไปร่วมรบ ณ สมรภูมิทวีปยุโรป

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 โดยฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้สร้างถาวรวัตถุ เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว 

เป็นที่มาของการโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวงเวียน ที่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งแรกของประเทศไทยขึ้น โดยทำการสร้างบริเวณถนน 3 สาย (ปัจจุบันคือ ถนนไมตรีจิตต์ ถนนมิตรพันธ์ และถนนสันติภาพ) ซึ่งอยู่ในท้องที่อำเภอป้อมปราบศัตรูพ่าย ต่อมาได้พระราชทานนามวงเวียนว่า ’22 กรกฎาคม’

ปัจจุบัน วงเวียน 22 กรกฎาคม กลายเป็นแหล่งการค้าของกรุงเทพมหานครชั้นใน ทั้งนี้ที่บริเวณวงเวียน ยังปรากฎป้ายหินที่จารึกเป็นภาษาไทยและภาษาจีน มีใจความว่า...

อนุสรณ์แห่งนี้เป็นวงเวียนแห่งแรกของประเทศไทย สร้างเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงนำประเทศไทยเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 ก่อนจะได้รับชัยชนะในเวลาต่อมา
.
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/วงเวียน_22_กรกฎาคม


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อในอดีต ถือเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระมหากษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จสวรรคต

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีพระนามเดิมว่า ฉิม พระราชสมภพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2310 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ประสูติแต่ท่านผู้หญิงนาค (ภายหลังเฉลิมพระนามเป็นสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) 

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเสวยราชสมบัติเมื่อปี พ.ศ. 2352 ขณะมีพระชนมพรรษาได้ 42 พรรษา ตลอดรัชสมัยของพระองค์ ได้รับการยกย่องว่า เป็นยุคทองของวรรณคดี พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ผลงานด้านบทกลอนไว้มากมาย อาทิ รามเกียรติ์ อุณรุท อิเหนา ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีบทละครนอกที่มีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ อาทิ ไกรทอง สังข์ทอง ไชยเชษฐ์ หลวิชัยคาวี ฯลฯ

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ยังทรงมีพระปรีชาสามารถด้านดนตรี ทรงถนัดและโปรดปรานเครื่องดนตรีประเภทซอสามสาย โดยมีบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ เพลงบุหลันลอยเลื่อน ซึ่งปัจจุบันยังเป็นเพลงที่ถูกนำมาบรรเลงและถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รู้จักอยู่เสมอ

ราวปี พ.ศ. 2367 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระประชวรด้วยโรคพิษไข้ เป็นเหตุให้ทรงไม่รู้สึกพระองค์เป็นเวลากว่า 8 วัน ต่อมาพระอาการประชวรได้ทรุดลงตามลำดับ และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 สิริพระชนมพรรษาได้ 56 พรรษา และครองราชย์สมบัติเป็นเวลา 15 ปี 


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 52 ปีก่อน ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ต้องถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของโลก เมื่อยานอวกาศที่ชื่อ ‘อพอลโล 11’ ขององค์การนาซ่า สามารถทำการลงจอดบนพื้นผิวของดวงจันทร์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก

ยานอวกาศอพอลโล 11 เป็นยานอวกาศที่ถูกส่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโดยจรวดแซทเทิร์น 5 ที่ฐานยิงจรวดแหลมเคเนดี้ มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2512 กระทั่งอีก 4 วันต่อมา หรือเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2512 ก็สามารถนำยานลงจอดได้ ณ บริเวณที่เรียกว่า ‘ทะเลแห่งความสงบ’ (Mare Tranquilitatis) บนดวงจันทร์

โดย นีล อาร์มสตรอง ผู้บังคับการของยานอวกาศ เป็นผู้ก้าวเท้าลงสัมผัสพื้นผิวของดวงจันทร์ ได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์โลก ก่อนจะตามมาด้วย เอดวิน อัลดริน และ ไมเคิล คอลลินส์ สองนักบินอวกาศที่โดยสารมาด้วยกัน

ภารกิจของทั้งสามนักบินในครั้งนั้น คือการติดตั้งเครื่องวัดแผ่นดินไหว และเครื่องวัดลมสุริยะ รวมทั้งเก็บตัวอย่างหิน-ดินปริมาณราว ๆ 20.8 กิโลกรัม นำกลับไปยังโลก รวมเวลาอยู่บนดวงจันทร์ทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง 36 นาที และใช้เวลานับตั้งแต่ออกเดินทางจนกลับถึงโลก 195 ชั่วโมง 18 นาที 35 วินาที โดยทั้งหมดกลับถึงโลกเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2512

ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ดังกล่าว มีผู้คนราว 530 ล้านคนทั่วโลก ที่เฝ้ารับชมการถ่ายทอดสด พร้อมกับการจดจำประโยคสำคัญที่ นีล อาร์มสตรอง ได้เอ่ยขึ้นในช่วงเวลาที่สัมผัสกับพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรกว่า ‘นี่เป็นก้าวเล็ก ๆ ของมนุษย์คนหนึ่ง แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ’

ปัจจุบันวิวัฒนาการของโลกก้าวล้ำไปอย่างมาก มีการวางแผนสร้างสถานีอวกาศ เพื่อเดินทางออกไปยังส่วนอื่น ๆ ของระบบสุริยะอีกมากมาย แต่ถึงอย่างนั้น ‘ก้าวแรก’ ของการเหยียบดวงจันทร์ ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับมนุษยชาติอยู่เสมอ


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/อะพอลโล_11


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อกว่า 72 ปีก่อน ถือเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติ โดยเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) ทรงประกอบพระราชพิธีหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร (พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

จุดเริ่มต้นของการสืบสานความผูกพันของทั้งสองพระองค์ เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2491 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จจากเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มายังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยการเสด็จครั้งนั้น มีหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ในฐานะเอกอัครราชทูต ให้การเฝ้ารับเสด็จฯ พร้อมด้วยครอบครัว

ทั้งนี้ หนึ่งในสมาชิกของครอบครัวที่ให้การเฝ้ารับเสด็จฯ ในครั้งนั้น มีหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ซึ่งเป็นบุตรีของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล เข้าร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ ด้วย จึงเป็นที่มาของการที่ทั้งสองพระองค์ทรงได้พบกันเป็นครั้งแรก

ต่อมา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2491 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้เข้าเฝ้าฯ เยี่ยมพระอาการ และถวายการพยาบาลอย่างใกล้ชิดเป็นประจำ จึงกลายเป็นความรักความเข้าพระราชหฤทัยซึ่งกันและกัน และสืบสานความผูกพันมากขึ้นเป็นลำดับ

ราวเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2492 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้มีรับสั่งให้หม่อมเจ้านักขัตรมงคลไปเฝ้าที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่ในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 พระองค์จะเสด็จไปพบหม่อมเจ้านักขัตรมงคล ที่โรงแรมที่พัก และทรงมีรับสั่งถึงเรื่องการหมั้น 

จากนั้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 จึงได้มีการประกอบพระราชพิธีหมั้นเป็นการภายใน ณ โรงแรมวินเซอร์ เมืองโลซานน์ อันเป็นที่พักของหม่อมเจ้านักขัตรมงคลและครอบครัว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงสวมพระธำมรงค์เป็นของหมั้นต่อหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ซึ่งพระธำมรงค์วงนี้ เป็นวงเดียวกับที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงมอบต่อสมเด็จพระบรมราชชนนี ในพระราชพิธีหมั้น เมื่อปี พ.ศ. 2462 

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ราชเลขานุการประจำพระองค์ ทำหนังสือแจ้งข่าวที่ทรงหมั้นมายังรัฐบาลไทย ซึ่งมี จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น รัฐบาลได้แจ้งประกาศข่าวอันเป็นมงคลนี้ให้พสกนิกรทราบ ยังความปลื้มปีติยินดีแก่เหล่าประชาชนชาวไทยถ้วนทั่วหน้ากัน


ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/today-in-history/380155, https://th.wikipedia.org/wiki/พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส_พุทธศักราช_2493

ย้อนรำลึก 26 ปี วันสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ที่โรงพยาบาลศิริราช ด้วยโรคพระวักกะ (ไต)

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือที่ประชาชนนิยมเรียกกันว่า ‘สมเด็จย่า’ เป็นพระราชชนนีในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรียกได้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระมารดาของพระมหากษัตริย์ถึงสองพระองค์

โดยสมเด็จย่าเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443 ทรงเป็นบุตรคนที่ 3 ในพระชนกชู และพระชนนีคำ โดยพระนามเดิมของพระองค์ คือ "สังวาลย์ ตะละภัฏ” โดยในวัยประมาณ 7-8 ขวบ ทางครอบครัวได้นำพระองค์ไปฝากคุณจันทร์ แสงชูโต ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงในพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์

ทรงได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสตรีวิทยา จากนั้นเข้าโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์ และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช โดยในขณะที่เรียนอยู่ปี 1 สมเด็จย่าได้ทรงพบกับ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ (พระบรมราชชนก) ซึ่งได้ทรงถูกพระทัย และขอพระราชทานพระราชานุญาตหมั้นกับ นางสาวสังวาลย์ จากนั้นทรงได้รับการคัดเลือกให้ไปทรงศึกษาวิชาพยาบาลต่อที่โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา และทรงมีพิธีอภิเษกสมรสกับ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่วังสระปทุมเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2463

สมเด็จย่ามีพระราชกรณียกิจมากมาย ทั้งเยี่ยมราษฎรชาวไทยภูเขาที่อาศัยในถิ่นทุรกันดาร และได้พระราชทานความช่วยเหลือผ่านทางเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เปรียบเสมือนพระองค์เสด็จมาจากฟากฟ้าช่วยให้พวกเขามีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น ชาวไทยภูเขาจึงถวายพระสมัญญานามว่า “แม่ฟ้าหลวง" นอกจากนี้ยังทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามต่าง ๆ อาทิ พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย, พระมารดาแห่งการแพทย์ชนบท, พระมารดาแห่งการสังคมสงเคราะห์ และพระมารดาแห่งการสาธารณสุขไทย เป็นต้น

จนกระทั่งวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2538 สมเด็จย่ามีพระอาการทางพระหทัยกำเริบและทรงเหนื่อยอ่อนจึงเชิญเสด็จพระราชดำเนินเข้าประทับรักษาพระองค์ ที่โรงพยาบาลศิริราช และในวันที่ 17 กรกฎาคม สมเด็จพระบรมราชชนนีมีพระอาการทรุดลง เนื่องด้วยมีพระอาการแทรกซ้อนทางพระยกนะ (ตับ) และพระวักกะ (ไต) ไม่ทำงาน พระหทัย (หัวใจ) ทำงานไม่ปกติ ความดันพระโลหิตต่ำทำให้เกิดภาวะเป็นกรดในพระโลหิต คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาความผิดปกติของระบบต่าง ๆ รวมทั้งการฟอกพระโลหิตด้วยเครื่องไตเทียมและกรองสารพิษซึ่งเกิดจากภาวะผิดปกติของพระยกนะ แต่พระอาการตั้งแต่เช้าจนเที่ยงของวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 คงอยู่ในภาวะวิกฤต จนกระทั่ง เวลา 21.17 น. สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จสวรรคต รวมพระชนมายุ 94 พรรษา


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ดิสนีย์แลนด์’ สวนสนุกแห่งความฝัน เปิดให้บริการเป็นครั้งแรก เมื่อ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 ที่เมืองแอนาเฮม รัฐแคลิฟอร์เนีย

ดิสนีย์แลนด์พาร์กหรือดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกแห่งความฝัน ที่สร้างความสุขให้กับคนทั่วโลก โดยเมื่อ 66 ปีก่อน ดิสนีย์แลนด์แห่งแรกของโลก ได้เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 หรือปี ค.ศ. 1955 ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแอนาเฮม รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

โดยสวนสนุกแห่งนี้เป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์เพียงแห่งเดียวที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของวอลต์ ดิสนีย์ นักสร้างการ์ตูนผู้ยิ่งใหญ่ของโลก

วอลต์ ดิสนีย์ ได้นำเสนอแนวคิดดิสนีย์แลนด์หลังจากไปเที่ยวสวนสนุกที่ต่าง ๆ พร้อมกับลูกสาวของเขาในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 และ 1940 เขาจินตนาการถึงการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ติดกับสตูดิโอของเขาในเบอร์แบงก์เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับแฟน ๆ ที่อยากไปเยี่ยมชม

แต่อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าขนาดเนื้อที่ ที่เสนอไปนั้นมีขนาดเล็กเกินไป ดิสนีย์จึงได้ซื้อพื้นที่ 160 เอเคอร์ หรือ ประมาณ 409 ไร่ ในเมืองแอนาเฮม รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้เริ่มก่อสร้างโครงการสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ขึ้นโดยมีความตั้งใจให้สวนสนุกนี้เป็นสถานที่ที่ให้ทั้งความสุขและความรู้กับเด็กและผู้ใหญ่ที่เข้ามาเยี่ยมชม

และแล้วโครงการสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ก็ได้เปิดให้บริการในวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1955 เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชื่นชมเหล่าตัวการ์ตูน เครื่องเล่นและบรรยากาศความยิ่งใหญ่อลังการณ์ที่พร้อมจะมอบความสุข ให้กลับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือน

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าความสุขจะไม่ได้มาโดยง่ายขนาดนั้น เพราะในวันเปิดสวนสนุกวอลต์และทีมงานก็ได้พบกับปัญหา เพราะว่าดินแดนแห่งความฝันของพวกเขานั้นยังสร้างไม่เสร็จ แม้แต่ยางมะตอยที่ถนนก็ยังแห้งไม่สนิท อีกทั้งอาหารและเครื่องดื่มหมดในเวลาอันรวดเร็ว เรือล่องน้ำชมวิวก็เกือบจะล่มเพราะผู้โดยสารเยอะเกินไป และที่แย่ที่สุดคือ พบว่าคนที่เข้ามาเล่นในสวนสนุกหลายพันคนใช้ตั๋วปลอม ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ดิสนีย์แลนด์ต้องขาดทุน

หลังจากนั้น สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ก็ได้รับการฟื้นฟูปรับปรุงจนกลายมาเป็นดินแดนในฝันของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทั่วโลกตามความต้องการของวอลต์ ดิสนีย์ และแม้ว่าวอลต์จะเสียชีวิตใน พ.ศ. 2509 แต่สวนสนุกในชื่อของเขาก็ยังคงทำหน้าที่เติมเต็มความสุขและความหวังของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่อไป


ที่มา: https://www.silpa-mag.com/this-day-in-history/article_18440


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ‘สมาน ส.จาตุรงค์’ คว้าแชมป์จากสภามวยโลก (WBC) และสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) นับว่าเป็นชาวเอเชียคนแรกที่คว้าแชมป์โลกสองสถาบัน

ในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์บนสังเวียนผ้าใบ ที่สร้างความตกตะลึงไปทั้งโลก ซึ่งเหตุการณ์นี้ ‘สมาน ส. จาตุรงค์’ ได้ขึ้นท้าชิงแชมป์กับ ฮุมเบอร์โต้ กอนซาเลซ นักชกชาวเม็กซิกัน ผู้เป็นเจ้าของแชมป์โลกรุ่นไลท์ฟลายเวต 2 สถาบัน (WBC & IBF) ซึ่งถือได้ว่าเขาคนนี้เป็นนักมวยระดับโลกเลยก็ว่าได้

โดยก่อนขึ้นชก บรรดาผู้เชี่ยวชาญในวงการมวยโลกต่างฟันธงเป็นเสียงเดียวกันว่า กอนซาเลซจะป้องกันตำแหน่งไว้ได้อย่างแน่นอนเพราะผลงานที่ผ่านมาถือว่ายอดเยี่ยมมาตลอด อีกทั้งกอนซาเลซเอง ถือได้ว่าเป็นนักมวยระดับโลกในขณะนั้น  

ซึ่งในฝั่งของ ‘สมาน’ เวลานั้นแทบไม่มีใครรู้จัก เรียกได้ว่าในการขึ้นชกครั้งนี้ ทุกคนต่างคาดว่า สมาน ไม่สามารถมีชัยชนะเหนือ กอนซาเลซ ได้อย่างแน่นอน มีเพียงแค่จะแพ้น็อกหรือแพ้คะแนนเท่านั้น ซึ่งการแข่งขันในไฟต์นี้ สมานต้องเจอกับความกดดัน จากการเดินทางไปแข่งขันที่ต่างแดนถึงอเมริกาที่แฟนมวยรอบสังเวียนต่างมาเพื่อเชียร์คู่ท้าชิงอย่างกอนซาเลซ 

แต่เมื่อถึงยกที่ 2 แฟนมวยรอบสนามก็ตกอยู่ในความเงียบ เพราะสมานสามารถทำให้กอนซาเลซ ลงไปกองอยู่กับพื้นให้กรรมการนับ 8 ได้ ด้วยหมัดขวาที่สวนเข้าไปโดนลำตัวแชมป์โลกอย่างจัง ซึ่งจากการถูกนับครั้งนี้ ดูเหมือนว่าจะทำให้ กอนซาเลซ ยิ่งเดินหน้าเข้าใส่สมานหนักขึ้น 

จนสมานกลายเป็นฝ่ายเสียที ถูกแชมป์โลกสวนหมัดลงไปกองกับพื้นให้กรรมการนับ ถึงสองครั้งในยกที่ 5 และยกที่ 6 
ซึ่งสภาพของ สมาน ตอนนี้เรียกได้ว่าย่ำแย่เป็นอย่างมาก ตาปวมปิดจนแทบจะมองไม่เห็น ทำได้เพียงชกกะระยะ อย่างที่เคยฝึกซ้อมมาเพียงเท่านั้น

ทำให้เมื่อเข้าสู่ยกที่ 7 สมานต้องเดินหน้าแลกหมัดบ้างไม่เช่นนั้นจะถูกจับแพ้แน่นอน โดยในระหว่างที่แลกหมัดกันอยู่นั้น สมานได้จังหวะปล่อยหมัดขวาเข้าเต็มใบหน้าของกอนซาเลซจนลงไปนอนให้กรรมการนับ 8 ได้อีกครั้ง และแม้กอนซาเลซจะลุกขึ้นมาสู้ต่อ แต่ด้วยบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณคิ้ว รวมทั้งสมานที่ได้ที จึงเข้าใส่ผู้ท้าชิงแบบไม่ยั้ง ทำให้สุดท้ายกรรมการตัดสินยุติการชกไปในที่สุด

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เองที่เรียกได้ว่าพลิกล็อกแฟนมวยทั่วโลก จากนักชกที่ไม่มีใครรู้จักในตอนแรก กลับเป็นผู้มีชัยชนะเหนืออดีตแชมป์โลกอย่างกอนซาเลซได้ โดย ‘สมาน ส.จาตุรงค์’ ก็ได้กลายเป็นผู้คว้าแชมป์โลกไลท์ฟลายเวต 2 สถาบันคนใหม่และนับเป็นนักมวยชาวไทยที่ไปสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ถึงแผ่นดินสหรัฐฯ


ที่มา: https://www.komchadluek.net/news/sport/287590


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top