Thursday, 19 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

ระวังเสียตังฟรี! โฆษกรัฐบาล แนะประชาชน ตรวจสอบข้อมูล ก่อนบินเข้าประเทศสมาชิกอียู - สหรัฐฯ หวังได้ฉีดวัคซีน ชี้ ข้อปฏิบัติแต่ละประเทศต่างกัน 

เมื่อวันที่9 พ.ค.นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางเข้าประเทศในสหภาพยุโรป (อียู)ที่ผ่อนคลายมาตรการเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว ว่า ประเทศสมาชิกอียูแต่ละประเทศมีอำนาจในการประกาศกฎระเบียบเกี่ยวกับการเข้าเมืองและมาตรการด้านสาธารณสุขของตนเอง โดยมี 13 ประเทศสมาชิกที่สามารถเดินทางจากประเทศไทย โดยไม่มีเงื่อนไข ได้แก่ โปรตุเกส สเปน อิตาลี เยอรมนี โครเอเชีย โปแลนด์ เอสโตเนีย สวีเดน ฟินแลนด์ บัลแกเรีย กรีซ เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ 

ขณะที่ อีก 14 ประเทศที่มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดตามที่ประเทศปลายทางกำหนด ได้แก่ ฝรั่งเศส เช็ก ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ลัตเวีย สโลวีเนีย สโลวาเกีย ฮังการี ลิทัวเนีย โรมาเนีย ออสเตรีย ลักเซมเบิร์ก และไซปรัส ผู้ที่จะเดินทางต้องตรวจสอบมาตรการสาธารณสุขของประเทศปลายทางและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ อียูยังไม่ได้กำหนดให้ต้องฉีดวัคซีนหรือไม่ หรือฉีดวัคซีนประเภทใดมาเป็นเงื่อนไขการเดินทางเข้าเขต โดยอยู่ระหว่างพิจารณาวิธีการรับรองการฉีดวัคซีนฯ (Vaccination Certificate – VC) ของประเทศนอกอียู หากพิจารณาแล้วเสร็จ ประเทศสมาชิกจะนำไปกำหนดมาตรการและเงื่อนไขในการเดินทางเข้าต่อไป ดังนั้นขอให้ผู้ที่ประสงค์เดินทางไปต่างประเทศติดตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศสมาชิกจากเว็บไซต์ของสหภาพยุโรป (https://reopen.europa.eu)

นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวการเดินทางไปท่องเที่ยวและฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่สหรัฐอเมริกา ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในสหรัฐฯ ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับชาวต่างชาติในมลรัฐต่างๆ พบว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะเรียกดูข้อมูลหลักฐานถิ่นที่อยู่ หลักฐานการทำงานหรือการศึกษาในรัฐ รวมถึงจะพิจารณาหลักฐานการเข้าเกณฑ์ที่ได้รับอนุญาต และอาจปฏิเสธการให้บริการหากไม่สามารถแสดงหลักฐานตามที่ร้องขอได้ ซึ่งแต่ละมลรัฐ มีนโยบายการฉีดและแจกจ่ายวัคซีนที่แตกต่างกัน โดยภาพรวมจะฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีถิ่นพำนัก ทำงาน หรือศึกษาในมลรัฐนั้น แต่บางมลรัฐได้จัดสรรวัคซีนให้กับผู้ไม่มีถิ่นพำนักและไม่ได้ทำงานหรือศึกษาในมลรัฐนั้น โดยไม่ได้ระบุชัดเจนว่าอนุญาตให้นักท่องเที่ยว ยกเว้นมลรัฐอะแลสกาที่มีนโยบายชัดเจนว่า ตั้งแต่วันที่1 มิ.ย.เป็นต้นไป จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาฉีดวัคซีนได้  

กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในสหรัฐฯอนุมัติใช้งานแบบฉุกเฉินเท่านั้น หากรับวัคซีนแล้วมีอาการข้างเคียงหรือการแพ้รุนแรง บริษัทฯผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใด ๆ และหากไม่มีประกันสุขภาพที่ครอบคลุม อาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีราคาสูงอีกด้วย จึงขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในสหรัฐฯเพื่อฉีดวัคซีน โปรดศึกษาข้อมูลจากหน่วยงานทางการของสหรัฐฯ อาทิ เว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย รวมถึงนโยบายการจัดสรรวัคซีนของมลรัฐต่าง ๆ ข้อมูลการตรวจคนเข้าเมือง มาตรการด้านสาธารณสุข และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแต่ละพื้นที่ มาตรการที่ต้องปฏิบัติเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย

นอกจากนั้น ผู้ที่มีความประสงค์เดินทางไปต่างประเทศต้องตรวจสอบกฎระเบียบเกี่ยวกับการเข้าเมืองและมาตรการทางด้านสาธารณสุขของประเทศปลายทางให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายประเทศ มีระดับของความรุนแรงแตกต่างกันไป จึงควรปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขของประเทศนั้นอย่างเคร่งครัด ทั้งการตรวจหาเชื้อตามระยะเวลาที่กำหนดก่อนเดินทาง เอกสารรับรองผลตรวจเชื้อ เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน การกักตัว ในที่พักอาศัย การรักษาระยะห่าง และการสวมหน้ากากอนามัย เป็นต้น

เชียงใหม่ - เซเว่น อีเลฟเว่น ซีพีเอฟ ส่งมอบอาหารและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ป้องกันโควิด-19 ต่อเนื่อง

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ร่วมกับ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เร่งเดินหน้าโครงการ “ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19”ตามนโยบายเครือเจริญโภคภัณฑ์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยคนไทยก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ได้ในเร็ววัน

ล่าสุดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นายบวรเวทย์ ตันตรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชอยส์ มินิสโตร์ จำกัด ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในพื้นที่ ส่งมอบแอลกอฮอลล์ทำความสะอาด, หน้ากากอนามัยและน้ำดื่ม ตามโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ของเซเว่น อีเลฟเว่น พร้อมด้วย ผู้แทนซีพีเอฟ ร่วมส่งมอบอาหารปลอดภัย ในโครงการ "CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19" ภายใต้ “ซีพี ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด” โดยมี นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้รับมอบ

อีกทั้งยังได้ส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์และเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กับ นพ.ยุทธศาสตร์ จันทร์ทิพย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย, นายวริช ไกยสิทธิ์ และ นายนพดล นวนพนัส ปลัดอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมรับมอบ เพื่อนำไปสนับสนุนการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ของโรงพยาบาลสนามในจังหวัดเชียงใหม่ ต่อไป

สำหรับ โครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ของเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นการส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์และน้ำดื่ม เพื่อสนับสนุนภารกิจในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฎิบัติหน้าที่ที่โรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ โดยบริษัทยังเดินหน้าประสานความร่วมมือผ่านทางมหาเถรสมาคม เพื่อน้อมถวายเครื่องวัดอุณหภูมิและแอลกอฮอล์ให้กับวัด พระสงฆ์ สามเณร และทยอยมอบของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้กับผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามปณิธานองค์กรของซีพี ออลล์ “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัยทั้งหมดภายใต้ โครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19" ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่การระบาดครั้งแรก จะส่งตรงถึงโรงพยาบาลสนาม โดยทีมโลจิสติกของซีพีเอฟ ประกอบด้วยอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานหลากหลายเมนู อาทิ เกี๊ยวกุ้ง, ข้าวอบธัญพืชและไก่, สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าและราเมนโฮลวีตผัดขี้เมาไก่ เป็นต้น

กรุงเทพฯ - มูลนิธิมาดามแป้ง รุกฉีดฆ่าเชื้อโควิด ช่วยวิกฤตบ่อนไก่ด่วน หลังพบผู้ติดเชื้อสูง

มูลนิธิมาดามแป้ง ทำงานเชิงรุกรุดลงพื้นที่ชุมชนบ่อนไก่พัฒนา เขตปทุมวัน อาสาฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ทันทีหลังพบผู้ติดเชื้อสูงจากการตรวจเชิงรุกต่อเนื่อง

วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 มูลนิธิมาดามแป้ง โดย มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการมูลนิธิ และ ซีอีโอ เมืองไทยประกันภัย ซึ่งแม้จะอยู่ในช่วงกักตัว 14 วัน ก็ส่งอาสากล้าใหม่ของมูลนิธิฯ ลุยงานสู้โควิด-19 แบบต่อเนื่องทุกวัน

โดยนอกจากการช่วยชาวชุมชนคลองเตย ขณะนี้ได้ขยายความช่วยเหลือไปยังชุมชนบ่อนไก่พัฒนา เขตปทุมวัน หลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตจากการพบผู้ติดเชื้อในชุมชน 2 วันที่ผ่านมาเกือบ 200 คน ยังไม่รวมกับผู้มีความเสี่ยงสูงต้องกักตัวในบ้านอีกด้วย ด้วยลักษณะชุมชนที่มีความหนาแน่น แออัดคล้ายกับชุมชนคลองเตย

โดยมูลนิธิมาดามแป้ง ได้ร่วมมือกับผู้นำชุมชนเริ่มเข้าฉีดพ่นทันทีหลังได้รับการประสานขอความช่วยเหลือ ซึ่งวางแผนดำเนินการในทุกสัปดาห์เช่นเดียวกับในพื้นที่คลองเตย จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะดีขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจ คลายความวิตกกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่สีแดง

นอกจากนี้ ครัวมาดาม ยังได้ให้ความช่วยเหลือด้านวัตถุดิบประกอบอาหารแก่ทีมงานฐานเทพวารินทร์ ซึ่งเป็นอาสาสมัครของชุมชนบ่อนไก่พัฒนาอีกด้วย

ภูเก็ต - ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของของชาติทางทะเล ภาค 3 ช่วยเหลือลูกเรือประมง มีอาการแน่นหน้าอก ห่างเกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต 6 ไมล์ทะเล

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของของชาติทางทะเล ภาค 3 ได้รับรายงานจากศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ตว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าของแพปลาแสงอรุณ มีลูกเรือประมง เพชรบุรินทร์ 8 ชื่อ นายธวัช ทรายทอง มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เรืออยู่บริเวณ แลต 7 องศา 40 ลิบดา ลอง 98 องศา 05 ลิบดา มีไต๋เรือนามชื่อ ฟ้า จากการประสานเพิ่มเติมทราบว่า เรือเป็นเรือปั่นไฟขนาดไม่ถึง 30 ตันกรอส คนประจำเรือจำนวน 2 คน ไม่มีระบบ AIS และ VMS ไม่มีการแจ้งเข้าออก จากศูนย์ PIPO ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ออกเดินทางจากแพ วอวงพันธ์ อ.กันตัง จังหวัดตรัง ขณะนี้เรืออยู่ห่างจากเกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต ประมาณ 6 ไมล์  

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของของชาติทางทะเล ภาค 3 จึงได้ทำการพล๊อตตำบลที่เรือ พร้อมประสาน หมวดเรือเฉพาะกิจ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของของชาติทางทะเล ภาค 3 สั่งการให้ เรือ ต.233 เจ้าหน้าที่พยาบาลของ ร.ล.แหลมสิงห์ และ นรภ.ทร.เกาะภูเก็ต พร้อมอุปกรณ์ ปฐมพยาบาล ถังออกซิเจน ออกเรือไปทำการช่วยเหลือ พร้อมประสานศูนย์นเรนทร ส่งรถพยาบาล มารับตัวผู้ป่วยที่หลักเทียบเรือ ทรภ.3 เวลา 13.00 น. แหลมพันวา จว.ภูเก็ต เพื่อนำส่งโรงพยาบาลต่อไป การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

ศรีสะเกษ - ชาวสวนทุเรียนภูเขาไฟเศร้า พายุฤดูร้อนถล่มสวนทุเรียน ลูกทุเรียนใกล้สุกหล่นจากต้นจำนวนมาก

เมื่อเวลา 15:00 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนตาบุญทันยายกล่อง บ้านซำตารมย์ ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางสาวสายชล เครือแก้ว กำนันตำบลตระกาจ ได้ออกสำรวจความเสียหายสวนทุเรียนภูเขาไฟที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดลมพายุพัดโหมกระหน่ำในเขต ต.ตระกาจ

เมื่อช่วงใกล้ค่ำของวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งจากการสำรวจพบว่าเกษตรกรชาวสวนทุเรียนภูเขาไฟกำลังช่วยกันเดินเก็บลูกทุเรียนภูเขาไฟที่หล่นลงมากองอยู่กับพื้นและเก็บรวบรวมนำเอาไปกองรวมกันไว้จำนวนมาก ซึ่งทุเรียนเหล่านี้จะสุกภายในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้และพร้อมที่จะนำออกสู่ท้องตลาด เพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบทุเรียนภูเขาไฟโดยเกษตรกรต่างมีใบหน้าที่เศร้าหมองเนื่องจากว่าในปีนี้ปลูกทุเรียนโดนลมพายุพัดต้นทุเรียนรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมาทำให้ลูกทุเรียนร่วงหล่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งลูกทุเรียนภูเขาไฟที่เก็บมากองรวมกันไว้ได้มีการแบ่งปันไปให้ประชาชนทั่วไปในเขต อ.กันทรลักษ์ได้มารับเอาไป  

ทั้งนี้เพื่อจะได้นำเอาไปประกอบอาหารจำพวกของหวานและขนมหวานทอดกรอบต่าง ๆ เป็นการแบ่งปันความสุขให้กับประชาชนทั่วไปในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่าเกษตรกรจะมีความเสียดายมากที่ผลผลิตทุเรียนภูเขาไฟต้องร่วงหล่นจำนวนมากแต่หากเก็บเอาไว้ก็คงจะไม่สามารถที่จะนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้หมดจึงต้องแจกจ่ายให้กับคนทั่วไป

นางกล่อง จันทรักษ์ อายุ 65 ปี กล่าวว่า ตนปลูกทุเรียนภูเขาไฟจำนวน 200 ต้นในเนื้อที่ 9 ไร่ คาดว่าจะได้ผลผลิตและรายได้จากการจำหน่ายทุเรียนภูเขาไฟประมาณ 4 ล้านบาท แต่ว่าปีนี้ไม่คิดว่าจะโดนภัยธรรมชาติทำให้ลูกทุเรียนภูเขาไฟหล่นลงมากองกับพื้นจำนวนมากร่วม 200 ลูก ทำให้ตนเสียใจมากเพราะคิดว่าปีนี้หลังจากขายทุเรียนภูเขาไฟแล้วจะมีเงินนำเอาไปใช้หนี้สินจำพวกค่าปุ๋ย และค่าใช้จ่ายต่างๆในการปลูกทุเรียนภูเขาไฟซึ่งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำ โดยกำนันตำบลตระกาจ ได้มาสำรวจความเสียหายแล้วก็หวังว่าทางราชการจะให้ความช่วยเหลือเพื่อที่ตนจะได้มีกำลังใจในการทำสวนทุเรียนภูเขาไฟต่อไป


ข่าว/ภาพ  บุญทัน ธุศรีวรรณ  

สุโขทัย - น่าชื่นชมเด็กชายอายุ 11 ปี วาดภาพบนถุงผ้าขายหารายได้ช่วงปิดเทอม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเด็กชายอายุ 11 ปี ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมให้เป็นประโยชน์ ใช้ปากกาเขียนผ้าวาดรูปการ์ตูนลงบนกระเป๋าผ้าดิบ ลงขายบนอินเตอร์เน็ต สร้างรายได้ช่วยเหลือครอบครัวในช่วงปิดเทอม จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 140/2 ม.3 ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย ได้พบ ด.ช.วัณณุวรรน์ (น้องเนส) เชื้อบัว อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลสุโขทัย กำลังวาดรูปลงบนกระเป๋าผ้าดิบด้วยความตั้งใจ

ด.ช.วัณณุวรรน์ (น้องเนส) กล่าวว่าช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมอยากมีรายได้พิเศษเพื่อจะแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ซึ่งตนเองมีความสามรถวาดรูปจึงได้ลองลงมือวาดรูปบนกระเป๋าผ้าโดยเริ่มจากการใช้ดินสอวาดเป็นแบบก่อนแล้วค่อยนำปากกาเขียนผ้าลงลายอีกครั้งหนึ่งเพื่อความคมชัดสวยงาม โดยลวดลายต่างๆนั้นส่วนใหญ่จะเป็นลายที่ลูกค้าสั่งมาและคิดค้นเขียนเอง แต่ละชิ้นนั้นจะใช้เวลาวาดประมาณชิ้นละ 30 นาที ทั้งนี้ตนมีความภาคภูมิใจที่สามารถหาเงินได้ด้วยตนเอง และยังสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้ด้วย

นางสุวิมล ยิ้มพิน อายุ 35 ปี แม่ของ ด.ช.วัณณุวรรน์ (น้องเนส) กล่าวว่า น้องเนสเป็นเด็กที่ชอบวาดรูป เห็นผลงานแล้วน่าจะนำมาจำหน่ายได้ จึงได้ซื้อกระเป๋าผ้าดิบมาให้ลองเขียนดู แล้วจึงลองขายกับคนใกล้ตัวในราคาชิ้น 99 บาท พอขายครั้งแรกได้เงินมาน้องก็รู้สึกดีใจ จึงได้ลงทุนซื้อกระเป๋าผ้าและเริ่มเขียนลายแบบต่างๆ ลงขายบนเฟสบุ๊คเพจงานฝีมือต่างๆ และมีลูกค้าสนใจจำนวนมาก สำหรับลูกค้าก็จะเป็นบุคคลทั่วไป และบุคคลที่ต้องการช่วยเด็กที่มีความตั้งใจที่จะใช้เวลาว่างเป็นประโยชน์ สำหรับใครที่สนใจอยากจะอุดหนุนสินค้ากระเป๋าผ้าน้องเนส ติดต่อได้ที่ เบอร์โทร 0877075960


ภาพ/ข่าว  พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย

สงขลา - ชาวบ้านจะนะ ขอให้นายกรัฐมนตรี เร่งผลักดัน “เมืองต้นแบบที่ 4” ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เชื่อแก้ปัญหาว่างงาน และยากจนได้แน่

จากการเปิดเผยของกลุ่มประชาชนใน อำเภอจะนะ จ.สงขลา ที่ต้องการให้โครงการ “เมืองต้นแบบที่ 4” เกิดขึ้น ที่ อ.จะนะ ได้กล่าวกับ ผู้สื่อข่าวว่า โครงการ เมืองต้นแบบที่ 4 ขาดการ ขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรม หลังจากที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปรับเปลี่ยนบทบาทจากผู้ที่เข้ามาดำเนินการในด้านการสร้างความเข้าใจ และการพัฒนาในพื้นที่ไปเป็นฝ่ายอำนวยการให้กับหน่วยงานที่เข้ามา ขับเคลื่อนโครงการเมืองต้นแบบแห่งนี้ ตามคำสั่งของ ค.ร.ม.รวมทั้งยังมีการตั้งให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช. เกษตรและสหกรณ์และคณะมาตรวจสอบว่าการดำเนินการทั้งหมดที่ผ่านมาของ ศอ.บต.,สำนักงานที่ดิน, โยธาธิการ มีความถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่

ต่อมาหลังจากที่ผ่านพ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ซึ่งมีเรื่องของ เมืองต้นแบบที่ 4 รวมอยู่ด้วย แต่การอภิปรายไม่มีน้ำหนัก ข้อมูลไม่ชัดเจน และผู้ถูกอภิปราย ชี้แจงได้ชัดเจนรวมทั้งมีการตรวจสอบแล้ว พบว่าการดำเนินการของ ศอ.บต. สำนักงานโยธาธิการ และ สำนักงานที่ดินเป็นไปตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งให้มีการดำเนินการ ขับเคลื่อนเมืองต้นแบบต่อไปโดย มี ศอ.บต. และ กอ.รมน.เป็น ฝ่ายเลขานุการอำนวยการ ให้กับหน่วยงานที่เข้ามารับผิดชอบ การเกิดขึ้นของปัญหาข้างต้น ซึ่งทำให้โครงการ เมืองต้นแบบที่ 4 หยุดชะงัก ไปถึง 5-6 เดือนแล้ว

ตัวแทนของกลุ่มผู้ต้องการเห็นการพัฒนาพื้นที่ อ.จะนะ ได้กล่าวว่า ขอให้ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการขับเคลื่อน ให้ เมืองต้นแบบที่ 4 เดินหน้าได้มีการลงพื้นที่ทำการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจว่า อำเภอจะนะ และ จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้มีการพัฒนาอย่างแน่นอน เพราะสถานการณ์ของคนในพื้นที่คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ทวีความลำบากได้รับความเดือดร้อน จากการที่ในพื้นที่ไม่มีงานทำ เมื่อก่อนคนส่วนใหญ่ ที่ไม่มีที่ดินทำกิน ไม่มีอาชีพ ได้ไปรับจ้าง ขายของ อยู่ร้านอาหาร และขายแรงงาน ทั้งก่อสร้าง และตัดยาง ทำสวนปาล์ม ทำประมง แต่ 2 ปีมานี้ ต้องกลับมาอยู่บ้าน เพราะปัญหาของ”โควิด 19” และเข้าใจว่าในอนาคตข้างหน้าแรงงาน ที่เคยทำงานในมาเลเซีย หลายหมื่นคน จะตกงานอย่างถาวร  วันนี้เราลำบากจริงๆ และมีคนที่ ตกงาน 30,000- 40,000 คน ในพื้นที่ 3 จังหวัด 4 อำเภอ ของสงขลา

รัฐบาลต้องเร่ง ขับเคลื่อน ให้โครงการเมืองต้นแบบเกิดขึ้นโดยเร็ว ต้องเป็นรูปเป็นร่างภายใน 2-3 ปี จึงจะสามารถช่วยให้ คนในพื้นที่ และ ใน 3 จังหวัดได้มีงานทำ รวมทั้งผู้จบการศึกษา ที่ยังไม่มีงานทำ ในพื้นที่อีกจำนวนหนึ่ง และที่จบใหม่ทุกปีอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ในสภาพของคนว่างงาน ต้องช่วยครอบครัวทำอาชีพเดิม ๆ ทำสวน ทำไร่ ทำนา ซึ่งเป็นอาชีพที่ พอเลี้ยงตัว แต่ไม่มีอนาคต

วันนี้คนที่มีอาชีพประมงพื้นบ้านอาจจะไม่เดือดร้อน เพราะในทะเลยังมีสัตว์น้ำให้จับมาขาย แต่คนอาชีพอื่น ๆ เดือดร้อน และต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง เห็นการเกิดขึ้นของ อุตสาหกรรม เพื่อที่จะมีงานทำ และมีโอกาสลงทุน การค้าขาย การทำธุรกิจอื่น ๆ ที่ตามมากับการเกิดขึ้นของโครงการขนาดใหญ่ จึงขออ้อนวอน ให้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ หน่วยงาน ที่ท่านให้เข้ามา ขับเคลื่อน เมืองต้นแบบที่ 4 ที่ อ.จะนะ ได้ลงมือ ขับเคลื่อน ให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตามในขณะที่ ฝ่ายราชการยังขับเคลื่อนด้วยความล่าช้า ซึ่งอาจเพราะมีปัญหาการระบาดของ ‘โควิด-19’ รอบใหม่ ทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว แต่ในส่วนของ บริษัท  ทีพีไอ โพลีน พาวเวอร์ จำกัด ( มหาชน ) ได้มีการ เดินหน้าไปมากแล้ว ตั้งแต่การ ทำ เอ็นโอยู กับ บริษัทต่างชาติ และ บริษัทในประเทศ ที่สนใจเข้ามาลงทุน ในโครงการ พลังงานไฟฟ้า อุตสาหกรรมการแปรรูป การประมง การผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมต่าง ๆ และขณะนี้ บริษัท ได้ให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดำเนินการวิจัยในประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจและมีคำตอบในทุกปัญหาที่เป็นข้อข้องใจของกลุ่มที่ ‘เห็นต่าง’ และต้องการคำตอบในประเด็นที่นำมาเป็นข้อโต้แย้งในโครงการนี้มาโดยตลอด


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

"เสกสกล" เผย ทนาย “บิ๊กตู่” เตรียมแจ้งความ "พรรคก้าวไกล" ทำเสื่อมเสีย เหตุโพสต์ภาพ “นายกฯคู่ ธรรมนัส” หลังรอดคดี แนะอย่าใช้วิชามารใส่ร้ายคนอื่น 

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่พรรคก้าวไกลโพสต์ภาพและข้อความทางเฟซบุ๊กของพรรค โดยเป็นภาพร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ คู่กับนายกรัฐมนตรี พร้อมวิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ศาลตัดสิน ว่าร.อ.ธรรมนัส ไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งทุกคนต้องยอมรับ และไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ พรรคก้าวไกลไม่ควรนำมาเชื่อมโยงกล่าวใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ

นายเสกสกล กล่าวว่า นายอภิวัฒน์ ขันทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และหัวหน้าทีมกฎหมายของนายกฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลและรวบรวมหลักฐาน และจะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกับพรรคก้าวไกล ในวันที่7 พ.ค.นี้ เวลา14.00 น. ที่สน.นางเลิ้ง ในกรณีนำภาพนายกฯมาโพสต์คู่กับ ร.อ.ธรรมนัสแล้วเขียนใส่ร้ายนายกฯนำไปโพสต์ในโชเซียล ซึ่งพรรคก้าวไกล ควรยอมรับคำตัดสินของศาลและยอมรับกติกาของบ้านเมือง ไม่ใช่มีเรื่องอะไรที่ทำให้พรรคตนเองไม่สมหวัง ไม่พอใจ ก็จะออกมาตำหนิ เมื่อเป็นพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน ควรทำเป็นตัวอย่าง แต่กลับคิดลบตลอดเวลา ซึ่งไม่ควรกระทำ 

“พรรคก้าวไกล ต้องมีจิตสำนึกทางการเมือง ไม่ควรเอานายกฯมาเกี่ยวข้อง เล่นทิ่มแทงเพื่อให้นายกฯเสียสมาธิที่จะทุ่มเททำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในภาวะวิกฤตโควิด พรรคการเมืองและนักการเมืองประเภทนี้ ไม่มีประโยชน์และไม่เป็นที่พึ่งพาของประชาชน จ้องแต่จะใส่ร้ายโจมตี สร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติประชาชน”

ชุมพร - ศรชล.ประสานช่วยเหลือเรือประมง ถูกพายุซัดจม 2 ลำ เสียชีวิต 1 คน

วันนี้ 6 พ.ค.64 เวลา 08.30 น.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดชุมพร (ศรชล.จังหวัดชุมพร) โดย น.อ.กิตติพงษ์ พุ่มสร้าง รอง ผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร ในนามของ ผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร และศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือ จังหวัดชุมพร (ศคท.จังหวัดชุมพร)  ได้รับแจ้งจาก นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่า เกิดเหตุเรือประมงพื้นบ้าน เป็นเรือไฟเบอร์ติดเครื่องยนต์แบบหางยาว  จำนวน 2 ลำ ถูกพายุฝนซัดและจมลงบริเวณหน้าแหลมคอกวาง ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร

เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย เรือจมหายไป และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นชาย 1 ราย ได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งพร้อมร่างผู้เสียชีวิต โดย พ.ต.ท.วินัย นิ่มฟัก สว.ส.รน.1 กก.6 บก.รน. สั่งการให้ ร.ต.อ.วสุ บัวจีน รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ) ส.รน.1 กก.6 บก.รน. พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจชุดปฏิบัติการ รวม 4 นาย นำเรือตรวจการณ์ 532 ออกทำการค้นหาเรือประมงที่สูญหายและกู้เรือประมงที่จม บริเวณหน้าแหลมคอกวาง โดยเจ้าของเรือที่รอดชีวิตพร้อมทีมงานได้ร่วมเดินทางไปด้วย

นาย นรินทร์ เต็งประยูร อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.9 ต.นาชะอัง อ.เมือง จ. ชุมพร เจ้าของเรือที่รอดชีวิต ที่เดินทางไปพร้อมกับเรือตรวจการณ์ 532 เพื่อไปร่วมกู้เรือของตนเองที่จม และร่วมค้นหาเรือประมงที่สูญหายเป็นเรือไฟเบอร์ ยาว 10 เมตร กว้าง 1.6 เมตร ลึก 60 เซนติเมตร เป็นเรือหางยาว เอกสารได้จมพร้อมกับเรือ  ส่วนเรืออีกลำที่สูญหายเป็นเรือลักษณะเดียวกัน โดยได้ร่วมกับเรือประมงพื้นบ้านกู้เรือของ นายนรินทร์ฯ นำกลับเข้าฝั่ง ส่วนเรืออีก 1 ลำ ที่สูญหายยังอยู่ระหว่างการค้นหา 

จากการสอบถาม นายอุดม ธนบัตร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ที่รอดชีวิตอีกลำหนึ่งทราบว่า ได้นำเรือออกไปตกหมึกและตกปลากับ นางสาวจุรีรัตน์ อ่ำศรี อายุ 38 ปี ภรรยา ห่างจากฝั่งประมาณ 130 เมตร ได้เกิดฝนตกหนักลมพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง จนเรือจมลงตนได้ลอยพยุงตัวอยู่ในน้ำอีกมือหนึ่งจับเสื้อภรรยาที่ไปด้วยกันเอาไว้ พยุงตัวจนสามารถนำภรรยาเข้าถึงฝั่งได้ แต่ภรรยาเกิดอาการสะอึกและอาเจียนออกมาเป็นเลือดนอนแน่นิ่ง เป็นเหตุให้เสียชีวิต ดังกล่าว


ภาพ/ข่าว ศรชล.ภาค 1

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

นราธิวาส – ทหารพราน 48 เดริเวอร์รี่ ห่วงใย ส่งข้าวกล่องพร้อมกำลังใจ สู้ภัยโควิด-19

เมื่อวันที่ 5 พ.ค.64 เวลา 1500 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่48 จัดกิจกรรม ทหารพราน48เดริเวอร์รี่ ห่วงใย ส่งข้าวกล่องพร้อมกำลังใจ สู้ภัยโควิด19 ในพื้นที่ บ้านไอสะเตีย บ้านกูเว บ้านบือราแง ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดย เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว มีประชาชนส่วนหนึ่งต้องตกอยู่ในภาวะลำบาก ขาดแคลนอาหาร ของใช้จำเป็น และยารักษาโรค พันเอก เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่48 เล็งเห็นความสำคัญถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกิจการพลเรือน จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนทั้งชายและหญิง ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และมวลชนจิตอาสาญาลันนันบารู จัดทำข้าวกล่องนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน พร้อมทั้งใส่ในตู้ปันสุข ทั้งยังเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่งอาหารกล่องสำเร็จรูป เครื่องอุปโภคบริโภค, ข้าวสาร, อาหารแห้ง หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ พร้อมทั้งการช่วยเหลืออื่น ๆ แบบเดริเวอรี่ให้แก่ประชาชนถึงที่พักอาศัย

โดยกิจกรรมนี้มุ่งเน้นในการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่มีความเดือดร้อนอย่างมาก ที่อยู่ห่างไกล โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถเดินทางออกมารับความช่วยเหลือด้วยตนเองได้ พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างถูกวิธีตามหลัก DMHTT ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รู้จักป้องกันตนเองและครอบครัว และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้กำลังพลทุกนายที่ออกปฏิบัติภาระกิจต่างป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด โดยการสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนหยิบจับหรือส่งอาหารให้แก่ประชาชน และปฏิบัติตามหลักการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ จ.นราธิวาส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top