Wednesday, 11 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

อบจ.สุโขทัย ชวนเที่ยว ชมไม้งาม รับลมคลายร้อนในทะเลหลวง

"ดอกเสลา" ม่วงขาวพราวสีสัน สวยทั้งวันบานพลิ้วลมไสว "กัลปพฤกษ์"ชมพูอ่อนเย้ายวนใจ "เหลืองปรีดียาธร" สดใสรับอรุณ มาเช็คอิน ถ่ายรูป ดอกไม้บานรับลมร้อน ที่บริเวณแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ ทุ่งทะเลหลวงสุโขทัย

เกาะกลางรูปหัวใจ เป็นที่รู้จักกันคือบริเวณทุ่งทะเลหลวง ตั้งอยู่ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.สุโขทัย เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ชมธรรมชาติ และเก็บน้ำขนากกลาง  “แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ” หรือเรียกโดยทั่วไปว่า “เกาะรูปหัวใจ” พื้นที่แห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางทุ่งทะเลหลวง มีเขตติดต่อกันถึง 3 ตำบล ต.ปากแคว ต.บ้านกล้วย ต.ธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจแห่งนี้ ได้เกิดจากแนวคิดโครงการแก้มลิง ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย โดยได้เริ่มทำโครงการสร้างแหล่งเก็บน้ำขึ้น ในปี พ.ศ. 2545 โดยใช้บริเวณทะเลหลวงซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำในอดีต โดยได้มีการขุดลอกพื้นที่และขุดคลองเผื่อผันน้ำเข้ากักเก็บไว้ในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ เเละได้มีการออกแบบให้เป็นรูปหัวใจ

จนถึงปัจจุบันนี้ โครงการแก้มลิงทุ่งทะเลหลวง และแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ ซึ่งมีนายมนู พุกประเสริฐ นายกอบจ. ได้ส่งเสริมให้ “เกาะกลางรูปหัวใจ” ทุ่งทะเลหลวงแห่งนี้ เป็นสถานที่พักผ่อน สถานที่ท่องเที่ยว แขกบ้านต่างเมือง และส่งเสริมให้เป็นที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสุโขทัย ในเชิงสุขภาพ ความสดชื่นเบิกบานใจเชิงธรรมชาติร่มรื่น  สร้างความสุขให้กับผู้มาเยือนและคนในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย มีแหล่งท่องเที่ยว มีที่พักผ่อน มีสวนสุขภาพที่ทำให้หายเหนื่อยจากการทำงาน และสภาวะต่าง ๆ มาเติมพลังและเพิ่มความสุขยังทุ่งทะเลหลวงแห่งนี้

ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุโขทัยไปแล้ว โดยบริเวณพื้นที่บนเกาะนั้น ได้มีการปลูกต้นไม้เพื่อความร่มรื่น เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว และผู้คนที่มาออกกำลังกาย เเละยังได้ถูกใช้เป็นพื้นที่ในการจัดงานในวันสำคัญต่าง ๆ อาทิ วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา นอกจากเป็นที่ตั้งขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัยแล้ว ยังมีส่วนราชการสำคัญ ๆ หลายหน่วยงานได้เข้ามาทำการปลูกสร้างและจัดเป็นส่วนราชการในอนาคตต่อไป เพื่อความคล่องตัวและขยายพื้นที่ของจังหวัดสุโขทัยให้กว้างและคล่องตัวมากขึ้น  และสร้างอาคารสำคัญเช่น สนามกีฬา สนามฟุตบอลสโมสรสุโขทัยเอฟซีที่โด่งดัง และสวนสาธารณะไว้ในพื้นที่โดยรอบ ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญแห่งใหม่ของจังหวัดสุโขทัยในอนาคตข้างหน้า

ลักษณะเด่นแก้มลิง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ ทะเลหลวงเป็นแหล่งเก็บน้ำ โอบล้อมด้วยทิวเขาหลวงมีเกาะกลางเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ เป็นความงดงามเพียงหนึ่งเดียวในโลก โดดเด่นจากการสร้างสรรค์จากน้ำ  อยากให้นักที่องเที่ยวทั้งต่างจังหวัด และในพื้นที่ เดินทางมาพักผ่อน  คลายร้อน รับโอโซนของของธรรมชาติ และดอกไม่เด่น ๆ สวยงาม ที่ผลิดอก ออกใบ สวยงามสะพรั่งขณะนี้  มีทั้ง "ดอกเสลา" ม่วงขาวพราวสีสัน สวยทั้งวันบานพลิ้วลมไสว "กัลปพฤกษ์" ชมพูอ่อนเย้ายวนใจ "เหลืองปรีดียาธร" สดใสรับอรุณ มาเช็คอิน ถ่ายรูป ดอกไม้บานรับลมร้อน ที่บริเวณแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ ทุ่งทะเลหลวงสุโขทัย


ภาพ/ข่าว  สุริยา ด้วงมา สุโขทัย

ผู้ว่าฯ ระยอง เปิดงานมหกรรมรวมพลังขับเคลื่อนจังหวัด น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยพลัง “บวร”

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 เวลา 18.00 น. ที่วัดละหารไร่ อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมรวมพลังขับเคลื่อนจังหวัดคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยพลัง “บวร”

จังหวัดระยอง มีพระเทพสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดระยอง มหานิกาย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระราชปริยัติโมลี เจ้าคณะจังหวัดระยอง ธรรมยุตนิกาย นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายวรวุฒิ ด่านสมพงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดระยอง นายดาระใน ยี่ภู่ นายอำเภอบ้านค่าย หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ภายใต้วิถีนิวนอร์มอล  ภายในงานมีกิจกรรมแสง สี เสียง สื่อผสม การแสดงวัฒนธรรม การออกร้านจำหน่ายอาหารและของดีทั้ง 8 อำเภอ การแสดงดนตรีแบบผสมผสานวงกะหลุกแบนด์ คิดบวกสิบป์ และการแสดงจากกุ้ง สุธิราช วงศ์เทวัญ 

นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการปลูกฝังวัฒนธรรม คุณธรรม สร้างค่านิยมจิตสำนึกที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกลไก “ประชารัฐ” ให้ครอบคลุมมิติด้านศาสนา ด้านปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และวิถีวัฒนธรรมไทย โดยเน้นสร้างความเข้มแข็งจากภายในและใช้คุณธรรมในการพัฒนาสร้างคนไทยและสังคมคุณธรรมที่เกื้อกูลและแบ่งปัน 

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยองมีอำเภอคุณธรรม 8 อำเภอ และชุมชนคุณธรรม 170 แห่ง โดยการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมชุมชนคุณธรรม เป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมด้านหลักธรรม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วัฒนธรรมไทย ส่งเสริมให้วัด ศาสนสถาน ชุมชน และสถานศึกษา เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมด้านคุณธรรม รวมทั้งน้อมนำหลักธรรมทางศาสนา ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติปรับใช้ในชุมชนให้มีรายได้ ทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชน ทุนทางวัฒนธรรม มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภายหลังจากสถานการณ์โควิด19 ในจังหวัดระยองคลี่คลาย


ภาพ/ข่าว : เดชา สุวรรณสาร ทีมข่าวภาคตะวันออก

ผู้ว่าฯ ปู คืนสู่สาคร คนแห่ต้อนรับเนืองแน่น ด้านพ่อเมืองบอกรักและคิดถึงที่สุดสมุรสาคร อีก 1 เดือนพร้อมสู้ต่อ

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 19 มีนาคม 2564  ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์  แพทย์ผู้ให้การดูแลฯ ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นางชุติพร วิจิตร์แสงศรี (ภริยา) นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร และ นางสาววีราพร หรือ น้องน้ำหวาน วิจิตร์แสงศรี (บุตรสาว) เพื่อพบปะกับ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนที่มาร่วมกันต้อนรับอย่างเนืองแน่น

โดยเมื่อขบวนรถของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครมาถึง คนที่มาต้อนรับก็ปรบมือส่งเสียงดีใจ ที่ท่านเดินทางกลับมาที่สมุทรสาครด้วยใบหน้าที่สดใส มีรอยยิ้มและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น แม้จะยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดและครอบครัว ก็ได้โบกมือทักทายทุกคน พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณที่ทุกคนรักและมารอต้อนรับ ก่อนที่จะเข้าห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ฯ เพื่อพบปะกับผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ประมาณ 30 คน

สำหรับในห้องประชุมหลังจากที่ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ ได้เล่าให้ฟังถึงอาการท่านผู้ว่าฯ และแนวทางการรักษา ตลอดจนกำลังใจที่มีส่วนสำคัญทำให้ท่านผู้ว่าฯ ฟื้นคืนร่างกายกลับมาได้โดยเร็วแล้วนั้น ทางนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้กล่าวถึงความรู้สึกตั้งแต่เริ่มแรกที่รู้ว่าติดเชื้อโควิด – 19 จนกระทั่งนอนอยู่ในโรงพยาบาลแบบไม่รู้สึกตัว 43 วัน และต้องพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาลศิริราชทั้งหมด 82 วัน

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ตนเองได้รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ผ่านการเล่าเรื่องจากแพทย์ผู้ให้การดูแลรักษามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของโรงพยาบาลสนามที่ตนมุ่งหวังและเชื่อมั่นว่าจะเป็นแนวทางในการป้องกันแก้ไขสถานการณ์โควิดให้ลุล่วงไปได้อย่างแน่นอน จนกระทั่งเมื่อตนเองรู้สึกตัวและสามารถขยับร่างกายได้แล้วนั้น ก็ได้อ่านข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับโควิดที่สมุทรสาครมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้รับรู้ความเคลื่อนไหว ความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น น้ำใจจากทุกภาคส่วนที่หลั่งไหลสู่สมุทราสคร และความรัก ความสามัคคีของคนสมุทรสาคร ตลอดจนกำลังใจที่ส่งต่อมาให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครอย่างล้นหลาม

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะบอกกับคนสมุทรสาครคือ “รักและคิดถึงสมุทรสาครมากที่สุด” แม้ตนเองจะไม่ใช่คนสมุทรสาคร แต่การที่ได้มาทำงานที่นี่กว่า 1 ปี ก็รักและคิดถึงที่นี่มากแม้ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านก็เสมือนบ้านของตนเอง โดยสถานการณ์โควิด – 19 วันนี้ เป็นบททดสอบที่สำคัญยิ่ง ซึ่งคนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในการควบคุมสถานการณ์ ทั้งนี้ตนก็เชื่อว่าการระบาดครั้งนี้จะต้องมีจุดจบ สมุทรสาครจะต้องสามารถกลับขึ้นมายืนได้อีกครั้ง ด้วยความร่วมมือของคนสมุทรสาคร ที่จะทำให้เราสามารถต่อสู้ชนะโควิดได้ในเร็ววันนี้ ส่วนตัวนั้นขอเวลาอีกประมาณ 1 เดือนในการพักฟื้นร่างกายตามคำสั่งของแพทย์ หลังจากนั้นจะกลับมาทำงานรับใช้พี่น้องชาวสมุทรสาคร 

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยังบอกทิ้งท้ายด้วยอารมณ์แห่งความสุขและเรียกรอยยิ้มด้วยว่า ถ้าวันที่หายเป็นปกติสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว คิดว่าจะลงพื้นที่ไหนเป็นจุดแรกนั้น คงตอบไม่ได้ เพราะทุกพื้นที่สำคัญเหมือนกันหมด หากจะระบุไปที่ใดที่หนึ่งกลัวจะทำให้พื้นที่อื่นเกิดความน้อยใจ เพราะการทำงานเลือกพื้นที่ไม่ได้ คงต้องดูความเหมาะสมหรือความจำเป็นในขณะนั้น อีกอย่างหนึ่งคือ บอกไม่ได้ตอนนี้ เพราะกลัวภริยาจะรู้ ห้ามไม่ให้ไปทำงาน

ทั้งนี้หลังจากที่ใช้เวลาในห้องประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ก็ได้มีการรับประทานอาหารร่วมกันเป็นมื้อแรกที่สมุทรสาคร โดยมีเมนูโปรดของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครคือ ข้าวผัดปู ต้มส้มปลากระบอก ปลาหมึกผัดกะปิ กุ้งซอสมะขาม ลอดช่องวัดเจษ และลำไยพวงทอง ส่วนการรับประทานอาหารนั้นก็จัดเป็นเซ็ตสำหรับแต่ละท่าน มีการเว้นระยะห่างตามมาตรการ New Normal


ภาพ/ข่าว  ชูชาต แดพยนต์ สมุทรสาคร

รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันน้ำโลก 22 มี.ค. 64 ขอให้ประชาชนทุกพื้นที่ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า เลี่ยงปัญหาภัยแล้ง เพื่ออนาคตมีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำกุดเมืองฮาม พร้อมระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์กุดเมืองฮาม ต.กุดเมืองฮาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ นายวราวุธ   ศิลปะอาชา  รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์  ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ คณะผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมาตรวจราชการโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์

ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 5  ได้รับงบประมาณตามแผนปี พ.ศ. 2560 ดำเนินโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำกุดเมืองฮาม โดยการขุดลอกพื้นที่ความยาวรวม 3,921.38  เมตร เพื่อเป็นแก้มลิงไว้กักเก็บน้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำ ในการบรรเทาความเดือดร้อนด้านการอุปโภค-บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร โดยใช้งบประมาณ 23,900,000 บาท สำหรับประโยชน์ที่ประชาชนได้รับคือมีปริมาณความจุเก็บกักน้ำเพิ่มจำนวน 6,648,792 ลบ.ม. พื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์ 800 ไร่  ครัวเรือนได้ประโยชน์ 200 ครัวเรือน โดยมีนายวิชัย    ตั้งคำเจริญ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ และนายสุพร  ธีรโรจน์ชาลี  นายอำเภอยางชุมน้อย  พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ประชาชนชาวบ้านกุดเมืองฮาม มาให้การต้อนรับ

นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์นี้เป็นการดำเนินการเพื่อเพิ่มศักยภาพให้สามารถนำน้ำจากแหล่งน้ำดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ได้ และเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีลักษณะโครงการดังนี้ ติดตั้งถังไฟเบอร์กลาส ขนาดความจุ 100,000ลิตร จำนวน 3 ถัง แผงเซลล์แสงอาทิตย์พร้อมโครงสร้าง ขนาดแผงละ 330 วัตต์ จำนวน 96  แผงชุดเครื่องสูบน้ำ สามารถสูบน้ำได้ 60 ลบ.ม/ชม ระบบกระจายน้ำด้วยท่อ HDPE ความยาว 2,430  เมตร งบประมาณ 16,998,100  บาท  ผลงานก่อสร้างปัจจุบันร้อยละ 55.09 เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ ประชาชนก็จะได้รับประโยชน์จากการทำเกษตร จำนวน 1,225 ไร่ ครัวเรือนได้รับประโยชน์ 418  ครัวเรือน และยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จากการเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อย เช่น พริก และหอมแดง เป็นต้น

นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 22 มี.ค. 64 ซึ่งเป็นวันน้ำโลก ตนเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดีเพราะมีน้ำต้นทุนที่เรียกว่าน้ำฝนเพียงพอ แต่วันนี้เราคงต้องมาตระหนักในเรื่องของน้ำ จะต้องใช้น้ำทุกหยดอย่างมีคุณค่า และรักษาคุณภาพของลำน้ำที่เรามีอยู่นั้นให้มีคุณภาพสะอาดมีความใส  ซึ่งในวันนี้ทางรัฐบาลกำลังร่วมกันรณรงค์ทำอย่างไรที่จะให้น้ำเข้าถึงพี่น้องประชาชนมากที่สุด ในขณะเดียวกันพี่น้องประชาชนก็จะต้องร่วมไม้ร่วมมือกัน ในการเก็บน้ำฝนลงดิน ในการทำน้ำใต้ดิน ซึ่งตรงนี้จะเป็นประโยชน์กับคนไทยของเรา ขอฝากพี่น้องประชาชนชาวไทยในเรื่องนี้

นายวราวุธ ศิลปะอาชา  รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเห็นโครงการที่มีประโยชน์ และพี่น้องได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมุ่งมั่นในการบริหารจัดการน้ำ อันเป็นสิ่งที่ทำให้ชุมชนของเราพัฒนาเจริญอย่างยั่งยืน โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ เป็นโครงการที่กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการต่อยอดจากโครงการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งน้ำกุดเมืองฮาม ซึ่งแต่เดิมมีปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง และน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก จึงได้พัฒนาเป็นพื้นที่แก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำ ซึ่งสามารถลดผลกระทบจากภาวะน้ำแล้ง น้ำท่วมแต่ประชาชนในพื้นที่ยังไม่สามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างสะดวก จึงต่อยอดดำเนินโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้สามารถนำน้ำจากแหล่งน้ำมาใช้ประโยชน์ได้ 

รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 22 มี.ค. 64  ซึ่งเป็นวันน้ำโลก ตนขอฝากถึงประชาชนชาวไทยทั่วประเทศว่า  น้ำทุกหยดนับวันจะมีค่ามากขึ้นและหายากมากขึ้น ทรัพยากรน้ำเป็นทรัพยากรที่มีความหมายต่อชีวิตมนุษย์มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอุปโภคบริโภค เพื่อการเกษตร การทำอุตสาหกรรม และแม้แต่การรักษาระบบนิเวศน์ ดังนั้น เมื่อเราใช้น้ำแล้ว การอนุรักษ์น้ำ การเพิ่มเติมน้ำเข้าไปในใต้ดิน หรือแม้แต่โครงการธนาคารน้ำใต้ดินเข้าไปเป็นสิ่งที่มีความสำคัญพอ ๆ กัน  ตนจึงขอฝากพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ว่า ขอให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและใช้น้ำอย่างมีคุ้มค่า และให้ช่วยกันปลูกป่า เพื่อว่าในอนาคตเราจะได้มีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์  จะได้ไม่ต้องเจอปัญหาภัยแล้งอย่างที่เราเคยเจอมาอย่างในอดีตที่ผ่านมา


ข่าว/ภาพ : บุญทัน ธุศรีวรรณ  ศรีสะเกษ

เริ่มแล้ว "งานกระบี่นาคาเฟส" สัมผัสสายลมเสียงเพลงอิ่มอร่อยอาหารซีฟู๊ดหาดคลองม่วง บรรยากาศคึกคัก คาดเงินสะพัด 10 ล้าน

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 เวลา 19.30 นาฬิกา นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ร่วมเปิดการจัดงานกระบี่นาคาเฟส 2021 ครั้งที่ 7 ชวนชม เชียร์ ชิม ช๊อป ชิว กับบรรยากาศชายทะเล ภายใต้วิถีนิวนอมอลและมาตรฐานเอสเฮชเอ

โดยสร้างความสุขในบรรยากาศทะเล เสียงดนตรี หาดทราย สายลม ชมทะเล ฟังเสียงคลื่น รื่นเริงเสียงดนตรี ชิวๆรายล้อมรอบกายด้วยอ้อมกอดแห่งขุนเขาและทะเลอันดามัน วันที่ 19 – 21 มีนาคม 2564 เวลา 17.00 – 24.00 นาฬิกา ที่ชายหาดคลองม่วง ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดกระบี่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ และองค์การบริหารส่วนตำบลหนองทะเล ตลอดจนภาคีเครือข่ายธุรกิจการท่องเที่ยวจัดขึ้น

งานดังกล่าว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจังหวัดกระบี่ ที่ได้พัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงดนตรีผสมผสานกับความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ ให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจ มีประสบการณ์ใหม่ที่เหมาะกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน เพื่อเป็นการกระตุ้นการเดินทางและเพิ่มการใช้จ่าย ในการสร้างงานสร้างรายได้สู่จังหวัดกระบี่  และช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 คลี่คลายลง

ให้ชาวกระบี่และนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสสายลมเสียงเพลงแห่งท้องทะเล ฟังบทเพราะๆสนุกสนานกับบรรยากาศยามเย็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า และค่ำคืนแห่งดวงดาวเคล้าคลอไปกับเสียงเกลียวคลื่น พร้อมอิ่มอหร่อยกับสุดยอดเมนูซีฟู๊ดอาหารจากโรงแรมระดับ 4 – 5 ดาวที่มาร่วมออกบูธ  ทั้งบูธสินค้าโอท๊อป และอาหารพื้นบ้านจากทะเล สด ๆ รวมถึงสินค้าชุมชนที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกระบี่ ที่ปลอดโฟมช่วยลดปริมาณขยะ รักษาสิ่งแวดล้อมและลดมลพิษทางอากาศ

ส่วนกิจกรรมภาคกลางวัน การเล่นกีฬาทางน้ำเพ็ตเดิ้ลบอร์ด การสอนวิธีเล่นเซิฟบอร์ด  การออกร้านของผู้ประกอบการโรงแรมและร้านค้าชุมชน ส่วนภาคกลางคืนพบกับมินิคอนเสิร์ตและสุดยอดศิลปินนักร้องคุณภาพตลอดทั้ง 3 คืน เช่นวงดนตรีจากวงฉ่อย วงดิอันดามัน ดีเจสเตย์โกล การแสดงกระบองไฟ มินิคอนเสิร์ตป๊อป ปองกูล อะตอม ชนะกันต์ อินดิโก้ วัชราวลี ลิปตา เบน ชลาทิศและมาเรียมบีไฟว์  ส้ม มารี เดอะทอย และมินิคอนเสิร์ตบอยพีชเมคเกอร์

ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานจังหวัดกระบี่ คาดว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงาน 3 วัน 20,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวไทย 15,000 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 500 คน สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท....


ภาพ/ข่าว : ณัฏฐพงษ์  ศรีปล้อง

ผู้ว่าฯสุราษฎร์ ชวนเที่ยวสัมผัสอากาศที่ดีที่สุด ติด 1 ใน 5 จังหวัดของประเทศ 2 ปีต่อเนื่อง คาดดมีนักท่องเที่ยวสงกรานต์คึกคัก ชมทะเลใส รับอากาศบริสุทธิ์

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า กรณีศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) รายงานคุณภาพอากาศ 5 จังหวัดอากาศดีที่สุดในประเทศไทยปี 2563 โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีติดอันดับเป็น 1 ใน 5 จังหวัดร่วมกับจังหวัดสตูล ยะลา ภูเก็ตและสงขลา เนื่องจากมีค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM2.5 ต่ำที่สุด และมลพิษอากาศอื่นๆอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ซึ่งเกิดจากความร่วมมืออย่างดียิ่งของประชาชนไม่สร้างมลพิษในพื้นที่จนส่งผลดีและสร้างความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นอย่างมาก

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็น 1 ใน 5 จังหวัดของประเทศที่อากาศบริสุทธิ์ปราศจากมลพิษทางอากาศ PM2.5 ซึ่งเป็นจังหวัดที่อากาศดี 2 ปีติดต่อกัน แสดงถึงคุณภาพอากาศที่เหมาะสมท่องเที่ยวได้ทั้งปี และระยะนี้แหล่งท่องเที่ยวทุกแห่งอากาศดีมาก โดยเฉพาะเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะแตน และเกาะมัดสุม(เกาะที่มีสุกร) ทะเลใสสวยงามมาก ส่วนบนฝั่งแผ่นดิน เช่น อ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา อุทยานแห่งชาติเขาสก บ้านถ้ำผึ้ง ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด คลองน้ำใส ฯลฯมีน้ำใสสวยงาม

“ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวหลายวัน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย เดินทางมาพักผ่อนท่องเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจำนวนมากและได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้วย ” นายวิชวุทย์ กล่าว

บรรยากาศสุดฟินที่เพชรบูรณ์ กับสีสัน ช้อปเพลิน เดิน กิน ที่ถิ่นท้ายดง “TAIDONG WALKING STREET”

นายนาวิน สังฆมาตร นายอำเภอวังโป่ง เป็นประธานเปิด “TAIDONG WALKING STREET”( ถนนคนเดินท้ายดง ) ช้อปเพลิน เดิน กิน ที่ถิ่นท้ายดง ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในแนวคิดในการพัฒนาชุมชน ให้เป็นที่รู้จักและการกำหนดให้แหล่งเรียนรู้ของตำบล เป็นแหล่งตลาดใหม่

โดยองค์การบริหารส่วนตำบลท้ายดง ให้ความสำคัญของเด็กและเยาวชนพร้อมด้วยผู้สูงอายุในสังคมปัจจุบัน โดยการพยายามหาแนวทางในการขับเคลื่อนกลุ่มของสภาเด็กเยาวชนตำบลท้ายดง และโรงเรียนสร้างสุขผู้สูงวัยตำบลท้ายดง จึงจัดกิจกรรม “TAIDONG WALKING STREET”( ถนนคนเดินท้ายดง ) ช้อปเพลิน เดิน กิน ที่ถิ่นท้ายดง โดยมีนางสาวฉัตรนภา เมืองแป้น นายก อบต.ท้ายดง เป็นผู้กล่าวรายงาน  เพื่อเป็นการผลักดันยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวของตำบลท้ายดง และสนับสนุนการแสดงกิจกรรม สืบทอดศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและการแสดงของกลุ่มเด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุ ภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน

นอกจากนี้ ภายในกิจกรรม ก็ได้มีอีกหนึ่งสีสันและไฮไลท์เด็ด ให้ผู้ร่วมงานและนักท่องเที่ยวได้รับชม โดยมีการแสดงของสภาเด็กและเยาวชนตำบลท้ายดง ที่ออกมาโชว์สเต๊ปการเต้นเข้าจังหวะ ด้วยท่วงท่าที่หลากหลาย น่ารัก สมวัย สร้างความสนุกสนาน และตามด้วยการแสดงที่อ่อนช้อย ของโรงเรียนสร้างสุขผู้สูงวัยตำบลท้ายดง ที่ต่างพร้อมใจกันแต่งกายด้วยผ้าซิ่น สวมใส่เสื้อสีชมพู มีผ้าขาวม้าพาดไหล่ สะพายกระติ๊บข้าวเหนียว ออกมาโชว์ในชุด เซิ้งกระติ๊บอย่างพร้อมเพียง งดงาม

และนอกจากนั้น ยังมีร้านขายอาหาร ร้านขายของฝาก ของที่ระลึก ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านเสริมความงาม รวมทั้งกิจกรรมกีฬาและสันทนาการต่างๆ มาคอยให้บริการอย่างครบครัว และที่จะขาดไม่ได้เลยทีเดียว เมื่อใครได้มาถึงที่นี่แล้ว จะต้องมาร่วมเช็คอิน ถ่ายรูปกับมุมเซลฟี่ต่างๆ ที่ทางถนนคนเดินท้ายดง ได้จัดแต่งไว้ให้อย่างหลากหลาย โดยจะเปิดให้บริการ ในทุกวันพฤหัสบดี เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป จนถึงช่วงเวลา 19.00 น.


ภาพ/ข่าว : เดชา มลามาตย์ และ ยุทธ ศรีทองสุข

ธุรกิจพี่เลี้ยงสัตว์กำลังมาแรงในประเทศจีนโดยบางคนสามารถทำรายได้สูงถึง 1,000 หยวนหรือ 4,700 บาทต่อวันเลยทีเดียว

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ได้รายงานว่า อีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังมาแรงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บรรดาทาสหมา ทาสแมวจะต้องตาลุกวาวไปตาม ๆ กัน โดยช่วงนี้เจ้าของสัตว์บางคนไม่สามารถเดินทางกลับไปหาสัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้ รวมไปถึงลูกค้าบางคนมักจะต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจหรือแฮงเอาท์กับเพื่อนฝูง แต่ไม่อยากทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ตามลำพังธุรกิจนี้จึงเป็นทางออก

ประกอบกับทุกวันนี้การให้บริการทางออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น หลายคนหันไปพึ่งพาคนแปลกหน้าบนอินเทอร์เน็ตแทนที่จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างอย่างเพื่อนหรือครอบครัว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม (อาจจะเป็นเพราะการไหว้วาน มักสร้างความรำคาญแก่คนใกล้ชิด และการดูแลสัตว์ โดยที่ไม่ได้รัก ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย) และนั่นก็ทำให้ธุรกิจพี่เลี้ยงสัตว์ได้รับความนิยมในจีน

สำหรับธุรกิจนี้เจ้าของสัตว์และพี่เลี้ยงสัตว์ไม่ต้องพบหน้ากันโดยตรง แต่พวกเขาติดต่อกันทางออนไลน์ ก่อนที่เจ้าของจะส่งที่อยู่และมอบกุญแจบ้านให้แก่พี่เลี้ยง (ต้องใช้ความไว้ใจคนแปลกหน้าบนโลกออนไลน์มากเลยทีเดียว)

อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นงานพาร์ทไทม์ที่ค่อนข้างสะดวกสบายและรายได้ดี เพียงแค่สละเวลาครั้งละประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อให้อาหาร เล่นกับน้องหมาน้องแมว เก็บขยะนิดหน่อย ก็สามารถคิดค่าบริการได้ 30 ถึง 50 หยวนหรือ 140 ถึง 230 บาท

Ningxia พี่เลี้ยงสัตว์วัย 25 ปีในเมืองหยินชวนกล่าวว่าเธอมีลูกค้าจำนวนมากโดยส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวในเมืองใหญ่ที่ไม่ค่อยมีเวลาทำให้เธอรับงานนี้วันละกว่า 10 ออเดอร์

เช่นเดียวกับ Xiao Mei พนักงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งระบุว่าเธอรับงานในวันหยุดเพื่อหารายได้เสริม ซึ่งนอกจากจะได้เงินแล้วเธอยังบอกว่าได้มีความสุขไปกับการเล่นกับบรรดาสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ อีกด้วย

Wang Shuixiong นักวิจัยชาวจีนกล่าวว่าธุรกิจนี้เป็นผลมาจากการที่ชาวจีนรุ่นใหม่จำนวนมากมักเดินทางไปทำงานในเมืองใหญ่ ทำให้พวกเขาไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ และในปัจจุบันผู้คนมีความไว้วางใจคนแปลกหน้าบนโลกออนไลน์มากขึ้น จึงหันไปพึ่งพาคนเหล่านั้นมากกว่าคนรอบข้าง


ที่มา: https://www.posttoday.com/world/648337

ที่จังหวัดร้อยเอ็ด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินทางมาพบปะพูดคุยและร่วมหาเสียงให้กับ นายร่วมภูมิศักดิ์ พลเยี่ยม ผู้สมัครนายกเทศมนตรีโพนทอง เบอร์ 3 และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลในนามคณะก้าวหน้า

สำหรับโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับเทศบาล ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม นี้

ที่ตลาดเทศบาลโพนทอง อ.โพนทอง นายปิยบุตร ได้กล่าวตอนหนึ่งในการพบปะประชาชนว่า คณะก้าวหน้าออกแบบนโยบายโดยดูจากงบประมาณที่เทศบาลมี ใช้มันสมองของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมกับความเป็นคนพี้นที่โพนทองของ ร่วมภูมิศักดิ์ พลเยี่ยม ผู้สมัครนายกเทศมนตรี และรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชน คิดค้นออกมาเป็นนโยบายก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการและบริการสาธารณะ เศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน สิ่งแวดล้อม พัฒนาพื้นที่สาธารณะ การเดินทางเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน และส่งเสริมการบริหารงานเทศบาลที่โปร่งใสตรวจสอบได้

“นโยบายดี ๆ เพื่อเทศบาลก้าวหน้าจะเกิดขึ้นได้ต้องให้โอกาสคนใหม่ๆ เข้าไปทำงาน ผมเข้าใจดีว่าการเมืองท้องถิ่นที่ผ่านมายึดโยงกันด้วยความเป็นครอบครัว ความสนิทชิดเชื้อ พี่น้องอาจคิดว่าต้องกากบาทให้คนนั้นคนนี้ เพราะเคยช่วยเหลือมาเยอะ แต่หลักการที่ถูกต้องของการเมืองท้องถิ่น คือต้องสัมพันธ์กันด้วยสิทธิและหน้าที่ มิใช่บุญคุณที่ต้องทดแทน ใครก็ตามที่เข้าไปมีอำนาจรัฐ มีหน้าที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชน และพี่น้องมีสิทธิเรียกร้องให้เขามาทำงานให้เราแบบที่เราต้องการ ที่สำคัญที่สุดเงินที่จ้างเขามาทำงานในเทศบาลเงินที่เขาเอามาพัฒนาบ้านของเรา แท้จริงแล้วก็คือเงินภาษีของพี่น้องเอง คือทุกบาททุกสตางค์ของเราที่จับจ่ายซี้อของไป ภาษีเหล่านั้นถูกจัดสรรกลับมาเป็นงบประมาณเทศบาล” ปิยบุตร กล่าว

จากนั้นนายปิยบุตรและคณะผู้สมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล ได้ทักทายพี่น้องทั่วตลาดมีแม่ค้าพ่อค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก หลายคนบอกว่าเป็นกำลังใจให้ต่อสู้กับเผด็จการต่อไป อีกกี่สิบปีก็จะรอ ขณะที่ นายปิยบุตร บอกว่าไม่ต้องรอถึงสิบปี 28 มีนาคมนี้ เลือกผู้สมัครนายกเทศมนตรีคณะก้าวหน้า ก็ได้มันสมองของธนาธรมาทำนโยบายดี ๆ ให้พี่น้อง เห็นผลทันตา เทศบาลก้าวหน้าอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น ทั้งหมดเดินทางไปพบปะกับกลุ่มอาชีพจักรสานบ้านคำแข้ ณ ศูนย์อาชีพ บ้านคำแข้ จ.ร้อยเอ็ด “ครูสวย” ผู้ริเริ่มการฝึกอบรมงานจักรสานให้กับแม่ ๆ ในพื้นที่บ้านแข้เล่าว่า พอเกษียณอายุก็จัดอบรมฝึกอาชีพจักรสานกระเป๋ากันมาตั้งแต่ปี 2561 ใครอยากเรียนก็มาฝึกกันและตั้งขายที่หน้าศูนย์ บางครั้งมีลูกค้ามารับไปขายต่อ แต่ปัจจุบันยังไม่ได้มีช่องทางส่งสินค้าที่แน่นอน

ด้าน ร่วมภูมิศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองมีนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน โดยนำงบประมาณของเทศบาลมาจัดสรรปันส่วนให้เป็นทุนสนับสนุนกลุ่มอาชีพทุกหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 100,000 บาท เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนที่ริเริ่มมาแล้ว แต่ยังไม่มีช่องทางในการเพิ่มกำไร ขณะที่ นายปิยบุตร กล่าวเสริมทิ้งท้ายว่า การเลือกตั้ง 28 มีนาคมนี้ เรียกได้ว่าเป็นประชาธิปไตยที่กินได้อยู่หน้าบ้านของพี่น้อง หากได้นายกเทศมนตรีมีความสามารถ บริหารงบประมาณเป็นสักคนชีวิตในบ้านของพี่น้องจะเปลี่ยนไปได้ชั่วข้ามคืน จึงอยากชวนออกไปใช้สิทธิ์กันให้มาก ๆ ถ้าไม่ใช้สิทธิใช้เสียง แปลว่าปล่อยให้งบประมาณปีละหลายล้านบาท เอาไปให้ใครไม่รู้บริหาร

เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปน ยืนยันเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีน AstraZeneca ต่อให้ครบตามเป้าหมาย แม้จะมีข่าวการค้นพบอาการลิ่มเลือดอุดตันในกลุ่มผู้รับวัคซีนบางราย จนทำให้มีประเทศในสหภาพยุโรปถึง 13 ประเทศระงับการฉีดวัคซีนไปก่อนเพื่อรอการตรวจสอบ

แต่ล่าสุด หน่วยงานการแพทย์แห่งยุโรป หรือ EMA ได้ทำการตรวจสอบวัคซีนของ AstraZeneca อีกครั้งและรายงานผลว่า อาการลิ่มเลือดอุดตัน ไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน พร้อมยืนยันว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 อย่างได้ผล แต่ทั้งนี้ก็สุดแล้วแต่รัฐบาลของแต่ละประเทศสมาชิกจะพิจารณาว่าจะยุติ หรือไปต่อกับ AstraZeneca

และทางเยอรมัน, ฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปน 4 ประเทศแกนนำหลักของสหภาพยุโรปก็ตัดสินใจไปต่อกับ AstraZeneca โดย นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ฌอง คาสเทค ออกมาสนับสนุนการใช้วัคซีน AstraZeneca และกล่าวว่าตอนนี้ที่ฝรั่งเศสยังพบการแพร่ระบาดรุนแรง และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดระลอกที่ 3 ขึ้น ดังนั้นจึงควรเร่งเดินหน้าโครงการวัคซีนให้เร็วที่สุด และ ฌอง คาสเทค ก็จะเข้ารับการฉีดวัคซีน AstraZeneca ในวันศุกร์ที่ 19 มีนาคมนี้

เช่นเดียวกันกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ที่เคยมีประสบการณ์ ติด Covid-19 ในระดับรุนแรงมาแล้ว ก็ออกมารับประกันความปลอดภัยของวัคซีน AstraZenca และพร้อมที่จะรับวัคซีนเข็มแรกในเร็วๆนี้ นายบอริส จอห์นสัน ย้ำว่า ติด Covid-19 ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับ ถ้ามีวัคซีนมาแล้ว ควรรีบมาฉีดกันดีกว่า

ทางด้านองค์การอนามัยโลกก็ได้ออกแถลงการณ์ว่า วัคซีน AstraZeneca มีความปลอดภัย และมีความเสี่ยงน้อย สามารถฉีดต่อไปได้

ส่วนทางบริษัท AstraZenca แถลงว่า ตอนนี้มีประชากรในยุโรป และอังกฤษมากถึง 17 ล้านคนได้รับวัคซีนของบริษัทเรียบร้อยแล้ว มีรายงานการเกิดลิ่มเลือดอุดตันเพียง 37 เคสที่ไม่น่าจะสัมพันธ์กับผลข้างเคียงหลังได้รับวัคซีน

AstraZenca เป็นหนึ่งในวัคซีน Covid-19 ที่ใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก รองจากวัคซีน Pfizer เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยอดจองวัคซีนยังคงล้นหลาม และหนึ่งในจุดมุ่งหมายของทีมพัฒนาวัคซีน AstraZeneca คือการสร้างวัคซีนที่ประชากรทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะด้วยเรื่องราคา การผลิต การขนส่งและการใช้งาน ให้เรียบง่าย และมีประสิทธิภาพสูงนั่นเอง


อ้างอิง:

https://www.bbc.com/news/world-europe-56440139

https://www.bbc.com/news/uk-56452412

https://timesofindia.indiatimes.com/world/europe/french-pm-jean-castex-says-he-plans-to-get-an-astrazeneca-covid-19-vaccine/articleshow/81539624.cms

https://www.newsweek.com/boris-johnson-jean-castex-signal-support-astrazeneca-vaccine-getting-shots-amid-controversy-1577210


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top