Monday, 9 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

ไต้หวันกับผลโหวตชุดนักเรียนสุด Cute!

ผลโหวตกว่า 4 แสนคน โรงเรียนพาณิชย์หย่งผิง ชนะเลิศชุดนักเรียนน่ารักที่สุด 102,221 คะแนน  โรงเรียนจากเมืองเถาหยวน กวาดตำแหน่งแชมป์ชุดนักเรียนที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรก

บล็อกเกอร์ชาวเมืองไถจงคนหนึ่ง เปิดเว็บไซต์จำหน่ายชุดนักเรียนมัธยมของโรงเรียน 160 แห่งทั่วเกาะไต้หวัน สร้างรายได้เดือนละ 2 - 4 หมื่นบาท เครื่องแบบนักเรียนนอกจากจำหน่ายให้กับเหล่านักเรียนในช่วงเปิดเทอมแล้ว เนื่องจากไต้หวันได้รับอิทธิพล “คอสเพลย์” ของญี่ปุ่นมาก ทำให้มีผู้ซื้อหาชุดนักเรียนไปสวมใส่ในเทศกาล เช่น วันคริสต์มาส วันวาเลนไทน์และ งานเลี้ยงของบริษัทต่าง ๆ


เครดิต เพจบูรพาไม่แพ้

3 ธันวาคม..วันคนพิการสากล

3 ธันวาคมของทุกปี ถูกยกให้เป็น วันคนพิการสากล

 

วันนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2525 หรือกว่า 38 ปีมาแล้ว โดยองค์การสหประชาชาติ ได้ตั้งวันนี้ขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้ตระหนักถึงศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของคนพิการ และให้เกิดการตื่นตัวในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการ รวมไปถึงสนับสนุนการสร้างเสริมศักยภาพ การเปิดโอกาสและสนับสนุนคนพิการให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรได้อย่างเท่าเทียมกับคนทั่วไป

 

นอกจากนี้ยังได้มีการสนับสนุนให้ประเทศต่าง ๆ เฉลิมฉลองวันคนพิการสากลทุกปี เพื่อขับเคลื่อนปฏิบัติการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ให้เกิดการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยอยู่บนพื้นฐานของสิทธิอย่างเป็นรูปธรรม และได้มาตรฐานในระดับสากล

 

จากการสำรวจทางสถิติขององค์การสหประชาชาติ พบว่า กลุ่มประเทศแถบเอเชียและแปซิฟิกนี้มีจำนวนประชากรที่เป็นบุคคลพิการมากที่สุดในโลก ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาความยากจน นอกจากนั้นก็เกิดจากความรุนแรงของภัยพิบัติทางธรรมชาติ  อุบัติเหตุ และผลของสงคราม ด้วยความพิการทุพพลภาพที่มากขึ้นทุกขณะ ทางองค์การสหประชาชาติจึงพยายามรณรงค์ให้ทุกๆ ฝ่ายได้ช่วยกันหาทางป้องกันแก้ไข เพื่อลดจำนวนผู้พิการลงให้ได้อย่างต่อเนื่อง

 

แม้จะเป็นเรื่องที่ต้องป้องกันแก้ไขกันอย่างจริงจัง และยาวนาน แต่สิ่งที่ผู้คนในสังคมสามารถทำได้ทันทีนั่นก็คือ การมีน้ำใจ ช่วยเหลือ และหยิบยื่นโอกาสให้กับผู้พิการ เท่านี้ก็สามารถทำให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และดำรงชีวิตด้วยตัวเองอย่างมีความสุขยิ่งขึ้นเช่นกัน

 

 

 

ผลตรวจของคุณเป็น 'บวก' เช็คสุขภาพอสังหาฯ ไทยโค้งสุดท้าย 2020

ถ้าจะบอกว่าปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เหนื่อยแค่ไหน ก็คงต้องบอกว่าเหนื่อยมาก ยิ่งไปในช่วงคาบเกี่ยวของไตรมาส 2 และ 3 ที่เจอกับพิษโควิด-19 แบบจุก ๆ เข้าไป ทำให้หลาย ๆ บริษัทต้องงัดกลยุทธ์เพื่อประคองตัวแบบเต็มเหนี่ยว ทั้งโปรโมชันลดแหลกในหลาย ๆ โครงการ

แต่ในช่วงเวลาที่เหน็ดเหนื่อย ก็ยังมีแบรนด์อสังหาฯ ที่สร้างผลบวกให้กับธุรกิจได้อยู่พอสมควรมาดูกันว่ารายได้อสังหาฯ เจ้าไหนในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาอยู่ที่เท่าไร แล้วใครที่ยังทำตัวเลข 'บวก' ได้บ้าง


ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

"การบินไทย" คัมแบ็ค!! ปั้นรายรับน่านฟ้าสยาม ขนานรายได้ธุรกิจส่งผัก

หยุดทำการบินเส้นทางในประเทศไปตั้งแต่เดือนเมษายน ตอนนี้การบินไทยกำลังจะทะยานสู่น่านฟ้าอีกครั้ง!!

หลังจากรัฐบาลได้คลายล็อกดาวน์มาตรการคุมเข้ม โควิด-19 และสนับสนุนให้สายการบินไทยสมายล์ทำการบินแทนในเส้นทางที่การบินไทยเคยทำการบินอยู่

แต่ตอนนี้ การบินไทย เตรียมจะกลับมาบินในประเทศอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2563 - วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564

โดยการบินไทยจะกลับมาเปิดบินใน 2 เส้นทาง ได้แก่

1.) ให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศเฉพาะเส้นทางกรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - เชียงใหม่

2.) เส้นทางบินกรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - ภูเก็ต

ทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าว การบินไทย จะทำการบิน จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ให้บริการในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-200ER

.

- เส้นทางกรุงเทพฯ (BKKเชียงใหม่ (CNX) / เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ได้แก่ TG108 (WE5108) BKK 1210 น.- CNX 13.30 น./TG109 (WE5109) CNX 14.30น. - BKK 15.55 น.

- เส้นทางกรุงเทพฯ(BKK) - ภูเก็ต(HKT) / ภูเก็ต-กรุงเทพฯ ได้แก่ TG205 (WE5205) BKK 12.05 น.- HKT 13.30น. / TG206 (WE5206) HKT 14.20 น.- BKK 15.45 น.

.

ทั้งนี้เบื้องต้นสามารถจองบัตรโดยสารได้จากเว็บไซต์ www.thaismileair.com ส่วนในเว็บไซต์ของการบินไทยคาดว่าจะเปิดให้จองในลำดับถัดไป

นอกจากการเปิดเส้นทางการบินในประเทศอีกครั้งของการบินไทยในครั้งนี้ จะเป็นแผนการหารายได้หนึ่ง

แต่การบินไทย ยังเตรียมหารายได้อื่นควบคู่กันไป โดยเฉพาะกับการเร่งหารายได้จากธุรกิจคาร์โก้

ซึ่งจะร่วมมือกับ 3 กระทรวง คือ กระทรวงคมนาคม / กระทรวงพาณิชย์ / กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อกระตุ้นการขนส่งผักและผลไม้ สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกร ภาคส่งออกและการบินไทยเองด้วย

ตรงนี้เป็นแนวทางต่อเนื่องของการบินไทยในการจัดบริการขนส่งผักและผลไม้ตามฤดูกาล ในราคาขนส่งถูกพิเศษ เพื่อสนับสนุนการส่งออก และช่วยกระจายสินค้าไปต่างประเทศ

ซึ่งเป็นอีกธุรกิจที่ได้รับการตอบรับดี โดยที่ผ่านมาการบินไทยได้ขนส่งสินค้าไปหลายประเทศ เช่น มะม่วง ได้รับการตอบรับอย่างดีจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และฮ่องกง

นอกจากนี้ยังได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอข้อมูลแนวโน้มการส่งออกสินค้าผักและผลไม้ปี พ.ศ.2564 เพราะปัจจุบันการบินไทยทำการบินกึ่งพาณิชย์ โดยมีจุดหมายปลายทางเพิ่ม อาทิ ยุโรป ซึ่งประเมินว่าธุรกิจคาร์โก้ปีหน้าจะสร้างรายได้สนับสนุนการบินไทยต่อเนื่อง

รากเหง้า คือ ตัวตนของเราในวันนี้

คอลัมน์​ "เบิ่งข้ามโขง"

งานแข่งขันเป่าแคน ชิงชนะเลิศ สืบสานมรดกวัฒนธรรมโลก เสียงแคนลาว สปป.ลาว จัดงาน "แข่งขันเสียงแคนเชื้อชาติลาวกับรุ่นสืบทอด” ครั้งที่ 1 รอบชิงชนะเลิศ จัดขึ้นโดย กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 เพื่อสืบต่อ เสริมขยาย ความสำเร็จที่ เสียงแคนลาว ได้รับการยกย่อง จาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก เพื่อการปลุกระดม ปลูกฝั่ง คนรุ่นใหม่ให้รู้จักอนุรักษ์ ปกป้องรักษาวัฒนธรรมแคนลาวให้คงอยู่กับชาติลาว คนลาว

พร้อมกับ เป็นการสร้างเพื่อต้อนรับวันสำคัญของชาติที่จะมาถึง เช่น วันชาติลาวในวันที่ 2 ธันวาคม ครบรอบ 45 ปี, วันคล้าย วันเกิดของประธานประเทศ ท่านไกรสอน พรมวิหาน ครบรอบ 100 ปี ของผู้นำที่เคารพนับถือของชาวลาวและวันสำคัญอื่น ๆ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปีพ.ศ.2560 องค์การยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเสียงแคนของชาวลาว ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

โดยระบุว่า แคนของลาวซึ่งเป็นเครื่องดนตรีแบบเป่า ประกอบขึ้นจากขลุ่ยหลายเลาที่ทำจากไม้ไผ่ที่มีความยาวแตกต่างกัน เพื่อให้เกิดความหลากหลายของเสียง โดยผู้เล่นต้องเป่าลมเข้าไปข้างในเพื่อให้เกิดเสียงออกมา การแข่งขันครั้งแรกนี้ เริ่มมาตั้งแต่เดือนช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.2563 แข่งขันกันสามรอบ คัดเอาผู้มีคะแนนดีสูงสุดในแต่ละรอบ เพื่อเข้าแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศเฉพาะรอบชิงชนะเลิศมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 16 คน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ชายและหญิงอายุ 7-14 ปีและชายและหญิงอายุ 15 ถึง 18 ปี

กติการการแข่งขัน ต้องเป่าให้ครบตามลายแคน ที่ทางคณะกรรมการกำหนดต้องเป่าให้ถูกต้องตามลายแคนเดิม ลายแคนต้องชัดแจ้ง ชัดเจน ม่วน สนุกสนานและถูกจังหวะ ...ซึ่งผลการแข่งขัน

ผู้ชนะเลิศรุ่นอายุ 7-14 ปี

ฝ่ายชายได้แก่ ท้าววิสะนุ สะแหวงชน ฝ่ายหญิงได้แก่ นางสินสุดา เทบสุวัน

รุ่นอายุ 15-18 ปี

ฝ่ายชายได้แก่ ท้าวสุวัน ไชพงสีดา ฝ่ายหญิงได้แก่ นางนู่นี่ จันทะวง

ทั้งหมดจะได้รับรางวัลเป็นเงินสด 2 ล้านกีบ (6,250 บาท) และของที่ระลึกอีกจำนวนหนึ่ง

บรรยากาศการแข่งขัน คึกคัก ม่วนหลาย ๆ เด้อ ...


ข่าวจาก Lao nation radio 

หนุ่มโคราชคลุกคลี กับเมืองลาวทั้งด้านธุรกิจเอกชน​และภาครัฐมานานหลายปี ยินดีแนะนํา​ภาคเอกชนไทย​ บุกตลาดอินโดจีน

1 ธันวาคม พ.ศ. 2476 วันเกิดนักวาดการ์ตูนชื่อดัง ‘โดราเอมอน’

เป็นการ์ตูนในดวงใจของใครหลายคน แถมต่อให้เวลาจะผ่านมายาวนานแค่ไหน ‘โดราเอมอน’ ก็ยังครองใจคนทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า การ์ตูนเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 นับถึงวันนี้ผ่านมาถึง 51 ปีเข้าไปแล้ว

 

เกริ่นมาถึงตรงนี้ เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของการ์ตูนเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเกิดของ ‘ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ’ หนึ่งในนักวาดการ์ตูน หรือจะเรียกว่า เป็นหนึ่งในผู้ให้กำเนิดโดราเอมอนก็ว่าได้

 

การ์ตูนโดราเอมอนมีนักวาด 2 คน พวกเขาชื่อฉายาว่า ‘ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ’ หรือในชื่อจริงก็คือ อาบิโกะ โมโตโอะ และ ฮิโรชิ ฟุจิโมโตะ ซึ่งคนหลังนี้เองที่เป็นเจ้าของวันเกิดในวันนี้

 

ทั้งฮิโรชิและอาบิโกะทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 ทั้งคู่มีผลงานการ์ตูนพ็อคเก็ต บุคส์ ร่วมกันครั้งแรกในเรื่อง Utopia: The Last World War จากนั้นก็มีผลงานตามมาอีกมากมาย อาทิ เจ้าหนูอะตอม, ผีน้อยคิวทาโร่, นินจาฮาโตริ, ปาร์แมน แต่เรื่องนี้ทำให้พวกเขากลายเป็นนักวาดการ์ตูนชื่อก้องโลก คงหนีไม่พ้นเรื่อง...โดราเอมอน

 

การ์ตูนเรื่องนี้กวาดรางวัล และยอดจำหน่ายแบบถล่มทลาย โดยเฉพาะเมื่อตอนที่มันได้ถูกนำไปสร้างเป็นการ์ตูนทางทีวีในช่วงปี พ.ศ. 2522 ในประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่มันจะถูกส่งมาฉายที่เมืองไทยในราวปี พ.ศ. 2525 และหลังจากนั้น เรื่องราวของเจ้าแมวจากโลกอนาคตกับเด็กชายผู้ไม่เอาไหนก็เข้าไปนั่งในใจของคนดูมาโดยตลอด

 

แม้วันนี้จะเป็นวันคล้ายวันเกิดของ ฮิโรชิ ฟุจิโมโตะ หรือ ‘ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ’ นามปากกาที่เขาใช้หลังจากแยกกับอาบิโกะแล้ว ทว่าในความเป็นจริง ฮิโรชิเสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2539 แต่หากว่าเขายังมีชีวิตอยู่ วันนี้จะมีอายุครบ 86 ปีพอดิบพอดี และเหนือสิ่งอื่นใด การ์ตูนโดราเอมอนของเขา ยังคงครองความเป็นการ์ตูนอมตะในใจของผู้คนไม่เสื่อมคลาย

 

 

 

ชาวนาไทยได้เฮ! นายกฯ ลั่น “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างล่าง” อัดฉีดเงินประกันรายได้อีก 2.87 ล้านบาท

ชาวนาไทยเตรียมเฮอีกรอบ หลังจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/2564 รอบที่ 1 เพิ่มเติมอีก 28,711.29 ล้านบาท

จากเดิมก่อนหน้านี้ ทางคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเบื้องต้น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 จำนวน 18,096.06 ล้านบาท รวมเป็น 46,807.35 ล้านบาท

พร้อมมอบหมายธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกระทรวงพาณิชย์ จัดทำรายละเอียดโครงการฯ และงบประมาณให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561

และให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจสอบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปริมาณผลผลิต ประมาณการณ์วงเงินที่ใช้ เพื่อให้การจ่ายเงินถูกต้องครบถ้วน

โดยนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานบอร์ด นบข. ยืนยันรัฐบาลพร้อมดูแลคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร กำชับทุกฝ่ายให้ช่วยกันดูแล ให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส สุจริต และสามารถตรวจสอบได้ และต้องส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวอย่างเป็นระบบ ให้ไทยมีพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ ล่าสุดทาง ธ.ก.ส. เริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2563/64 ตามนโยบายรัฐบาล ในอัตราไร่ละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาทต่อครัวเรือน วงเงินกว่า 28,000 ล้านบาท เข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงแล้ววันนี้ (1 ธันวาคม พ.ศ.2563) จำนวนกว่า 400,000 ครัวเรือน หรือคิดเป็นจำนวนเงินกว่า 1,600 ล้านบาท

''PT LPG'' แจกคูปองส่วนลดเติมก๊าซ 1,100 บาท ประคองต้นทุนคนขับแท็กซี่ 10,000 คัน

ค่อย ๆ ทยอยออกมาเรื่อย ๆ สำหรับนโยบายภาครัฐ ในการช่วยเหลือประชาชนแต่ละกลุ่มผ่านมาตรการต่าง ๆ กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ ก็เป็นอีกกลุ่มที่ถึงคิวในการช่วยเหลือจากภาครัฐ

เพื่อประคองต้นทุนในการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตผู้ขับ ผ่านโครงการ ''PT LPG เพื่อแท็กซี่ สู้วิกฤต'' โดยมี ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดโครงการ

สำหรับโครงการนี้ "สุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอลิมปัส ออยล์ จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ "PTG" เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ได้จัดงบประมาณอยู่ที่ 22 ล้านบาท เดินหน้าจัดโครงการส่งมอบความช่วยเหลือลดต้นทุนในการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตผู้ขับรถแท็กซี่ต่อเนื่อง ภายใต้ชื่อ "PT LPG เพื่อแท็กซี่ สู้วิกฤต" โดยมอบคูปองส่วนลดมูลค่ารวม 1,100 บาท สามารถใช้เป็นส่วนลดต้นทุนเชื้อเพลิงแก๊ส,น้ำมัน,ค่าน้ำมันเครื่องยนต์,ค่าก๊าซหุงต้ม เป็นต้น"

โครงการดังกล่าว ทางบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายผู้ขับขี่แท็กซี่เข้าร่วมกิจกรรมอยู่ที่ 10,000 คัน โดยจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2563 - 1 มกราคม พ.ศ.2564 เฉพาะวันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 8.00 – 17.00 น. สามารถเข้าไปขอรับคูปอง ณ สถานีบริการ LPG ของ PT ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลจำนวน 50 สถานี

นอกจากนี้ ในส่วนของสมาชิกแม็กการ์ด (Max Card) ที่มีจำนวนกว่า 13 ล้านราย เมื่อร่วมใช้บริการแท็กซี่ที่มีสัญลักษณ์ PT Taxi Rewards จะได้รับ 20 คะแนน

ส่วนลูกค้าใหม่ที่สมัครสมาชิกผ่านคิวอาร์โค้ดในรถแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการสำเร็จจะได้รับคะแนน 100 คะแนน สะสมเพื่อใช้แลกเป็นส่วนลดสินค้าและบริการต่างๆ ของบริษัทฯได้ และจะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย - เพิ่มรายได้แก่แท็กซี่ได้เช่นกัน

"ชุดนักเรียน" เสรีภาพบนตัวหนู ๆ

หลาย ๆ คนที่เรียนในประเทศไทยเรา คงผ่านการใส่ชุดนักเรียนกันมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยไหน และชุดนักเรียนนี่แหละ ที่มักจะถูกบ่งบอกให้เห็นถึงสถานะว่าเขาเหล่านั้นเป็น "นักเรียน" จริง ๆ

แต่พอยุคสมัยเปลี่ยน อะไร ๆ ก็เปลี่ยนเด็กรุ่นใหม่มองว่าการใส่ชุดนักเรียนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรไปกว่าการเรียนรู้ และมองว่าการใส่ชุดนักเรียนดูจะเหมือนเป็นการตีกรอบให้กับพวกเขาเสียมากกว่า

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563 กลุ่ม "ภาคีนักเรียนKKC" ได้ชักชวนให้นักเรียนแต่งไปรเวทไปโรงเรียน พร้อมทั้งตั้งคำถามเกี่ยวกับเครื่องแบบนักเรียนที่พวกเขาสวมใส่ว่า...

หากใส่ชุดไปรเวทไปแล้ว ครูจะไม่ให้เข้าเรียน เพียงเพราะไม่ได้ใส่เครื่องแบบ? ถ้าหากเป็นเช่นนั้นสุดท้ายแล้วนักเรียนทั้งหลายไปเรียนเพื่ออะไรกันหากสิ่งที่ครูและผู้ใหญ่ให้ความสนใจมากกว่าการเรียนคือเครื่องแบบนักเรียน?

และถ้าหากนักเรียนไม่มีเงินมากพอจะซื้อชุดนักเรียน = ไม่มีสิทธิเข้าเรียนหรอ?

ยิ่งไปกว่านั้นประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ คือ หากใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียนจะเพิ่มความเหลื่อมล้ำจริงหรือไม่?

จากการตั้งคำถามเหล่านี้ The States Times ก็เลยไปหาคำตอบ จากมุมมองของนักเรียนหลาย ๆ แห่ง ทั้งที่อยู่โรงเรียนที่เปิดโอกาสให้แต่งชุดไปรเวทไปเรียน และไม่ได้ให้ใส่ชุดไปรเวท

ผลปรากฎว่า ส่วนใหญ่มองว่าการใส่ชุดไปรเวทไปเรียนไม่ใช่เรื่องผิด หรือจะทำให้ตั้งใจและเรียนรู้ได้น้อยลง และก็ไม่เห็นด้วยกับการบอยคอตของผู้ใหญ่ที่พยายามมองว่าการไม่ใส่ชุดนักเรียนเป็นเรื่องที่ผิด

แน่นอนว่า ในมุมของผู้ใหญ่อาจจะมีเหตุผลที่ว่า ชุดนักเรียนมีไว้เพื่อความเป็นระเบียบ ทำให้เกิดการแยกแยะได้ และช่วยป้องกันปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ

แต่พวกเขาก็มองว่า ชุดนักเรียนก็เป็นเหรียญที่มีสองด้านด้านหนึ่งอาจจะเหมือนที่ผู้ใหญ่ว่ามา แต่อีกด้านหนึ่งนั้นชุดนักเรียนกลายเป็นเครื่องแบบที่ริดรอนเสรีภาพในการแต่งตัวของเหล่านักเรียนไปซะเฉย ๆ

เมื่อต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลของตัวเองไม่ว่าจะมุมเด็กหรือมุมผู้ใหญ่ แต่ดูเหมือนหนึ่งในคำตอบของคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ชัด ๆ นั่นก็คือ...ชุดนักเรียนจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้หรือไม่? หลายคนก็ยังแอบเกาหัว!!

เขาว่า 'คนไทย' มีเงินใช้แบบ 'เดือนชนเดือน'

ใครว่า ก็ไม่รู้แหละ!!

แต่จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง 'สถานการณ์ทางการเงินของคนไทย ในปี 2563' โดยกรุงเทพโพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ พบว่า...

กว่าครึ่งหนึ่งของไทยตอนนี้ ไม่มีเงินออม ต้องใช้จ่ายแบบเดือนชนเดือน เหตุเพราะสินค้ามีราคาแพงขึ้น บวกภาระหนี้สินสะสม


ที่มา: กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top