Tuesday, 24 June 2025
THE STATES TIMES TEAM

เชียงใหม่ - ม.แม่โจ้ MOU ร่วมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชงอินทรีย์ภาคเหนือ ปลูกกัญชงอินทรีย์-สร้างผลิตภัณฑ์ต่อยอดเชิงพาณิชย์-บันทึกข้อมูลระบบ Cloud เพื่อประโยชน์แก่เกษตรกร

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2564 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชงอินทรีย์ภาคเหนือ (Northern organic Hemp: NOH) ซึ่งประกอบไปด้วยวิสาหกิจชุมชนจากจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และลำพูน จำนวน 16  วิสาหกิจชุมชน ในโครงการปลูกกัญชงสายพันธุ์ที่ให้สารสำคัญสูง เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตในภาคเหนือของประเทศไทย ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพและจัดทำเป็นฐานข้อมูลสะดวกใช้ในระบบ Cloud 

โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ นายสุชาติ  อินต๊ะเขียว ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกกัญชงอินทรีย์ภาคเหนือ เป็นผู้แทนลงนามทั้งสองฝ่าย โอกาสนี้ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(ปฏิบัติงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) และ ดร.ธนสาร  ธรรมสอน ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวแสดงความยินดีและให้กำลังใจ (ผ่านระบบออนไลน์) แก่เกษตรกรในเครือข่ายที่ได้ร่วมโครงการกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้  ทั้งนี้ มีคณะผู้บริหารของทางสองหน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยายาน ณ สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้

โครงการปลูกกัญชงสายพันธุ์ที่ให้สารสำคัญสูง เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตในภาคเหนือของประเทศไทย ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพและจัดทำเป็นฐานข้อมูลสะดวกใช้ในระบบ Cloud  เป็นโครงการที่ทั้งสองฝ่ายมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการขอรับอนุญาตผลิต (ปลูก)กัญชง ผลิตผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชงและนำผลผลิตและผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์  โดยร่วมกันสนับสนุนองค์ความรู้ และนวัตกรรมในเกษตรกรเพาะปลูกกัญชงระบบเกษตรอินทรีย์  ร่วมกันทดลองสายพันธุ์กัญชงที่มีเสถียรภาพ ผลผลิตต่อไร่สูง ให้สารสำคัญ CBD สูง มี THC ต่ำตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของภาคเหนือ และยังดำเนินการรวบรวมและพัฒนาข้อมูลการปลูกกัญชงอินทรีย์ทั้งกระบวนการ แล้วจัดเก็บฐานข้อมูลในระบบคลาวด์ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานและเป็นต้นแบบให้แก่เกษตรกร และประชาชนที่สนใจต่อไปในอนาคต  

ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันแต่งตั้งคณะทำงานและนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วมพัฒนาและมอบหมายให้ผู้แทนของแต่ละฝ่ายได้ตกลงกันในรายละเอียดภายใต้วัตถุประสงค์และขอบเขตความร่วมมือ หน้าที่และความรับผิดชอบตามที่กำหนด โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีกำหนดระยะเวลา 5 ปี


ภาพ/ข่าว  วิภาดา

พิจิตร - คุณพระช่วย! พระครูยังวัดสามง่าม ยกสำนักปฏิบัติธรรมสถานที่สุดหรูให้เป็นโรงพยาบาลสนาม

นายกอบจ.พิจิตร ร่วมสนับสนุนช่วยเหลือบวรร่วมใจ บ้าน วัด ราชการ  รวมพลังต้านโควิดที่กำลังแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดพิจิตร อีกทั้งมีผู้ป่วยที่อยู่กรุงเทพฯและปริมณฑลแห่ขอกลับบ้านหาที่พักรักษาตัว ล่าสุด พระครูพินิตปัญโญภาส “พระครูยัง” เจ้าอาวาสวัดสามง่าม ยอมสละสำนักปฏิบัติธรรมที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่เอี่ยมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ให้นายอำเภอจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม 100 เตียง 

วันที่ 9 สิงหาคม 2564  พ.ต.อ. กฤษฎา  ภัทรประสิทธิ์  นายก อบจ.พิจิตร ลงพื้นที่ไปที่สำนักปฏิบัติธรรมวัดสามง่าม อ.สามง่าม โดยได้นำสิ่งของและเตียงสนามจำนวน 50 เตียง ไปมอบให้กับ นายสุภโชค ศิลปคุณ / นายอำเภอสามง่าม ที่กำลังจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 3 โดยใช้สำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งจัดสร้างขึ้นโดย พระครูพินิตปัญโญภาส “พระครูยัง” เจ้าอาวาสวัดสามง่าม ที่มีวัตถุประสงค์จะใช้คารสถานที่แห่งนี้เป็นที่ปฏิบัติธรรมสอนวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งสร้างอยู่บนพื้นที่ 11 ไร่  มีอาคารและภูมิทัศน์ที่สวยงามมีพระประธานองค์ใหญ่ มีศาลาปฏิบัติธรรม มีอาคารที่เป็นที่พักของญาติโยมอีก 30 หลัง (ซึ่งจะยกให้ใช้เป็นอาคารที่พักของบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน) รวมมูลค่าสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 50 ล้านบาท

โดย “พระครูยัง” เจ้าอาวาสวัดสามง่าม ที่เป็นพระนักปฏิบัติสละกิเลสไม่ยึดติดกับวัตถุเพราะของทุกสิ่งในวัดที่มีและได้มาล้วนเป็นสิ่งของที่ได้มาจากเงินบริจาคของญาติโยมทั้งสิ้นในเมื่อช่วงนี้บ้านเมืองวิกฤตญาติโยมมีภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดท่าน จึงยินดี ยินยอมยกสละอาคารสถานที่แห่งนี้ให้เป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 3  ของอำเภอสามง่ามเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ใช้เป็นจุดพักคอยหรือที่พักรักษาตัวของผู้ที่ติดเชื้อโควิดกลุ่มสีเขียว ซึ่งนับได้ว่าเป็นโรงพยาบาลสนามที่สวยหรูที่สุดในจังหวัดพิจิตรก็ว่าได้ เนื่องจากภายในอาคารศาลาการเปรียญมีพระประธานให้ผู้ป่วยได้กราบไหว้เข้าถึงรสพระธรรม ภายในอาคารสูงโปร่งโล่งสบายประดับประดาอย่างสวยงามเนื่องจากตั้งอยู่ริมถนนแวดล้อมไปด้วยทุ่งนา ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีห้องน้ำ / ห้องสุขา จำนวนมากกว่า 20 ห้อง อีกด้วย

ในส่วนของ นายสุภโชค ศิลปคุณ นายอำเภอสามง่าม กล่าวว่า ขณะนี้ อ.สามง่ามมีโรงพยาบาลสนาม รวม 3 แห่ง มีจำนวน 200 เตียง ซึ่งมั่นใจว่าจะพอเพียงแก่การให้บริการประชาชน อีกทั้งยังมีศูนย์พักคอยตามตำบลต่าง ๆ รองรับอีกหลายแห่งอีกด้วย

สำหรับสถานการณ์ภาพรวมจังหวัดพิจิตรเมื่อวานที่ผ่านมา (8 ส.ค.64) มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ70 ราย มีผู้ป่วยสะสม (ระลอกเมษายน 64)รวม 1,958 ราย มีผู้รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 973 ราย 


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร

ตำรวจสภ.กาฬสินธุ์ จับหนุ่มวัย 24 ปี ขายยา ‘ทรามาดอล’ ให้กลุ่มวัยรุ่น พบสั่งซื้อทางออนไลน์

ตำรวจสภ.เขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซ้อนแผนจับหนุ่มวัย 24 ปี พร้อมของกลางยาแก้ปวดทรามาดอล หรือยาเขียวเหลือง โดยในกลุ่มวัยรุ่นเรียก “ยาเสียสาว” จำนวน 110 เม็ด หลังสั่งซื้อทางออนไลน์มาขายให้กับกลุ่มนักเรียนหญิง นำมาผสมน้ำอัดลมดื่มช็อคล้มทั้งยืนเกือบเสียชีวิต พร้อมออกขอความร่วมมือร้านขายยาในพื้นที่ห้ามจำหน่ายให้กับวัยรุ่น ขณะที่พ่อเด็กหญิงวัย 14 ปี ขอให้ลูกสาวเป็นกรณีตัวอย่าง

จากกรณีพ่อวัย 36 ปี ชาวอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ โพสต์เตือนภัยเกือบสูญเสียลูกสาว หลังทานยาแก้ปวด ทรามาดอล หรือยาเขียวเหลือง โดยในกลุ่มวัยรุ่นเรียก “ยาเสียสาว” มาผสมน้ำอัดลมดื่ม ก่อนมีอาการเคลิ้มช็อคล้มทั้งยืนเกือบเสียชีวิตโชคดีแพทย์รักษาได้ทัน

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่สภ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.กันตพัฒน์  ภาคธรรม ผกก.สภ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ทางตำรวจสภ.เขาวงได้ทราบเรื่องจากของผู้ปกครองที่โพสต์เรื่องราวของลูกสาวตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 5 สิงหาคม 2564 แล้ว จากนั้นวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เขาวง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเขาวง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จับกุมตัวนายธีรุตม์  อุทโท อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 2 ต.คุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ หลังจากเจ้าหน้าที่ขยายผลจากกลุ่มเด็กนักเรียนพบว่าได้ซื้อยา ยาทรามาดอล มาจากนายธีรุตม์ 

โดยเจ้าหน้าที่ได้วางแผนติดต่อซื้อยาทรามาดอลทางเฟสบุ๊ค จำนวน  20  เม็ด เป็นเงิน  140  บาท จากนายธีรุตม์ กระทั่งได้นัดให้มารับยาที่สั่งซื้อ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวได้ที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่งใน ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาทรามาดอลที่ล่อซื้อ 20 เม็ด และจากการตรวจค้นในร่างกายอีก 90 เม็ด รวมเป็น 110 เม็ด จึงนำตัวมาสอบสวน

พ.ต.อ.กันตพัฒน์กล่าวอีกว่า จากการสอบถามเบื้องต้น นายธีรุตม์  ยอมรับว่าได้นำยาทรามาดอลขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นนักเรียนหญิงจริง โดยสั่งซื้อทางออนไลน์ และส่งมาทางพัสดุจากนอกพื้นที่ ก่อนจะนำมาขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น  โดยในพื้นที่ อ.เขาวง เจ้าหน้าที่เพิ่งพบเป็นเคสแรก ซึ่งจะทำการขยายผลไปยังแหล่งที่มาของยา  ส่วนนายธีรุตม์ได้นำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา "ขายซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต (ความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510)

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.กันตพัฒน์ ภาคธรรม ผกก.สภ.เขาวง พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายปกครอง และสาธารณสุข ยังได้ออกรณรงค์กับร้านจำหน่ายยาในพื้นที่ อ.เขาวง เพื่อขอความร่วมมือห้ามจำหน่ายยาดังกล่าวให้กับวัยรุ่น และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งร้านขายยาทุกแห่งต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมทั้งฝากเตือนกลุ่มวัยรุ่นที่อยากลองอาจจะเสี่ยงเกิดอันตรายถึงชีวิต และฝากเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบขายหากถูกจับได้จะต้องถูกดำเนินคดีโทษหนักจำคุก 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

ขณะที่อาการของเด็กหญิงวัย 14 ปี ล่าสุดแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามอาการกับนายปรีดา ศรีวรขันธุ์  36 ปี ผู้เป็นพ่อ ทราบว่า ลูกสาววัย14 ปี ซึ่งได้ออกจากโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา และมารักษาตัวต่อที่บ้าน ซึ่งล่าสุดลูกสาวมีอาการดีขึ้นตามลำดับแต่ยังรับประทานยาฆ่าเชื้ออยู่ ในส่วนของด้านสภาพจิตใจคงต้องใช้เวลารักษาสักระยะเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบกระเทือนจิตใจของเด็กและครอบครัวมากตน เพราะเกือบเอาชีวิตไม่รอดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากลอง แต่ก็อยากฝากเตือนภัย และอยากฝากถึงผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลาน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก ให้กรณีของลูกสาวตนเป็นเคสสุดท้าย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

สุโขทัย - อบจ.สุโขทัย ร่วมส่งเสริมอุปกรณ์ด่านหน้าชุด Rapid Test และชุด PPE ให้สาธารณสุขสุโขทัย หวังเร่งแยกกลุ่มที่ติดเชื้อออกจากชุมชนให้ได้เร็วที่สุด

วันนี้ 9 สิงหาคม 2564 เวลา 09.30 น. นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย พร้อมด้วย นายเขตพงศ์ กุลนาถศิริ รองนายก อบจ.สุโขทัย ผู้บริหารและบุคลากรในสังกัด อบจ.สุโขทัย ลงพื้นที่มอบชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบเร็ว (Rapid Antigen Test) จำนวน 2,000 ชุด และชุด PPE 1,000 ชุด ให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 โดยใช้ชุดตรวจในขั้นต้นเพื่อคัดกรองแยกกลุ่มที่ติดเชื้อ ออกจากชุมชนให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้การทำงานในการรักษาและแยกกลุ่มให้เร็วขึ้นทันท่วงที ยับยั้งการแพร่กระจายผู้ติดเชื้อ มีนายแพทย์ปองพล วรปาณิ นายแพย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย พร้อมแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย เป็นตัวแทนรับมอบ ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย

นอกจากนี้ นายกมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.และอบจ.สุโขทัย ยังให้การสนับสนุนชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 และชุด PPE แก่บุคลากรด่านหน้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีส่วนสำคัญในการป้องกันและบรรเทาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดสุโขทัย เพื่อออกปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพอีกด้วย

นายแพทย์ปองพล วรปาณิ นายแพย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่าทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย จะได้มีการจัดสรร ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบเร็ว (Rapid Antigen Test)และชุด PPE ไปยังหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลในสังกัด 9 อำเภอ ในจังหวัดสุโขทัยต่อไป 


ภาพ/ข่าว  สุริยา ด้วงมา จ.สุโขทัย

สตูล - เหล่ากาชาดสตูล ส่งมอบชุดธารน้ำใจ กู้ชีวิตฝ่าวิกฤตโควิด 100 ชุด และฟ้าทะลายโจรจำนวน 3,000 แคปซูล พร้อมของใช้จำเป็น เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล

วันนี้ 9 สิงหาคม 2564 ณ ท่าเรือ อาคีร่า คาร์โก้ ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล สมทบ “ชุดธารน้ำใจ กู้ชีวิตฝ่าวิกฤต COVID-19” จำนวน 100 ชุด น้ำดื่ม จำนวน 100 แพ็ค ฟ้าทะลายโจรจำนวน 3,000 แคปซูล ชุดหน้ากากอนามัย สบู่ แชมพู เจลแอลกอฮอล์จำนวน 33 ชุด สเปรย์กันยุง จำนวน 15 ขวด มุ้ง จำนวน 10 หลัง ผ้าห่ม จำนวน 10 ผืน พร้อมกันนี้ นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลสนับสนุนชุดเครื่องนอนและพัดลมจำนวนหนึ่งด้วย.เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชน ผู้กักตนเองอยู่ในบ้านพัก หรือผู้กักกันในสถานกักกันโรคท้องที่ (LQ) ในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล

ทั้งนี้ หากประชาชนผู้กักตนเองอยู่ในบ้านพัก (HQ) ประสบปัญหารายได้ไม่เพียงพอ ถูกเลิกจ้างงาน หรือไม่มีรายได้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก โรค COVID-19 มีความประสงค์ขอรับการสนับสนุนชุดธารน้ำใจฯ หรือความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ สามารถแจ้งทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่ เพื่อพิจารณาคัดกรอง และร้องขอรับความช่วยเหลือผ่าน แอปพลิเคชัน “พ้นภัย” และหากเป็นประชาชนกลุ่มเปราะบางผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง ที่ประสบความเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 /ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ/ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล หมายเลขโทรศัพท์ 074 711 998, 093 583 7496 หรือ Facebook page “เหล่ากาชาดจังหวัดสตูล”

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า สำหรับพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ภายในวันอาทิตย์นี้ (7 ส.ค.64) จะทยอยนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งทั้งหมด และงดการท่องเที่ยว หยุดการเดินเรือ และงดการเดินทางเข้าออกเกาะหลีเป๊ะ เป็นเวลา 28 วัน (วันที่ 9 ส.ค.- 5 ก.ย.64) ส่วนเรือขนส่งสินค้าอุปโภค - บริโภค ยารักษาโรคเวชภัณฑ์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน เรือขนส่งขยะ จะมีพนักงานคัดกรอง ส่วนพื้นที่มีที่การแพร่ระบาดบนเกาะหลีเป๊ะทางจังหวัดสตูลมีมาตรการล็อคดาวน์เดินทางเข้าออก 14 วัน และพื้นที่อื่น ๆ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 21:00 น ถึง 04:00 น. ขอความร่วมมือให้อยู่กับบ้าน ออกนอกพื้นที่เฉพาะมีเหตุจำเป็น เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

ตราด - ทหารเรือในทุกพื้นที่ของท้องทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ยังคงห่วงใยพี่น้องประชาชน ภายใต้สถานการณ์ Covid -19 เร่งช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน

เมื่อ 8 ส.ค. 64 หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน ทัพเรือภาคที่ 1 โดยหมู่เรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ 1 (มชด./1) ส่งเรือ ต.237 ออกลาดตระเวนในพื้นที่เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด พร้อมทั้งจัด จนท.พยาบาลทหารเรือกับยาและเวชภัณฑ์ จำนวนหนึ่ง ตั้งโต๊ะข้างเรือ บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวใหญ่ เกาะกูด ให้บริการตรวจรักษาเบื้องต้นและให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่เกาะกูด อีกทั้งยังแจกจ่ายยา อาธิ ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยาแก้ไอ เป็นต้น ให้แก่ประชาชนอีกด้วย

นอกจากนี้ ในระหว่างลาดตระเวนมีการตรวจเยี่ยมเรือประมง เอกชัย กลางทะเล ทางเรือได้สอบถามข้อมูลและมอบยาเวชภัณฑ์ พร้อมกับหน้ากากอนามัย ให้กับเรือประมงลำดังกล่าว เพื่อใช้ในการป้องกันตัวเองจากการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid -19 ด้วยเช่นกัน

ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ตอบสนองนโยบายของ กองทัพเรือ และ แนวทางของ พล.ร.ท.โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ที่มอบให้ น.อ.เกียรติกูล สุวรรณ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1/ผู้บังคับหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน(ผบ.มชด.) กำกับให้เรือใน มชด. เมื่อออกทำการลาดตระเวน ให้เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง และยังคงให้เรือใน มชด./1 เตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือ ในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อ covid -19 ทางทะเล ตามเกาะต่าง ๆ ในพื้นที่ จว.ตราด ให้ได้ทันที ตลอด 24 ชม. เมื่อมีการร้องขอ


ภาพ/ข่าว  เรือ ต.237-กองกิจการพลเรือนทัพเรือภาคที่ 1

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

กระทรวงเกษตรฯ ฝ่าวิกฤตโควิดปรับกลยุทธ์สื่อสาร “เฉลิมชัย” มอบทีมโฆษก กษ.แถลงข่าวออนไลน์แบบ New Normalผ่านระบบ ZOOM Meeting

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกฝ่ายต้องปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ และเข้มงวดในการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตไปจากเดิม สร้างวิถีความปกติใหม่ (New normal) ทั้งการการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และปรับตัวเป็นการทำงานทางไกล หรือการประชุมแบบออนไลน์ ขณะเดียวกันการสื่อสารเผยแพร่ชี้แจงข่าวสารแก่สาธารณชน ยังคงเป็นเรื่องที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญ โดยทุกวันจันทร์ เวลา 09.00 น. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีการพูดคุย และให้ข้อมูลข่าวที่เป็นประโยชน์ ผ่านการ Live สด “เกษตรบอกข่าว” ในเพจ Facebook : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทุกวันพุธ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ข้อมูลข่าวสาร และผลการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงาน ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ และทุกวันศุกร์ เวลา 10.00 น. จะมีการสรุปข่าวและภารกิจที่สำคัญในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผ่านการ Live สด ในรายการ “ชาวเกษตรอัปเดตข่าว” ในเพจ Facebook : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ทีมโฆษกของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดแพลตฟอร์มในการสื่อสารเพิ่มขึ้น เพื่อชี้แจงข่าวสารแก่สื่อมวลชนในรูปแบบ New normal โดยจะมีการใช้โปรแกรม ZOOM ซึ่งเป็นโปรแกรมออนไลน์ที่มีฟีเจอร์ครบครัน และในระยะต่อไปอาจขยายไปยังโปรแกรมอื่น ๆ ที่สามารถตอบสนอความต้องการของสื่อมวลชนและผู้ที่สนใจ เช่น Clubhouse เป็นต้น โดยจะร่วมมือกับโฆษกทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อมาตอบโจทย์ในการกระจายข่าวสารไปยังสื่อมวลชนและสาธารณชนให้มากขึ้น

ด้าน ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การแถลงข่าวรูปแบบใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะสร้างการรับรู้ออกสู่สาธารณชน โดยจะมุ่งเน้นในประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ ผลกระทบต่อภาคเกษตรในช่วงโควิด-19 มาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกร ภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง นโยบายใหม่ ๆ ของกระทรวงเกษตรฯหรือการประชุมที่สำคัญต่าง ๆ รวมทั้งข่าว Fake News ที่ต้องเร่งชี้แจง เป็นต้น ซึ่งการเพิ่มช่องทางการแถลงข่าวแบบออนไลน์ จะทำให้สื่อมวลชนได้รับทราบสถานการณ์ ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ได้ทันท่วงทีและอยู่ที่ไหนก็สามารถร่วมการแถลงข่าวกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทุกที่ทุกเวลา

แม่ฮ่องสอน - “แอน ทองประสม” ดาราสาวสวยใจบุญ ช่วยเหลือราษฏรบ้านแม่แพน้อย เหมากะหล่ำปลีแจกจ่ายประชาชน ในโรงเรียน วัด และในพื้นที่ชายขอบ

"แอน ทองประสม"ดาราสาวใจบุญ ได้รับซื้อกะหล่ำปลีช่วยเหลือเกษตรกร บ้านแม่แพน้อย ต.กองก๋อย อ.สเบมย จ.แม่ฮ่องสอน ที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ  แจกจ่ายให้พี่น้องประชาชน โรงเรียนตามแนวชายขอบ วัด ตลอดจนหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน รวม 6,900 กิโลกรัม โดยชาวบ้านได้มายืนต่อคิว นำถุงกระสอบปุ๋ยมาใส่กระหล่ำปลี คนละ 4-5 หัว ส่วนโรงเรียนที่ต้องนำไปเป็นอาการกลางวันเด็ก เลี้ยงเด็กพักนอน หรือวัด หน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้นำรถกระบะมาใส่เฉลี่ยกันไป

เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก นางนงนุช  วิชชโลกา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่แพน้อย ซึ่งได้เป็นผู้ประสานงาน กับทาง คุณแอน ทองประสม ดาราสาวสวยใจดี  ในการรับซื้อกะหล่ำปลี จากราษฏรบ้านแม่แพน้อย ต.กองก๋อย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากตนเองรู้สึกสงสาร ชาวบ้านที่ปลูกกะหล่ำปลี แต่ราคาตกต่ำมาก ประสบสภาวะขาดทุน จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือ จากดารานักแสดงชื่อดัง ซึ่งคุณแอน ทองประสม ก็ได้ตกลงใจรับซื้อกะหล่ำปลีของราษฏรบ้านแม่แพน้อย จำนวน 3 คันรถ น้ำหนัก 6,900 กิโลกรัม ให้นำไปแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชนชาวอำเภอแม่สะเรียง และให้กับโรงเรียนในเขต อ.แม่สะเรียง อ.สบเมย และ อ.แม่ลาน้อย สังกัด สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 2 จำนวนหลายสิบแห่ง ที่เดินทางมารับกะหล่ำปลี เพื่อนำไปประกอบเป็นเมนูอาหารกลางวัน หรืออาหารเด็กพักนอน รวมไปถึงวัด หน่วยงานตามแนวชายแดนต่าง ๆ เป็นต้น

ซึ่งทุกคนต่างแห่ชื่นชมในความใจบุญของดาราสาวที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้ความลำบาก ทั้งเจ้าของกะหล่ำปลี และพี่น้องประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน ตกงาน ขาดรายได้ ให้มีกำลังแรงใจที่จะยืนหยัดและสู้ต่อไป โดยทุกคนฝากขอบคุณดาราสาว แอน ทองประสม ที่ได้ซื้อกะหล่ำปลีแจกจ่ายในครั้งนี้


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาวร อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับมอบอาหารจากโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ และถุงปันสุขจากทีมมะหาคัท เพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจและประชาชนเขตทุ่งมหาเมฆ

วันที่ 9 สิงหาคม 64 เวลา 10.30 น. พันตำรวจเอกหญิงศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พันตำรวจเอกชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ รับมอบอาหารจากโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ ในโครงการ "Banyan Tree Caring By Sharing" 

โดยมี น.ส.นพรัตน์ อำภา ผู้จัดการทั่วไป นายอำนาจ กฤตพิทยบูรณ์ ผู้จัดการแผนกอาหารและเครื่องดื่มและนายสมเกียรติ ธนชูทิพย์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป เป็นตัวแทนมอบอาหารกลางวันเมนู ปลากระพง 3 รส จำนวน 250 กล่อง เพื่อนำไปมอบแก่ข้าราชการตำรวจและประชาชนในเขตสน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งทางโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆเป็นสื่อกลาง ในการช่วยเหลือชาวบ้านในเขตทุ่งมหาเมฆต่อไป

นอกจากนี้ทางทีม "ช่างช่วยช่าง ช่างช่วยชาติ" โดยมีคุณเจเจ(พนิดา แซ่จิว) ประธานกรรมการบริษัทมะหาคัท มอบถุงปันสุขจำนวน 10 ถุง ให้กับข้าราชการตำรวจเพื่อนำไปใช้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกด้วย

กระทรวงแรงงาน รับมอบไข่ไก่ 56,440 ฟอง จากภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน รับมอบไข่ไก่จากบริษัท เบทาโกร บริษัท ซันฟู๊ด ร่วมกับเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร จำนวน 56,440 ฟอง เพื่อให้กระทรวงแรงงานนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยมี นายวรรณรัตน์ ศรีสุกใส รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ บริเวณโถงชั้นล่าง อาคารกระทรวงแรงงาน

ทั้งนี้ อาหาร และสิ่งของที่จำเป็นที่กระทรวงแรงงานได้รับมอบจากภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน กระทรวงแรงงานจะได้นำไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อาทิ แคมป์คนงานต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คนขับรถแท็กซี่ รวมทั้งสมาคม องค์กรสาธารณกุศล และผู้นำชุมชนต่าง ๆ เพื่อจะได้นำไปแจกจ่ายให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อีกทางหนึ่งด้วย

นายสุทธิ กล่าวว่า ในวันนี้กระทรวงแรงงาน โดยท่านสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้มอบหมายให้ผมรับมอบไข่ไก่จากภาคเอกชนอย่างบริษัท เบทาโกร บริษัท ซันฟู๊ด ร่วมกับเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร นำไข่ไก่มามอบให้กระทรวงแรงงาน จำนวน 56,440 ฟอง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งนี้ ท่าน รมว.แรงงาน ยังได้ฝากขอบคุณภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงานที่ได้เห็นความตั้งใจในการช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงานในยามยากลำบาก ซึ่งสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของท่านนายกรัฐมนตรีและนโยบายของรัฐบาล โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top